วันอังคารที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2558

Season Two2 (Rising of SM) : Episode 2: Someone

Kinky Opera
>>Season Two2 (Rising of SM)<<
.....ความรัก ความแค้น ความหวัง.......พลัง กำเนิด สรรค์สร้าง
....สมหวัง เจ็บปวด เลือนราง........เส้นทาง ความทุกข์ ระทม
Episode 2: >> Someone <<
.
.
“ติ๊งงงง...”
เสียงลิฟท์เบื้องหน้าโยดังขึ้น สัญลักษณ์ไฟบ่งบอกว่าลิฟท์ได้จอดลงที่ชั้น 1 และพร้อมสำหรับให้บริการ โยจึงก้าวเข้าไปในลิฟท์และกดปุ่มที่ชั้น 9
วันนี้ต่อจะได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ส่วนเจมส์และเม้ตอนนี้อยู่ข้างบนกับต่อ ซึ่งโยได้ตามมาสมทบในภายหลังในช่วงสายๆ
“รอด้วยครับๆ..........”
เสียงเด็กหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้นขณะที่ประตูลิฟท์กำลังจะปิด ทำให้โยต้องรีบกดปุ่ม “Open”
พอโยมองหน้าคนที่กำลังเข้าลิฟท์มาก็ตกใจขึ้นมาทันที! มาร์คนั่นเอง! ส่วนมาร์คเองก็ตกใจไม่แพ้กัน แต่ก็ก้าวเข้ามาแล้ว อยู่ๆ จะออกจากลิฟท์ไปคงน่าเกลียดแย่.....ทั้งสองคนจึงต้องจำใจขึ้นลิฟท์ไป
..........ทำไมต้องมาเจอมันตอนนี้ด้วยวะ???...........
โยคิดในใจ
...........แหม....ถึงกับซื้อกระเช้ามาเยี่ยมเลยเรอะ!....เวอร์ซะไม่มีอ่ะ.........
มาร์คเองก็อึดอัดเช่นกัน เพราะดูเหมือนโยจะมองด้วยสายตาจับผิดอยู่ตลอดเวลา ก็เลยคิดว่าจะพูดเรื่องวันนั้นซะเลย ถึงแม้โอกาสจะไม่เหมาะก็ตาม
“เอ่อ...โย........ติ้งงงง.....”
ยังไม่ทันที่มาร์คจะได้พูดอะไรลิฟท์ก็หยุดที่ชั้น 7 ซะก่อน ญาติคนไข้จำนวนหนึ่งได้เดินเข้ามาสู่ลิฟท์ทำให้โอกาสของมาร์คสลายไป
.
.
“ติ้งงง......” ในที่สุดลิฟท์ก็หยุดที่ชั้น 9
โยอยู่ตรงแถวหน้าประตูลิฟท์จึงออกมาได้ก่อน เมื่อออกมาได้โยจึงรีบเดินจ้ำอ้าวไปที่ห้องของต่อทันที ส่วนมาร์คอยู่ข้างในจึงออกมาได้ช้ากว่าแถมทุลักทุเลด้วยกระเช้าเยี่ยมอันใหญ่
.......โธ่เว้ย! ไอ้พี่แม็ก บอกให้เอากระเช้าเล็กๆ ก็พอ ไม่น่าฝากซื้อเลยกู.........
มาร์คคิดในใจ และกว่าจะออกมาได้ก็แทบแย่
“โย!.....เดี๋ยวโย!.....” มาร์คตะโกน
แต่ไม่ทันซะแล้ว โยเดินเลี้ยวตรงหัวมุมไปแล้ว มาร์ครู้แต่เบอร์ห้องของต่อแต่ยังไม่เคยมาที่นี่เลย จึงใช้เวลาเดินหาห้องพอสมควร
“ก็อกๆๆ” มาร์คเคาะประตูห้องก่อนเปิดเข้าไป
มีคนอยู่ในห้องหลายคนเลย ต่อนั่งอยู่บนเตียงกับพี่เอกที่เคยเจอกันตอนต่อเข้าห้องฉุกเฉิน เม้ง เจมส์ นั่งอยู่บนโซฟา รวมถึงโยที่นั่งหน้าไม่สบอารมณ์อยู่ตรงนั้น
........เฮ้อ! สงสัยรีบเยี่ยมรีบกลับดีกว่ามั้ง?..........
มาร์คคิดในใจ
“อ้าว! มาร์ค! มาได้ไงเนี่ย? นั่งก่อนๆ” ต่อรีบเชิญชวนผู้มาเยี่ยม
“เอ้อ...นี่เรากับพี่เราเอาของเยี่ยมมาให้อ่ะ เดี๋ยววางไว้ตรงนี้ละกันนะ...”
