วันอังคารที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2558

เรื่องของไอ้สิงห์

ไอ้สิงห์เป็นศัตรูคู่แค้นกะผมมานานครับ ไม่รู้เป็นยังไง เมื่อไหร่ก็ตามที่มันเจอผม หรือเจอเกย์ที่ตัวเล็กๆ ขาวๆในโรงเรียน มันมักจะพูดจาถากถางมาตามลม หาว่าเสียชาติเกิดบ้าง หาว่าพ่อแม่ไม่สั่งสอนบ้าง ผมเองก็ใจร้อน ปะทะคารมกับมันประจำ จนมีอยู่วันนึง มันถึงกับต่อยผมคิ้วแตกเลยครับ “จำไว้นะมึง กูต้องเอาคืนให้ได้” ผมคำรามอยู่ในลำคอ เก็บความแค้นสุมไว้ในใจ แต่ทำอะไรตอนนี้ไม่ได้มาก เพราะไอ้สิงห์มันเป็นรุ่นพี่ที่สอบตกซ้ำชั้นอยู่หลายปีอยู่ จริงๆมันควรจะเรียนมหาวิทยาลัยแล้วครับ แต่นี่มันกลับอยู่แค่ ม.6 เอง มัวแต่เกเร ใช้กำลังแก้ปัญหามากกว่าสมอง เพราะมันตัวโต บึก ถึก ยังกับควายน่ะเอง

ถ้าพูดถึงว่าหน้าตามันดีไหม มันเป็นคนหล่อเลยล่ะครับ หน้าคม ผิวเข้ม สูงใหญ่ หุ่นบึ้กๆ ทำงานในสวนประจำ เวลามันใส่ชุดพละนี่น่าดูโคตรๆ เพราะเสื้อยืดที่ขนาดใหญ่สุด ก็ยังรัดพอดีตัว อวดหุ่นรูปตัววี กับกล้ามอกกล้ามแขนเป็นมัดยิ่งกว่าผู้ใหญ่หลายๆคนเสียอีก แต่อยู่มาวันหนึ่ง ผมก็มีโอกาสล้างแค้นแบบไม่รู้ตัวครับ วันนั้น ผมทำการบ้านอยู่ที่โรงเรียนจนเย็น พอจะกลับบ้าน ก็ว่าจะไปเข้าห้องน้ำเสียหน่อย ทางเดินไปห้องน้ำ มันจะต้องผ่านอาคารเก็บของที่ไม่มีคนเข้าไปสักเท่าไหร่ ผมก็เห็นคนกลุ่มนึงทำอะไรลับๆล่อๆอยู่ที่ประตูด้านข้างของอาคาร ทั้งหมดนั่นดูจะคุ้นๆหน้าผมอยู่ แต่คนที่คุ้นที่สุด ก็คือไอ้สิงห์ครับ มันถูกล้อมอยู่ตรงกลาง พาเดินเข้าไปในโกดังแห่งนั่น จากนั่นไฟโกดังก็สว่างขึ้น ความเก่าแก่ของโกดัง ทำให้ผนังมีช่องโหว่กว้างอยู่หลายช่อง แสงไฟนีออนทำให้ง่ายดายที่ผมจะแนบตาลงมองและได้ยินความเป็นไปภายในได้อย่างชัดเจน

ในห้องกว้างที่เต็มไปด้วยของใช้ ของหักพังทั้งหลายแหล่ คนกลุ่มนั้นนั่งลงบนโต๊ะ บนกล่อง บนข้าวของที่สุมกันไว้อย่างสบายอารมณ์ มีเพียงไอ้สิงห์เท่านั้นที่ยืนอยู่กลางห้อง ร่างสูงของมันยังดูบึกบึนทรนง แต่หน้าคมสันของมันมีแววหวาดหวั่นอะไรบางอย่างอยู่ “เอาล่ะ มาว่ากันเรื่องธุรกิจกันดีกว่า” ชายร่างสูงโปร่ง แต่งตัวดีที่นั่งบนเก้าอี้ตรงหน้าของไอ้สิงห์พูดลอยๆ แต่ดวงตาจ้องเขม็งไปที่ไอ้สิงห์ ให้รู่ว่าเขากำลังพูดกับมันอยู่ “ครับผม” ไอ้สิงห์ตอบเสียงเบาๆ “ก็นานแล้วนะ ตั้งแต่หมดหน้าบอล ที่มึงยังไม่ได้เอาค่าบอลมาใช้กู” เขาเอ่ยต่อเสียงเรียบๆ “แล้วจะให้กูคิดว่ายังไง ถ้าไม่ให้ใช้คำว่าเบี้ยวพนันบอล” “พี่ครับ ผมไม่ได้จะเบี้ยวนะครับ ผมเพียงแต่ไม่มีเงินจริงๆ พี่จะให้ผมทำยังไงครับ ผมหมดตัวแล้วครับ” ไอ้สิงห์ระเบิดคำพูดออกมา “เรื่องของมึงนะ มึงเล่นการพนัน มึงก็ต้องรับความเสี่ยง

ในเมื่อมึงเสี่ยงพลาด ก็เป็นเรื่องที่มึงจะต้องรับ…. ผิด…” เขาลากเสียงอ้อยอิ่ง เงียบกันไปครู่ใหญ่ แล้วเขาก็เอื้อมมือไปหยิบของที่วางอยู่ข้างตัว กระบอกปืนเหล็กยาวสีดำมะเมื่อม ถูกยกขึ้นมา ดาบปลายปืนที่ติดอยู่ เคลื่อนเข้าไปหาไอ้สิงห์ช้าๆ ปลายแหลม คม เลิกเสื้อของมันขึ้น ก่อนที่เขาจะกระตุกแรงๆ อย่าชำนาญ คมมีดฉีกเสื้อของมันขาดตลอดตั้งแต่คอจรดชาย เผยให้เห็นแผงอกล่ำสันราวกับนักกล้าม “ถอดเสื้อออก”เขาสั่งเสียงเบา นุ่ม ไอ้สิงห์หน้าแดงก่ำอาจจะเพราะอารมณ์โกรธหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่เสื้อพละของมันไม่ได้มีประโยชน์อีกต่อไปแล้ว มันจึงดึงเศษเสื้อออกจากร่างกาย แล้วโยนไปไว้มุมโกดัง “ถอดกางเกง” เสียงนุ่มๆสั่งอีก แต่คำสั่งที่ออกจะเกินเลยนี้ ทำให้ไอ้สิงห์ลังเล อึกอัก อยู่ชั่วครู่ แต่ในที่สุดก็ต้องจำใจยอมทำตาม “กางเกงในด้วย…. แก้ออกให้หมด อย่าให้เหลือสักชิ้น รู้จักคำว่าล่อนจ้อนไหม” คำสั่งนั้นถูกสนับสนุนด้วยเสียงหัวเราะเบาๆไปทั่วห้อง ผมเพิ่งสังเกตว่า พวกคนกลุ่มนี้คือกลุ่มเกย์ไฮโซประจำเมืองทั้งนั้นนี่นา ไอ้สิงห์หน้าแดงก่ำ มันฮึดฮัดอยู่ครู่หนึ่ง ก็ยอมรูดกางเกงในราคาถูกตัวนั้นลงไปที่ตาตุ่ม ก่อนจะยืดตัวขึ้นมาอวดร่างเปลือยเปล่าให้คนทั้งห้องได้รับชม มันคงอับอายไม่น้อย เพราะมีมันเพียงคนเดียวที่ไม่มีเสื้อผ้าปกปิดร่างกายเลยสักชิ้นขณะที่คนอื่นๆทั้งหมดแต่งตัวหรูหราเต็มยศ สายตาของทุกคนจ้องร่างกำยำของไอ้สิงห์อย่างหื่นกระหาย กวาดตาซึมซับเอาผิวเข้มที่ประกอบด้วยกล้ามเป็นลอนสวย หัวนมป้านใหญ่สีดำคล้ำ พวงสวรรค์พวงโต ดำทะมึนที่ห้อยสยบอยู่ในพงขนรก “กินเข้าไป” พี่พงษ์พูด แบมือออกตรงหน้า เห็นเม็ดยาสีม่วงเข้มสามเม็ดอยู่ในมือ ไอ้สิงห์หยิบเม็ดยาทั้งสามเม็ดด้วยมือสั่นเทา ชื่นเหงื่อ ดวงตามีแววพรั่นพรึง แต่ก็ทำใจว่าตัวเองไม่มีทางเลือก จึงส่งยาทั้งหมดเข้าปากอย่าง “กลืนลงไปให้หมด ดี๋ยวนี้” พี่พงษ์ลุกขึ้น บีบคอไอ้สิงห์ มือขาวนุ่ม แต่แข็งแกร่งของแกรีดลูกกระเดือกของมันอย่างรุนแรงจนไอ้สิงห์หน้าแดง สำลักอึกอัก เม็ดยาทั้งหมดร่วงลงสู่ลำคอ ทั้งหมดรอเฝ้าดูอาการของไอ้สิงห์อยู่เพียงครู่เดียว ก็เห็นผล ไม่เกินอึดใจ มันก็เริ่มหน้าแดง ตัวแดง หายใจหอบรัว กัดฟันกรอด ร่างแกร่งกำยำงอลช้าๆอย่างทรมาน มือกุมอยู่ที่หว่างขา “อ้ากกกกกกกกกก” ทันทีที่ครบสิบนาที ยาตัวนั้นก็ออกฤทธิ์เต็มที่xวยของมันขยายใหญ่ แข็งโด่จนหนังหุ้มตึงเปรียะ ไอ้สิงห์ถึงกับเข่าอ่อนด้วยความเจ็บปวดสาหัสที่ท่อนลำทรุดลงไปกองกับพื้น ร่างกายเริ่มต้นจากกรสั่นระริกเป็นกระตุกรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ “เจ็บเหรอ มา กูช่วย” พี่พงษ์ก้าวเข้าไปหา เหยียบหน้าอกของมันให้นอนอยู่เฉยๆ มือคว้าอวัยวะที่กำลังแข็งเกร็งจนชี้ฟ้า หนังหุ้มตึงจนถอกหมด โด่จนเส้นเลือดโดปนแทบแตกระเบิด แล้วแกก็บีบท่อนเนื้อที่ออ่นแอท่อนนั้นไว้แน่น รูดขึ้น ลงอย่างรุนแรงแล้วก็คว้าต่อมแห่งชาติชายของมัน ขยำจนแทบแหลกไปคามือ “อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกโอวววววววววววววววววววววววว สัตว์วววววววววววววววววว xวยกู……………. xวยกู…………………… ไข่กู โอย…. อย่าทำxวยกู………………… สัตว์ กูเจ็บ โอย ปวดดดดดดดดดดดดดดดดดดด จะขาดทั้งพวงแล้ว หยุด อย่าทำกู อย่า……………………อา…………” ไอ้สิงห์ดิ้นพราดๆ พยายามจับมือพี่พงษ์สะบัดให้หลุดออก แต่ไม่เป็นผล ความเจ็บปวดทำให้ร่างกายของมันออ่นแรงลงอย่างไม่น่าเชื่อ

เมื่อพี่พงษ์สาแก่ใจดีแล้ว แกก็ปล่อยมือ ไอ้สิงห์ตัวสั่นระริกด้วยความเจ็บปวดสาหัสอยู่บนพื้นซีเมนต์ สองมือกุมอยู่ที่หว่างขา พยายามบรรเทาความเจ็บปวดให้กับความเป็นชายที่กำลังตื่นตัวสุดขีดด้วยฤทธิ์ยา ระหว่างที่มันนยังลุกไม่ขึ้นอยู่นั่น สมาชิกกลุ่มอีกคน ก็เดินเข้ามาใกล้พร้อมปัตตาเลี่ยนในมือ พี่คนแรกจิกผมของมันจนหน้าหงาย แล้วก็จัดการไถปัตตาเลี่ยนนั้นไปบนทรงผมที่ไอ้สิงห์แสนจะภูมิใจในเสน่ห์ที่ดึงดูดทั้งหญิงแท้ หญิงเทียมได้เป็นอย่างดี “อย่า อย่า อย่าทำกู ไม่….. ไม่….. “ไอ้สิงห์ร้องโวยวาย พยายามจะดิ้นรน แต่ก็ถูกมือหลายมือยึดไว้ บวกกับความเจ็บจุกที่ยังคงค้างคาอยู่ทั่วขุมพลังแฝดของมัน ก็ทำให้มันไม่สามารถจะขัดขืนอะไรได้มากมายนัก “หยุดดิ้นเดี๋ยวนี้นะมึง” พี่พงษ์ตวาด พลางฟาดหมัดหนักหน่วงของแกลงไปที่กล้ามท้องทรงพลังของมันจนมันจุกแอ้กๆ พี่พงษ์ชูมีดโกนวาววับขึ้นต่อหน้ามัน แล้วจรดคมมีดลงบนโคนxวยของมันช้าๆ ไอ้สิงห์หยุดดิ้น เหงื่อแตกพลั่กๆ มันเกร็งตัว ไม่กล้าหายใจด้วยความหวาดกลัวว่าคมมีดจะกินลึกเข้าไปในของรักของหวงของมันจนขาดสะบั้น ใบมีดคมกริบกดหนักๆเข้าที่โคนลำ แล้วลากช้าๆ หนักๆ ตัดเอาพงขนรกที่เรียงตัวฟูสวยอย่างเป็นธรรมชาติ ขาดร่วงลงกับพื้นทีละน้อยๆ และจงใจให้คมมีดกดลงลึกเกินจำเป็น สร้างบาดแผลถลอกให้ที่ท้องน้อย ที่โคนเค และที่พุ่มพวงสองข้าง ที่จะทำให้มันปวดแสบปวดร้อนในเวลาอาบน้ำไปอีกหลายวันทีเดียว เมื่อโกนหมอยของมันหมดเกลี้ยงเรียบร้อยดีแล้ว ทรงผมของมันก็จบสิ้นไปเช่นกัน แต่พี่เขาไม่ได้โกนออกจนหมด แต่โกนเป็นหย่อมๆอย่างน่าทุเรศ หน้าตาหล่อคมของมันตอนนี้ ดูน่าขำอย่างที่สุด “เอาล่ะ วันนี้คงพอแค่นี้ก่อน วันนี้ พวกเราตัดไปแต่ผม กับหมอย แต่จำไว้นะ คราวหน้า ถ้ากูอารมณ์เสียขึ้นมา กูจะตัด ‘อย่างอื่น’ ของมึงมาใช้หนี้” ส้นเท้าของพี่พงษ์กดกระแทกหนักๆที่ “อย่างอื่น” ที่แกพูดถึงอีกครั้ง ทำเอาไอ้สิงห์หน้าซีดไปด้วยความหวาดหวั่นและเจ็บจุกอีกครั้ง พี่ๆทยอยออกจากโกดังพร้อมเสียงหัวเราสนุกสนาน ปล่อยให้ไอ้สิงห์นอนพักฟื้นร่างกายอยู่บนพื้นสกปรก ผมยิ้มกับตัวเอง เดินเข้าไปในโกดัง โทรศัพท์ที่เก็บคลิปและรายละเอียดทั้งหมดไว้เรียบร้อยแล้ว อยู่ในมือของผม ผมกดชัตเตอร์ เก็บภาพนิ่งของมันที่เห็นใบหน้าและทรงผมพิลึกพิลั่นของมันได้ชัดเจนไว้ ถ่ายรูปร่างกำยำที่แสนจะเป็นเอกลักษณ์ของมัน พร้อมซูมจะจะไปที่xวยอันใหญ่ที่ยังคงแข็งผงาดเพิ่มเติม แล้วจึงปรากฏตัวให้ไอ้สิงห์เห็นทั้งๆที่มันยังจุกลุกไม่ขึ้นอยู่ มันถึงกับหน้าตาตื่นทีเดียวเมื่อมันเป็นผมเดินเข้าไปทั้งที่มันยังเปลือยอยู่อย่างนั้น และมันยิ่งหน้าซีดหนัก เมื่อผมงัดโทรศัพท์ออกมา “อย่า อย่าถ่าย ไอ้สัตว์ อย่าให้กูลุกได้นะมึง” ไอ้สิงห์เอามือปิดxวยที่กำลังขยายตัวใหญ่จนเกินขนาดไว้แน่น แม้จะไม่สำเร็จ ด้วยมือของมันไม่มีทางปิดมิด อีกมือหนึ่งบังใบหน้าของตัวเองไว้ “ไม่เป้นไรหรอก ไอ้สิงห์ กูไม่ถ่ายแล้ว” ผมหัวเราะอย่างสะใจ “เพราะกูถ่ายไว้หมดแล้ว ไว้คืนนี้กูจะ forward เมล์ให้มึงดู เอ… แล้วกูจะส่งให้ใครอีกดีหนอ น้องพร เมียมึงด้วยดีป่ะ” เสียงหัวเราะของผมเบาลงเมื่อผมเดินจากไป ทิ้งไอ้สิงห์ให้ดูแลตัวเอง ใบหน้าคมเข้มของมันกร้าวขึ้นอย่างเคียดแค้นขณะพยายามพยุงตัวลุกขึ้นใส่เสื้อผ้า ปกปิดโอกาสที่มันจะอับอายขายหน้ามากไปกว่านี้

ไอ้สิงห์มาโรงเรียนในวันรุ่งขึ้น ดูหน้าตาของมันเหน็ดเหนื่อยอิดโรยเล็กน้อย อาจจะเพราะนอนไม่หลับ แต่ผมทรงใหม่ที่ตัดสกินเฮดของมันทำเอาสาวๆกรี้ดกับความหล่อเท่ของมันได้ทีเดียว ผมยิ้มๆที่มุมปากเมื่อเป็นสายตาของไอ้สิงห์ที่มองมาทางผม สายตาของมันทั้งแค้นทั้งหวาดหวั่น ในที่สุดผมก็ได้อำนาจต่อรองที่มันไม่เอาจขัดคำสั่งของผมได้ ในห้องเรียนวันนั้น ผมจงใจเข้าไปนั่งข้างๆมันพร้อมๆกับเพื่อนสนิทของผมอีกหลายคน ไอ้สิงห์ทำท่าจะลุกหนี แต่ผมกดไหล่มันไว้ ทำให้มันจำใจต้องนั่งลงที่เดิมแต่โดยดี ชั้นเรียนนี้เป็นห้องประชุมใหญ่ ที่นั่งจะสูงขึ้นไปเป็นขั้นๆแบบในโรงหนัง เพื่อนๆผมเข้ามานั่งรอบๆบ้าง ข้างหลังบ้าง แต่ไม่มีใครยอมนั่งข้างหน้ามันเลย ทุกคนทราบถึงความสนุกสะใจที่กำลังจะเริ่มขึ้น อาจารย์เริ่มสอน ทุกคนเปิดหนังสือขึ้น แอร์ในห้องค่อนข้างเย็น แต่ไอ้สิงห์เหงื่อตก มันกำลังกังวลว่า พญาสิงโตอย่างมันจะถูกต้อนให้จนมุมอย่างไร ความเงียบในห้องดูประหนึ่งว่า เพียงแค่เสียงหายใจที่ดังกว่าปกติสักเล็กน้อยก็จะเป็นจุดสนใจได้แล้ว ผมเอื้อมมือนุ่มๆไปลูบไล้ต้นขาแข็งแกร่ง มันสะดุ้ง ปัดมือผมออก ผมจับมือมันไว้ กำแน่น เป็นเชิงเตือน ไอ้สิงห์กัดฟันกรอด แล้ววางมือลงข้างตัว ผมรู้ มันกำลังยอมแพ้ มือเรียวขาว เหมือนงูตัวเล็กๆ อ่อนแอ บอบบางของผม ค่อยเลื้อยช้าๆขึ้นไปที่หน้าตักของมัน ไอ้สิงห์กัดฟันกรอดๆอย่างเคียดแค้นเมื่อผมคลึงเค้นที่ก้อนเนื้อหยุ่นๆภายในกางเกงพละสีน้ำเงิน ผ้ายืดนุ่มๆ พริ้วๆ ไม่ได้ช่วยปกป้องอะไรๆของเจ้านายมันได้มากนัก งูตัวน้อยเริ่มรุกรานหนักขึ้น มันเลื้อยเข้าไปในกางเกงของไอ้สิงห์ พบกับแท่งเนื้อใหญ่ที่กำลังหลับไหล เป็นครั้งแรกที่ผมได้สัมผัสกับมัน หลังจากที่เคยเห็นจากระยะไกลๆ เพื่อนๆของผมเริ่มงัดมือถืออกมาถ่ายคลิปวีดีโอนี้ จ้องซูมไปที่เป้ากางเกงของมัน ผมกำมือรอบท่อนเนื้อนั้น แล้วเริ่มกระตุกมือเบาๆ ใช้นิ้วปาดไปมาที่รูเปิด เสียงไอ้สิงห์สูดลมหายใจยาว พยายามบังคับสีหน้าให้เป็นปกติ แต่ลูกชายของมันกลับทรยศ ผงกหัวขึ้นสู้มือของผม แข็งตรง ยาวเหยียด ใหญ่จนกำไม่รอบ และร้อนระอุราวกับแท่งเหล็กเผาไฟ ผมมองตาเพื่อนที่นั่งอยู่อีกด้านหนึ่งของตัวมัน เรารู้ความหมายของกันดี นิ้วของเราสองคนเกี่ยวไปที่เอวกางเกงยางยืด แล้วพยายามลากเอวกางเกงของมันลง ไอ้สิงห์ทำท่าขัดขืน แต่ผมเหยียบเท้ามันเตือนให้มันจำสถานะของมันได้ เพียงแต่ผมกระดิกนิ้วให้สัญญาณ มันก็ยกสะโพกขึ้นเล็กน้อยอย่างจำใจ ปล่อยให้ผมรูดเอากางเกงวอร์มของมันลงไปกองที่ปลายเท้าแต่โดยดี กางเกงในสีขาวราคาถูกๆตัวนั้นกำลังรับศึกหนักอยู่ทีเดียว ยางยืดของมันพยายามดึงรั้ง ปกปิดลำxวยที่กำลังแข็งโด่ แทบจะแทงทะลุออกมาข้างนอก เนื้อผ้าและอีลาสติกแทบจะยึดเอาความแข็งแกร่งนั้นไม่อยู่ ส่วนหัวบานเบ่งนั้นมีน้ำใสๆซึมเป็นคราบบนเนื้อผ้า ท่าทางมันจะอึดอัดไม่น้อย ผมจึงสงเคราะห์มันสักหน่อย กรรไกรคมกริบถูกสอดเข้าไปสองข้างของกางเกงใน แล้วเราก็งับคมของมัน ตัดเอาเนื้อผ้านั้นออกพร้อมกัน เสียงยางยืดดีดดังปึดเบาๆพร้อมกับเนื้อผ้ากระเด็นลงไปกองอยู่ที่หว่างขา xวยของมันดีดผึงทันที่ที่เป็นอิสระจากการจองจำของกางเกงชั้นในตัวนั้น ไอ้สิงห์ทำหน้าตื่นหระหนก มันถูกจับแก้ผ้าล่อนจ้อนกลางห้องประชุมวิชาศีลธรรม เพื่อนๆทุกคนจ้องมองอย่างสนใจ สะใจ และสนุกสนาน พวกเราทุกคนเก็บความแค้นนี้ไว้มานาน มันสร้างศัตรูไว้มากพอที่จะไม่มีคนสงสารมันสักคน มือของผมกุมรอบแท่งเนื้อนั้น แล้วกระตุกถี่ๆ เบาๆ สั้นๆ ให้เกิดแรงสั่นสะเทือน วิธีนี้จะปลุกอารมณ์ได้ดี แต่ทรมานสุดยอดสำหรับมัน เพราะไม่มีโอกาสที่จะทำการ “ขึ้นสุด ลงสุด” ให้สะใจได้ ได้แต่เสียวไปทั่งลำ เพื่อนอีกคนหนึ่งกุมลูกบอลแฝดสองลูกของมันไว้ ใช้เล็บกรีดเบาๆไปมา สลับกับอีกมือหนึ่งที่กรีดเล็บไปมาที่รูเปิด ไอ้สิงห์เสียวจี้ดจนสะดุ้ง ผมผลักมันให้นั่งพิงพนักเก้าอี้ ถลกเสื้อของมันขึ้นมาที่ระดับของโต๊ะ เผยกล้ามท้องแกร่งกำยำและท่อนล่างที่เปลือยเปล่าให้เพื่อนๆทุกคนได้ดูอย่างถนัดตา xวยมันใหญ่สุดยอดครับ ยาวเก้านิ้วเห็นจะได้ รอบวงเกินกว่าแกนกระดาษทิชชูไปมากโขอยู่ หัวบานเป็นสีม่วงคล้ำ และเส้นเลือดปูดเป็นร่างแหทั่วลำ มีคนยื่นยางยืดรัดผมให้ผมเงียบๆ ผมรับมาม้วนเป็นสองทบ แล้วครอบลงไปที่โคนท่อนเนื้อนั้นทันที “อ่ะ” ไอ้สิงห์แทบจะหลุดปากร้อง อาจารย์มองขึ้นมาอย่างสงสัย แต่มันรีบวางหน้าเฉย ตามองหนังสือเพื่อกลบเกลื่อน แต่จริงๆแล้วมองมือผมที่กำลังประทุษรายxวยของมันอยู่ ผมค่อยๆรูดหนังยางลงไปจนสุดโคน กักเอาพลังหนุ่มอันมหาศาลไว้ในท่อนลำนั้น จนมันโปนเป่งแทบระเบิด

