ตอนที่ 17 ขับพิษ
หลี่เฉินนั่งดื่มน้ำชาบนบังลังก์ใหญ่ของแม่ทัพซู่เหวิน คู่กับอดีตพระมเหสีผิดเพศที่กำลังสรวลเสเฮฮาอย่างมีความสุข อยู่ในจวนแม่ทัพ
หลังจากที่ซู่เหวินนอนแช่น้ำกามของเหล่าทหารทั้งคืน อย่างน้อยก็มีข่าวดีอย่างหนึ่ง คือเขาไม่ได้สมสู่กับลูกชายตัวเอง ถึงแม้จะยังไม่รู้ว่าซู่เรินเป็นลูกของใคร แต่ไม่ใช่ลูกที่เกิดจากเขาเป็นแน่ ความคิดต้องสะดุดลงเมื่อทหารกลุ่มหนึ่งคุมตัวแม่ทัพเข้ามาอยู่ต่อหน้าบังลังก์ ที่มีหลี่เฉินและกระเทยสาวนั่งอยู่เบื้องหน้า
“อยู่ตรงหน้าข้า จงคุกเข่าซะ ข้ามีเรื่องจะบอก” หลี่เฉินสั่งแม่ทัพ ก่อนที่ลูกน้องจะเข้าไปสกัดขาแม่ทัพจนล้มลงไปคุกเข่ากับพื้น
“เจ้าทำอะไรกับซู่เริน ปล่อยซู่เรินออกจากเหอเป่ยซะ เขาไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้” แม่ทัพโวยวาย
“ห่วงตัวเองก่อนเถอะไอ้ซู่เหวิน เจ้าคงไม่ลืมเรื่องพิษแมงมุมแม่หม่ายดำ วันนี้คือวันที่เจ็ดพอดี วันสุดท้ายของการขับพิษ อย่างที่ข้าเคยบอก วันนี้เจ้าต้องได้รับกระสินธุบุษราคัมจากข้า มิเช่นนั้นที่ทำมาทั้งหมดก็จะสูญเปล่า” หลี่เฉินพูดกับซู่เหวิน
“อย่ามัวพูดพรามทำเพลง รีบส่งยาขับพิษนั้นมาให้ข้าซะ ก่อนที่ข้าจะฆ่าเจ้า” ซู่เหวินตอบ
“ฆ่าข้ารึ? ฮ่าๆๆ แม่ทัพที่ขนาดร้องขอให้ยาจกช่วยชักว่าวให้ จะมีปัญญาที่ไหนมาทำร้ายข้า ดูสภาพเจ้าตอนนี้เสียก่อนเถอะ” หลี่เฉินเถียง
ซู่เหวินย้อนมาดูตัวเองที่บัดนี้ร่างกายว่างเปล่าไร้เสื้อผ้า ผิวหนังเคลือบไปด้วยคราบน้ำกามแห้งเกอะกังตั้งแต่หัวจรดเท้า เครื่องเพศที่บอบช้ำราวกับผ่านศึกมาอย่างโชกโชน พร้อมด้วยโซ่ตรวนที่ล่ามข้อมือและข้อเท้าของเขาอยู่ มองแล้วรู้สึกอเนจอนาถตัวเองเหลือเกิน
“เจ้าจะเอายังไงก็ว่ามา” ซู่เหวินยอมจำนน
“ข้าจะมอบกระสินธุบุษราคัมให้เจ้าก็ได้ แต่เจ้าต้องคลานเยี่ยงทาส เข้ามาตีนเท้าให้ข้าเสียก่อน” หลี่เฉินตอบ
“นี่เจ้าบ้าไปแล้วหรือ!?!?” ซู่เหวินโกรธควันออกหู
“มึงอยากตายตรงนี้ก็ได้ กูจะจัดงานศพแบบเปิดฆวยให้ทหารทุกคนเข้ามารดน้ำ แล้วจะตัดฆวยดองเก็บไว้ในโหลให้ลูกหลานดูว่าแม่ทัพชื่อเสียงเกรียงไกรมีฆวยใหญ่แค่ไหน ฮ่าๆๆ” หลี่เฉินตวาด
ซู่เหวินอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไม่ตายกับตายแทบไม่แตกต่างกัน จึงยอมก้มหน้าน้ำตาไหล คลานสองขาเข้าไปหาหลี่เฉิน
“ฮ่าๆๆๆ ไอ้หมาเหวินมาเร็ว มาเลียตีนให้กูเร็วๆ” หลี่เฉินทำทางเรียกสุนัข
ซู่เหวินหยุดอยู่ใต้บังลังก์ของตนเอง ใบหน้าอยู่แทบเท้าหลี่เฉิน สองมือสั่นอยู่ภายใต้โซ่ตรวน ยืนไปถอดรองเท้าให้หลี่เฉิน ก่อนจะถูกหลี่เฉินถีบหน้าอกอย่างแรง ล้มนอนหงายแผ่ฆวยให้คนในจวนดู
“มึงเป็นทาสทำอะไรต้องขออนุญาติกูก่อน เข้าใจไหม” หลี่เฉินดุ
“ขะ...เข้าใจแล้ว” ซู่เหวินตอบ และถูกหลี่เฉินยืนค่อมร่าง ใช้มือก้มไปตบหน้าอย่างแรง
“พูดกับกูต้องมีหางเสียงด้วย จำใส่กระโหลกมึงไว้ ไม่งั้นกูจะให้มึงใช้ปากบำเรอความใคร่ให้ทหารในจวนไม่เว้นเด็กหรือเฒ่า” หลี่เฉินสั่งสอน
“เข้าใจแล้วขอรับ” ซู่เหวินน้ำตาไหลนองแก้ม ผยุงตัวลุกขึ้นนั่งคุกเข่าหน้าหลี่เฉิน
“ทาสขออนุญาตถอดรองเท้าให้นายขอรับ” หลี่เฉินพูดเสียงสั่นเทา
“ดีมาก ถอดรองเท้ากู แล้วเอาถุงเท้าไปครอบไว้ที่ฆวยมึงซะ” หลี่เฉินอนุญาต
ซู่เหวินมือไม้สั่น ค่อยๆ ถอดรองเท้าพร้อมถุงเท้าให้หลี่เฉิน ก่อนจะค่อยๆ เอาฆวยของตนเองสอดเข้าไปใสถุงเท้าสุดเหม็นของหลี่เฉิน
“ใช้ได้ ให้ฆวยมึงมีแต่กลิ่นเท้าของกู อยากรู้เหมือนกันว่าคนหล่อฆวยใหญ่อย่างมึง หากเปิดฆวยมามีกลิ่นเหม็นโชยแบบนี้ จะยังมีใครเสน่หาในตัวมึงอีกบ้าง” หลี่เฉินเยาะเย้น ขณะที่ซู่เหวินกำลังกัดฟัน
“เลียตีนกูให้สะอาดเดี๋ยวนี้ ไอ้แม่ทัพฆวยเหม็น” หลี่เฉินรุก
ซู่เหวินหลับตา กลั้นหายใจ อ้าปากอมนิ้วเท้าของหลี่เฉินเข้าไป ขณะที่หลี่เฉินรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก จึงยัดเท้าเข้าปากแม่ทัพสุดแรงจนปากแทบฉีก
“ฮ่าๆๆๆ สะใจจริงๆ โว้ย เป็นไงบ้างว่ะ ตีนกูอร่อยไหม?” หลี่เฉินถาม
