ปรี๊ดดดดด...
" ทั้งหมด รวม !! "
เสียง ตะโกนของครูฝึกทำให้เหล่านศท. หนุ่มทุกคนวิ่งมายังที่รวมพลแล้วรีบเข้าแถวจนเรียบร้อย ครูฝึกประจำหมวดให้แต่ละหมู่ไปรับอุปกรณ์สำคัญหลายชิ้น คือ หม้อสนาม 6 อัน หมวกเหล็ก และพลั่วสนาม พอทุกหมู่รับอุปกรณ์ครบแล้วก็ถึงเวลากินข้าวกลางวัน เวลารับข้าวกลางวันก็ไปรับครั้งละ 3 คนโดยผลัดกันไปรับ รับข้าวและกับข้าวอย่างละ 3 หม้อ มื้อนี้กับข้าวเป็นแกงเขียวหวาน รับเสร็จก็มานั่งล้อมวงกินกัน กินด้วยมือเหมือนเมื่อตอนปี 4 ผมและเพื่อนๆ ในหมู่คุ้นเคยกับการกินข้าวด้วยมือแล้วเลยไม่รู้สึกแปลกอะไร ต่างคนต่างรีบเปิบข้าวและกับข้าวเข้าปากด้วยความหิวโหย ปีนี้ไม่มีไอ้ธีระมาป้อนข้าวให้ผมแล้ว ผมเลยต้องกินเอง คิดแล้วก็เศร้า ถ้าไอ้ธีระอยู่ด้วยผมคงมีความสุขกว่านี้..ผมคิดขณะยัดแกงเขียวหวานเข้าปาก แล้วเคี้ยวตุ้ยๆ อย่างเอร็ดอร่อย
เมื่อทุกคนกินเสร็จ ครูฝึกก็เรียกรวมพลเพื่อตรวจผม และเช็คดูว่าใครขาดอุปกรณ์อะไรบ้าง ถ้าขาดอะไรก็ยืมได้ ทรงผมของนศท. ส่วนใหญ่เรียบร้อยดี คงเป็นเพราะพวกเราอยู่ปี 5 แล้วและเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ทำให้มีความเป็นระเบียบมากกว่าสมัยเรียนปี 1 ?3 มีบ้างที่ผมยาว ครูฝึกก็ไล่ไปตัดผม หนึ่งในนั้นคือไอ้ยุทธ มันทำหน้าไม่พอใจเมื่อครูฝึกชี้มาที่มันแล้วบอกให้ไปตัดผมซะ แต่มันก็ขัดคำสั่งครูฝึกไม่ได้ จำต้องลุกเดินรวมไปกับเพื่อนที่ผมยาวเพื่อไปตัดผม แต่ก็ไม่วายบ่นเบาๆ
" แค่นี้มันยาวตรงไหนวะ ยุ่งกับกบาลกูจริงๆ เลยไอ้พวกครูฝึก "
ลำดับต่อไปเป็นการทำความรู้จักกับฉายาของกองพัน หัวหน้าชุดฝึกสั่งให้พวกเรายืนขึ้น
" ทั้งหมด แถว ? ตรง ! "
" เฮ้ ! "
ทุกคนอยู่ในท่าตรง หัวหน้าชุดฝึกกวาดสายตาไปรอบๆ แล้วตะโกนต่อ
" ทั้งหมด แหกปาก ! 51 51 เหยี่ยวดง องอาจ รู้หน้าที่ มีวินัย ตั้งใจฝึก เอี้ย ! เอี้ย ! เอี้ย ! "
" 51 51 เหยี่ยวดง องอาจ รู้หน้าที่ มีวินัย ตั้งใจฝึก เอี้ย ! เอี้ย ! เอี้ย ! "
ทุกคนแหกปากพร้อมกัน หัวหน้าชุดฝึกตะโกนต่ออีกครั้ง
" พันอะไร ? "
" 51 51 เหยี่ยวดง องอาจ รู้หน้าที่ มีวินัย ตั้งใจฝึก เอี้ย ! เอี้ย ! เอี้ย ! "
" จำให้ขึ้นใจด้วย นี่คือฉายาของกองพันเรา เอ้า ! ต่อไปให้ครูฝึกประจำหมวดตรวจดูความเรียบร้อยอีกครั้งก่อนจะปล่อยพัก แล้วตอนบ่ายเราจะเริ่มเรียนกัน ทั้งหมด ตามระเบียบ ? พัก ! "
ทุกคน ปฏิบัติตาม จากนั้นครูฝึกประจำหมวดก็เดินตรวจดูความเรียบร้อยเงียบๆ ผมซึ่งยังอยู่ในท่าพักตามระเบียบรู้สึกร้อนมาก ทรมานสุดๆ เหงื่อไหลไคลย้อยไปหมดแล้ว แผ่นหลังของผมชุ่มไปด้วยเหงื่อ หน้าผากของผมก็เต็มไปด้วยเหงื่อเม็ดเป้งๆ แต่ผมก็ต้องอดทน พยายามท่องเอาไว้ " ความลำบากคือรสชาติของชีวิต "
พอครูฝึกแต่ละหมวดตรวจความเรียบร้อยเสร็จแล้ว ก็ปล่อยให้พวกเราพัก ผมเดินไปตบไหล่ไอ้เทอดพงษ์เบาๆ แล้วบอกมันว่า
" ไปเยี่ยวกันมั๊ย "
ไอ้ เทอดพงษ์มีทีท่าลังเลเล็กน้อยก่อนจะตอบว่าไป ขณะที่เดินไปด้วยกัน ผมก็กอดคอไอ้เทอดพงษ์ไปด้วย ดูเหมือนไอ้เทอดพงษ์จะไม่อยากให้ผมกอดคอมันเท่าไหร่นัก มันพยายามยักไหล่หลายๆ ทีเพื่อให้ผมเอาแขนออก ผมเลยยกแขนออกอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงทำท่าเหมือนรังเกียจผมแบบนั้น ผมไม่ทันสังเกตุอีกเหมือนกันว่าไอ้ช่วงกับไอ้ปราการต่างก็ยืนมองผมกับไอ้เทอดพงษ์อยู่ห่างๆ ด้วยสายตาแปลกๆ ไอ้ช่วงขมวดคิ้มแล้วพูดเปรยๆ กับไอ้ปราการ
" กูว่างานนี้ไอ้เทอดเสร็จอีหนุ่มแน่ๆ ว่ะ "
...................