แล้วมาร์คก็วางของเยี่ยมไว้ตรงที่ว่างข้างทีวี
“ขอบใจมากนะ ฝากขอบใจพี่ของมาร์คด้วยนะ” ต่อบอกมาร์ค
“ไม่เป็นไรๆ ว่าแต่หายแล้วเหรอ?” มาร์คถาม
“อื้มม เดี๋ยววันนี้ก็ออกจากโรงพยาบาลแล้ว” ต่อตอบ
“เอ้อ..... เด๋ววันนี้ไปด้วยกันดิ ที่บ้านเราเค้ามีเลี้ยงต้อนรับกลับบ้านอ่ะ” ต่อชวนมาร์คให้ไปที่บ้านด้วย
“เอ่อ...พอดีเรา....” มาร์คกำลังจะปฏิเสธแต่ต่อก็ขัดขึ้นมาซะก่อน
“ไม่ได้นะเว่ย.....ไม่ได้คุยกันตั้งนาน ต้องมาอัพเดทหน่อย....”
“แต่....ไอ้มาร์ค...” โยกำลังจะพูดขึ้นมาแต่ดูเหมือนไม่มีใครสนใจ
“เออ ใช่ๆ ไปนะๆ” พอเม้งกับเจมส์ก็เห็นด้วยกับต่อ โยจึงหมดความพยายามที่จะพูดไปเสียดื้อๆ
มาร์คจึงต้องยอมแบบขอไปที เบื้องหลังมาร์ครู้สึกถึงสายตาน่ากลัวคู่หนึ่งที่น่ากลัวทีเดียว เหมือนตอนเด็กๆ ไม่มีผิด
เมื่อพี่เอกเคลียร์เรื่องค่ารักษาพยาบาลที่ได้รับมาจากคุณศรีอีกทีหนึ่งเสร็จแล้ว ทั้งหมดจึงพากันเก็บข้าวของออกไปจากห้องเพื่อไปขึ้นรถที่จอดรออยู่ด้านล่าง
ดีที่บ้านของต่อมีรถคันใหญ่คือ Toyota Alphard ทั้งหมดจึงไม่ต้องนั่งเบียดกันมาก แต่ปัญหาก็เกิดขึ้นอยู่ดีเนื่องจากแถวหลังสุดเต็มไปด้วยของเยี่ยมจากหลายๆ คน แถมแค่เจมส์กับเม้งนั่งก็เต็มแล้ว ส่วนแถวกลางต่อกับพี่เอกก็นั่งไปแล้ว อีก 2 คน คือมาร์คกับโยคงต้องนั่งด้านหน้าข้างคนขับรถ
โยถึงกับเซ็งไม่รู้กี่รอบแล้ววันนี้ โยไม่ได้รังเกียจมาร์คอะไรมากมาย เพียงแค่ช่วงนี้ยังทำใจไม่ได้เท่านั้นเอง ถ้าเลี่ยงได้ก็ไม่อยากจะเห็นหน้ามาร์ค แต่นี่......
“เอ้า! ขึ้นดิ” โยเปิดประตูค้างไว้เพื่อให้มาร์คขึ้นไปก่อน
“ขอบใจนะ” มาร์คพยายามพูดดีกับโยแต่เจ้าตัวก็เฉยๆ
.
.
.
ในที่สุดทั้งหมดก็มาถึงบ้านของต่อ พี่หมิงรีบกุลีกุจอออกมาต้อนรับทันที!
“โถ่...น้อต่อ เปงายบ้าง...หาลื้อยา เจะโตหนายบ้าง???” (โถ่...น้องต่อเป็นไงบ้าง หายหรือยัง เจ็บตรงไหนบ้าง)
พี่หมิงรัวคำถามเป็นชุดด้วยความเป็นห่วง โดยไม่เปิดโอกาสให้ต่อได้พูดซักคำ ทุกคนต่างก็ขำแต่ก็อดปลื้มใจกับต่อไม่ได้ที่มีแต่คนเป็นห่วง ทั้งหมดเดินเข้าไปในบ้านที่ห้องอาหาร โดยมีคุณพลและคุณศรีรออยู่แล้ว
ทั้งหมดไหว้ทำความเคารพก่อนที่จะนั่งลงบนโต๊ะตัวใหญ่ที่เต็มไปด้วยอาหารต่างๆนานา แล้วจึงลงมือรับประทานอาหารเที่ยงกันอย่างมีความสุข
.....................................................................................................