ผมสนุกกับการกระตุ้นท่อนลำของมันอย่างต่อเนื่อง เลือดหนุ่มที่ไหลเข้าไปในลำxวยของมันเพื่อหล่อเลี้ยงเซลล์ กลับพบทางตันเมื่อถึงเวลาไหลเวียนออกมา ปริมาณเลือดที่ถูกกักเก็บไว้ เริ่มมากขึ้นเรื่อยๆในทุกๆเสี้ยววินาที คาร์บอนไดออกไซค์ในเซลล์เปลี่ยนเลือดสีแดงให้คล้ำเข้าม กลายเป้นลือดเสียที่ต้องการการฟอกอย่างเร่งด่วน แต่ทางออกที่ถูกรัดไว้แน่นเป็นอุปสรรคอย่างรุนแรง ท่อนลำของมันโปนขึ้น เส้นเลือดเป่งขึ้นเรื่อยๆจนเป็นร่างแหพันไปทั่วลำด้วยแรงดันของร่างกายที่ดิ้นรนหาทางออก ของเสียในท่อต่างๆเริ่มออกฤทธิ์ทำให้ไอ้สิงห์เริ่มปวดหนึบไปทั้งดุ้น มันขยับตัวอย่างอึดอัด กระวนกระวาย อยากให้ผมเอาหนังยางออกอย่างที่สุด แต่คิดเหรอว่าผมจะปราณีมัน คนอย่างนายอาร์ค ทรมานใครแล้วก็ต้องให้ถึงที่สุด ผมไม่แคร์สักนิดถ้าหากเส้นเลือดที่xวยของมันจะแตกออกสักเส้น สองเส้น มันสมควรโดนอยู่แล้วนี่ เพื่อให้การทรมานเพิ่มความสะใจขึ้นถึงขีดสุด ผมหยดน้ำยาหล่อลื่นลงบนมือ แล้วแกล้งลูบไล้เบาๆ ปั่นหัวxวยที่บานร่า บวมเป่งจนแทบระเบิด ปลุกกระตุ้นให้มันแข็งมากขึ้น ลวงให้ร่างกายของมันสูบฉีดเลือดเข้าไปมากขึ้น เสียงไอ้สิงห์ครางในลำคอเบาๆอย่างพยายามอดกลั้น อดทนต่อความปวดผสมความเสียวที่โจมตีจุดออ่นของตัวเองอยู่ เพื่อนของผมหยิบเอาขวดยาหล่อลื่นออกไปทามือบ้าง แล้วรับช่วงปั่นหัวเห้ดของมันแทนผม ปล่อยให้ผมเลื่อนมือลงไปที่ท่อนลำ รูดขึ้นลงเป้นจังหวะ ช้า เร็วสลับกัน หลายครั้งที่ผมรูดเป็นจังหวะเร็ว ต่อนเนื่อง นับในใจ 50 ครั้ง แล้วหยุดกระทันหัน วิธีนี้จะทรมานมันจากความเสียวที่ขาดช่วงโดนไม่ได้จังหวะจะโคน มันถึงกับตัวงอ มือกำแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อ ระงับความอยากที่จะเอื้อมลงไปรูดลูกชายของมันเองหใคลายอึดอัด แต่มันก็รู้ มันทำไม่ได้ ไม่ใช่เพราะผมบังคับมันหรอกครับ ผมอยากจะยั่วยุให้มันหลั่งออกมาตรงนี้ด้วยซ้ำ “แตกออกมาสิ ไอ้สิงห์ แตกออกมาเลย ถ้ามึงไม่แตกตอนนี้ มึงไม่ได้แตกอีกนานแน่ๆ” เพื่อนที่นั่งอยู่ข้างหลังก้มลงมากระซิบเบาๆ ไอ้สิงห์หน้าแดงก่ำ ไม่รู้ว่าเป้นเพราะโทสะ เพราะความอับอาย หรือเพราะความเงี่นกันแน่ แต่มันรู้ มันแตกตรงนี้ไม่ได้ ผมลองชั่งไข่ของมันเล่นด้วยปลายนิ้วชี้ ลูกปิงปองสองลูกนั้นทั้งใหญ่ อวบ หนักมาก เดาได้เลยว่า ความเป็นพ่อพันธุ์ของมันนั้น เข้มข้น เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพและปริมาณ มันคงเครียดกับหนี้สินจนไม่มีอารมณ์จะจัดการตัวเองมาหลายวันแล้ว ถุงน้ำเชื่อจึงเป่งเปี่ยมไปจนหนังตึง ผมรู้สึกราวกับกำลังขยำลูกโป่งที่ใส่น้ำไว้จนเต็มเปี่ยม ถ้ามันหลั่งออกมาตรงนี้ ของเหลวเหล่านั่นน่าจะพุ่งขึ้นสูงจนใครๆเห็นจะจะกับตา และคงจะคาวคลุ้งไปทั่ว มันมีทางรอดอยุ่ทางเดียว คือกลั้นน้ำไว้จนกว่าจะหมดคาบเรียนสัมนาวิชาศีลธรรมที่เป็นคาบยาวเหยียดถึงสามชั่วโมงนี้ไว้ให้ได้ เพื่อนของผมอีกคนหนึ่งก้มลงจากม้านั่งโดยไม่มีใครสังเกตเห็น มันคลานเข้าไปใต้เก้าอี้ของไอ้สิงห์ โผล่หน้าขึ้นมาร่วมสนุกด้วย xวยของไอ้สิงห์เริ่มขาดเลือดจนเปลี่ยนเป็นสีม่วงคล้ำน่าตื่นตาตื่นใจ บวมจนใหญ่กว่าข้อมือของผม หนังยางจมลึกลงไปในผิวหนังบอบบางนั้นจนแทบมองไม่เห็น เพื่อนของผมแลบลิ้น เลียไล้ไปตามผิวหนังเต่งตึง ขรุขระไปด้วยเส้นเลือดนั้น ไอ้สิงห์สั่นสะท้าย หายใจฟืดฟาด มันเกลียดและขยะแขยงเกย์มาตลอด แต่ในวันนี้ มันได้รับรสเสียวที่มันได้ปฏิเสธมานาน โดยที่ตัวมันเองก็ปฏิเสธหรือขัดขื่นอะไรไม่ได้ ความเงี่ยนที่ก่อตัวมาตลอดทำให้มันเริ่มสับสน เหงื่อเริ่มออกเป็นเม็ดพราวท้งตัว ร่างของมันเริ่มสั่นระริก “โอ้ว” มันร้องเบาๆ กัดฟันพยายามกลั้นเสียงของตัวเองเมื่อเพื่อนของผมเลียไล้หัวจรวด แล้วอ้าปากอมเข้าไปจนมิดลำ ลิ้นไวราวงูฉกตวัดกวาดไปทั่วหัว ร่างกำยำถึงกับตัวงอ แทบจะแดดิ้นลงไปเดี๋ยวนั้น มันส่ายหัวไปมาอย่างเงียบๆร่างกระตุกฌฮือกๆ พยายามจะกระเด้าxวยใส่ปากเพื่อนผมโดยไม่ขยับตัวมากนัก เพราะมันเห็นทางรอดแล้ว ถ้าหากมันหลั่งใส่ปากเพื่อนผมได้ มันก็จะได้แตกน้ำออกมาโดยไม่มีใครรู้ มันกำโต๊ะแน่นเป็นหลักไว้ ยกสะโพกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วใช้กำลังกล้ามท้องกระเด้าปากเพื่อนผม มันทำท่านี้ได้ ถือว่ามันต้องมีกล้ามแข็งแกร่งมากๆครับ เพราะมันต้องเกร็งขารับน้ำหนักตัวไว้ในท่านั่ง แต่ทิ้งน้ำหนักตัวลงนั่งจริงๆไม่ได้ กล้ามท้องก็ต้องทำหน้าที่โยกไปด้วยท่าที่ผิดมนุษย์ เพื่อนๆทุกคนมองมันย่างทึ่งๆปนนับถือ ไอ้สิงห์เริ่มหายใจขัดๆแล้วตอนนี้ “โอย เสียว โอย เสียวxวยสัตว์ๆ โอย ใกล้แล้ว” มันเริ่มขยับตัวรุนแรงขึ้น โต๊ะไม้ที่ตรึงไว้กับพื้นแน่นหนาเริ่มสะเทือนเบาๆด้วยแรงมหาศาลของมัน ไอ้สิงห์หลับตาลง ตั้งสติเต็มที่ที่จะทำให้ตัวเองเสร็จ เพราะมันคิดว่า เมื่อมันเสร็จแล้ว มันจะได้รอดพ้นเกมทรมานนี้เสียที ผมเอื้อมมือลงไปจับที่โคนลำ ซึ่งบัดนี้ เกินกว่าที่ผมจะกำได้รอบแล้ว ไอ้สิงห์ขยับตัวเร็วขึ้น เพื่อนผมก็ตอบสนองเร็วขึ้น ผมรู้สึกได้ถึงท่อนลำที่บวมเงขึ้นมาอย่างกระทันหัน ถุงพลังงานของมันหดรัดตัวแน่นอย่างเตรียมพร้อม “อาห์ อาห์ จะออกแล้ว จะออกแล้ว อีกนิด อีกนิด……..” ไอ้สิงห์หลับตาลง ผมเห็นกล้ามทุกมัดของมันเกร็งเต็มที่ เห็นเป้นริ้วร่องสวยราวกับตัวอย่างกล้ามเนื้อของวิชาชีวะวิทยา และในบัดนั้นเอง พวกเราก็หยุด…… เพื่อนของผมปล่อยxวยของมันออกจากปากทันทีแล้วฉากหลบออกไปทางอื่น xวยของไอ้สิงห์ที่กำลังกระเด้าสวนเข้าไปนั้น พบแต่ความว่างเปล่า มันหน้าซีด หน้าตาตื่นตระหนก เกร็งกล้ามเนื้อทุกมัด รวมรวมกำลังอีกครั้งเพื่อ “เบรคกระทันหัน”ที่สุดในชีวิตหนุ่มของมัน มันบีบเอาพลังานทั้งหมด รวบรวมสมาธิไปหยุดยั้งน้ำพุที่กำลังจะพวยพุ่งออกมา xวยของมันกระดกหงึกหงักเหมือนประท้วงเจ้านายมันเอง น้ำข้นๆพุ่งออกมาจากปากของมันระลอกหนึ่ง ไอ้สิงห์รีบเอามือรองไว้ แล้วใช้อีกมือบีบแน่นที่โคน กลั้นจนตัวสั่น ไม่ยอมให้สายธารทะลักออกมาให้มากไปกว่านี้

มันหายใจหอบฮักๆ ฟุบหน้าลงกับโต๊ะ หลับตาปี๋ด้วยความทรมาน ทั้งบีบโคน ทั้งเค้นไข่ตัวเองให้เจ็บ แล้วใช้นิ้วโป้งรีดน้ำกลับลงไป “อูย สัตว์ ปวดชิบหาย” มันครางเบาๆในลำคอ หน้าซีดจนเขียว ไม่น่าเชื่อว่าการไม่ได้หลั่งจะมีผลกับหนุ่งล่ำทรหดอย่างมันได้ถึงขนาดนี้ ผมปล่อยให้มันพักอยู่ครู่ใหญ่ พอร่างกายของมันเริ่มทุเลาความทรมานลงแล้ว ผมก็เริ่มปฏิบัติการซ้ำอีกครั้ง คราวนี้มันรู้ชะตากรรมของตัวเองดีอยู่แล้ว ว่าไม่มีทางรอดออกไปก่อนที่คาบเรียนนี้จะจบลง มันจึงพยายามนั่งนิ่งๆ ผ่อนลมหายใจยาวๆ พิงพนัก ไม่สนใจกันสายตาของเพื่อนๆที่ชื่นชมร่างเปลือยครึ่งท่อนของมัน เมื่อร่างกายกำยำของมันพร้อมขึ้นมาอีกหนแล้ว ผมก็เริ่มปฏิบัติการจองเวรอีกครั้ง โดยมีมือของเพื่อนหลายคนเข้ามาร่วมด้วย เราเวียนกันลูบไล้ร่างของมัน ทั้งกล้ามท้องแกร่ง พวงไข่เป่งแน่น และท่อนลำอวบใหญ่ ความเสียวที่คั่งค้างจากการไม่ได้หลั่งนั้น เพิ่มดีกรีความรู้สึกให้กับไอ้สิงห์อีกหลายเท่า มันต้องบิดตัวไปมา รับความเสียวแทบไม่ถูก พวกผมสังเกตปฏิกิริยาตอบสนองของมัน แล้วเร่งจังหวะในช่วงที่มันเริ่มผ่อนคลาย และผ่อนลงเมื่อรู้สึกว่ามันเริ่มร้อนรนจนเกินไปแล้ว เราเร่งพลังงานในร่างกายของมันให้ใกล้จุดเดือดตลอดเวลา ไม่ให้แตกระเบิด ไม่ให้เย็นเกินไป ทำให้มันทรมานอย่างต่อเนื่อง บางครั้งก็แกล้งเร่งให้มันใกล้แตก ให้มันได้กลั้นน้ำเงี่ยนของมันไว้เอง บางครั้งก็ฉุดรั้งมันไว้ เมื่อมันทำท่าจะหน้ามือพอที่จะปล่อยให้ตัวเองหลั่งออกมาโดยไม่แคร์ผลที่จะตามมาอีกต่อไปแล้ว ตลอดชั่วโมง มันถูกทารุณ ถูกบังคับควบคุมโดยพวกผม ที่ตัวเล็กกว่า ออ่นแอกว่า มันปวด มันทรมาน มันกระวนกระวาย แต่ไม่มีทางที่มันจะช่วยเหลือตัวเองให้รอดพ้นได้ ก่อนที่จะหมดชั่วโมงเล็กน้อย ผมก็หยิบเอาสิ่งหนึ่งออกมาจากกระเป๋า มันคือ cock locker หรือที่ล็อคความเป็นชายนั่นเอง ไอ้สิงห์มองอย่างตะลึง เมื่อผมเปิดกรงทรงกระบอกนั้นออก ครอบลำของมันลงไปในพันธนาการแล้วงับปิด ล็อคด้วยแม่กุญแจไว้อย่างแน่นหนา กรงเหล็กนั่นจะล็อคติดกับดุ้นสวรรค์ของมันแน่น โดยมีไข่โผล่ออกมาข้างนอก ทางเดียวที่จะดึงกรงนี้ออกได้ คือต้องตัดพวงไข่ของมันทิ้งไปเสียก่อนเท่านั้น “เสียดายไหมล่ะมึง มีxวยดีๆ แต่ใช้ไม่ได้ ฮ่า ฮ่า” ผมเยาะยั่ว แกว่งกุญแจให้มันดูอย่างกวนประสาท ไอ้สิงห์แทบจะคลั่งตายที่เดียว เพราะมันปวดสุดขีดจากการไม่ได้หลั่ง แถมผมยังล็อคxวยของมันไว้โดยที่ไม่ได้เอาหนังยางออกเสียด้วย หลังจากที่มันหาวิธีงัดเอาหนังยางออกได้แล้ว มันยังอดชักว่าวต่อไปจนกว่าผมจะพอใจ ความเงี่ยนที่ผมบ่มไว้ทำให้มันแข็งจนจะคลั่ง

เย็นนั้น มันเดินกลับบ้านแบบที่เรียกว่าแทบจะโซซํดโซเซทีเดียว เพราะความเจ็บของลำxวยที่ถูกรัดไว้จนแน่น แต่ผมจะปล่อยให้จบวันไปง่ายๆก็กระไรอยู่ ผมกับพรรคพวกจึงขี่มอร์เตอร์ไซค์ไปรอมันที่ซอยบ้านของมัน ใกล้ค่ายทหารร้างแห่งหนึ่ง “ไอ้สิงห์”ผมเรียกเมื่อเห็นร่างสูงล่ำของมันเดินเข้ามาแบบไม่ทันได้ดูตาม้าตาเรือ ตีนของผมยันพลั่กเข้าให้ที่ท้องแกร่งล่ำ ผมสะเทือนนิดๆ แต่มันร้องอู้ ล้มลงไปกองที่พื้น มันคงปวดxวยเต็มทนจนเร่งตีนให้ไปถึงบ้านเร็วๆ จะได้หาอะไรมางัดหนังยางออก ไม่ทันระวัง และความทรมานก็ทำให้มันออ่นแแกว่าที่เคย ผมเดินเข้าไปหา กระทืบลงไปบนหน้าท้องแกร่งนั่นเป็นของแถม ไอ้สิงห์เกร็งกล้ามท้องแปดมัดนั่นรับไว้ แต่ก็หน้าเหยไปเหมือนกัน รองเท้าหัวเหล็กของผมเหวี่ยงพลั่กเข้ามห้ที่ชายโครง “โอ๊ก” เสียงห้าวกระอักออกมาจากลำคออย่างแสนเสนาะหู เป้าหมายต่อไปคือ ผมเงื้อตีนอีกครั้ง คราวนี้หมายจุดออ่นกลางลำตัว แต่ไอ้สิงห์ตะครุบตีนของผมไว้ได้ทัน “อย่า พอแล้ว xวยกูจะขาดอยู่แล้ว เอาหนังยางออกให้กูที ขอร้องล่ะ” มันไม่ได้อ้อนวอน แต่เสียงห้าวๆ นิ่งๆของมันขาดเป็นห้วงอย่างทรมาน “ได้ แต่กูจะไปนั่งรอตรงโน้น มึงแก้ผ้าออกให้หมด แล้วคลานต่ำ ลอดใต้ลวดหนามไปกราบตีนกู แล้วกูจะเอาหนังยางออกให้” ผมสะบัดตีนออกจากมือมัน แล้วเดินๆไปนั่งสบายๆอยู่อีกฟากฝั่งสนาม มีด่านบ่อกรวดคมๆเป็นด่านแรกที่มันจะต้องเผชิญ ตามด้วยปลักโคลน ทั้งสองด่านมีลวดหนามขึงด้านบน ที่มันจะต้องลอดผ่าน จึงจะสามารถข้ามไปกราบตีนผมได้ ไอ้สิงห์ถอดเสื้อผ้าออกอีกครั้งจนหมดเหลือแต่กรงxวยที่พันธนาการความเป็นชายของมันอยู่ จากระยะไกล ผมเห็นเพียงว่า xวยของมันบวมเป่งจนเต็มกรง ซี่กรงเหล็กบีบเนื้อของมันไว้เป็นปล้อง เนื้อลำทะลักออกมาตามช่องว่าง น่าจะถึงจุดอันตรายที่สุดแล้ว ปล่อยทิ้งไว้อาจเน่าได้ แต่ก็เป็นสภาพที่น่าสนุกที่สุดเช่นกัน กรงxวยนั้นป้องกันไม่ให้มันช่วยเหลือตัวเองได้ แต่ไม่สามารถปกป้องมันจากอันตรายภายนอกได้ เช่นตอนนีิ้ เพื่อนๆของผม ผลักมันให้ล้มลงไปในบ่อกรวดที่สาก คม ระคายเนื้อตัวเป็นอย่างยิ่ง แล้วเริ่มต้นความสนุกสนานด้วยเรียวไผ่ที่หาได้ใกล้้มือ ระดมฟาดลงไปบนหลังของมัน ไอ้สิงห์สะดุ้งเฮือก รีบแถกไถร่างกายลงเข้าไปในบ่อกรวดใต้ลวดหนามอย่างรวดเร็ว เพียวช่วงตัวแรก ก็ได้ยินเสียงมันสูดปากเสียแล้ว กรวดไล้ไปทั่วร่าง บาดเนื้อตัวมันจนถลอกซิบๆ ไม่เว้นแม้แต่หัวนมป้านใหญ่สวย ความเป็นชายที่ผงาดบวมเป่งจนล้นกรง ก้อนหินแข็ง คม ขูด กดไปที่จุดบอบบางที่สุดของมันอย่างไร้ความปราณี มันพยายามยกตัวขึ้นเล็กน้อย เพื่อผ่อนคลายความทรมาน “มึงยกตูดขึ้นทำไม นี่…. กดลงไป” เพื้อนผมกระทืบตูดที่โด่งขึ้น ไอ้สิงห์ร้องโอ้กอีกครัง xวยจมลงในกรวดเป็นร้อยเม็ด บาดเอาหนังบางๆของมันจนทั่วลำ พวกเราระดมเเฆี่ยนหบัวมันอีก ให้มันขยับเร็วขึ้น แต่ท่อนลำแข็งนั้นเป็นอุปสรรค เหมือนหางเสือเรือที่ติดอยู่ในโคลน ไอ้สิงฆ์กระเสือกกระสนคืบคลานไปข้างหน้า เห็นร่องลึกเป็นทางตามที่มันเคลื่อนที่ไป คงเจ็บทรมานสุดขีด แต่ก็ดีที่มันยังมีความรู้สึก ซึ่งหมายถึง xวยมันยังไม่เน่า พวกเราระดมฟาดหลังบึ้กๆของมันจนเป็นรอยแดงพาดไปมาทั่วแผ่น ไอ้สิงห์คืบหน้าไปอย่างน่าพอใจ แล้วเสียงร้องของชายชาตรีของมันก็ดังขึ้นอีกครั้ง พวกผมโหดใช่เล่น ไปเอารังมดแดงจากต้นมะม่วงมาเคาะใส่กบาลมันครับ มดแดงเป็นสิบตัวหล่นลงบนหัวสกินเฮดขอวมัน กัดเอาหัวหูหน้าตาของมันโดยมันไม่มีเวลาปัดป้อง มันหยุดสนใจความเจ็บปวดอย่างอื่น คืบคลานให้ไวขึ้น หวังจะไปถึงบ่อโคลนให้ไวที่สุด จะได้เอาน้ำโคลนลูบไล่มดเวรตะไลที่กำลังกัดหน้าของมันจนบวมเป็นหย่อม

อีกหลายนาที ที่ดูท่าทางจะนานชั่วกัปชั่วกัลป์สำหรับมันทีเดียว มันจึงมาถึงบ่อโคลน ซึ่งมันจะต้องพลิกตัวขึ้น แล้วใช้หลังแถกต่อไปเพื่อไม่ให้หน้าจมลงไปในปลักโคลน มันพลิกหงายท้อง พยายามควักเอาโคลนมาลูบหน้าเสียก่อน ปัดเอามดแดงออกจากตัวให้มากที่สุด แล้วเคลื่อนที่ต่อไป มันสะดุ้งสุดตัวอีกครั้งเมือชิ้นส่วนที่แข็งโด่นั่น ปัดเอาลวดหนามคมกริบโดยไม่ทันระวังตัว xวยของมันยาวมาก แถมยังแข็งชี้ฟ้า รั้งเอาหนามเหล็กคมๆให้จิ้มเข้าไปในเนื้อส่วนที่โผล่ล้นออกมาจากกรง แล้วครูดจนหนังถลอก เลือดออกซิบ เช่นเดียวกับน้ำตาลูกผุ้ชาย ที่อวัยวะส่วนที่หวงแหนบอบบางที่สุดต้องมาโดนทารุณเช่นนี้ พวกเราหัวเราะลั่นบนความทุกข์ของมัน ไอ้สิงห์เคลื่อนที่ไปช้าๆ พยายามปกป้องลูกรักให้หลบหนามไปได้มากที่สุด ยอมที่จะเอาหน้าอก หน้าท้อง รับคมหนามแทนเท่าที่จะสามารถทำได้ แต่ก็ยังไม่พ้นมากนัก ร่างบึกบึน ผิวคล้ำเนียนของมันถลอกเป็นแผล เลือดไหลซิบ บางแห่งหนามตำทะลุเป็นรู ไอ้นัท เพื่อนที่ดูจะมีความแค้นกับมันมากที่สุดแล้ว เดินเข้าไปหาไอ้สิงห์ที่ปลักโคลนนั้น มันจัดการถอดกางเกงของตัวเองออก xวยอันยาวใหญ่กำลังกรึ่มๆได้ที่จากภาพกระตุ้นอารมณ์ตรงหน้า ไอ้นัทกระทอกxวยของมัน ปลิ้นหนังหุ้มไปมา ปลุกให้ดุ้นเอ็นอันใหญ่ แข็งโด่ขึ้นชี้ฟ้า หันไปทางตัวของไอ้สิงห์ บรรจงเบ่งเอาน้ำสีทองอร่ามพุ่งออกมา ราดรดไปที่ลำของไอ้สิงห์ซึ่งมีแต่แผลถลอกทั่วลำ “อ้า………….. ไอ้xวย….. แสบ ไอ้นัท สัตว์ กูแสบ อย่า…..” ไอ้สิง์ร้องลั่นอีกครั้ง แผลสดโดนน้ำเยี่ยวเค็มๆเข้า ก็เลยออกอาการแสบสุดขีด มันสะดุ้ง ทะลึ่งตัวพรวดขึ้นมา ลวดหนามเกี่ยวเอาที่หัวนมซ้ายและทิ่มหน้ามันเป็นรอยยาวอย่างเหมาะเหม็ง เปิดจุดออ่นในร่างกายให้มากจุดขึ้นอีก เพื่อนคนอื่นๆเริ่มรูดซิปกางเกงออกมา แล้วราดน้ำเสียของร่างกายนั้นรดไอ้สิงห์ไปทั้งตัว ไม่เว้นแม้แต่หน้า คอ หัว หัวนม และไหลไปในแอ่งโคลนที่ไอ้สิงห์แช่อยู่จนกลิ่นคลุ้ง ไอ้สิงห์รู้ตัวว่าอยู่ไม่ได้เสียแล้ว มันรีบถดร่างไปอย่างเร็วที่สุด เพราะต่อให้เราเยี่ยวจนหมดท้องแล้ว หยุดราดตัวมันแล้ว น้ำโคลนผสมเยี่ยวในแอ่ง ก็เพียงพอที่จะให้มันแสบไปหมดทั้งตัวแล้ว มันพยายามอย่างดีที่สุดที่จะเคลื่อนที่ไปโดยไม่เพิ่มแผลในร่างกาย โดยให้เร็วที่สุด โดยให้ทรมานน้อยที่สุด ท่าทางไอ้นัทจะเก็บกลั้นเยี่ยวมาทั้งวันเพื่อการนี้ทีเดียว น้ำสีทองพุ่งอย่างต่อเนื่องเป็นสายยาว xวยที่กระดกขึ้นทำให้สายน้ำนั้นพุ่งขึ้นฟ้าเป็นน้ำพุ ตกราดตัวไอ้สิงห์อย่างไม่หยุดยั้ง ไม่ว่าไอ้สิงห์จะขยับหนีอย่างไร ไอ้นัทก็จับxวย บังคับทิศทางให้น้ำเยี่ยวไหลไปตกบนหน้าไอ้สิงห์อย่างหลีกไม่พ้น ไอ้สิงห์สำลัก ครางอึกอักในลำคอ สลัดหัว พยายามไล่น้ำเยี่ยวออกจากตาให้หายแสบเพื่อจะได้เคลื่อนตัวออกจากนรกขุมนี้ไปให้เร็วที่สุด ผมเห็นหน้าอกของมันกระเพื่อมขึ้นลงอย่างเหนื่อยหอบ ร่างกำยำดิ้นรนสุดความสามารถ โดยที่มันเองก็คงไม่รู้ว่าดิ้นทำไม มันหนีอะไร เพราะดิ้นไป มันก็หนีอะไรไม่พ้น คงจะดิ้นตามสัญชาตญาณเท่านั้นมากกว่า

