Kinky Opera
>>Season Two2 (Rising of SM)<<
.....ความรัก ความแค้น ความหวัง.......พลัง กำเนิด สรรค์สร้าง
....สมหวัง เจ็บปวด เลือนราง........เส้นทาง ความทุกข์ ระทม
....สมหวัง เจ็บปวด เลือนราง........เส้นทาง ความทุกข์ ระทม
Episode 1: >>Rebirth<<
“จิ๊บๆ จิ๊บๆ....”
“ติ๊ด... ติ๊ด..... ติ๊ด.....”
.
.
เสียงนกน้อยๆ สลับกับเสียงของอุปกรณ์ดิจิตอลบางอย่างดังเข้ามาในหูของต่อ ต่อยังคงรู้สึกเพลียจนไม่อยากจะลืมตาเลย แต่ก็ต้องพยายามฝืนลืมตาขึ้นมา เพราะยังคงมีความรู้สึกกังวลค้างอยู่ในหัว ว่าต้องตื่นขึ้นมาเพื่อทำอะไรซักอย่างหนึ่ง.......
.........เช้าแล้วเหรอ??...........
ต่อมองเห็นบนเพดานห้องเป็นอันดับแรก มองเห็นดวงไฟบนเพดานที่แปลกไป ไม่เหมือนในห้องนอนที่บ้านเลย ต่อใช้ความพยายามมากยิ่งขึ้นในการกวาดสายตาไปรอบๆ ห้อง
.........ที่นี่ที่ไหนเนี่ย?? ไม่ใช่ห้องนอนของเรา......
ต่อคิดในใจ
.........คอแห้งจัง....อยากดื่มน้ำ........
........นั่นแม่นี่นา.......ทำไมไปนอนอยู่บนโซฟาอย่างนั้น?........
........นั่นแม่นี่นา.......ทำไมไปนอนอยู่บนโซฟาอย่างนั้น?........
ต่อรู้สึกเจ็บที่แขนด้านซ้ายของตัวเอง จึงเลื่อนสายตามาดูที่แขน
.......มีปลอกสวมอยู่ที่นิ้ว?? และที่แขนซ้ายก็มีสายน้ำเกลือต่อออกมาระโยงระยาง......
.......นี่เราโดนให้น้ำเกลืออยู่เหรอ....ทำไมล่ะ....เกิดอะไรขึ้น???........
.......นี่เราโดนให้น้ำเกลืออยู่เหรอ....ทำไมล่ะ....เกิดอะไรขึ้น???........
“แม่.....” ต่อพยายามเปล่งเสียง แต่ก็ได้แค่ระดับเบา
“แม่...............”
“แม่...............”
คราวนี้คุณศรีรู้สึกตัว! อาจเป็นเพราะกังวลว่าต่อจะฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่เป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็ได้.... เพราะตั้งแต่คืนที่เกิดเรื่อง ต่อก็ยังคงสลบต่อเนื่องมาอีก 1 วันเต็มๆ
“ต่อ! ต่อฟื้นแล้วเหรอลูก!”
คุณศรีรีบกระโจนขึ้นมาจากโซฟาแล้วมานั่งที่เก้าอี้ข้างๆ เตียงอย่างรวดเร็ว
คุณศรีรีบกระโจนขึ้นมาจากโซฟาแล้วมานั่งที่เก้าอี้ข้างๆ เตียงอย่างรวดเร็ว
“ต่อเป็นยังไงบ้างลูก???” คุณศรีจับที่มือขวาของต่อไว้ แล้วเอื้อมมือไปกดปุ่มฉุกเฉิน
.
“ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ?” เสียงพยาบาลดังขึ้นในลำโพงอินเตอร์คอม
“คนไข้ฟื้นแล้วค่ะ!” คุณศรีรีบบอกพยาบาลคนนั้น
“รอสักครู่นะคะ เดี๋ยวดิฉันจะเรียกคุณหมอให้ค่ะ” พยาบาลตอบแล้ววางสายไป
.
“ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ?” เสียงพยาบาลดังขึ้นในลำโพงอินเตอร์คอม
“คนไข้ฟื้นแล้วค่ะ!” คุณศรีรีบบอกพยาบาลคนนั้น
“รอสักครู่นะคะ เดี๋ยวดิฉันจะเรียกคุณหมอให้ค่ะ” พยาบาลตอบแล้ววางสายไป
เป็นเวลาเดียวกับที่คุณพลเปิดประตูเข้ามาในห้อง 912 ซึ่งเป็นห้องพิเศษของตึกผู้ป่วยใน คุณพลเพิ่งกลับมาจากการลงไปซื้ออาหารเช้าขึ้นมากิน โดยให้คุณศรีเฝ้าดูอาการของต่อไว้
“คุณคะ! ต่อฟื้นแล้วค่ะ”
“จริงเหรอคุณ!! ต่อเป็นยังไงบ้าง”
“จริงเหรอคุณ!! ต่อเป็นยังไงบ้าง”
คุณพลรีบเดินมาสมทบที่ข้างๆ เตียงผู้ป่วย
“เป็นยังไงบ้างลูก ไหนเล่าให้แม่ฟังซิว่าเกิดอะไรขึ้น!” คุณศรีถามต่อ
“เป็นยังไงบ้างลูก ไหนเล่าให้แม่ฟังซิว่าเกิดอะไรขึ้น!” คุณศรีถามต่อ
ภาพของสถานที่แห่งนั้นรวมถึงเหตุการณ์ทั้งหมด ผุดขึ้นมาในหัวของต่ออย่างต่อเนื่อง ราวกับภาพยนต์ที่กรอไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในที่แห่งนั้นก็วิปริตพิสดารมากเสียจนต่อเองก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องจริง ในที่สุดต่อก็ตัดสินใจไม่พูดออกมาจะดีกว่า เพราะไม่รู้ว่าถ้าพูดออกไปแล้วคนอื่นจะรับได้หรือไม่ หรือหนักกว่านั้น คนอื่นอาจจะไม่เชื่อและหาว่าตนเองสติไม่สมประกอบไปแล้ว
“ต่อ......ต่อจำไม่ได้........” ต่อพูดแล้วหลบสายตาของคุณศรี
“เป็นไปได้ยังไง? ต่อลองนึกดีๆ ซิ ว่าเมื่อวานนี้ตอนเย็นเกิดอะไรขึ้น” คุณศรียังไม่ละความพยายาม
“คุณอย่าเพิ่งไปเซ้าซี้ลูกเลยน่า ให้เจ้าต่อมันได้พักผ่อนก่อนเถอะ เดี๋ยวหมอคงมีคำอธิบายน่า!”
เป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่ต่อเห็นด้วยกับความคิดเห็นของคุณพล คุณศรีพยักหน้าแล้วถอนหายใจ
“เป็นไปได้ยังไง? ต่อลองนึกดีๆ ซิ ว่าเมื่อวานนี้ตอนเย็นเกิดอะไรขึ้น” คุณศรียังไม่ละความพยายาม
“คุณอย่าเพิ่งไปเซ้าซี้ลูกเลยน่า ให้เจ้าต่อมันได้พักผ่อนก่อนเถอะ เดี๋ยวหมอคงมีคำอธิบายน่า!”
