วันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ยอดขุนพล 18

ตอนที่ 31 ขี้คุก (3)
*** ตอนนี้ได้คุณ Normalboy มาช่วยเขียนให้ ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ครับ -/-
*** Enjoy reading นะครับทุกท่าน

ไม่เชื่อมึงถามพวกมันดูได้ มันหันหน้าไปหาเพื่อนๆขี้คุกของมันที่ตอนนี้รอดูฉากเด็ดระหว่างหัวโจกของมันกับแม่ทัพสุดแค้น อีกอย่าง กรุไม่ได้เอาน้ำออกมาสองอาทิตย์มึงคิดดูเอาแล้วกันว่าน้ำกรุจะเยอะขนาดไหน ถึงถามคนที่กรุ***มันล่าสุดก็ได้ น้ำไอ้นี่มันเยอะจริงนะมึง กรุบอกได้เลย แตกทีเป็นสิบระลอก แถมพุ่งแรงสุดๆ วันนี้กรุจะ***มึงแล้วแตกในตัวมึงให้สะใจ พอกรุแตกเสด ถอน***ออกจากตูดมึง มึงต้องอั้นน้ำ***พวกกรุเอาไว้ ห้ามใช้มือช่วยอุด ถ้าทำได้ มึงรอดตาย แต่ถ้าทำไม่ได้ ไอ้สองคนมึงมานี่ จับโซ่คนละข้าง มึงจำหน้าลูกเมียมึงได้ไหม  กรุจำได้ มึงเปนห่วงมันไหม  ห่วงดิ ไอ้สองคนที่เรียกมาน้ำตาเริ่มคลอ  ต้นเหตุคือไอ้***นี่ คนที่ส่งพวกเรามาที่นี่ คนที่ส่งพวกเราไม่ให้เจอกับลูกกับเมีย ไม่รู้ว่ามีชีวิตอยู่หรือตาย เพราะงั้น ถ้ามันปล่อยให้น้ำ***ทะลักออกมาละก็ มึงอย่าลังเล ดึงโซ่ให้รัดคอมันจนขาดใจตาย  มันพยักหน้ารับคำ เอาล่ะ ขอโทษด้วยที่กรุอึดไปหน่อย ปกติกรุ***ทีเป็นชั่วโมง กรุจะเร่ง***มึง ฉีดน้ำ***เข้ารูตูดมึงส่งมึงไปลงนรกเร็วๆ ไอ้หัวโจกนี่เอาจริง มัน***ด้วยความรุนแรงเหมือนสัตว์ เข้าสุดออกสุด กระแทกแต่ละทีแม่ทัพสั่นไปทั้งตัว จนในที่สุด โอ้ยเชี่ยยยยย น้ำกรุจะออกแล้วววว  จะออกแล้ววววววว  เตรียมรับน้ำ***กรุนะไอ้สัสสสสส สิ้นสุดคำพูดไอ้หัวโจกยกขาข้างนึงของแม่ทัพขึ้นให้แหกออก แล้วกดหัว***ไปในรูตูด โชว์ลำ***ยาวๆ ที่กำลังกระตุกเอาน้ำ*** พุ่งออกไปตามลำ ระลอกแล้วระลอกเล่า ปรี๊ดดดด ปรี๊ดดดดดด ปรี๊ดดดดด ปรี๊ดดดดดดด ปรี๊ดดดดดดดดดดดด โอ้ยยยยย ซู่เหวินร้องด้วยความปวดท้องอย่างรุนแรง ยังไม่หมดโว้ยยยยยย  ลำ***กระตุกคาอยู่ในรูตุดแม่ทัพเป็นสิบที เล่นเอาคนดูอึ้งไปตามๆกัน เอาล่ะ กรุจะถอน***ออกละนะ มันค่อยๆถอนหัว***ใหญ่ๆออกมาทีละน้อย สองคนด้านข้างกำโซ่แน่น เตรียมดึงจนสุดแรง  ซู่เหวินระลึกถึงคำพูดที่ให้มีสติทุกวินาที แม้ว่าจะเจ็บปวดแค่ไหนก็ต้องทน แม่ทัพข่มใจลืมความเจ็บปวด ตั้งใจขมิบรูตูดไม่ให้น้ำ***ไหลออกมา  ในที่สุด หัว***บานๆก็หลุดออกจากรูของแม่ทัพดัง บ๊อกกกกกก น้ำใสๆจากน้ำ***บางส่วนไหลกระเด็นออกมาจากรูตูด พร้อมกับเสียงโซ่ครูดกันดังและรัดคอตนเอง ซู่เหวินใจหายไปที่ตาตุ่ม กำมือแน่น เกร็งไปทั้งตัว .................    และแล้วมันก็ทำสำเร็จ มันสามารถอั้นน้ำ***นักโทษทั้ง 20คนไว้ได้ ไอ้หัวโจกยิ้มพอใจ เก่งมาก ซู่เหวินลืมตามาพร้อมกับเสียงปรบมือของไอ้พวกขี้คุก ข้าทำสำเร็จหรือไม่  “ยัง”  เสียงปรบมือหยุดลง กรุเห็นมึง***แข็งมานานแล้ว กรุอยากดูมึงน้ำแตกว่ะ ถ้ามึงน้ำแตกได้โดยไม่มีอะไรไหลออกจากตูดมึง กรุถึงจะปล่อยมึงไป แม้ว่าจะเกลียดมันแค่ไหนก็ต้องทน จบคำพูดซู่เหวินเร่งชักว่าวให้ตัวเอง ด้วยความที่โดน***มาร่วมหกชั่วโมง อารมณ์จึงถูกปลุกได้ไม่ยาก เพียงแค่ห้านาที ***แม่ทัพเกร็งแน่น ไข่หดมาที่โคน*** หัว***บานแดงก่ำ อ๊ากกกกกกก  ซู่เหวินทั้งต้องยอมให้ตัวเองแตก ทั้งๆที่ต้องเกร็งรูตูดไม่ให้น้ำ***ไหลออก  ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด  น้ำ***แม่ทัพพุ่งสูงจากหัว***ไปจนเกือบถึงเพดาน แล้วก็พุ่งออกมาอีกเป็นสิบระลอก   ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด  นักโทษทั้ง 20 คนอ้าปากค้างทึ่งในปริมาณน้ำ***  แม่งงงง เยอะกว่าไอ้หัวโจกอีกว่ะ   สัสเอ้ยยย น้ำ***แม่ทัพเหรอเนี่ยย พุ่งไม่หยุด น้ำ***ที่พุ่งขึ้นไปสาดกระเซ็นมาเต็มเนื้อเต็มตัวไปหมด มือแม่ทัพยังเกร็งแน่นด้วยความเจ็บปวดเพื่อกลั้นไม่ให้น้ำ***ทะลัก ไอ้หัวโจกหลังจากที่เห็นภาพแม่ทัพน้ำแตกก็หันมายักหน้าให้ไอ้คนถือโซ่ เอาโซ่ออกจากคอซู่เหวิน  ซู่เหวินลืมตาเจอหน้าไอ้หัวโจก มันพูดว่า  เอาหล่ะ ปล่อยได้ แม่ทัพเบิกรอยยิ้มดีใจในความสำเร็จครั้งนี้ พร้อมถอนหายใจ น้ำ***ปริมาณมหาศาลพุ่งออกจากรูตูด แพร่ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด  กระจายเป็นวงกว้างเต็มพื้น กลิ่นคาวคละคลุ้งเต็มคุก พอซู่เหวินหายปวดท้องก็หน้ามืดจนสลบไป......
จบหน้่าที่ 6

ยอดขุนพล 17

ตอนที่ 30 หึงหวง

ผู้คุมยกชามน้ำเยี่ยวเทราดไปบนตัวของหงเว่ยจนทุกอณูรูขุมขนมีแต่น้ำปัสสาวะ ส่งกลิ่นเหม็นสาปไปทั่วทั้งร่าง คนดูทั้งหลายร้องเฮสนุกสนาน

“เจอแบบนี้ยังฆวยแข็งได้อยู่อีก สุดยอดไปเลย ท่านหงเว่ยย ข้าน้อยขอคารวะ” คนดูเยาะ
“คงจะเงิ่ยนไปตามประสาเด็กหนุ่มกลัดมัน” อีกคนเสริม
“ไหนๆ ก็กินน้ำเยี่ยวได้แล้ว ข้าอยากเห็นท่านเว่ยกินน้ำเงี่ยนให้ดูเป็นบุญตาสักหน่อยได้ไหม” อีกคนถามโฆษก

“เป็นความคิดที่ดี ข้าเสนอเพียงสิบตำลึงเท่านั้นแลกกับการให้หงเว่ยอมฆวยและน้ำแตกใส่ปาก” พิธีกรตอบ

เหล่าคนดูจำนวนมากมาที่นี่ก็เพื่อการณ์นี้อยู่แล้ว ฝูงผู้ชมรีบลุกขึ้นจากที่นั่ง จ่ายค่าบริการเพียงเล็กน้อย แลกกับความสะใจที่ได้เห็นฆวยตัวเองถูกองค์ชายเลียอม แถมแตกใส่ปากได้อีก ถือว่าคุ้มค่ามาก

ไม่นานนัก ฝูงชนจำนวนมากก็ไปยืนมุงล้อมหงเว่ยไว้ตรงกลาง แต่ละคนปลดกางเกงตัวเองออก และงัดฆวยที่แข็งรอเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจากการรับชมการแสดงของหงเว่ย

บรรดาแท่งฆวยนับไม่ถ้วนอยู่รายล้อมองค์ชายที่น่าสงสาร บรรดาชายแก่ชายหนุ่มทั้งหลายต่างหยิบยื่นลำฆวยตัวเองให้หงเว่ย บังคับให้หนุ่มหล่อดูดเลียอย่างสะใจ หงเว่ยมองไปทางไหนก็มีแต่อวัยวะเพศที่แสนน่าเกลียดอยู่เบื้องหน้า จำใจฝึนอมไปทั้งน้ำตาที่หลั่งรินจนแทบเป็นสายเลือด นัยตามีแต่ความเศร้าและสำนึกผิด

แวบนึงที่ดวงตาสวยของหงเว่ยหันไปสบปะทะเข้ากับดวงตาที่ดุดันของซู่เริ่นผู้นั่งดูอยู่เบื้องบน หงเว่ยหลบสายตาทันทีแต่กระนั้นสายน้ำตาก็ยังคงหลั่งไหลออกมาไม่หยุด ไม่ต่างจากน้ำหล่อลื่นของบรรดาคนดูที่เลอะเต็มปากของเขา

ในจังหวะที่ดวงเนตรของซู่เริ่นชนเข้ากับความโศกเศร้าระคนสำนึกผิดของหงเว่ย ความเครียดแค้นเกลียดชังก็เบาบางลงไป และถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย ความรู้สึกสงสารระคนเจ็บใจ ความรู้สึกสะใจเจือปนด้วยความรู้สึกผิด

ความอดทนต่อภาพที่ซู่เริ่นกำลังเห็นตรงหน้าสิ้นสุดลง เขาทนไม่ได้ที่เห็นหงเว่ยในสภาพแบบนี้ เขาทนไม่ได้ที่เห็นหงเว่ยกำลังปรนเปรอความสุขให้ชายอื่น.....ที่ไม่ใช่เขา

เขากำลังหึง!

“วันนี้พอแค่นี้ก่อน ข้าขอโทษทุกท่านจริงๆ วันนี้การแสดงจบลงแล้ว” ซู่เริ่นยืนประกาศชัด น้ำเสียงแสดงความมุ่งมั่นชัดเจน

“อะไรกันท่าน พวกเรากำลังติดลมบนกับไอ้ทาสตัวนี้อยู่ อีกอย่างพวกเราก็จ่ายเบี้ยให้ท่านไปแล้ว พวกเราเป็นเจ้าของไอ้ทาสตัวนี้” คนดูเอ่ยขณะกำลังส่งฆวยเข้าปากหงเว่ย

“เป็น-เจ้า-ของ-ไอ้ทาสตัวนี้” ประโยคนี้เหมือนบาดเข้าไปในอกของซู่เริ่น เขาไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องโกรธขนาดนี้ เขารู้เพียงว่าหงเว่ยเป็นสมบัติของเขา เป็นทาสของเขาคนเดียวเท่านั้น

“ข้ายินดีคืนเบี้ยทุกสลึงให้พวกท่าน และแถมอัฐอีกเล็กน้อยเป็นค่าเรียกขวัญปลอบใจ เช่นนี้เป็นอย่างไร?” ซู่เริ่นต่อรอง

“เมื่อว่าวติดลมบนแล้วย่อมเอาลงได้ยาก อย่างไรเสียวันนี้พวกข้าต้องได้แตกใส่ปากไอ้หมอนี้” คนดูย้อน

ซู่เริ่นเริ่มโกรธจัด เขาพึ่งรู้ตัวว่าไม่ต้องการให้ผู้อื่นมาแสดงความเป็นเจ้าของในตัวหงเว่ยนอกจากเขา เขาไม่ชอบที่เห็นชายอื่นมาใช้ปากกระจับของหงเว่ยเพื่อเสพสมความสุข เขาต้องการครอบครองหงเว่ยแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น หงเว่ยเป็นสมบัติส่วนตัวของเขา

“ในเมื่อพูดกันดีๆ แล้วไม่รู้เรื่อง งั้นข้าไม่เกรงใจละนะ” ซู่เริ่นกล่าว

ไม่ช้า ร่างล่ำสันกำยำพร้อมชุดคลุมสีทองสว่างของซู่เริ่นของสบัดออก ทะยานเข้าสู่ใจกลางลานแสดง เซียนสิงห์ทองเพียงกวาดมือไปในอากาศ ปราณก็พุ่งปะทะฝูงชนจนกระเด็นลอยล่องออกไป ซู่เริ่นเข้าคว้าร่างที่ใกล้หมดสติของหงเว่ย แล้วหมุนตัวกลืนหายไปในอากาศ
..............................................................................................................................................................................

ฝั่งเทพจิ้งจอกเงินเอ้าเทียน หลังจากจัดการฝังศพหงฟู่แล้วก็เร่งเดินทางเข้าสู่วังหลวงเพื่อช่วยเหลือแม่ทัพ
ซู่เหวิ่นโดยไวไม่รอช้า

ขณะที่กำลังโลดแล่นทะยานอยู่บนยอดไม้สูงเพื่อมุ่งสู่ที่หมาย จู่ๆ เอ้าเทียนก็รู้สึกหม่นๆ ขึ้นในจิตใจ รู้สึกไม่ค่อยสบายใจนัก ภาพของจอมมารงูดำคมเข้มแทรกเข้ามาในความคิด ภาพที่จอมมารจุมพิตลงบนใบหน้าของเขา นึกถึงความอุ่นของลมหายใจของจอมมารปล่อยออกมารดต้นคอของจิ้งจอกหนุ่ม

“ป่านนี้ อู๋ทงจะเป็นอย่างไรบ้างนะ? รู้สึกไม่ค่อยดีเลย” จิ้งจอกขาวหยุดพึมพำกับตัวเองชั่วครู่ ก่อนจะพุ่งร่างต่อไปทางวังหลวงอย่างรวดเร็วจนสายตามนุษย์มองไม่ทัน
ตอนที่ 31 ขี้คุก

“ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร จงเร่งผูกมิตรกับนักโทษเหล่านี้ไว้ คนเหล่านี้จะยังประโยชน์ให้ท่านได้ในภายภาคหน้า”

เสียงของเซียนหนุ่มผมสีขาว ใส่ชุดประกายเงิน ดูองค์อาจและน่าเลื่อมใสกำลังพูดกับเขา-แม่ทัพซู่เหวิ่น ก่อนที่ภาพของเทพคนดังกล่าวจะค่อยๆ เลือนหายไปช้าๆ

“อย่าๆๆ อย่าไปไป ช่วยข้าด้วย ช่วยข้าที” แม่ทัพซู่เหวิ่นตะโกนเสียงดัง ขณะที่เซียนหนุ่มค่อยๆ สลายร่างไป

“จงมีสติในทุกลมหายใจ” นั่นคือคำพูดสุดท้ายของจิ้งจอกเงิน ก่อนที่แม่ทัพซู่จะตกใจตื่นขึ้นมา

ช่างเป็นฝันที่แปลกประหลาด!!!
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ภายในคุกอาญาแห่งวังหลวง

“ท..ที่นี่...ที่ไหน?” แม่ทัพซู่ค่อยๆ ลืมตาหลังจากหมดสติ ถามออกไปด้วยเสียงแหบแห้ง

หลังจากที่แม่ทัพซู่เหวิ่นถูกจับตัวมา ก็ถูกคุมขังอยู่ในคุกหลวง ที่ซึ่งเป็นสถานที่จองจำนักโทษที่ทำความผิดร้ายแรง ที่สำคัญนักโทษเหล่านี้มากกว่าครึ่งหนึ่งถูกแม่ทัพซู่เหวิ่นจับและส่งตัวมายังที่นี่ เท่ากับว่าตอนนี้ แม่ทัพซู่อยู่ท่ามกลางศัตรูที่เต็มไปด้วยความแค้น

แม่ทัพซู่รูปงามบัดนี้มีแต่หนวดเครารกรุงรัง ผิวคล่ำลงไปมาก นอนไม่ได้สติอยู่บนพื้นสกปรก ไม่มีเสื้อผ้าสวมใส่สักชิ้น ขณะที่นักโทษในนั้นมีมากกว่ายี่สิบคน แต่ละคนล้วนกำหนัดอย่างแรง เพราะไม่เคยได้ร่วมสังวาสกับใครมานานหลายปี

การที่แม่ทัพอยู่ที่นี่จึงแทบไม่ต่างจากโสเภณีไร้ราคา ต้องทำหน้าที่ปรนนิบัติชายฉกรรจ์นับยี่สิบคน

 “ที่นี่นะหรอ?...ก็เรือนสมสู่ของพวกข้ากับเจ้าไง” นักโทษคนหนึ่งตอบ

แม่ทัพซู่ค่อยๆ ตั้งสติ มองไปรอบๆ ก็เห็นแต่เหล่านักโทษที่ตนเคยจับส่งมายังคุกหลวง สีหน้าแต่ละคนเต็มไปด้วยความโกรธแค้น นักโทษแต่ละคนยืนเรียงราย ล้อมรอบแม่ทัพซู่

“เรามาเล่นสนุกกันดีกว่าอดีตท่านแม่ทัพผู้เกรียงไกร ฮ่าๆๆๆ” นักโทษคนหนึ่งเดินตรงเข้ามา

“ไอ้นางโลม...ถอดกางเกงให้พวกกูเดี๋ยวนี้” นักโทษออกคำสั่งตัดบท

แม่ทัพยังคงนิ่งเฉย จนนักโทษคนหนึ่งตบหน้าแม่ทัพอย่างแรงจนล้มไปนอนกับพื้น ก่อนจะใช้เท้าเหยียบฅวยแม่ทัพอย่างแรง แถมยังบดขยี้ไปมา สร้างความเจ็บปวดจนแม่ทัพนอนกุมท้อง ขดตัวเป็นกุ้งแห้ง

“โอ๊ยยยยย ข้าเจ็บบบ” แม่ทัพร้องด้วยความทรมาน
“ถ้าไม่อยากให้ฅวยแหลกคาตีนของกู ลุกขึ้นมาปลดผ้าให้พวกกุเดี๋ยวนี้” นักโทษสั่งอีกครั้ง

จู่ๆ ประโยคในฝันนี้ก็ดังก้องขึ้นมาในหัวของแม่ทัพ
 “ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร จงเร่งผูกมิตรกับนักโทษเหล่านี้ไว้ คนเหล่านี้จะยังประโยชน์ให้ท่านได้ในภายภาคหน้า”

หรือนี่อาจจะเป็นบัญชาจากสวรรค์!!!!

แม่ทัพซู่ค่อยๆ ลุกนั่งคุกเข่าอีกครั้ง สองมือสั่นดิกๆ ขณะที่ยื่นไปจับขอบกางเกงของนักโทษคนแรก ก่อนจะดึงลงสู่ปลายเท้า ทันใดนั้นลำฅวยแท่งใหญ่ก็ดีดเด่งออกมาฟาดหน้าของแม่ทัพอย่างแรง เกิดเสียงดับพรึ่บ!

กลิ่นสาบฅวยนักโทษโชยเตะจมูกแม่ทัพจนแทบอ้วก แม่ทัพจ้องมองฅวยตรงหน้าก็ต้องขนลุกซู่ เพราะทั้งใหญ่ทั้งยาว หัวฅวยแดงบานทะโร่เหมือนงูเห่ากำลังแผ่แม่เบี้ย ผงกหัวงึกๆ ต้อนรับสายตาหวาดกลัวของแม่ทัพผู้เคยอาจหาญ

“จูบฅวยกูซะ แล้วอ้าปากอมฅวยเข้าไปให้สุด” นักโทษบังคับ

ไม่ช้าปากสวยของแม่ทัพก็ประกบลงไปจุมพิศลงบนหัวฅวยเหม็นๆ และเต็มไปด้วยน้ำเยิ่มๆ ของนักโทษ

นักโทษร้องครางด้วยความเสียว “โอ๊ยย ได้ใจกูจริงๆ ดีมาก คราวนี้อ้าปากอมฅวยเข้าไปในสุดลำ ห้ามให้เห็นโคนฅวยอยู่นอกปากเด็ดขาด อมเข้าไปในหมด”

แม่ทัพเปิดปากกว้าง กลั้นหายใจอมฅวยสกปรกเข้าไป ความอุ่นของแท่งฅวยระอุอยู่ในโพรงปากนุ่มๆ แม่ทัพจำใจต้องอมฅวยให้หมด อนิจจังฅวยนักโทษคนนี้ยาวมากๆ ทำให้แม่ทัพต้องอมเข้าไปเกือบถึงคอหอย แทบจะสำลัก

“ซิ๊ดดด ดี ดีมากๆ สองมือที่ว่างอยู่ก็ถอดกางเกงในผัวคนอื่นด้วย ปากก็ห้ามหยุดอมฅวยกู” นักโทษคนนั้นสั่ง

ส่วนนักโทษรายอื่นๆ ก็ตรงปรี่เข้ามาทางแม่ทัพ แอ่นเป้าให้แม่ทัพถอดกางเกงให้ แม่ทัพทยอยปลดเสื้อผ้าให้นักโทษทั้งยี่สิบกว่าคน ขณะที่ปากก็ยังคงปรนเปรอความสุขให้แท่งฅวยยาว

บัดนี้นักโทษทั้งหมดอยู่ในสภาพเปลือยล้อนจ่อนเหมือนแม่ทัพ แต่ละคนมีลำฅวยไม่ธรรมดาทั้งนั้น มีทั้งหัวบานทะโร่ มีลำอวบอ้วน มีสองไข่ใบโต หมอยก็ดำหยิกงอ ในตอนนี้คุกหลวงได้กลายเป็นหอนางโลมไปเสียแล้ว

“วันนี้มึงจะได้ผัวทีเดียวยี่สิบกว่าคน รับรองพวกกูจะเย้ดจนมึงเสียสติไปเลย ฮ่าๆๆ” นักโทษสะใจกันยกใหญ่
ตอนที่ 31 ขี้คุก (2)
*** ตอนนี้ได้คุณ Normalboy มาช่วยเขียนให้ ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ครับ -/-
*** Enjoy reading นะครับทุกท่าน