“อะ..อะ..อร่อย ขะ..ขอรับ” ซู่เหวินตะกุกตะกักตอบอย่างจำใจ
“เลียง่ามนิ้วด้วยซิว่ะ แลบลิ้นออกมาตวาดตามซอกนิ้วซอกเล็บ ดูดให้สะอาด ตีนกูต้องสะอาดกว่าปากของมึง” หลี่เฉินชอบใจ
หลี่เฉินยกเท้าให้ตรงกับปากของซู่เหวิน ให้แม่ทัพชายชาตรีบรรจงไล่เลียง่ามนิ้วเท้าสกปรกของตน ฝืนใจกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก
“ว๊าย! ตายแล้ว อดีตผัวฆวยคุณภาพของข้า สภาพตอนนี้อย่างกับสัตว์ น่ารังเกียจจริงๆ” มเหสีร่วมผสมโลง
ซู่เหวินต้องทนรับฟังคำเยาะเย้ย ถากถางต่างๆ นานา ขณะใช้ปากทำความสะอาดเท้าให้เจ้านาย ขณะที่ฆวยเริ่มตั้งแข็งขึ้นเป็นสัญญาณว่าใกล้ยามวอกเข้าทุกที
“พูดถึงฆวยไม่ทันไร ตั้งโต่ชี้หน้าทักทายซะแล้ว ว่าไงเจ้าฆวยหัวบาน สบายดีหรือเปล่า?” มเหสีลงไปนั่งจ้องฆวยซู่เหวิน ขณะที่เจ้าตัวยังคงถูกบังคับให้ดูดเท้าหลี่เฉินอยู่
ฆวยแม่ทัพผงกหัวงึกๆ เริ่มมีหยดน้ำใสไหลออกมาทะลุถุงเท้าที่ครอบฆวยไว้ มเหสีนึกสนุก ใช้นิ้วจิ้มหัวฆวยก่อนชักนิ้วออก น้ำหล่อลื่นใสยืดเป็นสายตานิ้วเรียวของกระเทยสาว
“ดูดตีนเสร็จแล้ว สงสัยต้องล้างปากเสียหน่อย เอา! มาขอน้ำล้างปากจากข้าสิ พูดให้ดีๆ นะ” มเหสีสวมบทเป็นนายบ้าง
“นายกระเทยของข้า…ได้โปรดให้น้ำล้างปากแก่ทาสอย่างข้าด้วยเถิดขอรับ” ซู่เหวินกระซิก หัวใจแตกสลาย
“มาสิ คลานอย่างหมามาเลียที่นิ้วข้า มีแต่น้ำฆวยมึงเอง ซึมผ่านถุงเท้าสกปรกออกมา กินซะ แล้วบอกด้วยว่ารสชาติเป็นอย่างไร” กระเทยสนุกสนาน
ซู่เหวินคลานสี่ขาเหมือนสุนัขตัวหนึ่ง มาหยุดตรงหน้าอดีตมเหสีหน้าสวยใจโหด ก่อนจะอ้าปากกว้าง อ้อนวอนให้เจ้านายประทานน้ำหล่อลื่นใส่ปากของตน
มเหสียัดนิ้วเข้าปาก ปล่อยให้ซู่เหวินดูดเลียน้ำจากฆวยตนเองอย่างต่อเนื่อง เสียงดังจ๊วบๆ สร้างเสียงเฮฮาให้คนในห้องอย่างมาก
“ว่าไง น้ำฆวยมึงอร่อยไหม” มเหสีถาม
“อร่อยขอรับ รสชาติดียิ่งกว่าชาใดๆ ที่ข้าเคยดื่มกิน” ซู่เหวินพูดเสียงสั้นให้บุคคลในห้องพอใจ
“สงสัยจะกระหายน้ำฆวยเอามาก แค่นี้คงไม่พอ” กระเทยสาวเอ่ย
ก่อนจะสั่งให้ลูกน้องจับแม่ทัพนอนหงายโชว์ฆวย แล้วจับสะโพกแม่ทัพยกสูงขึ้น จนเท้ายกมาอยู่เหนือหัว ตัวงอเกือบเป็นวงกลม ก้นยกสูงเห็นรูตูดบานแดง ฆวยย้ายมาอยู่ตรงหน้าแม่ทัพ
“กินน้ำเงี่ยน กินน้ำเงี่ยน กินน้ำเงี่ยน ฮ่าๆๆๆ” คนในห้องส่งเสียงเชียร์
แม่ทัพอยู่ในท่าทางที่ทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากปล่อยน้ำจากความเสียว ไหลยืดตามแรงโน้มถ่วง ซึมออกจากถุงเท้าที่ชุ่มไปหมด ตกลงเข้าสู่ปากที่อ้ากว้างรออยู่เบื้องล่าง
“เป็นภาพที่สวยจริงๆ แม่ทัพนอนกินน้ำเงี่ยนตัวเองในจวน ดูสิว่ะ แม่งน้ำฆวยไหลไม่หยุดเลย” หลี่เฉินชอบใจ
“ไอ้เหวิน มึงอยู่ท่านี้แล้วชักว่าวให้พวกกูดูหน่อย กูอย่างเห็นหมากินน้ำเชื้อตัวเองว่ะ” หลี่เฉินสั่ง
ซู่เหวินหมดอาลัยตายอยาก ยกสองมือขึ้นมาประกบฆวยที่แข็งอยู่ภายในถุงเท้า แล้วรูดเข้าออกซ้ำๆ ยิ่งทำให้น้ำหล่อลื่นไหลลงปาก เลอะปาก เลอะจมูกไปหมด
“ถอกฆวยแรงๆ สิว่ะ ทีตอนเอากับกู เย้ดซะเครื่องในเกือบพัง” มเหสีสั่ง
แม่ทัพยอมทำตามคำสั่งอย่างจำยอม ถอกฆวยขึ้นสุดลงสุด จนเส้นสองสลึงตึง ดึงรั้งหัวฆวยบาน เสียดสีกับถุงเท้า สร้างความเสียวและเจ็บได้ไปพร้อมๆ กัน
“ไปเอาว่านปลาไหลเผือกมาให้มันกินหน่อยสิ จะได้เงี่ยนมากขึ้นอีก” หลี่เฉินสั่ง
ลูกน้องรีบไปจัดการ นำน้ำชาผสมว่านเพิ่มความกำหนัดเหยือกใหญ่ เทกรอกปากแม่ทัพ กลืนแทบไม่ทัน ชั่วครู่ร่างกายแม่ทัพเริ่มร้อนผ่าวๆ เนื้อตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า ฆวยเป่งขยายขนาดมากขึ้นไปอีก จนมาจ่ออยู่ตรงหน้าแม่ทัพที่ตอนนี้ตาลอยไร้สติ พยายามเด่งสะโพกแทงฆวยเข้าปากตัวเอง
“โอ๊ยย...สนุกจริงๆ ได้ดูหมาพยายามจะเลียฆวยตัวเอง ดูสิ โยกไม่หยุดเลย” หลี่เฉินปรบมือชอบใจ
“เมื่อก่อนมีแต่คนอยากอมฆวยมัน ดูตอนนี้มันยังอยากอมฆวยตัวเองเลยว่ะ” คนในจวนเชียร์
“ดีแล้ว ฝึกเอาไว้ ต่อไปคงหาคนมาอมฆวยมึงไม่ได้ ใครจะอยากอมฆวยให้คนบ้า ปากมีแต่กลิ่นเท้า ตัวก็เหม็นกลิ่นน้ำเงี่ยนแบบมึง ชาตินี้คงได้อมฆวยตัวเองไปจนตาย ฮ่าๆๆๆ” หลี่เฉินหัวเราะ