หลังจากทานอาหารเที่ยงเสร็จแล้ว พลและคุณศรีจึงปลีกตัวไปที่บริษัทในช่วงบ่าย ส่วนเอกและเด็กๆ ที่เหลือจึงขึ้นไปนั่งคุยเล่นบนห้องของต่ออย่างเพลิดเพลินจนเวลาล่วงเลยมาถึงตอนเย็น ในที่สุดทั้งหมดก็ต้องขอตัวกลับบ้าน ยกเว้นเอกที่ต้องอยู่เป็นเพื่อนต่อก่อนเพราะพี่หมิงไปตลาดเย็น เอกจึงไม่อยากปล่อยให้ต่ออยู่บ้านคนเดียว
“เออๆ แล้วค่อยนัดกันเว่ย” ต่อกำชับกับเพื่อนๆ เพราะมีแผนจะไปเดินสยามกัน
เจมส์กับเม้งให้คนรถมารอรับที่หน้าบ้านของต่ออยู่แล้ว ส่วนโยนัดกับพี่ยอดไว้แถวๆ ศาลาแดงจึงขอตัวกลับเองเช่นเดียวกับมาร์คที่ปฏิเสธจะให้เม้งไปส่ง จริงๆแล้วเป็นเพราะอยากหาโอกาสคุยกับโยมากกว่า.......
มาร์คเดินออกมาที่หน้าหมู่บ้านกับโย โดยที่โยยังคงเงียบมาตลอดทาง
“โย เมิงหายโกรธกูเถอะนะ....” มาร์คเริ่มต้นพูดขึ้น
“แล้วทำไมกูต้องโกรธมึงด้วยอ่ะ?” โยพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
มาร์คถึงกับเหนื่อยใจกับคำตอบ แล้วที่ทำวันนั้นมันไม่เรียกว่าโกรธแล้วเรียกว่าอะไร (วะ?)
“กูยอมรับว่ารูปพวกนั้นกูเป็นคนถ่ายเอง แต่ถ่ายไว้นานแล้ว ว่าจะทิ้งก็ยังไม่ได้ทิ้ง”
มาร์คพยายามอธิบาย
“แล้วไอ้พี่แม็กก็ (เสือก) ไปขุดมาจากไหนไม่รุ.......”
“แล้วมึงชอบไอ้ต่อมั้ยล่ะ??” โยถามแบบตรงประเด็นสุดๆ
“ทะ....ทำไมมึงถามกูแบบนี้อีกละ” มาร์คยังคงเลี่ยงไม่ตอบคำถาม
“กูชอบมึงนะ มึงไม่ชอบกูบ้างเลยเหรอ?” โยถามมาร์คอีกครั้ง
คราวนี้มาร์คหน้าแดง หัวใจเต้นตึกๆ อย่างไอ้โยเนี่ยนะจะมาสารภาพรักกับมาร์ค แต่ว่าความรักแบบชายกับชายนี้อาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับเด็กหนุ่มในวัยนี้ที่จะรับมือกับมันก็เป็นได้
“ทำไมวะ แค่บอกว่าชอบหรือไม่ชอบมันยากมากนักเหรอ?” โยรุกเร้าเข้าไปอีก
“กูไม่รู้จะเรียกความรู้สึกนี้ว่าอะไรอ่ะ เวลาอยู่กับไอ้ต่อกู.....รู้สึกเหมือนอยู่กับพี่ ส่วนเวลาอยู่กับมึง กู...ก็...รู้สึกดีอ่ะ”
มาร์คตอบละล่ำละลักแต่ก็น่าจะเป็นคำตอบที่ออกมาจากใจที่สุดแล้ว
“เฮอะ......แค่รู้สึกดีเหรอ?” โยหัวเราะด้วยความสมเพชตัวเอง
“นะ มึงเลิกโกรธกูเหอะ เด๋วกูเล่นบาสเป็นเพื่อนมึงตลอดปิดเทอมนี้เลย” มาร์คยังคงง้อโยต่อไป
.
.
“.......กูว่าปิดเทอมนี้อย่าเพิ่งเจอกันเลยดีกว่าว่ะ ขอกูทำใจหน่อยเหอะ” โยตอบ
“โถ่!...ไอ้โย....” มาร์คหมดหนทาง
“เอ้า....นี่กุญแจห้องมึง กูยังไม่ได้คืน”
โยพูดพร้อมยื่นกุญแจคืนให้มาร์ค เป็นเวลาเดียวกับที่ทั้ง 2 คนเดินมาถึงหน้าหมูบ้านของต่อพอดี ซึ่งแท็กซี่ได้จอดรอไว้อยู่แล้ว โยจึงก้าวขึ้นแท็กซี่ไปอย่างไม่ลังเล แต่ก่อนจะปิดประตูโยก็หันมาพูดกับมาร์ค
“ไว้มึงแน่ใจกับความรู้สึกของตัวเองแล้วค่อยบอกกูก็แล้วกัน”
โยปิดประตูรถแล้วแท็กซี่ก็ออกรถไป ส่วนมาร์คไม่มีคำพูดใดๆ นอกจากความเสียใจกับกุญแจห้องที่โยทิ้งไว้
.......................................................................................................................................