สิ้นสุดเสียงนักโทษก็จับแม่ทัพมานอนแผ่ แล้วเอา***ของตัวเอง ถูไถไปตามร่างกายที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของแม่ทัพ น้ำเงี่ยนเหนียวๆหลั่งไหลออกมาจากหัว***นักโทษไม่มีหยุด  ภาพนักโทษยี่สิบคนรุมแม่ทัพช่างน่าดูยิ่งนัก เพราะไม่มีที่ว่างบนเนื้อตัวแม่ทัพจริงๆ ตั้งแต่หัว หู ไหล่ แขน ขา ตีน รอบตัวเต็มไปด้วย***นักโทษ  คนนึงประกาศ ใครอยากเห็น***ไอ้คนที่ส่งพวกเราเข้าคุกมั่งวะ เสียงเฮ้ดังขึ้นลั่นคุก ทันใดนั้นพวกนักโทษก็ฉีกกางเกงแม่ทัพออก เผยให้เห็น***อวบอูมตุงอยู่ในผ้าเตียวจนแทบระเบิด อื้อหือออ ***แม่ทัพแม่ง  ใหญ่จังวะ สัสกรุเงี่ยน แม่งแข็งยังวะเนี่ยมึงจับดิ  เห้ยยังไม่แข็งเลยว่ะ แม่งแข็งจะใหญ่ขนาดไหนวะเนี่ย  แม่ง***กรุแข็งสุดยังเท่าแค่***มันยังไม่แข็งเองว่ะ มาทำให้ไอ้แม่ทัพมันเงี่ยนหน่อยดีกว่า  มึงชอบผู้ชายไม่ใช่เหรอ กรุได้ยินมาว่ามึงถึงขนาดกับให้ลูกชาย***ให้คนในเมืองดูเลยเหรอวะ เสียวตูดไหมวะตอนนั้น พวกนักโทษพูดไปพากันคลึง***แม่ทัพในกางเกงในไป   ถามไม่ตอบวะ กรุถามว่าเสียวไหม ตอนที่หัว***ลูกมึงแทรกผ่านรูตูดมึงเข้าไปในลำไส้อ่ะ ตอบดิ ***แม่ทัพขยายขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ท่ามกลางดงนักโทษที่รอดูอย่างตื่นตาตื่นใจ หัว***แข็งใหญ่ขึ้นจนพ้นขอบผ้าเตียว และใหญ่ขึ้นยาวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่ขนาด***ของแม่ทัพที่ยังขยายอย่างไม่ลดละ จนในที่สุด***แม่ทัพก็แข็งตระหง่าน ตั้งเด่เป็นกระโดงเรือ เส้นเลือดเส้นเอ็นปูดโปนพันรอบ***เต็มไปหมด โหหหห ทุกคนตะลึงอึ้งกับขนาด***ที่เรียกได้ว่าแข็งเต็มที่ของแม่ทัพ ข้าเคยได้ยินเกียรติศักความใหญ่ของตระกูลนี้มา แต่ไม่คิดว่าจะใหญ่ขนาดนี้ว่ะ มึงดูหัว***ดิโคตรบาน เสียใจด้วยที่วันนี้มึงจะไม่ได้ใช้***ของมึงเสียบตูดใคร แต่ต้องโดน***พวกกรุ 20 คนเสียบตูดแทน แม่ทัพได้ยินถึงกับหน้าถอดสี แต่ต้องทำใจดีสู้เสือ มีสติทุกลมหายใจอย่างที่ได้ยินมา ***สกปรกจากขี้คุกไม่รู้กี่คนต่อกี่คนโดนจับยัดปากแม่ทัพ ถูกบังคับให้อม ให้ดูดอย่างหลีกเลี่ยงไมได้ ซักพักมีนักโทษจับขาแม่ทัพ แหกกางออก เผยให้เห็นรูตูด พร้อมไหมท่านแม่ทัพ 555 แม้ว่าจะเสียศักดิ์ศรีเปนที่สุดแต่แม่ทัพก็ไม่ขัดขืน เพราะรู้ว่าทำไปก็ไม่มีประโยชน์ แม้ว่า***ของพวกนักโทษจะเล็กกว่า***แม่ทัพไปหลายโข แต่ถ้าเทียบกับประชาชนธรรมดาแล้วไอ้พวกนี้ก็ใหญ่ไม่เบาเลย นักโทษคนแรกยิ้มสะใจที่จะได้เอาหัว***บานๆ***เข้าไปในรูตูดแม่ทัพ พอหัว***สัมผัสกับรูตูด แม่ทัพก็เสียววาบทันที พวกมึงดูให้ดีๆเว้ย แม่ทัพกำลังจะโดนนักโทษอย่างกรุ***แล้ว สุดเสียงหัว***บานๆค่อยๆถูกดันเข้าไปในรูตูดแม่ทัพ อั๊กก  แม่ทัพร้อง หลับตาหยีเพราะมันเจ็บใช่เล่น  คนรอบๆต่างก็จ้อง***ที่กำลังสอดใส่เข้าไปพร้อมสาวมือให้***ตัวเองเป็นระวิง คนที่อยู่ตรงหัวเอาแย่งกันเอา***ยัดใส่ปากแม่ทัพกันเป็นว่าเล่น ทำให้ใบหน้าแม่ทัพมีแต่น้ำเงี่ยนเยิ้มเต็มไปหมด พวกอยู่ด้านข้างก็เอามือแม่ทัพมาช่วยสาวว่าวให้ตัวเอง ส่วนตูดพอโดน***สวนจนมิดด้าม ก็โดนอัดเร็วขึ้นแรงขึ้นดัง ป๊าบๆๆ น่าแปลกที่***แม่ทัพกลับแข็งตระหง่าน ยาวพาดมาจนถึงสะดือ แถมสำรอกน้ำเงี่ยนออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน จังหวะการ***เริ่มถี่ขึ้น แรงขึ้น ตูดแม่ทัพโดน***จนสั่นไปทั้งตัว จะแตกแล้วว น้ำจะแตกแล้วว กรุขอแตกในตูดมึงเลยแล้วกันไอ้สัส อ๊ากกก  น้ำ***เป็นสายพุ่งเข้าตูดแม่ทัพอย่างแรงจนแม่ทัพรู้สึกได้  มึงยกขามันไว้นะ อย่าให้น้ำ***กรุล้นออกมา กรุขอต่อนะ คนต่อไปจ่อ***มองหน้าแม่ทัพแล้วเสียบทีเดียวมิดด้าม ซวบบบบบบ อ๊ากกกกกกกกกก แม่ทัพร้องกัดฟัน เปนไงไอ้สัส รู้ไหมกรุต้องมาเจออะไรข้างล่างนี้ เพราะมึงคนเดียว มันด่าไป***ไปอย่างบ้าคลั่ง ป๊าบๆๆ เสียง***ดันลั่นคุก
ตอนที่ 31 ขี้คุก (2)
*** ตอนนี้ได้คุณ Normalboy มาช่วยเขียนให้ ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ครับ -/-
*** Enjoy reading นะครับทุกท่าน
แม่ทัพเขย่าไปทั้งตัว ให้ตูดมึงแดกน้ำ***กรุซะไอ้สัส นี่แน่ะ ปั๊กกกก ไอ้นักโทษแอ่นเอวกระเด้าครึ่งสุดท้ายมิดหนอก พร้อมกับกระตุกน้ำ***ที่กลั้นออกมาระลอกแล้วระลอกเล่า ปรี๊ดๆเข้าตูดแม่ทัพ ตากรุแล้ววว  แม่ทัพถูกพวกนักโทษ*** คนแล้วคนเล่า คนที่สาม คนที่สี่ จนเวลาผ่านไปพักใหญ่ น้ำ***นักโทษแต่ละคนปริมาณไม่ใช่น้อยๆ แตกเอาๆ แม่ทัพเริ่มรู้สึกว่าน้ำ***พวกนักโทษมันเต็มตูดไปหมดจนอยากจะเบ่งออกมาให้รู้แล้วรู้รอด แถม***ก็เสียวสุดๆน้ำเงี่ยนแม่ทัพที่ไหลมาตลอดเต็มกล้ามท้องก็ไหล่ออกด้านข้างลงพื้น ไอ้พวกคนที่แตกไปแล้วยังไม่หมดสนุก กลับมาดูดหัวนมแม่ทัพให้เสียวเล่น บ้างก็กัดจนแม่ทัพร้องโอ้ย ผ่านไปกว่าสองชั่วโมงร่างกายแม่ทัพเริ่มอ่อนล้า ยกเว้นลำ***ที่ยังแข็งตระหง่านรอการปลดปล่อย การ***แก้แค้นดำเนินมาถึงคนที่ 15 เอาล่ะ ตากรุแล้ว  อื้อหือ เสียบ***เข้ามานี่มีแต่น้ำ  น้ำ***ทั้งงั้นเลยไอ้สัส เงี่ยนโว้ยย  การ******ในรูที่มีน้ำเยอะๆทำให้มีเสียงดังแจ๊ะๆตลอด เชี่ยมันฉิบหาย มัน***อีกไม่กี่ทีก็ร้อง แตกแล้วโว้ยยยยย  พร้อมกับสาดน้ำ***เข้าไปในตูดเพิ่มขึ้นอีก ปรี๊ดๆๆๆๆ  และแล้วน้ำ***นักโทษทั้ง 15 คน ก็เริ่มล้นออกจากตูดแม่ทัพ เฮ้ย พวกเราแม่งล้นแล้วว่ะ เยอะสัสๆ ไอ้พวกที่แตกแล้วหัวเราะชอบใจ  แล้วไอ้หัวโจกของขี้คุกที่นี่ก็เดินมาพร้อมโซ่เหล็กเส้นใหญ่ มึงรู้ไหมไอ้แม่ทัพน่าสมเพช ถ้ามึงเบ่งเอาน้ำ***พวกเพื่อนๆกรุออกมาตอนนี้มึงจะโดนอะไร  มันจัดการเอาโซ่พาดรอบคอแม่ทัพ  กรุจะให้พวกขี้คุกที่มึงส่งมาที่นี่ ดึงโซ่ แล้วส่งมึงลงนรก ให้สมกับที่มึงส่งพวกกรุมาในนี้ไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวันเป็นสิบปี แม่ทัพยอมรับฟังแต่โดยดี พยายามขมับอั้นไม่ให้น้ำ***พวกมันหลุดลอดออกไปจากรูตูดได้ แต่พอมองไปที่ 5 คนสุดท้าย ซุ่เหวินถึงกับแทบจะเลิกล้มความพยายาม เพราะแต่ละคนทั้งล่ำ ทั้ง***ใหญ่ นอกจากนั้นเท่าที่ดูจากขนาดไข่ น้ำ***แต่ละคนไม่น่าจะน้อยแน่ๆ โดยเฉพาะไอ้หัวโจกที่คอยตะโกนสั่งโน่นสั่งนี่ ดูจะมี***ที่ใหญ่ยาวที่สุด แถมไข่ยังใหญ่ดูเก็บน้ำไว้มากมายจริงๆ บทบรรเลงกามเริ่มต่อที่คนที่ 16 มันจับ***ยัดตูดแบบไม่ลังเล อื้อหืออ สัสเอ้ย ฉ่ำไปหมดเลยไอ้สัส ข้างในมีแต่น้ำ***พวกมึงทั้งนั้น มันจับแม่ทัพเอียงตัว ยกขาข้างนึงพาดบ่า อย่าให้น้ำ***ออกมาเชียวนะมึง มันขู่ ก่อนจะกระหน่ำ***ท่านี้จนตัวซู่เหวินเขย่าเอวแทบหัก ก่อนจะกระแทกเต็มเหนี่ยวพร้อมปล่อยน้ำ***เข้าตูดอีกชุดใหญ่ ปรี๊ดดดด ปรี๊ดดดดดด ปรี๊ดดดดด ปรี๊ดดดดดดด ปรี๊ดดดดดดดดดดดด จนซู่เหวินเกือบขมิบไว้ไม่ทัน ทันทีที่ไอ้นักโทษคนนี้ถอน***บานๆออก ซู่เหวินรีบเอานิ้วอุดรูทันที ช่างเป็นภาพที่น่าสมเพช และน่าขันสำหรับบรรดานักโทษยิ่งนัก ไม่รอช้าคนที่ 17 ดำเนินการ***ต่อโดยใช้ท่าหมาแทน เสียง***กระทบตูดดังป๊าบๆ น้ำ***ระลอกแล้วระลอกเล่าถูกฉีดเข้ามาในช่องท้องซู่เหวินไม่หยุดหย่อน จนจบคนที่ 19 ซู่เหวินต้องใช้ถึงสามนิ้วในการยัดรูตูดตัวเองเพื่อไม่ให้ น้ำ***ทะลักออกมา และแล้วก็มาถึงคนสุดท้าย มันยืน***แข็งจ่อตูดแม่ทัพ  ซู่เหวินมอง***ไอ้นี่แล้วถึงกับผวา หัว***บานใหญ่ ลำยาวถึงสะดือ พร้อมนะ ปล่อยมึงสิไอ้สัส ทันทีที่แม่ทัพปล่อยมือ น้ำ***มหาศาลลก็เตรียมจะพุ่งออกมา แต่ถูกหัว***ใหญ่ๆของไอ้หัวโจกนี่ดันเข้าไปอีกครั้ง ไอ้นี่ถือว่ามีลีลา***ที่เด็ดที่สุด มันเปลี่ยนท่า***เป็นว่าเล่น แถม***มาร่วมครึ่งชั่วโมงแล้วยังไม่มีทีท่าว่าจะแตก มึงรู้ไหมว่า พวกมันให้กรุ***มึงคนสุดท้าย แม่ทัพส่ายหน้า เพราะไม่มีอารมจะตอบ เพราะตอนนี้มันเริ่มรู้สึกปวดท้องแล้ว เพราะกรุ***ใหญ่ที่สุด ***มันสุด อึดที่สุด และน้ำเยอะที่สุด เรื่องขนาด***กรุอาจจะแพ้มึง ว่าแล้วมันก็เอามือตบหัว***บานๆของแม่ทัพอย่างแรง แต่เรื่องอื่นกรุมั่นใจว่ากรุไม่แพ้ใคร

ยอดขุนพล 16

ตอนที่ 29 ฝึกทาส


“นั่นมัน....” สิ่งแรกที่คนดูจ้องคือใบหน้าของสุนัขหนุ่มที่หล่อเหลา

“ใช่แล้ว นักแสดงวันนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือหงเว่ยนั่นเองงงง” ซู่เริ่นทำหน้าที่โฆษก
“สุดยอดดดด วันนี้ลูกเจ้าเมืองลงทุนมาแสดงด้วยตัวเองเลย เป็นบุญตาของข้าแท้ๆ” คนดูตื่นเต้นดีใจ

คนดูไล่แทะโลมสายตาไปยังร่างของหนุ่มหล่อ ไล่ไปตั้งแต่ส่วนหัวที่มีผมยาวดกสีดำ ตัดกับสีผิวขาวทั้งตัวของเจ้าของร่าง ขยับมาที่ใบหน้าก็พบแต่ความงดงามสมกับผู้ดี ใบหน้าหล่อเหลาคมคายในระดับราชบุตร ดูขัดกับสภาพที่เป็นอยู่ตอนนี้

คนดูไล่สายตาลงมายังลำตัวที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อไร้ซึ่งสิ่งปกปิด สีหัวนมชมพูกลืนไปกับสีขาวของหน้าอก ฐานนมที่กว้างดูเย้ายวนให้น่าสัมผัส พร้อมขนรักแร้ดกดำสมชายชาตรี ต่อด้วยกล้ามท้องที่หดเกร็งไร้ไขมันปกปิด ทำให้มองเห็นมัดกล้ามอย่างชัดเจน

หงเว่ยยังคงถูกข่มขืนทางสายตาจากบรรดาเหล่าคนดู เพราะตอนนี้ทุกคนพุ่งไปที่เป้าใหญ่ไข่ยานของเขา พวงฆวยแม้ในสภาพไม่แข็งตัวแต่ก็มีขนาดใหญ่ใช่เล่น ไข่สองใบยานโตกเตงยามที่เจ้าของคลานไปมา ขนหมอยล่ามไปทั่วบริเวณโคนฆวย เส้นหยิกสีดำฟูฟ่อง ด้านหลังคือรูทวารที่แม้จะผ่านการสอดใส่มาบ้างแต่ก็ยังคงจีบสวย และเห็นได้ชัดยามที่อยู่ในท่าคลานเข่าเช่นนี้

ด้านหงเว่ยนั้นอายสุดชีวิต คนระดับเขามีชื่อเสียงเกียรติยศมากมาย เขาเป็นราชบุตร เขาเป็นว่าที่กษัตริย์ แต่กลับต้องมาเปลือยร่างให้คนที่ด้อยว่ารับชม ความเจ็บปวดนี้มันกรีดแทงหัวใจเมื่อรู้ว่าตอนนี้เขาต้องพลิกสถานะกลายเป็นของเล่นของคนชั้นต่ำเหล่านี้

ด้านซู่เริ่นนั้นต้องการให้เป็นอย่างนี้อยู่แล้ว เขาต้องการสร้างความอับอายให้ทาสคนนี้ของเขา เพื่อปลูกฝังความรู้สึกของการเป็นผู้ที่อยู่ต่ำกว่า ด้อยกว่า เข้าไปในจิตใจของหงเว่ย ให้หงเว่ยซึมซาบความเป็นทาสเข้าไปอย่างไม่รู้ตัว

ด้านคนดูก็ชอบใจ พากันวิพากษ์วิจารณ์กันสนุกปาก ทั้งชมถึงใบหน้าหล่อๆ ชมหุ่นและรูปร่าง และไม่พลาดที่จะพูดถึงฆวยสวยๆ และตูดแน่นของหงเว่ย
“วันนี้ ไอ้หมาเว่ย จะแสดงการเป็นทาสให้พวกท่านดู เชิญรับชมได้ ฮ่าๆๆๆ” ซู่เริ่นกล่าว

การแสดงแรก หงเว่ยต้องคลานท่าหมาไปมารอบลานแสดง ต้องถูกบังคับให้แลบลิ้นเหมือนหมาที่กำลังเหนื่อย บางก็ถูกคนดูสั่งให้ส่ายตูดไปมาต่อหน้าทุกคน หงเว่ยยอมทำตามแต่โดยดี น้ำตาก็ไหลออกมาไม่หยุด

“ดูเหมือนไอ้หมาเว่ยจะเหนื่อยแล้ว ท่านผู้ใดจะกรุณาประทานน้ำให้มันดื่มบ้าง” ซู่เริ่นสั่งต่อ

ผู้คุมถือชามปล่าวใบใหญ่เข้ามาใส่ลานฝึกทาส ทุกคนเข้าใจแล้วว่าน้ำที่ซู่เริ่นต้องการให้ทาสหมาตัวนี้ดื่มคือน้ำปัสสาวะจากคนดูนั่นเอง
 ตอนที่ 29 ฝึกทาส(2)

คนดูกว่าครึ่งยกมือ และยอมจ่ายอัฐเล็กน้อยเพื่อแลกกับการที่ได้ฉี่ใส่ชามใบนั้น สายเยี่ยวสีเหลืองหลายสายพุ่งออกจากฆวยคนหลายระดับ ทั้งจากทหารชั้นเลวไปจนถึงบัณฑิตหนุ่มรูปงาม ทะย่านลงใส่ชามใบโต ทุกคนปล่อยเยี่ยวใส่ชามและสบัดฆวยบีบน้ำเยี่ยวจนหยดสุดท้ายไหลลงสู่ภาชนะ

“ขอบคุณผู้ให้น้ำของแกซะซิ ไอ้หมาน้อยของข้า” ซู่เริ่นสั่ง บัดนี้ชามนั้นเต็มไปด้วยน้ำเยี่ยวสีเหลืองอร่าม ส่งกลิ่นฉุนๆ อุ่นๆ กำลังดี

หงเว่ยถูกบังคับให้ก้มกราบผู้คนบนอัฒจรรย์จนหน้าผากติดกับกองดิน สร้างความสะใจให้คนดูมากเป็นพิเศษ ฝั่งหงเว่ยเองก็ได้แต่เจ็บช้ำน้ำใจ ทนทำไปเพื่อความอยู่รอด

และฉากต่อไปที่ทุกคนรอก็มาถึง เมื่อผู้คุมถือชามใบใหญ่เต็มไปด้วยเยี่ยวเหม็นๆ ไปวางไว้กลางลานฝึก ก่อนที่จะสั่งให้หงเว่ยคลานเป็นหมาไปกินน้ำจากชามนั้น

หงเว่ยแทบไม่เหลือความภาคภูมิใจใดๆ อีกแล้ว เขาฝืนใจคลานเข่าไปเช่นหมาตัวหนึ่ง และไปหยุดอยู่ตรงชามใบใหญ่ สายตามองจ้องไปเห็นแต่ของเหลวสีเหลือง กลิ่นฉุนปะทะกับจมูก ชวนให้อ้วกอยู่ไม่น้อย

“รีบกินเข้าไปซะ หากปล่อยไว้นานกว่านี้ กลิ่นจะยิ่งฉุน กินตอนที่ยังอุ่นๆ แบบนี้แหละดี คิดซะว่าดื่มชาชั้นดีก็แล้วกัน” ซู่เริ่นแนะนำ เขาเองเข้าใจหัวอกหงเว่ยดี เพราะเขาเองก็เคยผ่านสภาพเช่นนี้มาก่อน

หงเว่ยค่อยๆ ก้มหน้าลงไป ปลายจมูกโด่งรับสัมผัสได้ถึงกลิ่นและไออุ่นของเยี่ยวในชาม ผู้คนต่างจับจ้องตาเป็นมัน ปลายลิ้นของหงเว่ยค่อยๆ แลบออกมาแล้วสัมผัสกับเยี่ยวเล็กน้อย

ปุ่มรับรสที่ปลายลิ้นเริ่มทำงานทันที หงเว่ยรับรู้ได้ถึงรสชาติของเยี่ยวจากคนดูทั้งหลาย ด้านรสชาตินั้นไม่ได้แย่อย่างที่คิด เพราะจริงๆ แล้วแทบจะไม่มีรสด้วยซ้ำ หงเว่ยจึงพอที่จะกลั้นใจก้มน้ำเลียน้ำเยี่ยวเข้าปากตนเองได้

รสจืดๆ ของเยี่ยวทยอยเข้าปากของหงเว่ยที่อยู่ในสภาพเป็นหมากำลังกินน้ำ ความลำบากอย่าวเดียวที่หงเว่ยต้องเผชิญไม่ใช่เรื่องของรสชาติ แต่เป็นกลิ่นที่ฉุนและภาพของเยี่ยวที่ถูกคิดว่าเป็นสิ่งสกปรกทำให้เขาอยากจะอ้วกมากกว่า

“กลั้นหายใจไว้แล้วจะดีขึ้น และไม่ต้องคิดอะไรมาก ดื่มๆ เข้าไป จำไว้แกมันคือทาส แกชอบถูกกระทำเยี่ยงคนไร้ค่า แกมันไม่เหลือเกียรติอะไรอีกแล้ว” ซู่เริ่นสอนทาสตัวนี้อีกครั้ง ตอกย้ำความเป็นจริงเข้าไปในใจของหงเว่ย

หงเว่ยได้ยินดังนั้นก็น้ำตาไหล เป็นไปตามที่ซู่เริ่นพูด เขามันไม่มีค่าอะไรอีกด้วยซ้ำ อยู่ที่นี้ในฐานะทาสเริงกาม ต้องทำตามคำสั่ง คิดได้ก็หลับหูหลับตากลั้นหายใจ ดูดดื่มน้ำเยี่ยวเข้าไปไม่หยุด สร้างเสียงหัวเราะชอบใจจากคนดูไม่น้อย ด้านซู่เริ่นก็เผยยิ้มออกมาที่มุมปาก

“หมาหน้าหล่อกินเยี่ยวพวกเราใหญ่เลยว่ะ” คนดูกล่าว
“สะใจกูจริงๆ โว๊ย ได้เยี่ยวให้ราชบุตรดื่มต่อหน้า” อีกคนเสริม
“เห็นราชาต้องมาดื่มเยี่ยวคนชั้นต่ำอย่างพวกเรา ไปเล่าให้ใครฟังก็คงไม่เชื่อ” คนดูพูด.
“หมาจริงๆ มันยังไม่กินเยี่ยวคนเลยพวกเรา ดูไอ้หนุ่มเทพบุตรนั่นสิ ยิ่งกว่าหมาจรจัด กินเยี่ยวมนุษย์อย่างพวกเรา ไม่น่าเชื่อๆ” อีกคนตะโกนตอนที่ 29 ฝึกทาส(3)

แม้ว่าหงเว่ยจะไม่กระอักกระอวนที่จะกินเยี่ยวจากคนแปลกหน้าแล้ว แต่ด้วยปริมาณมหาศาลของเยี่ยวในชาม ทำให้กินเท่าไรก็ไม่หมดสักที ท้องของหงเว่ยมีแต่น้ำเยี่ยวเต็มไปหมด ส่งผลให้เขาเองก็เริ่มปวดปัสสาวะขึ้นมาเช่นกัน

“คงจะเริ่มปวดฉี่แล้วสินะ ข้ายังมีเมตตายอมให้เจ้าฉี่ก็ได้ แต่ต้องฉี่ต่อหน้าทุกคนใส่ชามนั้นซะ และฉี่อย่างหมาตัวผู้ด้วย” ซู่เริ่นรู้ทันและสั่งได้อย่างต่อเนื่อง

น้ำที่ออกมาตอนนี้ไม่ใช่ฉี่ แต่เป็นน้ำตาของหงเว่ยที่ไหลรินอาบแก้มขาวอมชมพู มันเป็นอย่างที่ซู่เริ่นว่าจริงๆ เขาปวดฉี่มาก แม้จะพยายามกลั้นไว้เท่าไรก็ไม่อาจทนได้ มีแต่จะปวดท้องน้อยปล่าวๆ คิดเข่นนั้นจึงยอมทำตามคำสั่งแต่โดยดี แม้ในใจจะอายและสมเพศตัวเองมากแค่ไหนก็ตาม

หงเว่ยคลานขยับร่างขนานไปกับชามใบใหญ่ และยกขาข้างหนึ่งขึ้น ท่านี้ยังทำให้ทุกคนมองเห็นฆวยของกษัตริย์อย่างเขาได้ชัดเจนไม่ต่างจากหมาตัวผู้ที่กำลังจะเยี่ยวออกมา ความสะใจเกิดขึ้นกับทุกคนในที่แห่งนั้น ยกเว้นหงเว่ยที่อายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี

สุดท้ายสิ่งที่ทุกคนรอก็มาถึง เมื่อสายเยี่ยวเหลืองใสพุ่งไหลออกมาจากปลายฆวยของหนุ่มน้อย ปริมาณมหาศาล น้ำเยี่ยวของหมาไหลรินเข้าไปกระทบรวมกับน้ำเยี่ยวของคนดู สร้างเสียงหัวเราะดังลั่นจากผู้ชม เมื่อได้เห็นภาพราชบุตรยกขาเยี่ยวใส่ชามที่ตนพึ่งกินน้ำเยี่ยวเข้าไป
น้ำเยี่ยวยังคงไหลอย่างต่อเนื่อง หงเว่ยหลับตาไม่อยากรับรู้อะไร ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติถึงแม้จะยังคงได้ยินเสียงด่า เสียงเยาะเย้ยต่างๆ นานา เขาเบ่งเยี่ยวออกมาระลอกสุดท้าย จนเหลือเป็นหยดเล็กๆ

“สะบัดฆวยไล่น้ำเยี่ยวออกมาให้หมด” ซู่เริ่นพูดเสียงดัง

หงเว่ยต้องสะบัดก้นและฆวยให้ไกว่ไปมา เพื่อให้น้ำเยี่ยวที่ติดอยู่ตามปลายฆวยหลุดออกมาใส่ชาม ดูแล้วช่างน่าสมเพชที่สุด เมื่อน้ำเยี่ยวหยดสุดท้ายไหลไปรวมกับเยี่ยวจากทุกคน หงเว่ยก็ต้องตกใจเมื่อซู่เริ่นยังคงสั่งต่อ

“ก้มเอาหน้าหล่อๆ ของเจ้าเข้าไปแช่น้ำน้ำเยี่ยวเดี๋ยวนี้”

หงเว่ยแทบจะทรุดร่างลงตรงนั้น แค่นี้เขาก็แทบจะไม่เหลือความเป็นคนอยู่แล้ว นี่ยังต้องเอาหน้าเข้าไปแช่เยี่ยวตัวเองอีก หงเว่ยได้แต่แน่นิ่ง จนกระทั่งผู้คุมเดินมาจิกผมและกดหน้าหงเว่ยเข้าไปในชามอย่างไม่ทันตั้งตัว

หงเว่ยรู้สึกได้ถึงความอุ่นจากเยี่ยวตัวเองที่พึ่งปล่อยออกมาเมื่อสักครู่ ความอุ่นสัมผัสทุกรูขุมขนบนใบหน้าของเขา ผู้คมจิกหัวส่ายไปมาในชามใบนั้น ทำให้หงเว่ยทั้งสำลักและน้ำเยี่ยวก็กระฉ่อนเปื้อนหน้าเปื้อนหัวเขาไปหมด

น่าแปลกที่แม้จะถูกกระทำอย่างรุนแรงเช่นนี้ แต่ฆวยของหงเว่ยกลับค่อยๆ แข็งตัวขึ้นมาประชันกับสายตาของผู้ชม ฆวยที่เดิมอ่อนตัวอยู่กลับค่อยๆ พองขยาย ชี้หน้าซู่เริ่นที่มองอย่างชอบใจ

หรือในน้ำเยี่ยวจะมีสารกระตุ้นความเงี่ยนให้หงเว่ย...