ที่ห้องน้ำของกองพัน 51
ห้อง น้ำที่นี่ไม่แตกต่างกับห้องน้ำของกองพันอื่น เพียงแต่มีขนาดเล็กกว่า มีช่องสำหรับยืนเยี่ยวทำเป็นกำแพงปูนเตี้ยๆ กั้นเป็นช่องๆ ให้ยืนเยี่ยวเรียงกันเป็นแถว และมีห้อง 5 ห้องสำหรับทำธุระหนัก ตอนนี้มีคนอยู่ในห้องน้ำเยอะมากเพราะต่างก็ปวดเยี่ยวกันทั้งนั้น ยืนกันเต็มทุกช่องเยี่ยวเลย ทุกคนกำลังยืนปล่อยน้ำเยี่ยวออกจากควยอย่างสบายใจ เสียงดัง จ๊อก..จ๊อก.. ผมยืนมองอยู่ทางด้านหลังโดยมองลอดหว่างขาของพวกเขา เห็นสายเยี่ยวสีเหลืองใสบ้าง ขุ่นบ้าง พุ่งลงมาที่รางเยี่ยวไม่ขาดสาย บางคนก็พุ่งเร็ว บางคนก็พุ่งเอื่อยๆ แล้วแต่ว่าใครจะปวดมากปวดน้อย เป็นภาพที่น่าดูจริงๆ เห็นด้านหลังมันไม่เร้าใจ ต้องขอดูต้นกำเนิดของเยี่ยวซะหน่อยแล้ว โชคดีที่ผู้ชายคนหนึ่งเยี่ยวเสร็จพอดี ผมเลยเข้าไปยืนแทนที่เขา แล้วแอบมองไอ้ส่วนที่เยี่ยวถูกปล่อยออกมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น
อืม.. เห็นแล้ว เยี่ยวถูกปล่อยออกมาจากควยเป็นสายเลย โห..ดุ้นใหญ่ไม่เบา ดำอีกต่างหาก ผมลองเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของควย ตัวใหญ่ผิวดำมากเลย มิน่าควยถึงได้ดำขนาดนี้ ถ้าแข็งคงจะใหญ่กว่านี้หลายเท่าแน่ๆ
ผมเยี่ยว ไปพลาง มองควยคนข้างๆ ไปพลาง ถึงแม้ว่าผมจะเยี่ยวเสร็จแล้ว สะบัดควยจนสะเด็ดน้ำแล้ว แต่ก็ยังยืนอยู่ตรงนั้น ควยของผมเริ่มแข็งขึ้นทีละน้อยเพราะได้เห็นของชอบ ลำควยที่อ่อนๆ อยู่เริ่มขยายขนาดขึ้นจนยาวใหญ่ ลำควยขาวสะอาด หัวควยสีชมพูใสโผล่ออกมาทั้งหัว มีน้ำใสๆ ซึมออกมาจากรูเยี่ยวเล็กน้อย คนที่มายืนเยี่ยวข้างๆ ผม พอคนแรกเยี่ยวเสร็จ คนต่อไปก็เข้ามาเยี่ยวต่อทันที ผู้ชายแท้ๆ ส่วนใหญ่เขาไม่สนใจเลยว่าใครจะมองควย ยืนไม่ปิดควยกันทั้งนั้น มองเห็นควยได้ชัดเจนมาก บางคนก็ควยใหญ่ไม่ใช่เล่นเลย ลำยาว ดำ ป้อมๆ หัวควยไม่เปิด เห็นฮามอยโผล่ออกมาหลายสิบเส้น แต่บางคนก็ควยเล็ก หัวควยเรียวแหลมและหัวไม่เปิดเช่นกัน 55555 ไอ้เหี้ยนี่ขลิบซะด้วยว่ะ หัวถอกเปิดหมดเลย คล้ำอีกต่างหาก คงจะใช้งานบ่อยล่ะสิมึง
ผมยืนแช่ อยู่นาน เห็นควยเป็นสิบๆ ดุ้น จนเริ่มเอียนกับการมองควยแล้ว กำลังจะเก็บควยเข้าไปในกางเกง ก็พอดีมีหนุ่มคนหนึ่งเข้ามายืนที่ช่องเยี่ยวข้างๆ ผม ผมก็เลยทำเนียนยืนไว้ก่อน ขอดูควยของไอ้นี่เป็นคนสุดท้ายก็แล้วกัน
ไอ้ หนุ่มคนนี้ตัวใหญ่ ผิวดำ ลักษณะเหมือนคนใต้ มันยืนเยี่ยวแบบเปิดเผยมาก มองเห็นควยของมันอย่างง่ายดาย ควยของมันดำ ลำป้อมๆ ใหญ่ไม่ใช่เล่น น้ำเยี่ยวพุ่งออกมาแรงน่าดู ( คงปวดมาก ) ผมก็ยื่นหน้าไปมองควยของมันตาไม่กะพริบ น่าดูดชิบหาย มันคงรู้ตัวว่าผมมองควยมันก็เลยหันมามองหน้าผม ผมก็หันหน้ากลับ ทำหน้าเฉยๆ มันยังจ้องหน้าผมอยู่ แล้วจึงเบนสายตาลงมาที่ควยของผมที่แข็งโด่เป็นลำอยู่แล้ว ผมรู้ตัวว่ามันมองควยผม เริ่มมั่นใจไอ้นี่แม่งเกย์แน่นอน ก็เลยชะโงกไปมองควยดำๆ ของมันอย่างไม่อายแล้วคราวนี้ ตอนนี้ในห้องน้ำคนเริ่มน้อยแล้วเพราะต่างก็เยี่ยวเสร็จ เดินออกไปเยอะแล้ว ไอ้คนนั้นมองหน้าผมอีก ผมก็จ้องหน้ามันตอบ แล้วมองควยมัน ตอนนี้ควยของมันขยายขนาดขึ้นอีกหลายเท่า