เอกและต่อนอนดูทีวีอยู่ในห้องนอนกัน 2 คน เอกพยายามจะหาเวลาคุยกับต่อมานานแล้วก็ยังไม่สบโอกาสสักที โดยเอกยังคงคาใจเกี่ยวกับเรื่องที่ต่อโดนลักพาตัวไป เอกจับสังเกตได้ว่าต่อกำลังปิดบังความจริงบางอย่างไว้........
“น้องต่อ....น้องต่อบอกพี่ได้มั้ยว่าวันนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง?” เอกถามแบบไม่ให้ต่อได้ตั้งตัวเลย
“ผมก็บอกไปแล้วไงเล่า.....ว่าจำไม่ได้”
ต่อแกล้งทำเป็นดูทีวีต่อไป ในใจไม่คิดว่าเอกจะขุดเรื่องนี้ขึ้นมาอีก
“แต่น้องต่อหายตัวไปตั้งหลายชั่วโมงนะ เท่าที่พี่นับดู....”
เอกเป็นคนที่เก็บรายละเอียดได้ดีมาก และตอนนี้กำลังจะใช้มันเป็นเครื่องมือทำให้ต่อคายความจริงออกมาให้ได้
“ก็ผมสลบไงล่ะ พี่ก็เห็น...” ต่อยังคงยืนกราน
“อืมมม....พี่ว่ามันแปลกๆ นะ คนร้ายเอากระเป๋าตังค์ไป แต่ไม่เอามือถือไป......เหมือนไม่ได้อยากเอาเงิน.....”
“ทั้งๆ ที่พี่ว่าเอามือถือไปขายน่าจะได้เยอะกว่า หรือไม่ก็เอาทั้ง 2 อย่างไปเลย.......”
เอกทำเป็นวิเคราะห์ให้ต่อฟัง
........โหย พี่ไม่รู้ว่าตัวผมประมูลได้เท่าไหร่ มากกว่าทั้งกระเป๋าตังค์กับมือถือรวมกันอีก........
ต่อคิดในใจ
“แล้วตำรวจเค้าว่าไงล่ะครับ?” ต่อหยั่งเชิงถามเอกบ้าง
“เค้าสงสัยว่าจะเป็นการชิงทรัพย์ แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้าเลย.....”
“.....แล้วถ้ามันไม่ใช่การชิงทรัพย์ล่ะ มันจะเป็นอะไรน้อ......”
เอกยังคงวิเคราะห์ต่อไป ต่อเริ่มเหงื่อแตกพลั่ก พลางคิดในใจ
........เมื่อไหร่จะเลิกถามวะ ขี้เกียจโกหกแล้วนะเว่ย!!.........
........มันไม่ได้ชิงทรัพย์หรอกครับ แต่มันปล้นสวาทผมเต็มๆ!!........
เอกจึงขึ้นไปนอนคร่อมอยู่ข้างบนตัวของต่อ เพื่อให้สายตาประสานกัน
“น้องต่อเชื่อใจพี่มั้ยครับ?” เอกเริ่มใช้ไม้ตาย
“ผมก็ต้องเชื่อใจพี่อยู่แล้วดิ” ต่อพูดออกไปแต่กลับหลบสายตาของเอก
“แล้วทำไมต้องหลบตาพี่ด้วยครับ หืมม?.....”
พอร่างของเอกมาอยู่ด้านบนมันเหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่างที่ทำให้ต่อรู้สึกเชื่อมั่นในตัวของพี่เอก จริงๆแล้วต่อก็ไม่อยากจะแบกความลับอันนี้เอาไว้คนเดียวและไม่อยากโกหกอีกต่อไป......
“งั้นผมบอกพี่คนเดียวนะ พี่ห้ามไปบอกพ่อกับแม่นะ”
“ครับ” เอกตอบ
“สัญญานะครับ?” ต่อถามย้ำเพื่อความแน่ใจ
“ถ้าไม่ถึงกับเรื่องคอขาดบาดตาย พี่สัญญาว่าจะไม่บอกครับ”
“คือ.......ผมไม่รู้จะเริ่มยังไงดี.....”
“งั้นเริ่มจากก่อนที่จะเกิดเรื่องก็ได้ครับ?” เอกแนะ
“ผมเชื่อใจพี่นะ ผมถึงเล่าอ่ะ.......”