อีกนานทีเดียว ไอ้สิงห์จึงได้แถกตัวพ้นจากปลักโคลนมาได้ สภาพของมันดูแทบไม่ได้ทีเดียวในตอนนี้ ทั้งเลอะเทอะ ทั้งเป็นแผลเลือดซิบเป็นรอยขีดข่วนทั้งตัว ทั้งเหม็นคุล้งไปหมด ใบหน้าหล่อเข้มบวมเป็นหย่อมๆด้วยฤทธิ์กรดของมดแดง มันพลิกตัวกลับ แล้วคลานขึ้นมาจากแอ่งอย่างหมดสภาพ หมดเรียวแรงด้วยความทรมานทั้งปวง ได้แต่คลานเข้ามาหาผมอย่างหมดศักดิ์ศรี “กราบ” ผมสั่งห้วนๆ ยื่นตีนออกไปตรงหน้ามัน มันนิ่งอึ้ง เพราะเพื่อนๆเตรียมกล้องวีดีโอมาบันทึกภาพเลยทีเดียว ไม่ใช่แค่คลิปฉาวอย่างก่อนๆ นับแต่ละวินาที ความพ่ายแพ้ของมันยิ่งปรากฏชัดเจนยิ่งขึ้นๆ ศักดิ์ศรีและความภูมิใจ ความป็นชายทรนงของมันยิ่งถูกหยามเหยียดมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เมื่อมันอึกอัก ลังเล ผมจึงกระแทกเท้าเข้าให้ที่หว่างขา ลูกบอลกลมๆสองลูกที่ไม่ได้รับการปกป้องจึงรับแรงกระแทกเต็มๆ ไอ้สิงห์จุกแอ้ก ร้องอู้ ลงไปกลิ้งกับพื้นดิน สองมือกุมอยู่ที่หว่างขา แทบดิ้นพราด ผม กระแทกปลายตีนเข้าปากมันเต็มๆจนฟันของมันแทบหัก “ไม่กราบ ก็เลียตีนกูก่อนก็แล้วกัน เร็ว” ผมขู่ ไอ้สิงห์สำลักเอาเท้าของผมออกมา มันเองคงไม่คุ้นเคยกับกลิ่นเท้าที่อับเหงื่อมาทั้งวันแล้วเพิ่งถอดมาใหม่ๆเช่นนี้ มันแลบลิ้นอย่างลังเล แต่แล้วก็ค่อยๆจ่อปลายลิ้นเข้ากับเท้าชื้นเหงือของผม ผมรู้สึกได้ถึงลิ้นสากๆ เปียกๆที่กระทบง่ามเท้า แล้วตวัดเลียทำความสะอาดอย่างจำใจ ลิ้นของมันพริ้วไม่เลวทีเดียว มันคงเคยผ่านประสบการณ์เลียให้ผู้หญิงมาพอสมควร มันลากปลายลิ้นไปช้าๆ ตวัดเบาๆจนผมเสียววูบไปทั้งขา ลิ้นสัมผัสง่ามนิ้วเท้าทุกนิ้ว เลยขึ้นไปบนหน้าเท้า เพื่อนของผมซูมกล้องวีดีโอไปจนชิดหน้าไอ้สิงห์ที่กำลังเลียตีนของผมอย่างเลี่ยงไม่ได้ ผมยกเท้าขึ้น เป็นนัยให้ไอ้สิงห์เลียฝ่าเท้าให้ทั่ว ความเสียวย้ายมาที่ด้านล่างเมื่อมันปฏิบัติตามอยางเชื่อฟัง เมื่อทั่วดีแล้ว ผมก็ยัดนิ้วเท้าทั้งห้าเข้าไปในปากให้มันดูดเลียจนสะอาดเอี่ยม ก่อนที่มันจะต้องย้ายมาทำความสะอาดเท้าของผมอีกข้างหนึ่งจนเรี่ยมเชี่ยม จนกระทั่งมันทำหน้าที่ของมันสำเร็จได้อย่างดีเยี่ยมแล้ว ผมก็ยืนขึ้น ใส่รองเท้าคอมแบทหัวเหล็กคู่เดิม วางเท้าลงตรงหน้ามัน ไอ้สิงห์กลั้นใจไหว้ผมเร็วๆทีหนึ่ง “ไม่ใช่แค่ไหว้” ผมเอาตีนยันหน้ามันโครมใหญ่ “กูบอกให้กราบ แล้วขอร้องกูดีๆด้วย” ไอ้สิงห์กัดฟันจนกรามขึ้นเป็นสัน เส้นเลือดข้างลำคอของมันโป่งขึ้นเป็นเส้นใหญ่อย่างเคียดแค้นเมื่อเห้นเพื่อนของผมจ่อกล้องซูมเข้ามา แต่ในที่สุด มันก็พนมมือ ก้มหัวลงแทบเท้าผม กราบอย่างถูกต้อง สวยงาม โดยไม่เหลือศักดิ์ศรีความเป็นชายใดๆที่มันเคยภูมิใจอยู่เลย เมื่อเรียบร้อยดีแล้ว ผมก็เอาตีนขยี้หัวมันลงติดพื้น มันร้องอึกอัก ใบหน้าหล่อxวยมๆคลุกฝุ่น สำลักจนมันหายใจไม่ออก มันพยายามหันหน้าหนีไปด้านข้าง ดิ้นรนสูดลมหายใจก่อนจะขาดอากาศตาย รองเท้าของผมจึงเหยียบไปบนหน้าของมันอย่างเหมาะเหม็ง ผมขยี้ปลายเท้าลงบนแก้มที่มีเคราครึ้มของมันอย่างสะใจ ออกแรงตรงส้นเท้า กดลงไปที่ขากรรไกรจนไอ้สิงห์อ้าปากร้อง น้ำลายไหลออกมาที่มุมปากด้วยความเจ็บปวดจากแรงดันของส้นตีนผม พอสาแก่ใจดีแล้ว ผมก็สั่งให้มันขึ้นยืน มันทำตามอย่างว่าง่าย ผมจับกรงxวยเขย่าทดสอบ มันรัดxวยของไอ้สิงห์แน่นปึ้ก โชคดีที่xวยไอ้สิงห์ใหญ่มาก หนังยางรัดไว้ยังไง ก็ยังพอมีที่ให้เลือดไหลเวียนได้อย่างยากเย็นอยุ่บ้าง เป็นคนอื่นคงจะเย็นชืด เตรียมเน่าหลุดออกจากพวงไปแล้ว แต่นี่มันยังอุ่น และมีชีวิตชีวาอยู่ พร้อมสู้กับอำนาจของผมได้อย่างสมน้ำสมเนื้อทีเดียว ผมจุดไฟแช็คจ่อที่ปลายเทียนซึ่งเตรียมมากำหนึ่ง เปลวสีฟ้าสวยลุกติดพรึ่บขึ้นราวกับกองไฟในค่ายพักแรม ผมจ่อเปลวไฟร้อนแรงนั้นนั้นไปที่โคนxวยของมัน ไอ้สิงห์ร้องลั่น ขยับหลบตามสัญชาตญาณ “มึงจะเอาออกไหม หนังยางน่ะ ไอ้สัตว์ เดี๋ยวกูปล่อยให้xวยมึงหลุดซะนี่” ผมลุกขึ้นตบกบาลมันดังฉาด ไอ้สิงห์ทำท่าฮึดฮัด แต่ก็ยอมยืนนิ่งโดยดี สองมือของมันเอื้อมขึ้นไปจับกิ่งไม้ใหญ่เหนือหัวแน่นเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจไว้ก่อน ผมจ่อเปลวเทียนเข้าที่โคนxวยของมันอีกครั้ง โคลนที่จับอยู่บริเวณนั้นเริ่มแห้งอย่างรวดเร็วจนหลุดกระเทาะออกมาเป็นแผ่น เห็นเนื้อด้านในที่เริ่มบวมแดงและหนังยางที่เริ่มหลอมละลาย ช่วยให้ความร้อนทวีมากขึ้นไปอีก ก่อนที่ผิวxวยของมันจะพองเป็นตุ่มน้ำใส ผมก็ดึงเปลวเทียนออก ปล่อยให้มันพัก กะเวลาให้อุณหภูมิเป็นปกติบนผิวเนื้อ แล้วก็จอต่อไปอีก เสียงไอ้สิงห์ครางในลำคอเสนาะหู ร่างของมันบิดเร่า แต่มันก็รู้ดีว่ามันจะต้องฝ่าความเจ็บปวดครั้งนี้ไปให้ได้ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงกับการสูญเสียเครื่องหมายผู้ชายของมันไป มันเกร็งกล้ามเนื้อจนปูดโปนเป็นมัดๆเพื่อไม่ให้ตัวเองดิ้น ในขณะที่สัญชาตญาณของมันก็กรีดร้อง อยากดิ้นหลุดจากความทรมานนี้จนเต็มเหนี่ยว กิ่งไม้ที่มันจับไว้ถึงกับไหวโยก ผมดึงเทียนออกอีกครั้งก่อนถึงจุดอันตราย พักสักครู่แล้วย้อนกลับเข้าไปใหม่ ไอ้สิงห์ถึงกับน้ำตาร่วงทีเดียว ไม่รู้ว่าต้องทนอีกนานแต่ไหน หนังยางพวกนี้มันถึงจะหลวมหลุด ตอนที่ผมมัดไปนั้น ผมรูดหนังยางลงมาเสียด้วย ทำให้หนังยางพันกันเองตุงนัง การที่ส่วนนอกๆโดนไหม้หลุดไปก็ไม่ได้ปลดล็อคให้ส่วนในๆดีดหลุดออกอย่างที่ควรจะเป็น มันแทบจะเป็นเงื่อนตายมันรอบลำอยู่อย่างนั้น พันทบซ้อน ล็อคกันไปมา “อ้ากกกกกกกกก” ไอ้สิงห์ตัวสั่นระริกอย่างทรมาน มันเขย่าจนต้นไม้โยกไปทั้งต้น สะบัดหัวไปมากซ้ายทีขวาที จนในทีสุด เส้นหนังยางตัวดีก็ดีดหลุดออกมาดังผึง ในจังหวะที่ไอ้สิงห์เกร็งสุดๆจนxวยกระดกไปข้างหน้า ความเงี่ยนที่บ่มมานานตลอดวัน บวกกับความรู้สึกเสียวแปลบจากการที่เลือดเดินอย่างกระทันหัน ทำให้xวยของมันกระดกขึ้น แล้วหลั่งเอาน้ำสีขาวขุ่น ดันโคลนที่อุดตันปากxวยของมันออก พ่นออกมาเป็นสายยาว ไอ้สิงห์เกร็งกล้ามแขนจนยกร่างขึ้นไปจากพื้นหลายนิ้ว ชาติพันธ์ของมันกระเซ็นไปทั่ว มันงอตัวไปมาอย่างแสนเสียวขณะที่ผมนวดไข่ คลึงหนักๆให้มันแตกน้ำออกมาชนิดหมดพวง มันร้องลั่น กระตุกเฮือกอีกครั้งจนกิ่งไม้ใหญ่หักโครม ร่างของมันตกแอ้กลงมากองกับพื้น น้ำxวยยังพุ่งขึ้นกลายเป็นน้ำพุ สูงขึ้นจนเลยหัวผมหลายระลอก ซึ่งภาพทั้งหมดถูกบันทึกไว้เรียบร้อย พร้อมที่จะขายเป็น “หนังแผ่น” ให้กับนายทุนต่อไป

ไอ้สิงห์พยายามลุกขึ้นยืน แต่เห็นชัดว่าข้อเท้าของมันเจ็บ อาจจะพลิก หรือแพลง จากแรงกระแทกของกิ่งไม้ หรืออะไรก็ตามแต่ แต่นั่นจะทำให้ “ด่าน” ต่อไปมันส์ยิ่งขึ้นก่อนที่ผมจะปล่อยให้มันกลับบ้านได้ ผมปล่อยมันทิ้งไว้อย่างนั้นโดยที่ไม่กลัวว่ามันจะหนีกลับบ้านไปเสียก่อน เพราะอะไรเหรอครับ เสื้อผ้าทุกชิ้นของมันอยู่ในมือผม ผมถือติดมาด้วยครับ ไอ้สิงห์มีกรงxวยติดตัวแค่อันเดียว ทางกลับบ้านมันต้องเดินผ่านตลาด ยังไงซะมันก็ไม่กล้าเดินแก้ผ้าฝ่าตลาดไปหรอก ผมเดินล่วงหน้าไปเตรียมด่านไว้สำหรับมัน และบอกให้มันตามมาเมื่อมันลุกไหว แค่ไม่กี่นาที ไอ้สิงห์ก็เดินลากขาตามมาที่ด่านครับ ข้อเท้าซ้ายของมันมันคงเจ็บไม่ใช่เล่นเพราะมันเดินกระเผลกๆชอบกลอยู่ สิ่งที่มันเห็น ก็คือสะพานเชือกสำหรับฝึกทหารครับ เป็นสะพานสองเส้น สำหรับเหยียบ และสำหรับยึด ขึงข้ามคลองเล็กๆเป็นแนวเฉียงเพื่อให้มีระยะทางยาวที่สุดเท่าที่จะยาวได้ ไอ้สิงห์มองหน้าพวกเราอย่างระแวดระวัง หน้ายิ้มๆของพวกเราไม่เคยสร้างความผ่อนคลายใจให้กับมันได้ ผมยกเสื้อกางเกงของมันขึ้นมาตรงหน้าให้มันเป็นถนัดๆ แล้วก็ออกแรงโยนผ้าทั้งสองชิ้นไปไว้อีกฝั่งหนึ่งให้มันเห็นจะๆกับตา สร้างอารมณ์โมโหเคียดแค้นให้มันขึ้นมาอีกเท่าตัว “มึงแค้นใช่ป่ะ แค้นแล้วไง ทำหน้าแบบนั้น แล้วมึงจะทำอะไรกูได้ หา มีปัญหาเหรอมึง” ผมยิ้มเยาะ มือเลื่อนไปที่ลำคอหนาล่ำ ออกแรงบีบที่ลูกกระเดือกของมันแล้วเขย่าแรงๆจนไอ้สิงห์ร้องอึกอัก หายใจไม่ออก ไอ้นัทเดินเข้ามาข้างหลัง และในนาทีที่ไอ้สิงห์กำลังดิ้นรนให้หลุดจากมือของผมนั้นเอง ไอ้นัทก็กวาดเท้า เตะเอาเท้าขวาที่เป็นหลักยืนของมันอยู่เสียงดังกร้อบ ร่างหนาของไอ้สิงห์หงายหลังตึงลงอีกครั้ง ผมเหยียบท้องแกร่งกล้ามของมันไว้ ทิ้งน้ำหนักตัวลงไป ยกตัวขึ้นจนลอยจากพื้นแล้วใช้เท้าอีกข้างเตะเต็มแรงที่ข้อเท้าขวาจนตีนของมันสะบัดไปผิดทิศ คราวนี้ ข้อเท้าสองข้างของมันก็บาดเจ็บ เตรียมพร้อมสำหรับความบันเทิงของพวกเราอย่างสมบูรณ์ “ตอนนี้ มึงก็กลับบ้านได้ล่ะ มึงอยากได้เสื้อผ้า ก็ข้ามไปเอา ถ้าไม่อยากได้ จะเดินแก้ผ้ากลับบ้าน ก็ตามใจมึง กูไม่ว่าอะไร” ผมหัวเราะกวนๆ แล้วเดินห่างออกไป ทิ้งให้ไอ้สิงห์ตะเกียกตะกายลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบาก มันเดินไปที่ต้นไม้ที่เป็นจุดเริ่มต้นของสะพานเชือกอย่างช้าๆและยากลำบาก บันไดลิงสำหรับไจ่ขึ้นต้นไม้นั้นพังไปแล้ว มันจึงต้องใช้มือโอบรอบต้นไม้ ใช้เข่าเกาะลำต้นไว้แน่ที่ยากลำบากพอxวย เพราะมือของมันมีโคลนเกาะจนลื่นเป็นฝุ่น พอมันพยายามกอดรัดต้นไม้แน่นเข้า แล้วลากเอาร่างกายสูงขึ้นไป เปลือกไม้สากๆก็สีเอาหนังไข่ของมันจนถลอก เพิ่มความแสบจากแผลเดิมมากขึ้นไปอีก สภาพของมันตอนนี้เละเทะราวกับเชลยศึกในสงครามเวียตนามที่ถูกทรมานเลยทีเดียว แต่มันก็เป็นทหารหนุ่มรูปงาม หล่อบึ้กเกินหน้าทหารชาติใดๆที่ผมเคยเห็น มาลองจินตนการดูซิว่า ไอ้พลทหารสิงห์รายนี้ จะมีความอดทนทางร่างกายมากขนาดไหน มันตะกายขึ้นต้นไม้ไปช้าๆ ท่ามกลางแสงอาทิตย์ที่ลับขอบฟ้าลง ความมืดโรยตัวลงมา เพื่อนของผมเปิดไฟฉาย จับส่องไปที่ร่างของมันเหมือนสปอตไลท์ที่เน้นการแสดงที่น่าตื่นตา ไอ้พลทหารสิงห์ของผมหอบแฮ่กๆเมื่อมันตะกายขึ้นไปยืนบนเชือกได้ สองมือจับเชือกด้านบน เท้าที่บาดเจ็บจิกเชือกด้านล่างไว้เท่าที่จะทำได้ แต่พยายามเกร็งกล้ามแขนเพื่อลดภาระของเท้าให้มากที่สุด เชือกด้านบนอยู่ค่อยข้างสูง ทำให้มันอยู่ในท่าเหมือนถูกจับมัดขึงพืด อวดความกำยำที่มันเฝ้าฝึกฝนมานานแรมปี เพื่อให้มันเป็นบุคคลที่เหนือกว่า แต่ ณ วินาทีนี้ ร่างกายที่มันภาคภูมิใจกลับตกเป็นเป้านิ่งให้พวกผมสามารถทารุณได้อย่างง่ายๆ

ไอ้พลทหารสิงห์เริ่มเคลื่อนที่ไปช้าๆ ลากร่างสะบักสะบอมของมันไปตามเชือกทีละก้าวๆพ้นจากพื้นจนไปถึงเขตพื้นน้ำ ในพลันนั้นเอง มันก็ต้องสะดุ้งเฮือกด้วยความเจ็บแปลบที่หัวนม เมื่อมันมองลงมา ก็พบกับลูกดอกไม้ซางจากข้าศึกปักติดอยู่กลางหัวนมซ้ายอย่างเหมาะเหม็ง มันพยายามเอื้อมมือข้างหนึ่งลงมาดึงลูกดอกออก แต่ข้อเท้าที่ยังไม่เข้าที่ดีนัก ทำให้มันต้องพึ่งกำลังกล้ามแขนสองข้างค่อนข้างมาก มันพยายามอยู่หลายหน แต่ทุกครั้งร่างของมันก็จะเสียศูนย์ ทำท่าจะร่วงหล่นลงมาเสียทุกครั้ง เป็นอันว่า มันจะต้องปล่อยให้ลูกดอกปักอยู่ตามร่างกายของมันต่อไป มันก้าวขาออกไปอีกข้างหนึ่ง ค่อยๆคืบคลานไปทีละน้อย เพื่อนของผมงัดเอาไม้ซางและลูกดอกออกมาอีกครั้ง แต่คราวนี้มีขวดยานัตถ์เก่าๆออกมาด้วย ข้างในมีอะไรสักอย่าง สีแดงสดเป็นยางเหนียว มันจุ่มหัวลูกดอกลงไปในยางนั้น พวกเรารู้จักยางชนิดนี้กันมาบ้างในฐานะยาพิษแบบพื้นบ้นทำจากมาจากเห็ดพิษ ปกติแล้วจะเอาไปใช้กับหน้าไม้เวลาจะล่าสัตว์เล็กๆพวกกระต่ายหรือไก่ป่า เมื่อโดนแล้วจะทำให้ออ่นแรงลง วิ่งหนีไม่ทัน ผมเคยพลาดไปโดนมันหนหนึ่ง ไม่ถึงกับบาดเจ็บ แต่จะปวดแสบปวดร้อนไปทั่วและชาหนึบ ออ่นแรงไปหลายชั่วโมงทีเดียว สมัยสงคราม พ่อเคยเล่าว่า มันถูกใช้เป็นยาเค้นความลับ โดยใช้เข็มจิ้มไปตามร่างกายนี่เอง พวกเราเฝ้ามองอย่างตื่นเต้นเมื่อลูกดอกถูกอาบด้วยยางพิษนั้นบางๆ รวมทั้งไอ้สิงห์เองที่เฝ้ามองจากระยะไกล ดวงตาคมของมันจับจ้องที่ข้าศึกส่วนตัวอย่างกริ่งเกรง ร่างกายของมันพยายามเร่งความเร็วเพื่อรอดชีวิตออกไปให้พ้นจากค่ายเชลยนรกแห่งนี้ ลูกดอกอาบยาพิษดอกแรกถูกเป่าออกไปอย่างแม่นยำ ปักฉึกเข้าให้ทีหัวนมขวา มันบวมตุ่ยและแดงขึ้นทันตาพร้อมๆกับอาการแกว่งกระตุกของร่างกำยำราวทหารหน่วยรบพิเศษที่ถูกข้าศึกโจมตีอย่างไร้เมตตา ไอ้เพชร มือเป่าลูกดอกยิงซ้ำที่หัวนมซ้ายไปอีกดอก จกนั้นก็รัวถี่ยิบราวกับปืนกลไปที่กล้ามท้องแปดลูก จุดที่ลูกดอกปักลงไปจะกลายเป็นปื้นแดงขึ้น บวมเป็นก้อนแข็งอย่างถนัดตา ไอ้พลทหารสิงห์หลับตาลง หอบแฮกๆ เกร็งแขนให้ร่างกายทรงตัวอยู่ได้ขณะที่ลูกดอกเพิ่มจำนวนมากขึ้น มันตัวสั่นดิกดิกด้วยความปวดแสบปวดร้อนที่แผ่ซ่านไปทั่วร่าง “อ้ากกกก” เสียงมันร้องลั่นก้องป่าเมื่อลูกดอกลูกหนึ่งปักลงบนถุงหนังที่เป็นจุดตายของมันอย่างหมาะเหม็ง ลวดคมที่บากปลายไว้ แทรกทะลุหนังเข้าไปสะกิดต่อมน้ำเชื้อภายใน ส่งพิษลามเข้าไปในเส้นประสาทที่บอบบางของมันจนมันมือเท้าออ่น แทบจะตกลงไปในน้ำ แต่ผมรู้ มันว่ายน้ำไม่เป็น ถ้ามันตกลงไป มันก็มั่นใจถึงความตายได้ เพราะไม่มีใครสักคนในที่นี้จะมีแก่ใจช่วยชีวิตมันเลย ทางรอดทางเดียวคือมันต้องเกาะไว้ให้แน่นที่สุด มันสะบัดจนหน้าหงายอีกครั้งเมื่อลูกดอกอีกสามลูกชำแรกเข้าไปในถุงอัณฑะเปลือยเปล่าของมันจนมิดด้าม ความปวดผสมความชาทำให้มันออ่นแรงลงเรื่อยๆ ความพยายามที่จะข้ามด่านนรกนี้ไปให้ได้ยังคงมีอยู่เต็มเปี่ยม และมันก็ทรหดพอที่จะฝืนสังขาร บังคับเค้นเอาพลังกายที่เหลืออยู่ออกมาด้วยพลังใจเต็มเปี่ยม ร่างหนาตันของมันเคลื่อนที่ไปช้าๆ จนถึงจุดกึ่งกลางเชือก ลูกดอกระดมยิงมาอย่างไม่หยุดยั้ง มันคงปวดทรมานไปหมดทั้งเนื้อทั้งตัว สติแทบจะหลุดลอยไปแล้วตอนนี้ ไอ้เอ เพื่อนอีกคนหนึ่งเดินแยกไปอีกด้านพร้อมไม้ซางอีกหนึ่งชุด ไอ้สิงห์ไม่ทันได้สังเกตอะไร แต่เท่าที่มันรู้ก็คือ ลูกดอกอีกครึ่งโหลปักเข้าที่กล้ามหลังของมันรวดเดียวพร้อมกัน ร่างของมันเริ่มพรุนจนดูเหมือนเม่น แต่ส่วนเดียวที่ยังปลอดภัยอยู่คือไส้กรอกฟุตลองดุ้นอวบใหญ่ เราไม่ปล่อยมันไว้หรอกครับ แต่เก็บของดีไว้ทีหลังสุด ก่อนที่มันจะเข้าเขตปลอดภัย ผมก็หยิบไม้ซางขึ้นมา และเป่าพรวดออกไป ความแม่นยำของผมยังเป็นรองเพื่อนๆอยู่มาก สองดอกแรกปักไปที่ท้องน้อยของมันแทนเป้าหมายที่ผมเล็งไว้ ไม่กระเทือนมันมากนัก แต่ในดอกที่สาม ฝีมือของผมก็เริ่มดีขึ้น ลูกดอกนั้นปักลึกลงบนหัวเห็ดสีม่วงเข้มพอดิบพอดี “โอ้กกกก……. อ้าาาา…………. อ่าาาาา” เสียงไอ้สิงห์คำรามราวกับสิงโตติดสัด แต่รับรองได้ว่านี่ไม่ใช่เสียงจากความกระสัน แสงไฟที่ส่องตัวมันอยู่ทำให้พวกเราเห็นว่า มันดิ้นรนอย่างแรงจนเชือกสะบัด ใบหน้าเข้มๆ ซีดลงจนเขียว xวยของมันที่ห้อยสยบถูกฤทธิ์ยาแทรกเข้าไปทุกอณูจนบวมแข็งขึ้นมาอีกครั้ง ผมเป่าลูกดอกซ้ำ้ไปอีกสามลูก ไปสู่เป้าหมายบานๆเหมือนดอกเห็ด ที่บัดนี้บวมจนเล็งง่ายมาก อีกครั้งที่เนื้อของท่อนลำโป่งจนปริปลิ้นออกมานอกซี่กรงเหล็ก และอีกครั้งที่xวยของมันเต็มไปด้วยการรับรู้ของความทรมานในเส้นประสาท ไอ้สิงห์เริ่มตาลอย ร่างการปัดแกว่งเหมือนเครื่องบินที่ควบคุมไม่อยู่ แต้พลังใจอันแข็งแก่งไดขัดขืนดิ้นรนเอาตัวรอด มันพยายามบอกตัวเองให้ก้าวช้าๆไปทีละก้าว ย่างเท้าเข้าใกล้อิสรภาพจากค่ายเชลยโหดนี้ไปทีละน้อย เมื่อผมเป่าลูกดอกลูกสุดท้ายที่มีอยู่ในมือออกไป หมายกลางหัวบานสีม่วง คมของมันชำแรกเข้าไปในรูเยี่ยวอย่างบังเอิญ นั่นคือฟางเส้นสุดท้ายที่ไอ้สิงห์ทนแบกรับไว้ได้ ร่างของมันกระตุกเฮิอก มือแกร่งเริ่มปล่อยเชือกหลุดออกไปอย่างช้าๆ ทีละน้อย ทีละข้าง เหมือนหนังสโลว์โมชั่น จนในที่สุดร่างหนาตันก็ล้มคว่ำลง หล่นลงในคลองจนน้ำกระเซ็นไปเป็นระลอกใหญ่ และจมหายไป เหลือทิ้งไว้เพียงพรายน้ำที่ผุดขึ้นมาเป็นทาง