ลำควยใหญ่และแข็งขึ้นกว่าเดิมมาก เส้นเลือดขึ้นเต็มควย ผมเห็นมันเอามือรูดหนังหุ้มควยลงไปกองไว้ตรงคอควย หัวควยสีแดงเลือดหมูหัวเบ้อเริ่มปลิ้นบานออกมาเต็มที่ หัวควยหรือนั่น ? ทำไมหัวมันบานขนาดนี้วะ สุดยอด! ไอ้เหี้ยนี่หัวควยแม่งโคตรบานเลยว่ะ ! ผมว่าหัวควยของผมบานแล้ว แม่งยังบานกว่าผมอีก รูควยก็ใหญ่ ลำควยถึงจะไม่ใหญ่มากแต่ก็ขนาดกำลังพอดีปาก เห็นแล้วแล้วคอแห้งเลย ใจผมเต้นรัว เลียริมฝีปากแผล่บๆ ด้วยความอยากดูด
" อยากดูดเหรอวะ มองอยู่ได้ "
ไอ้ คนนั้นถามผมเบาๆ ผมมองหน้ามัน แม่งลองดีกับกูซะแล้ว รู้ๆ อยู่ว่ากูอยากดูด ยังจะมาถามลองเชิงกูอีก อย่างนี้ต้องจัดการสั่งสอนแม่งด้วยปากซะหน่อยแล้ว ผมรีบเก็บควยเข้าที่ แล้วแกล้งเดินผ่านมัน เอามือบีบตูดมันเบาๆ เป็นสัญญาณว่ามาทำอะไรสนุกๆ กันดีกว่า แล้วก็พยักเพยิดให้มันเดินไปที่ห้องน้ำห้องในสุด ผมเดินไปรอมันก่อน มันก็เดินตามมา เรา 2 คนรอจนกว่าคนออกไปจากห้องน้ำเกือบหมด พอผมเห็นว่าทางสะดวก ปลอดคนแล้ว ก็รีบเดินเข้าไปในห้องน้ำห้องในสุด แล้วกวักมือเรียกมันให้เดินตามเข้ามา ไอ้ควยบานก็เดินเข้ามา แล้วผมก็ปิดประตูลงกลอนทันที
......................
ผม รีบโถมเข้าไปกอดไอ้ควยบานอย่างรวดเร็วแล้วจัดการหอมแก้มมันแรงๆ ด้วยความอยาก แก้มของมันดำและสากมาก กลิ่นสาปชายแรงเหี้ยๆ ผมหอมแก้มมันจนหนำใจแล้วดูดปากของมัน ไอ้ควยบานก็ดูดปากผมตอบอย่างดูดดื่มสุดๆ เสียงดัง จ๊วบๆๆๆๆ ลิ้นของเรา 2 คนพันกันอยู่ภายในปาก น้ำลายของแต่ละฝ่ายไหลเข้าปากของอีกฝ่ายหนึ่ง ไอ้ควยบานก็คงอยากไม่แพ้ผม มันกอดผมซะแน่นแถมยังเอาเป้ากางเกงมาเสียดสีกับเป้าของผมด้วย เป้าของมันตุงมากจนผมอดใจไม่ไหวแล้ว ผมผละจากอ้อมกอดมัน รีบปลดเข็มขัดของมันออก แกะกระดุมรูดซิปกางเกงลง ดึงควยลำป้อมๆ ออกมาจากกางเกงในแล้วเอาปากครอบลงไปทันที ไอ้ควยบานร้อง ซี๊ดดดดด อย่างสะใจ ควยของมันขยายขนาดในปากของผม ลำควยแข็งขึ้นๆ จนคับปากผมเลย ผมเอาปากรูดหนังหุ้มควยของมันลงไปกองที่คอควย แล้วดูดเลียหัวควยบานๆ สีแดงคล้ำของมันอย่างเอร็ดอร่อย หัวควยของไอ้ควยบานสั่นดึ้กๆ ในปากของผม ควยบานๆ แบบนี้ดูดมันส์มาก ผมดูดหัวควยของมันอย่างเพลิดเพลินแถมยังแหย่รูควยมันเล่นอีกต่างหาก ไอ้ควยบานอัดลำควยกระแทกใส่ปากผมจนมิดด้ามแล้วซอยปากผมยิกๆ ผมทั้งดูด ทั้งเลียควยของมันอย่างหื่นกระหาย ไม่ได้เจอคนควยใหญ่ๆ หัวควยบานๆ แบบนี้มานานแล้ว ดูดแล้วอร่อยเหาะเลย ไอ้ควยบานครางด้วยความเสียว น้ำลายไหลยืดอย่างสะใจ
" อูยยยยยยยย ซี๊ดดดดดด เสียวควยชิบหาย ดูดเก่งสุดๆ เลยไอ้เแว่น "
ไอ้ ควยบานครางไป กระแทกลำควยเข้าปากผมไป ผมดูดหัวควยของมันจนน้ำลายไหลเยิ้มออกมานอกปากเลย มันส์จนหยุดไม่ได้จริงๆ มือทั้ง 2 ข้างก็บีบตูดใหญ่ๆ ของมันไปด้วย แล้วก็เอามือมาเล่นพวงไข่คล้ำๆ ของมัน ไข่ของมันพวงใหญ่ดี ผมเลยลองเปลี่ยนมาเลียไข่มันบ้าง มันครางซี๊ดซ๊าดๆๆๆ ตลอดเวลา มือของผมยังคงชักควยของมันอยู่ เสียงดัง พั่บๆๆๆๆ ไอ้ควยบานนึกยังไงขึ้นมาก็ไม่รู้ พอผมยืนขึ้นเพื่อเปลี่ยนอิริยาบถและเตรียมจะก้มลงไปดูดควยต่อ มันก็โน้มตัวลงมาเลียหูของผมเป็นการใหญ่ แผล่บๆๆๆๆๆ ผมสะดุ้ง แต่ก็ชอบมากที่มันเร้าอารมณ์ผมแบบนี้ ถึงจะเป็นวิธีที่ผมไม่เคยเจอมาก่อนก็ตาม มันแลบลิ้นเลียหูผมแผล่บๆๆๆ ไม่ยอมหยุด หูของผมเต็มไปด้วยน้ำลายของไอ้ควยบาน แม่งเลียหูกูเหมือนหมาเลย เถื่อนดี แต่มันก็ทำให้ผมเสียวมากๆ ผมเอามือชักลำควยของมันขึ้นลงๆ อย่างเมามัน ลำควยของมันแข็งจริงๆ ชักแล้วมันส์มือมาก ไอ้ควยบานเลิกเลียหูผม แล้วบอกว่า