เป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่ต่อเห็นด้วยกับความคิดเห็นของคุณพล คุณศรีพยักหน้าแล้วถอนหายใจ
“ก๊อกๆ”
คุณหมอเปิดประตูเข้ามาในห้อง และทักทายคุณพลกับคุณศรีพอเป็นพิธี หลังจากนั้นก็เริ่มลงมือตรวจอาการของต่อทันที!
คุณหมอหยิบเอกสารที่ปลายเตียงมาดู และเดินมาที่อีกข้าง จับชีพจรที่ข้อมือของต่อ และตรวจที่หน้าอกด้วยสเตทโตสโคป แล้วจดบันทึกลงในเอกสาร คุณพลและคุณศรีเฝ้าดูด้วยใจจดใจจ่อ
คุณหมอหยิบเอกสารที่ปลายเตียงมาดู และเดินมาที่อีกข้าง จับชีพจรที่ข้อมือของต่อ และตรวจที่หน้าอกด้วยสเตทโตสโคป แล้วจดบันทึกลงในเอกสาร คุณพลและคุณศรีเฝ้าดูด้วยใจจดใจจ่อ
“ครับ ตอนนี้อาการปกติแล้วครับ แต่คนไข้ยังมีไข้และอาการอ่อนเพลียอยู่บ้าง อาจจะให้น้ำเกลือและยาลดไข้ ดูอาการต่อไปอีกซัก 2 วัน ก็น่าจะกลับบ้านได้ครับ”
คุณพลและคุณศรีถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“แล้วผลตรวจล่ะครับ เป็นยังไงบ้าง?” คุณพลถามหมอ
“แล้วผลตรวจล่ะครับ เป็นยังไงบ้าง?” คุณพลถามหมอ
“ผลตรวจเลือดทางห้องแลบเพิ่งส่งมาครับ พบสารผิดปกติในกระแสเลือดของน้อง คือสาร Halothane ซึ่งสารนี้เป็นสารที่ใช้เป็นยาสลบ รวมถึงสาร Midazolam หรือที่เรารู้จักในชื่อ Dormicum ที่พวกมิจฉาชีพนิยมใช้กันน่ะครับ”
คุณศรีและคุณพลอ้าปากค้าง
“ส่วนผลข้างเคียงก็อน่างที่เห็นแหละครับ ผู้ป่วยจะมีอาการมึนงง ความจำเสื่อมชั่วคราว และมีอาการคลื่นไส้อาเจียนครับ”
“ส่วนผลข้างเคียงก็อน่างที่เห็นแหละครับ ผู้ป่วยจะมีอาการมึนงง ความจำเสื่อมชั่วคราว และมีอาการคลื่นไส้อาเจียนครับ”
หมออธิบายมาถึงตอนนี้ต่อเริ่มท้องไส้ปั่นป่วนอีกครั้งหนึ่ง
หมออธิบายผลทั้งหมดจนคุณพลและคุณศรีเข้าใจ ทำให้ทั้งสองมุ่งประเด็นไปที่การลักทรัพย์ เพราะกระเป๋าสตางค์ของต่อหายไป แต่ก็แปลกอีกเช่นกันที่มือถือไม่โดนขโมยไปด้วย!!
หมออธิบายผลทั้งหมดจนคุณพลและคุณศรีเข้าใจ ทำให้ทั้งสองมุ่งประเด็นไปที่การลักทรัพย์ เพราะกระเป๋าสตางค์ของต่อหายไป แต่ก็แปลกอีกเช่นกันที่มือถือไม่โดนขโมยไปด้วย!!
เมื่อหมดธุระแล้วคุณหมอก็ขอตัวเพื่อไปตรวจห้องอื่นต่อไป หลังจากที่หมอเดินออกจากห้องไปได้ไม่นาน ก็มีเสียงเคาะประตูห้องขึ้นอีก
“ก็อกๆๆ”
โย เจมส์ และเม้งนั่นเอง! ทั้งสามสวัสดีคุณพลและคุณศรี และเดินมาที่ข้างๆ เตียง
“เป็นไงมั่งวะไอ้ต่อ” ทั้งสามคนถามอาการ
“โอเคแล้วว่ะ” ต่อตอบยิ้มๆ
“โหย......กูตกใจชิบหายตอนรู้ข่าวมึงอ่ะ” โยพูด
ขณะที่โยพูด ต่อก็แอบสังเกตเห็นว่าตาทั้ง 2 ข้างของโยดูบวมๆ กว่าปกติ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร
“เป็นไงมั่งวะไอ้ต่อ” ทั้งสามคนถามอาการ
“โอเคแล้วว่ะ” ต่อตอบยิ้มๆ
“โหย......กูตกใจชิบหายตอนรู้ข่าวมึงอ่ะ” โยพูด
ขณะที่โยพูด ต่อก็แอบสังเกตเห็นว่าตาทั้ง 2 ข้างของโยดูบวมๆ กว่าปกติ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร
“เอ่อ ลูกๆ จ้ะ” คุณศรีขัดจังหวะการสนทนาขึ้นมา
“เดี๋ยวแม่ฝากลูกๆ ช่วยดูแลน้องต่อหน่อยนะจ๊ะ เดี๋ยวพ่อกับแม่จะไปให้การที่สถานีตำรวจน่ะจ้ะ”
“เดี๋ยวแม่ฝากลูกๆ ช่วยดูแลน้องต่อหน่อยนะจ๊ะ เดี๋ยวพ่อกับแม่จะไปให้การที่สถานีตำรวจน่ะจ้ะ”
“ได้เลยคับแม่ เดี๋ยวพวกเราจะดูแลต่ออย่างดีเลยคับ” เจมส์กล่าวกับคุณศรี
“จ้า ฝากด้วยนะจ๊ะ” แล้วคุณพลกับคุณศรีก็เดินออกจากห้องไป
.
.
“ไอ้ต่อ มึงไปโดนอะไรมาวะ มึงเล่าให้พวกกูฟังหน่อยซิ?” เม้งรีบถามต่อทันทีขณะที่ประตูห้องปิดลง
“เอ่อ....กูก็จำไม่ได้ว่ะ...หมอบอกว่ากูโดนป้ายยา” ต่อตอบ
“เออ ว่ะ เห็นออกข่าวบ่อยๆ ไม่นึกว่าเรื่องจะมาเกิดกับมึง” เจมส์เสริม
“แล้ว.......??”
ต่อพูดพลางมองผ่านกลุ่มของเพื่อนไปรอบๆ ห้อง แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของเอก ต่อจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าก่อนจะสลบไปได้ยินเสียงของพี่เอกก้องอยู่ในหู
“จ้า ฝากด้วยนะจ๊ะ” แล้วคุณพลกับคุณศรีก็เดินออกจากห้องไป
.
.
