ซู่เรินตกอยู่ในฐานะว่าที่นักแสดงในสมรภูมิเผยกามของหงฟู่ ตั้งแต่เกิดเรื่องเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ใส่เสื้อผ้าสักชิ้น ได้แต่ยืนเปลือยกายถูกมัดสองมือไพร่หลังติดกับเสาไม้ใหญ่ที่มีท่อนไม้ค้ำไว้บริเวณสะโพกบั้นท้าย ทำให้ซู่เรินรูปงามตกอยู่ในท่าท่างยืนแอ่นฆวยประหลาดไปข้างหน้าอย่างเสียมิได้
“ว่าไง หลานรัก? เตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมฆวยให้พร้อม วันนี้ข้าจะให้เจ้าเปิดตัวเป็นนักแสดงหน้าใหม่ให้สมเกียรติไปเลย ก็แหม่! อุตสาห์เป็นถึงลูกชายของแม่ทัพซุ่เหวินจะเปิดตัวธรรมดาคงไม่ได้ ฮ่าๆๆ” หงฟู่ยืน
“ขอร้องล่ะท่านลุง ปล่อยข้าไปเถอะ ข้ายอมท่านทุกอย่างแล้ว อย่าให้ใครเห็นข้าในสภาพเช่นนี้เลย ข้ารับไม่ได้ โปรดช่วยข้าด้วย” ซู่เรินพูดพร้อมน้ำตารินไหลอาบใบหน้าหล่อๆ
“ปัดโถ่! ดูเจ้าสิ หน้าตาหล่อเหลาระดับเทพบุตร หุ่นดีอย่างที่หาชายใดเทียบได้ยาก แถมฆวยยังเต็มไปด้วยความน่าเกรงขาม ใครเห็นเป็นต้องตะลึง ของดีแบบนี้แบ่งให้คนอื่นชมบ้างจะเป็นไรไปเล่า” หงฟู่พูดอย่างไม่แยแส
..........................................................................................................................................................
เอ้าเทียนถูกทหารจับกุมตัวมาคุมขังในคุกใต้ดินลับ ที่เดียวกับแม่ทัพซู่เหวิน ภายในคุกใต้ดินนี้มีเพียงแสงไฟจากคบเพลิงที่จุดอยู่ตามมุมห้อง อับชื้นและสกปรก มีตะใคร่น้ำขึ้นบนกำแพงราวกับกำลังวาดลวดลายจากธรรมชาติ ภายในมีเอ้าเทียนและแม่ทัพซู่เหวินที่ถูกมัดมือและจองจำอยู่ในกรงเหล็กหนา
“สวัสดีท่านแม่ทัพซู่เหวิน” เอ้าเทียนในร่างมนุษย์ทักทาย
“เจ้าเป็นใครกัน? เหตุใดจึงถูกจับมาที่นี่ได้?” แม่ทัพถามด้วยความสงสัย
“เราชื่อเอ้าเทียน มาที่นี่เพื่อช่วยท่านนั่นแหละ” เอ้าเทียนตอบ
“ช่วยข้ารึ? เจ้าหนุ่มน้อย เจ้าจะช่วยข้าได้อย่างไร? เจ้าดูรอบๆ เสียก่อน พวกเราติดอยู่ในกรงเหล็กขนาดใหญ่ แถมสองมืออยู่ถูกมัดไพร่หลังอยู่อย่างนี้ ลำพังจะหยิบจับอะไรยังไม่สะดวกเลย” แม่ทัพทักทวง
“ทำได้สิ อย่างแรกเราต้องปลดเชือกที่มัดมือเราออกให้ได้เสียก่อน” เอ้าเทียนตอบ
“ปลดเชือกที่มัดมือจากข้างหลัง? ไม่มีทางเป็นไปได้” แม่ทัพตอบ
“ได้สิ ยามมีกันสองคน ขอเพียงท่านกับเรานั่งหันหลังชนกัน ต่างฝ่ายต่างแก้เงื่อนที่มัดไว้ให้กัน ก็ย่อมสำเร็จได้ไม่ยาก” เอ้าเทียนเฉลย ทำให้แม่ทัพเริ่มยอมรับในปัญญาของหนุ่มน้อยคนนี้
“หรือต่อให้มีคนเดียว... ก็ยังสามารถปลดพันธนาการนี้ได้ไม่ยาก ท่านดูเราเป็นตัวอย่างนะ” เอ้าเทียนพูดต่อ
เอ้าเทียนที่ถูกเชือกมัดสองมือติดอยู่ข้างหลังเริ่มสาธิตวิธีการเอาตัวรอดให้แม่ทัพซู่เหวินดู เริ่มจากการที่เขานั่งเหยียดสองขาตรงขนานไปกับพื้น ก่อนจะค่อยๆ ใช้สองมือที่ผูกติดกันสอดไประหว่างก้นกับพื้นที่นั่งอยู่ แล้วขยับมือออกมาทางปลายเท้าเรื่อยๆ จนในที่สุดสองมือก็กลับมาอยู่ข้างหน้า แล้วเชือกก็ถูกคลายออกด้วยปากของชายหนุ่ม
“นี่ไง ง่ายจะตายท่านแม่ทัพ มือเราเป็นอิสระแล้ว ต่อไปก็แค่หาทางออกจากกรงเหล็กนี่” เอ้าเทียนพูดต่อ ขณะที่แม่ทัพซู่เริ่มทำตามนักโทษที่มาใหม่คนนี้ด้วยความทึ่งในสติปัญญา
“ว่าแต่เราจะออกไปจากกรงนี้ได้อย่างไรเล่า?” แม่ทัพมืดแปดด้าน
“ระหว่างที่ข้าถูกสองทหารจับกุมตัวมาที่นี่ ข้าฉกกุญแจออกมาจากเอวของทหารได้ โดยที่พวกนั้นไม่ร้ตัวเลยสักนิด หรือต่อให้ไม่มีกุญแจ เราก็สามารถออกไปจากที่นี่ได้เช่นกัน” เอ้าเทียนกล่าว
ขณะใช้กุญแจที่ขโมยมาจากทหารไขประตูกรงเหล็ก เอ้าเทียนก็อธิบายให้แม่ทัพฟังว่ากลไกการทำงานของกุญแจนั้นไม่ยาก มีหลักการคือการสอดลูกกุญแจเข้าไปจนถึงจุดล็อคของแม่กุญแจแล้วบิดออกเพื่อปลดล็อค ขอเพียงหาวัสดุที่สอดเข้าไปถึงจุดนั้นแล้วบิดได้ ก็จะคลายแม่กุญแจออกได้ไม่ยาก
บัดนี้หนึ่งแม่ทัพ หนึ่งเทพ พากันออกมาเป็นอิสระนอกกรงขัง และกำลังพากันหนีออกจากคุกใต้ดินนี้ อยู่ๆ ก็เกิดควันสีดำทะมึนพวยพุ่งออกมาจากอากาศ กระจายไปทั่วคุกใต้ดิน จนแทบมองอะไรไม่เห็น
“จะรีบหนีไปไหนกันเล่า เจ้าจิ้งจอกเงิน” เสียงชายหนุ่มทุ่มตัวพูดออกมาจากกลุ่มควันสีดำ
“เราไม่จำเป็นต้องบอกทุกเรื่องให้คนแปลกหน้ารู้หรอกนะ แล้วเมื่อไรไอ้ควันบ้าๆ นี่จะหมดสักที เปิดตัวเสียอลังการเชียวนะ” เอ้าเทียนตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน
เมื่อกลุ่มควันดำเรื่มจางออก จึงเผยให้เห็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ ชายผมยาวสีดำสนิททิ้งตัวลงถึงกลางแผ่นหลัง ผิวสีเนื้อเข้มนวลเนียน เครื่องหน้าดูจัดวางอย่างลงตัว บนกรอบหน้าที่ชัดเจน สวมใส่ชุดไหมสีดำสนิท เข้ารูปดูทะมัดทะแมงและคล่องตัว