ด้วยฤทธิ์ของว่านปล่าไหลเผือกปริมาณ ทำให้แม่ทัพตกอยู่ในสถาวะเงี่ยนจนไม่ได้สติ แม้จะรับรู้ถึงถ้อยคำของศัตรูอย่างชัดเจน แต่ก็ไม่อาจควบคุมร่างกายให้หยุดกระเด้าสะโพก พยายามเอาฆวยเข้าปากตนเอง
“น่าสมเพชจริงๆ ใครสักคนช่วยสงเคราะห์หมาขี้เงี่ยนตัวนี้หน่อยเถอะ” มเหสีทนไม่ไหว
“ไปเอาชุดเกราะทองอันแสนภาคคูมิใจของมันมาที” หลี่เฉินสั่งลูกน้อง
ไม่นานชุดเกราะออกรบของแม่ทัพที่ส่งแสงทองงดงาม ก็ถูกนำเข้ามาในจวน ก่อนที่ลูกน้องหลี่ฉินจะนำมาวางบนสะโพกของแม่ทัพ ทำให้น้ำหนักชุดเกราะถ่วงลำตัวแม่ทัพลงมา จนฆวยจ่อเข้าปาก
“โถ่ ไอ้หมาร่าน ชนาดยอมให้เอาชุดเกราะนักรบมาใช้เป็นเครื่องมือให้ได้อมฆวยตัวเอง มึงนี่มันเงี่ยนฉิบหายเลยว่ะ” หลี่เฉินกล่าว
แม่ทัพยกหัวสูงขึ้นจนสามารถเอาปากไปครอบหัวฆวยตัวเองผ่านถุงเท้าได้ ก่อนจะดูดเลียฆวยราวกับกระหายน้ำมานาน ยิ่งฆวยถูกดูดมาเท่าไร ก็ยิ่งปล่อยน้ำซึมทะลุถุงเท้า ก่อนไหลลงปากตัวเอง
“โอ้โห้ หมาตัวนี้มันคงชอลกินน้ำจากฆวยสดๆ กรองผ่านถุงเท้าเหม็นๆ ว่ะ ยกหัวขึ้นมาเลียให้เลย”
“ชุดนักรบอันมีเกียรติถูกเอามาถ่วงน้ำหนักเพื่อให้ได้กินน้ำฆวย มึงใช้ชุดนักรบได้คุ้มค่ามากว่ะ”
“เห้ยย...ดูมันกระเด้าฆวยใส่ปากตัวเองสิว่ะ มันคิดว่าปากตัวเองเป็นช่องคลอดรึไง?”
ซู่เหวินกดสะโพกขึ้นลง เย้ดปากตัวเอง ดูดถุงเท้าของหลี่เฉิน ดื่มกินน้ำเงี่ยนตัวเอง ต่อหน้าหลี่เฉิน อดีตเมียตัวเองและทหารลูกน้องหลายคน ภายในจวนใหญ่ที่ตนเคยเป็นเจ้าของ
“เอาละ ไอ้หมาเหวิน เดี๋ยวกูจะให้ยาถอนพิษกับมึงแล้วนะ” หลี่เฉินพูด พร้อมทั้งลุกจากแท่นบังลังก์ ตรงไปหาแม่ทัพที่กำลังใช้ปากครอบฆวยตัวเองอยู่
เมื่อหลี่เฉินไปยืนตรงหน้า ก็ที่ในสิ่งที่หลายคนตะลึง เขาปลดกางเก่งส่วนบนออก พร้อมทั้งควักท่อนฆวยขนาดเหมาะมือ ออกมาเล็งใส่หน้าและปากแม่ทัพใหญ่
“กระสินธุบุษราคัมก็คือน้ำเยี่ยวของกูเอง มึงกินให้หมดเลยนะ ของดีแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ” หลี่เฉินเฉลย ทำให้ซู่เหวินตกใจอยู่ไม่น้อย
“กินเยี่ยว กินเยี่ยว กินเยี่ยว” ลูกสมุนส่งเสียมโห่ร้อง
ไม่นาน สายน้ำสีเหลืองใสก็พุ่งออกจากปลายหัวฆวยของหลี่เฉิน ไหลตรงเข้าสู่ช่องปากและใบหน้าของทาสหนุ่ม แม่ทัพรับรู้ถึงของเหลวอุ่นที่กระทบกับผิวหน้าของตน ก็จะได้สติรีบอ้าปากรองรับน้ำเยี่ยวของหลี่เฉินให้มากที่สุด เพื่อใช้ขับพิษครั้งสุดท้ายในร่างกายตนเอง
“สะใจจริงๆ โว้ย อ้าปากดื่มน้ำเยี่ยวเองเลยว่ะ ดีมาก กินเข้าไป แบบนั้นแหละ” หลี่เฉินกล่าวชมพร้อมทั้งส่ายสะโพกซ้ายทีขวาที ทำให้กระแสน้ำเยี่ยวพุ่งเปื้อนไปทั้งหัว ทั้งหน้า และกล้ามอกของแม่ทัพ ขณะที่ปากแม่ทัพก็พยายามย้ายตามกระแสน้ำเยี่ยวไปทุกทิศทาง จนกระทั่งหยาดเยี่ยวหยดสุดท้ายหมดลง หลี่เฉินสบัดฆวยไล่น้ำที่คั่งอยู่ในฆวยออกมาใส่ร่างแม่ทัพอย่างสะใจ
ซู่เหวินเปียกชุ่มไปด้วยเยี่ยวของหลี่เฉิน ของเหลวอุ่นอัดอยู่เต็มท้องแม่ทัพ ขณะที่บังเกิดความเงี่ยนขั้นสูงสุด เหมือนพิษในร่างกายมาร่วมอยู่ที่ปากฆวย พร้อมจะไหลออกสู่ภายนอก
“พวกเราจงดูให้ดี ไอ้ทาสหมามันจะน้ำแตกให้พวกเราดูแล้ว” หลี่เฉินประกาศ
ซู่เหวินแสบร้อนตรงฆวยมาก แต่ปากก็ยังคงดูดฆวยตัวเองไม่หยุด ครางหงิกๆ ไม่ต่างจากหมาข้างถนน ผงกศีรษะขึ้นลงสอดรับกับจังหวะที่สะโพกกระเด้าช่องปากตัวเอง
“ดูท่านสิ เล่นเป็นทั้งผัวทั้งเมียในคนเดียวกัน เมียใหม่ไปไงบ้างเพค่ะ? สู้หม่อมฉันได้ไหม?” มเหสีทักทายปากแม่ทัพที่บัดนี้ทำหน้าที่เป็นพระชายาคนใหม่ไปเรียบร้อยแล้ว
“โอ้ยยย..อ้าส์...ซี้ดดด มันส์ฆวยจริงๆ ตอดฆวยฉิบหาย เงี่ยนไม่ไหวแล้ว” แม่ทัพเสียวสุดๆ
บัดนี้แม่ทัพใช้ปากโอบรัดท่อนฆวยอย่างแน่นหน้า ดูดจนกระพุงแก้มยุบ ขณะเดียวกันฆวยใหญ่ก็สอดใส่แทงเข้าปากตอบถี่ยิบ ริมฝีปากครูดไปกับหนังฆวย จนวาระสุดท้ายที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง
แม่ทัพอัดฆวยซอยปากไม่ปราณี บดบี้ไข่เข้ากับหน้าตัวเอง ก่อนคำรามอย่างราชสีย์ กระตุกฆวยพ่นน้ำเงี่ยนจากถุงเท้าที่ครอบฆวยอยู่ยังมิอาจต้านทานปริมาณและความแรงได้ น้ำเงี่ยนไหลทะลุถุงเท้าตรงลงเข้าช่องปากแม่ทัพเป็นระลอก แม่ทัพกลืนน้ำฆวยตัวเองก่อนจะรีบอ้าปากรับน้ำฆวยชุดใหม่ที่ทยอยปล่อยออกมาไม่หยุด กระตุกฆวยอยู่ในปากอุ่นๆ ให้ความรู้สึกเหมือนหลั่งน้ำกามใส่ช่องคลอดสาวสวย
“ไอ้เหวินมันกินลูกๆ ตัวเองหมดเลยว่ะ ไอ้หมาน่าสมเพช” หลี่เฉินหัวเราะสะใจ
“น่าสงสารเหล่าลูกน้อยของมันจริงๆ เย้ดกับข้าก็ไม่เจอมดลูก มาคราวนี้ยังไหลเข้าปากตัวเอง ลูกๆ มันคงไม่มีโอกาสได้เกิดมาดูโลกแล้วแน่ๆ” มเหสีเสริม
“ปากแม่ทัพมีแต่น้ำเยี่ยวกับน้ำเงี่ยนเต็มไปหมด พวกเราเอาถุงเท้าอุดปากปิดไว้เถอะ” ลูกสมุนเสนอ
เมื่อเห็นเจ้านายไม่ขัด จึงดึงถุงเท้าที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำเงี่ยนขุนศึกยัดใส่ปากซู่เหวิน ก่อนจะบังคับให้แม่ทัพลุกขึ้นนั่งคุกเข่ากลางวงน้ำเยี่ยว
แม่ทัพได้แต่นั่งก้มหน้า ปล่อยให้น้ำเยี่ยวของหลี่เฉินที่ไหลเปียกเส้นผม ย้อยลงพื้นเบื้องหน้าเขาเป็นหยดๆ ด้านล่างเห็นฆวยตัวเองที่เริ่มเ***่ยวกลับสู่สภาวะพัก ในปากมีแต่รสชาติและกลิ่นของน้ำเงี่ยนตัวเองปนกับถุงเท้า น้ำตาก็หลั่งไหล กัดฟัน กำมือแน่น
“นำตัวมันไปขังไว้ในคุกใต้ดิน อย่าให้ใครรู้ว่ามันอยู่ที่ไหน” หลี่เฉินออกปากสั่งลูกน้อง
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
เหนือหลังคาของจวนแม่ทัพ
เซียนจิ้งจอกเงินเจ้าปัญญายืนกอดอกอย่างสง่างาม มองดูเหตุการณ์ทั้งหมดเบื้องหลังอย่างใจเย็น ก่อนปล่อยมือหนึ่งขึ้นมาลูบคาง ครุ่นคิดเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้า รวมทั้งเรื่องประกาศรับสมัครหาลูกเขยเพื่อมาอภิเษกสมรสกับบุตรีของแม่ทัพซู่ที่ถูกส่งไปยังแคว้นต่างๆ หลายสิบแคว้น สร้างความสนใจให้ราชโอรสต่างแคว้นที่หวังเป็นครอบครัวเดียวกับตระกลู่ซู่อันมีเกียรติ
“เรื่องนี้ไม่ชอบมาพากล ดูมีเงื่อนงำน่าสงสัย คนรักสนุกและขี้สงสัยอย่างเรา คงไม่พลาด ต้องแปลงกายไปเข้าร่วมคัดเลือกบุตรเขยครั้งนี้เสียหน่อย ฮ่าๆๆ” เอ้าเทียนคิดในใจ
“แต่ก่อนอื่นต้องแวะไปเมืองเหอเป่ยซะหน่อย ดูแล้วผู้ชายที่ชื่อซู่เรินคงกำลังตกที่นั่งลำบากอยู่” จิ้งจอกหนุ่มรูปงามพูดกับตัวเอง ก่อนใช้วิชาตัวเบา กระโดดสูงขึ้นไปในอากาศ และสลายร่างหายไปอย่างรวดเร็ว
ตอนที่ 18 แต่งเติม
ซู่เริ่นยังคงเป็นเครื่องมือสนองความสนุกให้คนงานอย่างต่อเนื่อง บัดนี้ไม่เหลือภาพชายหนุ่มที่เคยหล่อเหล่า ผิวขาวสะอาด เนื้อตัวหอมกรุ่น แต่กลายเป็นชายหนุ่มสกปรก เนื้อตัวเปรอะเปื้อนไปด้วยเศษขี้เถ้า อีกทั้งยังส่งกลิ่นตัวเหม็นโชยออกมา
“นี่หรอว่ะ คุณหนูเริน องค์ชายสุดที่รักของขุนศึกผู้เกรียงไกร ดูไม่ต่างจากทาสเลยว่ะ” คนงามยืนพูดตรงหน้าซู่เริน
“ถุ้ย ไอ้พวกเศษสวะ ถึงข้าเป็นทาสจริงก็ยังดีกว่าพวกเจ้าในทุกๆ เรื่อง ทั้งรูปร่างหน้าตา กล้ามเนื้อ และเครื่องเพศ ฮ่าๆๆๆ” ซู่เรินถุยน้ำลายใส่หน้าชายตรงหน้า พร้อมเยาะเย้ยชายคนนั้น
“ไอ้สัตว์ มึงภูมิใจในรูปร่างหน้าตามึงมากใช่ไหม? มึงคิดว่ามึงฆวยใหญ่มากนักใช่ไหม?” คนงานโมโห
“ก็ใหญ่และสวยกว่าของพวกเจ้านั่นแหละ ให้ข้าเดา ฆวยพวกเจ้าคงจะดำและสกปรก ขนาดคงเท่าๆ ปลายนิ้วก้อย” ซู่เรินยังคงยั่วโมโหมันต่อไป
“ปากเก่งนักนะมึง กูยอมรับก็ได้ว่าฆวยมึงมันดีจริงๆ เกิดมากูก็ยังไม่เคยเห็นของใครทั้งใหญ่ทั้งยาว อวบตรง สีสวย หัวบาน ได้เท่ากับฆวยของมึง…” คนงานสารภาพ
“พวกเจ้ามันคนชั้นต่ำ อย่าเอาฆวยมาเทียบกับคนชั้นสูงอย่างข้า จำใส่หัวไว้ซะ” ซู่เรินพูดไม่เกรงกลัว
“...โทษฐานที่มึงหยามความเป็นชายของพวกกู มึงดูฆวยสวยที่มึงภาคภูมิใจนัก ภาคภูมิใจหนาเอาไว้ให้ดีๆ มึงจะไม่มีวันได้เห็นภาพฆวยที่มึงรักแบบนี้อีกต่อไป” คนงานพูด ซู่เรินถึงกับหน้าถอดสี
“พวกเจ้าจะทำอะไรกับฆวยของข้า อย่าหวังแม้แต่จะคิด ห้ามยุ่งกับฆวยของข้าเด็ดขาด” ซู่เรินตวาด ในใจเริ่มนึกกลัว