ยอดขุนพล 15

ตอนที่ 28 เอาคืน(2)

คนดูที่มุงอยู่รอบข้าง กำลังจ้องที่ตูดของหงเว่ยซึ่งโดนซู่เริ่นขย่มแทงขึ้นไปอย่างไม่ยั้ง น้ำหนักตัวที่ลงมาทำให้เกิดเสียงกระทบดัง ปั๊กๆๆๆๆๆ การเย้ดดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จนฝูงคนทั้งหลายต่างก็ชื่นชมในความอึดของซู่เริ่น

“สุดยอดเลย ซู่เริ่นเย้ดเก่งจริงๆ”
“แถมอึดมากด้วย”
“ท่านี้ข้าเคยเย้ดกับเมีย ไม่เกินห้านาที ข้าก็ต้องวางเมียลงแล้ว โคตรเมื่อย แต่พวกเราดูคุณชายเริ่นสิ เย้ดท่าอุ้มแตงมาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ยังเย้ดแรงไม่ตกเลย”
“ไม่น่าสงสัยหรอก เอ็งดูดกล้ามแขนดิ ใหญ่ขนาดนั้นยกคนได้สบายอยู่แล้ว”

ชาวเมืองวิจารณ์กันสนุกปาก ซักพักไอ้หงเว่ยเริ่มรู้สึกแปลกๆ ฆวยมันแข็งขึ้นเรื่อยๆ ตอนที่โดนเย้ด ตอนนี้ฆวยมันถูขึ้นลงๆ ไปกับกล้ามหน้าอกของซู่เริ่นและค่อยๆ ปล่อยน้ำเงี่ยนใสๆ ออกมา

“เห้ยเอ็งดูดิ ฆวยหงเว่ยแข็งแล้วว่ะ”
“สงสัยโดนเย้ดจนเงี่ยน”
“เงี่ยนแล้วเหรอไอ้หงเว่ย” ซู่เริ่นถาม หงเว่ยเงียบไม่ยอมตอบ
“ข้าถามว่าเงี่ยนไหมมมมมมม” ซู่เริ่นกดตัวหงเว่ยลงแล้วกระเด้าเย้ดเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง
“ซีสสสสส  เงี่ยนโว้ยยยย  ข้าเงี่ยนนนน  ช่สยอมแล้ว เย้ดข้าแรงๆ เลย” หงเว่ยปริปากออกมาอย่างอายสุดขีด ไม่สามารถปฏิเสธสัญชาตญาณการผสมพันธ์ของตัวเองได้

ตอนนี้จากเสียงร้องครวญครางกลายเป็นเสียงกระเส่าลั่นบริเวณ ผ่านไปพักใหญ่ ซู่เริ่นจับตัวหงเว่ยให้สูงขึ้น แล้วค่อยๆ ถอนฆวยออกจากรูตูด หัวฆวยบานใหญ่ค่อยๆ ถ่างรูตูดจนออกมาภายนอกเสียงดังบล็อกกกกก

พร้อมกับน้ำเงี่ยนปริมาณมหาศาล ผสมกับเลือดทะลักตามออกมา ฉากนี้เล่นเอาชาวเมืองหลายคนน้ำแตกไปตามๆ กัน แล้วซู่เริ่นก็วางหงเว่ยนอนหงายลงกับพื้น  ก่อนจะดัดหลังยกปลายเท้าให้งอโค้งมาด้านบน

ตอนนี้สภาพหงเว่ยอยู่ในท่าที่พิเรนสุดๆ หัวและไหล่นอนหงายอยู่กับพื้น หลังโดนดัดตั้งฉากกับพื้น ขากางออกกลับมาที่หัว ทำให้ฆวยของหงเว่ยจ่อมาที่ปากตัวเอง ในขณะที่ตูดลอยเด่นอยู่ด้านบน

ซู่เริ่นจับหัวฆวยขนาดใหญ่ของตัวเอง จ่อไปที่รูตูดของหงเว่ยอีกครั้ง ท่านี้ได้เสียงเฮจากผู้ชมเยอะที่สุดเนื่องจากทุกคนสามารถเห็นฆวยซู่เริ่นยัดเข้ารูตูดหงเว่ยอย่างชัดเจน

“เจ้าคงรู้สินะ ว่านี่ท่าอะไร” ซู่เริ่นถาม ยังไม่ทันที่หงเว่ยจะอ้าปากพูด ซู่เริ่นก็กดหัวฆวยลงไป
“อ๊ากกกกกกกกกกก” หงเว่ยแหกปากร้องด้วยความเจ็บดังลั่น ซู่เริ่นบรรเลงบทหนุมานขย่มต่ออย่างชำนาญ เสียงไข่กระทบแก้มตูดหงเว่ยดังปั่กๆๆๆ

หงเว่ยเองก็เสียวจนน้ำเงี่ยนจากฆวยที่จ่ออยู่ที่หน้าไหลเข้าปากจนเลอะเทอะไปหมด ซู่เริ่นตอกฆวยกระแทกลงรูไปได้เกือบสิบห้านาที หงเว่ยก็เริ่มทนไม่ไหว

“ขะข้าจะแตกแล้ว อ่าสสส์...แตกแล้ววววว” หงเว่ยคราง

หงเว่ยตะโกนลั่นก่อนฆวยจะกระตุกพ่นน้ำฆวยสีขาวออกมา ใส่หน้าตัวเองร่วมห้าระลอกจนเลอะเทอะไปทั้งหน้า เข้าปากเข้าจมูก ขณะที่หงเว่ยแตก รูตูดของมันก็เกร็งแน่นจนรัดฆวยของซู่เริ่น

“อ่าาาาาา  ซิ๊ดสสสส์  น้ำข้าใกล้มาละ ข้าจะทำให้เจ้าจำวันนี้ไปจนตายเลย” ซู่เริ่นคราง

ซู่เริ่นถอนฆวยออกจากตูดหงเว่ย ก่อนจะใช้แขนซ้ายหนีบคอหงเว่ยให้ยืนขึ้น ส่วนมือขวาก็ชักว่าวเป็นระวิง พร้อมบังคับให้หงเว่ยมองตรงไปข้างหน้า

“เจ้าเห็นใช่ไหมว่าตรงหน้าเจ้าคืออะไร” ซู่เริ่นถาม
“บะ...บังลังก์ของท่านพ่อ” หงเว่ยตอบเสียงอ่อยจะหมดแรง
“ดูให้ดีนะ ข้าจะน้ำแตกใส่บัลลังพ่อเจ้าให้คนโลภมากอย่างพ่อเจ้าดิ้นตายไปเลย
ซิ๊ดสสสสสส์ อ่าาาาาาา” ซู่เริ่นรูดฆวยตัวเองอีกไม่นานก็รู้ว่าตัวเองไม่ไหวแน่
“ลืมตาไว้ไอ้หงเว่ย ดูข้าฉีดน้ำฆวยใส่บังลังค์พ่อตัวเองซะ ซิ๊ดสสสสสส อ่าาาาาาาาาา” ซู่เริ่นคราง

ปล่อยแขนที่หนีบไอ้หงเว่ยไว้จนมันร่วงไปนอนกับพื้น หัวมันอยู่ตรงตีนซู่เหวิน หันหน้าไปทางบัลลังก์ ชาวเมืองตื่นเต้น เงียบเสียงรอดูฉากเด็ด

ซู่เริ่นใช้สองมือกำฆวยต่อกันชักเข้าชักออกอีกไม่กี่ที ไข่ใบเท่าไข่ไก่ก็หดตัวไปเป็นก้อนอยู่ที่โคนฆวย เส้นเลือดเส้นเอ็นปูดโปนขึ้นทั่วลำฆวยไปหมด หัวฆวยขนาดใหญ่ บานทะโร่ แดงก่ำ
“ไม่ไหวแล้ว อ่าสสสสสส์” ซู่เริ่นให้สัญญาณเป็นจังหวะสุดท้าย

น้ำฆวยระลอกแรกพุ่งอย่างแรงผ่านลานกว้างระยะทางร่วมห้าเมตร ไปไกลจนถึงบังลังก์ที่นั่ง  แรงดันมหาศาลของน้ำฆวยพุ่งออกจากรูฆวยของซู่เริ่นจนได้ยินเสียงฟืดดดดดดดดดดดดด

น้ำฆวยระลอกที่สองพุ่งไกลไปจนถึงโต๊ะทองหน้าบัลลัง  ชาวเมืองอ้าปากค้าง ทึ่งในความไกลของน้ำฆวยซู่เริ่น  หงเว่ยที่นอนอยู่ปลายตีนของซู่เริ่นลืมตาดูน้ำฆวยขาวข้นฉีดอย่างแรงไปถึงบัลลังของพ่อตัวเอง ระลอกแล้วระลอกเล่า

ซู่เริ่นมองฆวยใหญ่ของตัวเองพ่นน้ำฆวยออกมาเป็นสิบละรอก ไข่ใหญ่ๆ ใต้โคนฆวยกระตุกตึ้บๆ ไล่เอาน้ำฆวยออกมาไม่หยุด เสียงโห่เฮสะใจดังลั่นไปหมด

เวลาผ่านไปนานและน้ำฆวยขาวๆ ถูกฉีดออกจากฆวยซู่เริ่นหลายสิบกว่าระลอกกว่าจะหมด  ลานกว้างมีแต่คราบน้ำฆวยซู่เริ่นจนขาวโพลนไปทั้งบัลลังก์ คราบน้ำฆวยขาวโพลนเกาะเลอะเทอะจนไม่เหลือสภาพความเป็นบังลังก็หรูเลยแม้แต่น้อย

“ตอนนี้พ่อเจ้าไปหายไปแล้ว เจ้าไปรับตำแหน่งแทนพ่อเจ้าสิ ไปนั่งบนบัลลังก์ของพ่อเจ้าเลย” ซู่เริ่นสั่ง
.
เสียงเฮลั่นพร้อมเสียงปรบมือดังขึ้นเกรียวกราว เมื่อเห็นราชบุตรหงเว่ยแก้ผ้าล้อนจอน เห็นทุกรูขุมขนกำลังหย่อนก้นลงไปนั่งบนบัลลังก์ใหญ่ ที่เต็มไปด้วยน้ำเงี่ยนของซู่เริ่น หงเว่ยได้แต่นั่งละเลงน้ำเงี่ยนบนที่นั่ง เปื้อนเต็มตูด

“เจ้ารังแกข้าก่อนนะ สิ่งที่เจ้าเจอวันนี้คือสิ่งที่เจ้าเคยทำกับข้าไว้ทั้งนั้น” ซู่เริ่นตอบ
ตอนที่ 29 เดือนดิ่ง(1)

หลังจากประกวดดาวเดือนเสร็จ ผมก็แทบจะสลบเพราะหมดแรง ยังดีที่คุณลุงปรานต์ภพให้คนขับรถมารับผมกับเพิร์ทกลับบ้าน

“เป็นยังไงบ้างครับคุณหนูภีต? ได้รางวัลกลับมาฝากคุณท่านไหมครับ?” ลุงแดงคนขับรถทักทาย
“ได้สิครับลุงแดง ผมให้ลุงทายดีกว่าว่าได้รางวัลอะไร” ดูสิว่าคุณลุงจะทายถูกหรือเปล่า
“หน้าตาระดับคุณภีต ความสามารถก็เพียบพร้อม ถ้าไม่ได้ที่หนึ่งก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วครับ”
“ลุงแดงอ่ะ จริงๆ มีคนหน้าตาดีมีความสามารถพิเศษตั้งหลายคน ไม่ใช่ผมคนเดียวซะหน่อย แต่ลุงก็ทายถูกนะครับ”
“แหม่ นี่คุณภีตไม่รู้ตัวหรอครับว่าตัวเองโดดเด่นขนาดไหน แล้วคุณหนูเพิร์ทละครับ วันนี้เป็นไงบ้าง?”
“ก็ดี…” เพิร์ทตอบสั้นๆ
“แล้วคุณหนูเพิร์ททำ...” ลุงแดงจะถามต่อ
“อย่าถามซอกแซกได้ป่ะ รีบกลับบ้านเถอะ หิวจะตายอยู่แล้ว” เพิร์ทดูหงุดหงิด

เมื่อมาถึงบ้านหลังใหญ่ เพิร์ทรีบเปิดประตูรถวิ่งตรงเข้าบ้านทันที ส่วนผมก็ช่วยลุงแดงหิ้วของนิดๆ หน่อยๆ สงสารแกหน่ะครับ อายุก็ราวๆ 60 ปี ไม่มีเมียมีลูก แถมยังต้องทำงานหนัก อะไรที่ช่วยได้ก็อยากช่วยแกครับ

“ขอบคุณคุณภีตมากครับ ที่เหลือเดี๋ยวลุงจัดการเองครับ รีบขึ้นไปหาคุณท่านเถอะครับ”

ผมถือของเดินเข้าบ้าน ตรงไปที่โต๊ะอาหารที่มีกับข้าวเตรียมไว้ให้พร้อมเสร็จสรรพ มีคุณลุงปรานต์ภพนั่งรออยู่หัวโต๊ะ ส่วนเพิร์ทนั่งอีกฟากของโต๊ะ

“สวัสดีครับคุณลุง” ผมทักทาย
“มาๆๆ มากินข้าวกัน คงหิวแย่แล้วสิ” ลุงปรานต์ภพชวน

พวกเรานั่งกินข้าวกันอย่างเอร็ดอร่อย พลางพูดคุยกันถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ คุณลุงดูดีใจมากที่รู้ว่าผมได้เป็นเดือนมหาลัย ส่วนเพิร์ท ผมไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไร ดูเขาเงียบๆ สงสัยอาหารจะไม่ถูกปาก

“ขอตัวก่อนนะครับ” เพิร์ทลุกออกไปจากโต๊ะอาหารทันที แล้ววิ่งขึ้นไปชั้นสองของบ้าน วันนี้เขาคงจะเหนื่อย ขนาดผมยังเหนื่อยเลย หัวถึงหมอนก็คงจะหลับทันที

หากแต่เพิร์ทไมได้ขึ้นไปนอนอย่างที่ภีตเข้าใจ เข้าแอบย่องเข้าไปในห้องนอนของเดือนมหาลัยคนใหม่สดๆ ร้อนๆ แล้วแอบเอาบางอย่างใส่ลงในกระเป๋าของภีต โดยที่เจ้าของห้องยังนั่งกินข้าวอยู่ขั้นล่าง ไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังจะซวย
..........................................................................................................................................................
เช้าวันรุ่งขึ้น ภีตและเพิร์ทไปมหาลัยพร้อมกัน โดยมีลุงแดงเป็นคนขับรถมาส่งเหมือนทุกวันครับ วันนี้เราสองคนมีเรียนวิชาเลือกเป็นวิชาพละศึกษาด้วยกัน ซึ่งผมค่อนข้างชอบวิชานี้เพราะผมทำได้ดี ก็คนมันชอบเล่นกีฬานี่ครับ พวกเราเดินเข้ายิมของมหาลัยไปพร้อมกัน

“วันนี้อาจารย์จะสอนเรื่องการวอร์มอัพและการหยืดหยุ่นกล้ามเนื้อนะ” อาจารย์ชัยพูด แกเป็นชายวัยกลางคนแต่ยังรักษาหุ่นได้ดีทีเดียว หน้าตาก็คงถูกใจนิสิตสาวๆ หลายคน เห็นเขาว่ากันอย่างนั้นนะ

“เดี๋ยวพวกเธอเอากระเป๋าไปเก็บไว้ในล็อคเกอร์ และไปเปลี่ยนชุดให้เรียบร้อยใน 5 นาที เสร็จแล้วกลับมานั่งรอที่ลานตรงนี้นะ” อาจารย์ชัยสั่ง

ผมกับเพื่อนๆ ก็รีบไปเก็บกระเป๋าและย้ายก้นลุกไปเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที ต่างคนก็เข้าห้องส่วนตัวเพื่อเปลี่ยนขุดของใครของมัน ผมเองก็ไม่รอช้ารีบเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว และรีบตามเพื่อนๆ ไปรออาจารย์ชัย ระหว่างนั้นเพิร์ทก็เดินมาพร้อมๆ กับผมพอดี

“อ่ะ เอาน้ำไหม? จีบสักนิดก่อนออกกำลังกาย” เพิร์ทยื่นขวดน้ำมาให้ผม
“อือ ขอบคุณมาก” ผมตอบพร้อมกับดื่มน้ำจากเพิร์ทไปอึกใหญ่เหมือนกัน หารู้ไม่ว่าน้ำนั้นผสมยาปลุกเซ็กซ์อย่างแรง

พวกเราไม่รอช้ารีบไปนั่งรออาจารย์ชัยกันพร้อมหน้า แต่ตอนนี้ผมรู้สึกไม่ค่อยดีเลยครับ รู้สึกร้อนๆ ข้างในตัวอย่างบอกไม่ถูก จังหวะการหายใจก็ถี่ขึ้น ที่หนักกว่านั้นเหมือนเจ้าโลกผมจะขยายตัวอย่งควบคุมไม่ได้ขึ้นมาซะอย่างนั้น สงสัยจะไม่สบายแน่ๆ

“เอาละ ทุกคน มาพร้อมกันก็ดีแล้ว แต่ก่อนจะเริ่มเรียนกัน เรามาวอร์มอัพกันก่อน ทุกคนยืนขึ้น”

หา..ให้ยืนตอนนี้เนี่ยนะ ซวยแล้ว ไอ้จ้อนดันมาตื่นตัวอะไรตอนนี้ ถ้ายืนตรงทุกคนต้องรู้แน่ว่าผม
ควญแข็งดันกางเกงจนตุง ทำไงดีว่ะเนี่ย

“นายภีตเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมยืนบิดไปบิดมาแบบนั้นล่ะ” อาจารย์ชัยถาม
“เออ...คือว่า..ผม” จะตอบว่าอะไรดีว่ะเนี่ย
“ยืนดีๆ เหมือนคนอื่นได้ไหมนายภีต อุตสาห์เป็นถึงเดือนมหาลัยนะ” อาจารย์ชัยแซว
“ผมปวดฉี่ครับอาจารย์ ขออนุญาตไปเข้าห้องน้ำครับ” รอดแล้วเรา พูดเสร็จก็รีบวิ่งออกจากแถว
“เห้ออ ลูกศิษย์คนนี้ ถ้าไม่ติดว่าหน่วยก้านดี จะลงโทษเสียให้เข็ด”

ผมรีบวิ่งกุมเป้าเข้ามาให้ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วตรงเข้าห้องน้ำทันที จะรออะไรล่ะครับ ควญแข็งขึ้นมากลางห้องเรียนแบบนี้ต้องหาทางเอาลงให้ได้ วิธีที่รวดเร็วที่สุดก็เห็นจะเป็นการช่วยตัวเอง หรือชักว่าวนั่นแหละครับ ต้องรีบซะด้วย เดี๋ยวคนอื่นจะสงสัย

“อาจารย์ครับ ผมว่าภีตเค้าไม่ค่อยสบายนะครับ เราลองเข้าไปดูอาการมันหน่อยดีไหมครับ?”
เพิร์ทพูดขึ้น ระหว่างที่ภีตกำลังสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองอยู่ในห้องน้ำ

“อาจารย์ก็ว่าอยู่ หน้าเจ้าภีตก็ดูแดงๆ แถมลุกลี้ลุกรน ไปดูสักหน่อยก็ดี นายมากับฉัน ส่วนคนอื่นๆ รออยู่ตรงนี้นะ” อาจารย์ชัยบอก พร้อมกับพาเพิร์ทเข้าไปในห้องล็อกเกอร์


“เออ..ผมนึกขึ้นได้ว่าภีตมันมียาอยู่ในกระเป๋า เดี๋ยวเราแวะไปหยิบยาให้มันดีไหมครับ
“ก็ดีเหมือนกัน เดี๋ยวเดือนมหาลัยเป็นอะไรในวิชาผมคงจะไม่ดีแน่ๆ ฮ๋าๆๆ”

เพิร์ทตรงเข้าไปเปิดล็อกเกอร์ของภีตและหยิบกระเป๋าออกมา ทำทีเป็นเปิดและค้นหายาอยู่ แล้วจู่ๆ ก็ทำหน้าตกใจ

“อา..จารย์ครับ ในกระเป๋าของภีต...!!” เพิร์ททำหน้าอึง
“มีอะไรหรอนายเพิร์ท ตกใจอะไรหนักหนา” อาจารย์ชัยเดินเข้ามาดู

ในกระเป๋าของนายภีต เดือนสุดหล่อหุ่นล่ำ มีชีทเรียนอยู่จำนวนหนึ่ง แต่นั่นไม่ได้น่าสนใจเท่ากับหนังสือโป๊เล่มหนึ่ง ที่สำคัญนี่มันหนังสือโป๊เกย์ซะด้วย

อาจารย์ชัยเปิดหนังสือดูก็พบแต่ภาพอนาจาร มีแต่ผู้ชายแก้ผ้าโชว์ควญเต็มไปหมด บางหน้าก็มีภาพหนุ่มหล่อกำลังชักว่าว เปิดไปอีกหน้าก็มีแต่ภาพน้ำเงี่ยนไหลออกมาจากควญนายแบบเต็มไปหมด ไม่น่าเชื่อว่าเดือนมหาลัยจะดูอะไรแบบนี้

“นี่..นี่อย่าบอกนะว่า นายภีตปะ..เป็นเกย์” อาจารย์ชัยตกใจ
“ผมว่าเราไปถามเจ้าตัวกันดีกว่าครับอาจารย์?” เพิร์ทตอบ

ผมกำลังชักว่าวอยู่อย่างเมามัน ไม่ทันน้ำแตก จู่ๆ ก็มีเสียงเคาะประตู พร้อมกับเสียงตะโกนของอาจารย์ขัยให้เปิดประตูออก นี่มันวันซวยอะไรกันว่ะเนี่ย อาจารย์ชัยทุบประตูไม่หยุด ผมจะเปิดได้ยังไงในสภาพแบบนี้ แต่สุดท้ายสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่ออาจารย์ชัยกับเพิร์ทพังประตูห้องน้ำเข้ามา

สิ่งที่ผมเห็นคืออาจารย์ชัยกับเพิร์ทยืนนิ่งจ้องมาที่ควญที่กำลังแข็งโด่ของผม พร้อมกับน้ำหล่อลื่นใสที่ไหลยืด ทั้งสองตกตะลึงไม่แพ้กับผมที่ยืนเปลือยกายต่อหน้าคนอื่นเป็นครั้งแรก

“นายภีต นี่นายกำลัง...ชักว่าวในห้องน้ำมหาลัยหรออออ!?!?” อาจารย์ชัยพูดเหมือนคนจะเป็นลม
“นายเกิดอารมณ์กับนักกีฬาชายด้วยกัน แล้วแอบมาเล่นว่าวในห้องน้ำใช่ไหม?” เพิร์ทเสริม
“เออออ..ไม่ใช่ซะหน่อย ผมไม่ได้เป็นเกย์นะ” ผมรีบตอบ สองมือพยายามปิดเป้าใหญ่ไข่ย้อย
“หนังสือเล่มนี้อยู่ในกระเป๋าเธอ แปลว่าอะไร?” อาจารย์ชูหนังสืออะไรไม่รู้ขึ้นมาให้ผมดู
“ไม่ใช่ของผมนะครับอาจารย์!” ผมรีบปฏิเสธ
“หลักฐานมันคาอยู่ตรงหน้าแบบนี้จะยังปฏิเสธอีกหรอ?” โถ้ ทำไมอาจารย์ไม่เชื่อผม
“น่าเสียดายจริงๆ นายภีต นายเป็นถึงระดับเดือน หน้าตาหล่อเหลา จีบสาวที่ไหนก็ติด แต่ทำไมถึงไปชอบผู้ชายและหนีมาชักว่าวในห้องน้ำสาธารณะแบบนี้ ผมผิดหวังมากในตัวคุณมาก” อาจารย์เริ่มดุผมเป็นครั้งแรก
“ผมต้องรายงานเรื่องนี้ถึงฝ่ายปกครอง”
“ยะ..อย่านะครับอาจารย์ ผมขอร้อง ผมไม่อยากมีประวัติเสื่อมเสีย”
“อาจารย์ครับ ผมว่าอย่าพึงทำให้เป็นเรื่องใหญ่เรื่องโตเลยครับ น่าจะมีการพิสูจน์ให้แน่ใจเสียก่อน” เพิร์ทพูดขึ้น
“พิสูจน์? ยังไงล่ะนายเพิร์ท?”
“ก็ลองดูว่านายภีตมันมีอารมณ์กับผู้ชายด้วยกันจริงไหมไงครับ ผมเคยได้ยินว่าพวกเกย์มันชอบควญผู้ชายด้วยกันมากๆ อาจารย์ลองพิสูจน์ดูก่อนดีไหมครับ?”
“ก็ดีเหมือนกัน แต่นายต้องเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับก่อน เข้าใจไหม?”
“ตกลงครับอาจารย์ ตามสบายเลยครับ”

อาจารย์กระชากตัวผมเข้าไปหาและกดผมนั่งลงกับพื้นห้องน้ำ พร้อมกับรูดกางเกงวอร์มของอาจารย์ลงสุดข้อเท้า เขาจิกหัวผมขึ้นมองเป้ากางเกงในสีขาวที่มีท่อนเอ็นลำเขื่องอยู่ข้างใน

“หือออๆๆ อาจารย์ปล่อยผมไปเถอะครับ ผมไม่ได้เป็นเกย์นะครับ” ผมเริ่มสะอืน คุ้มตัวเองไม่อยู่แล้ว ทำไมผมต้องมานั่งจ้องมองเป้าผู้ชายด้วยกันแบบนี้ ถ้าใครรู้เข้า ผมจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

“เพิร์ท ช่วยเราด้วย นายก็รู้ว่าเราไม่ได้เป็นพวกชอบผู้ชายด้วยกัน” ผมหันไปขอร้องเพิร์ท แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือความเพิกเฉย

“ดูสิครับอาจารย์ ขนาดมีเป้าชี้หน้าแบบนี้ ควญไอ้ภีตมันยังแข็งตุงกางเกงวอร์มเลยครับ” ไม่ใช่นะ ผมไม่ได้มีอารมณ์พิศวาสเป้าอาจารย์สักนิด แต่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมควญถึงแข็งเองแบบนี้

“โอ๊ย ไอ้ภีต*** นี่มึงเป็นเกย์จริงๆ หรอว่ะ กูอุตสาห์ตั้งใจให้มึงเป็นตัวแทนนักกีฬาไปแข่งขัน”

อาจารย์ชัยจิกหัวผมอย่างแรง แล้วกดหน้าผมลงไปแนบกับเป้ากางเกง แถมยังบี้อัดเป้าใหญ่ใส่หน้าผมอย่างไม่เกรงใจ ผมได้กลิ่นอับนิดๆ จากเป้ากางเกงของอาจารย์ ชวนให้อาเจียนมากๆ