“ข้าคืออสูรงูดำ “นายใหญ่” ส่งข้ามาเพราะเริ่มระแคะระคายว่าจะมีคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้” จอมมารพูดกับเอ้าเทียน
“สรุปว่าจะมาขัดขวางเราใช่ไหม? งั้นเจอกันสักตั้งเป็นไง?” เอ้าเทียนตอบ ขณะประคองแม่ทัพซู่
เหวินไว้ข้างลำตัว พร้อมทั้งเริ่มแผ่หมอกสีขาวออกมารอบๆ บริเวณ
เทพจิ้งจอกเงินปะทะอสูรงูดำ หมอกสีขาวเข้ากระแทกกับกลุ่มควันสีดำ เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว มารงูดำปล่อยกองทัพอสรพิษเลือยเข้าโจมตีเซียนจิ้งจอกเงิน ก่อนจะถูกเทพใช้ลมปราณสีเงินโบกเฉือดเฉือนกองทัพงูจนตัวขาดกระเด็นและสลายหายไป
ในสภาพที่ต้องประคองแม่ทัพไว้และสู้ไปด้วย ทำให้เอ้าเทียนตกเป็นฝ่ายรับโดยปริยาย จอมมารไม่รอช้า รุกเข้าโจมตีอย่างว่องไว ขณะที่เอ้าเทียนก็ปิดจุดอ่อนไว้ได้ทั้งหมด การเคลื่อนตัวและหลบไปมารวดเร็วจนคนธรรมดามองไม่ทัน
“ท่านเก็บยันต์นี้ไว้กับตัว มียันต์นี้ติดตัวท่าน เราจะรู้ว่าท่านอยู่ที่ไหน” เอ้าเทียนยิ้มให้ และกระซิบบอกแม่ทัพ พร้อมทั้งส่งยันต์ใส่ไว้มือ
ทันทีที่ส่งยันต์เสร็จ อสูรพิษงูดำก็เห็นช่องว่างทางด้านหลัง จึงรีบเข้าโจมตีเอ้าเทียน จี้จุดสำคัญกลางแผ่นหลัง ทำให้เอ้าเทียนขยับตัวไม่ได้ในชั่วพริบตา ก่อนจะเข้าโอบรัดจิ้งจอกหนุ่มสุดหล่อแล้วหายไปตรงหน้า ทิ้งให้แม่ทัพซู่เหวินยืนกำยันต์แน่นในอุ้งมือ
ไม่ช้าก็มีทหารวิ่งลงมาจากบันไดด้านบน ตรงเข้าจับกุมแม่ทัพซู่ และใช้ผ้าอุดปากไว้ จนมิอาจส่งเสียงร้องได้อีก ทหารพาร่างแม่ทัพซู่เหวินขึ้นไปที่จวนแม่ทัพ สถานที่ที่กำลังคัดเลือกราชโอรส
..........................................................................................................................................................
ในจวนแม่ทัพตอนนี้ถูกปิดประตูมิดชิด เพราะภายในห้องกำลังทำเรื่องที่ไม่อาจเปิดเผยได้ของบรรดาเจ้าชายแต่ละพระองค์ หลังจากที่ตอนนี้หนุ่มหล่อทั้งแปดยืนถอดกางเกง ปล่อยฆวยให้ทุกคนในห้องดูกันแบบเต็มๆ ตา
“ต่อไปจะให้ทหารเข้าไปวัดขนาดฆวยของเจ้าชายแต่ละท่าน และให้เจ้าชายแต่ละพระองค์ประกาศขนาดของตน พร้อมบอกเล่าความภูมิใจในฆวยของตนเองให้ทุกคนรับทราบ” คำประกาศดังไปทั่วห้อง
ทหารเดินถือสายวัดตรงเข้าไปหาเจ้าชายหมายเลขสอง แล้วเริ่มทาบสายวัดตั้งแต่โคนฆวยไล่ไปจนถึงปลายฆวย แล้วเปลี่ยนมาวัดเส้นรอบวงตรงที่อวบที่สุด ก่อนจะประกาศออกมาเสียงดัง
“ฆวยของข้า ยาวหกนิ้วครึ่ง รอบวงหกนิ้ว ข้าภูมิใจที่หัวฆวยข้ามีสีแดงสดกว่าผู้ชายทั่วไป” เจ้าชายหมายเลขสองประกาศ
ทหารเริ่มไปวัดเครื่องเพศของเจ้าชายหมายเลขสามที่ยืนอยู่ติดกัน ขั้นตอนการเก็บข้อมูลดำเนินไปเรื่อยๆ ภายใตสายตาหื่นกระหายของพระมเหสีที่นั่งจ้องดุ้นฆวยทั้งแปดตรงนั้น
“ท่อนฆวยข้า ยาวเจ็ดนิ้ว รอบวงห้านิ้วครึ่ง ข้ามีขนหมอยที่ดกดำลามไปทั่วหว่างขา” เจ้าชายหมายเลขสามหุ่นล่ำกระกาศอย่างภูมิใจ แอ่นหมอยฟูให้ทุกคนมองกันทั่ว
“ส่วนของข้า ยาวเจ็ดนิ้ว รอบวงหกนิ้ว สตรีที่ร่วมรักล้วนติดใจในลีลาท่าเย้ดของข้า” เจ้าชายหมายเลขสี่ตี๋หล่อประกาศเสียงดัง
“ท่อนฆวยข้า ยาวหกนิ้วครึ่ง รอบวงเจ็ดนิ้ว ข้ามั่นใจว่าข้ามีน้ำฆวยเยอะกว่าชายคนใดในห้องนี้” เจ้าชายหมายเลขห้าหน้าตาชวนสมสู่ประกาศลั่น พร้อมน้ำหล่อลื่นที่เริ่มหลั่งชะโลมปลายฆวย
“ฆวยของข้า ยาวเจ็ดนิ้วครึ่ง รอบวงเจ็ดนิ้ว ข้าภูมิใจในรูปทรงที่ตั้งตรงของฆวยแท่งนี้” เจ้าชายหมายเลขหกเจ้าของแผงอกใหญ่ประกาศ พร้อมโชว์ฆวยแท่งใหญ่ตั้งโด่ชี้หน้าคนมอง
“ส่วนฆวยของช้า วัดได้ยาวหกนิ้วครึ้ง รอบวงเจ็ดนิ้วครึ่ง สิ่งที่ข้าชอบในฆวยแท่งนี้คือความอวบที่พร้อมฉีกร่องสตรีทั้งหลายให้แยกออกจากกัน” หมายเลขเจ็ดหล่อตาหวานพูด
“ข้ามีฆวย ยาวแปดนิ้ว รอบวงเจ็ดนิ้ว ฆวยข้าทั้งใหญ่ทั้งยาวสาวที่ไหนก็ชอบ” เจ้าชายคนที่แปดหล่อเข้มพูดอย่างมั่นใจ
“ของข้า ยาวเจ็ดนิ้วครึ่ง รอบวงเจ็ดนิ้ว ข้ามีความอึดมากขนาดชักว่าวได้ทั้งวันโดยไม่เหน็ดเหนื่อย” เจ้าชายหมายเลขเก้าประกาศดังทั่วห้อง
เมื่อเก็บข้อมูลจากเจ้าชอบครบทุกพระองค์ ทหารก็รีบวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อสรุปผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ต่างฝ่ายต่างเฝ้ารอฟังผลสรุป
“เจ้าชายที่มีท่อนฆวยยาวที่สุด คือเจ้าชายหมายเลขแปด มีท่อนฆวยยาวถึงแปดนิ้ว” เสียงปรบมือดังขึ้น พร้อมกับที่เจ้าชายหงเวยจากเมืองจางโจวโบกไม้โบกมือแสดงความขอบคุณ