“พวกกูก็จะทำให้มึงหมดความภูมิใจในฆวยที่มึงรักและทะนุถนอมมาตั้งแต่เด็กไง” คนงานตอบ
ไม่นานคนงานหลายคนก็ทะยอยกันเข้ามา พร้อมทั้งวางเม็ดแร่สีสดใสที่ได้จากเหมืองที่พวกเขาทำงานอยู่ พร้อมกับเหล็กแหลมแท่งยาว
“พวกเจ้าหยุดนะ หยุดเดี๋ยวนี้ อย่าทำอะไรข้าเลย ข้าขอร้อง” ซู่เรินเริ่มใจไม่ได้
“อ้าว เมื่อกี้มึงยังปากดีอยู่เลยนี่หว่า มาร้องขอตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วว่ะ ได้เวลาลงโทษคนปากเก่งแล้ว” คนงานตอบ พร้อมป่าวประกาศข้อความเสียงดังฟังชัด
“พวกเราทั้งหลาย โปรดฟัง เบื้องหน้าทุกท่านคือคุณหนูเริน โอรสรูปหล่อของแม่ทัพซู่เหวิน ขนาดฆวยยามอ่อนวัดได้ยาว 4 นิ้วครึ่ง รอบวง 4 นิ้ว ยามแข็งวัดได้ยาว 7 นิ้วครึ่ง รอบวง 6 นิ้ว ลูกอัณฑะทรงกลมรี ใหญ่เท่าสองไข่นกกระทา เคยมีเส้นหมอยยาวดกดำ แผ่กระจายทั่วโคนฆวย”
“พวกเจ้าเป็นบ้าอะไรกานนนน!!! ปล่อยข้า ปล่อยข้าไปปป!!” ซู่เรินใจไม่ดี ร้องลั่น ดิ้นไปมาอยู่บนไม้กางเขน
“สีฆวยขาวเจือชมพู หัวฆวยแดงสด วัดส่วนปลายหัวฆวยถึงเงี่ยงฆวยได้เท่ากับสองข้อนิ้วหัวแม่มือ และมีเงี่ยงลึกเท่าครึ่งเล็บของนิ้วเดียวกัน ปากฆวยประกบปิดสนิท ลำฆวยตั้งตรง โค้งขึ้นเล็กน้อย เคยผ่านการสมสู่ทั้งกับผู้หญิงและ...ผู้ชายที่เป็นพ่อของตัวเอง” คนงานกล่าวต่อ
“บัดนี้ได้เวลาอันสมควรแล้ว ขอให้ทุกท่านโปรดอยู่ในความสงบ ยืนจ้องมองฆวยสวย อันเป็นอวัยวะที่องค์ชายเริ่นภาคภูมิใจและใช้บำเรอความสุขมายาวนาน ก่อนที่จะไม่เหลือภาพนี้ให้จดจำอีกต่อไป” คนงานประกาศลั่น
“ไอ้พวกชั่ว ไอ้เลวระยำ พวกแกจะทำอะไร หือๆๆ อย่านะ ข้าขอร้อง ข้ายอมแล้ว” ซู่เรินร้องขอราวกับคนเสียสติ
“คุณชายเรินไม่ต้องตกใจไปหรอกขอรับ พวกเราจะทำให้ท่านอย่างดีที่สุด” คนงานตอบกลับ พร้อมทั้งเอาผ้ายัดปากคุณชายรูปหล่อ
“อย่าๆๆ ขอ้า-กอัว-แลอ้ว หือๆๆๆ” ซู่เรินร้องไม่เป็นภาษาผ่านผ้าอุดปาก
คนงานเดินไปหยิบเม็ดอัญมลีสีสวย รูปร่างหลากหลายมากมาย ทั้งทรงกลม ทรงรี ทรงสีเหลี่ยม พร้อมเหล็กแหลม ตรงไปที่ฆวยของคุณชายเริ่นสุดหล่อ พระเอกในวงล้อมของคนงานตอนนี้
ซู่เรินมองคนงานเดินเข้ามาช้าๆ ดิ้นๆ ทุรนทุราย ส่ายหน้าไปมา บิดตัวหนีซ้ายขวา แต่ไม่เป็นผล ในที่สุดคนงานก็มาหยุดอยู่ตรงหน้า
“คุณหนูขอรับ ท่านคงพร้อมจะบอกลาท่อนฆวยลำสวยอันนี้แล้วใช่ไหม?” คนงานพูด
ไม่ทันได คนงานถือเหล็กแหลม แทงเบาๆ ผ่านหนังกลางลำฆวยของคุณชายเริน ที่บัดนี้ก้มมองการกระทำของคนงานต่อฆวยตนเองอยู่ ความเจ็บแทรกซึมไปทั่วจนร่างกายสั่นไม่หยุด
แท่งเหล็กถูกแทงทะลุจากฝั่งหนึ่งถึงฝั่งหนึ่ง ก่อนที่คนงานจะหยิบอัญมลีล้ำค่าจากเหลืองแร่ ยัดใส่รูที่มีเหล็กแหลมเปิดนำร่องอยู่ ฝั่งอัญมลีเม็ดใหญ่ไว้ใต้ผิวหนังของฆวยคุณชาย
“อ้ากกกกกกกกกกกก!!!! ขอ้า-เจอ็บบบบบบ” ซู่เรินร้องลั่นดิ้นน้ำตาไหลพราก
“คุณชายอดทนหน่อยนะขอรับ ฮ่าๆๆๆ รับรองว่าได้ฆวยใหม่สมใจอยากแน่นอนขอรับ” คนงานตอบ
ไม่ช้า คนงานเริ่มแทงเหล็กแหลมเพิ่มอีกหนึ่งตำแหน่ง และทำเหมือนเดิม คือหยิบแร่งดงามกดฝั่งลงไปบนฆวยของคุณชาย ที่บัดนี้ความรู้สึกเจ็บปวดเริ่มเปลี่ยนเป็นอาการชาไร้ความรู้สึก
คนงานเห็นคุณหนูแน่นิ่งไปก็ได้ใจ เสียบเหล็กอีกตำแหน่งใต้เส้นสองสลึง ก่อนยัดอัญมลีทรงสี่เหลี่ยมเข้าไป ยกเส้นสองสลึงให้นูนขึ้นจนตึง
“โอ้ยยย...กลายเป็นคุณชายฆวยแปลก ฆวยฝั่งแร่ราคาแพง นี่มันฆวยอัญมลีเลยนะเนี่ย” คนงานร่วมเฮกันสนุกสนาน
คุณชายเรินยังคงถูกคนงานจับฝั่งแร่สีสดเข้าไปเรื่อยๆ กว่ายี่สิบเม็ด จนลำฆวยดูเป็นตะปุ่มตะป่ำดูน่าเกลียดน่ากลัว
“พวกเราดูฆวยคุณหนูตอนนี้สิว่ะ เหมือนฆวยคนเป็นโรคท้าวแสนปมเลยว่ะ ผิวขรุขระยิ่งกว่าผิวผลน้อยหน้าซะอีก” คนงานคนหนึ่งตะโกนบอก
“จับไปตรงไหน หาความเรียบไม่เจอเลย ฆวยอันนี้มันจะยังใช้การได้อยู่ไหมว่ะ? ฮ่าๆๆๆ” คนงานอีกคนเสริม
ขณะที่ซู่เรินอยู่ในภาวะกึ่งมีสติ ภาพเบื้องหน้าพล่ามัว แต่รับรู้ได้ทุกการกระทำที่คนงานทำกับฆวยของเขา ถึงแม้จะชาไปหมดแล้ว แต่จิตใจกลับบอบช้ำยิ่งกว่าสภาพฆวยในตอนนี้เสียอีก