" เร่งหน่อยดีกว่า กูว่าจวนจะหมดเวลาพักแล้ว มา กูจะช่วยให้มึงแตกคามือกูเลย ไอ้สัตว์ ไอ้เหี้ย "
มัน พูดแล้วก็เอื้อมมือมาปลดเข็มขัด แกะกระดุมกางเกง รูดซิปลง ดึงควยขาวจั๊วออกมา แล้วรูดหนังหุ้มควยของผมออกอย่างรวดเร็วจนหัวควยถอกออกมาทั้งหัว แล้วไอ้ควยบานก็ชักควยของผมแรงและเร็วมาก ปั่บๆๆๆๆๆๆ จนควยของผมแข็งโด่เต็มที่ มันเสียวแบบสุดๆ เลย ไม่นึกว่ามือของมันจะกระตุ้นอารมณ์ผมได้มากขนาดนี้ มันชักควยของผมไม่ยอมหยุดจนหัวควยถอกบานแดงเถือก ผมสุดจะทนไหวเพราะเมื่อกี้ยืนชักควยตรงช่องเยี่ยวมาก็นาน ควยแข็งมานานแล้วด้วย แถมตอนนี้ยังโดนชักควยแบบไม่ถนอมเลย ไอ้ควยบานแม่งกะให้ผมน้ำอยากกระฉูดเดี๋ยวนี้แน่ๆ กูอยากจะอั้น... อั้นน้ำอยากเอาไว้...แต่กูก็อั้นไม่ไหวแล้ว...ไอ้ควยบานแม่งก็ไม่ยอมหยุด ชักควยเลย แม่งสาวควยผมอย่างเอาเป็นเอาตาย ผมทนไม่ไหวแล้วโว้ย...
" อูยยยยยยยยย ไม่ไหวแล้วววว น้ำกูแตกแล้ววววว ... อาาาาา "
ผม ครางเสียงหลง ไอ้ควยบานรีบกำควยของผมไว้แน่น แล้วกระตุกลำควยแรงๆ ไม่ยอมหยุด น้ำอยากขาวข้นกลิ่นคาวสุดๆ พุ่งกระจายออกมาจากรูควยลงสู่โถส้วม ฟืดๆๆๆๆๆ ผมครางจนน้ำลายไหล เสียวเหี้ยๆ เลย เสียวจนกูจะขาดใจตายอยู่แล้ว น้ำอยากกูออกจนได้ แม่งยังไม่หยุดชักอีก อูยยยยย ซี๊ดดดดด น้ำอยากพุ่งออกมาจากควยไม่หยุด กลิ่นคาวของมันคละคลุ้งไปทั่วห้องน้ำเลย นาน...กว่าน้ำอยากจะออกมาจนหมด ผมหอบแฮ่กๆ ด้วยความเหนื่อย แต่ก็ไม่ลืมที่จะใช้มือชักควยของไอ้ควยบานบ้าง ไอ้ควยบานเกร็งตูดด้วยความเสียว แล้วฉีดน้ำอยากขุ่นข้นตามแบบฉบับของคนใต้ออกมาจากควย น้ำอยากชาวใต้พุ่งกระฉูดออกมาราดลงไปที่เดียวกับน้ำอยากชาวจีนอย่างผม มันครางกระเส่าเสียงดังพร้อมๆ กับปล่อยน้ำกะทิออกมาจากควยหัวบานๆ เป็นสายยาว ฟืดๆๆๆๆๆๆๆ
" อ้า...อ๊าสสสส เสียวเหี้ยๆ เลยว่ะแม่ง โอย ซี๊ดดดดดด ออกมาแล้วววววว "
ผม ชักควยของไอ้ควยบานจนน้ำอยากของมันออกมาแบบหมดไส้หมดพุง มือของผมเลอะน้ำอยากของมันหมดเลย ผมเอามือมาดูดเลียน้ำของมัน คาวว่ะเหี้ย ! เค็มด้วย แต่ก็อร่อยดี แล้วเรา 2 คนก็เก็บควยเข้ากางเกง ก่อนจะออกจากห้องน้ำ ผมไม่ลืมที่จะกอด หอมแก้ม และจูบปากแลกลิ้นกับมันส่งท้าย แล้วกระซิบกับมันเบาๆ ว่า
" โชคดีนะมึง ไอ้ควยบาน "
ไอ้ ควยบานยิ้มๆ ก่อนจะเปิดประตูออกไป ซักพักผมก็เดินออกมาบ้าง ผมเดินมาล้างมือที่อ่างน้ำ แล้วเดินออกจากห้องน้ำ เสียดายที่เวลาไม่มาก ถ้าเวลามากกว่านี้คงได้เล่นเสียวกันนานกว่านี้ นี่เพราะว่ากลัวเวลาพักหมดก่อน ผมกับไอ้ควยบานเลยต้องรีบๆ ผลัดกันทำจนเสร็จ... ผมคิดแล้วเหลือบดูนาฬิกา ยังเหลืออีก 5 นาทีนี่หว่า ไปนั่งรวมกับเพื่อนๆ ในหมู่ดีกว่า ..ผมกำลังจะเดินไปยังที่ที่เพื่อนในหมู่นั่งอยู่ ก็เจอกับไอ้ยุทธพอดี ไอ้ยุทธที่ตอนนี้โดนกร้อนผมจนสั้น หมดหล่อไปแล้ว เศษผมยังอยู่แถวๆ หัวไหล่อยู่เลย ( มันปัดออกไม่หมด ) มันจ้องหน้าผมด้วยสายตาที่ไม่ค่อยจะเป็นมิตรเท่าไหร่ ผมทำท่าจะเดินหนีแต่ไอ้ยุทธจับหัวไหล่ของผมไว้ ไม่ให้ผมหนีไปไหน แล้วพูดว่า