“ส่วนเจ้าชายที่มีลำฆวยอวบที่สุด คือเจ้าชายหมายเลขเจ็ด มีลำฆวยรอบวงกว้างถึงเจ็ดนิ้วครึ่ง” เสียงทหารประกาศ ขณะที่เจ้าชายหมายเลขเจ็ดโค้งคำนับแทนคำขอบคุณ
“เจ้าชายองค์อื่นๆ ก็มีของดีไม่แพ้กัน บ้างก็มีสีขาวอมชมพูสวย บ้างก็มีหัวฆวยบานร่า บางคนก็มีพวงไข่แฝดลูกใหญ่ บางคนก็มีดกหมอยที่ดกดำหยิกเป็นพุ่ม ถือว่าทุกคนล้วนเหมาะสมกับฐานะว่าที่ลูกเขยตระกูลซู่ด้วยกันทั้งนั้น” มเหสีลุกขึ้นกล่าว ตายังจ้องมองฆวยเจ้าชายเป็นมัน
“ภาระกิจสุดท้ายสำหรับการคัดเลือก เนื่องจากฆวยไม่ใช่เงื่อนไขเดียวเท่านั้นในการผลิตลูก เรื่องลีล่าบนเตียงเองก็สำคัญ ข้าอยากให้พวกท่านแสดงความสามารถในการร่วมเพศให้พวกเราดูเพื่อตัดสินใจเลือกคนที่เหมาะสมที่สุด” มเหสีกล่าวต่อ
“แต่คนที่จะตัดสินเรื่องนี้ได้ดีที่สุด ต้องเป็นคนที่ได้ร่วมรักกับพวกท่านทั้งหลาย เขาคนนั้นย่อมบอกได้ว่าพึงพอใจในลีลาของเจ้าชายองค์ไหน และเขาคนนั้นต้องเป็นคนที่มีสิทธิ์ตัดสินอย่างเป็นเอกฉันท์” มเหสีอธิบายต่อ
“ท่านจะให้พวกเราร่วมรักกับใครกันหรือพระมเหสี?” เจ้าชายคนหนึ่งถามขึ้น
“พ่อตาของพวกเจ้าเอง... กษัตริย์ซู่เหวิน!” มเหสีพูดอย่างสำราญใจ
ร่างของแม่ทัพซู่เหวินถูกจับมาไว้กลางห้อง ทหารก้มหัวแม่ทัพบนแนบกับแผ่นโต๊ะกลม สองขายืนติดพื้นและถูกแยกออกจากกัน ทำให้รูตูดสีแดงสดปิดสนิทอยู่เป็นวงสวยปรากฏขึ้นแก่สายตาของเหล่าราชโอรสทั้งหลายที่ยืนฆวยแข็งอยู่ตอนนี้
“แม่ทัพยอมสละตนเพื่อเลือกลูกเขยที่ดีที่สุด ต่อไปเป็นหน้าที่ของพวกท่านที่จะแสดงให้แม่ทัพเห็น” หลี่เฉินประกาศกับเหล่าราชบุตร ทำเอาซู่เหวินร้องดิ้นส่งเสียงอู้อี้อยู่ใต้ผ้าอุดปาก
..........................................................................................................................................................
เอ้าเทียนถูกจอมมารสกัดจุดและพามาที่ถ้ำลึกภายในป่าใหญ่ ภายในค่อนข้างมืด แต่พอมองเห็นบริเวณรอบๆ ที่เต็มไปด้วยหินงอกหินย้อย จอมมารดำจับเอ้าเทียนมัดเข้ากับแท่งหินในสภาพขยับตัวหรือพูดไม่ได้เลย
“ดูไปดูมา...ใบหน้าเจ้านี่ก็หล่อใช่เล่นเลยนะ” อสูรงูดำพูดพร้อมใช้นิ้วเรียวลูบไล้ใบหน้า และเสยเส้นผมสีขาวประกายเงินไปข้างหลัง เผยให้เห็นหน้าเอ้าเทียนแบบเต็มๆ ซึ่งชวนให้จ้องมองได้เหมือนเวลาหยุดเดินไปชั่วขณะ
“ขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ ข้ามีนามว่าอู๋ทง จอมมารงูดำ” อสูรร้ายกล่าว หลังจากตั้งสติได้
ยามยืนประชิดตัวกันเช่นนี้ ทำให้เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างเทพเอ้าเทียนกับจอมมารอู๋ทง เอ้าเทียนนั้นผิวพรรณผ่องใสขาวสว่างรับกับไรผมสีเงิน ขณะที่อู๋ทงมีผิวเนียนเข้มพร้อมผมสีดำสนิท อย่างเดียวที่เหมือนกันคือความหล่อบนใบหน้าของทั้งคู่และหุ่นที่ล่ำสมส่วน
อู๋ทงจ้องมองเอ้าเทียนตั้งแต่อยู่ในคุกใต้ดินแล้ว ในใจก็เกิดนึกเสห่หาจิ้งจอกหนุ่มคนนี้ตั้งแต่แรกเห็น ซึ่งเป็นธรรมดาเพราะเอ้าเทียนนั้นมีเสน่ห์ดึงดูดผู้พบเห็นทุกคนให้หลงไหล รวมทั้งจอมมารดำรูปหล่อคนนี้ด้วยเช่นกัน ยิ่งยามได้กอดรัดเอ้าเทียนเพื่อชิงตัวออกมาจากคุก ยิ่งได้สัมผัสร่างและสูดดมกลิ่นกายหอมเย้ายวนของเอ้าเทียนแล้ว จึงยากที่จะควบคุมอารมณ์ต่อไปได้
อู๋ทงตรงเข้าไปใช้ลิ้นอุ่นเลียใบหน้าของเอ้าเทียนอย่างหื่นกระหาย ก่อนจะใช้มือสวยกระชากชุดไหมเงินระยับระยิบของเอ้าเทียนขาดกระจุย เผยให้เห็นส่วนบนที่ไม่เคยมีใครได้ยลมาก่อน ผิวขาวสว่างใสจนมองเห็นเส้นเลือดได้จางๆ แผงอกล่ำขนาดใหญ่เป็นฐานสำหรับวางหัวนมสีชมพูสดใสระเรื่อ อีกทั้งกล้ามท้องที่เต็มไปด้วยลูกระนาดที่มีขนาดเท่ากันทั้งซ้ายและขวา นับได้แปดลูก
“เจ้ารู้ไหม? เจ้าทำให้ข้าเกิดอารมณ์เสียแล้วล่ะ เจ้าจิ้งจอกหนุ่มหน้าหล่อ” อู่ทงพูด
ไม่ทันไรจอมมารหน้าเข้มก็ตรงเข้าประกบปากเอ้าเทียน ปล่อยลิ้นซุกซนกวาดสำรวจไปทั่วช่องปากอุ่น ดูดดื่มความบริสุทธิ์อย่างหนักหน่วง มือหนึ่งก็ไล่เค้นคลึงหัวนมสีสวยของเอ้าเทียนไปมาบนแผงอกโต อีกมือลูบไล้หน้าท้องเทพบุตรตามร่องกล้าม ราวกับมีงูที่เลื้อยอย่างแผ่วเบาไปบนร่างขาวสะอาด ปล่อยให้จิ้งจอกหนุ่มตาค้างด้วยความตกใจ
“มาเป็นเมียข้าเถอะนะ...เอ้าเทียน” อู๋ทงกระซิบข้างหูเอ้าเทียนด้วยเสียงกระเส้า ริมฝีปากชิดติดกับติ่งหู ลมหายใจอุ่นรดต้นคอขาว ทำเอาเอ้าเทียนขนลุกซู่
..........................................................................................................................................................