พวกผมเดินเข้าไปที่ริมตลิ่ง กวาดไฟฉายลงไปที่พื้นน้ำ ดวงตาของพวกเราเฉยเมย แต่แฝงไว้ด้วยความสะใจ และไม่ทกสะท้านกับชะตากรรมของไอ้สิงห์ ผมเป็นคนแรกที่ฉายไฟไปพบกับแขนใหญ่ล่ำที่โผล่พ้นน้ำ ขัดอยู่กับรากไม้ที่ยื่นลงไปในลำคลอง กล้ามแขนของมันเกร็งเต็มที่ พยายามเหนี่ยวตัวไม่ให้หลุดลอยไปตามกระแสน้ำ หน้าของมันโผล่พ้นน้ำขึ้นมาทีละน้อยๆด้วยกำลังแขนทรงพลัง แขนอีกข้างหนึ่งของมันป่ายขึ้นมาจับรากไม้ไว้เพิ่มเติม มันหอบฮักๆอย่างทรมาน ตะเกียกตะกายขึ้นมาบนตลิ่งสูงชันอย่างช้าๆ ผมอดนึกชื่นชมในความทรหดของมันไม่ได้ ยาพิษขนาดนี้ที่สามารถบีบบังคับรีดความลับออกจากทหารที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีได้ แต่ไม่อาจทำลายเกียรติภูมิของไอ้สิงห์ลงได้ ถ้านี่เป็นเกม เราก็แพ้มันในยกนี้ ร่างบึกราวกับควายถึกของมันตะกายขึ้นมานอนหอบอยู่บนตลิ่งได้สำเร็จ มันรวบรวมกำลังที่เหลือ ค่อยๆถอนลูกดอกออกมาทีละลูกๆอย่างยากลำบาก ปลายลูกดอกนั้นถูกบากไว้เป็นร่องแบบเบ็คตกปลา การดึงออกมาตรงๆโดยไม่มีการใช้มีดกรีดนั้น จะทำให้แผลฉีกออก เนื้อปริแทบหลุดทีเดียว เสียงมันคำรามลั่น “โอ้ว… ซีดส์ สัตว์…”ลูกแรกหลุดออกมาพร้อมเลือดที่ทะลักออกมาจากหัวนม “อ้ากกกก” ลูกต่อมาที่หัวนมอีกข้าง “อ้ากกกกกกกกกก” เสียงร้องลั่น เพราะความเจ็บที่สะสมมากขึ้นทุกครั้งที่มันถอนลูกดอกออก ทำให้เราได้ยินเสียงมันชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เสียงร้องสลับคำรามของมันดังระงม แต่มันใจแข็งและทนทายาด มันดึงลูกดอกออกทีละลูกอย่างต่อเนื่อง พยายามไม่สนใจความเจ็บปวดใดๆ แต่ก็ยังไม่กล้าพอที่จะดึงลูกดอกที่xวยและไข่ออก จนกระทั่งเหลือเพียงแค่สองจุดนั้นเท่านั้น ไอ้สิงห์มองลูกดอกที่ปักแน่นอยู่ตรงอวัยวะสำคัญอย่างหวาดหวั่น มันความหากิ่งไม้เล็กๆ แล้วยัดเข้าไปกัดไว้ในปาก และโดยที่ผมไม่ทันคาดคิด มันกลั้นใจ คว้าลูกดอกสามลูกที่หนังไข่ หนีบไว้ที่ง่ามนิ้วง่ามละลูก แล้วออกแรงกระชากเต็มแรง “อ้าห์หหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหห” ร่างของมันดิ้นพราดๆทันที สองมือกุมอยู่ที่หว่างขา น้ำตาไหลพรากๆด้วยความเจ็บปวด มันตัวสั่นอยู่เพียงครู่เดียว มันก็เริ่มอีกครั้ง คราวนี้คือสามลูกสุดท้ายที่หัวxวยของมัน มันสูดลมหายใจเต็มที่ กำมือแน่น แล้วกระชากเต็มแรง “โอ้กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก” ร่างกำยำสะบัดดิ้นอีกครั้ง คราวนี้มันถึงกับถีบขาปัดๆไปมาด้วยความเจ็บสาหัส เห็นเลือดซึมออกมาจากปากxวยของมันเป็นสายเล็กๆ และตามแผลอื่นๆทั่วตัวเป็นจุดเล็กๆ หน้าของมันเปรอะน้ำตาลูกผู้ชายที่หลั่งออกมา ไม่รู้ว่าเพราะความเจ็บ หรือความแค้น อาจจะทั้งสองอย่างก็ได้ อาการสั่นระริกของมันค่อยๆจางลงทีละน้อยๆ ในที่สุด มันก็พยุงตัวลุกขึ้น เอื้อมมือไปคว้าเสื้อผ้ามาสวม แล้วเดินช้าๆออกจากที่นั่นไปทางอีกฝั่งคลอง

ไอ้สิงห์ขาดเรียนไปสองวัน ในวันพฤหัส และศุกร์ ดูท่าทางมันจะนอนป่วยยาวสี่วัน พักรักษาตัวให้เข้มแข็งขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อมันมาเรียนอีกครั้งในวันจันทร์ แผลเหล่านั้นก็แห้งตกสะเก็ดเรียบร้อยแล้ว ยาพิษชนิดนั้นมีสรรพคุณเป็นยาฆ่าเชื้อชนิดแรงด้วย แผลที่ถูกยาตัวนี้จะสมานได้อย่างรวดเร็ว ในกรณีที่เจ้าของแผลนั้นรอดมาได้

แต่เพื่อให้ร่างกายของมันได้พักฟื้นบ้าง เราจึงตัดสินใจว่า จะปล่อยมันอยู่เงียบๆสักอาทิตย์โดยไม่ไปยุ่งอะไรให้มันบาดเจ็บเพิ่มเติม แต่จะช่วยบำรุงร่างกายของมันขึ้นมาให้แข็งแรงขึ้นเท่านั้น ไอ้เอผู้ซึ่งเป็นลูกของหมอแผนโบราณรับอาสาไปหายาสมุนไพรมาให้ ก็มียาแก้อักเสบสมานแผล เป็นสเตียรอยด์แบบโบราณเพื่อให้แผลสมานเร็วราวปาฏิหาริย์ ยาบำรุงร่างกายพิเศษสูตรของพ่อมันเอง อันมีเลือดหมี ดีงู จู๋เสือ รากกระชายดำ ว่านมะกล่ำช้าง ม้ากระทืบโรง โด่ไม่รู้ล้ม และสมุนไพรลับเฉพาะอีกสองสามอย่าง

“ไอ้เอ ส่วนผสมแต่ละอย่างของมึงนี่นะ” ผมส่ายหัวอย่างกลุ้มๆ

“ปกติพ่อกูเค้าเอาไว้ใช้เวลาจะให้ม้าติดสัดว่ะ เคยลองกับคนแล้ว ก็ได้ผลดีใช้ได้ แค่หัวใจวายตายไปคนนึงเท่านั้นเอง” มันบอกหน้าตาเฉย เออ มึงเอาไงก็เอา เอาให้เ้หมาะ

ไอ้สิงห์ถูกเรียกให้อยู่กับพวกเราก่อนจะไปกินข้าว ร่างบึกของมันดูฟื้นตัวเกือบจะ100%แล้ว ดูมันเคลื่อนไหวได้ว่องไว ไม่ติดขัด โคตรทรหดจริงๆ ไอ้ห่านี่

“มึงจะเอาอะไรจากกูอีก” มันตวัดเสียงห้วน

“ไม่ได้เอาว่ะ กูไม่เอามึงหรอก แค่จะให้ยาดีไว้แดกแก้ช้ำในเท่านั้นแหละ” ผมพูดนิ่งๆ วางแก้วยาสีคล้ำให้ตรงหน้า ไอ้สิงห์เหลือบตามองผมนิดหนึ่ง แล้วก็คว้าแก้วไปดื่มอั้กๆจนหมดเกลี้ยงก่อนจะเขวี้ยงลงถังขยะดังโครม มันคงทำใจแล้วว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด มันไม่มีทางปฏิเสธยาแก้วนั้นได้

พวกเราลงจากตึกไปทานข้าวตามปกติ แต่ก็ไม่ลืมที่จะเฝ้ามองไอ้สิงห์ไว้ ร่างสูงของมันสังเกตได้ง่ายๆอยู่แล้ว สาวๆหลายคนเข้ามาทักไอ้สิงห์อย่างสนิทสนม แทบจะเป็นการออ่ยอยู่แล้ว มันคุยกับคนโน้นคนนี้อยู่สักพักก็ได้เรื่อง

เป้ากางเกงของมันที่ตุงๆผิดปกติด้วยขนาดของกรงxวยนั้น เริ่มเปลี่ยนรูปร่างไปต่อหน้าต่อตาของพวกเราที่สังเกตอยู่ กรงxวยที่ทำให้กางเกงของมันแค่ดูฟิตขึ้น ตุงขึ้นนั้น เริ่มเปลี่ยนท่าจากการงัดเอาหัวเก็บลง กลายเป็นชูคอแผ่แม่เบี้ยขึ้นด้วยฤทธิ์ยาของไอ้เอ ไอ้สิงห์เริ่มหน้าแดง หายใจหอบถี่ขึ้น มือของมันพยายามปิดบังเป้ากางเกงตุงเต่งของตัวเองไว้ในขณะที่พยายามหาที่นั่งลง xวยของมันขยายขึ้น เห็นจะจะกับตาว่า กรงถูกยกขึ้นพาดไปทางซ้าย ไอ้สิงห์ตัวงออย่างอึดอัด และพยายามซ่อนอาการแข็งเกร็งนั้นไม่ให้สาวๆสังเกตเห็น แต่พวกเรารู้ดีแก่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับมัน ไอ้สิงห์รีบตัดบทการสนทนา ทิ้งข้าวไว้บนโต๊ะ แล้วแจวอ้าวไปห้องน้ำอย่างไม่เหลียวหลัง

ถ้าเป็นเวลาปกติ แอคซิเดนท์แบบนี้ ไอ้สิงห์คงแก้ปัญหาไม่ยากครับ ไปถึงห้องน้ำแล้ว ชักว่าวสักหน สองหน ก็คงจะไขปริศนาเดินออกมาได้อย่างเบาตัว สบายใจ แต่คราวนี้ปริศนาซ่อนเงื่อน ทั้งยาที่วิ่งพล่านอยู่ในตัวมัน และกรงเหล็กที่ครอบเอาไอ้ตัวปัญหาใหญ่ของมันไว้ภายนอก ผนึกกำลังกัน สร้างความปั่นป่วนทั้งกายและใจได้เป็นอย่างดี

ส่วนความรู้สึกมันจะเป็นยังไง เดี๋ยวอ่านจากใจจากสมองของมันกันดีกว่าครับ

กูคว้าแก้วจากโต๊ะ ตามที่ไอ้อาร์คมันสั่ง แล้วสาดยาขมๆนั่นเข้าคอจนหมด ไม่รู้จะลังเลทำห่าอะไร ยังไงซะ กูก็ไม่มีทางหนีพ้นอยู่แล้ว ให้แดกอะไรก็ต้องแดกล่ะวะ อย่างมากก็แค่ตาย เออ ตายๆห่าไปซะก็อาจจะดีกว่ามาแบกรับความทรมานแบบนี้ กูขว้างแก้วทิ้งไป แล้วก็เดินโครมๆออกไปนอกห้อง ไอ้อาร์คไม่ยักเรียกกูไว้ คงพอใจแล้วมั้ง แค่ยาหม้อแก้วเดียว คงไม่เป็นไรมากหรอกวะ มันก็คงมายุ่งกะxวยกูเหมือนเดิม ไม่รู้พวกxวยนี่มาพิศวาสอะไรกับพวงกูนักหนา สมบัติกะอีแค่สิบเอ็ดนิ้ว ใหญ่กว่าคนอื่นแค่เท่า สองเท่า เพราะกูทั้งเลี้ยง ทั้งนวด ถนอมมาตลอดชาติ ก็แค่นั้น

พอมันไม่ว่าอะไร กูก็เลยเดินลงมาที่โรงอาหาร หาข้าวแดกดีกว่า หาน้ำล้างยาขมๆนั่นออกไปจากปากกูด้วย แต่วันนี้แดดแรงโคตรๆ ร้อนจนระอุแทบสุกไปทั้งตัว กูรีบเดินเข้าร่ม แต่ในโรงอาหารหลังคากระเบื้องก็ช่วยอะไรไม่ได้ ร้อนจนกับข้าวไม่ต้องอุ่นบนเตา ก็เดือดอยู่ได้แล้วล่ะกูว่า
กูซื้อข้าวมาจานนึง แล้วเดินหาที่นั่งไกลๆโต๊ะพวกไอ้อาร์คหน่อย ไม่ทันได้นั่งลง ก็เจอพวกน้องอุ๊ น้องปุ้ม กับสารพัดน้องที่ชอบคันจิ๋ม เอาxวยกูเป็นไม้เกาให้ประจำ แม่งก็ไม่ได้ดูอารมณ์กูเล้ย เดินเข้ามาออดๆ เจ๊าะแจ๊ะสารพัด กูก็ เออ คุยๆไปก็ได้วะ เดี๋ยวพวกแม่งงอน วันหลังไม่ยอมให้กูกระทุ้งอีก ชักว่าวเองเมื่อยมือตายห่า

คุยๆไปสักสองสามคำ กูก็รู้สึกแปลกๆ มันร้อนขึ้นเรื่อยๆว่ะ ร้อนจนตัวกูเริ่มแดง หูก็ร้อนผ่าวๆ เพิ่งเข้าใจคำว่า หูร้อนฉี่ ก็คราวนี้เอง แต่แปลก ความร้อนที่อื่นๆมันคงที่ แต่ความร้อนในกางเกงกูนี่สิ ที่ดูจะทวีขึ้น กูว่าแล้ว ยาxวยนั่นแหงๆ ออกฤทธิ์เร็วโคตร แค่ห้านาที กูก็รู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร มันร้อนๆ อุ่นๆ เสียวๆไปทั่วหัวxวย ขยับตัวนิด xวยก็แกว่งไปโดนกรง เสียวจี้ดจนกูแทบสะดุ้ง แต่ต้องปั้นหน้าเฉยๆ เก็กขรึมต่อหน้าสาวไว้ก่อน จะเกิดอะไรขึ้นวะถ้าพวกมันรู้ว่าxวยกูโดนขัง สงสัยจะเอากูไปนินทาทั่วโรงเรียน แม่งไม่อยากจะคิดเล้ย สัตว์ แล้วอีพวกนี้ก็เกิดจะมาพูดมากกันวันนี้หล่ะ วันอื่นไม่เห็นจะคุยกันขนาดนี้ มีแต่ร้องโอยซี้ด พี่สิงห์คะ พี่สิงห์ขา กูเริ่มคุยไม่รู้เรื่อง เพราะสมองกูมันหล่นลงไปในไข่หมดแล้ว ได้แต่เออๆออๆไป กูรู้สึกเลยว่า กางเกงมันฟิตเปรียะขึ้นมากระทันหัน กรงxวยที่กูกดเอาหัวลงไปใต้ขาหนีบเริ่มจะมีปฏิกิริยาแล้วสิ มันแข็งเอา แข็งเอา พอxวยแข็งแล้วอยู่ไม่ถูกที่ มันก็เลยเป็นเรื่อง กูขยับตัว บิดซ้าย บิดขวา ถ้าขืนไม่รีบจัดการ มีหวัง “หอกหัก” ของแท้ล่ะคราวนี้ กูแอบๆเอามือไปแงะจัดท่าให้ลูกชายสุดที่รักได้โงหัวขึ้นมา พอได้ที่ มันก็หลุดผลัวะ แล้วมันก็ค่อยๆง้างตัวขึ้นมาเรื่อยๆ ไอ้รุ่นน้องที่นั่งอยู่โต๊ะใกล้ๆเริ่มหันมามอง แล้วซุบซิบ หัวเราะคิกคัก มันต้องเห็นแหงๆอยู่แล้ว ไอ้สิบเอ็ดนิ้วของกูน่ะ ปกติก็ซ่อนไว้ไม่ได้อยู่แล้ว พอมีกรงเหล็กมาเสริมเข้าอีก ก็เลยไม่ต้องซ่อนกันพอดี สองแรงแข็งขัน ช่วยกันดัน ช่วยกับค้ำกางเกงกูจนตุงเป่ง
“แหม คุยกะอุ๊แค่นี้ แข็งโด่เลยเหรอคะสิงห์ ไว้คืนนี้ก่อนดีป่ะ” นังอุ๊กระซิบค่อยๆ แต่พ่นลมหายใจใส่รูหูจนกูขนลุกซู่ แขนแม่งปัดมาโดนเป้ากางเกงกู กูรีบงอตัวหลบ เลยโดนแค่เฉี่ยวๆ ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคัก
“วันนี้แข็งดีจังนะคะ ยังกะแท่งเหล็กเลย วันนี้พวกเราไปเที่ยวบ้านสิงห์พร้อมๆกันหลายๆคนได้ไหม นะคะ นะคะ” ก็ดุ้นเหล็กสิมึง อีนี่ แยกไม่ออกเหรอไงว่าxวยเนื้อกะxวยเหล็กต่างกันยังไง เดี๋ยวกูยัดให้ทั้งกรงนี่แหละ กูได้แต่คิด สิ่งที่ทำได้ก็แค่หัวเราะแหะๆ ทิ้งจานข้าวไว้ แล้วพึมพำบอกว่าแข็งเพราะปวดเยี่ยว แล้วกูก็เผ่นแน่บไปที่ห้องน้ำโดยด่วน มีสายตาของคนเกือบครึ่งโรงอาหารมองที่กางเกงโป่งเป็นเตนท์ของกูแบบงงๆ ขำๆ

กูยืนงงอยู่นาน ยังกับว่ากูไม่เคยเห็นกรงxวยอันนี้มาก่อน ปกติกูเห็นกรง กูก็หมดอารมณ์ xวยหดไปแล้ว ความแค้น ความอึดอัด มันทำให้กูหายเงี่ยนได้ง่ายๆ แต่คราวนี้ไม่ใช่ ยาxวยนั่นมันยังออกฤทธิ์เพิ่มขึ้น xวยกูแข็งขึ้นเรื่อยๆจนเริ่มปวดหน่วงๆไปในแกนลำ พร้อมๆกับความเสียวๆ ชาๆ แปลกๆที่แทรกไปทั่วทั้งพวง ลูกกูมันเรียกร้องให้กูกำมันไว้ แล้วรูดเข้ารูดออก ปรนเปรอความเสียวให้มันทะลักหลั่งให้พ้นความอึดอัดที่อัดแน่นไปหมดทั้งพวงนี้ แต่กูทำอะไรไม่ได้ ไม่สามารถแม้แต่จะแตะหัวบานๆใหญ่ๆ ลูบไล้ปลอบประโลมมันให้สงบลงได้สักนิด กูตักน้ำเย็นๆ ราดรดไปทั่วทั้งพวง น้ำในโอ่งเย็นเยียบ ช่วยให้คลายความร้อนผ่าวลงในแกนของกูไป แต่ความอึดอัด ความงุ่นง่าน ความเงี่ยนสุดขีดยังคงอยู่ อาทิตย์หนึ่งแล้วที่ชาติชายของกูโดนขัง โดนจองจำ มันผ่านอะไรมามากมายจนกูไม่อยากเชื่อ ทั้งการห้ามหลั่งในห้องเรียน ความทรมานสารพัดสารพัน แต่ทั้งหมดนั้น ลงท้ายแล้วก็แค่ถูกปลุก ถูกง้างนกปืนให้เตรียมพร้อม แล้วก็จบลงด้วยการห้ามกูปลดปล่อย ไข่ของกูเก็บน้ำจนเป่ง หนักอึ้งไปหมดแล้วตอนนี้ ตอนอยู่ที่บ้าน แค่กูเดินแก้ผ้า ไข่กูแกว่งโทงเทงสักหน่อย กูก็จุกแล้ว กูไม่เคยเก็บประจุไว้มากขนาดนี้มาก่อน กูไม่รู้จะทำยังไงกับชีวิตตัวเองแล้ว กูซบหน้าลงกับผนังห้องน้ำ กำมือแน่น ทุบแผ่นคอนกรีตระบายความอึดอัดในตัวออกไปเสียบ้าง แต่นั่นไม่ช่วยอะไรกูเท่าไหร่หรอก ตอนนี้กูอัดอั้นทั้งกาย ทั้งใจจนเกินเยียวยาแล้ว

ทาสทรามสังเวยดิบ ตอนที่ 6

จุดหมายปลายทางคือสถานที่แห่งหนึ่งที่อยู่ลึกเข้าไปในซอย เป็นแถบที่ไม่มีผู้คนอาศัย ไม่มีแสงไฟของหมู่บ้าน หรือครัวเรือนให้เห็น มีเพียงกลุ่มมอเตอร์ไซค์ของไอ้พวกแก็งเด็กแว้น และรถคันงามของนายเกริกที่พวกมันขับตามมาและจอด ณ จุดนี้



ไอ้พวกนี้มันจะทำอะไรนายเกริกของเราอีก?



คำถามเดียวกันนี้เกิดขึ้นซ้ำๆ ในหัวนายเกริกเช่นเดียวกัน ชะตากรรมของเขาอยู่ในกำมือของเด็กวัยคะนองห้าคน ที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน และเขาเองตอนนี้ก็ถูกพาตัวมายังสถานที่ที่ไม่รู้ว่าอยู่ตำแหน่งใดของเมืองกรุงเช่นกัน



“ลากตัวมันลงมา” ชัยสั่งลูกสมุนอย่างว่องไว



สุดขอบของพื้นที่ร้างท้ายซอยแห่งนี้ คือโรงเก็บเศษเหล็กที่ปล่อยร้างมาเนิ่นนาน โกดังสังกะสีขนาดใหญ่คล้ายเพิงหมาแหงน คือสถานที่เชือดสำหรับนายเกริกในคืนนี้



“โอ้ย !” อาการเจ็บปวดของนายเกริก ถ่ายทอดออกมาเป็นเสียงร้องอย่างชัดเจน



ไอ้วุฒิจิกกหัวนายเกริกที่กำลังโดนมัดเหมือผักเหมือนปลาดิ้นรนอะไรไม่ได้ มันดึงเขาให้ลงจากรถมอเตอร์ไซค์ แล้วจับลากนายเกริกให้พยายามล้มลุกคลุกคลานตามแรงมือของมันที่แล้วแต่จะลากหัวนายเกริกไป



ระยะทางเพียงไม่กี่ร้อยเมตรสู่โรงเชือดเป้าหมาย เต็มไปด้วยหญ้ารกและเศษขยะเรี่ยราดตามทาง หนทางที่นายเกริกล้มลุกคลุกคลานไปนั้น ผ่านหญ้าสูงที่คอยบาดเฉือนทั้งกล้ามแขน กล้ามขา หน้าอก ไม่เว้นแต่ร่องตูดขาวๆ ของเขา



รวมทั้งเศษกระป๋อง เศษไม้ เศษซากขยะเหลือใช้ ที่เขาเดินด้วยเท้าเปล่าและต้องเหยียบย่ำมันอย่างจำทนพร้อมฝากรอยแผลไว้ตามร่องนิ้วเท่ากับเนื้อตัวแล้วแต่ว่าจะเอาส่วนไหนของร่างกายล้มลงกับพื้น



“หยุดทำไมวะ ไอ้ห่านี่” วุฒิด่าอย่างทารุณ



“อยากเด้าพื้นรึไงมึง ไอ้ร่าน” ดอนจัดการประณามหยามเหยียดนายเกริก



สภาพของเกรริกคือหมดแรงและหิวน้ำจนปากแห้งกร้าน และเดินแทบจะไม่เป็นคน จึงทรุดลงร่างนาบลงกับพื้น แม้จะพยายามลุกขึ้นมาแล้วก็ตาม แต่ก็ลุกได้ไม่ไวเท่าเสียงของวุฒิที่เร่งเร้าอย่างเอาเป็นเอาตาย



“อยากเด้า กูจัดให้ กูเอาตีนช่วยอ่ะ” ในทันทีดอนเอาตีนกระหน่ำเหยียบลงก้นเกริก พร้อมย้ำกระทืบลงอย่างเป้จังหวะหนักเบา เพื่อให้ควยของเกริกกระทบพื้นอย่างเมามัน



“โอ้ยๆๆๆ พอแล้ว พอแล้ว กูขอล่ะ กูเจ็บ โอย ทรมาน ซี้ดด” เกริกลั่นปากขอร้องเสียงแผ่วๆ ออกมาก



“ขอร้องไป ก็ไม่ช่วยหรอก ไอ้ควาย หยิ่งยะโสนักก็อย่าอยู่แบบคนเลยมึงน่ะ” ชัย นายใหญ่จัดให้



“ลากมันไปต่อไอ้วุฒิ เร็วๆ”



“อื้อๆๆๆ”



“ซวบๆๆ”



เสียงร่างเกริกพยุงตัวไปตามแนวหญ้าและทางเดิน ค่อยๆ ดังไปเรื่อยๆ จนร่างของเขาถูกนำพาไปจนถึงโกดังที่ว่าได้จนท้ายที่สุด



เขาถูกแก้มัดออกจนหมดจด ทั้งตัวเปลื่อยเปล่า พร้อมรอยแลที่เป็นเหมือนตราบาปของประสบการณ์เยี่ยงทาสในครั้งนี้



“เอามันไปขึง บนนั้น” ชัยสั่ง



“แล้วเอาผ้าปิดปากมันไว้ก่อน อย่าให้มันพูดมาก กูรำคาญ”



โครงไม้รูปกากบาทที่ตั้งอยู่คือแกนหลักที่ใช้ตรึงร่างนายเกริกเข้าไป ด้วยเชือกอย่างหนาและโซ่เส้นขนาดใหญ่ เขาถูกจัดในท่ากางแขนกางเขา ขึงพืดกับโครงไม้ และถูกปิดปากไว้แต่ไม่ปิดตา



นั่นยิ่งทำให้เขาเห็นทุกกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นับเขาอย่างที่ทำอะไรไม่ได้ อดสูกับสภาพตัวเอง และแบอย่างจะหลับตาแล้วกลั้นหายใจให้ตายไปเลยนะตอนนี้



“เอาให้แน่นและตึงๆ นะโว้ยพวกมึง” ชัยกำชับไว้



“ตรงควยมัน เอาเชือกรัดด้วย พันแม่งแยกไข่ออกมา กูอยากให้ไข่แม่งปลิ้นๆ เหมือนลูกบอลเป่งๆ ว่ะ”



ไอ้เฮียนและไอ้ควนรับหน้าที่จัดท่าเหล่านี้ให้ตรงตามสเปคที่ชัยต้องการ



ทันทีที่เสร็จการพันธนาการทั้งร่าง ปาก และควยไข่ ไอ้ชัยก็ไม่ยั้งกับการคว้าเส้นเชือกกึ่งแส้ ฟาดลงไปที่หน้าอกทาสเกริกอย่างเต็มเหนี่ยว



“ฟัด !”