ต่อเริ่มนึกภาพย้อนหลังแล้วเล่าให้เอกฟัง ตอนที่สอบเสร็จช่วงบ่ายๆ แล้วเดินออกมาที่หน้าโรงเรียนเพื่อเตรียมตัวกลับบ้าน หลังจากแยกย้ายกับเพื่อนๆ แล้ว ต่อก็เดินออกมาตามซอยเพื่อมารอคนรถที่หน้าปากซอย ระหว่างนั้นขณะที่กำลังฟังเพลงอยู่ จู่ๆ ก็มีรถตู้มาจอดด้านข้าง แล้วมีกลุ่มชายฉกรรจ์จับต่อขึ้นไปบนรถแล้วโปะยาสลบ........
หลังจากนั้นต่อก็เล่าว่าจำอะไรไม่ได้เลย จนกระทั่งไปฟื้นอยู่ในห้องๆ หนึ่งที่ค่อนข้างมืดเต็มไปด้วยลุงแก่ๆ ที่มาประมูลกันเพื่อกระทำชำเราต่อ!!!
เอกฟังแล้วก็อึ้งกับเรื่องที่เจ้าตัวเล่าออกมา!!
“นี่เรื่องจริงเหรอครับน้องต่อ!!”
“โหย...พี่เอกหาว่าผมโกหกเหรอ?... แล้วพี่จะให้ผมเล่าทำไมอ่ะ”
“ป่าวๆ พี่ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น.....พี่แค่อยากบอกว่ามันเป็นเรื่องที่เสี่ยงและมากๆ น้องต่อรอดมาได้นี่ก็ถือว่าโชคดีสุดๆ แล้วน้องต่อ....เอ่อ....เสียหายตรงไหนหรือเปล่า?”
เอกเพิ่งจะค้นพบว่าการพูดเรื่องอย่างว่ากับเด็กนี่เป็นเรื่องยากเย็นเสียจริงๆ.......
“แล้วเสียหายของพี่เอกหมายถึงอะไรล่ะครับ?”
“ก็......ตรง.....ข้างหน้าหรือข้างหลังอ่ะ.....” คราวนี้กลับเป็นเอกที่พูดด้วยความอาย
“ป่าวอ่ะ....แค่ข้างหน้าอ่ะคับ” ต่อตอบ
ต่อตอบ แต่ไม่รู้ว่าทำไมเอกถึงรู้สึกโล่งใจเป็นพิเศษ
“แต่.....ผมมีอีกเรื่องจะปรึกษาพี่ด้วยอ่ะ....” ต่อถามเอกด้วยสีหน้าจริงจัง
“คือ.....ผมโดนพวกนั้นจับรูดจนหัวมันเปิด พอมันเปิดแล้วมันรูดกลับไม่ได้อ่ะคับ ต้องทำไงอ่ะ?”
ตอนนี้เอกรู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองกำลังยืนอยู่ตรงทางแยกระหว่างจรรยาบรรณกับความต้องการของตัวเอง ใจหนึ่งก็สงสารเพราะน้องถามด้วยความไม่รู้ อีกใจหนึ่งก็อยากใช้โอกาสนี้ปลดปล่อยความอัดอั้นตันใจที่มีมานาน แต่เอกจะเลือกทางไหนดี???
“น้องต่อคงต้องให้พี่ดูแล้วล่ะ” เอกบอก
“โหย......ใครจะไปกล้า”
“อ้าว! จะอายทำไมล่ะครับผู้ชายเหมือนกัน ถ้าไม่ให้ดูแล้วพี่จะบอกได้ไง?”
“ไม่รู้ล่ะ ผมรู้สึกเสียเปรียบ ถ้าพี่ได้ดูของผม ผมก็ต้องได้ดูของพี่ด้วย!”
ต่อไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงพูดออกไปแบบนั้น แต่ก็แอบหวังลึกๆ อยู่เหมือนกัน ว่าเหตุการณ์ในความฝันคืนนั้นจะกลายเป็นความจริงขึ้นมา ตอนนี้ต่อไม่สนใจแล้วว่าพี่เอกจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ขอแค่เป็น “พี่เอก” ก็เพียงพอแล้ว
“นะ....พี่เอกกก......” ต่อยังคงอ้อนวอน
......ไหงมันมาลงอีหรอบนี้วะ! กูอุตส่าห์ห้ามใจแล้วนะเฟร้ยยย!!!......
เอกคิดในใจ ในที่สุดด้านมืดก็เข้าครอบงำเอก เอกรู้ดีว่าปลายทางของเรื่องนี้จะนำไปสู่อะไร แต่ก็ตอบออกไป เป็นไงเป็นกัน!!!