วันนี้ที่สมรภูมิเผยกามเริ่มมีผู้คนจากทั่วสารทิศเดินทางมาเพื่อรับชมการแสดงใต้ดินของหงฟู่ วันนี้ดูคนจะเยอะเป็นพิเศษหลังจากที่มีข่าวแพร่สะพัดไปทั่วว่ามีของดีที่สุดมาจัดแสดงในวันนี้
“ขอต้อนรับท่านผู้มีเกียรติทุกท่านที่มาร่วมอุดหนุนชมการแสดงในคืนวันนี้ ข้า-หงฟู่-หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะพอใจในกามารมณ์ที่เราจัดเตรียมไว้ให้” ชายอ้วนประกาศกลางเวที
บรรดาเด็กหนุ่มทั้งหลายต่างผลัดกันขึ้นแสดง บ้างก็ควักฆวยออกมาปั้นเล่น บ้างก็โชว์การสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง บ้างก็แสดงการออกกำลังกายท่าต่างๆ โดยไม่ใส่เสื้อผ้า คนดูนั่งชมอยู่ล้อมรอบลานด้านล่างอย่างรู้สึกเบื่อ ไม่มีอะไรน่าสนใจ ต่างก็เฝ้ารอการแสดงชุดพิเศษของวันนี้
เมื่อการแสดงดำเนินไปเรื่อยๆ ในได้ที่ ในที่สุดหงฟู่ก็ออกมายืนหน้าเวทีอีกครั้ง สร้างความกระตือรือร้นให้คนดูได้มาก จนในที่สุดสิ่งที่ทุกคนเฝ้ารอก็มาถึง
“อย่างที่หลายท่านพอจะทราบมาแล้ว คืนนี้ข้ามีการแสดงชุดพิเศษ พิเศษกว่าทุกๆ ครั้งที่เคยมีมา รับรองว่าทุกท่านจะต้องชอบแน่นอน” หงฟู่ประกาศเสียงคึกคะนอง
ก่อนที่ลูกน้องจะเข็นเอาร่างของซู่เรินที่ถูกมัดข้อมือและข้อเท้าตรึงอยู่ในสภาพเหมือนเครื่องหมายกากบาท ติดกับแผ่นวงกลมที่หมุนได้ขนาดใหญ่ มากลางลานแสดงที่ล้อมรอบด้วยผู้ชมจำนวนมาก
คนดูหลายคนถึงกับลุกขึ้นยืน มองเด็กหนุ่มตรงหน้าอย่างหื่นกระหาย เพราะเด็กหนุ่มตรงหน้าทั้งหล่อเหลา เนื้อตัวก็สะอาดสะอ้าน เรียกได้ว่าหนุ่มคนนี้คนเดียวชนะเด็กทุกคนที่แสดงผ่านมาในคืนนี้
“ข้าขอแนะนำเด็กใหม่ของเราในวันนี้ ใช่แล้วว..เด็กหนุ่มตรงหน้าทุกท่านในตอนนี้คือ “ซู่เริน” บุตรชายคนเดียวของแม่ทัพซู่เหวินนั้นเองงงงง” หันซู่ประกาศเสียงดัง
คนดูลุกขึ้นปรบมือเสียงดังสนั่น พร้อมทั้งส่งเสียงร้องอย่างตื่นใจกึกก้องไปทั้งลานแสดง ขณะที่ซู่เรินทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากจ้องมองไปยังกลุ่มคนดูข้างบน เขาเห็นทั้งชายแก่หัวล้าน ข้าราชการตำแหน่งใหญ่โตที่เขาเคยพบปะพูดคุยด้วย เห็นกลุ่มจอหวอนวัยเจริญพันธุ์ เห็นเพื่อนที่เคยร่ำเรียนด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก เห็นกลุ่มทหารที่เคยรับใช้ในจวนแม่ทัพ
“ช่วยข้าด้วยยยย!!!!!!! จี้เหวย..เจ้าจำข้าได้ไหม ข้าเคยเรียนวิชากระบี่กับเจ้าที่สำนักบูรพาไง ข้าเป็นเพื่อนเจ้านะ ช่วยข้าที” ซู่เรินร้องอย่างน่าสมเพช บอกหนึ่งในคนดูเบื้องบน
“จำได้สิ ไอ้ซู่เริน! ตอนนั้นเอ็งจับคู่กับข้าประลองฝืมือกระบี่กัน ฝีมือเจ้าดีกว่าข้าทุกอย่าง ครั้งนั้นข้าต้องเสียหน้าพ่ายแพ้แก่เจ้า วันนี้นึกไม่ถึง จะได้มาเห็นเจ้าอีกทีในสภาพเด็กขายกามที่นี่” เพื่อนเก่าตอบ ใบหน้าเต็มไปด้วยความแค้นและความสะใจ
“ทหารตรงนั้น ข้าจำได้ เจ้าเคยอยู่จวนแม่ทัพ ช่วยข้าที ข่วยข้าด้วย” ซู่เรินย้ายความหวัง หันไปร้องบอกกลุ่มทหารแทน
“โถ้คุณชายเริน ก็เพราะท่านไล่พวกข้าออก เพียงเพราะพวกข้าดื่มสาเกกันในค่ายฝึก ครั้งนั้นข้ายังแค้นไม่หาย วันนี้พวกข้ารอล้างแค้นท่านไม่ไหวแล้ว” กลุ่มทหารพากันหัวเราะเยาะ
“ท่านอา...ขะ..ข้าจำท่านได้ ท่านเคยสอนหนังสือข้าเมื่อนานมาแล้ว ไม่ผิดแน่ ท่านใช่ไหม ข้าขอร้องช่วยข้าเถอะ ช่วยข้าหน่อยเถอะ” ซู่เรินถามชายแก่หนึ่งในกลุ่มคนดู
“ถือว่าเป็นเวรเป็นกรรมของท่านแล้วกันนะคุณชายซู่เริน ส่วนข้าเองเห็นท่านมาแต่เด็ก วันนี้ก็อยากเห็นเหมือนกันว่าโตแล้วจะเป็นอย่างไร” ชายแก่ร่างท้วมเอ่ยด้วยความกำหนัดที่อยู่เหนือความสงสาร
“ขอให้ทุกท่านอยู่ในความสงบ วันนี้ทุกท่านได้เล่นกับทาสสุดหล่อของเราได้ทุกส่วนแน่นอน ฮ่าๆๆๆๆ” หันซู่ตัดบท