เสียงแรกกวาดลงไปในแนวเฉียงพาดหน้าอกของเกริก เกิดเป็นรอยแดงพาดเป็นทาง เห็นได้อย่างชัดเจน



“เฮือก!” ทาสเกริกร้องเต็มที่แต่ถูกสกัดกั้นด้วยเทปกาวที่ติดแน่นรอบปาก



“เอาไอ้นั่นมาดิ้ เอามาให้มันดมหน่อย ท่าทางแม่งจะเหนื่อย ฮ่าๆๆๆ” ชัยเรียกให้ไอ้วุฒิไปเอาของสิ่งหนึ่งมา



วุฒิหยิบขวดเล็กๆ ออกมาจากกระเป๋ากางเกง มันคือขวดป๊อปเปอร์ขนาดเล็กที่ดมเมื่อไหร่จะเกิดอาการวิงเวียน เสียวรูตูดและเงี่ยนแบบฉับพลันขึ้นมาทันที



เขาเปิดขวดแล้วกดจมูกของเกริกลงดมซดควันระเหยของป๊อปเปอร์ไปอย่างจัง เต็มรูจมูก ข้างละสองสามทีติดกันไม่หยุดพัก



“ซื้ดดดดดดด” เกริกเริ่มมีอาการเงี่ยนขึ้นมาอยากบอกไม่ถูกทันทีที่ได้ดมไอระเยของป๊อปเปอร์เข้าไป



“เฮ้ย เหี้ยไรวะ ทำดมแล้วมันเสียวกระสันไปหมดแบบนี้ รูตูดกูก็เกร็งไปหมด ควยที่เหมือนจะเหี่ยวมันก็เสียวๆ บอกไม่ถูก ไอ้ห่าเอ้ย เป็นสัดไรวะกู” เกริกฉงนพร้อมกับเงี่ยนไปพร้อมๆ กันในตอนนี้



“เฮ้ยๆๆ เอาเว้ย แม่งเสียวเว้ย ชอบดิไอ้ห่าเอ้ย สาดดดด” ดอนว่า



“เอาเทปออก แล้วเอาไวอะหร้ายากเงี่ยนบีบเข้าปากมันสองเม็ด เร็ว” ชัยดำเนินการตามคามคิดที่วางไว้ เขาจะให้ทาสเกริกกินยาเงี่ยน ปั่นมันให้เงี่ยนแล้วทรมานมันให้เงี่ยนค้างคาอย่างทรมาน



“อ้าาาาาา” เกริกถูกบีบปาก



“อุ้บ” ต่อมาก็ถูกชกที่ท้องซิกแพคเข้าเต็มๆ โดยไอ้วุฒิ



“แดกเข้าไปมึง” เสียงดอนขู่ พร้อมเอาน้ำเทลงปากเกริกแล้วเอายาเงี่ยนยัดลงปากเกริกเข้าไป



“กลืน!” ดอนสั่งเสียงดัง ให้เขากลืนยา



พูดยังไม่ทันจบ ไอ้วุฒิผลักไอ้ควน เด็กพม่าเข้ามาที่ปากทาสเกริก ประกบปากเหมือนผู้ชายจูบกัน แล้วให้ไอ้ควนเป่าลมดันยาเงี่ยนทั้งเม็ดเข้าคอนายเกริกลงไป



เขารับยากระตุ้นความเงี่ยนลงไป แม้มันจะไม่รู้สึกเงี่ยนในทัน แต่เขาก็ยังมึนและเบลอกับไอควันของป๊อปเปอร์อยู่



“สาดลงไป”



เขารู้สึกเหมือนมีอะไรเย็นๆ แสบถาโถมสาดเข้ามาตามตัว และตามมาด้วยกลิ่นระเหย เหมือนป๊อปเปอร์ที่เขาดมเข้าไปก่อนหน้า



เด็กพวกนี้ รุมเปิดขวดป๊อปเปอร์เหลือใช้อีกหลายขวด แล้วสาดสารกัดกร่อนพวกนี้ไปที่หน้าออก หน้าท้อง และลำตัวของเกริก พร้อมให้มันระเหยคละคลุก กล่อมต่อมเงี่ยนของทาสเกริกอย่างต่อเนื่อง



“ซี้ด เงี่ยน โอ้ย เสียวแปลกๆ” เกริกคิด



“เอาไอ้เฮียน จัดการ เอาปากมึงดูดควยทาสเหี้ยนี่ ทำให้มันเงี่ยน” ชัยสั่ง



ไอ้เฮียนจัดการ เอาปากครอบตหนังหุ้มควยเกริก แล้วเม้มปาก ปลิ้นปลายหนังควยให้เห็นหัวภายในแล้วดันปากเข้าไปขนสุดปลายลำ



จากนั้น ก็ผงกหัว ขึ้นลงขึ้นลง ถี่ห่างตามจังหวะ และเน้นดูดท่อควยตรงรูเยี่ยวอย่างย้ำๆ เพื่อกระตุ้นให้แท่งดุ้นของทาวเกริกตอบสนอง



และมันก็ผงาดสู้ปากจริงๆ



“อู้ว สัด ทำไมมันเสียวเหี้ยขนาดนี้ ”



เกริกคิดแลพกระเด้าลำไม่เป็นจังหวะพร้อมเนิามใขเจ้นแรงเพราะยาเงี่ยนและกลิ่นป๊อปเปอร์รอบตัว



อาการคันและแสบร้อนจากน้ำป๊อปเปอร์ที่โดนตรงแผลหญ้าบาดและรายล้มลุกคลุกคลานยิ่งทำให้เขารู้สึกอยากจะระบายน้ำกามออกมาเข้าไปใหญ่


เหมือนมันทรมาน แต่ก็มีความรู้สึกสะใจอยู่ลึกๆ และยิ่งควยห้อยตอนนี้โดนมัดตึง แยกไข่เป่งๆ แต่กลับหมดหนทางาู้อยู่ในปากพม่าที่ดูดเอา ดูดเอาด่วยแล้ว เขายิ่งเงี่ยนกว่าที่ยืนชักว่าวเมื่อสองชั่วโมงก่อนเสียอีก

ทาสทรามสังเวยดิบ ตอนที่ 5

ณะนี้ถูกปิดตา มัดมือไพล่หลัง ร่างกายล่อนจ้อน สภาพผมโดนตัดกล้อนแหว่งเว้ารุ่ยร่ายไม่เป็นทรง เนื้อตัวแม้ไม่มีรายแผล แต่ก็ปาดเปื้อนไปด้วยรอนฟกช้ำกับเศษฝุ่นเศษดินจากการล้มลุกคลุกคลาน และรอยเตะรอยชกของเด็กหนุ่มแว็นห้าคน

สองข้าง เกริกโดนอุ้มปีกพยุงให้คอยเดินไป ซ้ายคือไอ้วุฒิ ขวาคือไอ้ดอน ทั้งสองล็อกตัวเกริกโดยการคล้องมือพาพยุงเดินให้ออกมานอกพื้นที่รกร้างแห่งนั้น

“พวกกูจะพามึงออกไปเจอโลกภายนอก ดูซิ จะสะใจมึงอย่างที่มึงรำพึงรำพันตอนชักว่าวเมื่อกี้มั้ย” ชัยจิกหัวกระซิบใส่รูหูนายเกริก

“บรึ้นๆๆ”

เสียงสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์กระแทกเข้าหูนายเกริกเป็นลำดับต่อมา ทำให้จินตนาการหลังผ้าปิดตาของของในตอนนี้พอเข้าใจได้ว่า อีกสามคนที่เหลือคงกำลังเตรียมจะทำอะไรกับเขาอยู่

“ไอ้ดอน เอ็งไปกับไอ้ควน เอากุญแจรถไอ้หน้าจืดนี่ไปด้วย”

“มันจะทำอะไรกัลรถกู” เกริกหวั่นในใจ

“ไอ้เฮียน มึงมาช่วยไอ้ชัยพยุงไอ้พี่ล่ำนี่ต่อ พามันไปขึ้นมอไซค์ เดี๋ยวกูขับ ปล้วจับมันซ้อนท้าย ส่วนไอ้ชัยค่อยนั่งซ้อนประกอบ ระวังอย่าให้เชือกมันมือมันหลุด”

“ไอเหี้ยเอ้ย จับกูแก้ผ้าไม่พอ มึงยังจะเอากูไปประจานที่ไหนอีก แล้วใครจะเห็นกูซ้อนมอไซค์เปลื่อยมั้ย” เกริกกระเจิงไปกับความคิดล่วงหน้าของเขา

“มันปากมันด้วย อย่าให้มันร้อง” ชัยกำชับวุฒิ

“ขึ้นไป ไอ้หน้าใสหุ่นล่ำ ซ้อนขึ้นไป” วุฒิจัดแจงตั้งท่าให้เกริกคร่อมมอเตอร์ไซค์

“ไอ้เฮียน ไปขึ้นรถกับไอ้สองคนนั้น บอกพวกมัน คอยฟังสัญญานคำสั่งจากกู” ชัยว่า

เด็กพวกนี้รู้จักทุกซอกทุกมุมของซอยนี้เป็นอย่างดี การเอานายเกริกขึ้นมอเตอร์ไซค์ซ้อนท้ายอยู่กลาง แล้วพาขับแห่ลึกเข้าไปในซอยท่ามกลางคืนเดือนมืดจึงหลบหลีสายตามผู้คนในซอยเปลี่ยวแห่งนี้ได้ดี

แต่เกริก ไม่รู้ถึงเรื่องนี้ ได้ยินแต่เสียงคำขู่จากไอ้ชัย และความกลัวที่เกิดจากจินตนาการของเขาต่างๆ นานา

“กูจะพาหุ่นล่ำๆ ของมึงแห่รอบซอยกู จะได้รับลมเย็นๆ แล้วโชคดีจะได้มีคนมาเห็นสภาพอุบาทว์ของมึงตอนนี้ไง”

“ส่วนรถมึงอ่ะ ไม่หายหรอก เด็กกูขับตามไปให้ เผื่อมึงจะกลัว ฮ่าๆ”

รถหายไม่ใช่เรื่องกังวลในตอนนี้ เท่ากับการโดนเอาร่างเปลื่อยไปประจานทั่วซอย

“หมดอนาคตวันนี้หรือกู” เกริกคิดพร้อมกลัวจนไข่หดลู่ยนลงไปจนไม่ติดพนักเบาะรองนั่งของมอเตอร์ไซค์เลยทีเดียว

เมื่อสัญญาณพร้อม มอเตอร์ไซค์ก็ออกตัวกระชากแรงสุดขีดตามแนวเด็กแว็น แถมพุ่งไปอย่างเร็ว จนดูหวาดเสียว

เกริกยิ่งกลัวมากกว่าเดิมกับความผาดโผนของจริงนอกกรอบจินตนาการแบบนี้ ทำให้ไข่หดมากขึ้นขณะที่รถวิ่ฃฝ่าลมตีไข่อย่างต่อเนื่องเป็นกระแสอันหนักหน่วง

ความรู้สึกเฉียดตายแบบนี้ทำให้สติของเกริกหลุดกระเจิงไม่สมประดี ทั้งไข่หด ขนลุก เหงื่อไหล น้ำลายย้อยเพราะโดนมัดปาก กลืนน้ำลายไม่ได้

“พี่ๆ ไอ้นี่แม่งขนลุกว่ะ” วุฒิบอกลูกพี่คนขับ

“สงสัยมันป้อด ไม่เคยดิ้ปว่ะ”

“ฮ่าๆๆๆ” วุฒิขำกับมุขของไอ้ชัย

“ลึกพอยังเนี่ยพี่” วุฒิถามต่อ

“อีกนิดโว้ย กูยังไม่มันเลย”

ว่าเสร็จ ชัยก็เร่งเครื่องโชว์ลีลายกล้อ หมุนตัว สวิงสุดขีด ยิ่งทำให้เกริกกลัวสุดขีดเช่นกัน ร้องออกมาไม่เป็นศัพท์ เกมือนจะตายให้ได้

“ร้องไรวะอู้ๆ อี้ๆ ไอ้ห่า” ชัยถากถางเสียงที่เกริกพยายามร้องผ่านผ้าปิดปาก

“พี่ เฮ้ยพี่ แม่งเยี่ยวแตกเลยอ่ะ ดูดิ โห สงสัยไอ้นี่แม่งลูกแหง่ ฮ่าๆ”

ชัยได้ยิยดังนั้นจึงเบรครถทันควัน พร้อมลงมาดู

“อ้าวเฮ้ย ไงวะ แค่นี้เยี่ยวแตก แดกเยี่ยวไอ้ควนเข้าไปเยอะรึไงวะมึงเมื่อกี้อ่ะ ฮ่าๆ”

ชัยพาทุกคนมาถึงที่จุดหมายพอดี พร้อมๆ กับอาการฉี่แตกของเกริกเพราะความกลัว

“ไอ้วุฒิ มึงเช็ตเยี่ยวไอ้สัดนี่บนเบอะดิ้ สกปรกชิบหาย หล่อแล้วหน้าไม่อายห่าเอ้ย”

ด้วยความแค้นที่ต้องโดนสั่งให้เช็ดเยี่ยวเกริก ไอ้วุฒิจึงจัดการกดหน้าเกริกลงถูกับเบาะ ถูกดถูกดอย่างกับหน้าของเกริกไม่ต่างจากผ้าขี้ริ้ว

“จัดการน้ำเยี่ยวของมึงซะไอ้สัด ทำเองจัดการเช็ดเองซะ เลียกลืนเข้าไปด้วย เอาให้สะอาดเอ้า เลียๆ”

“ถ้ามึงไม่ทำ กูจะบีบไข่มึงให้แตกเดี๋ยวนี้ล่ะ” วุฒิว่าต่อพร้อมเตรียมเอามือเอื้อมไปกุมไข่เกริกไว้

“โอ้ยอะไรวั ทำไมให้กูกินเยี่ยวคนอื่น แล้วต้องมาเลียเยี่ยวตัวเองอีก กูอยากพ้นสภาพนี้เร็วๆ ใครก็ได้ช่วยกูที!”

ทาสทรามสังเวยดิบ ตอนที่ 4

“เอาความสะใจของพวกกูไง” ไอ้ชัยย้ำ



“คิดว่ากูไม่รู้เหรอ เห็นสายตามึงเวลามองมาที่พวกกู เหยียดหยามเหมือนพวกกูเป็นทาสมึงมาแต่ชาติไหน”



“สายตามึงมันหยามศักดิ์ศรีพวกกูโว้ย”



ไอ้ชัยชัดเจนถึงจุดต้นตอแห่งโศกนาฏกรรมของหนุ่มไฮโซครั้งนี้



“แล้วอย่าหวังจะเอาเรื่องพวกกูได้ คลิปมึงตั้งแต่ต้นจนจบ อยู่กับพวกกู” ไอ้วุฒินั่นเองที่เป็นตากล้องในครั้งนี้



“แหกตาดูนี่ดิ ลีลามึงเอง แจ่มว่ะ” มันเปิดคลิปไนท์ชอตของไอ้เกริกให้ทุกคนดูอย่างเมามัน



เกริกถุยถุงเท้าที่ยัดปากออก



“เฮ้ย เรื่องถึงตำรวจแน่ ไอ้สัด” เกริกเดือดดาลทันทีเมื่อได้เห็นภาพตัวเองกำลังทำกิจกรรมเยี่ยงทาสที่ผิดมาตรฐานของสังคม



“ถุย ไอ้เหี้ย คิดว่าเรื่องนี้กูไม่มีใครหนุนกูอยู่ข้างหลังรึไงวะ ศัตรูมึงมีใครบ้าง จำได้บ้างมั้ย”



“ใครจ้างมึงมา” เกริกเริ่มคำถาม



“หน้าที่มึงไม่ใช่ต้องรู้ ตอนนี้มึงต้องเป็นทาสสังเวยพวกกูเท่านั้น” ชัยว่าพร้อมพยักหน้าสั่งเด็กๆ



เสียงที่ตามมา เต็มไปด้วยเสียงตีนเสียงเตะที่พุ่งเป้าไปทั่วตัวของนายเกริกที่คุกเข่าอย่างจนมุม จนสุดท้าย เขาคลุกตัวกองอยู่กับพื้น



“ไอ้ลูกหมา” ดอนด่าไปเตะไป



“ลากมันไปที่รถมัน หาผ้าปิดตามันด้วย ไอ้ควน” ไอ้ชัยสั่ง



“เคคับ” ไอ้ควนรับ



ควนควานหาสักพักแต่ไม่มีผ้า ไอ้ชัยก็ยิ่งรำคาญเพราะสั่งไปไม่ได้ดั่งใจ



“ไอ้ควายเอ้ย เอากางเกงในมึงดิ ถอดออกมาปิดตามัน”



“เดี๋ยว” ไอ้วุฒิทัก



“ไอ้ควน มึงถอดหมดเหลือแต่กางเกงในดิ”



ควนเชื่อฟังและทำตาม



“เออนั่นล่ะ เดินมานี่ เดินมา แล้วเอาเป้ามึงหมกหน้าไอ้เหี้ยนี่”



ควนงงๆ แต่ก็เดินไปที่หน้าไอ้เกริก



“เยี่ยว!”



เกริกตกใจเมื่อได้ยินคำสั่งนั่น



“ไอ้ชาติชั่ว ทำห่าไร” เกริกตกใจ



ไม่ทันขาดคำ เป้าพม่าของไอ้ควนก็ยัดเข้าปากเกริกอย่างจัง



สักพักน้ำเยี่ยวเริ่มหลั่งออกมาผ่านเนื้อผ้ากางเกงในราคาถูกของไอ้ควน พร้อมกับเสียงครางของมัน



“โอ้วววววววว ซีด”



“อื้บ อื้ยยยยย อื้มมมม” นายเกริกพยายามกลั้นปากไว้ไม่ให้กลืนน้ำเยี่ยวลงไป



แต่น้ำไหลจากปลายท่อของไอ้เด็กพม่ามันทะลักหลั่งมากกว่าจะทัดทานได้



ตอนนี้กระแสน้ำเยี่ยวอุ่นๆ กระฉอกออกจนล้นปาก เลอะหน้า ไหลอาบท่วมทั้งหัวและหน้าของเกริก



ความรู้เป็นคนแทบหมดไป สติสัมปชัญญะหมดสิ้น ไม่รู้ว่าเกริกในตอนนี้จะกลับกลายมาเป็นหนุ่มใหญ่ไฮโซบนปกหนังสือได้อย่างไร



“อ่อนว่ะไอ้เหี้ยนี่”



“ทหารเค้าก็แดกกัน น้ำเยี่ยวอ่ะ มึงแดกแค่นี้ทำเป็นสำออย”



ความรู้สึกของเกริกในตอนนี้ ช่างไร้ค่า หาความเป็นคนไม่ได้แล้ว ไม่เคยนึกมาก่อนว่าเขาต้องมาโดนคนชั้นต่ำพวกนี้บังคับให้ดื่มกินของสกปรก เช่นเยี่ยวที่ไหลย้อยไปทั่วหน้าจนมีบางส่วนเล็ดลอดเข้าปากไปได้ด้วย



“มึงเงยหน้ามองพวกกูดิ!” ชัยสั่งพร้อมจิกกระชากผมของนายเกริกให้เงยหน้าขึ้น



“โอ้ย”



แรงกระชากกระตุ้นให้เกริกต้องร้องออกมาเพราะความเจ็บปวด แม้มันจะไม่รุนแรงก็ตาม



“มึงมันดูดีไปซะหมดเลยวะ ไอ้ห่า กูจะต้องจัดให้มึงหมดค่าราคาความเป็นคนตามใบสั่งที่กูได้มาสักหน่อยแล้วว่ะ” ชัยเกริ่นนำ



“ไอ้วุฒิ จัดการ” เข้าเร่งกระบวนการต่อโดยพูดพร้อมยื่นกรรไกรให้ไอ้วุฒิ

“ได้พี่ มามึงไอ้หน้าตี๋ หันหัวมา ขอกูกล้อนผมมึงหน่อย จะแต่งให้อย่างงามเลยมึง ฮ่าๆๆ”



“แกรบๆๆ แกรบๆ” เสียงกรรไกรของไ้อ้วุฒิดังเป็นจังหวะ พร้อมความรู้สึกของเส้นผลที่ร่วงหล่นลงบนไหล่และอกของนายเกริกเป็นเส้นๆ



“ฮือๆๆๆ” เสียงครองของนายเกริกพร้อมเล็ดออกมากับน้ำตาเป็นหยดๆ ที่หลั่งออกมาเพราะความอดสูไร้ทางสู้ของตัวเอง



“ทำไมกูต้องมาโดนอะไรแบบนี้วะ แล้วผมกู มันก็ไม่เว้น แล้วกูจะเดินถนน เจอผู้คนยังไง” เขาคิดแบบหมดหดทางสู้ พร้อมความรู้สึกที่ไร้ค่ายิ่งขึ้น



“ฮ่าๆๆๆ ผมรุ่งริ่งเหมือนตัดขนหมาเลยว่ะ” ดอนช่างเปรียบเปรยให้ทุกคนมองตามว่าตอนนี้นายเกริกเหมือนกับหมาขี้เรื้นขนร่วงเป็นหย่อมๆ



“เอ้า จับมันลุกขึ้นยืนดิ” ชัยสั่งการต่อ


เกริกกำลังค่อยๆ ลุกขึ้นยืน กางขา และเอามือไขว้หลัง พร้อมรอเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นกับเขาต่อไป

ทาสทรามสังเวยดิบ ตอนที่ 3

“ไง ไอ้หน้าเงี่ยน”

หัวใจเขาวูบไปเหมือนโลกแห่งความจริงกระชากเขาให้หลุดจากความสุขล้นเมื่อสักครู่

กลุ่มเด็กพวกนั้นมันแอบดูเขาตลอดเวลา แถมยังกุมกางเกงพร้อมกางเกงในเขาไว้ด้วย ไอ้หัวโจกผอมเกร็งคือคนนำทีมที่แสดงสีหน้าและน้ำเสียงเหมือนกำลังจะมีชัยเหนือกว่าสองมือและหนึ่งควยของนายเกริก

“พวกมึงแอบดูกูเมื่อกี้เหรอ?” เกริกถามนำไปเพราะอยากรู้ให้มันชัดเจนไป

“เออซิวะ”

“แหม ลีลามึงนี่ เด็ดกว่าอีกะหรี่ที่ห้องกูอีก สร้างสรรค์นะมึงน่ะ แต่ละท่า ฮ่าๆๆ” ไอ้เด็กแว้นคนโจกชื่อไอ้ชัยจัดคำพูดชมเชยนายเกริกไปหนึ่งดอก

“รุนแรงดีว่ะ ดูเสื้อแม่งดี ขาดรุ่ยเลยเวยเฮ้ย” ไอ้วุฒิหัวโจกตัวรองเสริมเข้าให้

“ดูนี่ดิ ซากกางเกงกับกางเกงในใครวะ ฮ่าๆๆ อย่างมึงคงไม่ต้องใส่แล้วก็ได้มั้งของพรรค์นี้อ่ะ เห็นมึงร่านเอาๆ เสื้อผ้าไม่ต้อง มีแต่ควยกับควย” ไอ้ชัยย้ำหนักแน่นใส่หน้านายเกริก

“ไง ไอ้หื่น หุ่นมึงนี่พอเปลือยแล้วเกินคาดจริงๆ ว่ะ แต่ไอ้ควยเหี่ยวๆ ดำๆ นั่น แม่งโคตรไม่เข้ากับสารรูปมึงตอนนี้เลยว่ะ ยืนเกร็งขาแถมมีควยเหี่ยวๆ แกว่งไปมาเนี่ย ฮ่าๆๆ” ไอ้ดอนหัวโจกรองอันดับสองของกลุ่มขอแทรกบทด้วย