แต่นั่นยังไม่น่าอายเท่าตอนที่ลำควญอาจารย์กระแทกกับจมูกโด่งของผม โดยมีเพิร์ทคอยรัวชัตเตอร์ถ่ายรูปอย่างต่อเนื่อง

“เดือนสุดหล่อ มหาลัยดัง แอบถอกควญในห้องน้ำรวม แถมชอบดมเป้าผู้ชาย” คำพูดของอาจารย์มันบาดลึกเข้าไปในใจผม
ตอนที่ 28 เดือนดิ่ง(2)

“ช่วยด้วยยยยยย!!” ผมตะโกนสุดเสียง ก่อนจะโดนมือหนาของอาจายร์ปิดปากสนิท
“อยากให้คนอื่นมาเห็นมึงสภาพแบบนี้ใช่ไหม หา?” อาจารย์ตวาด
“มาทำแบบนี้หนังสือโป๊ของมึงกันดีกว่า มึงชอบแบบนี้ไม่ใช่หรอ” อาจารย์ชัยพูดเสร็จก็งัดควญใหญ่ออกมาฟาดหน้าผมอย่างแรง นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเจออะไรน่ารังเกียจแบบนี้

“กูไม่ได้เป็นเกย์จังไรแบบมึง แต่วันนี้มึงต้องทำให้ควญกูแข็งและน้ำแตกให้ได้ ไม่งั้นกูไม่ปล่อยมึงไว้แน่ ไอ้ลูกศิษย์ทรพี”

อาจารย์ชัยกดหัวผม บังคับให้อ้าปากและอมควญของอาจารย์เข้าไป ผมแทบจะอ้วกออกมาตรงนั้น เพราะมันทั้งเหม็นอับและสกปรก แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะถูกท่อนควญของอาจารย์สวนแทงเข้ามาในโพรงปากลึกขึ้นเรื่อยๆ

“สะใจกูจริงๆ ได้คนที่หล่อที่สุดของมหาลัยมาอมควญให้แบบนี้ ฮ่าๆๆ” อาจารย์หัวเราะเยาะผม พร้อมดันควญที่เริ่มแข็งแทงคอหอยผมจนหายใจไม่ออก โดยมีไอ้เพิร์ทเก็บภาพอย่างใกล้ชิด

“เป็นไงควญกูใหญ่เต็มปากมึงดีไหม  แม่งเงี่ยนเลย” ส่วนเพิร์ทถ่ายคลิปไปควญก็แข็งไป อาจารย์ยัดควญเข้าออกปากของผมอย่างเมามัน จนตอนนี้ควญอาจารย์ชัยแข็งเต็มที่ เพิร์ทถ่ายคลิปไปก็หัวเราะชอบใจใหญ่

“เชี่ยย เสียวว่ะ กูใกล้ละ ซิ๊ดสสสสส์”
“แตกใส่ปากมันเลยครับอาจารย์” เพิร์ทยุ
“หิวไหมไอ้หน้าหล่อ กูจะเอาน้ำให้มึงกิน” ผมสบัดหน้าหนีไปมา
“มึงต้องตอบว่าหิวสิ” อาจารย์ตบหน้าผมอย่างแรง
“หะ หิวครับ” ผมตอบอย่างไม่เต็มใจ
“อ่าาาาาา แตกแล้วเว้ยๆๆ”  น้ำควญอาจารย์พุ่งใส่ปากผมสามสี่ระลอก ผมหลับตาปี๋เตรียมจะบ้วนทิ้ง   “กลืนมันลงไปให้หมด”
“ห๊ะ!” ผมตกใจ
“กูบอกให้กลืนลงไปเดี๋ยวนี้ หรือมึงอยากให้เรื่องนี้ถึงฝ่ายปกครอง”  ผมจำยอม ตัดสินใจกลืนน้ำว่าวอาจารย์ลงไป กลิ่นคาวคละคลุ้งไปทั้งปากแทบจะอ๊วก
“เอาละคราวนี้ยืนขึ้น  ถอดเสื้อออก” ผมลังเลก่อนจะยอมถอดเสื้อออกแต่โดยดี

“อื้อหือ หุ่นดีจริงๆนะมึง อกเป็นอก กล้ามท้องเป็นกล้ามท้องเลย”

จริงๆ แล้ว ยามที่ภีตอยู่ในชุดนักศึกษานี่ดูขัดกับภาพลักษณ์สุดๆ เพราะด้วยความที่ร่างกายเป็นถึงเทพ หุ่นดีก็ดี กล้ามก็แน่น หน้าตานี่ไม่ต้องพูดถึง ถ้าเดินมาด้วยกันเป็นกลุ่มผู้ชาย ผู้หญิงก็จะมองภีตก่อนเป็นคนแรก

“ถอดกางเกงเดี๋ยวนี้” ผมขัดขืน
“จะถอดไหมไอ้สัส อยากให้เรื่องนี้รู้กันทั่วหน้าใช่ไหมมึง?” อาจารย์เร่ง

ผมจำใจค่อยๆ ถอดกางเกงออก สภาพผมตอนนี้คือล่อนจ้อน มีเพียงกางเกงในสีขาวตัวเดียว พอกางเกงหลุดลง อาจารย์อึ้งไปพักใหญ่เลย เพราะกางเกงในมันบาง จนเห็นควญผมกำลังแข็งเป็นลำ พาดขึ้นข้างบน จนหัวควญเลยขอบกางเกงใน เกือบถึงสะดือ แถมขนาดหัวควญนี่ไม่ธรรมดาเลย ใหญ่พอๆ กับลูกปิงปอง

“แม่งหัวควญโคตรใหญ่ยังกับไม่ใช่ของมนุษย์ มึงจะสมบูรณ์แบบอะไรอย่างนี้” อาจารย์ถึงกับตะลึง “ถอดกางเกงในออกด้วย” อาจารย์สั่ง ผมได้แต่ยืนอึ้ง ไม่คิดว่าต้องมาโชว์ควญต่อหน้าอาจารย์แบบนี้
“มึงเงี่ยนไม่ใช่เหรอวะ ควญตุงเชียวนะไอ้เกย์” ไอ้เพิร์ทตรงมาจับขอบกางเกงในสองข้างของผม ก่อนจะดึงลงไปที่หัวเข่า ควญขนาดใหญ่เด้งหวือลงมาขนานกับพื้นห้องน้ำ
“โห!!!! ควญแม่งงงงงง” อาจารย์อุทานในความใหญ่ยาวของควญผม แม้แต่เพิร์ทเองถึงจะเคยแอบดูควญภีตที่บ้านมาบ้างก็ยังต้องกลืนน้ำลาย  ไข่แฝดใบใหญ่ห้อยยาน ลำควญอวบอ้วนยาว หัวควญขนาดใหญ่ผงกงึกๆ แล้วน้ำเงี่ยนใสๆ ก็ไหลออกมา เพิร์ทเดินเข้าไปซูมควญผมใกล้ๆ ความใหญ่ยาวของควญถูกบันทึกในวีดีโอเรียบร้อย ผมอายมาก ทำตัวไม่ถูก
“ต่อไปให้มึงว่าวให้น้ำแตก” ผมแทบไม่เชื่อหูตัวเองว่าอาจารย์จะสั่งอะไรน่าอายแบบนี้

ผมรู้ดีว่าคงโดนแน่ๆ ขัดขืนไปก็เท่านั้นเลยยอมว่าวแต่โดยดี ให้เรื่องจบๆ ไปดีกว่า ไหนๆ ก็เงี่ยนขนาดนี้แล้วด้วย  ผมหลับตาใช้มือซ้ายเขี่ยหัวนมตัวเอง จินตนาการว่ากำลังร่วมเพศกับสาวสวย มือขวาก็กำควญตัวเอง ชักว่าวต่อหน้าอาจารย์และกล้องบันทึกภาพ ผมรูดไปได้ซักพัก

“จะแตกละครับ อ่าสสส์”
“เออ แตกออกมาเลย คงเงี่ยนมากสิ มึงไม่เอาน้ำออกมากี่วันหล่ะ แตกมาให้สะใจกูเลยไอ้สัส”
“ซิ๊ดสสสส์” ไข่หดเกร็ง สองมือของผมจับควญรูดถี่ยิบ ถึงตอนนี้อะไรก็ฉุดผมไม่อยู่แล้ว
“แตกแล้วววววววววววว”

ด้วยพลังน้ำควญของเทพ น้ำควญมหาศาลพุ่งอย่างแรงออกมาจากรูควญ ตรงไปยังอีกฝั่งของห้องน้ำที่มีหนังสือโป๊เกย์วางอยู่

“โห! พุ่งแรงฉิบหาย เสียดายแทนคนในประเทศนี้ ที่ไม่รู้ว่าเดือนมหาลัยของเรา ควญใหญ่น้ำเยอะแค่ไหน” อาจารยหัวเราะสะใจ

น้ำควญระลอกสอง สาม สี่พุ่งทะลักออกมาเป็นสายยาวไม่หยุด ไอ้เพิร์ทถือกล้องบันทึกภาพ อึ้งจนมือสั่น ทุกอย่างถูกบันทึกไว้ทั้งหมด น้ำของผมแตกกระจายไปไกล จนเพิร์ทต้องถอยหลังออกให้เห็นระยะที่ควญไอ้ภีตกำลังฉีดน้ำออกมา

ผมลืมตามองดูควญเจ้าปัญหาของตัวเองฉีดน้ำควญออกมาไม่หยุด ทุกครั้งที่แตก ผมจะแตกทีน้ำเยอะมาก ไม่รู้ไปเอามาจากไหนถึงเยอะขนาดนี้ ผมชักไปฉีดน้ำไป จนหัวควญขาวเป็นฟองฟอดจากน้ำเงี่ยนตัวเอง น้ำควญมันก็ยังออกมาเรื่อยๆ

ปรี๊ดดดดด  ปรี๊ดดดดด อาจารย์นับคร่าวๆ ได้ร่วมสิบกว่ากระฉอก กว่าน้ำควญจะหมด พื้นห้องน้ำขาวโพลนไปด้วยคราบน้ำควญ กลิ่นคาวคุ้งเต็มห้องน้ำ หนังสือโป๊เกย์ท่วมไปด้วยน้ำควญขาวข้นกองโต

“เห้ยแม่ง คนอะไรน้ำเยอะขนาดนี้วะ แม่งเกิดมากูไม่เคยเห็น”  ผมไม่รู้ครับ ผมน้ำแตกทีไรมันก็ออกมาประมาณนี้ทุกที


เมื่อเสร็จกิจกาม อาจารย์ชัยคุมตัวผมออกมาจากห้องน้ำ แล้วพามายังหน้าลานที่มีเพื่อนๆ นั่งรออยู่ โชคดีที่มีเสื้อผ้าใส่อยู่ไม่งั้นผมคงต้องเอาหน้ามุดดินแน่ๆ

“ครูมีเรื่องจะแจ้งกับทุกคน ฟังให้ดีๆ”
 “ครูตามนายภีตเข้าไปในห้องน้ำ.....และจับได้ว่านายภีตแอบหนีไปชักว่าว”

อาจารย์ชัยประกาศต่อหน้าเพื่อนๆ ร่วมวิชาของผม สร้างเสียงฮือฮาไปทั่ว หลายคนทำหน้าไม่เชื่อ เพราะทุกคนรู้ดีว่าผมเป็นตัวอย่างที่ดีมาโดยตลอด ไม่มีทางทำเรื่องน่าอดสูแบบนี้ได้แน่นอน

“จริงไหมนายภีต? ตอบ!” อาจารย์ชัยหันมาถามผมเสียงแข็ง พร้อมกับไอ้เพิร์ทที่โชว์กล้องถ่ายรูปให้ผมดู เหมือนส่งสัญญาณว่าหากผมพูดอะไรไม่ถูกใจ มันจะปล่อยภาพและคลิปหลุดของผมทันที

“จะ...จริงครับ” ผมจำใจตอบ กำหมัดแน่นทั้งสองข้าง เกิดเสียงฮือฮายิ่งกว่าเดิมในหมู่เพื่อน
“ยอมสารภาพมาให้หมดนายภีต ยอมรับต่อหน้าเพื่อนๆ นายนี่แหละ” อาจารย์ชัยบังคับ

“คืออ..ผมชื่อนายภีตครับ หือๆๆ ผมเป็นถึงระดับเดือนมหาลัยของที่นี่ แต่ผมเกิด...อารมณ์เงี่ยนขึ้นกลางห้องเรียน ท่ามกลางผู้ชายด้วยกัน เพราะผมเป็นเกย์ครับ ผมแอบไปชักว่าวในห้องน้ำยิมจนน้ำแตก น้ำเงี่ยนผมยังติดมือกับหนังสือโป๊อยู่เลยครับ หือออๆๆ” ผมสะอืน พูดตามที่อาจารย์ชัยสั่ง น้ำตาผมเริ่มไหลออกมาเรื่อยๆ ต่อหน้าเพื่อนผู้ชายด้วยกันเอง

อาจารย์ชัยโชว์หนังสือโป๊เกย์ที่เต็มไปด้วยน้ำเงี่ยนเคลือบจนมันวาว พร้อมทั้งจับมือผมยกขึ้นให้เพื่อนๆ ทุกคนดูกับตา คราบน้ำเงี่ยนของผม ทั้งขาวขุ่นและเหนียวยืดไปตามข้อนิ้ว ไหลย้อยมาถึงฝ่ามือและหลังมือ ถูกสายตาเพื่อนๆ มองอย่างรังเกียจ

“พวกมึงเห็นกับตาแล้วใช่ไหมว่าไอ้ภีตมัน***แค่ไหน เกิดอารมณ์กับพวกมึงได้ ถ้าวันดีคืนดีมันจับพวกมึงเป็นเมียมันจะทำไงว่ะ” ไอ้เพิร์มเสริม ทุกคนเริ่มเห็นด้วยกับสิ่งที่มันพูด

“เราจะไม่ยอมให้เดือนสุดหล่อประจำมหาลัยของพวกเรา มีพฤติกรรมชั่วๆ อย่างที่มันทำวันนี้”

“ครูว่าเราทุกคนต้องช่วยกันสั่งสอนนายภีตว่าผู้ชายแท้ๆ เขาเป็นยังไง!” อาจารย์ชัยพูด ผมเริ่มใจคอไม่ดี ขาทั้งสองข้างเริ่มสั่นและยืนไม่อยู่ เมื่อวานผมยังเป็นที่ชื่นชอบของทุกคนอยู่เลย มาวันนี้ทุกอย่างพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือไปเสียแล้ว


ซู่เริ่น - อดีตเคยเป็นมนุษย์ผู้ถูกกระทำ ปัจจุบันเป็นเทพทรงพลัง หื่นจัด พร้อมเอาคืนในบทนาย
ภีต - อดีตเคยเป็นเทพมากเล่ห์ผู้กระทำ ปัจจุบันกลายเป็นคนสามัญ เตรียมรับกรรมในบททาส
เอ้าเทียน – เทพรักสงบ ผู้เป็นอิสระ พร้อมเข้าพลิกสถานการณ์ ช่วยเหลือคนดีได้ทุกเมื่อ
ซู่เหวิ่น – มนุษย์รักสงคราม ผู้ถูกจองจำ รอวันสำเร็จโทษ จากคนโฉดใจชั่วได้ทุกเวลา

ไหนจะชายปริศนา คุณลุงปรานต์ภพ ลุงแดง อาจารย์ชัย เพื่อนร่วมมหาลัย พ่วงด้วยมิติเวลาที่เชื่อมระหว่างอดีต ปัจจุบันและอนาคต .....เกิดเป็นเรื่องราวความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน..รอวันเฉลย

ยอดขุนพล 14

ตอนที่ 26 เกมกาม(ต่อ)

ไม่รอช้า อดีตเพื่อนสนิทเดินตรงไปหาซู่เริ่นที่น่าสงสาร ด้วยหน้าตาที่เปี่ยมไปด้วยความเงี่ยนปนความแค้นอย่างเต็มที่ เขาปลดกางเกงออก เดินฆวยโด่เข้าไปกลางลานแสดง

“อมฆวยให้ข้าซะ เอาให้น้ำลายชุ่มๆ จะได้ยัดเข้าตูดเอ็งง่ายๆ” หงเวยสั่ง

ซู่เริ่นไม่มีทางหนีได้ หากไม่ทำก็ต้องถูกตัดไข่แน่นอน หากไม่อมก็ต้องทรมานเมื่อโดนฆวยเพื่อนรักยัดเข้ารูตูดที่ปิดสนิท ยามนี้เขาจึงจำใจอ้าปากดูดฆวยให้เพื่อนของตนเอง พยายามทำให้อดีตเพื่อนรักเสียวที่สุด หวังให้มีน้ำหล่อลื่นออกมาบรรเทาความเจ็บปวดยามถูกฆวยสอดใส่เข้าก้น

“อมฆวยเก่งทั้งพ่อทั้งลูกเลยนะ ตระกูลมึงเกิดมาเพื่อดูดฆวยจริงๆ” หงเวยครางด้วยความเสียว

เมื่อความเสียวได้ที่แล้ว หงเวยดึงฆวยออกจากปากองค์ชาย แล้วเดินอ้อมกลับไปด้านหลัง ก่อนใช้สองมือแหวกก้นองค์ชายออกอย่างตื่นเต้น

“ยังปิดสนิทไม่เหมือนของพ่อมึงเลย วันนี้กูรับรอง รูตูดมึงจะบานยิ่งกว่าของพ่อมึงอีกแน่ๆ”

หงเวยจับท่อนฆวยแท่งใหญ่อันเดียวกับที่เคยใช้แทงเข้าตูดแม่ทัพซู่เหวิ่น จ่อเข้าตรงปากรูตูดของซู่เริ่นแล้วอาศัยน้ำหล่อลื่นและน้ำลายเป็นตัวขับเคลื่อนลำฆวยเข้าไป

อยู่ๆ หงเวยก็นึกถึงภาพตนเองถูกเอ้าเทียนเย้ดอย่างไม่ปราณี ความโกรธแค้นที่สะสมไว้ปะทุขึ้น พร้อมๆ กับที่หงเวยยัดฆวยพรวดเดียวเข้ารูตูดของเพื่อนรักอย่างแรง เกิดเสียงฉีกขาดของเนื้อเยื่อเบาๆ แต่เสียงกรีดร้องของเจ้าของเนื้อเยื่อกลับดังสนั่น

“อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!” ซู่เริ่นร้องสุดเสียง แต่คนดูกลับยิ่งชอบใจ

สองขาของซู่เริ่นสั้นดิกๆ ตัวกระตุกด้วยความเจ็บปวด แต่หงเวยไม่สนใจ ถอนฆวยออกมาครึ่งลำและยัดกลับเข้าไปใหม่อีกครั้งด้วยความแรงและเร็ว จนเกิดขึ้นเนินฆวยกระทบกับผิวก้นดังพลั่บๆๆ

“เสียวจริงๆ ตูดมึงนี่แน่นยิ่งกว่าของพ่อมึงอีก กูภูมิใจมากที่เกิดมาได้เมียเป็นสองพ่อลูกตระกูลซู่”

ซู่เริ่นร้องไห้น้ำตาไหล เขาเจ็บปวดและแสบบริเวณรูตูดมาก อีกทั้งยังรู้สึกจุกเข้าไปถึงในท้องน้อย กระนั้นฆวยของเขาก็ยังแข็งโด่จากยากระตุ้น ขณะที่หงเวยก็กระเด้าฆวยเข้าออกอย่างแรงทุกครั้ง อัดกระแทกด้วยความเงี่ยนระคนความแค้น

“ซิ๊ดดดด...อ่าส์ พ่อมึงกลายเป็นเมียกูเรียบร้อย แต่มึงมัน*** มึงเสือกมาเป็นเมียน้อยกูอีกคน ฮ่าๆๆๆ” หงเวยเยาะเย้น ระบายความแค้นออกมาผ่านลำฆวยที่เย้ดอย่างไม่หยุดยั้ง

“ถ้าจะเป็นเมียที่สมบูรณ์เหมือนพ่อมึง มึงต้องรับน้ำเชื้อของกูเข้าไป มึงต้องให้กูฉีดน้ำฆวยกูเข้าตูดมึงเหมือนที่พ่อมึงเคยทำไว้” หงเวยเร่งซอยฆวยเข้าตูดที่เริ่มบานของซู่เริ่นด้วยความสะใจ

“อย่าๆๆๆๆๆๆๆๆ อย่าทำอย่างนั้น อย่านะ หยุดนะ” องค์ชายเริ่นดิ้นรนร้องขอ

“ไม่ทันแล้วโว้ยย ไอ้ทาสชั่ว กูจะแตกแล้ว รับน้ำกูไปซะ...อ่าสสสสส์” หงเวยกระตุกพวยพ้นน้าอสุจิจำนวนมากเข้ารูตูดสวยขององค์ชาย เป็นครั้งแรกที่ซู่เริ่นรู้สึกถึงการหลั่งของน้ำฆวยเข้ามาในตัวของเขา ปกติยามที่เขาเย้ดกับผู้หญิงก็มักจะแตกใน แต่ไม่รู้เลยว่าความรู้สึกเป็นเช่นไร จนวันนี้

“ฮ่าๆๆๆๆๆ เป็นไงบ้างเพื่อนรัก กูเย้ดเสียวไหมว่ะ ตูดมึงคงอร่อยกับน้ำเงี่ยนกูเลยสิ” หงเวยหยาม

“ขอเชิญคนต่อไป***สดไอ้คุณชายเริ่นหน้าหล่อหุ่นดีคนนี้ให้ถึงใจ กฏคือทุกคนต้องปล่อยน้ำฆวยข้างในตัวมัน แล้วให้คนต่อไปใช้น้ำเงี่ยนของคนก่อนเป็นหล่อลื่นฆวยตนเองเพื่อ***ไอ้หล่อคนนี้”

ซู่เริ่นแทบไม่เชื่อหูตนเอง ที่เขาเห็นตอนนี้คือผู้ชายกว่ายี่สิบคนที่เข้าแถวรอเป็นสามีของเขา ทั้งที่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขาต้องเสียความเป็นชาย และเสียให้กับเพื่อนที่เคยเชี่อใจกันมาด้วย แถมผู้ชายอีกหลายคน เขาหมดแล้วซึ่งเกียรติยศที่เคยมี องค์ชายที่ต้องการของทุกคนกลายเป็นทาสที่คนรวยหน้าไหนก็ยัดเยียดความเป็นผัวให้ได้

กิจกรรมกามดำเนินไปเรื่อยๆ ซู่เริ่นต้องทนถูกทั้งคนแก่ คนหนุ่ม รุม***อย่างไม่ปราณี รูตูดเขาชาไปหมดแล้ว ลีลาแต่ละคนนั้นไม่ธรรมดา บางคนก็แทงฆวยเสยเข้าอัดลำไส้ของเขาอย่างรุนแรง บางก็ทำแบบนุ่มนวลแต่หนักหน่วง บางก็ควงฆวยขยายรูตูดของเขาจนบานอ้าน่าเกลียด

ในช่วงหลังๆ ตูดซู่เริ่นไม่สามารถรับน้ำฆวยได้อีกต่อไป ทำให้น้ำเงี่ยนไหลทะลักออกมายืดยานจากตูดหนุ่มหล่อหยดถึงพื้นดินเบื้องล่างอย่างน่าอับอาย

“ฆวยก็อัปลักษณ์ รูตูดก็บานโร่ มึงมีอะไรดีเหลืออยู่อีกบ้างว่ะ?” ชายคนหนึ่งเย้ย
“เตรียมตูดมึงไว้ดื่มน้ำเงี่ยนกูนะ กูจะฉีดเข้าไปแล้วสุดหล่อ”
“โอ๊ยยย ซี๊ดดดด น้ำเงี่ยนเต็มโพรงตูดเลยว่ะ เสียบฆวยเข้าไปแล้วลื่นไปหมด”
“ตูดฉีกแล้วองค์ชาย ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็ชินไปเอง”
“เป็นผู้ชายหล่อๆ ให้สาวติดไม่ชอบ เสือกชอบโดนเย้ดอย่างสัตว์”
“เสียดายแทนพวกคนจนที่ไม่มีเงิน อดเย้ดตูดองค์ชายรูปงามอย่างพวกข้า ฮ่าๆๆ”
“เมียรัก ขอให้ฆวยผัวคนนี้เข้าไปสำรวจข้างในหน่อยนะ เดี๋ยวแถมน้ำเชื้อให้ สะใจจริงๆ”

ซู่เริ่นต้องทนฟังคำพูดหยามเหยียดต่างๆ นานา ได้แต่ขอให้ช่วงเวลานี้ผ่านพ้นไปเสียที ก่อนจะรู้ตัวว่าคิดผิด เมื่อกิจกรรมทำลายตูดของเขาจบลง เสียงประกาศก็ดังขึ้นอีก

“ต่อไปจะเป็นการรีดน้ำฆวยขององค์ชายออกมา พร้อมไหมทุกท่าน” โฆษกประกาศ

ทหารตรงกับมาใช้เชือกรัดตั้งแต่โคนฆวยของคุณหนูเริ่น แล้วพันรอบขึ้นมาอย่างแน่นสุด ด้วยความใหญ่อวบของฆวยทำให้เชือกที่เตรียมมาเกือบรัดไม่พอ เมื่อทำการรัดฆวยเรียบร้อย กิจกรรมกามก็เริ่มขึ้นทันที

“จ่ายเพียงสิบอัฐ ได้เข้าไปรีดน้ำฆวยออกจากองค์ชาย” หงฟู่กล่าวเสียงดัง

เมื่อได้ลูกค้าสมใจอยาก หงฟู่ก็อนุญาติให้เข้าไปรีดเอาน้ำฆวยขององค์ชายออกมา แต่ละคนตรงเข้าไปบีบท่อนฆวยเหมือนเหมือนรีดนมวัว แต่ด้วยความใหญ๋และยาว ทำให้มือของลูกค้าแต่ละคนกำแทบไม่รอบฆวยของเริ่น

ผู้คนต่างพากันมาชักฆวยให้เริ่นอย่างสนอกสนใจ บางคนก็เอานิ้วหมุนวนที่ปลายหัวฆวย บางคนก็กำรูดตั้งแต่โคนขึ้นมาถึงคอหยัก ก่อนจะสลับมือทำเหมือนเดิมไปเรื่อยๆ บางคนก็เค้นคลึงไข่ไปทั่ว

“ซิ๊ดดด อ่าสสส์ อ่าส์ อาส์....หลั่งแล้วววว” ซู่เริ่นทนไม่ไหวแล้ว ผู้ชายหน้าไหนโดนแบบนี้ย่อมทนไม่ได้เป็นธรรมดา