“ท่านควรจะดีใจนะขอรับคุณชาย หากท่านตกต่ำไร้อัฐเงินทอง อย่างน้องท่านก็ยังมีอัญมลีราคาสูงอยู่ในฆวยของท่าน มีทั้งแบบเม็ดกลม แบบเป็นแท่ง ลำพังฆวยแท่งเดียวก็แลกเป็นทองแล้วหลายชั่วหลายตำลึงแล้ว” คนงานชอบใจ
“ไอ้หนังหุ้มปลายนี้คงไม่ได้ใช้ประโยชน์อีกแล้ว ข้าว่าตัดออกเสียเถอะขอรับ ฮ่าๆๆๆ” คนงานเริ่มเกมต่อไป
“อย่าทิ้งเสียๆ ก็เสียของหมดสิว่ะ ข้าว่าตัดออกเป็นแฉกๆ สักหกแฉกกำลังดี” คนงานอีกคนเสนอ
เป็นไปตามข้อเสนอ หนังหุ้มปลายถูกดึงยืดออกมาจนบาง มองเห็นเส้นเลือดฝอย ก่อนจะถูกกริชสั้นปาดออกเป็นแฉกๆ เลือดไหลซึม หนังหุ้มปลายที่มีความยืดหยุ่นเมื่อถูกปาดแยกออกจากกัน ก็ม้วนตัวเป็นขดแยกกันไปตามแต่ละแฉก
ทำให้ตอนนี้ส่วนหัวฆวยคุณชายเริน เปิดอ้าออกเต็มที่ และล้อมรอบแล้วขดของหนังหุ้มปลายเป็นก้อนๆ อยู่ล้อมรับเงี่ยงฆวย ทำให้ฆวยดูแปลกประหลาดมากขึ้นไปอีก
“ข้าว่าสีฆวยมันยังสวยกว่าพวกเราอยู่ดีว่ะ ของมันทั้งขาวทั้งชมพูด ไม่ดำเหมือนฆวยพวกเราเลย” คนงานอีกคนเสนอบ้าง
ไม่ช้าน้ำหมึกพร้อมปลายเข็มเจาะถูกเตรียมออกมา น้ำหมึกมีสีสันหลากหลาย ให้สีสดชัดเจน ปลายเข็มถูกจรดลงบนน้ำหมึกสีแดง ก่อนจะถูกนำไปเจาะลงบนปลายฆวยของคุณชายเริน วาดเป็นดวงตาอยู่ล้อมรอบปากรูฆวย คนงานเริ่มบรรจงแต่งเติมลวดลายสีสันลงเป็นฆวยทั้งทั้งลำของซู่เริน ออกมาเป็นศิลปะที่สวยงามไม่ใช่น้อย
สุดท้ายซู่เรินได้ภาพสักลายนกอินทรี ที่กางปีกกว้างสวยงามแผ่อยู่เหนือโคนฆวยทั้งสองข้าง ลำตัวของนกสีดำถูกวางยาวไปตามลำฆวยขนาดใหญ่ ส่วนหัวของพญานกใหญ่อยู่ตรงกับส่วนของหัวฆวยคุณหนู ดวงตาแดงของนกตรงกับปากรูฆวย มองแล้วสวยงามยิ่งหนัก
ฆวยถูกสักเป็นรูปพญานกอินทรีตัวใหญ่ กางปีกน่าเกรงขาม ลำตัวสีดำเมื่อม ประดับด้วยอัญมลีที่ปล่อยแสงสีระยับระยับผ่านหนังฆวยบาง ลำคอนกมีปมหนังหุ้มปลายปกคลุมโดยรอบ ปลายสุดเป็นดวงตาจ้องมองขึ้นเหนือฟ้าตามรูปร่างฆวยที่แอ่นขึ้น
“โห้ ฆวยแม่งโคตรสวยเลยว่ะ แต่ข้าว่าคงไม่มีสาวไหนที่เห็นแล้วไม่ตกใจแน่ๆ” คนงานอุทาน
ซู่เรินเห็นภาพลางๆ นี่ฆวยเขากลายเป็นอะไรไปแล้ว ทำไมไม่เหลือภาพฆวยที่อยู่คู่กับเขามาตั้งแต่แรกเกิด ฆวยที่เขาใข้เสพสุขหายไปแล้วแล้ว
คนงานยังไม่หยุดการแต่งเติมฆวยให้คุณชาย เพราะไม่นานนักหลังจากสักฆวยเสร็จ คนงานก็เดินไปหยิบแท่นเหล็กทู่อีกอัน แทงเสียบเข้าไปกลางรูฆวยที่ปิดสนิทของชายหนุ่มรูปงาม
“ขยายปากฆวยซะหน่อย เวลาน้ำแตกจะได้ไหลออกมาได้เยอะๆ ฮ่าๆๆ” คนงานกล่าวอย่างสะใจ
“พญานกอินทรีจะได้ลืมตาก็ตอนนี้แหละ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ” คนงานอีกคนพูดขณะเปล่งเสียงหัวเราะร่า
“ใส่ปลอกคอให้นกอินทรีซะหน่อยดีไหมว่ะพวกเรา” คนงานเริ่มเสนอความคิด
“ข้าเห็นด้วย สมัยเมืองพวกเรายังสงบ ตอนนั้นการเกษตรยังเจริญ ข้าเลี้ยงแพะไว้ฟูงหนึ่ง และได้เก็บขนตาของพวกมันไว้นานแล้ว เราเอามาติดที่คอหยักของฆวยไอ้คุณชายนี่เถอะ” คนงานออกตัว
ไม่ช้าขนตาแพะเส้นเรียวยาวขนาดไม่ใหญ่แต่เต็มไปด้วยความสากและหยาบ ก็ถูกบรรจงติดเข้าไปรอบคอของนกอินทรี ซึ่งตรงกับเงี่ยงฆวยของคุณชายพอดิบพอดี
“หลังจากนี้ หากมันไปสมสู่กับใคร ขนตาแพะนี้ก็จะครูดไปกับเนื้อร่องสาวหรือร่องตูด จะสร้างความเสียวให้คู่รักของมันได้มาก แต่มันคงจะไม่มีโอกาสได้เย้ดกับใครแล้วล่ะ สภาพฆวยน่าเกลียดซะขนาดนี้” คนงานคนหนึ่งพูด
สุดท้ายคนงานนำเหล็กลนไฟแดงฉาน มีตัวอักษรจีนสองตัว กดประทับไปบนผิวหนังเหนือดกหมอยที่เคยมีอยู่เดิม ตำแหน่งอยู่ใต้สะดือเล็กน้อย อ่านได้ใจความชัดเจนว่า “หลงฆวย”
“ข้าชอบชื่อนี้ว่ะ คุณชายหลงฆวย ฮ่าๆๆๆ” คนงานทุกคนปรบมือ หัวเราะสนุกสนาน
ก่อนจะแยกย้ายกันไปทำงานตามปกติ ทิ้งให้ซู่เรินหมดสติค้างอยู่บนไม้กางเขน มีเพียงผ้าปิดส่วนล่างไว้ป้องกันการติดเชื้อระหว่างรอให้แผลหายสนิท
..........................................................................................................................................................