แก็งนี้มีทั้งหมด ห้าคน มีไอ้ชัยเป็นตัวนำ ส่วนไอ้วุฒิกับไอ้ดอนเปรียบเหมือนสมุนมือซ้ายมือขวา ส่วนอีกสองคนที่เหลือชื่อไอ้เฮียนกับไอ้ควน เป็นลูกเด็กพม่าแถวๆ ใกล้ๆ บ้านของไอ้สามตัวแรก อายุไล่เลี่ยกันประมาณ สิบเจ็ดกว่าไปจนถึงยี่สิบเอ็ด หัวโจกสามคนออกเป็นแนวเด็กมั่วยาผอมเกร็งแต่มีออกนูนๆ พอให้เห็นเป็นโครงล่ำๆ แต่ไอ้เฮียนกับไอ้ควนเป็นลูกจ้างพม่าวันรับจ้างเข็นผัก ขนของ ตกปลา ใช้แรงทุกวันร่างกายกำยำล่ำสันแถมพูดไทยไม่ค่อยรู้เรื่อง วันๆ เอาแต่เงี่ยนชักว่าวให้หายคันไปตามประสาเด็กวันรุ่น

เกริกประเมินดูลางๆ เพ่งตาฝ่าความมืดสลัวๆ ในยามนั้น ไล่ดูรูปร่างของเจ้าเด็กแว็นแต่ละคน พร้อมเตรียมจะบุกจู่โจมและวางแผนว่าจะชกหน้าเจ้าคนไหนก่อนดี

อย่าลืมด้วยว่าตอนนี้ ทั้งเนื้อทั้งตัวเขามีแต่เสื้อไร้กระดุมที่ห่มคลุมกล้ามกำยำล่ำสันของเขาอยู่กับถุงเท้าสองข้างที่ห่อมหุ้มปลายเท้า กับเจี๊ยวเหี่ยวย่นที่หมดสภาพหลังจากโดนการทรมานโดยมือของเขาอย่างหนักหน่วงจนฟื้นตัวไม่ขึ้น

แต่เหมือนหมาจนตรอก ยังไงเขาก็ต้องสู้

“ไง่ลูกเพ่ ไอ้หน้าใส ไอ้กล้ามโต นี่กางเกงกะเตี่ยวห่อไข่ของมึงรึป่าววะ?” ไอ้ชัยท้าทาย

“คลานมาเอาไปดิ้ คลานแบบที่มึงตะโกนตอนเงี่ยนเมื่อกี้อ่ะ” ไอ้วุฒิสั่งแกมหยอกเบาๆ

“พวกเวรนี่ มึง! เจอหมัดกูหน่อยเป็นไง” เกริกพูดพร้อมรุกทันทีที่ไอ้ชัยที่กำลังไกวกางเกงในกับกางเกงของเกริกอย่างเพลิดเพลิน

“พลั่ก”

เสียงรองเท้าบูทยางแบบที่เด็กเข็นผักใส่กัน พุ่งทะยานสู่หว่างขากลางไข่ยานๆ สองใบของนายเกริกอยากไม่หนักไม่เบา แต่ก็ทำเอาจุดกระสันหมดความพยายามจะสู้เฮือกสุดท้ายได้

จากมุมมข้างๆ เกริก ไอ้เฮียนที่กำลังสวมรองเท้าบูทยางนั่นเองที่อาศัยความไวของเด็กเข็นผัก ขัดทัพหมดของนายเกริกโดยการวาดวงสวิงรองเท้าบูทเข้าอย่างจัง

“อุ๊บ … อู้ย … โอ้ย” เกริกครางโอดโอยพร้อมกดตัวลงงอหงิกโดยหมัดที่ปลอดไปยังไม่ทันจะถึงหน้าไอ้ชัยเลยแม้สักคืบเดียว

ทรุด

นายเกริกลดตัวฮวบลงไปนั่งในท่าคุกเข่าแต่กางขาออก เอามือกุมอยู่กลางเป้าเคล้าคลึงเพราะความจุกในไข่ดันที่โดนอัดเข้าตรงๆ และเต็มๆ

“ไอ้เหี้ยตัวไหนเล่นสกปรกลับหลังกูแบบนี้วะ”

“ฮ่าๆๆ”

“ฮ่าๆ”

“ฮ่าๆๆๆๆ”



เสียงหัวเราะร่วนของเด็กหนุ่มทั้งไทยและพม่าสลับสับกันเหมือนฉลองงานรื่นเริง

“ทำไมนั่งท่านั่นวะลูกพี่หน้าใส เหมือนเมียกูตอนปวดท้องเมนส์เลยว่ะ”

“ไอ้หน้าตัวเมีย!” ไอ้ดอนถากถางไอ้เกริกอย่างไม่สนศักดิ์ศรีความเป็นคน

“ถุย”

ไอ้วุฒิถมน้ำลายลงพื้นใกล้ๆ จุกที่เกริกคุกเข่าอยู่ แต่ยังไม่ถึงกับรดลงหน้าหรือหัวนายเกริก

“ไอ้เฮียนไอ้ควน” ชัยออกคำสั่ง น้ำเสียงแข็งกร้าว

“พวกเอ็ง สงเคราะห์ไอ้เหี้ยนี่หน่อยดิ”

“เคๆๆ” สองพม่าตอบรับแบบพยักเพยิด

ไอ้สงเคราะห์ที่ว่านี่ คือสงเคราะห์นายเกริกให้สาสมเหมาะกับสถานะ ณ ตอนนี้ ไอ้ควนกระชากเสื้อรุ่ยๆ ที่เหลืออยู่ของเกริกให้หลุดลอยกระเด็นจนสภาพไม่เหมือนจะเป็นเสื้อผ้าที่ใช้สวมใส่ได้อีกแล้ว ส่วนไอ้เฮียนจับเกริดลอกถุงเท้าออกสองข้าง พร้อมวานให้ไอ้ควนจิกหัวเกริกแล้วบีบปากให้อ้าค้าง เพื่อให้ไอ้เฮียนยัดถุงเท้าม้วนแน่นๆ สองข้างนั้นเป็นก้อนกลมยัดเข้าปากเกริกจนลึกถึงคอหอย

“ปิดปากมัน เอาลึกๆ” ชัยสั่ง

“อึบ อุ้บ อุ้บๆ โอบบบบ” เกริกดิ้นรน พยายามพูด แต่ก็ไม่ศัพท์

“ไอ้เฮียด เอาเข็มขัดนี่ของมันไป มันแขนมันไขว้หลังแล้วเอาผูกติดกับขา ให้มันอยู่ท่าคุกเข่าแหงนหน้า เร็ว”

เสร็จศัพท์ทั้งสองหนุ่มพม่าจัดการนายเกริกให้อยู่ในท่าที่ชัยสั่งอย่างเรียบร้อย โดยที่เกริกพยายามขัดขืนบ้าง แต่รองเท้าบูทของไอ้เฮียนดันกดลงไปทาบทั้งท่อนควยและลูกไข่ของไอ้เกริกเพื่อหยุดการขัดขืนของเกริกไว้

“ถุย”

คราวนี้ไอ้วุฒิ ถุยน้ำลายลงหน้าเกริกอย่างเต็มรัก ตรงกลางหน้าผากหว่างคิ้วพอดี ไหลย้อยเป็นทางจนเกริกรู้สึกได้ว่ากลิ่นน้ำลายกำลังไหลย้อยลงอาบแก้มเขา

“โถ่ เห็นฟิตทุกวัน นึกว่ามึงจะแน่” ไอ้ดอนสมน้ำหน้า

เกริกในท่าทางหงายหน้า คุกเข่า ทำอะไรไม่ได้ในตอนนี้ เปลือยเปล่าไร้ทางสู้ และถูกห้อมล้อมด้วยคนที่จัดว่าชั้นต่ำกว่าเขามากจำนวนห้าคน เขาเองคิดอะไรไม่ออก เพราะยังจุกไม่หาจากการถูกทำร้ายควยและไข่ ทั้งโดยมือของเขาเองและน้ำมือของเด็กเวรเหล่านี้

“โอ้ยยยยยย อะไรของพวกมันวะ จะเอาอะไรจากกู” นายเกริกคิดในใจ

ทาสทรามสังเวยดิบ ตอนที่ 2

ขณะขับรถออกจากซอย เขายังหยุดคิดต่อไม่ได้ถึงคำพูดของเด็กแว็นส์พวกนั้น

“แม่งไอ้เด็กเวรพวกนี้ ถ้าได้เจอตัวๆ กุไม่ปล่อยมันแน่ จับเย็ดตูดฉีกเรีงตัวให้มันควยเลย”

ยิ่งเขาเองยังไม่ได้ชักว่าวมาเลยทั้งสัปดาห์ความคิดแอบเงี่ยนนี้จึงคาอยู่ในหัวตลอดเวลา บวกกับการใช้แรงกับยิมอย่างเต็มที่ ทำให้ฮอร์โมนเพศชายแล่นพล่านไปทุกทั่วรูขุมขนจรดปลายหัวควยของเขา

“เชี้ยะ เงี่ยน!”

ยิ่งเขาสบถใส่ตัวเองยิ่งทำให้เขารู้สึกกลัดมันยิ่งขึ้น

สิ้นเสียงสบถได้ไม่นานเขา ก็พลันกระแทกเบรครถ หยุดที่ริมถนนกลางซอย ท่ามกลางทางหญ้ารกชัฏที่เปลี่ยวร้าง

“เฮ้ย เงียบดีว่ะ ไม่มีคนด้วย แก้ผ้าชักว่าวมันซะตรงนี้เลยท่าจะดี ไม่มีใครเห็นหรอก”

ความคิดแทบจะตามพฤติกรรมความเงี่ยนของควยไม่ทัน ยังไม่ทันคิดกับในหัวตนเองจนจบ ควยเขาก็ตอบสนองด้วยการแข็งโด่พร้อมพ่นน้ำปริ่มๆ ให้รู้สึกถึงกางเกงในที่เปียกชุ่มขึ้นมาทันที

รู้ตัวอีกที นายเกริกเดินดุ่มๆ ออกจากรถพุ่งตัวแทรกพงหญ้าเข้าไปอยู่ท่ามกลางทุ่งกว้าง และยินถ่างขาอยู่ตรงบริเวณซากปูนที่เคยเป็นตึกร้างมาก่อน รอบข้างโอบล้อมไปด้วยความมืด เสียงเงียบ และลมหวิวๆ พอให้ลุ้นว่าจะมีใครหรืออะไรมาแอบดูเขาเปลือยกายล่อนจ้อน ควยแข็งโด่พร้อมละเลงอารมณ์กามที่กระเจิดกระเจิงในตอนนี้หรือไม่

“บรรยากาศแม่งน่าจัดจริงๆ ว่ะ”

เสื้อเชิร์ตสีขาวที่ปลดกระดุมออก ถูกมือของเขากระชากออกอย่างไม่สนว่าสภาพสุดท้ายของมันจะเป็นอย่างไร เสียงกระดุมที่เด้งออกทีละเม็ดไล่กันไปอย่างกับเสียงกระสุนกำหนัดวิ่งพุ่งออกจากรูปลายลำควย เขาไม่สนแล้วตอนนี้ว่าเสื้อจะต้องเย็นกระดุมใหม่หรือไม่ แค่ขอให้ได้ความรู้สึกถูกทึ้งถูกกระชากเหมือนจะทัดทานความเงี่ยนในกายไม่ไหวแล้วก็ไม่ปาน

เสื้อหลุดลอยเพราะโดนทิ้งไปข้างๆ ตัวเขา

สภาพเปลือยครึ่งท่อน ตามมาด้วยการเอามือซ้ายขยำลูเคล้าคลึงหน้าออกที่โดนเหยียดหยามโดยกลุ่มเด็กแว็นส์ว่าโตอวบอิ่มไม่ต่างจากอกเมียมัน ทั้งขยำขยี้ บี้ที่เม็ดหัวนมให้ทรมานเค้นความเงี่ยนให้แสดงตัวออกมาผ่านเป้ากางเกง

มืออีกข้างรุกลงไปกำขยำทั้งพวงควยให้อัดแน่น ไม่มีทางสู้ แต่ก็ไม่สามารถ เหมือนควยจะตอบรับต่อต้านแรงบีบของมืออย่างเป็นจังหวะและแรงที่สู้เต็มกำลัง

เข็มขัดหลุดรุ่ยโดยไม่รีรอแและซิบกางเกงก็รูดลงไถลรูดจนกองอยู่ที่ขา แต่นั้นก็ไม่สาแก่ใจความเถื่อนดิบของเกริดได้ เขาเอาขากวาดกองกางเกงออกแล้วเตะหน่วงมันออกไปห่างจากตัวพอให้รู้สึกว่าตอนนี้ไม่มีอะไรเลยทั้งตัวนอกจากถุงเท้าและควยท่อนโต

“อู้ยยยยยยยย เสียยยว สัด!”

บทนำแห่งการทรมานกามเริ่มต้นขึ้นด้วยการรูดให้สุดลำ พร้อมเอามือลูบปลายรูพอให้รู้ว่ามีน้ำไหลออกมาเพื่อยืนยันความเงี่ยนสัดของเขา

“อ้าาาาา ถ่างขา เงยหน้า อ้าปากเว้ย”

ท่านั้นเลยที่เขาต้องการ แสดงความเป็นตัวตนที่ไม่เคยมีใครรับรู้มาก่อน

“ฮ่าๆๆๆ กูคุกเขาชักว่าว คลุกฝ่นดินโว้ย ใครไม่เคยเห็นมาดูโว้ย ฮ่าๆๆๆ”

คำท้าทายอารมณ์ตัวเองเริ่มทวีความรุนแรงตามความถี่ของการกระชากควยของเขา

“อู้ยๆๆ กูจะคลานเป็นหมาให้พวกเมิงดู”

กลุ่มคนในจินตนาการเริ่มมีมากขึ้น ทำให้เขาคิดไปเรื่อยว่ากำลังชักว่าวท่ามกลางใครก็ได้ที่ทำให้เขารู้สึกว่าเขากำลังเล่นรักกับควยตัวเองอยู่ในโลกจินตนาการของเขา

“กูไม่อายโว้ยสัด มองเลย ไม่เคยเห็นก็มองเลย”

“กูคลานไปเด้าลมไป สะใจมึงมั้ย ฮ่าๆๆๆ”

“กูประจานตัวเอง ใช่ แต่ไม่แคร์ว่ะ กูนอนลงเลยก็ได้ คลุกฝุ่น เอาควยคลุกดิน เป็นไง พวกมึงตกใจมั้ย โอยยย เสียวๆๆๆ”

“หรือใครแอบดูกูอยู่วะ” เขาตะโกนหน่อยๆ

เสียงตะโกนทำให้เขาแอบคิดไปไกลว่าจะมีใครแอบดูเขาอยู่จริงๆ หรือไม่ หรือจะเรียกความสนใจให้คนอื่นแถวนั้น มาหาต้นเสียงก็คือเขาที่กำลังอารมณ์เตลิดอยู่หรือไม่

“ไอ้ควยเหี้ย เงี่ยนนักใช่มั้ยมึง ถ้ามึงยังกล้าทำน้ำไหลอีก กูจะบีบแรงขึ้นอีก เป็นไงไอ้สัด อ้าาาาาา”

บทสนทนาเริ่มเปลี่ยนมาเป็นการคุยกันระหว่างเขากับควยของเขาเอง

บทห่ามๆ แบบที่สังคมไม่ยอมรับไหลเวียนออกจากปากและแสดงผ่านจังหวะความถี่ของการชัดควยของเขาเรื่อยๆ และรุนแรงขึ้นตามน้ำหลั่งที่ไหลย้อยออกมาตามท่อควย พร้อมการสลับท่าชักว่าวที่เปลี่ยนไปมาไม่ต่างกับหมาที่เงี่ยนแบบสุดๆ

“เฮ้ย เอ้ย เฮ้ย เอาโว้ยๆ มึงไม่ไหวแล้วซิ ไอ้ดอแข็ง เย็ดเหี้ยยยยย อู้ยยยยย อ้าส์ ไอ้ร่านหี ไอ้ร่านตูด …… กูจะเย็ดตูดพวกมึงงงง”

คำสบถสุดท้าย กระตุ้นน้ำหลั่งให้พุ่งทะลุกำแพงอารมณ์ออกมาได้ในรูปแบบน้ำขาวขุ่น ที่พุ่งออกมาในท่าที่เข้ากำลังคลานเฉกเช่นหมา อยู่กลางพื้นปูนและพงหญ้ารกๆ พร้อมทั้งกระตุ้นให้เขายิ่งคิดถึงฉากที่เขาอยากจะเย็ดตูดพวกเด็กแวนส์เหล่านั้นขึ้นมาอย่างชัดเจน

“เสร็จแล้ววุ้ย มันดิบดีฉิบหาย”

ว่าเสร็จเขาก็ต้องเวียนว่ายหาเสื้อผ้าสัมภาระที่ถูกเขวี้ยงและเตะหน่วงไปรอบตัว

“อ่ะเสื้อ เจอแล้ว”

“เอ๋ กางเกงล่ะอยู่ไหนวะ”

ครับ กางเกงเขาหาย แว่บแรกแค่นึกว่าคงกระจายไปไกลหน่อย หรือแย่สุดคงเป็นหมาที่มาคาบไป แต่คงไม่แย่อย่างที่เขาคิด เพราะเขาก็แค่ใส่กางเกงในหรือกลับไปรถเพื่อใส่กางเกงยิมหรือกางเกงบอลแทน

แต่

นั่นมันไม่ใช่

เขายิ่งหาก็ยิ่งฉงน เดินจนทั่วมุมทุกอณูของบริเวณทุ่งกว้าง ความเงี่ยนเริ่มแทนที่ด้วยความวิตกและความกลัว คิดไปไกลว่า

“หรือมีใครเห็นกูเมื่อกี้วะ”

ก่อนความคิดจะตกผลึก เขาก็ต้องผงะเมื่อถูกทักทายด้วยเสียงที่เพิ่งจากมาเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน

ทาสทรามสังเวยดิบ ตอนที่ 1

อนที่ 1 ครับ

————————————————————————–

“ไอ้ห่า ท่ากูถ่างขายืนเยี่ยว จับควยชี้โถ ดูแล้วแม่งชวนเงี่ยนสุดๆ ว่ะ”

เสียงนึกในใจของหนุ่มเกริกวันสามสิบต้นๆ ดังขึ้นในหัวแบบที่คงไม่มีใครจะรับรู้หรือได้ยินได้

ในห้องน้ำฟิตเนสหรูระดับห้าดาวอย่างนี้ คงไม่มีใครคาดหวังว่าหนุ่มวัยก่อร่างสร้างตัวและมีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะนักการตลาดดิจิตอลและนักโฆษณาออนไลน์ชื่อดังอย่างเขาจะมีนิสัยเถื่อนดิบติดความบ้าน้ำเงี่ยนได้เช่นนี้

ใช่ครับนายเกริกเป็นเกย์ที่ชอบและหลงใหลในเพศชายด้วยกันเอง แถมเป็นประเภทที่นิยมความล่ำของกล้ามเนื้อและขนาดของดุ้นลำอันอวบอิ่มด้วย เขาจึงสมัครสมาชิกฟิตเนสหรูแห่งนี้เพราะมีบรรยากาศที่เงียบเป็นส่วนตัวและมีแต่สมาชิกที่ชอบความล่ำอย่างจริงจัง ไม่เน้นมาหาคู่หรือหากินตามห้องซาวน่าเหมือนฟิตเนสระดับทั่วไป

“กูแม่งชอบฉิบหาย ยืนเยี่ยวใกล้กระจกแล้วเห็นหุ่นตัวเองเปลือยๆ แบบนี้”

“โอ้ยแม่งดูแก้มตูดกู สัด! เป็นลูกๆ ขมิบย้ำๆ น่าจับขยี้ บี้ให้มันไปเลย”

“โอ้ยยยยยย ….”

ความคิดพุ่งพล่านผ่านกระแสน้ำปัสสาวะใสๆ ที่พุ่งผ่านลำท่อนเอ็นอวบอิ่ม ไหลทะลักในระดับรุนแรงปานน้ำพุพุ่ง ไม่ต่างจากความเถื่อนดิบที่วิ่งวนในหัวของเขา

“ฉ่าๆๆๆๆๆๆ ….”

“เฮ้อ เสร็จเสียที”

พอนายเกริกสบัดควยเสร็จ ก็ผละตัวออกมาดูตัวเองหน้ากระจก

“นี่กูโรคจิตรึป่าววะ เวลายืนเยี่ยวขอบโถ ต้องหาที่มันใกล้กระจก มองกล้ามองหุ่นตัวเอง แล้วทำไมกูต้องเงี่ยนเถื่อนดิบแบบนี้ทุกทีวะ”

ใช่ครับ คำถามเกี่ยวกับตัวเองเกี่ยวกับเรื่องรสนิยมชอบเถื่อนดิบแบบนี้ เป็นสิ่งที่เกริกรู้สึกว่าไม่ควรเปิดเผยให้ใครรู้เพราะมันช่างขัดกับรูปลักษณ์ภายนอกและสถานะทางสังคมที่เขาเป็นอยู่

“ฮัลโหลครับคุณชัย …”

ความวุ่นวายกับรสนิยมทางเพศของตัวเองต้องจบลงเมื่อเกริกรับสายด่วนจากลูกค้า งานของเขาไม่มีวันหยุด เหตุเพราะค่าตัวที่สูงและความต้องการคำปรึกษาอย่างเร่งด่วนจากลุกค้า จึงทำให้เขาเป็นเหมือนบุคคลที่ใครๆ ต้องการตัวอยู่เสมอไม่ห่างตัว

แต่น่าแปลกที่หนุ่มๆ ในฟิตเนสหรือเก้งกวางคนไหนจะมาคู่ควรเป็นแฟนกับเขาได้ คำตอบมันอยู่ตรงที่ความหยิ่งทะนงและเข้าใจว่าตัวเขาเองคือศูนย์กลางความสนใจของทุกคนนั่นเอง เลยทำให้คนรอบข้างเข้าร่วมใช้ชีวิตกับเขาได้ยาก

เสร็จสิ้นบทสนทนาทางธุรกิจกับลูกค้า นายเกริกจึงได้เปิดประตูนุ่งผ้าขนหนูออกมาแต่งตัวที่ล็อกเกอร์ เตรียมกลับบ้านพักผ่อน

ขณะนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มกว่า เรียกว่าเป็นยามดึกสำหรับซอยเปลี่ยวในเมืองกรุง เสียงเปิดประตูฟิตเนสดังข้น ขระที่เกริกก้าวเท้าออกมาพร้อมชุดเสื้อเชิร์ตปลดกระดุมสองเม็ด เพราะหน้าอกที่วันนี้เล่นฟิตจนหนัก ล้นเกินกว่าเสื้อเข้ารูปฟิตเปรี๊ยะจะรับเอาไว้ได้

ด้วยรูปร่างที่แน่นล่ำสมมาตรฐานชายไทยวันสามสิบอัพ ทำให้ไอ้หนุ่มกลุมเด้กแว้นหน้าปากซอยย่อยของฟิตเนสนี้ อดปากไม่ได้ต้องแซวนายเกริกทุกครั้งที่เห็น

“เฮ้ยพี่ ! วันนี้นมโผล่อ่ะ ฮ่าๆๆๆๆ” เสียงแตกหนุ่มจากวงแก๊งค์มอเตอร์ไซค์ดังขึ้นมาทันทีที่เกริกเดินเลี้ยวจะไปที่รถของเขา

“ลูกพี่ นมเป็นเต้า ใหญ่กว่าเมียผมทีบ้านอีกว่ะ ฮ่าๆๆ”

“ฮ่าๆๆๆๆ”

เสียงหัวเราะและยั่วล้อจากปากเด็กพวกนี้ทำให้เกริกอดกระแทกความคิดในหัวตัวเองไม่ได้

“เดี๋ยวเถอะมึง อย่าให้เจอ กูจะจับเย็ดตูดเรียกตัวเอาให้หายปากหมาเลย”

แต่นั่นมันก้แค่ความคิด สิ่งที่เขาตอบกลับไปคือ

“พี่มันฟิตมานานแล้วน้อง นมพี่ใหญ่ จะดูดนมพี่แทนนมเมียรึไงไอ้น้อง วันหลังจะได้ใส่ยกทรงไว้รอให้มาถอด ฮ่าๆ”

เกริกไม่ได้ติดใจอะไรกับคำพูดหยอกล้อของพวกเด็กแว้นเหล่านั้น แถมยังแอบภูมิใจเล็กๆ ว่าตนเองเป็นที่สนใจไม่แพ้ใคร เด็กพวกนี้แม้จะไม่ใช่หุ่นแน่นๆ แบบที่ชอบแต่พวกนี้มันก็มีบุคลิกเถื่อนกับหุ่นกึ่งผอมกึ่งล่ำ เกร็งๆ ดูมีแรงเถื่อนเก็บกักอยู่ภายใน
สิ้นความคิด ก็ปิดประตูรถ พร้อมเลื่อนตัวออกไปช้าๆ ในใจคิดว่าจะแวะไหนหาอะไรกินดี หรือว่าจะกลับบ้านเลยดี