ซู่เริ่นกระตุกฆวยและร่างอย่างแรงกลางอากาศ ฆวยผงกหัวงึกๆ อนิจจังเชือกที่รัดฆวยไว้กลับขัดขวางการหลั่งของน้ำเงี่ยน ซู่เริ่นทำได้เพียงแค่กระตุกฆวย กระเด้าลมในอากาศ แต่ไร้ซึ่งหยาดน้ำเงี่ยนแม้เพียงหยดเดียว

“หือๆๆ เงี่ยน เงี่ยนๆๆๆ แก้เชือกให้ข้าเถอะ ข้าเงี่ยน ปวดฆวยไปหมดแล้ว” ซู่เริ่นคำราม

ไม่มีใครสนใจ กลับตรงเข้าไปรูดฆวยรีดน้ำเงี่ยนอีกครั้ง คราวนี้ยิ่งสะใจ บางคนชักฆวยองค์ชายรัวๆ บางคนดึงไข่ทั้งพวงขององค์ชายอย่างแรง ก่อนที่องค์ชายจะกระตุกฆวยน้ำแตกอีกครั้ง

น้ำที่ไหลออกมาจากโรงผลิตที่ใข่ทั้งสองใบหลั่งออกมาเจอทางตัน ก็ไหลย้อนกลับเข้าไปในไข่อีกครั้ง ซู่เริ่นโดนทำเช่นนี้อยู่หลายรอบ จนไข่บวมเป่ง อัดแน่นเป็นด้วยน้ำเงี่ยนที่มิอาจหลั่งออกจากปากฆวยบานได้

“เงี่ยนเหลือเกิน ข้าเงี่ยนฆวยเหลือเกิน ข้ายอมแล้ว ยอมทุกอย่างแล้ว” ผู้ชายทุกคนรู้ดีว่าหากเงี่ยนแต่น้ำแตกไม่ได้นั้นทรมานแค่ไหน

“ยอมทุกอย่าง? งั้นกราบตีนกูซะ แล้วกูจะช่วยให้มึงสมใจอย่าก” หงเวยท้า

“ได้ๆๆ ข้ายอมแล้ว ยอมแล้ว ขอน้ำแตกทีเถอะ ปวดฆวยเหลือเกิน” ซู่เริ่นยอมรับชะตากรรม

“ตกลง ข้าจะปล่อยเอ็งลงมา แต่ต้องคลานเข้ามากราบตีนข้าซะ” หงเวยสะใจสุดๆ

ซู่เริ่นพยักหน้ายอมรับเงื่อนไข หงเวยจึงสั่งให้ทหารปรับคานไม้ให้ตั้งขึ้นแล้วแก้มัดมือขององค์ชายออก ก่อนที่องค์ชายจะกลั้นใจคุกเข่าลงกับพื้น แล้วคลานเหมือนหมาเข้าไปหาหงเวย

หงเวยยืนรอดูอย่างสะใจ ภาพองค์ชายที่เหนือกว่าเขาทุกด้าน ทั้งหน้าตารูปร่าง ฝีมือ คารม ทุกอย่างหงเวยล้วนเป็นรอง แต่บัดนี้คุณชายกลับต้องคลานเข่ามาหาเขาเหมือนสัตว์ตัวหนึ่งที่อ้อนวอนขอชักว่าวด้วยความเงี่ยน ช่างน่าสมเพชเสียจริง

ซู่เริ่นคลานมาถึงเท้าของหงเวยแล้ว สองมือประกบกันขึ้นก่อนเขาจะโน้มหัวลงไปแทบเท้าของหงเวย สร้างความพอใจให้หงเวยมาก เขายกเท้าขึ้นมาขยี้หัวของเริ่นอย่างสะใจ ลืมความโกรธแค้นที่เคยมี เปลี่ยนเป็นความชอบใจอย่างถึงที่สุด

“ดีมากไอ้ทาสจอมเงี่ยน ข้าอนุญาตให้เอ็งน้ำแตกต่อหน้าคนดูทีนี่ได้” หงเวยพูด มองหน้าให้สัญญาณทหารรับใช้ข้างๆ

ทหารรับใช้เดินเข้ามาหิ้วตัวซู่เริ่นไปนั่งคุกเข่าบนโต๊ะกลางลานให้ทุกคนเห็นโดยทั่ว ก่อนจะคลายมัดเชือกที่รัดฆวยไว้ แล้วเอาวงแหวนเหล็กใส่เข้าไปใต้เงี่ยงฆวย ตรงคอหยัก

“ชักว่าวได้ แต่ห้ามถูกหัวฆวย ห้ามเลยขึ้นมาถึงขอบวงแหวนนี้” หงเวยสั่ง
ซู่เริ่นไม่สนใจสิ่งใดแล้ว ทันทีที่เขาเป็นอิสระ สองมือก็เข้าประกบกำรอบท่อนฆวยแล้วรูดหนังขึ้นลงอย่างเสียวซ่าน แม้จะรูดได้ไม่สุดถึงหัวฆวยเพราะมีวงแหวนจำกัดบริเวณอยู่ แต่ด้วยความยาวของท่อนฆวยที่เหลืออยู่ก็สร้างความพอใจให้เจ้าของฆวยได้มากโข

“อ่าสส์ ซิ๊ดดดดด...เสียววว” ซู่เริ่นโยกสะโพกไปมาอย่างลืมตัวว่ามีคนดูเขาสำเร็จความใครอยู่

เขาบ้วนน้ำลายใส่มือแล้วกำรอบลำฆวย หนังฆวยกับหนังฝ่ามือสัมผัสกัน เกิดเป็นจินตนาการว่ากำลังได้เย้ดคนอื่นอยู่ แม้จะยุ่งกับหัวฆวยไม่ได้ แต่องค์ชายก็อาศัยความเสียวจากลำฆวยแทนได้ เขาใช้สองมือกำต่อกันรอบลำฆวย แต่กระนั้นก็ยังมีส่วนฆวยที่โผล่พ้นออกมาอยู่ดี

“เสียวเหลือเกิน เสียวอะไรอย่างนี้ ทนไม่ไหวแล้ว กลั้นไม่อยู่แล้ววววว อ่าสสสส์” ซู่เริ่นคำรามลั่น

น้ำฆวยเคลื่อนที่ออกจากไข่บวมจนเห็นหนังข้างนอกเต่งตึง ก้อนน้ำเชื้อเก่ารวมกับน้ำเชื้อใหม่ที่พึ่งผลิตค่อยๆ วิ่งมาที่โคนฆวย ก่อนองค์ชายกระตุกจะฆวยเพียงครั้งเดียว หัวฆวยเบ่งบานขึ้นจนวงแหวนที่ครอบไว้กระเด็นหลุดเพราะแรงดัน ห่าน้ำเงี่ยนพวยพุ่งหลั่งไหลออกมา ทะลักไปข้างหน้าซู่เริ่นกว่าห้าเมตร

“ไอ้ฉิบหาย นั่นน้ำฆวยองค์ชายหรอว่ะ? เยอะ***ๆ” คนดูร้อง ขณะที่ซู่เริ่นปล่อยน้ำออกมาเรื่อยๆ นับได้ตอนนี้ก็มากกว่าสิบห้าระลอกแล้ว

“ขนาดแตกออกมาเยอะแล้ว ยังพุ่งไกลทุกครั้งเลยว่ะพวกเรา” อีกคนทัก ขณะที่ฆวยซู่เริ่นยังคงกระตุกหลั่งน้ำออกมาเติมใส่กองอสุจิที่อยู่บนพื้นข้างหน้าไม่มีท่าว่าจะหยุด

“ความเสียวทะลุออกมาจากใบหน้ามันแล้ว ดูสิเงยหน้าซิ๊ดปากใหญ่เลย” สองมือของซู่เริ่นยังกำรอบฆวย ขณะที่ใบหน้าเผยความเสียวอย่างชัดเจน

“โห้ น้ำแม่งเยอะจริงๆ ผู้หญิงที่โดนไอ้หล่อนี้แตกใน คงท้องโตแน่ๆ เลย” หนุ่มคนหนึ่งพูดขึ้น
“น้ำเชื้อคุณภาพทั้งนั้น น่าจะเก็บไว้ให้คนรับใช้ที่ตำหนัก เห็นบ่นว่าอยากมีลูก” ชายคนหนึ่งเอ่ย
“น้ำเงี่ยนมันขาวข้นจริงๆ เหนียวยืดไปหมด ข้าชอบว่ะ” คนดูกล่าว
“ฆวยใหญ่ๆ ก็เหมาะกับน้ำเงี่ยนเยอะๆ แบบนี้ใครก็ชอบ” อีกคนตอบ

“ข้ายอมจ่ายทองคำสามชั่ง ช่วยกรีดเอาไข่คุณชายคนนี้ออกมาให้ข้าสักข้างหนึ่งได้ไหม” เศรษฐีหนุ่มคนหนึ่งพูดด้วยความอิจฉาซู่เริ่น

“ตอนมันเลย! ตอนมันเลย! ตอนมันเลย!” คนอื่นๆ ส่งเสียงเชียร์ด้วยความอยากรู้เหมือนกันว่าหากเหลือไข่เพียงข้างเดียว น้ำเงี่ยนจะยังเยอะแบบนี้อยู่ไหม

หงฟู่หน้าเงินเมื่อได้ขอเสนอที่ถูกใจเช่นนี้ก็รีบรับคำขอทันที ก่อนสั่งให้ทหารจับตัวซู่เริ่นไว้ให้แน่น ล็อคตัวไว้จนซู่เริ่นที่หน้าเริ่มถอดสีขยับตัวไม่ได้ ทหารอีกคนถือมีดคมกรีบเดินเข้ามา

“อย่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อย่าทำหมันข้า อย่าตัดไข่ข้านะ ไม่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” ซู่เริ่นน้ำตาไหล ดิ้นเหมือนคนบ้า

ทหารที่ถือมีดนั่งลงตรงฆวยของซู่เริ่นพอดี นี่ขนาดน้ำแตกไปแล้ว ยังคงขนาดใหญ่ไว้ได้อีก อึดสมกับเป็นชายชาติทหารจริงๆ ปลายมีดถูกถือจ่อไว้ตรงไข่ข้างซ้าย คมมีดเตรียมปาดเข้าไปทันทีที่มีคำสั่งจากหงฟู่

“ตัดเลย!” หงฟู่กล่าวสั้นๆ แต่ซู่เริ่นถึงกับหมดเรี่ยวแรงทันที

ปลายคมค่อยๆ ปักเข้าไปในหนังไข่เพียงเล็กน้อย ก่อนทหารรอบๆ ตัวซู่เริ่นจะกระเด็นออกไปคนละทิศคนละทางจากพลังปราณในระยะไกล เกิดฝุ่นควันตลบ พร้อมการปรากฏตัวของเอ้าเทียนและแม่ทัพซู่เหวิ่น

“ขอโทษที่มาช้านะ เรามาช่วยแล้ว” จิ้งจอกเงินปลอบ

เหมือนเหตุการณ์หยุดนิ่ง จิ้งจอกหนุ่มยืนคู่กับแม่ทัพซู่เหวิ่นข้างๆ เวทีไม่ไกลมากจากซู่เริ่น ขณะที่ซู่เริ่นยืนอยู่คนเดียวกลางลานแสดง ก่อนที่ซู่เริ่นจะถูกชายปริศนาคนหนึ่งที่อยู่ท่ามกลางคนดู กระโดดออกมาจากอัฒจรรย์ด้วยวิชาตัวเบา ตรงเข้าจับล็อคตัวซู่เริ่นไว้จากข้างหลัง

“หยุดนะ ถ้าไม่อยากให้ซู่เริ่นตาย” ชายปริศนาสั่งเอ้าเทียน
“เจ้าเองสินะ คนที่บงการอยู่เบื้องหลัง” เอ้าเทียนจำได้ ชายคนนี้คือคนเดียวกับที่มาหาเขาที่ถ้ำงูดำ

ชายปริศนาถือมีดเล่มหนึ่งไว้ในมือพร้อมปาใส่ซู่เริ่น ขณะที่อีกมือถือหน้าไม้ที่เล็งไปทางแม่ทัพซู่เหวิ่น พร้อมอัดลูกศรเตรียมยิงเสร็จสรรพ

“มาดูกันว่าใครจะเร็วกว่ากัน” ชายปริศนาพูด

เหมือนเวลาค่อยๆ เดินอย่างช้าๆ ปลายนิ้วของชายปริศนาค่อยๆ เหนี่ยวไกหน้าไม้ พร้อมกับลูกศรแหลมที่ค่อยๆ วิ่งออกจากหน้าไม้มุ่งไปทางแม่ทัพซู่เหวิ่น ขณะเดียวกันมืออีกข้างก็ขว้างมีดบินตรงไปยังซู่เริ่นทันที

จิ้งจอกเงินมองเห็นทุกอย่างชัดเจนดี ทางหนึ่งเป็นแม่ทัพซู่เหวิ่นที่กำลังถูกลูกศรพุ่งเข้าใส่ อีกทางเป็นซู่เริ่นที่มีมีดบินตรงเข้ามาเรื่อยๆ ในยามนี้เขาหนึ่งคนต้องช่วยสองคนในเวลาเดียวกัน สมองรีบประมวลผลอย่างรวดเร็วแข่งกับอาวุธที่ใกล้เป้าหมายเข้ามาเรื่อยๆ

เอ้าเทียนไม่รีรอ รีบตัดสินใจทันที มือข้างหนึ่งรีบผลักตัวแม่ทัพซู่เหวิ่นออกให้พ้นระยะของลูกศร ก่อนจะกระโจนเขาไปรับตัวซู่เริ่นให้ออกจากเส้นทางของมีดบิน

จังหวะเดียวกันกับที่ผลักตัวแม่ทัพออกไปพ้นระยะของลูกศร ชายปริศนาก็เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วด้วยวิชาตัวเบา พุ่งตรงเข้าจับร่างของแม่ทัพซู่เหวิ่น

พร้อมกับที่เอ้าเทียนคว้าตัวของซู่เริ่นได้อย่างปลอดภัย แต่หารู้ไม่ว่ามีดบินกลับวนย้อนกลับมาเหมือนบูมเมอแรง ตรงเข้าปักอกของซู่เริ่นเต็มๆ

เวลากลับมาเดินปกติอีกครั้ง ชายปริศนากับแม่ทัพซู่เหวิ่นหายไปจากลานแสดงเรียบร้อยแล้ว ส่วนซู่เริ่นทรุดร่างลงบนตักของเอ้าเทียนที่ล้มนั่งลงกับพื้น เลือดแดงฉานไหลออกมาจากอกองค์ชายเริ่นไม่หยุด เอ้าเทียนสัมผัสได้ถึงชีพจรที่เต้นแผ่วลงเรื่อยๆ ของซู่เริ่น พร้อมกับลมหายใจรวยริน

“เจ้ากำลังจะตาย” เอ้าเทียนพูดเสียงสั่น เขาช่วยอะไรซู่เริ่นไม่ได้อีกแล้ว
บทที่ 25 แฝดเทพ

เลือดซู่เริ่นทะลักไหลออกจากอกไม่หยุด พร้อมกับชีพจรที่แผ่วลงเรื่อยๆ เอ้าเทียนเองก็รู้ดีว่าบัดนี้ไม่มีใครช่วยซู่เริ่นได้อีกแล้ว เมื่อวาระสุดท้ายของชีวิตชายหนุ่มนักรบคืบคลานเข้ามาเรื่อยๆ

ซู่เริ่นไม่แสดงออกถึงความกลัวใดๆ เขาคิดว่านี่อาจจะเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำ หากเขาลาโลกนี้ไปเสียตั้งแต่ตอนนี้ เพราะอยู่ในสภาพเช่นนี้ก็เหมือนตายทั้งเป็น

“ปล่อยให้ข้าตายอย่างสงบเถอะ อึกกก!” ซู่เริ่นกระอักเลือดออกปาก

เอ้าเทียนไม่เข้าใจ เหตุใดสวรรค์จึงปิดหูปิดตาเช่นนี้ คนดีๆ อย่างซู่เริ่น ทำคุณให้แผ่นดินมากมาย แต่กลับต้องมาถูกคนชั่วข่มเหงและจบชีวิตลงอย่างน่าอเนจอนาจ เช่นนี้ไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย

ในเวลาเช่นนี้คงมีเพียงยมบาลเท่านั้นที่เป็นผู้ตัดสินความเป็นความตายของซู่เริ่นได้ หากแม้นซู่เริ่นมีพลังอย่างเอ้าเทียน เหตุการณ์น่าอดสูเช่นนี้คงไม่เกิด แต่น่าเสียดาย ซู่เริ่นเป็นเพียงมนุษย์เดินดินธรรมดา

“มนุษย์เดินดินธรรมดา?” เอ้าเทียนพูดย้ำ พร้อมกับความร้อนลุ่มจากภายในร่างที่ประทุออกมา

จู่ๆ ก็มีเสียงดังขึ้นในหัวของเอ้าเทียน --- หนทางเดียวที่จะปลดปล่อยพลังเทวานี้ออกไป คือต้องหาร่างใหม่ที่ใกล้เคียงกับเอ้าเทียนมากที่สุด เพื่อถ่ายทอดพลังออกจากตัวเอ้าเทียน ซึ่งในปฐพีนี้คงหาคนที่เหมือนเอ้าเทียนไม่ได้อีกแล้ว --- ข้อความนี้ดูจะไม่เป็นจริงเสียแล้ว

จิ้งจอกเงินรู้สึกถึงพลังเทวาที่หลั่งไหลแผ่ซ่านออกมาทั่วกาย ราวกับพบเจอเจ้าของร่างใหม่ที่แท้จริงตรงหน้าชั่วขณะเดียวกัน ผู้คนที่กำลังชุลมุนวุ่นวายอยู่รอบๆ กลับนิ่งสนิทไม่เคลื่อนไหว แม้แต่แมลงวันยังบินค้างอยู่ในอากาศ ทุกอย่างหยุดนิ่งไม่เว้นแม้แต่เวลาของโลก มีเพียงเอ้าเทียนและซู่เริ่นเท่านั้นที่ไม่ตกอยู่ในอำนาจของห้วงเวลานี้

“เจ้าสินะ เจ้าของพลังเทวาที่แท้จริง!!!!” เอ้าเทียนกล่าวกับซู่เริ่น

“นี่คงเป็นหนทางเดียวแล้วล่ะที่จะช่วยเจ้าได้ คุณชายเริ่น” เอ้าเทียนพูดต่อ

ซู่เริ่นที่กำลังจะตายรับรู้ได้ถึงความอบอุ่นจากร่างเอ้าเทียนที่แผ่ซ่านออกมาหาเขา ลำแสงสีทองอร่ามพุ่งไหลออกเป็นสายสู่ร่างของเขาไม่ลดละ พร้อมกับความเจ็บปวดที่ค่อยๆ จางหายไป

แสงทองส่องสว่างไหลอาบชโลมไปทั่วร่างของซู่เริ่น ชีพจรที่ใกล้ดับกลับเต้นระรัวยิ่งกว่าครั้งไหนๆ กำลังวังชาเพิ่มขึ้นทวีคูณ บาดแผลที่เคยถูกกระทำต่างๆ นานา รวมทั้งความทุกข์ทรมานทั้งหลายมลายหายสิ้น ก่อนจะเกิดแสงสว่างจ้า วาบไปทั่วลานกว้าง

เมื่อแสงสว่างหายไป เอ้าเทียนค่อยๆ พยุงตัวเองลุกขึ้น และต้องยืนนิ่งไปชั่วขณะ เมื่อเขาเห็นซู่เริ่นที่บัดนี้ร่างกายเปล่งแสงสวย ผิวกายอาบไปด้วยสีทองผ่อง ใบหน้าสว่างสดใส อยู่ในชุดไหมทองสง่างามปลิ้วไสว ยืนสง่างามอย่างเทพหนุ่มชวนหลงไหล

ท่ามกลางเวลาที่หยุดนิ่ง เซียนหนุ่มรูปงามสองคนยืนอยู่กลางลานใหญ่ คนหนึ่งร่างกายเปล่งแสงออร่าสีเงิน ใบหน้าคมคายพร้อมไรผมสีขาวประกายเงิน อยู่ในชุดคลุมยาวสีเงินขลิบขอบขาว อีกคนมีร่างออร่าสีทอง ใบหน้าเหมือนกันทุกกระเบียดนิ้ว ริ้วผมดำสนิทปลิ้วสลวย อยู่ในชุดคลุมยาวสีทองขลิบขอบดำ

คนหนึ่งเหมือนจิ้งจอกตัวแทนของดวงจันทร์ ให้ความรู้สึกถึงไอเย็นยะเยือก เปี่ยมไปด้วยสติปัญญา อีกคนเหมือนราชสีห์ตัวแทนของดวงอาทิตย์ ให้ความรู้สึกถึงรัศมีความร้อน เปี่ยมไปด้วยความกล้าหาญมุ่งมั่น ยามที่บุรุษสองคนนี้ยืนอยู่ด้วยกัน เหมือนความแตกต่างที่ลงตัวที่สุด

“สดชื่นจริงๆ เลยยย ฮ่าๆๆๆ” ซู่เริ่นร่างเทพพูดประโยคแรก

“ใจเย็นๆ ก่อนนะ เจ้าพึ่งรับพลังเข้าไป เรายังไม่รู้ว่าพลังของเจ้าเป็นแบบไหน? อาจก่อให้เกิดอันตรายขึ้นได้นะ” เอ้าเทียนปราม

“พลังของข้ารึ? ฮ่าๆๆ ทำไมเจ้าของพลังอย่างข้าจะไม่รู้” ซู่เริ่นตอบพลางอมยิ้ม พร้อมกล่าวต่อ

“พลังของเจ้าคือเปิดมิติเวลาและเร่งไปยังอนาคตข้างหน้าได้ พลังของข้านั้นก็ตรงกันข้ามกับของเจ้าโดยสิ้นเชิง” ซู่เริ่นพูด

“ถ้าเช่นนั้น...?” เอ้าเทียนไม่พูดต่อ เขาเข้าใจทุกอย่างได้ทันที พลังของเขาคือเร่งเวลาให้เดินไปข้างหน้า เหมือนที่เขาเคยส่งจอมมารงูดำอู่ท่งไปยังอนาคตได้ ส่วนพลังของซู่เริ่นก็...

“ใช่! ข้าสามารถย้อนเวลาถอยหลัง กลับไปยังอดีตได้” ซู่เริ่นพูดอย่างร่าเริง

คนหนึ่งปรับเวลาไปสู่อนาคต คนหนึ่งย้อนเวลากลับสู่อดีต ยามที่เทพทั้งสองอยู่ด้วยกันจึงสามารถควบคุมเวลาได้ทั้งหมด เหมือนกับตอนนี้ที่เวลาหยุดนิ่ง ทุกอย่างไม่เคลื่อนไหว นั่นก็เพราะเวลาไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ด้วยพลังเวทย์จากซู่เริ่น

หรือเวลาที่เอ้าเทียนกระโดดสลายร่างหายไปในอากาศแล้วไปโผล่อีกที่หนึ่ง นั้นไม่ใช่การหายตัวจากตำแหน่งหนึ่งไปยังอีกตำแหน่งหนึ่ง แต่เป็นเพราะเวทย์เร่งเวลาของเอ้าเทียน ที่ทำให้เวลาของเขาเดินเร็วกว่าคนอื่น เร็วจนคนทั่วไปไม่ทันรู้สึกอะไร แต่นานพอให้เขาย้ายตัวเองไปยังปลายทางได้ กว่ามนุษย์จะทันรู้ตัว ก็เห็นเอ้าเทียนตรงหน้าหายไปเสียแล้ว

“ถึงเวลาเอาคืนคนพวกนี้แล้วล่ะ” ซู่เริ่นกล่าว พร้อมคลายพลังออกให้เวลาเดินตามปกติ
......................................................................................................................................................................