" คราวนี้กูไม่ให้มึงหนีกูไปไหนอีกแล้ว "
หน้าห้องน้ำของกองพัน 51
" มึงมีอะไรกับกู "
ผมถามไอ้ยุทธด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ไอ้ยุทธแกล้งหัวเราะเบาๆ
" หึ หึ มึงจะพูดดีๆ กับกูซักครั้งไม่ได้รึไงวะ เราเป็นเพื่อนกันนะ "
" กูไม่ใช่เพื่อนมึง ! ตอนกูเรียนกับมึง มึงแกล้งกูแรงๆ สารพัดเลย คนเป็นเพื่อนกันเค้าทำแบบนี้กันเหรอวะ "
ผมพูดเสียงเข้ม
" กูก็แค่หยอกมึงเล่นๆ เอง ตอนนั้นกูทำตามไปประสาเด็ก แต่ตอนนี้เราโตๆ กันแล้ว มึงไม่เห็นจะต้องมาผูกใจเจ็บกูเลย กูไม่แกล้งมึงแล้ว แกล้งตุ๊ดมันไม่สนุกหรอกว่ะ "
ผมกัดฟันกรอดแล้วเตรียมจะเดินหนี ไอ้ยุทธรีบพูดต่อ
" กูถามอีกคำเดียว มึงจะยังเป็นเพื่อนกับกูอีกมั๊ย "
" ทำไมกูต้องเป็นเพื่อนกับคนอย่างมึงด้วย "
ผมพูดโกรธๆ ไอ้ยุทธจ้องหน้าผม แววตาของมันดูเหยียดๆ ผมยังไงชอบกล
" มึงรู้ตัวรึเปล่าว่าตอนนี้มึงเหลือตัวคนเดียวแล้วนะ เพื่อนมึงไม่เหลือแล้ว "
" เพื่อนในหมู่กูก็มี กูจะเหลือตัวคนเดียวได้ไง "
ไอ้ยุทธหัวเราะ ท่าทางของมันกวนประสาทผมมากจนอยากจะเอาตีนยันมันซักที
" มึงคิดเหรอว่าเพื่อนในหมู่มึงจะยังอยากคบกับมึงอยู่ แม่งรู้กันหมดแล้วว่ามึงเป็นอะไร "
" พูดอะไรของมึงเนี่ย "
ผมถามมันด้วยความสงสัยแต่ไอ้ยุทธไม่ตอบ มันเดินเข้าไปในห้องน้ำ ผมรีบเดินตามมันไปทันที
" เฮ้ย ! ยุทธ พูดกันให้รู้เรื่องก่อน ที่มึงพูดเมื่อกี้หมายความว่าไง "
ไอ้ยุทธยิ้มน้อยๆ
" เดี๋ยวมึงก็รู้เองแหละว่ากูหมายถึงอะไร แต่ตอนนี้กูขอเยี่ยวก่อน นั่น ห้องน้ำห้องสุดท้ายว่างพอดี มึงจะเยี่ยวก่อนมั๊ย กูเสียสละให้มึงก่อน "
ผมส่ายหน้า
" กูเยี่ยวเสร็จแล้ว "
ไอ้ยุทธขมวดคิ้ว
" เยี่ยวตอนไหนวะ เมื่อกี้กูก็เข้ามารอบนึงแล้ว เต็มทุกห้องเลย แล้วกูก็ไม่เห็นมึงออกจากห้องด้วย แสดงว่ามึงยังไม่ได้เข้าไปเยี่ยวในห้อง "
" ก็แล้วทำไมกูต้องเข้าไปเยี่ยวในห้องด้วยล่ะ กูก็ยืนเยี่ยวที่ช่องเยี่ยวสิวะ "
ไอ้ยุทธแกล้งทำตาโต แล้วตะโกนลั่น
" อะไรวะ มึงเป็นตุ๊ด แต่เสือกยืนเยี่ยว ตุ๊ดเค้าต้องนั่งเยี่ยวในห้องนะเว้ย ! มึงเป็นตุ๊ดภาษาอะไรวะ "
เสียง ของไอ้ยุทธไม่ใช่เบา ทำให้นศท. หลายคนที่อยู่ในห้องน้ำหันมามองไอ้ยุทธเป็นตาเดียว ไอ้ยุทธจ้องหน้าผมราวกับจะให้คนอื่นเข้าใจว่าตุ๊ดที่มันพูดถึง หมายถึงผม ! นศท. เหล่านั้นจึงมองผมด้วยสายตาแปลกๆ ผมทั้งโกรธ ทั้งอายคนอื่น รีบเดินหนีออกมานอกห้องน้ำทันที ผมเดินไปพลางกัดฟันไปพลางด้วยความแค้นปนอาย จนมาถึงบริเวณที่หมู่ของผมนั่งพักอยู่ แล้วพยายามสงบสติอารมณ์
ไอ้ ยุทธ มึงจะทำให้กูอับอายคนอื่นไปถึงไหน ทำไมมึงชอบบอกคนอื่นว่ากูเป็นตุ๊ดนัก เที่ยวป่าวประกาศให้คนอื่นเข้าใจกูผิดๆ มึงทำแบบนี้ทำไม ไอ้เลวเอ๊ย ! กูไม่มีวันให้อภัยมึงแน่ !