Season Two2 (Rising of SM) : Episode 6 : Addiction

Kinky Opera
>>Season Two2 (Rising of SM)<<
.....ความรัก ความแค้น ความหวัง.......พลัง กำเนิด สรรค์สร้าง
....สมหวัง เจ็บปวด เลือนราง........เส้นทาง ความทุกข์ ระทม
Episode 6 : >> Addiction <<
.
.
.
“น้องต่อครับ!…… น้องต่อครับ!” เอกเรียกสติของต่อกลับคืนมาเมื่่อเห็นต่อใจลอย
“อ้อ พี่เอกว่าไงนะครับ?”
“พี่ว่าต่อใจลอยชอบกลๆ นะ มีอะไรไม่สบายใจรึเปล่า?”
คำถามนี้สะกิดใจของต่อเป็นอย่างมาก ต่อไม่รู้จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้อย่างไรดี....
………………………………......................................................................................................................
2 เดือนก่อนหน้านี้……
“ไง! มาแล้วเรอะ?”
ยามเมฆร้องทักเมื่อเห็นต่อเดินเข้ามาในตอนบ่ายของวันอาทิตย์ ในห้องน้ำชายที่แขวนป้าย
“กำลังทำความสะอาด...งดใช้ชั่วคราว”
เสียงประตูปิดลง พร้อมกับยามเมฆที่เดินมาประชิดต่อและล็อคประตู ต่อยังคงทำหน้าไม่พอใจ แต่ก็ต้องจำใจมาหา เพราะยามเมฆนั้นมีไม้ตายอยู่ในมือนั่นคือคลิบของต่อนั่นเอง !!!
“เหอะ!.... ดูทำหน้าเข้า....ทำไม? ไม่พอใจแล้วมึงจะทำอะไรได้? ฮ่าฮ่าฮ่า.....” ยามเมฆพูดได้แทงใจดำของต่อมากๆ
ต่อทนไม่ไหวอีกต่อไป จึงวิ่งปรี่เอาตัวพุ่งชนยามเมฆจนล้มลงไปกองอยู่ที่พื้น พร้อมกับล้วงกระเป๋ากางเกงยามเมฆเพื่อค้นหามือถือเจ้าปัญหาเครื่องนั้น แต่ทันใดนั้นการกระทำของต่อก็ต้องหยุดลงเพราะมีมือที่แข็งแกร่งราวกับเหล็กกล้ามาจับที่แขนสองข้างของต่อไว้ มันคือมือของยามเมฆนั่นเอง!!!
“โอ๊ย.......” ต่อเผลอร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเพราะยามเมฆบีบที่แขนของต่อแรงจริงๆ
“ชักจะเอาใหญ่แล้วนะมึง!!! บทเรียนคราวที่แล้วไม่ได้สอนอะไรมึงเลยใช่มั้ย????”
ยามเมฆดูเหมือนจะไม่เป็นอะไรเลย แถมยังใช้พลังที่มีอยู่อย่างเหลือเฟือขึ้นมานั่งคร่อมบนร่างของต่อ แล้วใช้เชือกที่แอบพกมา มัดที่ข้อมือของต่อแบบไพล่หลัง ทำให้ต่อดิ้นได้ลำบากมากยิ่งขึ้น
ยังไม่พอ!!! ยามเมฆยังใช้เชือกที่เหลืออีกเส้นมัดที่ข้อเท้าของต่อไว้ด้วย....
หลังจากนั้นยามเมฆก็หยิบสิ่งของบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง บางอย่างที่ต่อเองก็ไม่เคยเห็นมาก่อน แต่เมื่อดูจากสายตาแล้วมันมีขนาดประมาณฝ่ามือ ทำจากพลาสติกแข็ง
“กูจะใช้เครื่องมือนี้แหละ กำราบมึง ฮ่าฮ่าฮ่า”
ว่าแล้วยามเมฆก็ลงมือทันที!!! โดยยามเมฆถลกกางเกงและกางเกงในของต่อลงมากองที่ข้อเท้า แล้วเริ่มใช้เครื่องมือนั้นทำอะไรบางอย่างกับควยของต่อ!!! ซึ่งต่อเองก็ไม่ค่อยเข้าใจนัก เหตุการณ์ผ่านไปรวดเร็วมาก ต่อมารู้สึกตัวอีกทีก็ได้ยินเสียง “คลิ๊ก” เหมือนกับเสียงล็อคของแม่กุญแจ
ต่อก้มลงไปมองที่ควยของตัวเองก็พบว่า ควยของตัวเองถูกห่อหุ้มอยู่ในท่อพลาสติกแข็งใส ที่ดูจะออกแบบมาให้รูปทรงเข้ากับอวัยวะเพศตอนยังไม่แข็งตัวได้พอดิบพอดี ไข่ของต่อถูกรัดไว้ด้วยวงพลาสติกใสๆ วงหนึ่งแบบไม่แน่นไม่หลวมเกินไป ทำให้ไข่ของต่อเหมือนถูกดันเป็นลูกออกมาอยู่ข้างหน้า แล้วท่อกับวงพลาสติกอันนั้นก็เชื่อมต่อกันด้วยข้อต่อ โดยมีแม่กุญแจอันเล็กๆ ล็อกทั้ง 2 ส่วนนั้นไว้ด้วยกัน
“มึงจะทำอะไรกู!!!”
ต่อหันมาต่อว่ายามเมฆ แต่ยามเมฆก็เตะเสยที่หน้าท้องของต่อเข้าให้ ทำให้ต่อจุกและนอนคุดคู้อยู่ที่พื้น
“กูจะไม่อยู่ 2 เดือน จะไปเทรนงาน แล้วมึงก็จะรู้ว่านรกเป็นยังไง....”
“หวังว่าพอกลับมาแล้วมึงจะทำตัวดีขึ้นนะ อ้อ แล้วกูจะส่งข้อความสิ่งที่มึง “ต้องทำ” มาให้ ถ้ามึงไม่ทำตามอย่างหวังว่ากูจะถอดล็อคให้มึง ฮ่า ฮ่า ฮ่า......”
เมื่อพูดเสร็จยามเมฆก็เดินจากไปอย่างไม่ใส่ใจใยดี ปล่อยให้ต่อนอนจุกอยู่กับความงงว่าแท้จริงแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?????
...........................................................................................................................................
ปัจจุบัน....
“พี่ว่าต่อใจลอยชอบกลๆ นะ มีอะไรไม่สบายใจรึเปล่า?”
“ก็ไม่มีนิคับ”
ต่อตอบอย่างสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดี
“ไม่มีก็แล้วไป……”
แต่เอกยังคงทำหน้าตาไม่เชื่อ
ความจริงแล้วคือมียิ่งกว่ามี ตอนนี้ต่อตระหนักได้แล้วว่า สิ่งที่อยู่ที่ควยของต่อตอนนี้มันคือ “เครื่องล็อคควย” ต่อตั้งชื่อมันว่าอย่างนั้น หลังจากเหตุกาณ์ในวันนั้นต่อก็มาหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตทันทีว่ามันคืออะไร จริงๆ แล้วในภาษาอังกฤษมันเรียกว่า chastity device เป็นเครื่องมือสำหรับใส่กับอวัยวะเพศ เพื่อป้องกันไม่ให้อวัยวะเพศแข็งตัวได้ ถ้าอวัยวะเพศแข็งตัวในพื้นที่ที่จำกัดแบบนี้ก็จะทำให้รู้สึกอึดอัดและจุกเป็นอย่างมาก แถมจะชักว่าวก็ไม่ได้ และตอนนี้ต่อก็ไม่ได้ชักว่าวมาเกือบ 2 เดือนแล้ว
“น้องต่อหน้าซีดๆ ไปนะ แถมเหงื่อออกอีก ไม่สบายป่าว??” เอกถามด้วยความเป็นห่วง
หาได้เป็นเช่นนั้นไม่!!! เป็นเพราะเอกต่างหาก แค่ต่อเห็นเอกใส่เสื้อยืดตัวบางที่เข้ารูปเห็นกล้ามเนื้อหน่อย ต่อก็เกิดอารมณ์แล้ว.....สงสัยจะเป็นผลข้างเคียงที่ไม่ได้ชักว่าวมาเกือบ 2 เดือน ตอนนี้ควยของต่อกำลังแข็งและหาทางขยายตัวแต่ก็ต้องมาพบกับกำแพงที่แข็งแรงกั้นไว้ จึงทำให้ต่อรู้สึกอึดอัดไม่สบายตัวเป็นธรรมดา
“นั่นสิครับพี่เอก ผมรู้สึกไม่สบายยังไงก็ไม่รู้”
ต่อก็งงกับตัวเองเหมือนกันว่า 2 เดือนตั้งแต่เปิดเทอมมานี้ปิดบังเรื่องนี้กับเอกมาตลอดได้อย่างไร ต่อไม่เคยมีอะไรกับเอกอีกเลย ซึ่งเอกก็แปลกใจในความเปลี่ยนไปของต่อ แต่ต่อให้เหตุผลว่าต้องการคบกันแบบค่อยเป็นค่อยไป จึงไม่มีอะไรกับเอกอีกซึ่งตรงข้ามกับความต้องการของตัวเองโดยสิ้นเชิง....
แต่ดูเหมือนว่าเอกจะเข้าใจและไม่ถามอะไรมาก และก็ไม่สงสัยด้วย ต่อไม่รู้ว่าจะปิดบังเรื่องนี้กับเอกไปได้อีกนานเท่าไหร่ และนี่ก็จะครบ 2 เดือนที่ยามเมฆจะกลับมาแล้ว ต่อได้แต่หวังว่าถ้ายามเมฆกลับมาแล้วอะไรๆ คงจะดีขึ้น
“งั้น.....วันนี้นี้พอแค่นี้ดีกว่าครับ พี่อยากให้น้องต่อนอนพักดีกว่านะ”
เอกพาต่อไปนอนบนเตียงแล้วห่มผ้าให้
“ขอโทษนะครับพี่เอก ผมนี่แย่จริงๆ” ต่อรู้สึกผิดกับเอกเป็นอย่างมาก
“อย่าโทษตัวเองอย่างนั้นสิครับ เรื่องแบบนี้มันควบคุมได้ที่ไหนล่ะ” เอกปลอบ
ต่อได้แต่คิดในใจ ถ้าต่อควบคุมอารมณ์ความเงี่ยนของตัวเองได้สักนิด เรื่องแบบนี้ก็คงไม่เกิดและบานปลายจนมาถึงขั้นนี้......
เอกคุยกับต่ออยู่ซักครู่ก็ขอตัวกลับ และปล่อยให้ต่อได้นอนพัก ตอนนี้ควยของต่อสงบลงแล้ว ต่อจึงหายใจได้ทั่วท้องอีกครั้ง แต่ความเงี่ยนยังมีอยู่อย่างท่วมท้นเกินขีดจำกัด ต่อได้แต่ภาวนาให้เวลาผ่านไปถึงอาทิตย์หน้าเร็วๆ เป็นอาทิตย์ที่ยามเมฆกลับมาเสียที.......
.......................................................................................................................................................
.
.
.
เสียงสัญญาณเปลี่ยนคาบเรียนตอนบ่ายดังขึ้น อาจารย์และนักเรียนเริ่มเก็บข้าวของเพื่อย้ายห้องเรียน โดยตลอดทั้งบ่ายนี้ ห้องของต่อจะต้องไปเรียนพลศึกษาข้างล่าง โดยกีฬาของเทอมนี้ก็คือปิงปองนั่นเอง
ส่วนใหญ่แล้วนักเรียนก็แค่เปลี่ยนจากเสื้อนักเรียนให้เป็นเสื้อพละ ส่วนกางเกงยังคงใช้ตัวเดิม รองเท้าเปลี่ยนเป็นรองเท้าผ้าใบสีขาว เนื่องจากเป็นโรงเรียนชายล้วนจึงไม่มีใครเขินอายกันเวลาเปลี่ยนเสื้อ แถมยังหยอกล้อเล่นกันด้วยซ้ำ วันนี้โยเองก็คิดจะแกล้งต่อเล่นเหมือนกัน
“เฮ้ย...ต่อ! ควยมึงใหญ่ขึ้นป่ะวะ.......กูเห็นแม่งตุงมาหลายวันละ?”
โยพูดขึ้นมากลางวง เรียกความสนใจของเจมส์กับเม้งให้หันมามองที่เป้าของต่อทันที!!
“ไอ้เหี้ย! มึงจะพูดเรื่องไรวะ แม่ง....” ต่อพูดแก้เก้อ
“ก็ดูดิแม่งตุงชิบหาย” โยยังไม่เลิก
แต่ก็จริงของโย เพราะ “เครื่องล็อคควย” ของต่อทำให้เครื่องเคราทั้งพวงของต่อถูกดันออกมากระจุกอยู่ข้างหน้า มันก็ต้องดูตุงเป็นธรรมดา....
“แม่งลามกว่ะ ว่าแต่มึงเหอะ ไปทำไรมา ตัวสูงขึ้นนะมึง สูงจะเท่ากูแล้วเนี่ย....”
ต่อรีบเปลี่ยนเรื่องทันที!.....แต่โยก็ตัวสูงขึ้นมากจริงๆ อย่างที่ต่อพูด
“กูก็.....เล่นบาสนิดหน่อยอ่ะ” โยตอบ
“มึงเนี่ยนะเล่นบาส??” เจมส์ถามโยด้วยความสงสัย
มาถึงตอนนี้ทุกคนเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วและหยิบกระเป๋าของใครของมันเดินคุยกันลงมาจากตึกเรียนเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา
“เออ มึงไปเอาความคิดนี้มาจากไหนวะ ทุกทีไม่เห็นมึงเล่นกีฬาอะไร” เม้งถามด้วยอีกคน
ทุกคำถามนั้นทำให้โยรู้สึกจี๊ดที่หัวใจเหลือเกิน โยรู้สึกถึงภาพในอดีตที่เคยเล่นบาสกับมาร์คอย่างสนุกสนาน
“ก็....ไม่มีไรว่ะ แค่ได้ยินมาว่า เล่นบาสแล้วจะตัวสูง....เหมือนไอ้ต่อไง” โยตอบ
“เออ...แม่ง รู้งี้กูเล่นด้วยดีกว่าว่ะ กูก็อยากตัวสูงบ้าง” เจมส์บอกกับเพื่อนๆ
ทั้งสี่คนเดินมาถึงโรงยิมที่มุมหนึ่งเรียงรายไปด้วยโต๊ะปิงปองหลายตัว ต่างคนต่างหาที่วางกระเป๋าของตัวเองแล้วเดินมาเข้าแถว อาจารย์ผู้รับผิดชอบสอนรายวิชานี้คือครูอาร์ตนั่นเอง! ต่อพยายามหลบสายตาไปทางอื่นเพื่อไม่ให้เห็นร่างกายอันกำยำของครูอาร์ต เพราะจะทำให้ต่อควยแข็งจนจุกเพราะที่ล็อคควยได้ แต่ก็สายไปเสียแล้ว ตอนนี้ต่อรู้สึกจุกมากๆ แต่ก็ต้องยืนเข้าแถวต่อไปแบบตัวงอๆ
“เฮ้ย...ต่อ...เป็นไรวะ?” เม้งกระซิบถามด้วยความเป็นห่วงเพราะเห็นเพื่อนสีหน้าไม่สู้ดี
“ไม่มีไรว่ะ ปวดท้องนิดหน่อย....โอเคละ” ต่อตอบ แล้วตั้งใจฟังครูอาร์ตอธิบายต่อไป.....
......................................................................................................................................................
ในที่สุดก็ถึงวันอาทิตย์ที่ต่อคาดว่ายามเมฆจะกลับมาทำงาน ต่อแกล้งทำเป็นเดินผ่านป้อมยามหน้าหมู่บ้านหลายที แต่ก็ไม่เห็นวี่แววของยามเมฆแม้แต่น้อย ต่ออยากจะเข้าไปถามพี่ยามคนอื่นๆ ก็ไม่กล้า กลัวคนอื่นจะสงสัยหรือจับพิรุธได้ ได้แต่เดินไปเดินมาอยู่อย่างนั้น แต่ก็ไม่เป็นผล ยามเมฆยังไม่กลับมา ทำให้ต่อหมดหวังและกลับขึ้นบ้านไปด้วยความเหนื่อยล้า
ต่อขึ้นห้องไปตอนบ่ายสามและนอนหลับไปนานเท่าไหร่ก็ไม่ทราบได้ มารู้ตัวตื่นขึ้นอีกทีก็ตอนที่ไอโฟนดังอยู่ข้างๆ หู ต่อรีบตื่นขึ้นมาดูที่โทรศัพท์ทันที เบอร์ของยามเมฆนั่นเอง!!!

ต่อรีบกดรับโทรศัพท์ทันที
“ฮัลโหล”
“ไงวะ? เงี่ยนมากมั้ยมึง?” เสียงของยามเมฆดังขื้นที่ปลายสาย
คำว่า “เงี่ยน” เหมือนเป็นตัวปลุกให้ควยของต่อนั้นแข็งขึ้นมาทันที!
.
.
“..........” ต่อไม่รู้จะตอบเป็นคำพูดว่าอย่างไรดี
“หึ.....มาหากูที่สระเดี๋ยวนี้!” พูดเพียงเท่านี้ยามเมฆก็วางหูไป
ต่อรีบกระโจนลงจากเตียงด้วยความรวดเร็วและตรงไปที่สระว่ายน้ำที่คลับเฮ้าส์ของหมู่บ้านทันที!!
ต่อเปิดเข้ามาในห้องน้ำก็เห็นยามเมฆยืนรออยู่แล้ว ยามเมฆเดินมาล็อคประตูห้องน้ำพร้อมแขวนป้ายกำลังทำความสะอาดเหมือนเดิม
“เอาล่ะ ไหนทวนสิ่งที่กูสั่งให้มึงทำไว้ซิ?”
ต่อนึกถึงเงื่อนไขที่ยามเมฆเคยส่งข้อความมาสั่งต่อไว้ก่อนหน้านี้
“ห้ามชักว่าว” ต่อตอบเสียงเบาๆ
“ต้องพูดว่า “ครับ” ด้วย พูดใหม่!!!” ยามเมฆสั่งเสียงเข้ม
“ห้ามชักว่าวครับ” ต่อทวน
“แล้วอะไรอีก???” ยามเมฆถาม
“ห้ามใส่กางเกงในราคาแพงครับ”
ยามเมฆมีสีหน้าพอใจ ส่วนต่อถอดเสื้อออกแล้วถลกกางเกงขาสั้นลงมากองอยู่ที่เท้า จากกางเกงใน Calvin Klein สีขาวที่ต่อใส่อยู่ประจำ ตอนนี้กลับกลายมาเป็นกางเกงในรอสโซ่สีน้ำเงิน ซึ่งตัดกับผิวขาวๆ ของต่อเป็นอย่างดี
“แล้วข้อสุดท้าย?” ยามเมฆย้ำ
“ให้ใส่กางเกงใน 1 ตัว 2 อาทิตย์ครับ”
ต่อตอบพร้อมกับเทถุงพลาสติกใบหนึ่ง สิ่งที่หล่นลงมาเป็นกางเกงในรอสโซ่สีต่างๆ 3 ตัว แต่ละตัวนั้นส่งกลิ่นคละคลุ้ง แถมเต็มไปด้วยคราบเยี่ยวและเหงื่อไคล
“โอเค......ดีมาก! ท่าทางคงจะเงี่ยนมากใช่มั้ย?”
ต่อพยักหน้าอายๆ แล้วหลบตายามเมฆ
“เอาล่ะ...งั้นกูจะปลดปล่อยความเงี่ยนให้มึงเอง!!!”
ยามเมฆสั่งให้ต่อนั่งลงท่าขัดสมาธิ ซึ่งต่อก็ทำตามแต่โดยดี ยามเมฆค่อยๆ ใช้เชือกสีแดงยาวพันและมัดเป็นเงื่อนต่างๆ รอบๆตัวของต่ออย่างแน่นหนาแบบในหนังโป๊ซาดิสต์ของญี่ปุ่น เริ่มตั้งแต่หัวเข่า ขา ลำตัว จนใกล้ถึงขั้นตอนสุดท้ายยามเมฆจึงจัดท่าทางของต่อให้ยืดตัวตรง และมือทั้งสองข้างประสานไว้ที่ท้ายทอยโดยกางข้อศอกออก หลังจากนั้นยามเมฆจึงเริ่มมัดเชือกต่อไปจนเสร็จ
ทำให้ตอนนี้ต่ออยู่ในท่านั่งขัดสมาธิตัวตรงอยู่กับพื้น โดยมือทั้งสองข้างประสานท้ายทอยกางแขนออก เชือกสีแดงพันแน่นไปทั่วเรือนร่างของต่อ ทำให้ต่อแทบจะขยับตัวไม่ได้เลย แถมยามเมฆยังพันเชือกมาที่หัวและใบหน้าของต่อด้วย เชือกพาดผ่านฟันบนและล่างของต่อ โดยทำหน้าที่ถ่างปากของต่อให้อ้าไว้ไม่ให้ประกบกันได้!!
ต่อรู้สึกถึงความหฤหรรษ์ไปอีกแบบที่ไม่สามารถขยับตัวได้ และตกอยู่ในสภาพที่โดนควบคุมทุกอย่างโดยสิ้นเชิง!....แค่คิดถึงสภาพของตัวเองในขณะนี้ควยของต่อก็เริ่มแข็งและจุกทันที!
“อื้อออ” ต่อไม่สามารถจะพูดเป็นคำได้เพราะปากถูกง้างไว้ด้วยเชือกที่มัดแน่น มีเพียงลิ้นเท่านั้นที่ขยับไปมาได้ แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ตอนนี้น้ำลายของต่อเริ่มไหลย้อยลงมาจากริมฝีปากจนถึงหน้าอกแล้ว ต่อมองเงาของตัวเองที่สะท้อนผ่านกระจกบานใหญ่ตรงล็อคเกอร์ก็ยิ่งเพิ่มความกำหนัดเข้าไปอีก...
“ใจเย็นๆ.....เดี๋ยวมึงได้สิ่งที่ต้องการแน่นอน” ยามเมฆพูดอย่างใจเย็น
ยามเมฆล้วงมือลงไปในกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบกุญแจเล็กๆ ออกมา เป็นกุญแจสำหรับไขที่ล็อคควยนั่นเอง!!
“กริ๊ก.....”
เสียงแม่กุญแจคลายออกเปรียบเสมือนเสียงสวรรค์ของต่อเลยก็ว่าได้ ยามเมฆค่อยๆ แกะส่วนประกอบของที่ล็อคควยออกมาอย่างยากเย็นเพราะควยของต่อแข็งอัดแน่นอยู่ในนั้น แต่ก็สำเร็จไปได้ด้วยดี.....
“หึ หึ หึ....”
ยามเมฆหัวเราะอย่างสะใจเมื่อเห็นควยของต่อที่เป็นอิสระแล้วตอนนี้กำลังแข็งชูชันเต็มที่ เส้นเลือดปูดโปนรอบๆ ควย แถมน้ำเงี่ยนใส ที่ไหลย้อยออกมาเป็นระยะๆ เมื่อต่อกระดกลำควย ไม่บอกก็รู้ว่าต่อกำลังเงี่ยนมากแค่ไหน เพราะต่อไม่ได้ชักว่าวมาถึง 2 เดือนนั่นเอง!!
ตอนนี้ร่างกายของต่อร้อนวูบวาบขึ้นมาทันที ฮอร์โมนวัยหนุ่มสูบฉีดอย่างเต็มแรง หัวใจของต่อเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ
ยามเมฆเดินมานั่งอยู่ที่ด้านหลังของต่อแบบแนบชิด ต่อรู้สึกถึงลมหายใจของยามเมฆที่รดต้นคอ แต่ก็เริ่มได้กลิ่นควยของตัวเองโชยมา เนื่องจากพอโดนล็อคควยแล้วต่อก็ไม่ค่อยได้ทำความสะอาดพิถีพิถันมากนัก ตอนนี้ต่อพอจะเดาได้รางๆ แล้วว่าต่อไปอะไรจะเกิดขึ้นกับตัวเอง
ยามเมฆค่อยๆ ถอกหนังหุ้มปลายของต่อลงมาเรื่อยๆ และแล้วต่อก็เห็นว่าการที่ไม่ได้ถอกหนังหุ้มปลายทำความสะอาดมากว่า 2 เดือนผลจะเป็นอย่างไร......
ที่หัวควยและหนังหุ้มเต็มไปด้วยขี้เปียกสีขาวเกาะตัวอยู่เป็นขุยๆ ยามเมฆใช้นิ้วปาดขี้เปียกส่วนหนึ่งมาป้ายที่จมูกของต่อ ต่อจะขยับหนีก็ทำไม่ได้เพราะเชือกที่มัดแน่นแถมยามเมฆยังนั่งบล็อคอยู่ด้านหลัง กลิ่นขี้เปียกเหม็นรุนแรงแทรกผ่านเข้าไปในจมูกของต่อ จะกลั้นหายใจก็ทำไม่ได้ แต่ไม่รู้รู้ว่าทำไมกลิ่นเหม็นนี้ถึงยิ่งกระตุ้นอารมณ์ของต่อให้พลุ่งพล่านแรงขึ้นไปอีก
“อื้อๆๆ...”
ต่ออยากจะต่อว่ายามเมฆก็ทำไม่ได้ ได้แต่เปล่งเสียงที่ฟังไม่เป็นภาษาคนเท่านั้น ยามเมฆใช้มือปาดเอาน้ำลายของต่อที่ตอนนี้ไหลย้อยลงมาถึงสะดือ แล้วเลื่อนมือลงมาเริ่มชักว่าวให้ต่อโดยใช้น้ำลายของต่อแทนสารหล่อลื่น
“คลิ๊กๆๆๆ...”
ตอนนี้ยามเมฆชักควยของต่อขึ้นลงจนขี้เปียกกระจายไปทั่วลำควยของต่อ
“ดูเหมือนสารหล่อลื่นจะไม่พอว่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
ว่าแล้วสิ่งที่ต่อคิดในใจก็เกิดขึ้นจริงๆ ยามเมฆใช้มือที่ต็มไปด้วยขี้เปียกล้วงเข้ามาในปากของต่อเพื่อเอาน้ำลาย ขี้เปียกจากมือของยามเมฆจึงเลอะอยู่ในปากของต่อและรอบๆ แต่ยามเมฆก็ไม่สนใจใยดีแถมยังหัวเราะชอบใจอีก
ยามเมฆเริ่มใช้มืออีกข้างมาสะกิดที่หัวนมของต่อ ทำให้ต่อเสียวมากจนแทบลืมเรื่องขี้เปียกไปเลย ยามเมฆชักควยของต่อไปเรื่อยๆ พอมือเริ่มแห้งก็ล้วงปากของต่อเพื่อเอาน้ำลายใหม่ ตอนนี้ต่อไม่สนแล้วว่าจะเป็นอย่างไร ขอเพียงให้วันนี้ได้ขึ้นสวรรค์ก็พอ ต่อยอมอดทนได้ทุกอย่าง!!!
.
.
ยามเมฆขยับจังหวะมือเร็วขึ้นเรื่อยๆ ต่อใกล้ถึงสวรรค์เต็มทีแล้ว.....
.
“อ้า....อื้อ......อื้อ...อื้อออออ........”
“ปรึ่ด......ปรึ่ด.......ปรึ่ด......”
ต่อเกร็งลำควยครั้งสุดท้าย ตามมาด้วยน้ำสีขาวขุ่นที่ฉีดพุ่งออกมาจากลำควยอย่างเต็มแรงสุดๆ น้ำว่าวกระเด็นไปไกลเกือบ 1 เมตร แถมยังเยอะมากจนยามเมฆถึงกับตกตะลึงและอุทานออกมา
“โว่ว......สงสัยจะเงี่ยนมากนะมึง”
ถึงกระนั้นควยของต่อก็ยังแข็งและกระดกอยู่อย่างไม่ลดละ
“เป็นไง....ขึ้นสวรรค์แล้ว ต่อไปก็เตรียมตัวลงนรกได้”
ยามเมฆใช้มือบี้ลงไปที่หัวควยของต่อราวกับกำลังคั้นน้ำจากผลส้ม น้ำว่าวที่ติดอยู่ที่ปลายควยของต่อทำหน้าที่เป็นสารหล่อลื่นได้อย่างดี ถ้าใครมีประสบการณ์พอก็คงจะรู้ว่าการทำแบบนี้หลังจากที่เพิ่งถึงจุดสุดยอดจะทำให้เสียวควยและทรมานเป็นอย่างมากจนแทบจะทนไม่ได้
ตอนนี้ต่อก็รู้สึกเช่นนั้น ต่อเสียวมากจนร้องออกมาไม่เป็นภาษาคนอย่างไม่กลัวใครจะได้ยิน
“อื้อออออ โอ้วววววววว อื้ออออออ............”
ต่อขยับร่างกายหนีไม่ได้เลยแม้แต่น้อย ได้แต่อดทนกับความทรมานนี้และภาวนาในใจให้ยามเมฆหยุดมือเสียที!
และแล้วยามเมฆก็หยุดมือลง ต่อถึงกับหอบแฮ่กด้วยความเหนื่อยอ่อน แต่ถึงกระนั้นควยก็ยังคงแข็งอยู่ดี
“โฮ่.......นี่มึงเงี่ยนขนาดนี้เลยเรอะ สงสัยกูต้องจัดให้มึงอีกรอบละ”
และแล้วยามเมฆก็เริ่มชักควยของต่อในยกที่สอง โดยขั้นตอนยังคงเหมือนเดิม ยามเมฆชักควยของต่อเรื่อยๆ สลับกับป้ายน้ำลายแทนสารหล่อลื่น แต่คราวนี้ใช้เวลาเพียงไม่นานต่อก็ถึงจุดสุดยอดอีกครั้ง
น้ำว่าวของต่อยังคงพุ่งแรงและไกลเหมือนเดิม คราวนี้ต่อได้ประจักษ์แล้วว่าสิ่งที่อัดแน่นอยู่ในควยมาเป็นเวลา 2 เดือนมันเยอะแค่ไหน
ต่อหอบแฮ่กอีกครั้งคราวนี้ยามเมฆไม่บี้หัวควยต่อแล้ว ควยของต่อเริ่มหมดฤทธิ์และหดลงช้าๆ ตอนนี้ควยของต่อเต็มไปด้วยขี้เปียกและน้ำว่าว ยามเมฆรูดหนังหุ้มควยให้ลงมาปิดเหมือนเดิม และเอาที่ล็อคควยออกมาเตรียมใส่คืน เมื่อต่อรู้ดังนั้นจึงขยับตัวหนีแต่ก็ไม่เป็นผล
ต่อคิดในใจว่ายามเมฆใจร้ายมาก ถ้าล็อคคืนแบบนี้แถมยังไม่ได้ทำความสะอาด คราวหน้ากลิ่นควยจะขนาดไหนต่อไม่อยากจะจินตนาการเลย
และแล้วยามเมฆก็จัดการล็อคควยของต่อจนเสร็จเรียบร้อยโดยที่ต่อไม่สามารถขัดขืนได้ ทั้งหมดนี้อยู่ในแผนการณ์ของยามเมฆหมดแล้ว หลังจากนั้นยามเมฆจึงค่อยๆ แก้เชือกที่มัดอยู่ออก จนร่างกายของต่อเป็นอิสระ รอยแดงจากเชือกที่มัดยังคงปรากฏเป็นรอยจางๆ อยู่บนผิวขาวๆ ของต่อ
“เอาล่ะ....กูเสร็จธุระกับมึงแล้ว! กลับไปได้ แล้วอย่าลืม....ทำเหมือนเดิม แล้วกูจะโทรหามึงเอง”
ต่อลุกขึ้นด้วยความเหนื่อยอ่อนแล้วเดินโซเซออกจากห้องน้ำไป โดยไม่สนใจยามเมฆอีก เมื่อต่อเดินขึ้นมาถึงห้องนอนตัวเองก็รีบตรงไปที่อ่างล้างหน้าเพื่อแปรงฟันทันที!! ต่อยังคงรู้สึกผิดกับพี่เอกอย่างมากที่ปล่อยให้เรื่องในวันนี้เกิดขึ้น แต่อีกใจก็คนพบความแปลกใหม่ที่ไม่เคยเจอมาก่อน ต่อนึกถึงภาพรางๆ ตอนที่ตัวเองโดนจับไปที่คลับลึกลับแห่งนั้น หรือจริงๆ แล้วเป็นต่อเองที่มีรสนิยมแบบนี้ ต่อยังคงเด็กเกินกว่าจะตอบคำถามให้ตัวเองได้
เมื่ออาบน้ำจนเสร็จ ต่อก็เดินตรงไปที่เตียงแล้วทิ้งตัวลงนอนด้วยความอ่อนล้า พลางคิดไปถึงว่าถ้าพี่เอกมารู้เรื่องนี้เข้าจะเป็นอย่างไร.....
.
.
.......ทำยังไงดี?.......ทำยังไงดี?.........
.
.
นี่เป็นความคิดสุดท้ายของต่อก่อนที่จะผลอยหลับไป........
......................................................................................................................................................
จบตอน
Kink Team เขียน