ณ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง

“และค่ำคืนนี้ เราได้ผู้ชนะในการประกวดดาว-เดือนของมหาวิทยาลัยเรียบร้อยแล้วครับทุกๆ ท่าน ขอเสียงปรบมือให้ผู้เข้าประกวดทุกคนในที่นี้ด้วยครับบบ” พิธีกรชายกล่าว

บนเวทีเต็มไปด้วยหนุ่มหล่อสาวสวยยืนเรียงกันหลายสิบคน ถึงอย่างนั้นก็ไม่อาจปกปิดความโดดเด่นของชายหนุ่มหนึ่งในผู้เข้าประกวดได้ ด้วยใบหน้าที่แตกต่างโดดเด่นออกมาจากผู้เข้าประกวดคนอื่นๆ อย่างชัดเจน

“และผู้ที่ชนะในการประกวดเดือนสุดหล่อของเรา ได้แก่....”พิธีกรชายพูด พร้อมเสียงดนตรีบรรเลงอย่างลุ้นระทึก

“นายธวัลเทพ นิลนาคา หรือน้องภีต ตัวเต่งอันดับหนึ่งของเรานั่นเองครับบบบบบ” เสียงปรบมือ พร้อมเสียงกริ๊ดกร๊าดจากผู้ชมดังลั่นไปทั่ว

ใช่แล้ว พิธีกรประกาศเรียกชื่อผม นี่ผมได้รางวัลรึ ไม่น่าเชื่อจริงๆ ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองหล่อหรือดูดีอะไรเลย จริงๆ ไม่ได้สนใจเรื่องรูปร่างหน้าตาด้วยซ้ำ

สิ่งที่ผมให้ความสนใจมากกว่าก็คือความทรงจำของผมต่างหาก ผมจำอะไรไม่ได้เลยนับตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุรถชนตอนที่ผมกำลังข้ามถนน ผมจำได้ครั้งสุดท้ายว่าไปดูการแข่งขันรักบี้อะไรสักอย่าง สิ่งเดียวที่ผมจำได้คือผมชื่อภีต ชื่อจริงก็อย่างที่พิธีกรประกาศไปนั่นแหละครับ

ส่วนครอบครัวผมน่ะหรอ? ผมก็จำไม่ได้เลยสักนิด ไม่มีประกาศตามตัวคนหายหรืออะไรสักอย่าง ในอดีตผมคงเป็นคนเลวมาก ขนาดญาติพี่น้องยังไม่แสดงตัวช่วยเหลือ

โชคดีที่คุณลุงที่ขับรถชนผมเค้ามีความรับผิดชอบ แกชื่อปรานต์ภพครับ แกยอมให้ผมพักอาศัยในบ้านของแกไปก่อน และเลี้ยงดูผมเหมือนลูกคนหนึ่ง อีกทั้งยังใช้เส้นสายให้ผมได้เข้าเรียนในสถาบันแห่งนี้ด้วย นับว่ามีบุญคุญกับผมมากจริงๆ

จะว่าไปคุณลุงปรานต์ภพที่ช่วยผมก็รวยนะ บ้านที่อยู่ตอนนี้ก็ใหญ่อย่างกับคฤหาสถ์ ในบ้านมีคุณลุงอาศัยอยู่กับลูกชายคนหนึ่งชื่อเพิร์ท เห็นว่าไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของคุณลุงหรอกครับ แต่เป็นลูกที่ติดมาจากภรรยาใหม่ แต่โชคร้ายที่ภรรยาเสียไปซะก่อน

เพิร์ทก็อายุใกล้กับผมนี่แหละครับ แถมเรายังเรียนมหาลัยเดียวกัน คณะเดียวกันอีกด้วย สรุปเราสามคนคือผมกับคุณลุงและเพิร์ทก็เลยต้องอยู่ด้วยกันในบ้านหลังใหญ่ ยังดีที่มีคนรับใช้ ไม่งั้นคงเก็บกวาดไม่ไหวแน่ๆ

“น้องภีตครับ!!!! น้องได้รางวัลที่หนึ่งครับ” เสียงพิธีกรชายดังขึ้นทำลายความคิดของผม

“อ่อครับๆ” ผมพยักหน้ารับ รีบก้าวออกจากแถว เดินมาหน้าเวที ไฟสปอร์ตไลท์สาดส่องมาที่ผม ทำเอาแสบตาไปหมด มองไปข้างหน้าแทบไม่เห็นอะไร นอกจากกลุ่มคนดูจำนวนมาก

“เออ...ผมขอขอบคุณมากจริงๆ ครับสำหรับตำแหน่งนี้” ผมพูดแบบไม่มีสคลิป เพราะไม่คิดว่าจะชนะด้วยซ้ำ เสียงกริ๊ดหยุดลง ทุกคนดูตั้งหน้าตั้งตาฟังสิ่งที่ผมจะพูด

“จริงๆ ผมก็ดีใจนะครับที่ได้รับรางวัลนี้ แต่ลึกๆ ผมอยากให้เราทุกคนมองกันที่ภายในมากกว่ารูปลักษณ์ภายนอกนะครับ” เสียงปรับมือดังไปทั่วเมื่อผมพูดจบ

“สมแล้วครับกับตำแหน่งเดือนมหาลัยในปีนี้ หล่อทั้งข้างนอกและข้างในจริงๆ นะครับ ไม่แปลกใจเลยที่น้องภีตจะเป็นที่รักของทุกๆ คนด้วยคะแนนโหวตที่ล้นหลามขนาดนี้” พิธีกรกล่าว

“ใช่ค่ะ สำหรับน้องภีตของเรานั้น เป็นหนุ่มหล่อรูปร่างดี เรียนเก่ง เล่นกีฬาได้ นิสัยก็ดี มีแต่คนชื่นชม Perfect อะไรอย่างนี้” พิธีกรหญิงประกาศ พร้อมเสียงเชียร์จากคนดูดังกระหึ่ม

ทุกคนแสดงความยินดีกับภีตกันถ้วนหน้า ยกเว้นเพิร์ทที่อยู่ในกลุ่มคนดู เขายืนกำมัดแน่นด้วยความอิจฉาริษยาในตัวภีต เด็กหนุ่มที่พ่อทิ้งไปตั้งแต่ยังเล็ก ต้องทนอยู่กับแม่ซึ่งแต่งงานใหม่กับคุณลุงปรานต์ภพที่ไม่ใช่พ่อแท้ๆ และตอนนี้ยังมีภีตเข้ามาวุ่นวายอีกคน

“ไอ้ภีต แกต้องโดนสั่งสอนซะบ้าง” เพิร์ทกัดฟันนิ่ง ท่ามกลางเสียงกริ๊ดจากคนดูให้เดือนคนใหม่
ตอนที่ 28 เอาคืน(1)

ทันทีที่ซู่เริ่นคลายพลังลง เวลาก็กลับมาเดินตามปกติ บัดนี้สิงโตทองและจิ้งจอกเงินตกอยู่ท่ามกลางฝูงคนพร้อมอาวุธครบมือ

“ซู่..เริ่น ทำไมเจ้าถึง...?!?!?” หงเวยตะกุกตะกัก ล่าสุดที่เห็นคือซู่เริ่นกำลังจะตาย แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นหนุ่มหล่อรูปงามมีแสงออร่าสีทองเปล่งประกาย

“ยิงงงงงงงง!!!!” หงฟู่ผู้เป็นพ่อไม่รอช้า รีบสั่งให้พลทหารทั้งหลายระดมสาดลูกธนูพุ่งตรงเข้าจุดศูนย์กลางที่ซึ่งเอ้าเทียนและซู่เริ่นยืนอยู่

ลูกดอกนับร้อยวิ่งพุ่งเข้าหาร่างของทั้งสองอย่างรวดเร็ว และเป็นจังหวะเดียวกับที่ซู่เริ่นใช้เวทย์ย้อนเวลาพาลูกศรที่วิ่งตรงมา ย้อนกลับไปทางเดิม พร้อมๆ กับที่เอ้าเทียนใช้มนต์เร่งเวลา พาตัวเองและซู่เริ่นออกจากเป้าหมายของศรแหลม เหตุการณ์ย้อนกลับมาดำเนินเป็นปกติอีกครั้ง

“ยิงงงงงงงง!!!!” หงฟู่ผู้เป็นพ่อไม่รอช้า รีบสั่งให้พลทหารทั้งหลายระดมสาดลูกธนูพุ่งตรงเข้าจุดศูนย์กลางที่ซึ่งเอ้าเทียนและซู่เริ่นยืนอยู่

กว่าลูกศรจะถูกยิงมาอีกครั้ง เป้าหมายทั้งสองก็หายไปอยู่ข้างหลังของเหล่าทหารเสียแล้ว ทิ้งให้เหล่าทหารยืนงงว่าเหตุใดทั้งสองจึงหลบลูกธนูได้ว่องไวปานนั้น โดยหารู้ไม่ว่าเทพทั้งสองปรับเวลาไปมาเรียบร้อยแล้ว

ไม่รอช้า เอ้าเทียนแผ่ไอเย็นเป็นบริเวณกว้างจนทหารทั้งหลายยืนสั่นดิกๆ ความเย็นจี้ไปถึงขั้วหัวใจ ขยับไม่ได้แม้ปลายเท้า ขณะที่ซู่เริ่นก็ปลดปล่อยรังสีความร้อนแผดเผาทหารจนวิ่งอุตลุดแตกตื่นเหมือนคนเสียสติ

บัดนี้เหล่าทหารทั้งหลายโดนสองเทพยำเละ เพราะไม่ว่าจะทำอะไรก็เหมือนสองเทพจะรู้ทันไปเสียหมด เหตุการณ์จึงจบลงด้วยการที่เหล่าทหารล้มไปนอนเป็นกองเต็มพื้น หงฟู่กับหงเวยเห็นท่าไม่ดีจึงรีบพากันหนีออกจากลาน

“จะรีบไปไหน ไอ้สองพ่อลูก!!!” ซู่เริ่นยิ้มมุมปาก ทำเอาสองพ่อลูกหยุดชะงัก

“ปล่อยข้าไปเถอะ” หงเวยร้องขอชีวิต
“ข้าปล่อยแน่....ปล่อยทุกหยาดหยดในตัวเจ้าไง” ซู่เริ่นพูด ฝ่ายเอ้าเทียนได้แต่ยืนส่ายหน้า

เริ่นกระชากสองพ่อลูกมาคุกเข่าตรงหน้า ขณะที่ซู่เริ่นกำลังหันหลังไปประกาศบางอย่างกับคนดู หงฟู่ผู้เป็นพ่อรีบคว้าหอกยาวจากกองทหารที่สลบอยู่ใกล้ๆ ขว้างตรงเข้าใส่ร่างซู่เริ่นทันที

เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่เอ้าเทียนกำลังจะร้องขึ้นเตือนให้ซู่เริ่นระวัง วินาทีเดียวกับที่หงฟู่ลุกขึ้นเตรียมวิ่งหนี เป็นจังหวะเดียวกับที่ซู่เริ่นหันหน้าปะทะกับหอกยาวที่พุ่งตรงมา

และไม่ทันที่จะสังเกตุอะไรได้ ซู่เริ่นปัดมือตัวเอง ปล่อยลมปราณกระแทกหอกยาว สบัดกลับไปในทิศทางที่พุ่งตรงเข้ามา ย้อนกลับใส่ร่างอ้วนของหงฟู่เหมือนยิงศรเข้าเป้า เสียบทะลุพุงหนา นอนดื้นกับพื้นอย่างทรมาน

ความจริงที่เอ้าเทียนจะร้องบอกให้ซู่เริ่นระวัง ไม่ใช่ให้ระวังหอกหรอก แต่ให้ระวังการใช้พลังใหม่ของตัวเองต่างหาก

“เราทนดูไม่ได้จริงๆ” เอ้าเทียนรีบกระโดดเข้าไปคว้าร่างของหงฟู่ แล้วสลายหายไปในอากาศ เขารู้ดีว่าสิ่งที่ซู่เริ่นกำลังจะทำนั้นคงเลวร้ายมาก แต่เขาก็ไม่อยากเข้าไปห้ามหรือขัดขวางตอนนี้ อย่างไรเสียช่วยชีวิตคนเจ็บสำคัญกว่า

“ม่ายยยยยยยยยยยยย ท่านพ่ออออ” หงเว่ยพูดเป็นลูกร้องอย่างคนบ้า
“ข้าคิดจะไว้ชีวิตอยู่แล้วเชียว ไม่น่ามาลอบกัดกันอย่างนี้” ซู่เริ่นพูด

เหตุการณ์สักครู่เขาไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายหงฟู่ เพียงแต่เป็นเหตุบังเอิญเท่านั้น เมื่อมาคิดดูแล้วสิ่งที่หงฟู่เคยทำกับเขามันเลวร้ายยิ่งกว่านี้เสียอีก นี่ก็นับว่าเป็นเวรกรรมเสียแล้วกัน และเขาก็ไม่ใช่เทพพ่อพระอย่างเอ้าเทียนเสียด้วย เขามันเป็นเทพเจ้าสำราญ จอมหื่น ขี้เงี่ยนสุดๆ

“ท่านทั้งหลาย ไม่ต้องตกใจ นี่เป็นหนึ่งในการแสดงที่พวกเราเตรียมไว้ให้พวกท่านเท่านั้นเอง รอบนี้จะเป็นรอบสุดท้ายที่คืนกำไรให้กับคนดู  ใครที่กล้าแก้ผ้าและเข้าร่วมดูบทบรรเลงเพลงกามของข้ากับหงเว่ย ข้าจะให้พวกท่านคนละห้าสิบช่าง” ซู่เริ่นประกาศ

เมื่อคนดูทราบก็ค่อยคลายกังวล นึกว่ามีการฆ่ากันสดๆ ในลานเสียแล้ว สิ่งที่น่าสนใจกว่าตอนนี้คือการแสดงชุดใหม่ที่ซู่เริ่นประกาศ แม้ว่าหงเว่ยจะเป็นลูกกษัตริย์ที่ปกครองเมือง แต่วันๆ ก็ไม่ได้ทำอะไรที่เป็นประโยชน์ ไม่ได้มีบารมียิ่งใหญ่อะไรพิเศษ แค่เข้าไปดูใกล้ๆ แถมได้เงินมาใช้อีกตั้งเป็นโข

คิดได้ดังนี้ กลุ่มคนก็รีบวิ่งกูกันเข้ามายืนล้อมรอบซู่เริ่นและหงเว่ย  ซู่เริ่นบังคับให้หงเว่ยยืนขึ้นเคียงข้างกับตน ตอนนี้ผู้คนเริ่มวิจารณ์กับขรม

“ถ้าเทียบกันแล้ว  เทพบุตรเริ่นดูดีกว่าทุกด้านจริงๆ ว่ะ”
“ข้าเหนด้วย หน้าตาหล่อเหลากว่า ร่างกายก็สมส่วนกว่า  มึงดูกล้ามแขนดิ ใหญ่พอๆ กับหัวทารก”

“อะไรกันนี่ข้าแค่ยืนเฉยๆ นะ อยากเห็นกล้ามของข้า ดูนี่...”  เริ่นหัวเราะชอบใจ ยกแขนขวาขึ้นมา กำหมัดพร้อมเบ่งกล้ามให้ประชาชนดู

กล้ามซู่เริ่นจากเดิมก็ขนาดเท่าหัวเด็กอยู่แล้ว พอซู่เริ่นเบ่งเข้าหน่อย กล้ามเนื้อภายในก็ถูกรีดให้ขยายขนาดใหญ่ขึ้น แถมเส้นเลือดก็ปูนโปนตามแขนไปทุกอนู

“โห แม่ง ใหญ่ขึ้นอีกจริงๆ ด้วยว่ะ เส้นเลือดขึ้นโคตรชัด” คนดูชม
“ถึงมึงจะหล่อแค่ไหน แต่ฆวยกูก็สวยกว่าของมึงอยู่ดี ดูสภาพฆวยมึงสิ ยับเยินดูไม่ได้เลยว่ะ” หงฟู่ปากดี ตะคอกใส่หน้าพร้อมมองต่ำไปทางฆวยของซู่เริ่น

พูดจบหงเว่ยก็เหลือกตาให้ซู่เริ่นมองไปทางฆวยมันบ้าง ซึ่งตอนนี้แม้จะเพิ่งเย้ดไปแต่กลับแข็งตะหง่าน แถมทำหน้าเบ่งท้าทาย คนดูก็มองตาม

“เดี๋ยวได้รู้กัน” ซู่เริ่นตอบสั้นๆ
“เจ้าคงได้มาเห็นเฉพาะตอนที่ฆวยข้าโดนทรมานแล้วสินะ วันนี้ข้าจะให้เจ้าเห็นว่า ฆวยของไอ้ซู่เริ่น  ราชบุตรคนเดียวของตระกูลซู่ ก่อนที่จะโดนกระทำมันเป็นยังไง”

ซู่เริ่นปลดเสื้อผ้าออกจนหมด แอ่นฆวยของตนที่อ่อนตัวและโดนกระทำจนช้ำชนกับฆวยของหงเว่ย หงเว่นจ้องมองฆวยบอบช้ำ แสยะปากด้วยความสมเพช ซู่เริ่นจ้องหน้าหงเว่ยก่อนจะปล่อยไอแสงสีทองมาชโลมทั่วเครื่องเพศ ปรับให้สภาพร่างกายส่วนสุดท้ายที่ยังบอบช้ำกลับไปเป็นเหมือนเดิม

พักเดียวก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงที่ฆวยของซู่เริ่น ไข่ที่เคยบอบช้ำ สีกลับมาเป็นเหมือนสีเดียวกับเนื้อ แถมห้อยใหญ่อย่างกับไข่ไก่ ฆวยที่มีรอยเขียว ม่วงจากการฟกช้ำและถูกจับฉีดยา ก็ซีดจากลงกลับไปสภาพเดิม อัญมณีและรอยสักทั้งหลายสลายหายไปจนสิ้น

“โห มึงดูไข่ของไอ้เทพบุตรดิ แม่งใหญ่เกือบเท่าไข่ไก่เลย”
“ไม่ใช่แค่ไข่นะเว้ย มึงดูลำฆวยมันดิ นี่ขนาดยังอ่อนตัวอยู่ ความอวบนี่เท่ากับฆวยขององชายหงเว่ยเลยนะ”
“เออมึงดูตรงหนังหุ้มที่หัวฆวยดิ ปิดหัวฆวยไม่มิดเลยว่ะ แม่งขนาดยังไม่แข็ง”
“คุ้มค่าที่สุดตั้งแต่เคยดูการแสดงของที่นี่เลยว่ะ”

ตอนนี้หงเว่ยเริ่มสีหน้าไม่ดี ซู่เริ่นยิ้มมุมปาก ก่อนที่จะให้อารมณ์เงี่ยนพาตัวเองเข้าครอบงำร่างกาย ฆวยที่อ่อนตัวอยู่ขยายตัวขึ้นทีละนิดๆ เลือดในกายเทพพุ่งตรงไปที่ลำฆวยมากขึ้นๆ ฆวยที่เคยห้อยลงตอนนี้เอียงข้างกลับขึ้นมาตั้งตรงขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับความใหญ่และความยาวที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุด

พื้นที่ทั้งเวทีเงียบสงัด สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่ฆวยของซู่เริ่น ตอนนี้ไข่ของทั้งสองแนบชนกัน แต่ความใหญ่ของไข่เทียบชั้นกันไม่ได้เหมือนไข่ไก่กับลูกมะนาว ตอนนี้หัวฆวยของซู่เริ่นยาวเลยหัวฆวยของหงเว่ยไปแล้ว หนังหุ้มที่เดิมก็ปิดแทบไม่มิดอยู่แล้ว ก็ค่อยๆ ร่นลงมา พร้อมกับรอยสักว่า “หลงฆวย” ก็ค่อยๆ จางลงจนหายไป

เผยให้เห็นหัวฆวยสีแดงก่ำ บานใหญ่จนสุดพลัง แล้วน้ำเงี่ยนใสๆ ก็ไหลออกมาเป็นทาง  เสียงประชาชนระงมขึ้นมาทันที

“มึงดูฆวยมันดิ รอยสักหายไปแล้ว ตอนนี้ฆวยแม่งสวยมาก ทั้งยาวทั้งใหญ่เลย”
“เออ ฆวยสวยจริง ดูตรงหัวฆวยดิแม่ง โคตรใหญ่เลย”
“ตอนนี้ไอ้เทพบุตรนี่มันชนะทุกอย่างแล้วจริงๆว่ะ”

“เป็นอย่างไร พูดมาสิว่าฆวยใครสวยกว่ากัน”  หงเว่ยอ้ำอึ้ง หน้าถอดสี
“ไม่ตอบก็ไม่เป็ฯไร งั้นให้คนดูตอบแทนละกัน” ซู่เริ่นกล่าว พร้อมกำตรงโคนฆวยทั้งสองแท่งไว้ด้วยกัน

“ฆวยของข้ากับหงเว่ย ของใครยาวกว่ากัน” ซู่เริ่นตะโกนถาม
“ท่านซู่เริ่นนนนน...ฆวยยาวกว่าชัดๆ เลย” คนดูตอบ
“แล้วฆวยใครใหญ่กว่า” ซู่เริ่นถามต่อ
“ก็ท่านซู่เริ่นอีกนั้นแหละ” คนดูตอบเป็นเสียงเดียวกัน
“ได้ยินชัดไหม ไอ้หงเว่ย” ซู่เริ่นเยาะเย้ยหงเว่ยอย่างสะใจ

พูดจบซู่เริ่นปาดน้ำเงี่ยนของตนเองที่ไหลออกมาไม่หยุดจนนองพื้น เอามาป้ายให้หัวฆวยของหงเว่ย “ข้าให้  เห็นน้ำเงี่ยนเจ้าไม่ค่อยจะมี” ซู่เริ่นยักคิ้วให้อย่างสะใจ

หงเว่ยโกรธมากแต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะอยู่ในสภาพเสียเปรียบ ได้แต่แสดงออกทางสีหน้า
“เอาหล่ะทุกท่าน ถึงเวลาที่ทุกท่านรอคอยแล้ว เจ้าเมืองผู้ไร้ประโยชน์ของท่านกำลังจะโดนเย้ด!”

เสียงเฮดังลั่น ซู่เริ่นจับหงเว่ยนอนคว่ำกลางเวที และแหกขาหงเว่ยออกจากกัน สายตาทุกคู่จ้องที่หัวฆวยขนาดใหญ่ของซู่เริ่นที่สำรอกน้ำเงี่ยนใสๆ ยืดเหนียวลงสู่พื้น

“มองตรงไปเข้าหน้าสิไอ้หงเว่ย ประชาชนกำลังมองเจ้าโดนเย้ดอยู่ ชอบไหมล่ะ” ซู่เริ่นถาม
“ช่างแม่งสิ คนพวกนี้จะเป็นอย่างไร กูไม่เคยสนใจพวกมันอยู่แล้ว” หงเว่ยตอบ
“สงสัยคราวนี้ต้องขอยืมแรงประชาชนของเจ้าหน่อยแล้ว” ซู่เริ่นทักขณะที่ฟูงชนเริ่มโกรธหงเว่ย
“คิดจะทำไรข้า!?!?” หงเว่ยขวัญเสีย
“ขอแรงพวกท่านทั้งหลาย ช่วยจับตัวคุณชายหงเว่ยโยกกับฆวยของข้าที ข้าจะยืนอยู่เฉยๆ” ซู่เริ่นร้องบอก

ซู่เริ่นรู้ดีว่าประชาชนกำลังโกรธ ชาวเมืองยิ้มสะใจที่จะได้สั่งสอนไอ้เจ้าเมืองปากดี จึงยอมทำแต่โดยดี

“เอาล่ะ ด้านหน้าดันมันมา” ซู่เริ่นสั่ง

ตัวหงเว่ยถูกดันเข้ามาหาซู่เริ่นเรื่อยๆ ในระดับเอวของซู่เริ่น ตูดมันเข้าใกล้ฆวยบานๆ มากขึ้นๆ ส่วนด้านซ้ายขวาก็รู้งาน ค่อยๆ จับขาหงเว่ยฉีกไปคนละทาง เผยให้เห็นรูตูดสีชมพูระเรื่อเด่นชัด
ฆวยของซู่เริ่นที่ห่างจากรูตูดหงเว่ยไม่ถึงนิ้ว ตอนนี้เหมือนฉลามกำลังจะได้กินเหยื่อ กระดกหงึกๆเตรียมแหวกเข้าร่องแคบๆ
ด้านซ้ายขวาดึงขาหงเว่ยถอยหลังมาอีก ทำให้ฆวยซู่เริ่นสัมผัสอยู่ที่ปากรูตูดพอดี หงเว่ยเสียววาบขนลุก เมื่อรู้ตัวว่าจะถูกรุกล้ำ ซู่เริ่นโชว์ลีลาจับหัวฆวยตัวเองลูบไปมารอบๆ รูตูด แถมใช้นิ้วแหกให้ดูว่าขนาดรูกับขนาดฆวยต่างกันขนาดไหน

ประชาชนตื่นเต้นที่จะได้เห็นฉากนี้ ซุบซิบกันเกรียวกราว
“แม่งโคตรเงี่ยนเลยว่ะ มึงดูดิ ฆวยใหญ่ขนาดนั้นจะเข้าไปได้ไหมวะ”
“แม่งเอ้ย โคตรเงี่ยน กูจะชักว่าวละ” ชาวเมืองหลายๆ คนเริ่มควักฆวยตัวเองออกมาชักว่าวตาม ซู่เริ่นยังยั่วคนดูต่อไป

“เจ้าคนนั้นช่วยจับฆวยข้าไว้ให้มั่น เตรียมยัดเข้ารูตูดเจ้าเมืองของเจ้าที” ซู่เริ่นร้องบอกคนดูคนหนึ่ง

ไอ้หนุ่มคนนั้นยื่นมือสั่นๆ อย่างตื่นเต้นออกมากำรอบฆวยซู่เริ่น พลางคิดในใจว่าฆวยอะไรแข็งและอุ่นได้ขนาดนี้ กำเกือบไม่รอบแถมยาวมากๆ

“จับไว้ดีๆ ข้าพร้อมแล้ว” ซู่เริ่นชอบมากที่มีคนมาจับฆวยให้ก่อนจะยัดเข้ารูตูดของหงเว่ย

ซู่เริ่นเอี้ยวคอมาสบตากับชาวเมืองด้านซ้ายขวา แล้วยักหน้าเป็นอันรู้กัน ขาหงเว่ยถูกดึงถอยหลังเข้ามามากขึ้น ไอ้หนุ่มคนนั้นกำฆวยซู่เริ่นไว้แน่น ฆวยซู่เริ่นที่จ่ออยู่ที่ปากรูค่อยๆ ยัดเข้าไปในรูของหงเว่ย

“โอ้ยยยยยยยยยยยย เจ็บบบบบบบบบบบบบบบ”  หงเว่ยร้องอย่างทรมาน แต่ในที่นี้ไม่มีใครสงสารสักคน หัวฆวยขนาดใหญ่แหวกเข้ารูตูดจนเลือดเริ่มซึมออกมา

“ไอ้สัสสสสสสส ปล่อยข้า ปล่อยข้า ปล่อยข้า” หงเว่ยดิ้นไม่หลุดจากเหล่าคนดูที่ร่วมแสดงครั้งนี้

ซู่เริ่นหันไปพยักหน้าอีกครั้ง ก่อนที่ขาสองข้างของหงเว่ยจะถูกดึงถอยหลังอย่างแรง พร้อมๆ กับที่คนดูที่จับฆวยของซู่เริ่นปล่อยมือให้ฆวยยัดเข้าไปจนสุด ซวบบบบบบบบบ! เลือดสีแดงสดไหลหยดออกมาจากปากรูตูดหงเว่ย

“โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย  ไอ้พวกระยำ ใครก็ได้ช่วยข้าที ช่วยด้วยยยยย”  หงเว่ยร้องขอความช่วยเหลือจนลั่นไปทั่วบริเวณ
ฆวยซู่เริ่นยัดเข้าไปจนเกือบสุดลำ ซู่เริ่นกัดฟันยิ้มอย่างสะใจ ซึบซาบความกระชับของผนังรูตูด  ฝ่ายคนดูก็วิพากษ์วิจารณ์กันระงม

“เข้าไปแล้วว่ะ  สุดยอดดดดดด”
“เข้าไปได้ไงวะหัวฆวยใหญ่ขนาดนี้”
“โอ้ย ข้าไม่ไหวแล้ว ข้าขอแตกก่อนนะ” บางคนเงี่ยนกับภาพที่เห็นจนทนไม่ไหว แตกไปแล้วก็มี

“เอาหล่ะ ด้านหน้า ด้านหลัง พร้อมนะ จัดมาแรงๆ เลย” ซู่เริ่นรุกต่อ

ตัวหงเว่ยถูกดึงแขน ดึงขา ดันให้ตูดเคลื่อนที่เข้าออก คลอบฆวยใหญ่ๆ ของซู่เริ่นไว้  หงเว่ยร้องเสียงหลง ส่วนซู่เริ่นกลับร้องครางด้วยความเสียว หงเว่ยโดนจับให้ถูกเย้ดท่านี้อยู่นาน

“คราวนี้ข้าขอลงมือเองบ้างดีกว่า” ซู่เริ่นบอก

ร่างของหงเว่ยถูกโยนลงกับพื้นในสภาพกางแขนกางขา เลือดไหลออกจากตูด หงเว่ยน้ำตาไหลด้วยความเจ็บและความอาย