เสียงคนดูร้องกึกก้องดังกังวานไปทั่วลานแสดงลับ ก่อนที่ลูกน้องสองคนจะตรงเข้ามาฉีกเสื้อผ้าสวยของซู่เรินออกจนขาดกระเด็น เผยทุกอย่างให้ทุกคนเห็นอย่างหมดจด เกิดเสียงโห่ร้องอย่างพอใจดังขึ้นไปอีกระดับ
“พวกแกมันบ้า พวกวิปริต ไอ้พวกโรคจิต ปล่อยข้าไปเดี๋ยวนี้!!!!!!!!!!!” ซู่เรินเสียงหลง
“เรามาเริ่มการแสดงแรกกันเถอะ” หันซู่ลั่นวาจา ทำเอาซู่เรินตัวสั่นอยู่บนแผงจักรต่อหน้าผู้ชม
ซู่เหวิน-พ่อตาที่กำลังตกเป็นเมียลูกเขย
ซู่เริน-นักแสดงหลักที่กำลังเล่นบทต่อหน้าคนรู้จัก
เอ้าเทียน-จิ้งจอกหนุ่มที่กำลังได้สมสู่กับงูใหญ่
ตอนที่ 21 ยับเยิน
บรรดาราชบุตรยืนฆวยแข็ง ลังเลกับสถานการณ์ตรงหน้า ใจหนึ่งก็ไม่อยากเชื่อว่านี่จะเป็นเรื่องจริง อีกใจหนึ่งก็นึกเอาเย้ดแม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นสักครั้งในชีวิต
“มัวระอะไรกันเล่าพวกท่าน ราชโอรสองค์ใดสามารถร่วมรักกับแม่ทัพจนทำให้แม่ทัพหลั่งน้ำกามออกมาได้ ถือว่าเป็นผู้ชนะ มีความเป็นเลิศทั้งทางด้านร่างกาย และพร้อมผลิตทายาทให้สกุลซู่” มเหสีกล่าว
ราชบุตรทั้งหลายเมื่อได้รับอนุญาต จึงค่อยๆ เดินมาล้อมรอบแม่ทัพซู่ ที่ถูกกดไว้แน่นิ่ง กลุ่มชายแปดคนจากต่างแคว้น แต่ละคนฆวยไม่ธรรมดา แตกต่างกันไป แต่มีจุดประสงค์เดียวกันคือต้องการเป็นลูกเขยแม่ทัพ ถึงแม้วิธีการจะแปลกสักหน่อย แต่เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย เจ้าชายทุกพระองค์ก็ยอมทำ
“ท่านหมายเลขสี่ ท่านบอกว่าลีลาท่าเด็ดเล้าใจ ไหนท่านลองแสดงให้พวกเราดูสักครั้งเถิด” เจ้าชายคนหนึ่งพูดขึ้นกลางวง
องค์ชายสี่มองหน้าคนอื่นๆ ก่อนจะพยักหน้ารับคำท้า เดินอ้อมไปอยู่หลังบั้นท้ายของแม่ทัพซู่ ก่อนจะคุกเข่าลง ก้มหน้าเข้าไปเลียรูสวาทอย่างช่ำช่อง ปลายลิ้นถูกแลบออกมาสัมผัสเนื้อนุ่มรอบๆ วงจีบของแม่ทัพใหญ่ ก่อนจะตวาดขึ้นลงอย่างรวดเร็ว จนองค์ชายคนอื่นจ้องตาค้าง
แม่ทัพซู่เหวินยามถูกเลียก้นจากลิ้นอุ่นๆ เช่นนี้ก็เสียวสะท้าน แม้จะพยายามขัดขืน แต่เหมือนธรรมขาติสร้างให้จุดเสียวไปกองรวมอยู่ตรงกันที่รูก้น ต่อให้เป็นชายแท้ทั้งแท่ง เจอลิ้นจี้จุดเสียวเช่นนี้ก็ย่อมฝืนธรรมชาติไม่ได้ ฟ้องออกมาชัดเจนผ่านลำฆวยที่ค่อยๆ ชูชันขึ้น
องค์ชายสี่หน้าตี๋หล่อกดหน้าลงเข้าไปในแก้มก้นสวยของว่าที่พ่อตา ตั้งใจเล้าโลมสุดชีวิตหวังเป็นลูกเขยที่น่าภูมิใจ ขณะที่องค์ชายคนอี่นๆ เริ่มหวั่นใจว่าจะแพ้ลิ้นรัวของราชโอรสหมายเลขสี่ จึงรีบแทรกตัวเข้าไปเล่นกับพ่อตาบ้าง
องค์ชายหกเจ้าของฆวยแท่งตรง กับองค์ชายเก้าเจ้าของใบหน้าหล่อเข้ม จับแม่ทัพซู่พลิกหงายตัวขึ้น ยืนประกอบซ้ายขวา ใช้นิ้วมือหยาบบี้หัวนมแม่ทัพจนแข็งขึ้นไปไต ขณะที่ขาสองขาถูกองค์ชายเจ็ดและแปดจับยกขึ้น ให้องค์ชายสี่ระรัวลิ้นนุ่มจี้จุดเสียว
ไม่นานนับหลังจากลูกเขยทั้งหลายเล้าโลมพ่อตาอย่างไม่ปราณี ทำให้ฆวยใหญ่แปดนิ้วของแม่ทัพซู่ขึ้นเด่ชี้หน้าราชโอรสทั้งแปด สร้างความตกตะลึงให้ลูกเขยทุกคน เพราะความใหญ่และยาวของฆวยแม่ทัพชณะนี้ชนะพวกเขาทุกคน
เมื่อเห็นเช่นนั้น องค์ชายที่เหลืออีกสามคนไม่รอช้า คนหนึ่งรีบเข้าไปชักฆวยให้แม่ทัพใหญ่ อีกสองคนเข้าไปลูบไล้ เล่นกับพวงไข่แฝดขนาดมหึมา ที่ห้อยยานลงตรงขอบโต๊ะพอดี
แม่ทัพซู่ได้แต่นอนเสียวซ่านไปทั่วร่างกาย ไร้เรี่ยวแรงขัดขืน เนื่องจากท่อนบนก็ถูกกระตุ้นหัวนมหนุ่มอย่างต่อเนื่อง ท่อนล่างก็ถูกรูดขึ้นลง ไข่ก็ถูกเล่น ตูดก็ถูกดูด แทบไม่เหลือส่วนรับความรู้สึกไหนที่ไม่ถูกกระตุ้นได้อีก จึงได้แต่นอนปล่อยกายให้เป็นไปตามธรรมชาติ
เมื่อไรแม่ทัพหนุ่มไม่ว่าอะไร ว่าที่บุตรชายทั้งหลายก็เริ่มยกระดับเป็นขึ้นถัดไป องค์ชายสี่ลุกขึ้นยืนปล่อยให้องค์ชายสองที่ยืนฆวยบานแดงเข้าประจำตำแหน่ง ระดับฆวยและรูก้นของแม่ทัพอยู่แนวเดียวกัน ก่อนที่องค์ชายสองจะจับท่อนฆวยหกนิ้วครึ่งจ่อเข้าตรงรูสวย แล้วสบัดขึ้นลงไปมา หัวฆวยแดงหลั่งน้ำหล่อลื่นมาปนกับน้ำลายขององค์ชายสี่ ละเลงไปทั่วรูก้นแม่ทัพหนุ่ม