“ไอ้ต่อ มึงไปโดนอะไรมาวะ มึงเล่าให้พวกกูฟังหน่อยซิ?” เม้งรีบถามต่อทันทีขณะที่ประตูห้องปิดลง
“เอ่อ....กูก็จำไม่ได้ว่ะ...หมอบอกว่ากูโดนป้ายยา” ต่อตอบ
“เออ ว่ะ เห็นออกข่าวบ่อยๆ ไม่นึกว่าเรื่องจะมาเกิดกับมึง” เจมส์เสริม
“แล้ว.......??”
ต่อพูดพลางมองผ่านกลุ่มของเพื่อนไปรอบๆ ห้อง แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของเอก ต่อจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าก่อนจะสลบไปได้ยินเสียงของพี่เอกก้องอยู่ในหู
“พี่เอกของมึงอ่ะเหรอ??” โยถามหน้าทะเล้น
“ทำไมต้อง “พี่เอกของกู” ด้วยวะ” ต่อทำฟอร์มขึงขังแต่ในใจก็อายนิดๆ
“เช้านี้ พี่เอกของมึงไปให้ปากคำกับตำรวจอยู่ว่ะ” โยตอบ
“ทำไมต้อง “พี่เอกของกู” ด้วยวะ” ต่อทำฟอร์มขึงขังแต่ในใจก็อายนิดๆ
“เช้านี้ พี่เอกของมึงไปให้ปากคำกับตำรวจอยู่ว่ะ” โยตอบ
“เค้าเป็นคนที่ไปช่วยมึงเลยนะเว่ย......แถมมึงยังไปอ๊วกใส่เค้าอีก” เจมส์เล่าเหตุการณ์ในวันนั้นให้ต่อฟัง
“จิงเหรอมึง??? กูเนี่ยนะ??”
“เออ เห็นว่ามีเด็กผู้หญิงคนนึงไปเจอมึงเข้าอ่ะ ก็เลยเอามือถือของมึงโทรเบอร์ล่าสุด ปรากฏไปเจอพี่เอก ที่อยู่แถวสยามพอดี” เม้งอธิบายซะยืดยาว
“จิงเหรอมึง??? กูเนี่ยนะ??”
“เออ เห็นว่ามีเด็กผู้หญิงคนนึงไปเจอมึงเข้าอ่ะ ก็เลยเอามือถือของมึงโทรเบอร์ล่าสุด ปรากฏไปเจอพี่เอก ที่อยู่แถวสยามพอดี” เม้งอธิบายซะยืดยาว
“มึงอ่ะ เป็นหนี้บุญคุณเค้านะเว่ย” โยเสริม
“เออ น่า! กูรู้แล้ว....” ต่อบอกอย่างรำคาญ แต่ในใจก็แอบปลื้มกับความเป็นฮีโร่ของพี่เอก
“ไหน?....แล้วของๆ มึงยังอยู่ครบป่ะเนี่ย??”
“เออ น่า! กูรู้แล้ว....” ต่อบอกอย่างรำคาญ แต่ในใจก็แอบปลื้มกับความเป็นฮีโร่ของพี่เอก
“ไหน?....แล้วของๆ มึงยังอยู่ครบป่ะเนี่ย??”
โยเลิกผ้าห่มขึ้นแล้วคว้าหมับไปที่ควยของต่อ ต่อรีบปัดมือของโยออกไป!
“ไอ้แสรดด มึงนี่อุบาทว์ไม่เลิกนะ!” ต่อด่าโย
“ฮ่าๆๆ มึงด่ากูได้ กูก็มั่นใจแล้วว่ะว่ามึงหายดีแล้ว” โยทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
“ไอ้แสรดด มึงนี่อุบาทว์ไม่เลิกนะ!” ต่อด่าโย
“ฮ่าๆๆ มึงด่ากูได้ กูก็มั่นใจแล้วว่ะว่ามึงหายดีแล้ว” โยทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
ทั้งสี่คนต่างหัวเราะกับความคิดของโย โยเจมส์และเม้งจึงแยกย้ายกันไปนั่งตามโซฟาแล้วเก้าอี้สำหรับญาติผู้ป่วย แล้วอ่านหนังสือการ์ตูนหรือเล่นเกมส์กันไป
แต่ต่อยังคงสงสัยความรู้สึกของตัวเองตอนโดนไอ้โยจับควยเมื่อกี้นี้.....มันไม่เหมือนเดิม
ต่อรอจังหวะให้ทุกคนเผลอแล้วแอบเลิกผ้าห่มขึ้นเพื่อมองสำรวจน้องชายของตัวเอง.....แล้วต่อก็ต้องตกใจ!! เพราะน้องชายของตัวเองหัวเปิดแล้ว!!
ต่อรอจังหวะให้ทุกคนเผลอแล้วแอบเลิกผ้าห่มขึ้นเพื่อมองสำรวจน้องชายของตัวเอง.....แล้วต่อก็ต้องตกใจ!! เพราะน้องชายของตัวเองหัวเปิดแล้ว!!
..........ซวยแล้ว!! เรื่องที่เกิดขึ้นกับเราป็นเรื่องจริง!!!..........
..........................................................................................................................................
เอก คุณพล และคุณศรี นั่งอยู่เบื้องหน้าตำรวจใน สน. ในเวลาเกือบเที่ยง คุณศรียื่นเอกสารผลการตรวจร่างกายของต่อที่ได้มาจากโรงพยาบาลให้คุณตำรวจ ส่วนเอกได้ให้ปากคำกับตำรวจไปก่อนหน้านี้แล้ว
“จากของกลางทั้งหมดที่มี เราไม่พบร่องรอยหรือหลักฐานของคนร้ายเลยแม้แต่นิดเดียวครับ”
คุณตำรวจพูดพลางยื่นโทรศัพท์มือถือและกระเป๋าจาคอบของต่อคืนให้แก่คุณศรี
คุณตำรวจพูดพลางยื่นโทรศัพท์มือถือและกระเป๋าจาคอบของต่อคืนให้แก่คุณศรี
“เป็นไปได้ยังไงคะ? แล้วลายนิ้วมือ.....” คุณศรีถามย้ำเพื่อความแน่ใจ
“ทางเราตรวจสอบละเอียดถี่ถ้วนแล้วครับ คาดว่าคนร้ายน่าจะกระทำการมาอย่างต่อเนื่องและชำนาญเป็นอย่างดี”
ตอนนี้ทั้งคุณพลและคุณศรีส่ายหน้าอย่างหมดหนทาง
“ทางเราตรวจสอบละเอียดถี่ถ้วนแล้วครับ คาดว่าคนร้ายน่าจะกระทำการมาอย่างต่อเนื่องและชำนาญเป็นอย่างดี”
ตอนนี้ทั้งคุณพลและคุณศรีส่ายหน้าอย่างหมดหนทาง
“แต่ยังไงทางเราจะรับเรื่องแล้วลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน และจะรีบตรวจสอบกับฐานข้อมูลของ สน. อื่น ว่ามีกรณีที่คล้ายกันมั้ย ถ้าคืบหน้าอย่างไร ทางเราจะรีบแจ้งไปทันทีเลยครับ”
คุณพล คุณศรีและเอกเดินคุยกันลงมาจาก สน. เมื่อใกล้จะแยกย้ายกันเอกจึงเสนอขึ้นมา
“งั้นคืนนี้ผมเฝ้าน้องต่อเองครับ พี่พลพี่ศรีจะได้กลับบ้านไปพักผ่อนบ้าง” เอกเสนอขึ้นมา
“งั้นคืนนี้ผมเฝ้าน้องต่อเองครับ พี่พลพี่ศรีจะได้กลับบ้านไปพักผ่อนบ้าง” เอกเสนอขึ้นมา
“เกรงใจน้องเอกจังเลยครับ....น้องเอกก็ช่วยพวกพี่มาเยอะแล้ว” คุณพลตอบ
“ไม่เป็นไรครับ ผมยินดี อีกอย่างตั้งแต่วันนั้น พวกพี่ก็ยังไม่ได้กลับบ้านเลย...”