ยามค่ำคืนมาเยือน
เง็กจือแอบลอบออกมาจากกระโจม เดินมาหยุดอยู่เบื้องหน้าคนรักที่หมดสติ น้ำตาเง็กจือไหลพราก หัวใจแตกสลายไม่เหลือชิ้นดี ระหว่างที่ยืนอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีเสียงคนเดินออกมาจากพุ่มไม้ด้านหลัง
“นั่นคือใครกัน? ออกมาเดี๋ยวนี้นะ” เง็กจือกล่าวเสียงสั้น มือปาดน้ำตา
ชายหนุ่มคนหนึ่งออกมาจากพุ่มไม้ ปรากฏให้เง็กจือเห็นได้ชัดเจน เบื้องหน้าเขาคือชายหนุ่มที่งามเหลือเกิน งามยิ่งกว่ามนุษย์คนไหน งามจนลืมหายใจไปชั่วขณะ ร่างกายมีแสงออร่าเปล่งประกาย เคลื่อนไหวราวกับเหาะเหินเดินอากาศ ชายผมขาวประกายเงินทิ้งยาวปลิ้วตามแรงลม ที่สำคัญหน้าเขาเหมือนซู่เรินราวกับฝาแฝดท้องเดียวกัน
“ไม่ต้องตกใจหรอกนะ พ่อหนุ่ม เรามาดีนะ จะบอกให้” เทพจิ้งจอกเงินสุดหล่อยังมีอารมณ์ขี้เล่น
“ท่านเป็นใคร? มาจากไหน? ต้องการอะไร?” เง็กจือรัวคำถาม
“เราชื่อเอ้าเทียน นี่ไม่ใช่เวลามาตอบคำถาม รีบพาร่างชายคนนั้นลงมาแล้วหนีไปให้ไกลที่สุด” เอ้าเทียนกล่าวอย่างใจเย็น
“หนี? หนีไปไหน? ข้าทำไม่ไหวหรอกท่าน” เง็กจือปฏิเสธ
“แล้วเจ้าทำอะไรได้บ้างหรือ? ยืนร้องไห้ดูชายตรงหน้าไปแบบนี้หรอ? ตลกเสียจริง” เอ้าเทียนสวน
เง็กจือใคร่ครวญอยู่ไม่นาน ซู่เรินเป็นคนที่เขาแอบชอบ แต่เขากลับไม่สามารถทำอะไรให้ซู่เรินได้เลย ทั้งที่ซู่เรินก็เคยช่วยเขาเมื่อนานมาแล้ว คิดแล้วก็ละอายใจ เกิดแรงฮึดสู้ขึ้นมาทันที
“ท่านช่วยข้านำร่างคุณชายเรินลงจากไม้กางเขนหน่อยเถิด” เง็กจือขอความช่วยเหลือ
ไม่ทันสิ้นเสียง เอ้าเทียนกระโดดฉวัดเฉวียนก่อนปลายเท้าจะลงมาสัมผัสพื้นอย่างแผ่วเบา เชือกที่มัดตัวคุณชายอยู่ก็หลุดล่วงลงมาเป็นเส้นฝอย ก่อนที่เง็กจือจะเข้ามาพยุงร่างคุณชายไว้
“ท่านไปกับข้าได้หรือไม่” เง็กจือถาม
“เจ้ารีบหนีไปให้ไกลก่อนเถอะ เราต้องอยู่รับมือกับสถานการณ์ตรงนี้ก่อน ไม่อยากแหวกหญ้าให้งูตื่น หากคนงานพวกนื้ตื่นมาไม่เจอคนที่ชื่อซู่เริน จะเป็นเรื่องใหญ่ เข้าใจนะ” เอ้าเทียนตอบ
ไม่นานเง็กจือก็ประคองร่างคุณชายเดินโซเซเข้าป่าจนพ้นสายตาของเอ้าเทียน เทพจิ้งจอกเงินหันกับมาที่ไม้กางเขน ก่อนจะแปลงร่างให้ดูกลมกลืนกับมนุษย์ทั่วไป หน้าตารูปร่างคล้ายเป็นซู่เรินทุกประการ จากนั้นจึงกระโดดขึ้นไปพันธนาการตัวเองบนไม้กางเขน
“ผู้ชายที่ชื่อซู่เรินนี่หน้าตาเหมือนเราเลยแฮะ แปลกดีจัง” เอ้าเทียนคิดกับตัวเอง
..........................................................................................................................................................