องค์ชายสองค่อยๆ กดหัวฆวยบานขนาดใหญ่ตรงเข้ารูรัก แม่ทัพสะดุ้งตัวเฮือก เกร็งไปทั่วร่าง ราชบุตรองค์อื่นๆ เห็นดังนั้นจึงรีบเล้าโลมดูดหัวนมให้ท่านแม่ทัพเท่าที่ มือองค์ชายสองก็กำรูดฆวยให้แม่ทัพ จนชายหนุ่มเริ่มผ่อนคลายอีกครั้ง
จังหวะนั้นเอง องค์ชายสองรีบกดหัวฆวยจมเข้ารูสวาทของแม่ทัพเหวินทันที ขุ่นศึกรู้สึกตึงๆ และเจ็บเล็กน้อยในระดับที่พอทนได้ องค์ชายสองได้ใจ จึงถุยน้ำลายใส่แท่งฆวยจนชุ่มแล้วโยกสะโพกสอดลำฆวยแทงทะลุผ่านรูจีบแม่ทัพอย่างง่ายดาย
“โอ้ววววส์....แน่นดีเหนือเกิน อ่าสสสส์” องค์ชายสองร้องอย่างลืมตัว
“ดูฆวยเจ้าสิ เข้าไปในร่างแม่ทัพใหญ่แล้ว ไม่น่าเชื่อ” องค์ชายห้าทัก
“เป็นอย่างไรบ้างองค์ชายสอง ความรู้สึกเหมือนของสตรีหรือไม่?” หลี่เฉินถาม
“ข้าว่ามันโอบรัดและแน่นกว่าของผู้หญิงมาก บีบท่อนฆวยข้าไปทั้งลำเลยล่ะ” องค์ชายสองตอบ
ไม่ช้า องค์ชายสองก็ค่อยๆ โยกสะโพกเข้าออก เย้ดแม่ทัพหนุ่มอย่างชอบใจ เบื้องลึกของชายหนุ่มเหล่านี้ล้วนมีความต้องการอยู่เหนือผู้อื่นอยู่แล้ว วันนี้ได้มีโอกาสจับแม่ทัพซู่เหวินมาเป็นเมีย จึงนับว่าสะใจบรรดาองค์ชายทั้งแปดเป็นอย่างมาก
ซู่เหวินนอนปล่อยกายให้องค์ชายสองกระเด้าต่อไป ครั้งสุดท้ายที่เขาถูกสอดใส่เข้ามาในร่างคือตอนที่ถูกบังคับให้ร่วมรักกับซู่เรินที่ยังไม่รู้ว่าเป็นบุตรของใคร มาครั้งนี้กลับถูกเย้ดสดจากบรรดาลูกเขย คิดแล้วก็น่าอนาจใจ
ขณะที่องค์ชายสองเย้ดอยู่นั้น องค์ชายก็อื่นๆ ก็ทำหน้าที่ไม่ขาดตกบกพร่อง ต่างเข้าประชิดตัว สัมผัสจุดเสียวทั่วกาย ทั้งหัวนม รักแร้ ต้นคอ หน้าท้อง ขนหมอย เนินฆวย แท่งฆวย อัณฑะ ซฮกขา แก้มก้น รูก้น เจอแบบนี้เข้าไป เป็นใครก็ไร้เรี่ยวแรงด้วยกันทั้งนั้น
เกมกามดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็เหมือนจะในจุดสิ้นสุดขององค์ชายสอง เหมือนแท่งฆวยมิอาจอดกลั้นต่อความเสียวครั้งนี้ได้ เตรียมปล่อยน้ำลูกเชยใส่ตัวพ่อตา
“อ้าส์ อู้ววววส์ ...อู้วว จะ-ไม่-ไหว-แล้ว ข้าจะแตกแล้วววว ซีดดด” องค์ชายสองแอ่นสะโพก กดฆวยแช่ไว้ในรูก้นซู่เหวิน หลั่งทะลักน้ำเงี่ยนออกจากฆวยปริมาณมากมาย กระตุกอยู่ในร่องรักอยู่หลายที ก่อนจะทิ้งตัวหมดแรงลงบนร่างแม่ทัพใหญ๋
ซู่เหวินรู้สึกได้ถึงปริมาณน้ำอุ่นที่หลั่งเสียดแทงเข้ามาในท้อง รู้สึกถึงการพุ่งกระแทกเป็นระลอกๆ ไม่นานองค์ชายสองก็ถอนฆวยออกจากรู ทำให้เห็นน้ำกามขาวข้นของลูกกษัตรย์ต่างแคว้นไหลเยิ้มออกจากรู้ ไล่ลงมาถึงต้นขา
เมื่อทางโล่งแล้ว องค์ชายห้าจึงจับท่อนฆวยมาสอดใส่โดยอาศัยน้ำเงี่ยนขององค์ชายสอง ช่วยหล่อลื่นฆวยใหญ่ ก่อนกดแทงทีเดียวมิดด้าม
“ซิ๊ดดด..ข้างในนี้ดีเหลือเกิน ทั้งแน่นทั้งอุ่น” องค์ชายห้าหลุดปาก
“ขอให้ข้าได้แสดงฝีมือการ***ให้ท่านดูนะขอรับ แม่ทัพซู่” องค์ชายห้าพูดคำสุดท้าย ก่อนจะซอยฆวยไม่ยั้ง เข้าออกร่องเสียว เสียดสีบี้อัด จนแม่ทัพต้องหลับตากลั้นความเสียวไว้
องค์ชายเก้าเห็นแล้วทนไม่ได้ จึงเข้าไปร่วมในการสังวาสขุ่นศึกพร้อมกับองค์ชายห้า ร่างแม่ทัพถูกบรรดาราชโอรสจับยกขึ้น เพื่อให้องค์ชายเก้าสอดตัวไประหว่างแม่ทัพกับพื้นโต๊ะ
บัดนี้ซู่เหวินนอนทับตัวองค์ชายเก้า เจ้าของร่างที่มีขนหน้าอกอุยๆ ทิ่มแทงแผ่นหลังใหญ่ของขุ่นศึก ขณะที่เบื้องล่างกำลังเจอกับฆวยลำเขื่องงอนสวยที่พยายามหารูเงี่ยนของแม่ทัพอยู่
ราชบุตรคนอื่นไม่นิ่งดูดาย จับฆวยขององค์เก้าลำโตจ่อเข้ารูที่มีฆวยขององค์ชายห้าคาอยู่ เมื่อระบุเป้าหมายชัดเจนแล้ว องค์ชายเก้าก็เสียบกระบอกขนาดเจ็ดนิ้วครึ่งเข้าไปสำรวจร่องชายพร้อมกับฆวยขององค์ชายห้า
“ไอ้สัตว์ นี่มันร่องสวรรค์ชัดๆ เสียวฆวยฉิบหาย” องค์ชายเก้าเผยสัญชาตญาตการสมสู่ที่แท้จริงออกมาต่อหน้าคนอื่นๆ