ในที่สุดคุณพลและคุณศรีก็ต้องยอมรับข้อเสนอของเอกและกลับบ้านไป ส่วนเอกก็นั่งแทกซี่มาเก็บเสื้อผ้าและข้าวของจำเป็นที่ห้องพัก แล้วก็ออกมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลทันที.....
“ไม่เป็นไรครับ ผมยินดี อีกอย่างตั้งแต่วันนั้น พวกพี่ก็ยังไม่ได้กลับบ้านเลย...”
ในที่สุดคุณพลและคุณศรีก็ต้องยอมรับข้อเสนอของเอกและกลับบ้านไป ส่วนเอกก็นั่งแทกซี่มาเก็บเสื้อผ้าและข้าวของจำเป็นที่ห้องพัก แล้วก็ออกมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลทันที.....
...................................................................................................................................................
เอกมาทันอาหารมื้อเย็นพอดี เอกเดินเข้าห้องมาก็เจอต่อที่กำลังนั่งอยู่บนเตียงทานอาหารคนไข้ แล้วดูข่าวในทีวีไปด้วย ส่วนเพื่อนๆ ของต่อทั้ง 3 คน นั่งล้อมวงอยู่บนพื้นและกำลังทานอาหารที่สั่งจากร้านข้างล่างขึ้นมา
รอบๆ วงนั้นกระจัดกระจายไปด้วยหนังสือการ์ตูน และเกมส์แบบพกพา ตามประสาเด็กผู้ชายทั่วๆ ไปที่มักจะวางของไม่เป็นระเบียบ.......จนไม่เหลือแม้แต่ทางเดิน! เอกมองสบตาไปที่เจ้าตัวดีที่นั่งอยู่บนเตียงแบบขำๆ
“พี่เอกหวาดดีค้าบบ....” ทั้ง 3 ยกมือไหว้พี่เอก เอกรับไหว้แล้วยื่นอาหารที่ซื้อขึ้นมาเผื่อให้ทั้ง 3 เปิดกินเผื่อไม่อิ่ม
“พี่เอกหวาดดีค้าบบ....” ทั้ง 3 ยกมือไหว้พี่เอก เอกรับไหว้แล้วยื่นอาหารที่ซื้อขึ้นมาเผื่อให้ทั้ง 3 เปิดกินเผื่อไม่อิ่ม
ต่อเห็นเอกแล้วบอกไม่ถูก เหมือนในกายมันร้อนผ่าวขึ้นมาจนถึงใบหน้า เอกเดินอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้เหยียบของที่กระจัดกระจายอยู่ มานั่งที่เก้าอี้ข้างเตียงของต่อ ตอนนี้ข่าวในทีวีกำลังสัมภาษณ์สาวออฟฟิสคนหนึ่งซึ่งโชคดี รอดจากการถูกข่มขืนโดยแทกซี่หนุ่มคนหนึ่งมาอย่างหวุดหวิด ในขณะที่คนร้ายหายตัวไปซะก่อนอย่างไร้ร่องรอย...............
แต่ตอนนี้ต่อสนใจคนที่มานั่งอยู่ข้างๆ มากกว่า พี่เอกผู้มีพระคุณที่ช่วยต่อไว้นี่เอง.....
“เป็นไงมั่ง ฮึ!” เอกพูดไปพลางยิ้มไป เอกดูเป็นกันเองกับต่อขึ้นมาก
“ไม่เป็นไรแล้วครับ” ต่อก้มหน้าอายๆ ไม่อยากสบตาเอกโดยตรง
“เป็นไงมั่ง ฮึ!” เอกพูดไปพลางยิ้มไป เอกดูเป็นกันเองกับต่อขึ้นมาก
“ไม่เป็นไรแล้วครับ” ต่อก้มหน้าอายๆ ไม่อยากสบตาเอกโดยตรง
“เอ่อ....ขอขัดจังหวะซักครู่นะครับ.....คือพวกผมขอตัวกลับก่อนนะครับ...เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาใหม่ครับ”
เจมส์พูดแทรกขึ้นมา ในขณะที่เม้งและโยยืนอยู่ข้างๆ
เจมส์พูดแทรกขึ้นมา ในขณะที่เม้งและโยยืนอยู่ข้างๆ
“เออๆ ขอบใจพวกเมิงมากว่ะที่มาช่วยดูแลกู....”
“แต่ทำไมต้องรีบกลับวะ? อยู่ต่อก็ด้าย”
ต่องงกับพฤติกรรมของเพื่อนๆ ปกติพวกมันจะสบายๆ ไม่เกรงอกเกรงใจกันขนาดนี้
“แต่ทำไมต้องรีบกลับวะ? อยู่ต่อก็ด้าย”
ต่องงกับพฤติกรรมของเพื่อนๆ ปกติพวกมันจะสบายๆ ไม่เกรงอกเกรงใจกันขนาดนี้
“พวกกูไม่อยากอยู่เป็นก้า......” โยพูดยังไม่ทันจบเม้งก็รับเอามือมาปิดปากโยไว้
“ไม่มีอะไรครับ แฮ่ะๆ” แล้วเม้งกับเจมส์ก็ลากตัวไอ้โยออกจากห้องไป
“พูดมากนะมึงอ่ะ!” เจมส์ตบหัวโยและกระซิบเบาๆ
.
.
“เพื่อนน้องต่อนี่ตลกดีนะครับ” เอกพูดขึ้นมาหลังจากทั้ง 3 คนออกไปแล้ว
“มันบ้าๆ บอๆ อย่างนี้แหละครับ” ต่อยิ้ม
“พี่เอกทานข้าวมารึยังครับ? ทานข้าวก่อนดีกว่ามั้ย?”
“เออ นั่นสิ ลืมไปเลย....”
ว่าแล้วเอกก็ไปเอาข้าวที่ซื้อขึ้นมา มานั่งทานกับต่อและดูข่าวในทีวีไปด้วยกัน อย่างสบายอารมณ์
“ไม่มีอะไรครับ แฮ่ะๆ” แล้วเม้งกับเจมส์ก็ลากตัวไอ้โยออกจากห้องไป
“พูดมากนะมึงอ่ะ!” เจมส์ตบหัวโยและกระซิบเบาๆ
.