..................
พอหมดเวลาพัก ก็ได้เวลาเรียนวิชาแรก นั่นคือ วิชาการติดต่อสื่อสารและการข่าวเบื้องต้น มีครูฝึกมาบรรยาย ผมและเพื่อนๆ ก็นั่งฟังเพลินๆ พอครูฝึกบรรยายจบก็ต่อด้วยวิชาที่ 2 การใช้ปืนพก 11 มม. ครูฝึกอธิบายลักษณะของปืน วิธีการใช้งาน รวมทั้งท่ายิงแบบต่างๆ เช่นยืนยิง นอนยิง แล้วแบ่งกลุ่มฝึกท่ายิงดังกล่าว ผมเริ่มรู้สึกว่าเพื่อนที่ผมเล็งไว้ 3 คนมองผมด้วยสายตาแปลกๆ ไม่ค่อยอยากจะฝึกร่วมกับผม โดยเฉพาะไอ้ช่วงกับไอ้เทอดพงษ์ มันทำท่าเหมือนรังเกียจผมยังไงไม่รู้ ตอนที่ไอ้เทอดพงษ์ลองหัดทำท่านอนยิง ผมซึ่งอยู่ในกลุ่มเดียวกับมัน อยากจะช่วยจัดท่านอนยิงของเพื่อนให้ดูดีเพราะเห็นว่าไอ้เทอดพงษ์นอนเบี้ยว ไปหน่อย ก็เลยเอามือบีบหัวไหล่มันเบาๆ หวังจะให้มันขยับตัวนอนให้ตรงๆ แต่ไอ้เทอดพงษ์กลับวางปืนลงกับพื้นแล้วปัดมือผมออกอย่างเร็ว
" เฮ้ย ! จับไหล่กูทำไมวะ "
ผมทำหน้างง
" อะไร กูจะช่วยจัดท่านอนยิงให้มึงไง ก็มึงนอนยิงไม่ตรงนี่หว่า "
ไอ้เทอดพงษ์แสดงสีหน้าไม่พอใจพลางขยับตัวให้ตรงก่อนจะหยิบปืนขึ้นมาถือใหม่ แล้วพูดห้วนๆ
" กูจัดเองได้ มึงไม่ต้องยุ่ง "
ผมมองหน้าไอ้เทอดพงษ์
" มึงเป็นอะไรของมึงเนี่ย ทำเหมือนรังเกียจกูเลย "
ไอ้ เทอดพงษ์ไม่ตอบ ทำให้ผมสงสัยมากขึ้นว่านี่มันเรื่องอะไรกัน ตอนแรกยังคุยกันอยู่ดีๆ อยู่เลย แต่ไหงตอนนี้มันทำท่ารังเกียจผมซะงั้น
ฝึก ไปซักพักก็ถึงเวลาพัก ไอ้เทอดพงษ์รีบเดินไปรวมกลุ่มกับไอ้ช่วงและไอ้ปราการ ผมก็เดินตามมันไปด้วย ไอ้ช่วงกับไอ้ปราการมีท่าทีอึดอัดอย่างเห็นได้ชัด เรา 3 คนนั่งเงียบๆ อยู่นาน อากาศตอนนี้ร้อนมากๆ เหงื่อของเราทั้ง 3 แตกเต็มแผ่นหลังไปหมด ไอ้เทอดพงษ์ก็เหงื่อแตกเหมือนกัน ผมเกิดอยากได้กลิ่นเหงื่อของหนุ่มหล่อคนนี้ขึ้นมาเลยเขยิบเข้าไปนั่งใกล้ มันมากขึ้น ไอ้เทอดพงษ์รีบขยับหนีทันทีแล้วด่าผม
" เฮ้ย ! ไปห่างๆ กูหน่อย ร้อนเว้ย ! เขยิบเข้ามาทำไมวะ "
น้ำ เสียงของมันแสดงออกถึงอารมณ์หงุดหงิดสุดๆ ผมรู้สึกเสียหน้าที่มันทำท่าทางรังเกียจผมต่อหน้าเพื่อนอีก 2 คน ไอ้ช่วงกับไอ้ปราการจ้องตาผมเขม็ง ผมพูดเบาๆ ด้วยความน้อยใจ
" ไรว้า แค่นี้ก็ต้องด่ากันด้วย โกรธอะไรกูเหรอวะ "
มือ ของผมวางแหมะลงไปที่ต้นแขนล่ำๆ ของไอ้เทอดพงษ์แล้วลูบขึ้นลง ก็แค่ลูบเล่นๆ เท่านั้นไม่ได้มีเจตนาจะล่วงเกินอะไรมันเลย แต่ไอ้เทอดพงษ์ไม่เล่นด้วย มันผลุดลุกขึ้นยืนแล้วพูดเสียงดัง
" กูขอตัวก่อนนะ "
แล้วไอ้เทอดพงษ์ก็เดินหนีไป ผมรีบลุกขึ้นเดินตามมันไปทันที ปากก็ตะโกนไล่หลังมันไปด้วย
" เดี๋ยว ไอ้เทอด จะไปไหนวะ "
ไอ้ช่วงมองผมที่กำลังเดินตามไอ้เทอดพงษ์ไป แล้วถอนใจยาว พูดกับไอ้ปราการ
" ตามติดแจเลย ไม่รอดแน่ๆ เพื่อนกู "
...................