“โอ้ยยย ***มันเลย แทงมันแรงๆ แทงเข้าไปลึกๆ อ่าส์” องค์ชายห้าเห็นองค์ชายเก้าปลดปล่อยเต็มที่ ตนจึงไม่เขินอายอีกต่อไป
ซู่เหวินต้องทนรับศึกนัก สองแท่งฆวยขนาดไม่ใช่เล็กๆ สอดประสานแทงเข้าแทงออกอย่างเป็นจังหวะรับกัน ไม่ปล่อยให้มีช่วงเวลาหายใจทั่วท้องเลยสักครั้ง บัดนี้เขารู้สึกเหมือนรู้ก้นจะฉีกออกไปเสี่ยงๆ รู้สึกได้ถึงความบานที่ต้องรับฆวยของโอรสกษัตรย์ทั้งสอง แม่ทัพได้แต่นอนขมิบร่องก้น ปล่อยน้ำหล่อลื่นใสไหลไม่หยุด ออกเป็นสายจากปลายฆวย
“ไอ้ฆวยใหญ่ แม่งตอดฆวยพวกกูเหลือเกิน เสียวจริงๆ เสียวโว๊ยยย” องค์ชายสองคราง
“กูจะไม่ไหวแล้ว กูจะหลั่งแล้ว จะแตกใส่มึงแล้ว ไอ้เวรตะไล” องค์ชายเก้าหลับตาร้องซิ้ด
“อ้าสสสสสสสส์ แตกแล้ว กูจะแตกแล้ววว ไอ้เหิ้ย” สองโอรสร้องพร้อมกัน ไม่เหลือคราบเจ้าชายเรียบร้อย
สองฆวยผลัดกันกระตุกพ่นได้เงี่ยนรวมกัน ไหลนองเต็มท้องแม่ทัพ จนรู้สึกร้อนในช่วงท้องส่วนล่าง ก่อนทั้งคู่จะดึงฆวยออก เห็นรูตูดบานปิดไม่มิดของแม่ทัพ พร้อมของเหลวขุ่นไหลอยู่ภายในจนล้นยืดยาวออกจากรูหยดแปะๆ หยดบนพื้นห้องเป็นกองใหญ่
องค์ชายสามและองค์ชายหกรีบเข้ามาแทนที่ทันที โดยองค์ชายสามนอนใต้แม่ทัพในตำแหน่งเดิมจององค์ขายเก้า ก่อนกดแท่งฆวยกลืนหายไปในรูบานน้ำชุ่ม
“อู้ววส์ ดีฉิบหายเลยว่ะ กูติดใจตูดมึงแล้วว ไอ้ควาย” องค์ชายสามปล่อยอารมณ์เต็มที่
ขณะที่องค์ชายหกผู้มีฆวยเจ็ดนิ้วครึ่ง เข้ามายืนตรงหว่างขาแม่ทัพ แล้วจับฆวยของตนกับแม่ทัพมาชนกัน ลำฆวยของพ่อตาแนบขนานกับไปลำฆวยของลูกเขย เทียบขนาดให้เห็นกันจะๆ ว่าฆวยซู่เหวินนั้นยาวกว่าของลูกเขยอยู่ค่อนข้อนิ้ว ความอวบของแม่ทัพชนะขาดลอย
“เรามาชักว่าวไปพร้อมๆ กันนะ คุณพ่อ” องค์ชายหกพูด พร้อมกับใช้สองมือกำแท่งฆวยใหญ่ทั้งสองรวบติดกัน รูดขึ้นรูดลงอย่างเสียวสะท้าน หนังฆวยสัมผัสกัน เสียดสีกันไปมา ขณะที่น้ำหล่อลื่นก็แข่งกันทะลักออกมา ชะโลมฆวยทั้งคู่จนลื่นไปหมด
ท่านี้ทำให้แม่ทัพเสียวถึงขั้วหัวใจ เพราะตูดก็ถูกฆวยยาวแทงกระหน่ำเข้าจุดรวมปราณ ท่อนฆวยก็ยังถูกชักว่าวให้ต่อเนื่อง ทำให้แม่ทัพถึงกันนอนส่ายตัวไปมาด้วยความเสียวเกินจะทน
อนิจจังแม่ทัพนั้นอึดกว่ามาก ฆวยหนุ่มราชบุตรทั้งสองมิอาจทนความเสียวต่อไปได้อีก หลั่งทะลักน้ำเชื้อเหนียวออกมาเต็มไปหมด โดยเฉพาะขององค์ชายหกที่กระตุกน้ำฆวยพุ่งลอยสูงขึ้นไปในอากาศหลายเมตร ก่อนจะทิ้งตัวตกกระทบกับลำตัวและใบหน้าของซู่เหวินกระจายไปทั่ว สร้างความเสีย่วสนุกให้ราชบุตรคนอื่นๆ เป็นอย่างมาก
“สุดยอดเลยพะยะค่ะ พ่นน้ำเงี่ยนใส่หน้า ใส่ตัว ใส่ตูดแม่ทัพ เต็มไปหมด” หลี่เฉินลุกขึ้นปรบมือ
ถึงคราวองค์ชายสี่ลีลาเด็ด ตรงเข้าจับแม่ทัพพลิกคว่ำ ชันแชนและเข่าอยู่ในท่าเหมือนหมากำลังคลาน สองมืดแหกรูตูดแม่ทัพจนเนื้อชมพูปริ้น ก่อนจะจับฆวยขาวกระแทกสุดโคน
“มึงเสียวไหม ไอ้สัตว์หมา กูเสียวฉิบหายเลย มึงกับกูมาติดเป่งพร้อมกันเถอะ” องค์ชายสี่พูดเสียงสั่น ขณะเริ่มซอยฆวยอย่างเร็ว
ทุกคนเชื่อแล้วว่าลีลาของเจ้าชายหน้าตี๋นี่ไม่ธรรมดา ด้วยฆวยขนาดใหญ่เป็นทุนเดิม บวกกับลีลาท่าเย้ดขั้นปรมาจารย์ ทำเอาซู่เหวินถึงกับหมดเรี่ยวแรง ฟุบตัวลงกับโต๊ะ แอ่นตูดให้องค์ชายสี่เสพสมเต็มที่
เมื่อเห็นแม่ทัพก้มหัวลง องค์ชายสี่ที่กำลังเงี่ยนจัด กระชากผมแม่ทัพซู่ขึ้นจนหน้าเชิด แล้วกระเด้าสะโพกอัดใส่รูแม่ทัพอย่างไม่กลัวฉีก บิดซ้ายทีชวาที แทงเสยขึ้นไป จนแม่ทัพตัวสั่นดิกๆ
“เสียวไหม เสียวไหม กูถามมึงว่าเสียวตูดไหม? ไอ้สุนัขขี้เรื้อน” องค์ชายสี่ฟาดมือไปที่ก้นแม่ทัพหลายครั้ง จนเนื้อเหลวไปหมด แก้มก้นมีแต่รอยนิ้วมือราชบุตร
“มึงมันหมาร่าน แหกตูดให้ใครก็ใครเย้ด มึงติดสัตว์แล้วใช่ไหม ไอ้เหิ้ย” องค์ชายสี่หลุดคำหยาบออกมามากมาย ราวกับว่าเก็บกดมานาน
“กูไม่แตกง่ายๆ หรอกโว๊ย กูจะเย้ดมึงไปจนกว่าตูดมึงจะบานเท่ากำมือ” ตี๋หล่อคำรามก่อนเปลี่ยนท่าเย้ดเป็นท่าอุ้มแม่ทัพ แล้วเสยฆวยแท่งจากด้านล่าง