.
“เพื่อนน้องต่อนี่ตลกดีนะครับ” เอกพูดขึ้นมาหลังจากทั้ง 3 คนออกไปแล้ว
“มันบ้าๆ บอๆ อย่างนี้แหละครับ” ต่อยิ้ม
“พี่เอกทานข้าวมารึยังครับ? ทานข้าวก่อนดีกว่ามั้ย?”
“เออ นั่นสิ ลืมไปเลย....”
ว่าแล้วเอกก็ไปเอาข้าวที่ซื้อขึ้นมา มานั่งทานกับต่อและดูข่าวในทีวีไปด้วยกัน อย่างสบายอารมณ์
.....................................................................................................................................
ณ ชั้นใต้ดินของสถานที่แห่งหนึ่ง เป็นสถานที่ๆ อับชื้น ตัดขาดจากโลกภายนอก เสียงน้ำที่รั่วออกมาจากท่อ หยดเป็นจังหวะดังอยู่ตลอด ชั้นใต้ดินนี้มีทางเดินยาว โดยบนเพดานของทางเดินยังคงติดหลอดไฟทังเสตนแบบเก่าที่ไม่ค่อยสว่างมากนัก ทำให้บรรยากาศดูสลัวๆ และมีแสงสว่างเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
ที่ปลายสุดของทางเดินทอดไปสู่ห้องๆ หนึ่ง ประตูไม้แบบโบราณ ที่หน้าประตูมีลายสลักรูปหน้าคนที่ดูแปลกตาไป แต่ก็ปนความสยองนิดๆ ข้างบนรูปหน้านั้นมีตัวอักษรภาษาอังกฤษสลักไว้เป็นคำว่า “Joker”
“ไหนว่ามาซิ!!! เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้ยังไง?”
ชายสวมชุดสูท ใส่หน้ากากตัวตลก กำลังนั่งอยู่เบื้องหน้าชายอีกกลุ่มหนึ่ง ทว่าชายที่สวมหน้ากากตัวตลกนั่งอยู่บนเก้าอี้แบบที่ผู้บริหารส่วนใหญ่นิยม เบื้องหน้ามีโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ที่ทำจากไม้โอ๊คอย่างดี นำเข้าจากอิตาลี ส่วนชายใส่เสื้อคลุมและแว่นกันแดดสีดำ 3 คน ที่นั่งอยู่เบื้องหน้าโต๊ะไม้นั้น กำลังนั่งห่อตัว ก้มหน้า บ่งบอกถึงภาวะเข้าตาจนบางอย่าง.....
ชายสวมชุดสูท ใส่หน้ากากตัวตลก กำลังนั่งอยู่เบื้องหน้าชายอีกกลุ่มหนึ่ง ทว่าชายที่สวมหน้ากากตัวตลกนั่งอยู่บนเก้าอี้แบบที่ผู้บริหารส่วนใหญ่นิยม เบื้องหน้ามีโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ที่ทำจากไม้โอ๊คอย่างดี นำเข้าจากอิตาลี ส่วนชายใส่เสื้อคลุมและแว่นกันแดดสีดำ 3 คน ที่นั่งอยู่เบื้องหน้าโต๊ะไม้นั้น กำลังนั่งห่อตัว ก้มหน้า บ่งบอกถึงภาวะเข้าตาจนบางอย่าง.....
“คือ.....มันคล้ายกันมากน่ะครับ พวกเราก็เลยจับผิดตัว”
“ผิดตัวได้ยังไง?? ...พวกคุณทำงานกันได้แค่นี้เรอะ!!!”
“ผิดตัวได้ยังไง?? ...พวกคุณทำงานกันได้แค่นี้เรอะ!!!”
“แต่ลูกค้าก็ชอบกันไม่ใช่เหรอครับโจ๊กเกอร์?” ชายแว่นดำที่นั่งอยู่ตรงกลางแย้งขึ้นมา
“ใช่! ผมไม่เถียง! แต่ประเด็นมันอยู่ที่ เรา-ห้าม-ผิด-พลาด!”
ชายใส่หน้ากากตัวตลกที่ดูเหมือนจะใช้ชื่อแฝงว่า “โจ๊กเกอร์” เอ็ดใส่ลูกน้อง
“ใช่! ผมไม่เถียง! แต่ประเด็นมันอยู่ที่ เรา-ห้าม-ผิด-พลาด!”
ชายใส่หน้ากากตัวตลกที่ดูเหมือนจะใช้ชื่อแฝงว่า “โจ๊กเกอร์” เอ็ดใส่ลูกน้อง
“ไม่อย่างนั้นผมจะผลักดันแผนนี้ให้เกิดขึ้นมาทำไม!!”
“..............” ไม่มีคำตอบจากลูกน้องทั้ง 3 คน
“..............” ไม่มีคำตอบจากลูกน้องทั้ง 3 คน
โจ๊กเกอร์หยิบกระเป๋าสตางค์ใบหนึ่งขึ้นมาจากลิ้นชักโต๊ะทำงาน พลางตรวจดูกระเป๋าสตางค์ใบนั้น จริงๆ แล้วมันคือกระเป๋าสตางค์ของต่อนั่นเอง!! โจ๊กเกอร์เจอรูปใบหนึ่งในกระเป๋าสตางค์ของต่อ จึงหยิบรูปใบนั้นออกมาพิจารณาดู
หลังจากพิจารณาดูแล้ว โจ๊กเกอร์จึงหยิบปากกาเมจิกบนโต๊ะขึ้นมาเขียนขยุกขยิกบนรูปใบนั้น เมื่อเสร็จแล้วจึงยื่นให้ชายแว่นดำที่นั่งตรงกลางเอาไปดู
“เอาล่ะ แต่เมื่อมันผ่านมาแล้วก็คงต้องจำเป็นบทเรียน แล้วคราวหน้าหวังว่าจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก”
“ครับ!” ลูกน้องทั้ง 3 คนรับคำ แล้วก็แยกย้ายกันออกจากห้องไป
“ครับ!” ลูกน้องทั้ง 3 คนรับคำ แล้วก็แยกย้ายกันออกจากห้องไป
โจ๊กเกอร์นั่งถอนหายใจแล้วพิงพนักเก้าอี้อยู่พักหนึ่ง จึงลุกขึ้นและเข้าไปทางประตูลับที่อยู่ด้านหลังม่าน ข้างหลังโต๊ะทำงาน เบื้องหลังประตูนั้นเป็นทางวกวนที่นำไปสู่ประตูห้องอีกหลายๆ ห้อง มีเสียงเหมือนคนกำลังโดนทรมานดังแว่วมาเป็นระยะๆ ทุกครั้งที่โจ๊กเกอร์เดินผ่านประตูแต่ละบาน และแล้วโจ๊กเกอร์ก็เปิดประตูเข้ามาสู่ห้องๆ หนึ่ง
ห้องนั้นก็ยังคงมืดสลัวๆ เหมือนทางเดินและอีกหลายๆ ห้อง ภายในห้อง มีชายหนุ่มผู้หนึ่งเปลือยกายและถูกแขวนตรึงห้อยลงมาจากเพดานในแนวขนานกับพื้น โดยสายสลิงที่แข็งแรงเป็นพิเศษ 4 เส้นที่แขวนจากเพดานตรึงกับร่างกาย 4 จุด คือที่สายหนังรัดข้อมือ 2 ข้าง และสายหนังรัดข้อเท้า 2 ข้าง ทำให้สภาพร่างกายของชายหนุ่มขณะนี้ อยู่ในท่ากางแขนกางขาลอยขนานกับพื้น
ข้างๆชายหนุ่มที่ถูกมัดอยู่นี้ มีชายอีกผู้หนึ่งยืนอยู่.... ชายผู้นี้ร่างกายกำยำเหมือนนักเพาะกาย ใส่กางเกงขาสั้นรัดรูป ทำจากหนังสีดำฟิตเปรี๊ยะและรองเท้าหนังสีดำ แต่ร่างกายท่อนบนเปลือยเปล่าทำให้เห็นลักษณะกล้ามเนื้ออย่างชัดเจน ชายผู้นี้ถือเอกสารบางอย่างอยู่ในมือและกล่าวรายงานกับโจ๊กเกอร์.......