“ไม่ร้องนะคนดีของข้า ดีใจที่จะได้เป็นเมียข้าใช่ไหม? ฮ่าๆๆ” ซู่เริ่มพูด

ซู่เริ่นก้มลงไปช้อนตัวเอาแขนหงเว่ยมาจับที่หลังของตน ทันใดนั้นซู่เริ่นก็ยกหงเว่ยทั้งตัวขึ้นมาที่หน้าอกให้หงเว่ยเกาะ แล้วก็แทงฆวยสวนขึ้นไปทันที

“อ๊ากกกกกกกกกกกกก”  หงเว่ยร้องเสียงสั่นไปตามแรกกระแทกของซู่เหวิน

ท่านี้อีกแล้ว เป็นท่าเดียวกับตอนโดนเอ้าเทียนในร่างพลังเทวาเย้ดที่ลานประกวด มาตอนนี้หงเว่ยถูกเย้ดโดยเจ้าของพลังที่แท้จริง เรียกว่าผ่านฆวยทั้งสองเทพมาแล้วอย่างสาหัสสากรรจ์

“ข้าชอบท่านี้จริงๆ รู้สึกว่าจะเข้าได้ลึกดี จริงไหม?”  ซู่เริ่นหันไปถาม

ยอดขุนพล 13

ตอนที่ 24 เดือนดับ(ต่อ)

ราชบุตรอ้ำอึ้งเพราะไม่รู้ว่าหมายถึงอะไร   จากท่ายืนซ้อนกันหันหน้าออกสู่เวที เอ้าเทียนใช้แขนกำยำของตัวเองสอดไปด้านหน้าและโอบต้นขาสองข้างของราชบุตรไว้  ด้วยไหวพริบในหัวราชบุตรก็นึกออกทันทีว่าตนเองกำลังโดนสิ่งเดียวกับที่เคยทำไว้กับซู่เหวิน

สายตาประชาชนจ้องมาที่เอ้าเทียนว่าจะทำอะไรกันแน่ และแล้วเอ้าเทียนก็ใช้แขนอันแข็งแกร่งประสานกันรวบต้นขาราชบุตร ยกราชบุตรขึ้นมาเป็นท่าลิงอุ้มแตง เล่นเอาราชบุตรที่เหลืออ้าปากค้าง ประชาชนทนกับภาพตรงหน้าไม่ไหวช่วยตัวเองกันอย่างไม่อายใคร

มันไม่ใช่ท่าลิงอุ้มแตงธรรมดา แต่เอ้าเทียนจงใจให้ราชบุตรสี่หันหน้าไปด้านเดียวกับตน เพื่อให้เกิดความอับอาย  เอ้าเทียนเริ่มกระเด้าอีกครั้ง ภาพจากมุมด้านล่างเวทีนั้นดีที่สุด เพราะเห็นฆวยใหญ่ๆ ของเอ้าเทียนจมมิดเข้าไปในรูตูดของราชบุตรชัดเจน
“แม่งสุดยอดเลยว่ะ ท่านี้ถ้าไม่แข็งแรงจริงทำไม่ได้นะเนี่ย” คนดูฮือฮา

แล้วเอ้าเทียนก็ เอาฆวยเทพซอยตูดราชบุตรอย่างไม่ยั้ง  เสียงแก้มก้นกระแทกกับโคน***เอ้าเทียนดัง ป๊าบ ป๊าบ ลั่นไปทั่วบริเวณ ราชบุตรที่น่าสงสารทำหน้าเหยเก ปากก็โดนดูดอย่างหนัก  ร่างก็ขยับหนีไม่ได้ บั้นท้ายก็โดนรัวกระเด้า นี้คือสิ่งที่เขาเคยทำไว้กับแม่ทัพซู่ทั้งนั้น

“โอ้ววว...เมียของข้า..โอ้ว.. ***มันส์อะไรอย่างนี้ โอว..” เทพคราง

พร้อมกับเปลี่ยนท่าใหม่ เอ้าเทียนนอนลงกับเวที ขณะฆวยยาวยังคาอยู่ในตูดของราชบุตรขาวตี๋ ทำให้บัดนี้ ภาพที่ทุกคนเห็นตอนนี้คือราชบุตรนั่งหันหน้าไปทางเอ้าเทียน หันก้นออกไปทางประชาชน

เอ้าเทียนใช้สองมือแหกแก้มกันของราชบุตรสุดหล่อออก ทำให้ตอนนี้ทุกคนยืนนิ่งไปตามๆ กัน เพราะสิ่งที่ชายหญิงเห็นคือฆวยยาวจมเข้าไปในรูตูดสวยสีชมพูไร้เส้นขน ถึงตอนนี้เอ้าเทียนเริ่มซอยฆวยมุดเข้ามุดออกจากรูบาน เป็นภาพที่ชวนให้เงี่ยนได้ไม่น้อย

ราชบุตรดวงซวยได้แต่นั่งให้เอ้าเทียนยกสะโพกขึ้นมาอัดตูดตนเอง เดชะบุญที่รูตูดเริ่มปรับสภาพได้บ้างแล้ว จึงคลายความเจ็บปวดลงไปมาก และเริ่มถูกแทนที่ด้วยความเสียวซ่าน

“อ่าส์...ซิ๊ดดดด.....” ราชบุตรกัดฟันหน้าร้องครางออกมาตามไรฟัน หลังจากโดนเย้ดท่านี้เกือบสิบกว่านาที

สองร่างบุรุษโชกไปด้วยเม็ดเหงื่อเคลือบผิวกาย แต่กระนั้นเอ้าเทียนก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะหยุดยั้ง กลับผลักร่างตี๋ลงนอนหงายลงบนพื้น ขณะที่เขาลุกขึ้นนั่งคุกเข่าหันหน้าออกไปทางประชาชน ดันตัวราชบุตรจนศีรษะเลยออกไปจากขอบเวที ทำให้ราชบุตรต้องปล่อยหัวลงไปมองประชาชน
และแล้วเอ้าเทียนก็เย้ดเมียใหม่อีกครั้ง ท่านี้แม้ประชาชนจะมองไม่เห็นตูดของราชบุตร แต่ก็เห็นหน้าราชบุตรเต็มๆ แม้จะหลับตาอยู่แต่ก็ดูออกว่าผู้ทุกกระทำนั้นเสียวมากแค่ไหน

ช่วงล่างของเอ้าเทียนโยกไม่ยั้ง เข้าออกตูดราชบุตรอย่างช่ำชอง อีกฝ่ายได้แต่นอนฆวยแข็ง ใบหน้าเหยเกด้วยความเสียวระดับทะลุฟ้า ส่งเสียงร้องระงม

“ข้าขอหลั่งในกายเจ้านะ” เอ้าเทียนก้มไปกระซิบข้างหูหนุ่มตี๋

“ยะ...อย่าๆๆๆๆ อย่าทำเช่นนั้นนะ ข้าขอร้องละ ...อ่าส์” ราชบุตรในสภาพกึ่งมีสติ ร้องอ้อนวอน

ไม่ทันเสียแล้ว ในที่สุดเอ้าเทียนร่างมืดก็ถึงคราวยุติบทสามีใหม่ของราชบุตร เอ้าเทียนซอยฆวยอยู่สักพักหนึ่ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นฟ้า กระแทกอัดฆวยใส่ตูดดังป๊าบๆๆ

และทะลักน้ำรักพ่นเข้าใส่ร่างราชบุตรชุดใหญ่ จนราชบุตรเองยังรู้สึกได้ถึงความร้อนของน้ำเอ้าเทียนที่พุ่งอัดใส่กระเพาะของเขา เอ้าเทียนกระดกพวยพ่นปริมาณน้ำคาวออกมาไม่หยุด จนท้องราชบุตรมีเต็มน้ำกามของเอ้าเทียน

เมื่อฆวยเทพยังคงหลั่งไหลน้ำออกมาเรื่อยๆ แต่ช่องที่รองรับมีพื้นที่จำกัด จึงไม่อาจทนรับน้ำเงี่ยนได้อีกต่อไป สุดท้ายจึงเกิดแรงดันจากน้ำเงี่ยนที่เอ่อล้น ผลักให้ฆวยเอ้าเทียนต้องหลุดออกมาจากตูดของราชบุตร พร้อมกับน้ำเงี่ยนที่ไหลทะลักย้อนกลับออกมาเจิ่งนอง

ที่น่าตกใจกว่านั้น แม้ฆวยเอ้าเทียนจะหลั่งน้ำใส่ก้นเมียหนุ่มไปมากแล้ว แต่เมื่อฆวยเอ้าเทียนหลุดออกมาจากร่างหนุ่มตี๋ น้ำชายกลับยังคงกระฉูดออกมาไม่หยุด พุ่งแรงเลยไปถึงหัวและหน้าของราชบุตร ชะโลมทั้งตาจมูกปาก เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ราชบุตรหลั่งน้ำเงี่ยนออกมาเองโดยไม่ต้องชัก

น้ำเงี่ยนของราชบุครพุ่งขึ้นฟ้าราวกับน้ำพุและตกลงมาเป็นเม็ดเหมือนห่าฝน กระทบร่างหนุ่มของเขาเสียงดังแปะๆๆๆ อยู่นานจนเริ่มแผ่วลง ใกล้เคียงกับของเอ้าเทียนที่แม้จะแตกไปก่อนแล้ว แต่ยังคงไว้ซึ่งปริมาณและความแรงเทียบเท่ากับมนุษย์ที่พึ่งแตกได้ไม่นาน บัดนี้น้ำฆวยทั้งสองหยุดหลั่งแล้ว มีเพียงหยาดน้ำชายที่ไหลยืดย้อยเป็นสายออกจากปากฆวย

หยาดน้ำแห่งความสุขหลั่งชะโลมร่างที่น่าสงสารของราชบุตรหมายเลขสี่จนชุ่มฉ่ำ เนื้อตัวมันวาว นอนแช่น้ำเงี่ยนกองโต หน้าแทบไม่เหลือพื้นที่ว่างเพราะเต็มไปด้วยของเหลวสีขาว ก้นก็ปล่อยน้ำกามไหลออกมาเต็มพื้นเวที

เอ้าเทียนแสดงสีหน้ามีความสุขอย่างที่สุด เมื่อได้ปลดปล่อยความกำหนัดที่สะสมไว้ สติของเอ้าเทียนเริ่มกลับคืนมาอีกครั้ง พร้อมกับพลังมืดที่เริ่มสลายหายไป เอ้าเทียนเริ่มคว้าเสื้อผ้ามาปกปิดร่างของตนอย่างรวดเร็ว

“โธ่เอ๊ยยยยย! นี่เราทำอะไรลงไปเนี่ยยยย” จิ้งจอกเงินหัวเสีย
ตอนที่ 25 พาหนี

ท่ามกลางความตกตะลึงของผู้คนหลังจากได้ชมการมีเพศสัมพันธ์สุดเร้าร้อนของเชื้อสายกษัตริย์ ผู้ที่ได้ได้สติคืนกลับมาก่อนใครคือเอ้าเทียน หลังจากที่เขาคว้าเสื้อผ้าอาภรณ์มาปกปิดร่างกายเสร็จสรรพ เขาก็เริ่มมองหาตัวแม่ทัพซู่เหวิ่นทันที

เป้าหมายของเขาถูกเหล่าทหารหลายคนคุมตัวไว้ใกล้ๆ กับเวทีแสดง เมื่อจิ้งจอกเงินเห็นเช่นนั้น จึงรีบปรี่เข้าไปหาแม่ทัพซู่เหวิ่นหวังจะชิงตัวแม่ทัพออกมา ร่างจำแลงเป็นมนุษย์ถลาเข้าไปยังเหล่าทหารที่ยืนคุมตัวแม่ทัพไว้

เมื่อเหล่าทหารเห็นราชบุตรหมายเลขหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาด้วยท่าไม่ดี จึงรีบยกอาวุธขึ้นเตรียมป้องกัน แต่ไม่ทันทีจะทำอะไร องค์ชายหนึ่งก็เข้าถึงตัวทหารคนแรกแล้ว ตามด้วยการปล่อยหมัดหนักตรงเข้าท้องน้อยของทหารจนล้มลงไปกุมท้องด้วยความเจ็บปวด ทหารคนที่สองยังไม่ทันหายตกใจ ก็ถูกเอ้าเทียนซัดลงไปนอนกับพื้น

ทหารที่เหลือรีบชักกระบี่ออกจากฝัก ฟาดฟันคมมีดหมายหยุดยั้งองค์ชายหนึ่ง แต่กระบี่กลับทำได้เพียงแหวกผ่านอากาศไปเฉยๆ เพราะเอ้าเทียนหลบคมกระบี่นับสิบได้อย่างคล่องแคล่วว่องไวจนมองตามแทบไม่ทัน ก่อนใช้สันมือฟาดต้นคอทหารที่เหลือจนหมดสติ ล้มระเนระนาด ในที่สุดเอ้าเทียนก็เข้าไปประคองตัวแม่ทัพได้สำเร็จพร้อมๆ กับเสียงของหลี่เฉิน

“ยิงงงงงงง!!!!!!!” หลี่เฉินแผดเสียงสั่งพลธนูที่วิ่งเข้ามาสมทบ

ลูกศรปลายแหลมแหวกผ่านอากาศมานับไม่ถ้วน มุ่งตรงเข้าหาร่างเอ้าเทียนและแม่ทัพซู่ จิ้งจอกเงินประเมินแล้วว่าจำนวนและความเร็วของลูกศรระดับนี้ ไม่สามารถหลบได้ทันแน่ๆ ในระหว่างที่สมองกำลังคิดอยู่นั้น ลูกศรคมกริบก็พุ่งเข้าเกือบถึงตัวทั้งสองคน เอ้าเทียนจึงรีบสบัดผ้าคลุมขึ้นกางอากาศ ทำให้ห่าลูกศรทั้งหมดพุ่งย้อนกลับไปหาต้นทางที่ยิงมา

ทหารทั้งหลายรีบหลบกันจ้าระหวั่น โชคดีที่พลิกตัวหลบทันเสียก่อน ทำให้ศรคมเฉียดไหล่ทหารหลายนาย แม้จะไม่ถึงแก่ชีวิต แต่ก็ทำให้ขวัญเสียไม่น้อย

เมื่อความวุ่นวายที่เกิดขึ้นจบลง ทุกคนตกอยู่ในสภาวะแน่นิ่ง เมื่อเห็นศรตรงเข้าปักกลางอกของพระมเหสีผู้โชคร้าย ด้วยนางไม่ทันระวังตัว จึงไม่สามารถหลบคมศรที่พุ่งมาได้ทัน เลือดแดงไหลค่อยๆ ซึมออกมาจากอกกระเทยสาว

หลี่เฉินรีบตรงเข้าไปนั่งประคองร่างพระมเหสีที่ทิ้งตัวลงกับพื้น ใบหน้าซีดเผือก เขามือไม้สั่นตกใจจนไม่กล้าทำอะไร ได้แต่เขย่าตัวพระมเหสีที่ค่อยๆ ไร้สติลงเรื่อยๆ เปลือกตางามทั้งสองค่อยๆ หลี่ลงจนเกือบปิดสนิท

“ขะ...ขะ...ข้า ไม่..ไหวแล้ววว” พระมเหสีกระอักเลือดออกจากปาก

ในห้วงเวลานี้ นางคิดย้อนกลับไปถึงสิ่งที่เคยทำเอาไว้ ทั้งหลอกลวงแม่ทัพให้หลงรัก แล้วก็ถูกนางหักหลัง นางนึกถึงภาพของแม่ทัพซู่เหวิ่นที่ดีกับนางทุกอย่าง แต่นางกลับจับซู่เหวิ่นไปทรมานอย่างหนักเกินกว่ามนุษย์คนหนึ่งจะรับได้ แต่น่าเสียดายที่นางรู้สึกผิดในวินาทีสุดท้ายของชีวิต

“ข้าขอโทษนะซู่เหวิ่น” มเหสีมองไปทางแม่ทัพซู่เหวิ่น หยาดน้ำตาไหลริน ก่อนหมดลมหายใจลงอย่างสงบ ร่างไร้วิญญาณแน่นิ่ง มือทั้งสองทิ้งตัวลงกับพื้น

“ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!” หลี่เฉินตะโกนลั่น

ท่ามกลางความตกใจของทุกคนในบริเวณนั้น เอ้าเทียนกับแม่ทัพซู่ก็หายตัวไปเสียแล้ว
..........................................................................................................................................................
หลังจากเหตุการณ์น่าสลดที่เกิดขึ้น เหล่าราชบุตรทั้งหลายได้ทยอยกลับเมืองของตนเองพร้อมประสบการณ์แปลกใหม่ที่ได้ลองร่วมรักกับเพศเดียวกัน และหนึ่งในนั้นคือหงเวย-ราชบุตรหมายเลขสี่ตี๋หล่อที่ได้ทะลวงก้นแม่ทัพ ก่อนถูกเอ้าเทียนขมขืนทางประตูหลัง

หงเวยเดินทางกลับถึงเมืองของตนด้วยจิตใจขุ่นมัว ทันทีที่ถึงบ้านเกิด เขารีบตรงเข้าไปหาหงฟู่ผู้เป็นบิดาทันที ตอนนี้เขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น สองมือกำหมัดแน่น ฟันขบกันดังกรอดๆ

“อ้าว เป็นยังไงบ้างลูกรัก? กลับมาแล้วรึ?” ชายอ้วนทักทายลูกชายหัวแก้วหัวแหวน

“ขะ..ข้าเกลียดๆๆๆๆ เกลียดทุกอย่างที่เกี่ยวกับแคว้นต้าเหลียน” หงเวยปัดชุดถ้วยน้ำชาราคาแพงลนโต๊ะตกแตกกระจายเต็มพื้น

“ลูกรักของพ่อ ใครทำอันใดเจ้า บอกพ่อมาเดี๋ยวนี้” หงฟู่ร้อนรนแทนลูกชาย

“ขะ...ข้าถูก....” หงเวยไม่กล้าเล่าให้ผู้เป็นพ่อฟัง

“เจ้าถูกอะไร บอกพ่อมา ใครทำอะไรเจ้า พ่อจะฆ่ามันเอง” หงฟู่ซัก

“เพราะไอ้แม่ทัพซู่คนเดียว มันทำให้ข้าเสื่อมเสียเกียรติของลูกผู้ชาย” หงเวยโยนความผิดให้ซู่เหวินคนเดียว เพราะแม่ทัพซู่ทำให้เขาต้องถูกชายแปลกหน้ารูปงามเปิดบริสุทธิ์บั้นท้าย

“ไอ้ซู่เหวินหรอ?? หึหึ มันทำให้ลูกของพ่อต้องเจ็บปวดใช่ไหม? ดี!! เจ้าตามพ่อมาทางนี้ พ่อมีอะไรให้เจ้าดู รับรองเจ้าต้องถูกใจแน่ๆ” หงฟู่ยิ้มอย่างมีเลศนัย

ก่อนที่หงฟู่จะพาหงเวยที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นตรงไปยังห้องคุมขังซู่เรินสุดหล่อ ลูกชายคนเดียวของแม่ทัพซู่เหวิน ที่บัดนี้กลายเป็นนักแสดงทำให้เงินเฒ่าแก่เจ้าเล่ห์ได้มากมาย

ชายแก่พาลูกรักไปที่ห้องคุมขังซู่เริน ลูกชายสุดที่รักของแม่ทัพซู่เหวิน ที่บัดนี้นอนสลบอยู่ในสภาพที่แทบจำไม่ได้ หากไม่รู้จักกันมาก่อนคงยากที่จะเชื่อว่าชายหนุ่มตรงหน้าจะเคยเป็นคนหล่อเหลาและเป็นที่หมายปองของหญิงสาวมากมาย

“นี่มัน…ซะ..ซะ...ซู่เริ่น! ใช่ไหมท่านพ่อ?” หงเวยถามอย่างไม่เชื่อสายตา

“ใช่แล้ว ซู่เริ่นคนเดียวกับที่เคยเป็นเพื่อนเจ้าตั้งแต่สมัยวัยเยาว์ คนเดียวกับที่เป็นลูกชายของไอ้คนที่ทำให้ลูกโกรธแค้นอยู่ตอนนี้ไง” หงฟู่ยิ้มอย่างมีความสุข

“แล้วทำไม? ทำไมมันถึงตกอยู่ในสภาพแบบนี้ได้ล่ะท่านพ่อ?” หงเวยถามด้วยความอยากรู้

“เจ้าอย่าได้สนใจไปเลย รู้เพียงว่าตอนนี้มันเป็นทาสของเราแล้ว เราจะทำอะไรกับมันก็ได้ คืนนี้พ่อจะเปิดโชว์พิเศษของมัน ลูกไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง ฮ่าๆๆๆ” สองพ่อลูกหัวเราะร่า
..........................................................................................................................................................
“ท่านๆ ไม่ต้องกลัวนะ เราช่วยท่านออกมาสำเร็จแล้ว” เอ้าเทียนพยายามป้อนน้ำจากกระบอกไม้ให้แม่ทัพซู่ที่เริ่มฟื้นตัวขึ้นหลังจากสลบไปนาน

“พวกเราอยู่ที่ไหน?” แม่ทัพพยายามส่งเสียงถาม

“เราพาท่านมาซ่อนตัวอยู่ในป่านอกเมือง อยู่ที่นี่ปลอดภัยแน่นอน ไม่ต้องกังวล” จิ้งจอกหนุ่มตอบ

ซู่เหวินค่อยๆ ตั้งสติ เขาปวดระบมไปทั่วร่างกาย เหตุการณ์ที่ผ่านมาค่อยๆ หลั่งไหลเข้ามาในสมอง เขารู้ดีว่าไม่ได้ฝันไป บัดนี้เขาแทบจะไร้สิ้นซึ่งเกียรติยศแห่งลูกผู้ชาย ไม่มีแม้แต่ที่ซุกหัวนอน ไม่มีทหารรับใช้สักคน คิดได้ดังนี้ความเจ็บปวดก็แผ่ซ่านไปทั่วหัวใจของซู่เหวิน

“ท่านฟื้นก็ดีแล้ว เดี๋ยวเราจะออกไปหาอะไรให้ท่านกิน แล้วจะรีบกลับมา ท่านซ่อนตัวอยู่ที่นี่สักครู๋เดียว” เอ้าเทียนพูดแทรกทำลายความเจ็บปวดของแม่ทัพ

หลังจากแม่ทัพรับคำ เอ้าเทียนก็วิ่งโฉบเฉี่ยวพุ่งจากต้นไม้หนึ่งไปยังอีกต้นหนึ่งด้วยความว่องไว หายลับเข้าป่าไปในพริบตา

“ซู่เริ่น ตอนนี้เจ้าอยู่ที่ไหนกัน?” แม่ทัพพึมพาขณะนั่งอิงหลังพิงต้นไม้ใหญ่
..........................................................................................................................................................
“เห้ยยย!! พวกเรา คืนนี้มีโชว์พิเศษที่เมืองจางโจว คนแสดงเป็นถึงลูกชายสุดหล่อของแม่ทัพใหญ่แห่งต้าเหลียนเลยนะ” ชายคนหนึ่งพูดกับกลุ่มเพื่อนขณะกำลังล่าสัตว์ด้วยกันในป่าใหญ่

“ข้าก็ได้ข่าวมาเหมือนกัน แต่ไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้ เอ็งคิดดูสิเป็นถึงเจ้าคนนายคน จะมาเล่นบทเป็นทาสหาเงินทำไมว่ะ?” เพื่อนอีกคนตอบ

“ไม่รู้ว่ะ แต่อย่างไรเสีย พวกเราแวะไปดูด้วยกันสักหน่อยก็ดีนะ คิดซะว่าคลายเครียด ฮ่าๆๆๆ” อีกตอบแสดงความเห็น

ระหว่างที่กลุ่มชายทั้งหลายพูดคุยกันอยู่นั้น เอ้าเทียนที่หลบอยู่บนยอดไม้สูงก็ได้ยินทุกประโยคอย่างชัดเจน สีหน้าครุ่นคิดก่อนสบัดปลายเท้าหายวับไปจากตำแหน่งนั้นทันที

“พวกเรามีเรื่องต้องไปสะสางกันคืนนี้ที่เมืองจางโจว ไปช่วยซู่เริ่นกันเถอะ” เอ้าเทียนกลับไปหาแม่ทัพซู่เหวิน ก่อนจะหาเสื้อผ้าและชุดคลุมปิดใบหน้าให้แม่ทัพสวมใส่อำพรางตัว
ตอนที่ 26 เกมกาม

“ปล่อยข้าไปๆๆ ใครก็ได้ช่วยข้าด้วย” ซู่เริ่นร้องขอความช่วยเหลือ ทั้งที่รู้ตัวดีว่าคงไม่มีใครมาช่วย ความรู้สึกเจ็บปวดกระจายไปทั่วร่าง มันร้าวไปถึงขั้วกระดูก ไล่ตั้งแต่หัวที่ปวดแทบจะระเบิด กล้ามเนื้อที่อุตสาห์สร้างมาอย่างลำบาก ตอนนี้กลับมีแต่รอยขีดช่วนเปรอะเปื้อน

ซู่เริ่นใช้สองมือลูบเนื้อตัวหวังจะปัดทำความสะอาดสิ่งสกปรก แต่ปลายนิ้วก็ดันไปสัมผัสกับข้อความที่เกิดจากรอยแผลเป็นนูนที่หน้าท้อง เขารู้ดีว่ามันเขียนว่าอะไร

“ไอ้พวกเดรัจฉาน” เขาโกรธเกลียดทุกคนที่ทำร้ายเขา เกลียดคำว่าหลงฆวยบนหน้าท้องของเขา ต่อไปซู่เริ่นคงไม่กล้าถอดเสื้อให้ใครดูกล้ามท้องอีกแล้ว

“ตื่นแล้วหรอไอ้ซู่เริ่น” เสียงคุ้นหูดังขึ้น

“ปล่อยข้าไปนะ ข้าจะฆ่าแก ไอ้เฒ่าโรคจิต” ซู่เริ่นไม่อยากเชื่อเลยว่าหงฟู่ที่เขานับถือมานานจะเป็นคนแบบนี้

“เตรียมตัวมันให้พร้อม คืนนี้สนุกแน่ๆ” หงฟู่สั่งทหารรับใช้

ฝูงทหารเปิดกรงเหล็กเข้ามาจับตัวซู่เริ่น แม้จะดิ้นเอาตัวรอดอย่างไรก็ไม่หลุด ก่อนใช้ผ้าสกปรกยัดอุดปากซู่เริ่น และใช้เชือกหยาบมัดข้อมือ ก่อนจะจับหนุ่มหล่อไปสาดน้ำล้างตัว ความเย็นของน้ำกระเซ็นสาดลาดไปตัวผิวกาย หลังจากนั้นพวกทหารโฉดก็จับซู่เริ่นแต่งองค์ทรงเครื่องอย่างสง่างาม
..........................................................................................................................................................
“ขอต้อนรับทุกคนเข้าสู่สมรภูมิกามมม” พิธีกรประกาศลั่น