Season Two2 (Rising of SM) : Episode 5 : Punishment

Kinky Opera
>>Season Two2 (Rising of SM)<<
.....ความรัก ความแค้น ความหวัง.......พลัง กำเนิด สรรค์สร้าง
....สมหวัง เจ็บปวด เลือนราง........เส้นทาง ความทุกข์ ระทม
Episode 5 : >> Punishment <<

.
.
ติ๋ง....
.
.
ติ๋ง....
.
.
เสียงน้ำหยดเป็นจังหวะออกมาจากฝักบัว………เวลาได้ผ่านไปนานเท่าไหร่แล้วก็ไม่ทราบได้
ตอนนี้ต่ออยู่ในความมืดที่เงียบสงัด ดูเหมือนตอนนี้ต่อจะสงบลงได้บ้างแล้ว แต่ดูเหมือนว่าจะแค่สงบแค่ความกังวลใจเท่านั้น ตอนนี้ความตื่นเต้นและกลิ่นจากกางเกงในของยามเมฆได้เข้ามาแทนที่ และผลักดันให้ความรู่สึก “เงี่ยน” ของต่อปะทุขึ้นมาแทน
และตอนนี้ควยของต่อก็ได้ชูชันขึ้นจนแทบจะทะลุกางเกงออกมาอยู่แล้ว ต่อพยายามดึงโซ่กุญแจมือเป็นระยะ ด้วยความหวังเล็กๆ ว่ามันจะหลุดออกมาจากราวเหล็ก แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่!
เพราะที่คลับเฮ้าหมู่บ้านของต่อซึ่งเป็นหมู่บ้านคนรวยนั้นเลือกสรรแต่วัสดุที่ดี ราวเหล็กนี้จึงยึดติดกับผนังเป็นอย่างดี ถ้าเป็นราวพลาสติกราคาถูก ป่านนี้ต่อคงใช้แรงกระชากจนหลุดออกมาได้แล้ว…
จุดประสงค์ของต่อตอนนี้ไม่ใช่เพื่อการหนีอีกต่อไป หากแต่ต้องการใช้มือเพื่อปลดปล่อยความเงี่ยนของตัวเองต่างหาก!!
“ฟึ่บ…..” ทันใดนั้นแสงสว่างจ้าจากหลอดไฟก็ถูกเปิดขึ้นมาอีกครั้งหลังจากห้วงเวลาแห่งความยาวนานได้ผ่านพ้นไป พร้อมกับเสียงของยามเมฆที่ดังขึ้นมา
“เป็นไงมึง!!! เงี่ยนมั้ยวะ ไหนขอกูดูดิ๊?”
ยามเมฆพูดเสร็จก็เอื้อมมือมาจับที่ควยของต่อ แน่นอนว่าต่อในตอนนี้ไม่สามารถปัดป้องมือของยามเมฆได้แม้แต่น้อย
“เหอะ กูว่าแล้ว! มึงนี่โคตรวิปริตเลยว่ะ มีอารมณ์กับกางเกงในผู้ชายเนี่ยนะ???”
แน่นอนว่าต่อไม่สามารถจะตอบโต้ได้เพราะปากถูกพันแน่นไปด้วยเทปกาว
คราวนี้ยามเมฆล้วงมือเข้าไปในกางเกงของต่อผ่านกางเกงในเข้าไปเลยทีเดียว จึงได้สัมผัสกับควยของต่อที่แข็งปั๋งอยู่ภายใน แถมน้ำเงี่ยนก็ไหลเยิ้มจนเลอะเต็มกางเกงในไปหมด
“แม่ง อุบาทว์จิงๆ เลยมึง” ถึงยามเมฆจะด่าแต่มือก็ยังคงป้วนเปี้ยนไม่ห่างจากควยของต่อเลย
ยามเมฆลองใช้นิ้วโป้งบี้ลงไปที่หัวควยของต่ออย่างแรง ทำให้ต่อเสียวมากจนเข่าอ่อนจนแทบยืนไม่อยู่
จู่ๆ ยามเมฆก็เหมือนจุดประกายความคิดบางอย่างขึ้นมาได้ จึงหยิบมือถือราคาถูกออกมาจากกระเป๋า แต่ถึงแม้จะราคาถูกแบบที่คนรายได้น้อยชอบใช้กัน ก็พอจะมีฟังก์ชั่นถ่ายวีดีโอคลิบอยู่บ้าง
ยามเมฆใช้มืออีกข้างกดโทรศัพท์เพื่อถ่ายวีดีโอ ส่วนมืออีกข้างหนึ่งตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่ควยของต่อแล้ว แต่เลื่อนมาที่ใบหน้าและหยิบกางเกงในออกทีละชั้นๆ ตอนนี้ต่อพอจะเข้าใจแล้วว่ายามเมฆกำลังทำอะไร “ถ่ายคลิบ” นั่นเอง
“ทำหน้าให้มันสดชื่นหน่อยดิวะ แม่ง….กูอุตส่าห์หมกกางเกงในไว้ให้มึงเลยนะเนี่ย”
ไม่ว่าต่อจะพยายามเบือนหน้าหนีกล้่องเท่าไหร่ ยามเมฆก็ยิ่งขยับมือถือตามติดมากเท่านั้น
จนในที่สุดยามเมฆก็ดึงกางเกงในชั้นสุดท้ายออกจากหัวของต่อ ทำให้ใบหน้าของต่อเข้ากล้องไปแบบเต็มๆ
เมื่อยามเมฆถ่ายจนพอใจแล้ว จึงได้ปล่อยต่อออกจากพันธนาการทั้งหมด ต่อยืนเกร็งมาเป็นเวลานานจนเมื่อย ทันทีที่หลุดออกจากพันธนาการแล้วต่อก็ทรุดฮวบลงนั่งทันทีด้วยความอ่อนแรง…..หลังจากนั้นยามเมฆใช้มืออันแข็งแรงช้อนที่ปลายคางของต่อขึ้นมาจนสบตา
“ต่อไปนี้มึงคือทาสของกู!!! มึงต้องทำตามที่กูบอกทุกอย่าง ถ้าไม่ทำ……มึงรู้นะว่ามันจะจบยังไง!!!”
“วันอาทิตย์หน้ามาเจอกูที่นี่ บ่ายโมง ไม่งั้น……”
ยามเมฆพูดไป พลางโชว์มือถือให้ต่อดู
และแล้วยามเมฆก็เดินออกจากห้องน้ำไป เหลือเพียงต่อที่นั่งหมดแรงอยู่แต่เพียงผู้เดียว
.
.
.
ต่อใช้แรงที่เหลืออันน้อยนิดพยุงตัวขึ้นเพื่อเดินกลับบ้าน เมื่อต่อมาถึงบ้านก็พบว่าไฟยังเปิดสว่างอยู่ เมื่อต่อมองดูที่นาฬิกาก็ต้องตกใจเพราะว่าตอนนี้เพิ่งแค่สามทุ่มเท่านั้น พ่อกับแม่ยังไม่กลับมาเลยด้วยซ้ำ ส่วนพี่หมิงก็กำลังดูละครหลังข่าวอยู่
ต่อต้องประหลาดใจอย่างมากที่เวลาเพิ่งผ่านไปเพียงแค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น ทั้งๆที่ต่อนึกว่าตอนนี้น่าจะเกือบๆ เที่ยงคืนแล้ว !!
ต่อพยุงตัวเองขึ้นห้องนอนด้วยความอ่อนเพลียและฟุบลงบนที่นอนทันที พร้อมกับดวงตาทั้งสองที่เริ่มจะปิดลงอย่างช้าๆ…..
พรุ่งนี้ก็จะเป็นวันแรกของเทอมปลายแล้ว ต่อไม่นึกเลยว่าปิดเทอมเล็กนี้จะมีเรื่องวุ่นวายมากมายเกิดขึ้นกับต่อได้ขนาดนี้ และไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าในอนาคตจะวุ่นวายอีกขนาดไหน……

……………………………….................................................................................................................
.
.
.
เสียงจอแจของนักเรียนดังขึ้นอีกครั้งภายในโรงเรียนแห่งนี้ แถมยังดังมากกว่าแต่ก่อนด้วยซ้ำ เป็นธรรมดาของเด็กนักเรียนวัยรุ่นที่อยากจะเล่าประสบการณ์ตอนปิดเทอมให้เพื่อนๆ ฟังว่าไปทำอะไรมาบ้าง??
โดยเฉพาะนักเรียนของโรงเรียนนี้ซึ่งพ่อแม่ส่วนใหญ่จะเป็นคนเชื้อสายจีนที่มีฐานะร่ำรวย จึงมักจะพาลูกไปเที่ยวต่างประเทศเสมอในช่วงปิดเทอม ยกเว้นต่อที่นั่งถอนหายใจอยู่ท่ามกลาง โย เจมส์ และเม้ง ที่นั่งรายรอบอยู่ที่โต๊ะใต้ตึกตัวประจำ
“เมิงเป็นรายวะ? กูเห็นเมิงนั่งถอนหายใจเป็นสิบครั้งแล้วเนี่ย” เจมส์ถาม
“เซ็งๆ ว่ะ” ต่อตอบ
“กูก็เห็นเมิงเซ็งตลอดอ่ะ ไม่ไปหาไรหนุกๆ ทำวะ?” โยเสนอความคิด
ต่อถึงกับอดคิดในใจไม่ได้ว่าถ้าพวกเพื่อนๆ รู้ว่าอะไรเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ คงช็อกไปตามๆ กัน
“แล้วเมิงมีไอเดียไรล่ะ” เม้งถามโยกลับ
“ก็……ไปเดินสยามกัน….เลิกเรียน” โยเสนอไอเดียขึ้นมา
“เออ….ดีว่ะ แม่ง…กูอยากกินซิสเลอร์ชิบหาย” เจมส์พูดเสริมขึ้นมา
เลยเป็นอันว่าทั้งสี่คนต่างเห็นพ้องต้องกันว่าจะไปเดินสยามแล้วทานอาหารเย็นกันที่ซิสเลอร์ หลังจากนั้นทั้งสี่จึงเดินไปเข้าแถวซึ่งได้เวลาพอดี
……………………………….......................................................................................
เลิกเรียน ….. 16.30 น.
.
.
ทั้งสี่ได้มาถึงห้างดังกลางสยามพอดี โดยโยและเจมส์รีบตรงปรี๋เข้าไปดูรองเท้ากีฬารุ่นใหม่ทันทีตามประสา ส่วนต่อและเม้งสนใจเรื่องเทคโนโลยีมากกว่าจึงแยกไปเดินที่ชั้นขายมือถือและคอมพิวเตอร์แทน
ในขณะที่กำลังเดินอยู่นั้นเม้งก็เหลือบไปเห็นใครหน้าตาคุ้น
“เฮ้ยต่อ……นั่นพี่เอกของมึงป่าววะ??” เม้งถามต่อขึ้นมา
“ไหนวะ???” ว่าแล้วต่อก็หันไปมองตามที่เม้งชี้
“เออ….แม่งใช่ว่ะ”
…..ว่าแต่มากับใครวะ???….. ต่อคิดในใจ
“เฮ้ย เม้งตามไปดูกันว่ะ กูอยากรู้ว่าพี่เค้ามากับใคร?” ต่อชวนเม้งให้ไปด้วย
เม้งทำหน้าเบื่อ อารมณ์ประมาณจะไปจับผิดเค้าทำไม? แต่ก็เดินตามต่อไปแบบเงียบๆ
“ถ้ามึงอยากรู้ทำไมไม่โทรไปถามดีๆวะไอ้ต่อ? ตามแบบนี้มันเหมือนจับผิดเลยอ่ะ” เม้งถาม
“โหย ถ้าโทรไปถามก็ไม่ได้ความจริงดิวะ” ต่อตอบไปพลางเดินตามโดยไม่ให้คลาดสายตา
เม้งมองต่อแบบชอบกล ยังกับว่าต่อเป็นแฟนกับพี่เอกอย่างงั้นแหละ
และแล้วต่อกับเม้งก็มาหยุดอยู่ตรงกำแพงหัวมุมพอดี โดยเบื้องหน้าคือร้านกาแฟสตาร์บัคส์นั่นเอง ต่อเห็นเอกกำลังจ่ายเงินค่ากาแฟ แล้วไปนั่งที่โต๊ะ
“เมิงสงสัยว่าเค้าจะมากับใครเหรอ?” เม้งถามต่อ
“ก็ไม่รู้ว่ะ” ต่อพูดลอยๆ เหมือนตอนนี้ไม่ได้ฟังเม้งด้วยซ้ำ เหมือนคน่มุ่งจะจับผิดมากกว่า
ทันใดนั้นต่อก็เห็นเอกยกมือส่งสัญญาณเรียกใครบางคนว่านั่งอยู่ตรงนี้ ต่อพยายามมองไปที่คนๆ นั้น ปรากฏว่าเป็นหนุ่มนิสิตนักศึกษา เมื่อมองจากเครื่องแบบแล้วก็น่าจะเป็นนิสิตของมหาวิทยาลัยแถวสยามนี่แหละ
ต่อเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาแบบไม่มีสาเหตุ นิสิตคนนั้นซื้อกาแฟแล้วมานั่งสมทบกับเอก ทั้งสองคุยกันอย่างสนิทสนม หัวร่อต่อกระซิกซะจนต่อแทบทนไม่ไหว ในขณะเดียวกันต่อก็นึกถึงฝันร้ายของคืนก่อนหน้านี้ ที่ต่อฝันเห็นเอกเดินไปกับเด็กคนอื่น
ต่อจึงทำท่าจะเดินออกมาหาเอกโดยมีเม้งดึงห้ามไว้ทัน!!
“เฮ้ยต่อมึงจะไปไหนวะ” เม้งถามพลางดึงแขนต่อไว้
“กูก็จะเข้าไปถามน่ะสิว่าพี่เค้ามากับใคร?” ต่อตอบ
“ทำไมมึงต้องทำขนาดนี้วะ? เดี๋ยวก็หน้าแตกหรอกมึง” เม้งบอก
“เป็นไงก็เป็นกันว่ะ!!” ต่อยังดึงดันที่จะเข้าไปหาให้ได้
“โน่น มีอีกคนมาแล้วโน่น” เม้งชี้ให้ต่อดู
คราวนี้มีชายแก่อีกคนผมหงอกหัวหยิกฟูราวกับไอน์สไตน์ ถือแก้วกาแฟเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะอีกคน รวมเป็น 3 คน
“เห็นมั้ย? กูว่าเค้ามาคุยงานกันมากกว่าว่ะเมิง” เม้งอธิบายเหตุผลให้ต่อฟัง
“กูว่ามึงโทร.ไปถามเค้าดีกว่าเหอะ กูว่าเค้าไม่โกหกมึงหรอก”
ต่อจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเอก โดยต่อสังเกตุการณ์อยู่ไกลๆ เมื่อโทรศัพท์เอกดัง เอกจึงขอตัวเดินออกมารับโทรศัพท์ข้างนอกร้านโดยไม่ได้สังเกตุเห็นต่อและเม้ง
“ฮัลโหล….ว่าไงครับน้องต่อ”
“ฮัลโหลครับพี่เอก ตอนนี้พี่เอกอยู่ไหนอ่ะครับ”
“อ๋อ พี่มาคุยงานกับอ.ที่มหาลัยอ่ะครับ กับน้องอีกคนนึงที่เค้าจะมารับช่วงทำโปรเจคต่อครับ”
“อ๋อ ครับ….”
.
.
“น้องต่อถามทำไมเหรอครับ?” เอกก็งงอยู่เหมือน
“เอ่อ…..ป่าวคับๆ งั้นผมไม่กวนพี่แล้วล่ะ พี่ไปคุยงานเถอะครับ หวัดดีครับ” แล้วต่อก็วางหูไป
เม้งซึ่งได้ฟังบทสนทนาอยู่ ก็มองต่อแบบตัดพ้อว่าบอกแล้วไม่เชื่อ ต่อได้แต่ยิ้มแหยๆ แทนคำขอโทษ แต่เม้งก็ไม่ได้โกรธเคืองอะไร
จากนั้นต่อจึงขอบคุณเม้งที่ช่วยเตือนสติ พลางเดินกอดคอเม้งเพื่อไปสมทบกับโยและเจมส์ที่รออยู่หน้าร้านซิสเลอร์โดยไม่วิตกกังวลอีกต่อไป
ระหว่างที่เดินไปเม้งก็ถามต่อขึ้นมา…….
“นี่เมิงหึงพี่เค้าเหรอวะ??”
“หึงบ้าไร กูก็แค่ห่วงพี่ชายกูเว้ย!!!” ต่อไม่ยอมรับ แต่ในใจก็รู้ดีว่าที่ทำไปเมื่อกี้นี้เพราะความรู้สึกอะไร……
.
.
ระหว่างที่เอกนั่งคุยงานอยู่นั้น เอกก็ยังสงสัยกับอาการของต่อยังไม่หาย เอกจึงแอบเอามือถือของตัวเองขึ้นมาเปิดเฟสบุ๊คดู เพราะเอกรู้ว่าต่อชอบตั้งสถานะ check-in บนเฟสบุ๊ค ตามที่ต่างๆ ที่ชอบไป เมื่อเปิดขึ้นมาเอกก็เห็นสถานะของต่อตั้งว่า
“ต่อ Torr-Smart - was at Siam Paragon
Monday at 4:30 pm via mobile”
เอกจึงเข้าใจได้ทันทีว่าต่อคงเห็นตัวเองมากับใครบางคนแล้วจึงโทรมาเช็ค เอกจึงหัวเราะและส่ายหัวเบาๆ กับความไร้เดียงสาของต่อ แต่ก็แอบดีใจเล็กๆว่ามีคนเป็นห่วง (หึง)…..อยู่ห่างๆ

………………………………................................................................................................................

19.00 น.
.
.
และแล้วก็ถึงเวลาที่เด็กหนุ่มทั้ง 4 คนแยกย้ายกันกลับบ้าน เนื่องจากบ้านของโยอยู่แถวถนนสุขุมวิทอยู่แล้ว จึงใช้เวลานั่งรถไฟฟ้าเพียงครึ่งชั่วโมง หลังจากที่คนรับใช้ได้มาเปิดประตูให้โยแล้ว โยจึงเดินมาที่ลานหน้าบ้านอันกว้างขวางขนาบข้างด้วยสนามหญ้าที่ถูกตัดแต่งไว้อย่างสวยงาม
ที่ลานกว้างนี้มีแป้นบาสขนาดใหญ่แบบเคลื่อนย้ายได้ตั้งตระง่านอยู่ แน่นอนว่าไม่่ใช่เรื่องยากอยู่แล้วที่จะได้ของประเภทนี้มา เพราะบ้านของโยทำธุรกิจนำเข้าอุปกรณ์และชุดกีฬาทุกประเภทนั่นเอง และป๊าของโยก็รีบสนับสนุนเป็นอย่างยิ่งเมื่อเห็นลูกชายตัวเองเอ่ยปากอยากเล่นกีฬาประเภทนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ป๊าไม่ต้องบังคับ
ข้างใต้แป้นบาสมีลูกบาสวางอยู่สามลูก โยวางกระเป๋านักเรียนลงแล้วหยิบลูกบาสลูกหนึ่งขึ้นมา พร้อมกับถอยไปยืนในตำแหน่งที่ไกลจากแป้นบาสพอสมควร เป็นตำแหน่งสำหรับชูทลูก 3 คะแนนนั่นเอง!!
โยนึกทบทวนถึงเรื่องบางอย่าง…….ทำไมโยถึงต้องตั้งใจเล่นบาสด้วย โยฝึกเล่นมาตลอดปิดเทอมและตอนนี้ผลจากการฝึกทำให้ตัวของโยสูงขึ้นมามาก แต่เจ้าตัวเองก็ไม่ได้สังเกตเห็น
โยนึกถึงหน้าใครบางคน ใครบางคนที่อยู่ในใจของโยมาตั้งแต่เล็กจนโต โยกำลังคิดว่า ทำไมคนๆ นึงถึงมีอิทธิพลต่อตัวเองมากขนาดนี้
โยเพ่งสมาธิครั้งสุดท้ายไปที่แป้นบาส แล้วจึงตวัดข้อมืออันทรงพลังออกไป ลูกบาสลอยสูงขึ้นไปในแนววิถีโค้งตามแรงส่งของข้อมือ โยกะโดยใช้สายตาและสัญชาตญาณข้างในก็คาดเดาได้ว่าลูกนี้ต้องลงแน่นอน และก็เป็นดังที่คาดไว้ ลูกลอยลงสู่กลางห่วงอย่างสวยงามราวกับถูกจับวาง โยกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในใจแล้วจึงเดินไปหยิบกระเป๋าและเดินเข้าบ้านไป
พร้อมกับคิดในใจ
………….ถ้าเรื่องอื่นมันง่ายเหมือนชูทบาสก็ดีสิโว้ย!!!………….
……………………………….............................................................................................................................
จบตอน
Kink Team เขียน

เด็กหอ 8 CP

มื่อกานต์เก็บของจากห้องตัวเองเสร็จ จึงมาหาอาจารย์ภัทรที่ห้อง ส่วนภัทรอาบน้ำทำความสะอาดเนื้อตัวเรียบร้อย ควยของภัทรแข็งรอกานต์อยู่นานแล้ว &...