“สวัสดีครับ โจ๊กเกอร์”
“ยังสลบอยู่เลยครับ อาชีพขับแทกซี่และค้ายาบ้า....”
“มีคดีข่มขืนแล้วฆ่าอยู่ 2 คดี.....”
“เจอตัวก่อนจะลงมือครั้งที่ 3 พอดีครับ!”
“ยังสลบอยู่เลยครับ อาชีพขับแทกซี่และค้ายาบ้า....”
“มีคดีข่มขืนแล้วฆ่าอยู่ 2 คดี.....”
“เจอตัวก่อนจะลงมือครั้งที่ 3 พอดีครับ!”
เมื่อชายล่ำคนนี้รายงานเสร็จก็เดินออกจากห้องไปอย่างรู้หน้าที่ ปล่อยให้โจ๊กเกอร์อยู่ในห้องกับชายหนุ่มนิรนามที่ถูกแขวนอยู่ตามลำพัง
โจ๊กเกอร์เดินไปข้างห้องเพื่อกดสวิทช์บางอย่าง ทำให้สลิงที่โยงอยู่กับข้อมือทั้ง 2 ข้างของชายหนุ่มผู้นั้นม้วนสั้นลง ส่งผลให้ส่วนหน้าของร่างกายเริ่มเชิ่ดแหงนขึ้นจนทำมุมอยู่ที่ 45 องศากับพื้น ทำให้ใบหน้าของชายหนุ่มผู้นั้นอยู่ตรงกับใบหน้าของโจ๊กเกอร์พอดี! โจ๊กเกอร์มองเห็นใบหน้าของคนขับแท็กซี่หนุ่มแล้ว ก็ต้องบอกว่าเป็นคนนึงที่หน้าตาดีเลยทีเดียว!
“อืมมม....” ชายหนุ่มผู้นั้นเริ่มรู้สึกตัว
เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ในท่าที่ไม่สบายเท่าไหร่ แถมเบื้องหน้ายังมีใครก็ไม่รู้ยืนอยู่ แถมใส่หน้ากากตัวตลกที่ไม่เข้ากับชุดสูทเลย
“เฮ้ย! มึงเป็นใครวะ!!” ชายหนุ่มเริ่มโวยวายเสียงดังพร้อมกับขยับตัว แต่ก็เพิ่งมารู้สึกตัวว่าขยับไม่ได้เพราะถูกมัดแขวนไว้กับสลิง
“ปล่อยกูนะโว้ย!! ไอ้เหี้ย! มึงเป็นใครวะ!!”
“ผมชื่อโจ๊กเกอร์ครับ ผมจะมาช่วยปลดปล่อยคุณ...”
“ผมชื่อโจ๊กเกอร์ครับ ผมจะมาช่วยปลดปล่อยคุณ...”
โจ๊กเกอร์พูดพลางยื่นมือที่สวมถุงมือหนังสีดำและชุ่มไปด้วยเจลหล่อลื่น ไปจับที่ควยของชายหนุ่มผู้นั้นที่ลอยอยู่กลางอากาศในสภาพกางแขนกางขา
“ปลดปล่อยเหี้ยไร!!! เอามือของมึงออกไป อีตุ๊ด!!! ถุย!!”
ชายหนุ่มผู้นั้นไม่พูดเปล่า ยังถุยน้ำลายใส่ที่หน้าของโจ๊กเกอร์ด้วย.......แต่โจ๊กเกอร์ก็ยังคงใจเย็น.....เย็นอย่างประหลาด โจ๊กเกอร์หันหลังให้แล้วเดินไปหยิบตะกร้าเล็กๆ ใบหนึ่ง
“มึงจะไปไหนอีตุ๊ด! ปล่อยกูลงเดี๋ยวนี้!! แล้วกูจะไม่เอาเรื่องมึง!”
ชายหนุ่มผู้นี้ท่าทางจะยังไม่ทราบชะตากรรมของตัวเอง
ชายหนุ่มผู้นี้ท่าทางจะยังไม่ทราบชะตากรรมของตัวเอง
โจ๊กเกอร์เดินกลับมายังเบื้องหน้าของชายหนุ่มพร้อมกับตะกร้าที่มีที่หนีบผ้าเต็มไปหมด แล้วก็ลงมือกับชายหนุ่มผู้นั้นทันที!
โจ๊กเกอร์ค่อยๆ บรรจงใช้ไม้หนีบผ้าหนีบลงไปที่หัวนมทั้งทั้ง 2 ข้างของชายหนุ่มผู้นั้นก่อนเป็นอันดับแรก
โจ๊กเกอร์ค่อยๆ บรรจงใช้ไม้หนีบผ้าหนีบลงไปที่หัวนมทั้งทั้ง 2 ข้างของชายหนุ่มผู้นั้นก่อนเป็นอันดับแรก
“โอ๊ย! ไอ้เหี้ย!! มึงจะทำอะไรกู!! ปล่อยกู!!” ชายหนุ่มผู้นั้นสั่งแต่ไม่เป็นผล
โจ๊กเกอร์เริ่มใช้ไม้หนีบผ้าหนีบลงไปตามส่วนอื่นๆ ของร่างกาย โดยหนีบไล่เรียงกันไปเรื่อยๆ
โจ๊กเกอร์เริ่มใช้ไม้หนีบผ้าหนีบลงไปตามส่วนอื่นๆ ของร่างกาย โดยหนีบไล่เรียงกันไปเรื่อยๆ
“อ๊ากกก!!...”