“งั้นก็ได้ครับ!”
เอกจึงยืนขึ้นแล้วถอดเสื้อและกางเกงออกจนเหลือแต่กางเกงในตัวเดียว ต่อยังคงอึ้งกับความกล้าของเอกแต่ในเมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วต่อจึงไม่อยากให้เสียโอกาส ต่อจึงถอดเสื้อผ้าออกจนเหลือแต่กางเกงในบ้าง ตอนนี้เอกลงมานอนอยู่ข้างๆ ต่อซึ่งนอนควยแข็งอยู่ตั้งแต่ที่เห็นเอกถอดเสื้อแล้ว
“ไหนขอพี่ดูหน่อยนะครับ......”
เอกนอนตะแคงหันหน้ามาทางต่อ พร้อมกับใช้มืออีกข้างถกกางเกงในของต่อลงมา แต่ต่อจับมือของเอกไว้ซะก่อน
“ให้ผมเห็นของพี่ก่อนสิครับ!” ต่อบอกกับเอก
เอกอดขำไม่ได้ เหมือนต่อคิดว่าตัวเองต้องโดนเอาเปรียบอยู่แน่ๆ เอกจึงถลกกางเกงในของตัวเองลงไปอยู่ที่เข่า ต่อถึงกับตลึงกับขนาดควย 7.5 นิ้วของเอกที่แข็งอยู่ มิน่าล่ะเวลาอยู่ในกางเกงว่ายน้ำถึงตุงนัก ไหนจะขนหมอยที่ดกดำจนลามมาเกือบถึงสะดือและขาหนีบทั้ง 2 ข้าง!!
“คราวนี้พี่ดูของน้องต่อได้รึยังครับ?”
“อืมมม....” ต่อตอบแบบอายๆ
เอกถลกกางเกงในของต่อลง จึงพบกับควยของต่อที่ผงาดรออยู่แล้ว!! พอหัวควยของต่อเปิดแล้วก็ดูใหญ่และยาวขึ้นถนัดตาประมาณเกือบ 6 นิ้ว แถมบริเวณหัวหน่าวก็มีหมอยขึ้นปกคลุมจนเกือบเต็มแล้ว....
“ขอพี่ดูใกล้ๆ หน่อยนะ พี่มองไม่ถนัดเลย.....”
เอกจึงเลื่อนตัวลงมาอยู่ที่ระหว่างขา 2 ข้างของต่อ โดยให้ต่อนอนกางขาไว้
“อืมมม...สงสัยมันจะบวมนะครับ มันเลยรั้งอยู่ ถ้าหายบวมแล้วคงจะรูดกลับขึ้นได้....” เอกมองอย่างพิจารณา
ต่อรู้สึกเงี่ยนมากๆ ที่โดนพี่เอกจ้องควยอยู่อย่างนี้ แถมเบื้องหน้ายังเห็นพี่เอกปลายกายอยู่ด้วยทำให้ต่อเริ่มความคิดเตลิด แถมยังกระดกควยทำให้น้ำเงี่ยนไหลออกมาเป็นสาย ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ในสายตาของเอกทั้งสิ้น
“นี่ตั้งแต่วันนั้นยังไม่ได้เอาออกเลยใช่มั้ยครับ?” เอกถาม
ต่อพยักหน้าเบาๆ
“งั้นให้พี่ช่วยมั้ยครับ?” ต่อพยักหน้าเบาๆ อีกครั้งด้วยความอาย
“แต่ไม่ใช้มือได้มั้ยครับ? ผมเคยลองทำแล้วแต่มันยังเจ็บอยู่”
ซึ่งก็หมายความว่าให้เอกใช้ปากนั่นเอง แต่ก็ไม่เกินความสามารถของเอก เพราะเอกมีประสบการณ์โชกโชนอยู่แล้ว....
เอกจึงครอบปากลงที่ควยของต่อทันที! ความอุ่นในปากของเอกแผ่ซ่านไปรอบๆ ควยของต่อ ต่อรู้สึกถึงริมฝีปากของเอกที่ขยับขึ้นลงสลับกับแรงดูดเป็นจังหวะ น้ำลายในปากของเอกช่วยลดแรงเสียดทานได้เป็นอย่างดีทำให้ต่อไม่รู้สึกเจ็บ แต่กลับเสียวเป็นพักๆ เวลาที่หัวควยของตัวเองสัมผัสกับคอหอยของเอกอีกด้วย
“อ่ะ....อ่ะ.....ห่ะ.......”