“ขอเสียงปรบมือทุกท่านให้นักแสดงสุดหล่อของเราในคืนนี้ด้วย” เสียงปรบมือดังสนั่น ท่ามกลางเสียงเฮลั่นของผู้ชมที่ดูจะมีจำนวนมากเป็นพิเศษในค่ำคืนนี้ รวมทั้งหงเวยเพื่อนสนิทของซู่เริ่นด้วย

ร่างของซู่เริ่นถูกนำออกมายังลานแสดง ปรากฏแก่สายตาหื่นกระหายของผู้ชม คืนนี้เขาช่างดูหล่อเหล่ามากเมื่ออยู่ในชุดนักรบอย่างสง่างาม จนคนดูแทบจะอดใจรอชมสิ่งที่อยู่ใต้ชุดสวยไม่ไหว ชายหนู่มถูกจับมัดติดกับเก้าอี้ตัวใหญ่ลายมังกร พร้อมผ้าปิดปากแน่นสนิท

“ขอเข้าสู่การแสดงแรกกันเลย ข้าเปิดโอกาสให้ท่านผู้ชมท่านใดก็ตามที่ยอมจ่ายสามตำลึงได้รับสิทธิ์เข้าไปปลดเสื้อผ้าของหนุ่มหล่ออย่างซู่เริ่น” หงฟู่บอกอย่างสะใจ

คนดูหลายคนรีบยกไม้ยกมือ ยอมควักเงินจ่ายให้ผู้จัดแสดง ก่อนจะเดินไปเข้าแถวข้างลานแสดงตามลำดับการจ่ายเงิน คนแรกตรงเข้าไปถอดชุดเกราะนักรบออกจากตัวซู่เริ่นที่นั่งดิ้นรนอยู่อย่างกระวนกระวาย

“ชุดเกราะนี่สวยจริงๆ ข้าขอเอาไปใช้รองเยี่ยวหมาที่ตำนักหน่อยนะ ฮ่าๆๆ” หนุ่มคนแรกแย่งชุดเกราะไปจากซู่เริ่น พร้อมกับชายคนที่สองที่ตรงเข้าใช้มีดกระตุกปมเสื้อขาวจนขาด

“ขอดูกล้ามอกมึงหน่อยนะว่าจะสวยแค่ไหน?” ชายคนนั้นพูด ขณะกระชากเสื้อขาวขาดกระจุย เสียงคนดูร้องโห่ด้วยความชอบใจ เมื่อเห็นท่อนบนของบุรุษหนุ่มรูปงามที่มีมัดกล้ามมันวาวพร้อมคำว่าหลงฆวย

“ไหนๆ ก็ถอดเสื้อแล้ว ข้าถอดกางเกงให้แล้วกัน” ชายคนที่สามคว้าขอบกางเกงดึงลงพื้น เผยให้เห็นผ้าเตียวขาวที่ปกปิดลำฆวยแทบไม่มิดของซู่เริ่น นักรบหนุ่มพยายามเอี่ยวตัวหลบสายตาคนดู แต่กลับยิ่งทำให้ผ้าฝืนเล็กร่นขึ้นจนหัวฆวยบางส่วนโผล่ออกมาดูโลกภายนอก

แม้จะโผล่ออกมาแค่หัวถอก แต่ก็สร้างความตะลึงให้คนดูได้ไม่น้อย นั่นก็เพราะฆวยที่ผ่านการทรมานมาอย่างหนัก ทั้งฉีด ทั้งฝัง ทั้งผ่า บัดนี้ดูใหญ่โตจนน่ากลัว แค่หัวฆวยครึ่งเดียวก็ใหญ่เกือบครึ่งหัวปลาช่อนแล้ว

“โอ้โห้ คุณชายสุดหล่อคงจะอายน่าดู บิดตัวหลบใหญ่เลย ฮ่าๆๆ” พิธีให้เสียง

“เอาละ ต่อไปข้าคิดห้าตำลึงสำหรับใครก็ตามที่อยากเข้าไปทรมานทาสตัวนี้ แต่มีข้อแม้ว่าห้ามถูกเนื้อต้องตัวมัน” หงฟู่ประกาศ

เหมือนเช่นเคย คนดูรีบแย่งกันจ่ายเงินเพื่อหวังได้มีโอกาสสักครั้งในชีวิตที่ได้ทรมานชายชาติทหารอย่างซู่เริ่น เริ่มจากคนแรกที่ตรงเข้าไปถุยน้ำลายใส่หัวคุณชาย

“เป็นไงบ้างว่ะ น้ำลายกูเต็มหัวมึงเลย สะใจจริงๆ” ชายคนแรกเดินจากไปพร้อมรอยยิ้ม
ผู้ชมคนอื่นๆ ก็เริ่มทยอยเข้าไปบ้วนน้ำลายใส่หน้า ใส่ตัวของคุณหนูจนหยาดเยิ้มเต็มไปหมด ซู่เริ่นได้แต่ถูกพันธนาการนั่งนิ่งรับน้ำลายจากชายแปลกหน้าจำนวนมาก

“น้ำลายยืดเต็มตัวแบบนี้ เดี๋ยวข้าช่วยชำระล้างให้นะ” ชายคนหนึ่งตรงเข้าไปควักท่อนฆวยออกมา หลั่งน้ำเยี่ยวเหลืองสาดรดเข้าไปตรงหัวของคุณหนู

คนอื่นๆ เห็นดังนั้นก็เริ่มคึก ไม่รอช้า ตรงเข้ายืนล้อมคุณชาย แต่ละคนต่างดึงฆวยของตนออกมา และเบ่งปัสสาวะ จนสายเยี่ยวสีเหลืองจำนวนมากตรงเข้าใบหน้าของคุณชาย บางคนก็ตั้งใจเน้นให้ตรงกับปากของเป้าหมาย บางคนก็อัดเยี่ยวเหม็นใส่จมูกโด่งของคุณหนู

“ขอเยี่ยวใส่ฆวยมึงหน่อยนะไอ้หน้าหล่อ” ชายคนหนึ่งปล่อยน้ำเยี่ยวฉีดใส่ผ้าเตี่ยวของซู่เริ่นจนเริ่มมองเห็นฆวยน่าเกลียดของเขาแล้ว

“ไม่คิดเลยว่าจะมีวันนี้ วันที่ได้เยี่ยวใส่หน้านักรบอนาคตไกล” ชายอีกคนสบัดฆวยไล่หยดเยี่ยวที่ค้างอยู่ในกระบอกฆวยของตนใส่หน้าซู่เริ่นที่นั่งหลับตาปี๋ เรียกได้ว่าตอนนี้ร่างหล่อมีแต่น้ำสกปรกทั้งเยี่ยวทั้งน้ำลายชะโลมไปทั่ว

ซู่เริ่นไม่กล้าเปิดปากออกด่าประนามพวกชั่วโฉดเพราะเกรงว่าน้ำเยี่ยวของพวกมันจะกระเด็นเข้าปากของตน จึงได้แต่นั่งทนรับน้ำฉี่เหม็นๆ จากแต่ละคนที่ยอมจ่ายเงินเพื่อมาทรมานเขา

ตอนนี้ทหารรับใช้เข้ามาจับซู่เริ่นลุกออกจากเก้าอี้ แล้วนำตัวไปพาดติดกับไม้ที่มัดสูงและขนานกับพื้น ในลักษณะที่สองมือและสองเท้าถูกรวบติดกัน ทิ้งลำตัวให้ห้อยลงมา หน้ามองพื้น และผ้าเตี่ยว ผืนเล็กที่แม้จะยังผูกติดกับเอว แต่ก็ทิ้งน้ำหนักลงตามแรงโน้มถ่วง ทำให้ฆวยใหญ่ยาวชี้ลงสู่ลาน

“ต่อไปจะเป็นการฉีดยาใส่ฆวยของคุณชายท่านนี้เพื่อทำให้หนอนน้อยผงาดขึ้นมังกรใหญ่” หงฟู่ประกาศ

ครั้งนี้หงเวยผู้เป็นลูกรับอาสาทำหน้าที่นี้ด้วยตนเอง เขาตรงไปกลางลานแสดงที่บัดนี้ได้เตรียมปลายเข็มแหลมผ่านการชุบว่านปลาไหลเผือกไว้พร้อม

“หงง..เวยยย หงเวย นี่ข้าเอง ช้าซู่เริ่นไง” ซู่เริ่นพยายามชอความช่วยเหลือผ่านผ้าอุดปากชุ่มเยี่ยว
“มึงมันเป็นไอ้ทาสนางโลม มึงรู้ไหมเพราะพ่อมึงคนเดียวที่ทำให้กูต้องเสียความเป็นชาย วันนี้มึงเตรียมรับความผิดแทนพ่อสุดที่รักของมึงได้เลย ไอ้สัตว์นรก” หงเวยหยิบเข็มแหลมขึ้นมา

ซู่เริ่นหน้าถอดสีทันที พยายามเบี่ยงตัวหลบไปมาอย่างน่าสมเพชบนคานไม้ใหญ่ แต่หงเวยไม่สนใจ เขาจ้องมองไปที่ฆวยอัปลักษณ์น่าเกลียดของซู่เริ่น เพื่อหาจุดที่จะปักเข็มลงไปได้ แต่มองไปทางไหนก็มีแต่รอยตะปุ่มตะป่ำของไขวาฬที่ฉีดเข้าฆวย ร่วมกับอัญมลีสีสวยที่ฝังลึกลงตรงหนังฆวย

แต่ในที่สุดเขาก็นึกขึ้นได้ จุดที่น่าปักเข็มลงไปมากที่สุด หงเวยจ้องสายตาไปตรงหัวฆวยขนาดครึ่งหัวปลาช่อนของซู่เริ่น และเสียบเข็มชุบยาที่มีสรรพคุณทำให้เงี่ยนเข้าไปตรงหัวบานโตของคุณชาย

“อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!” คุณชายร้องสุดเสียง ดื้นเหมือนปลาถูกทุบหัว

“ฮิ้ววววววววววววววววว” เสียงคนดูโห่ร้องอย่างชอบใจที่เห็นคุณชายทุรนทุราย

ไม่นานนักเมื่อหงเวยถอดเข็มออก ลำฆวยของซู่เริ่นก็คอยๆ พองขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แม้เจ้าตัวจะพยายามข่มใจไว้เท่าไรก็ไม่อาจหยุดยั้งการขยายขนาดของเจ้าโลกได้ ตอนนี้ซู่เริ่นน้อยแพร่ขยายออกไปทุกทิศทางทั้งความยาวและความกว้าง เส้นเลือดต่างๆ เริ่มปูดขึ้นเป็นเส้นชัด

ที่น่าตกใจที่สุดคือหัวฆวยที่ถูกเข็มปัก เพราะตอนนี้มันพองจนเนื้อแทบจะปริออกจากกัน เต็มไปด้วยเลือดแดงฉาด ทำให้หัวฆวยกลายเป็นสีแดงสด เงี่ยงใต้หัวฆวยก็บานใหญ่จนแทบจะใช้แทนตะขอเกี่ยวได้

ด้วยฤทธิ์ยารวมกับฆวยที่ผ่านการดัดแปลงมาอย่างหนักหน่วง ทำให้ตอนนี้ทุกสายตาจ้องมองไปที่ฆวยของซู่เริ่นด้วยความอิจฉา เพราะมันทั้งใหญ่ทั้งยาว คาดคะเนด้วยสายตาจากระยะใกล้แล้ว ความใหญ่น่าจะมากกว่าฆวยคนธรรมดาสองอันมัดรวมกัน ส่วนความยาวนั้นไม่ต้องพูดถึง สองมือกำแล้วยังมีส่วนหัวฆวยโผล่ออกมาแน่นอน

“เอาละๆ ข้ามีกิจกรรมดีๆ เพียงวันนี้วันเดียวเท่านั้น ข้าจะคิดเพียงสองชั่งเท่านั้นสำหรับผู้ที่ต้องการน้ำหล่อลื่นขององค์ชายสุดหล่อคนนี้ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ” หงฟู่ชอบใจ

ครั้งนี้มีผู้ยอมจ่ายเช่นเดิม แม้จะมีราคาสูงลิบแต่ของดีมีค่าเช่นนี้ หากไม่รีบคว้าไว้คงไม่มีโอกาสอีกแล้ว ชายหนุ่มคนหนึ่งที่ยอมจ่ายได้รับถ้วยแก้วหยกอย่างดี ก่อนเดินลงไปที่ลานแสดง

“คุณชาย ข้าขอน้ำหล่อลื่นสดๆ จากฆวยของท่านไว้เป็นที่ระลึกหน่อยนะ” ชายหนุ่มพูดอย่างสะใจ

ชายหนุ่มหยิบถ้วยหยกจ่อไว้ที่ปากฆวยบานของซู่เริ่นที่น่าสงสาร น้ำหล่อลื่นบางส่วนใหญ๋ย้อยลงมาตามความเงี่ยนที่เกิดขึ้น แม้ซู่เริ่นจะพยายามหักห้ามใจ แต่น้ำฆวยนั้นไม่สามารถสั่งการได้เลย มันหลั่งรินลงมายืดย้อยลงสู่ปากถ้วยแก้วที่รองอยู่ สร้างความพอใจให้ผู้เสียเงินเป็นอย่างมาก

“ข้ายอมจ่ายห้าชั่ง แต่ขอน้ำหล่อลื่นไอ้หนุ่มน้อยคนนี้เต็มถ้วยหยก” ชายมีอายุคนหนึ่งร้องขึ้น ผู้คนต่างหันไปมองเป็นทางเดียวกัน

“ห้าชั่งงง ห้าชั่งเชียวหรือ ได้ๆๆๆๆ ขอรับคุณชาย ได้ทุกอย่างเลยขอรับ” หงฟู่กระหายเงินยอมรับขอเสนอ รีบประเคนถ้วยหยกใบใหญ่ให้ลูกค้าด้วยความดีใจ

“ข้าว่าเราต้องกระตุนองค์ชายของเราเสียหน่อยเพื่อให้ได้น้ำหล่อลื่นเยอะๆ ทหารจัดการที” หงฟู่หันไปสั่งทหารรับใช้

ไม่ช้า เหล่าทหารบางส่วนนำน้ำบางอย่างทาบริเวณหัวนมของซู่เริ่น อีกส่วนรีบน้ำโต๊ะยาวมาวางไว้ใต้คานไม้ที่มัดตัวซู่เริ่นไว้ ก่อนปล่อยสุนัขหลายคนกระโดดขึ้นบนโต๊ะ ทันทีที่ฝูงหมาขึ้นโต๊ะเสร็จ พวกมันก็ดมหากลิ่นอาหาร จนพบว่าเป้าหมายคือหัวนมสีชมพูขององค์ชายเริ่นนั่นเอง

พวกหมายกหน้าแลบลิ้นขึ้นไปเลียหัวนมของซู่เริ่นอย่างกระหายหิว แต่ละตัวไม่ยอมกัน ต่างแย่งกันดมแย่งกันเลียยิ่งกว่าสตรีหน้าไหน ลิ้นสากๆ ลื่นๆ ของสัตว์เดรัขฉานสัมผัสผิวนมสร้างความเสียวจนแทบหยุดหายใจให้ซู่เริ่น

“ข้าแก่แล้ว แต่ความเงี่ยนยังมากเหลือเกิน เสียดายที่อายุมาก น้ำหล่อลื่นก็น้อยลงเป็นธรรมดา ข้าจึงตั้งใจจะเอาน้ำจากฆวยเด็กหนุ่มอย่างเจ้าไปใช้หล่อลื่นฆวยคนแก่อย่างข้า” เศรษฐีมีอายุกล่าว พร้อมวางถ้วยแก้วตรงปากฆวยซู่เริ่น

ที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฝูงหมาที่คอยกระตุ้นความเงี่ยนให้ซู่เริ่น เพื่อปลดปล่อยน้ำหล่อลื่นออกมาให้ชายชรานำไปใช้เย้ดคนอื่น

“ไอ้คุณชายยยยย มึงมันเกินไปแล้ว เงี่ยนแม้กระทั่งหมาหรอว่ะ?” คนดูเฮ
“*** ให้หมาเลียนม แล้วฆวยกระตุกๆ ปล่อยน้ำไม่หยุดเลยมึง” อีกคนพูด
“อิจฉาเศรษฐีคนนั้นจริงๆ ได้น้ำหล่อลื่นสดๆ ขององค์ชายไปใช้ คงจะเสียวน่าดู” อีกคนตอบ
“ถ้วยใหญ่ขนาดนั้นจะเต็มได้หรอ ไม่น่าเชื่อ” อีกคนตั้งข้อสังเกตุ
“เอ็งดูเสียก่อน น้ำแม่งยืดยาวเป็นสายใส เกือบเต็มถ้วยแล้ว” คนดูชี้

ชายชราพึงพอใจมาก เขาหยิบถ้วยที่เต็มไปด้วยน้ำหล่อลื่นจากหนุ่มน่าหล่อระดับองค์ชายไปเต็มถ้วยก่อนปิดฝาอย่างดี และเดินกลับไปสู่ที่นั่งดูอย่างมีความสุข

อย่างไรก็ตามฝูงหมายังไม่ยอมหยุดเลีย หน่ำซ้ำยังเดินไปดมๆ แถวๆ หัวฆวยของซู่เริ่น แล้วเลียกินน้ำหล่อลื่นเหมือนดื่มน้ำจากท่อ ยามปล่อยลิ้นหมาแตะเข้ากับหัวฆวย ซู่เริ่นถึงกับตัวสั่นเทาๆ

“มึงมันต่ำยิ่งกว่าสัตว์ ดูสิหมาเลียฆวยมึงไม่หยุดเลย สงสัยมันจะชอบน้ำมึงนะ” ซู่เวยเพื่อนสนิทพูด

“ทุกท่านโปรดฟัง ครั้งนี้ท่านมีโอกาสให้คุณหนูอมฆวยและกินน้ำเงี่ยนของพวกท่านได้ เพียงจ่ายข้ามาแค่ห้าชั่งเท่านั้น” หงฟู่เริ่มเกมต่อ

แน่นอนว่ามีผู้คนสนใจมากมาย นี่นับเป็นโอกาสทองที่จะได้สอดฆวยเข้าปากคุณชาย ได้ปล่อยให้ฆวยเบียดเข้าออกโพรงปากหนุ่มหล่อ ได้ครูดฆวยกับริมฝีปากงดงามของนักรบ ได้ปล่อยน้ำฆวยเข้าสู่ลำคอของชายผู้เป็นที่หมายปองของสาวทั่วแดน ใครก็ยอมจ่ายเพื่อโอกาสดีๆ แบบนี้

ผู้คนที่จ่ายเงินเดินเข้าไปหาซู่เริ่นที่ถูกมัดอยู่ ทหารคนหนึ่งจับหัวซู่เริ่นตั้งขึ้น่มองไปข้างหน้า เพื่อให้มองเห็นบุคคลที่จะเอาฆวยมาใส่ปากของตนชัดๆ ผ้าปิดปากถูกนำออก พร้อมกับที่ทหารคนหนึ่งนำกรรไกรมาจ่อไว้ที่พวงไข่ของคุณหนู

“หากร้องโวยวายหรือกัดฆวยลูกค้า ข้าจะตัดไข่ท่านทิ้งทันที” ทหารกล่าว

ซู่เริ่นน้ำตาไหลออกมาไม่ต่างจากน้ำหล่อลื่นที่หลั่งออกมาจากการถูกฝูงหมากระตุ้นอย่างต่อเนื่อง ปากสวยๆ ของคุณชายค่อยๆ อ้าเปิดออกอย่างไม่เต็มใจ ใบหน้าถูกบังคับให้มองฆวยลูกค้าคนแรกที่เข้ามา มันทั้งดำทั้งสกปรก มีคราบขาวติดตรงหัวฆวย แต่เจ้าของฆวยกลับไม่สนใจ

“อมเข้าไปลึกๆ ดูดทำความสะอาดให้ข้าด้วยนะคุณชาย” ลูกค้าคนแรกสอดฆวยทิ่มเข้าปาก บังคับให้คุณชายที่ทำหน้าพะอืดพะอมดูดฆวยของตนให้สะอาด

“ดูดแรงๆ เน้นตรงหัวให้ข้าด้วย ข้าเสียเงินไปแล้ว ทำให้คุ้มค่าหน่อย” ชายแปลกหน้ากล่าว

ซู่เริ่นรู้สึกได้ถึงกลิ่นเหม็นแต่ต้องฝืนใจกลืนเข้าไปอย่างลำบาก ทหารจับหัวของเขาก้มเข้าไป จนฆวยลูกค้าทิ่มลิ้นไก่ลึกเข้าไปในคอ ทำเอาคุณชายหายใจไม่ทัน

“ดีๆ แบบนั้นแหละ ดีมาก ใช้ลิ้นวนๆ ตรงหัวฆวยให้ด้วย” ลูกค้าสั่ง

“โอ๊ยย เสียวจริงๆ เสียวมาก ซิ๊ดดดดด ไม่คิดเลยว่าคุณชายจะอมฆวยเก่งแบบนี้”

“อ่าสสสสส์ ข้าจะแตกแล้ว อ้าปากๆ อ้าปากกว้างๆ ข้าจะฉีดน้ำฆวยเข้าไป อ่าส์” ชายแปลกหน้าเกร็งตัวจิกเท้า พ่นน้ำคาวฉีดใส่โพรงปากของคุณชายเริ่นไม่ยั้ง ความเหนี่ยวข้นและกลิ่นคาวทำให้คุณชายทำท่าจะอ้วก แต่กรรไกรที่จ่อรอไว้ที่ไข่ยานเตรียมงับตัดลงมา เขาจึงต้องฝืนใจทนกลืนน้ำเงี่ยนทั้งหมดเข้าไป

ลูกค้าคนที่สองมาพร้อมฆวยยาว คนนี้สั่งให้ซู่เริ่นแลบลิ้นออกมายาวๆ แล้วใช้ปลายลิ้นสอดแทรกเข้าไปในรูฆวยของตน ตวัดไปมาเพื่อให้ลิ้มรสน้ำหล่อลื่น ก่อนจะประคองหัวคุณหนูไว้นิ่งๆ แล้วกระเด้าปากหนุ่มหล่อเข้าออกโดยไม่แยแสความเจ็บปวดของผู้ถูกกระทำ จนในที่สุดก็ปล่อยน้ำเสียวรินลงลิ้นและฟันของคุณชายเต็มไปหมด

“เอาลิ้นปาดทำความสะอาดปากตัวเองซะ ไอ้หล่อตกอับ” ลูกค้าสั่ง

ซู่เริ่นต้องยอมเอาลิ้นกวาดคราบน้ำเงี่ยนที่ติดอยู่ตามกระพุ้งแก้มและฟันออก ขณะที่ตุ่มรับรสบนลิ้นก็ทำหน้าที่ได้ดีเหลือเกิน คุณชายรับรสเค็มอ่อนๆ ของน้ำเงี่ยนได้ทั้งหมด ก่อนจะปิดปากกลืนเศษน้ำรักเหล่านี้ลงไปในคอ
คนที่สามมาถึงตรงหน้าซู่เริ่น คราวนี้ควักพวงไข่ที่เต็มไปด้วยหมอยดำยื่นให้ซู่เริ่นเลีย องค์ชายต้องอมไข่ลูกใหญ่ที่มีแต่ขนดำไว้ในปาก ขณะที่ฝูงหมาก็เลียฆวยและหัวนมของเขาเช่นกัน ระหว่างที่เลียและอมไข่ให้ลูกค้าอยู่นั้น น้ำฆวยลูกค้าก็ทะลักออกมาเต็มหน้าของซู่เริ่นที่ไม่ทันระวังตัว

คนที่สี่จับฆวยของตนเองปาดเอาน้ำเงี่ยนของคนก่อนหน้ามา แล้วฟาดใส่ปากของซู่เริ่นดังป๊าบๆ ก่อนจะยัดท่อนฆวยที่ชะโลมน้ำเงี่ยนของลูกค้าคนก่อนไว้เข้าปากเด็กหนุ่ม แล้วซอยเย้ดปากโดยอาศัยน้ำเงี่ยนและน้ำลายเป็นตัวหล่อลื่น จนในที่สุดก็หลั่งน้ำกามออกมา พร้อมกดฆวยให้ลึกที่สุดเพื่อฉีดเข้า

ลูกค้าคนอื่นๆ ก็ทะยอยเข้ามาเรื่อยๆ ใช้ปากองค์ชายเป็นที่ระบายความเสียวไม่หยุด จนปากและท้ององค์ชายมีแต่น้ำเงี่ยนของคนแปลกหน้าเต็มไปหมด บางคนก็บังคับให้เขาห่อปากแล้วยัดฆวยเข้ามา บางคนก็จับฆวยฟาดหน้าเขาอย่างไม่ให้เกียรติ บางคนพอน้ำแตกแล้วก็ฉี่ใส่ปากซ้ำอีกรอบ

“ดีมากครับทุกท่าน ต่อไปจะเป็นช่วงสำคัญ ใครที่มีความฝันว่าอยากจะเย้ดองค์ชายสักครั้งในชีวิต วันนี้เป็นโอกาสของท่านแล้ว เพียงแลกความฝันของท่านกับทองคำหนึ่งชั่งเท่านั้น ที่สำคัญองค์ชายของเรายังบริสุทธิ์อยู่ด้วย รับรองว่าก้นองค์ชายต้องรัดตอดแน่นอย่างแน่นอน” หงฟู่หน้าเงินกล่าว

มีผู้คนสนใจเป็นจำนวนมากมาย ทุกคนที่มาที่นี่ล้วนเป็นพวกมีเงินทั้งนั้น เมื่อชำระค่าใช้จ่ายเรียบร้อย ทุกคนก็เตรียมเรียงลำดับตามคิว ต่อแถวยืนเรียงราย รอเย้ดองค์ชายสุดหล่อ

“ข้าขอเปิดบริสุทธิ์มันด้วยตัวเองก่อน” หงเวยพูดขึ้น

เด็กหอ 8 CP

มื่อกานต์เก็บของจากห้องตัวเองเสร็จ จึงมาหาอาจารย์ภัทรที่ห้อง ส่วนภัทรอาบน้ำทำความสะอาดเนื้อตัวเรียบร้อย ควยของภัทรแข็งรอกานต์อยู่นานแล้ว &...