ชายหนุ่มผู้นั้นเริ่มรู้สึกถึงความเจ็บ ความเจ็บยิ่งทวีคูณมากขึ้นทุกครั้งที่จำนวนไม้หนีบตามร่างกายเพิ่มขึ้น
ชายหนุ่มผู้นั้นเริ่มรู้สึกถึงความเจ็บ ความเจ็บยิ่งทวีคูณมากขึ้นทุกครั้งที่จำนวนไม้หนีบตามร่างกายเพิ่มขึ้น
ตอนนี้ชายหนุ่มเริ่มดิ้นอย่างแรงโดยหวังว่าสิ่งที่พันธนาการอยู่จะขาดลงมาด้วยแรงดิ้น แต่ก็ไม่เป็นผลเลยเพราะลวดสลิงแข็งแรงมาก ชายหนุ่มแค่ทำให้เส้นลวดไหวไปมาอย่างเบาๆ เท่านั้นเอง
“เพี๊ยะ! เพี๊ยะ! เพี๊ยะ! เพี๊ยะ! เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!”
เสียงแส้ฟาดลงมาที่ก้นของชายหนุ่มผู้นั้นอย่างแรงจนแสบไปหมด
เสียงแส้ฟาดลงมาที่ก้นของชายหนุ่มผู้นั้นอย่างแรงจนแสบไปหมด
“อย่าดื้อสิครับ ถ้ายังดื้ออยู่ก็จะเจ็บตัวแบบนี้แหละครับ”
โจ๊กเกอร์พูดขึ้นและตั้งหน้าตั้งตาหนีบไม้หนีบต่อไป
โจ๊กเกอร์พูดขึ้นและตั้งหน้าตั้งตาหนีบไม้หนีบต่อไป
“ไอ้เหี้ย!!! ถ้ากูออกไปได้!! กูจะฆ่ามึง!! กูจะฆ่ามึง!!! อีตุ๊ด!!!”
ตอนนี้ชายหนุ่มสติแตกไปแล้วและรู้สึกเสื่อมเสียเกียรติยศลูกผู้ชายอย่างสุดแสนจะทนได้ ทุกคำด่าถูกขุดออกมาจากจิตใต้สำนึก แต่ก็ไม่ได้ทำให้โจ๊กเกอร์หยุดมือแม้แต่น้อย
ตอนนี้ชายหนุ่มสติแตกไปแล้วและรู้สึกเสื่อมเสียเกียรติยศลูกผู้ชายอย่างสุดแสนจะทนได้ ทุกคำด่าถูกขุดออกมาจากจิตใต้สำนึก แต่ก็ไม่ได้ทำให้โจ๊กเกอร์หยุดมือแม้แต่น้อย
“เหรอครับ?....แต่ชาตินี้ “ทั้งชาติ” คุณคงไม่ได้ออกไปจากที่นี่แล้วล่ะครับ หึหึ” โจ๊กเกอร์พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น
ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่ความเจ็บเริ่มเข้ามาแทนที่จนชายหนุ่มผู้นี้ต้องหยุดด่า แล้วหันมาหายใจสูดอากาศอย่างรุนแรง พร้อมทั้งหลับตาปี๋สลับกับกัดฟันกรอด เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดทางร่างกาย ตอนนี้เหงื่อกาฬของชายหนุ่มผุดขึ้นตามใบหน้าและร่างกาย จนหยดติ๋งลงพื้นห้อง
ในที่สุดผลงานของโจ๊กเกอร์ก็สำเร็จลง โจ๊กเกอร์มองดูผลงานของตัวเองอย่างภูมิใจ โดยใช้ไม้หนีบไปถึง 200 อัน ไล่หนีบเป็นแผงตั้งแต่ที่หน้าอกของชายหนุ่ม ตามแขนและสีข้างทั้ง 2 ด้าน ลงมาถึงขาหนีบและต้นขาอ่อนด้านใน รวมถึงแผงเล็กๆ ที่หนีบอยู่ตรงพวงไข่ของชายหนุ่มผู้นี้ด้วย
“ฮือ..... ฮือ...... ฮือ.......”
ชายหนุ่มสูดอากาศเข้าปอดเสียงดังราวกับม้าหนุ่มกลัดมัน โดยหวังว่าจะลดความเจ็บปวดลง แต่ในความเจ็บปวดนั้นกลับสร้างสรรค์ความรู้สึกบางอย่างที่ทำให้ควยของชายหนุ่มแข็งขึ้นมาและน้ำเงี่ยนใสไหลหยดเป็นสาย
ชายหนุ่มสูดอากาศเข้าปอดเสียงดังราวกับม้าหนุ่มกลัดมัน โดยหวังว่าจะลดความเจ็บปวดลง แต่ในความเจ็บปวดนั้นกลับสร้างสรรค์ความรู้สึกบางอย่างที่ทำให้ควยของชายหนุ่มแข็งขึ้นมาและน้ำเงี่ยนใสไหลหยดเป็นสาย
โจ๊กเกอร์ใช้มือทั้ง 2 ข้างไล้ไปเรื่อยๆ ตามแถบของไม้หนีบ ราวกับกำลังบรรเลงเปียโนก็ไม่ปาน สร้างความเจ็บปวดให้กับร่างกายของชายหนุ่มอย่างมหาศาล
“อ๊ากกกก!!........” ชายหนุ่มร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บ แต่โจ๊กเกอร์ก็ยังไม่หยุดมือ
“กูยอมแล้ว! แฮ่ก แฮ่ก กูยอมแล้ว!.......แฮ่ก มึงจะให้กูทำอะไรกูก็ยอม!.......” ชายหนุ่มยื่นข้อเสนอ
“ง่ายนิดเดียวครับ ผมจะช่วยคุณปลดปล่อยความเงี่ยน แล้วค่อยปล่อยตัวคุณไป” โจ๊กเกอร์บอก
“ส่วนคุณก็ตะโกนว่า “กูอยากเย็ดตุ๊ด” ไปเรื่อยๆ ห้ามหยุด ไม่งั้นผมจะหยุดมือทันที!”
“ส่วนคุณก็ตะโกนว่า “กูอยากเย็ดตุ๊ด” ไปเรื่อยๆ ห้ามหยุด ไม่งั้นผมจะหยุดมือทันที!”
“ก็ได้!” ชายหนุ่มรับข้อเสนอ เพราะเงี่ยนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
โจ๊กเกอร์เริ่มลงมือใช้เจลหล่อลื่นชักที่ควยของชายหนุ่มทันที!
โจ๊กเกอร์เริ่มลงมือใช้เจลหล่อลื่นชักที่ควยของชายหนุ่มทันที!