“จ๊วบ...อลุก...อลุก...จ๊วบ”
ต่อเผลอตัวครางด้วยความเสียวออกมาสลับกับเสียงดูดของเอก
ตอนนี้เอกก็อารมณ์กระเจิดกระเจิงเหมือนกัน ตอนนี้ควยของเอกแข็งเต็มที่พอๆ กับต่อแล้ว เมื่อดูดขึ้นลงไปได้พักหนึ่ง เอกจึงหันมาใช้ลิ้นดุนลงไปตรงๆ ที่หัวควยของต่อ
“ซี๊ด....อูย.....พี่เอก....โอย.......เสียว....”
คราวนี้ต่อทั้งครางทั้งดิ้น และพยายามใช้ขาดันตัวให้เลื่อนพ้นจากปากของเอก แต่เอกก็ใช้กำลังแขนอันแข็งแกร่งล็อคที่โคนขาและเอวของต่อเอาไว้!!
ต่อเสียวมากจนต้องเอามือทั้งสองข้างมาดันหัวของเอกออกไปแต่เอกกลับลงลิ้นหนักกว่าเดิมจนต่อเสียวมากและไม่มีแรงแม้แต่จะดันหัวของเอกออกไป ได้แต่ยอมรับชะตากรรมและความเสียวสุดๆ ที่เอกมอบให้ สลับกับการสูดหายใจอย่างรุนแรงเพื่อบรรเทาความเสียว
เอกรู้สึกได้ถึงความเค็มที่ปลายลิ้นเป็นระยะๆ บ่งบอกว่าต่อเสียวมากจนปล่อยน้ำเงี่ยนใสออกมาเรื่อยๆ
“พะ...พี่เอกพอแล้ว แฮ่ก แฮ่ก.......” คราวนี้ต่อจะทนไม่ไหวจริงๆ เลยต้องบอกให้เอกหยุด!
เอกถอนปากออกมาจากควยของต่อแล้วยิ้มที่มุมปาก
“ให้พี่พอแค่นี้จริงๆ เหรอครับ?” เอกถามต่อ แต่ต่อกลับส่ายหน้า
“งั้นบอกพี่สิครับ ว่าต่ออยากให้พี่ทำอะไร?”
“ผมอยากให้พี่เอกดูดควยให้ผมครับ”
“งั้นพูดไปเรื่อยๆ นะครับ พี่อยากได้ยินเสียงน้องต่อ”
เมื่อเอกพูดจบเอกจึงครอบปากลงมาดูดควยต่อไป แต่คราวนี้ไม่แกล้งต่อแล้ว เอกดูดขึ้นดูดลงทำให้ต่อเสียวมากยิ่งขึ้น...
“อูยย...พี่เอกครับ...ดูดควยผมเลยครับ...”
“จ๊วบ...อลุก...อลุก...อลุก...”
“โอย...เสียวจังเลยครับพี่เอก....”
“อลุก...อลุก...อลุก...อลุก...”
“อ๊ะห์.....พี่...พี่เอก....ผมจะแตกแล้วครับ...”
“อ๊าห์........อ่ะ อ่ะ อ่ะ อ่ะห์........”
ต่อเกร็งควยแล้วฉีดน้ำควยเข้าไปในปากของเอกอย่างต่อเนื่อง เอกก็กลืนกินจนหมดแถมเลียส่วนที่เหลือด้วย
“ฮื้อ....ฮื้อ....ฮือ......อืออ....”
ต่อยังคงนอนหายใจหอบถี่เพราะใช้พลังงานไปมากเหมือนกัน
ส่วนเอกก็ใช่ย่อย เพราะเงี่ยนมาตั้งนานแล้ว เอกเลื่อนมานั่งชันเข่าคร่อมอยู่เหนือร่างของต่อ น้ำเงี่ยนใสของเอกไหลเยิ้มจนเป็นสายลงมาที่หน้าท้องของต่อ เอกชักควยของตัวเองอย่างต่อเนื่อง ใช้เวลาไม่นานนักเอกก็น้ำแตก เอกคงเสียวมากจนน้ำขาวขุ่นช็อตแรกจึงพุ่งไปไกลจนโดนหัวเตียงก่อน ช็อตต่อๆมาจึงพุ่งไปโดนผมของต่อบ้าง ที่หน้าของต่อบ้าง จนช็อตท้ายๆ ถึงพุ่งมาโดนแถวๆหน้าอกของต่อ ตอนน้ำแตกเอกไม่ได้มองต่อเลย พอตอนนี้มองลงมาที่ต่อก็พบว่าต่อหลับตาปี๋นอนจมกองน้ำรักของเอกอยู่
“โหย....ทำไมพี่เอกน้ำเยอะอย่างงี้อ่ะ” เจ้าตัวดีบ่นโอดโอย พลางใช้มือปาดน้ำรักของเอกออกไปจากใบหน้า
“ทำเป็นบ่น ทีพี่ยังกลืนของเราเลยนะ...นี่แน่ะ!” เอกพูดเสร็จก็แกล้งต่อโดยการป้ายน้ำรักไปที่ปากของต่อ
“แหวะ!.......เค็มอ่ะ” ต่อทำหน้าตาเหยเก....