ยามเช้ามาถึง คนงานรีบตื่นแต่เช้าหวังจะมาดูผลงานที่ทำไว้กับคุณชายเรินเมื่อคืน บ้างก็คิดว่าคุณชายอาจจะตายไปแล้วก็ได้ บ้างก็คือว่าคุณชายคงยังหมดสติอยู่ บ้างก็คิดว่าคุณชายคงกลายเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ
แต่ไม่มีใครคิดถูกสักคน เพราะเบื้องหน้าคนงาน คือคุณชายเรินที่ดูปกติ เปลือยกายท่อนบน ท่อนล่างมีผ้าปิดคลุมไว้เหมือนเมื่อวาน
“มาทำงานกันได้แล้วหรอ ตื่นสายจริงๆ ถ้าเราเป็นหัวหน้าพวกเจ้า จะไล่ออกให้หมดเลย” เอ้าเทียนในร่างซู่เรินกล่าวทักทายคนงานอย่างอารมณ์ดี
สร้างความงุนงงให้เหล่าคนงานเป็นอย่างมาก ว่าทำไมซู่เรินจึงฟื้นตัวเร็วมากเช่นนี้ แถมใบหน้ายังดูสดใส ร่างกายก็สะอาดสะอ้าน
“ปากดีอีกแล้วนะไอ้คุณชาย” คนงานคนเดิมกับเมื่องานกล่าว
“เราก็ปากดีแบบนี้แหละ ส่วนเจ้าก็ปากเสียไม่เปลี่ยนเลย” เอ้าเทียนยอกย้อน
“อยากจะโดนอีกใช่ไหมคุณชาย ได้...เดี๋ยวข้าจัดให้ เอาให้ตายไปเลยวันนี้” คนงานเริ่มมีน้ำโห
“โถ้! เหล่ามนุษย์ผู้โง่เขลา เราก็ถูกแขวนอยู่ที่นี้มาตั้งนานแล้ว หากจะฆ่าให้ตายจริงๆ คงไม่อยู่พูดได้มาถึงทุกวันนี้หรอก จริงไหมละท่าน?” เอ้าเทียนฮัมเพลงไปพลางๆ
“ปากดีอย่างนี้ ขอเอาฆวยยัดปากหน่อยเถอ่ะวะ” คนงานหมดความหมดทน ถอดกางเกงถอกฆวย เตรียมเดินเข้ามาทางคุณชายเริน
“เดินมาอีกก้าวเดียว เราจะกัดลิ้นตัวเองตายตรงนี้แหละ ถึงตอนนั้นข้าว่าเจ้านายใหญ่ของพวกเจ้าคงไม่ปลื้มเป็นแน่ เจ้าคงต้องเตรียมเหตุผลดีๆ ไว้อธิบายกับนายใหญ่อ่ะนะ” เอ้าเทียนต่อรอง
“หน๊อยยย...ไอ้ซู่เรินนนน ไอ้ทาสชั้นต่ำ” คนงานเริ่มลังเล เหมือนสถานการณ์เริ่มผลิกกลับ กลายเป็นซู่เรินถือไพ่เหนือกว่าคนงาน
“อืม....ด่าได้เจ็บปวดเข้าไปถึงขั้วหัวใจเลย! โอ๊ยปวดจิตปวดใจเหลือเกิน! ทนรับแทบไม่ได้แหน่ะ” เอ้าเทียนล้อเลียนคนงาน
คนงานต่างก็ยืนลังเลอยู่ ไม่กล้าเข้าไปทำร้ายซู่เรินเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะกัดลิ้นตายตรงนั้น จึงได้แต่ยืนคุมสถานการณ์ รอเวลาผ่านไปนาน ระหว่างที่ซู่เรินก็ฮัมเพลงไปเรื่อยอย่างสบายใจ
………………………………………………………………………………………………………………………………………….ยามบ่ายมาถึง คนงานยังคงทำอะไรไม่ได้สักอย่าง สถานการณ์แน่นิ่งสนิท เหมือนทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของซู่เรินไปซะหมด จนกระทั่งคนงานเริ่มทนไม่ไหว
“ข้าทนไม่ไหวแล้ว วันนี้ต้องเอาฆวยยัดปากไอ้สัตว์กวนตีนซู่เรินนี่ให้ได้” คนงานลุกขึ้นฮือ
“อ้าวทนไม่ไหวซะแล้วหรอ? ก็ได้ๆ มาสิ เอาอวัยวะของเจ้ามาใส่ปากเราซะ แต่เราจะบอกให้นะ พวกโง่เขลา พอเจ้ายัดสิ่งนั้นเข้ามาให้ปากเราแล้ว เราจะกัดให้ขาดออกจากกัน ตอนนั้นพวกเจ้าจะทรมาน เลือดไหลไม่หยุด ไม่มีแม้แต่แรงที่จะทำร้ายเราได้อีก” เอ้าเทียนพูดขณะเหลือบตาขึ้นมามองพักหนึ่ง
“หรือต่อให้มีแรงเหลืออยู่ เราก็จะเอาส่วนที่ขาดอยู่ในปากเราเป็นเงื่อนไขให้พวกเจ้ายอมทำตาม มิเช่นนั้นเราก็จะบีบอวัยวะของเจ้าให้แหลกละเอียด จนนำกลับไปต่อไม่ได้ เราพร้อมเดิมพันชีวิตของเรากับอวัยวะเพศของเจ้า เจ้าล่ะ กล้ามาเดิมพันกับเราไหม?” เอ้าเทียนรัวไปชุด จนคนงานยืนนิ่งตาค้าง
“ซู่เหวินกับซู่เรินก็แปลก ถูกคนชั่วใช้เงื่อนไขหนึ่งมาต่อรองเพื่อให้ทำสิ่งที่พวกคนชั่วต้องการ สุดท้ายก็ดันไปยอมทำตามเงื่อนไข โดยไม่ได้สำเหนียงเลยว่ายิ่งทำก็ยิ่งถลำลึก แทนที่จะเป็นปมเดียวให้แก้ง่ายๆ สุดท้ายกลายเป็นปมซับซ้อนแก้ยาก” เอ้าเทียนพึมพำกับตัวเอง
ขณะที่คนงานก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากยืนคุมเชิง ไม่มีใครกล้าเข้าไปในอาณาเขตของซู่เรินสักคน คนงานหลายคนก็แปลกใจในท่าทางและการพูดของซู่เริน ที่ไม่ว่าคนงานจะทำอย่างไรก็ต้องผลิกกลับมายอมผู้ชายตรงหน้า ทั้งที่ผ่านมาพวกเขาอยู่เหนือทาสตรงหน้ามาโดยตลอด
ประสบการณ์ ต่าง ๆ รวบรวมมาที่นี้ที่เดียว (เกย์)
วันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2558
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
เด็กหอ 8 CP
มื่อกานต์เก็บของจากห้องตัวเองเสร็จ จึงมาหาอาจารย์ภัทรที่ห้อง ส่วนภัทรอาบน้ำทำความสะอาดเนื้อตัวเรียบร้อย ควยของภัทรแข็งรอกานต์อยู่นานแล้ว &...
-
หลังเสียงเพลงชาติจบลง ร่างสูงขาวของหนุ่มนักเรียนชั้น ม.6 ในฐานะประธานนักเรียนของโรงเรียนแห่งนี้เดินขึ้นกล่าวกับนักเรียนทุกระดับ ชั้นถึงเรื่...
-
มาถึงตอนนี้ ไอ้หมาเสือ รู้สึกตัวเองแล้วว่า มันกำลังหลงใหลดำดิ่งลงใน “โลกของทาสหมา” อย่างถอนตัวไม่ขึ้นเสียแล้ว ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับมันในช...
-
ทัพ หนุ่มนักเรียนวิศวะ ผู้มีความหล่อระดับเดือนคณะ เป็นนักกีฬามหาลัย ชอบออกกำลังกาย ชอบว่ายน้ำ ชอบเล่นฟุตบอล เป็นที่หมายตาของสาวๆหลายๆคน ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น