“กูอยากเย็ดตุ๊ด ๆ ๆ ๆ”
ชายหนุ่มตะโกนไปเรื่อยๆ ความเสียวซ่านที่ควยเริ่มมากขึ้นจนน้ำเงี่ยนหยดเป็นสายยาวจนเกือบแตะพื้น
ชายหนุ่มตะโกนไปเรื่อยๆ ความเสียวซ่านที่ควยเริ่มมากขึ้นจนน้ำเงี่ยนหยดเป็นสายยาวจนเกือบแตะพื้น
“โอย กูอยากเย็ดตุ๊ด ๆ ๆ ๆ”
ชายหนุ่มตะโกนพลางหลับตา สูดอากาศ ความเจ็บปวดยังคงมีอยู่ทั่วร่างกาย แต่ความเสียวแบบใหม่ก็เกิดขึ้นที่ส่วนกลางของร่างกายด้วย
ชายหนุ่มตะโกนพลางหลับตา สูดอากาศ ความเจ็บปวดยังคงมีอยู่ทั่วร่างกาย แต่ความเสียวแบบใหม่ก็เกิดขึ้นที่ส่วนกลางของร่างกายด้วย
“อูย..... กูอยากเย็ดตุ๊ด ๆ อูย...ตูดแน่นๆ กูอยากเย็ดตุ๊ด ๆ ๆ ๆ”
โจ๊กเกอร์อยากจะขำแต่ก็ต้องกลั้นไว้ ตอนนี้ไม่รู้ว่าชายหนุ่มโดนบังคับให้พูดหรือพูดออกมาจากส่วนลึกข้างในกันแน่ ตอนนี้ควยของชายหนุ่มแข็งราวกับท่อนไม้ เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าใกล้แตกเต็มทีแล้ว! แถมยังกะเด้าเอวไปตามจังหวะการชักของโจ๊กเกอร์ด้วย
โจ๊กเกอร์อยากจะขำแต่ก็ต้องกลั้นไว้ ตอนนี้ไม่รู้ว่าชายหนุ่มโดนบังคับให้พูดหรือพูดออกมาจากส่วนลึกข้างในกันแน่ ตอนนี้ควยของชายหนุ่มแข็งราวกับท่อนไม้ เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าใกล้แตกเต็มทีแล้ว! แถมยังกะเด้าเอวไปตามจังหวะการชักของโจ๊กเกอร์ด้วย
“โอ้วว กูอยากเย็ดตุ๊ด!ๆๆๆ...อูย ตูดแน่นๆ กูอยากเย็ดตุ๊ด!ๆๆๆ...แม่งเอ๊ย! กูอยากเย็ดตูดตุ๊ด!ๆๆๆ อ่ะห์ อ่ะห์ อ่ะห์ อ่ะห์........”
“ปื้ด...ปื้ด....ปื้ด...ปื้ดปื้ด ปื้ด....”
“ปื้ด...ปื้ด....ปื้ด...ปื้ดปื้ด ปื้ด....”
ในที่สุดชายหนุ่มก็น้ำแตกคามือของโจ๊กเกอร์ แถมน้ำขาวขุ่นยังพุ่งต่อเนื่องไปไกลเกือบ 1 เมตร ตอนนี้ชายหนุ่มหมดแรงจนห้อยต่องแต่งอยู่บนสลิง
หลังจากนั้นโจ๊กเกอร์ก็ค่อยๆ ถอดไม้หนีบออกจากร่างกายของชายหนุ่มทีละอันๆ
“ฮื่อออ....”
เสียงโล่งใจของชายหนุ่มดังขึ้นที่ไม้หนีบอันสุดท้ายถูกถอดออกไป ชายหนุ่มคิดในใจว่าในที่สุดก็จบเสียที! แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่!!!
เสียงโล่งใจของชายหนุ่มดังขึ้นที่ไม้หนีบอันสุดท้ายถูกถอดออกไป ชายหนุ่มคิดในใจว่าในที่สุดก็จบเสียที! แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่!!!
“ใครบอกคุณเหรอครับ?? ว่ามันจะจบแค่นี้...มันเพิ่งจะเริ่มต้นต่างหาก ฮ่าๆๆ” โจ๊กเกอร์กลับคำ
แถมเดินไปหยิบของเทียมสีดำ ขนาด 7 นิ้วมาไว้ในมือ โจ๊กเกอร์ใช้มือข้างหนึ่งใส่เจลและเริ่มแยงนิ้วไปที่รูตูดของชายหนุ่มจนชายหนุ่มสะดุ้งโหยง!
แถมเดินไปหยิบของเทียมสีดำ ขนาด 7 นิ้วมาไว้ในมือ โจ๊กเกอร์ใช้มือข้างหนึ่งใส่เจลและเริ่มแยงนิ้วไปที่รูตูดของชายหนุ่มจนชายหนุ่มสะดุ้งโหยง!
“อยากเย็ดตูด? ก็ต้องรู้ก่อนนะครับว่าคนโดนเย็ดรู้สึกยังไง ฮ่าๆๆ” โจ๊กเกอร์หัวเราะอย่างสะใจ
“ยะ....อย่านะโว้ย!! ไอ้เหี้ย!! อย่า!! อย่า.......................”
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าของเทียมแท่งนั้นจะโดนยัดไปที่ส่วนไหนของร่างกาย........
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าของเทียมแท่งนั้นจะโดนยัดไปที่ส่วนไหนของร่างกาย........
....................................................................................................................................................
ชายแว่นดำทั้ง 3 คนต่างปรึกษากันอยู่ในห้องประชุมลับแห่งหนึ่ง.......
“เอายังไงดี? ลูกพี่” หนึ่งในนั้นพูดขึ้นมา
“เอายังไงดี? ลูกพี่” หนึ่งในนั้นพูดขึ้นมา
คนที่ดูเหมือนจะเป็น “ลูกพี่ของกลุ่ม” ก็พูดขึ้นมาทันที
“งั้นเรามาวางแผนกัน ว่าจะทำยังไง”
“คราวนี้ต้องไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก”
“ไอ้ห่าโจ๊กเกอร์ เห็นมันพูดเพราะๆ อย่างงั้น ตัวจริงแม่งโหดชิบหาย!!” ลูกพี่อธิบาย
“งั้นเรามาวางแผนกัน ว่าจะทำยังไง”
“คราวนี้ต้องไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก”
“ไอ้ห่าโจ๊กเกอร์ เห็นมันพูดเพราะๆ อย่างงั้น ตัวจริงแม่งโหดชิบหาย!!” ลูกพี่อธิบาย
จากนั้นลูกพี่จึงยื่นรูปที่โจ๊กเกอร์หยิบออกมาจากกระเป๋าสตางค์ของต่อ ให้ลูกน้องทั้ง 2 คนดู
“เอ้า! ขั้นแรก....จำหน้ามันไว้ให้ดีๆ”
“เอ้า! ขั้นแรก....จำหน้ามันไว้ให้ดีๆ”
ทั้งหมดต่างผลัดกันดูรูปที่ต่อพกไว้ในกระเป๋า ซึ่งเป็นรูปของต่อ โย เจมส์ และเม้ง 4 คนที่ถ่ายด้วยกันเมื่อเร็วๆ นี้เอง! บนรูปยังคงมีรอยปากกาเมจิกที่โจ๊กเกอร์ได้เขียนไว้.........โดยมีรอยวงกลมรอบใบหน้าของ 1 ใน 4 คนนั้น
.
.
.
และมีลายมือของโจ๊กเกอร์เขียนว่า
.........J…A…M…E…S.........
.
.
.
และมีลายมือของโจ๊กเกอร์เขียนว่า
.........J…A…M…E…S.........
........................................................................................................................................
จบตอน
Kink Team เขียน
Kink Team เขียน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น