เอกรู้สึกหมั่นเขี้ยวต่อมาก จึงโน้มตัวไปจูบต่อเป็นการตบท้าย
“อึก....อึ้มม......” ต่อพยายามจะขัดขืนแต่ก็ไม่เป็นผล
ตอนนี้เอกถอนปากออกมาแล้วยิ้มให้ต่อ
“ป่ะ ไปอาบน้ำกันเถอะ”
เอกลุกขึ้นแล้วช่วยดึงมือต่อขึ้นด้วย แล้วทั้งสองคนก็เดินเข้าห้องน้ำไป.......
...............................................................................................................................
ในเวลาเกือบ 1 ทุ่ม ต่อกำลังจะเดินออกไปส่งเอกที่หน้าหมู่บ้าน แต่เอกก็ห้ามไว้ซะก่อน เพราะกลัวจะเกิดเรื่องกับต่ออีก จึงให้ต่อมาส่งแค่ที่หน้าบ้านพอ ส่วนเอกนั้นจะเดินออกไปเอง ในระหว่างที่ 2 คนกำลังเปิดประตูหน้าบ้านอยู่นั้น ก็มี รปภ. หนุ่มคนหนึ่งกำลังขี่จักรยานตรวจความเรียบร้อยรอบๆ หมู่บ้าน ขณะที่ รปภ. หนุ่มคนนี้เจอหน้าต่อกับเอกก็รีบทักทายด้วยท่าทางขึงขังทันที!
“สวัสดีครับ!!!”
ต่อและเอกยิ้มให้รปภ.หนุ่มคนนั้น เป็นเรื่องปกติของหมู่บ้านนี้ที่รปภ.จะถูกฝึกมาอย่างดี และให้ทักทายลูกบ้านได้ตามสมควร ซึ่งเป็นสิ่งที่ต่อและเอกชินแล้ว
“งั้น.....ผมส่งแค่นี้นะครับ”
“เอ่อ ตอนนี้ก็ปิดเทอมแล้ว....พี่คงไม่ได้มาสอนน้องต่อซักระยะนะครับ”
“โหย..... งั้นกว่าผมจะเจอพี่เอกก็เปิดเทอมเลยดิ” เจ้าตัวดีโอดครวญ
“ก็แค่ 2 อาทิตย์กว่าๆ เองครับ นี่ไง....พี่ก็เลยจะถามน้องต่อว่า ถ้าพี่จะชวนน้องต่อไปดูหนังกินข้าวบ้าง น้องต่อจะสะดวกมั้ยครับ?”
“ถ้าพี่เอกชวนก็ต้องว่างอยู่แล้วซิครับ” ต่ออมยิ้ม
“สัญญากับพี่แล้วนะ...งั้นเดี๋ยวค่อยคุยกันนะครับ”
“บ๊าย บาย ครับพี่เอก”
เอกยิ้มให้เจ้าตัวดีทีนึงก่อนจะเดินออกจากบ้านไป ส่วนต่อได้แต่อมยิ้มและหัวใจพองโต
.......อิอิ....ยังกะชวนออกเดทแน่ะ.......
ต่อคิดในใจ
.......แต่...มีแต่คนเค้าออกเดทแล้วค่อยมามีอะไรกัน.......ทำไมของเรามีอะไรกันแล้วค่อยไปเดทหว่า??.......
....................................................................................................................................
.
.
.
รปภ. หนุ่มขี่จักรยานตรวจบ้านหลังสุดท้ายเสร็จก็หยิบเอกสารขึ้นมาลงบันทึกความเรียบร้อย แต่รปภ.หนุ่มก็เขียนเครื่องหมายดอกจันท์ไว้ที่บ้านเลขที่ 11/111 พลางพึมพำกับตัวเองด้วยเสียงเบาๆ
“ไอ้เด็กเวรนี่เอง!!.......ที่ขโมยกางเกงในกู......”
................................................................................................................................................
จบตอน
Kink Team เขียน

ไม่มีความคิดเห็น:

เด็กหอ 8 CP

มื่อกานต์เก็บของจากห้องตัวเองเสร็จ จึงมาหาอาจารย์ภัทรที่ห้อง ส่วนภัทรอาบน้ำทำความสะอาดเนื้อตัวเรียบร้อย ควยของภัทรแข็งรอกานต์อยู่นานแล้ว &...