" ตามกูมาทำไมวะ !!! "
ไอ้เทอดพงษ์หันมาตวาดผม ผมหยุดเดิน จ้องหน้าไอ้เทอดพงษ์อย่างไม่เข้าใจ
" เทอด มึงเป็นอะไรวะ ตั้งแต่ตอนบ่ายแล้ว มึงโกรธกูตลอดเวลา กูไปทำอะไรให้มึงไม่พอใจเหรอ "
" กูไม่ได้โกรธมึง "
ไอ้เทอดพงษ์ตอบสั้นๆ ตอนนี้มันหยุดเดินแล้วเช่นกันและหันหลังกลับมายืนประจัญหน้ากับผม
" แล้วมึงเป็นอะไรของมึง "
ไอ้เทอดพงษ์ไม่ยอมตอบ ผมจึงพูดต่อ
" รังเกียจกูเหรอ "
" แน่ะ ! มึงก็รู้ตัวนี่ว่าคนอื่นเค้าก็รังเกียจมึงทั้งนั้น มึงก็น่าจะรู้ดีว่าทำไมกูถึงไม่อยากยุ่งกับมึง "
ไอ้เทอดพงษ์พูดเสียงดัง คำพูดของมันทำให้ผมสงสัยเต็มทน เกิดอะไรขึ้นกันแน่วะเนี่ย
" มึงพูดอะไร กูไม่เห็นเข้าใจ "
ไอ้เทอดพงษ์ส่ายหน้าอย่างเอือมระอา
" เฮ้อ ! มึงอยากให้กูบอกมึงตรงๆ เหรอ กูไม่อยากทำให้มึงเสียใจนะเว้ย "
" บอกมาเหอะ กูรับได้ "
ผมเร่งเร้าให้ไอ้เทอดพงษ์บอกผม ไอ้เทอดพงษ์นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดประโยคที่ผมคาดไม่ถึงออกมา
" กูไม่ชอบตุ๊ดว่ะ "
ผมตะลึงงัน นึกไม่ถึงว่าจะได้ยินคำพูดเหล่านี้ออกมาจากปากของไอ้เทอดพงษ์
" อะ..อะไรนะ.. "
" มึงได้ยินแล้ว กูขอโทษที่พูดตรงๆ ก็มึงเป็นคนอยากได้ยินเองนี่ "
ผมพยายามควบคุมอารมณ์โกรธเต็มที่แล้วถามมัน
" ใครบอกมึงว่ากูเป็นตุ๊ด "
ไอ้เทอดพงษ์ยักไหล่ทีนึงก่อนจะตอบ
" ไอ้ยุทธบอก แม่งบอกว่ามึงเป็นตุ๊ด แต่กูคิดว่ามึงเกย์มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นตุ๊ดหรือเกย์กูก็ไม่ชอบทั้งนั้น "
" มึงจะบ้ารึไง ไปเชื่อคำพูดของไอ้เหี้ยนั่น มันก็พูดไปเรื่อยแหละ กูเป็นตุ๊ดที่ไหนกันเล่า "
ไอ้เทอดพงษ์ยิ้มอย่างมีเลศนัย
" ถ้ามึงไม่ได้เป็น มึงร้อนตัวทำไม มึงถามหาคนที่บอกความลับของมึงให้กูฟังทำไมวะ หนุ่ม "
" กูไม่ได้ร้อนตัว กูแค่อยากรู้ว่าใครมันเป็นคนเอาเรื่องเหี้ยๆ แบบนี้มาบอกมึง ก็เท่านั้นเอง "
" พอเหอะมึง แก้ตัวไปก็เท่านั้น ถึงไม่มีใครบอกกู กูก็ดูมึงออก มึงทำตาหวานใส่กูหลายครั้งแล้ว นึกว่ากูไม่เห็นรึไง ไอ้เกย์ "
ผมอึ้งอย่างคาดไม่ถึงว่าไอ้เทอดพงษ์จะพูดตรงขนาดนี้ รีบแก้ตัวเป็นพัลวัน
" ตาหวานอะไรอีกล่ะ กูไม่ได้ทำนะ มึงเข้าใจผิดนะเทอด "
ไอ้เทอดพงษ์มองผมด้วยสายตาแปลกๆ
" กูเข้าใจถูกแล้ว มึงไม่ต้องพูดอะไรต่อแล้วว่ะ คนอย่างมึงน่ะ ดูหน้าก็รู้แล้วว่าเป็นเกย์ กูรู้ตัวว่ากูหล่อ มึงคงอยากแดกกูมากล่ะสิ แต่อย่าหวังว่าจะได้แดกกูเลยนะ ไอ้ตี๋ "
ไอ้เทอดพงษ์พูดจบก็หันหลังเตรียมตัวจะเดินกลับ ผมรีบบอกมันทันที
" กูคิดกับมึงแค่เพื่อนนะ กูไม่ได้เป็นเกย์ด้วย มึงต้องเชื่อกูนะ เทอด "
ไอ้เทอดพงษ์นิ่งไปซักพัก ก่อนจะพูดกับผมด้วยน้ำเสียงที่แฝงไว้ด้วยความเย็นชา
" ขอโทษนะ กูไม่คบเกย์ ! "
แล้วไอ้เทอดพงษ์ก็เดินจากไป ทิ้งผมให้ยืนเคว้งอยู่คนเดียวด้วยจิตใจที่ปวดร้าวสุดจะบรรยาย
ทำไมเรื่องมันกลายเป็นแบบนี้เนี่ย ไอ้เทอดเข้าใจผมผิดไปคนนึงแล้ว
เพราะไอ้ยุทธคนเดียว ไอ้ยุทธ มึงทำแบบนี้กับกูทำไม...มึงบอกเพื่อนกูว่ากูเป็นตุ๊ดทำไม...