“เมียจ๋า เมียของผัว เมียชอบท่านี้ของผัวไหม ผัวจะเย้ดเมียแล้วนะ” ราชบุตรหมายเลขสี่เริ่มเย้ดอีกครั้ง
ภาพตอนนี้สร้างความตะลึงให้ทุกคน เมื่อแม่ทัพถูกลูกเขยอุ้มไว้ ทิ้งก้นบรรจบกับฆวยบาน ที่สอดแทงเข้าออกให้เห็นได้อย่างชัดเจน จนน้ำเงี่ยนของราชบุตรคนก่อนๆ ไหลเยิ้มชะโลมทั่วฆวยของหนุ่มหล่อหน้าตี๋
“ติดใจฆวยผัวแล้วใช่ไหม? ชอบฆวยผัวคนนี้ใช่ไหม?” แต่ละคำหลั่งไหลออกจากปากราชบุตร
“แบบนี้ชอบไหมที่รักของผัว?” องค์ชายสี่พูดก่อนอัดฆวยแทงแรงสุด กระแทกก้นแม่ทัพเสียงดังตับๆๆๆๆ ก่อนจะชะลอลงแล้วเปลี่ยนมาบดบี้ฆวยอัดลึกเข้าไปในร่างแม่ทัพ
เจอท่านี้เข้าไปแม่ทัพถึงกับขนลุกซู่ เพราะหัวฆวยหนุ่มตี๋แทงจี้ตรงจุดเสียวในร่าง ฆวยแม่ทัพกระดกงึกๆ อยู่ระหว่างร่างตนเองกับบุตรเขย
“เงี่ยนละสิมึงหน่ะ กระดกฆวยเด้งใหญ่เชียวนะมึง ฮ่าๆๆ” ไม่ช้าองค์ชายสี่ก็เร่งซอยกระเด้าฆวยใส่ขุนศึกอีกครั้ง คราวนี้แม่ทัพตาลอย เสียวจนอยากจะแตกเสียตรงนี้ให้ได้
เหลือโอรสอีกสองพระองค์ เจ้าของรางวัลฆวยใหญ่กับฆวยยาว เมื่อเห็นองค์ชายสี่ผู้มากด้วยลีลาท่าเย้ดจนแม่ทัพเกือบตาย ก็ไม่รอให้พลาดโอกาส ตรงเข้าไปร่วมผสมโรงทันที
องค์ชายแปดตรงเข้าคว้าฆวยแปดนิ้วของตน ยัดใส่ตูดแม่ทัพทางด้านหลัง เข้าไปร่วมกับฆวยขององค์ชายสี่ ส่วนองค์ชายเจ็ดสอดตัวไปตรงกลางระหว่างองค์ชายสี่กับองค์ชายแปด เสียบฆวยเข้าไปอีกอัน จนรู้สึกได้ว่ารูตูดแม่ทัพฉีกออกกว้างเลยทีเดียว
“ตูดฉีกแล้ว ฮ่าๆๆๆ สะใจฆวยพวกกูจริงๆ” องค์ชายเจ็ดร้อง
“เสียวสุดๆ เลย ซิ้ดดด..เสียวฆวยฉิบหาย” องค์ชายสี่คราง
“มาเย้ดพร้อมกันเถอะ ข้าชอบความรู้สึกนี้จริงๆ” องค์แปดบอก
แม่ทัพต้องเจอกับสุดยอดราชบุตรสั้งสาม คนหนึ่งก็ใหญ่ที่สุด คนนี้ก็ยาวที่สุด อีกคนก็ลีลาเด็ดที่สุด เจอแบบนี้พร้อมกันในรูเดียว แม่ทัพถึงกับปล่อยสติหลุดลอย
“ดูสิ เลือดไหลมาชะโลมฆวยพวกเราแล้วว่ะ ฮ่าๆๆ” องค์ชายแปดสะใจ เมื่อตูดแม่ทัพฉีกขาด
ทั้งสามเริ่มบรรเลงเพลงรักกับขุ่นศึกอีกครั้ง คนหนึ่งเสียบ คนหนึ่งถอย คนหนึ่งควงฆวยไปมา สร้างความเสียวให้กันและกันอย่างที่สุด
ทุกคนกระหน่ำแทงฆวยไม่ยั้ง เหมือนแข่งกันซึมซาบความเสียวให้ได้มากที่สุดจากก้นใหญ่แม่ทัพ จนในที่สุดองค์ชายเจ็ดก็ทนไม่ไหว ถอดฆวยออก จับแม่ทัพนั่งคุกเข่ากับพื้น และพวยพ้นน้ำฆวยออกมาอย่างแรง กระฉูดพุ่งกระทบหน้าและอกของแม่ทัพอย่างแรง ขึ้นเป็นรอยจ้ำแดงเป็นวง หยาดเยิ้มไปทั่วใบหน้าและลำตัว
เมื่อเห็นเพื่อนหลั่งออกไปแล้ว องค์ชายสี่ที่เย้ดมานานก็ทนต่อไปไม่ไหว กระแทกฆวยเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะปล่อยฆวยออกมาฟาดใบหน้าซู่เหวินและทะลักสายน้ำขุ่นขาวเหมือนฆวยออกมาไม่หยุดยั้ง พุ่งรดราดลงบนหัวของแม่ทัพจนชุ่ม เหนียวเปื้อนเส้นผมไปทั่วศีรษะ
“อู้ววส์...น้ำฆวยผัวจะออกแล้วเมียจ๋า ผัวจะหลั่งลูกๆ ตัวน้อยแล้ว เมียรับน้ำเชื้อของผัวไปให้หมดนะ” องค์ชายแปดฆวยยาวก็ทนไม่ไหว คำรามร้องออกมาด้วยความเสียวแทงฆวยยาวเข้าตูดบาน และเป็นจังหวะเดียวกันกับที่แม่ทัพซู่ก็ถึงจุดสุดยอดเหมือนกัน
ทั้งสองปล่อยน้ำฆวยออกมาพร้อมกัน คนหนึ่งปล่อยออกใส่ร่างแม่ทัพซู่อย่างสะใจ หลั่งไหลลูกๆ ตัวน้อยเข้าไปแหวกว่ายเต็มโพรงอุ่น ขณะที่แม่ทัพซู่ก็กระฉูดน้ำเงี่ยนออกมาอย่างแรง พุ่งขึ้นเหนืออากาศ สูงเลยหัวของตน ก่อนจะสาดเทลงมาราวกับห่าฝนใหญ่ หยดกระจายเต็มไปทั่วพื้นห้อง
ในห้องตอนนี้มีแต่กลิ่นน้ำกามของราชโอรสทั้งหลายรวมกับของซู่เหวิน เป็นเมือกขุ่นขาวอยู่ทั้งบนพื้นและบนร่างของแม่ทัพ เหตุการณ์น่าอดสูครั้งนี้ทำให้รู้ว่ายามเงี่ยนจัดแม้แต่กษัตริย์ก็ยังไม่ต่างจากชาวบ้านทั่วไป บางทีอาจจะเก็บกดและปลดปล่อยรุนแรงกว่าเสียด้วยซ้ำ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น