.................
5 โมงครึ่ง
ปรี๊ดดดดดด....
" ทั้งหมด รวม !! "
หัวหน้า ชุดฝึกเป่านกหวีดเรียกรวมพล นศท. ทุกคนต่างรีบวิ่งมาเข้าแถวยังลานรวมพล จากนั้นก็ไปรับข้าวเย็น กับข้าวคือผัดผักและแกงเผ็ด รับข้าวเสร็จก็มานั่งล้อมวงกินกันเงียบๆ กินเสร็จก็ล้างหม้อ แล้วแยกย้ายกันไปทำธุระส่วนตัว
ตอนหัวค่ำ หัวหน้าชุดฝึกเป่านกหวีดเรียกรวมพลอีกครั้งเพื่อตรวจความเรียบร้อยและอบรม เรื่องระเบียบวินัยจนถึง 3 ทุ่ม ก็ปล่อยพวกเราให้ไปนอน
ผมได้คู่นอน เต็นท์คือไอ้เทอดพงษ์ ตอนแรกผมดีใจที่จะได้นอนเต็นท์เดียวกับคนหล่อๆ เผื่อจะมีโอกาสเล่นอะไรสนุกๆ กับมัน แต่พอเกิดเรื่องเข้าใจผิดกันเมื่อตอนบ่าย ทำให้ผมคิดว่าไอ้เทอดพงษ์คงไม่อยากนอนเต็นท์เดียวกับผมแล้วแน่ๆ แล้วก็จริงตามคาด เพราะไอ้เทอดพงษ์มุดเข้าไปลากเป้สนามที่เอาวางไว้ในเต็นท์ตั้งแต่ตอนบ่าย ออกมานอกเต็นท์ แล้วเอาเป้สนามสะพายหลังต่อหน้าผมซึ่งยืนมองอยู่หน้าเต็นท์
" มึงจะไปไหน "
ไอ้เทอดพงษ์ตอบโดยไม่มองหน้าผม
" กูก็จะไปนอนกับเพื่อนกูน่ะสิ "
ผมหน้าเสีย อะไรกัน นี่ผมต้องนอนคนเดียวอีกปีแล้วเหรอเนี่ย
" ทำไมมึงไม่นอนกับกูวะ "
" นอนคนเดียวไม่เป็นรึไงมึง "
ไอ้เทอดพงษ์พูดห้วนๆ แล้วเดินแบกเป้จากไป ผมมองตามหลังมันอย่างงงๆ
ผมต้องนอนคนเดียวอีกแล้ว !
ผม มุดเข้าไปในเต็นท์ด้วยจิตใจที่สุดแสนจะห่อเหี่ยว เอาเป้สนามวางไว้ด้านซ้ายมือ หยิบผ้าปูรองนอนปูลงบนพื้นหญ้า วางผ้าเช็ดตัวไว้บนหัวนอนต่างหมอน แล้วจึงถอดเสื้อนอกออกเหลือแต่เสื้ออ่อนสีกากีแกมเขียว ถอดรองเท้าถุงเท้าโยนไว้ตรงปลายตีน สุดท้ายผมก็ถอดแว่นวางไว้ข้างๆ ผ้าเช็ดตัวที่เอามาทำเป็นหมอนหนุนกบาล พลางถอนหายใจยาวด้วยความเหน็ดเหนื่อย
นอนคนเดียวเหงาจัง ความรู้สึกเหมือนตอนเข้าค่ายปี 3 เลย แต่ปี 5 นี้คงไม่มีคนมามุดเต็นท์แน่นอน ทั้งกองพันมีแต่ผู้ชายแท้ๆ ทั้งนั้น ป่านนี้คงนอนกันหมดแล้ว
วันแรกนี้ยังไม่ค่อยเหนื่อยเท่าไหร่ วันต่อๆ ไปคงเหนื่อยกว่านี้แน่ ไม่รู้จะต้องฝึกอะไรบ้าง แต่ผมก็จะสู้ให้ถึงที่สุด ผมจะต้องผ่านความยากลำบากเหล่านี้ไปให้ได้ ผมคิดพลางดึงชายเสื้ออ่อนสีกากีแกมเขียวออกมานอกกางเกง คลายหัวเข็มขัดออกเล็กน้อยเพื่อให้นอนสบายขึ้น แล้วล้มตัวลงนอนพร้อมกับหลับตา ไม่ช้าผมก็หลับไปด้วยความอ่อนเพลีย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น