ตอนที่ 7 พลิกผัน
“แม่ทัพซู่กระทำการอุจาดผิดผีเยี่ยงนี้ ข้าจำต้องทูลรายงานต่อองค์จักรพรรดิ” องครักษ์ชิงฟู่กล่าวอย่างโมโหสุดขีด หลังจากสิ้นสุดเหตุการณ์ที่บุตรชายหลั่งน้ำฆวยต่อหน้าบรรพชน
ในขณะที่เจ้าของความผิดถูกมัดมือไพร่หลัง แอ่นท่อนฆวยท้าสายตาบรรดาขุนนางน้อยใหญ่ แม้จะหลั่งน้ำเงี่ยนออกแล้ว แต่สภาพฆวยยังคงดูแช็งตรงพร้อมรบอยู่ทุกเมื่อ น้ำตาขุนศึกเริ่มหลั่งรินอาบแก้มแดงทั้งสองข้าง เขารู้สึกราวกับความเจ็บปวดจากพิษแมงมุมถูกแทนที่ด้วยความอายที่ต้องอยู่ในสภาพเช่นนี้ต่อหน้าผู้คนในงาน
“ท่านชิงฟู่โปรดเมตตา ฝ่าบาทของข้าทำความดีความชอบไว้มาก ความผิดครั้งนี้เป็นครั้งแรกของท่านแม่ทัพ โปรดลืมไปเสียเถิด อย่าให้ต้องถึงหูองค์ฮ่องเต้เลย หากเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีก ฝ่าบาทของข้าก็พร้อมน้อมรับความผิดอย่างลูกผู้ชาย” หลี่เฉินออกปากขอร้องแทนนายของตน
ชิงฟู่ตรองอยู่ไม่นานก็เห็นด้วยกับหลี่เฉิน ความผิดครั้งนี้ไม่ควรถึงหูองค์ฮ่องเต้ให้ขุ่นเคืองพระทัย บัดนี้ท่านแม่ทัพซู่อยู่ในสภาพไม่สู้ดีนัก จำเป็นต้องมีคนดูแลอย่างใกล้ชิด อย่างน้อยหากแม่ทัพจะกระทำการไร้ยางอายเช่นนี้อีก ก็ยังมีผู้ใกล้ชิดคอยยับยั้งการกระทำนั้นได้ทันท่วงที
“ข้าเห็นด้วยกับเจ้าหลี่เฉิน และในฐานะที่เจ้าเป็นผู้ใกล้ชิดกับแม่ทัพซู่มากที่สุด ข้าวานรบกวนเจ้าดูแลทัพแม่ทัพอย่างใกล้ชิด ด้วยว่าบัดนี้ท่านแม่ทัพดูไม่สบายคล้ายป่วยไข้ ได้เจ้ารับใช้อยู่ใกล้ชิดคงจะดี” ชิงฟู่กล่าวกับหลี่เฉิน
หารู้ไม่ว่าความหวังดีขององครักษ์ชิงฟู่ที่มีต่อขุนศึกอย่างซู่เหวินจะกลับกลายเป็นความโชคร้าย ไม่ต่างจากโยนลูกไก่เข้าปากจระเข้
“เหตุการณ์วันนี้ขอให้ทุกคนปิดปากให้สนิท อย่าได้แพร่งพรายให้ใครรู้โดยเด็ดขาด งานเลี้ยงสิ้นสุดลงแล้ว ย้ายแยกกันกลับบ้านเรือนของพวกเจ้าบัดเดี๋ยวนี้” ชิงฟู่ตะโกนแจ้งผู้คนในงานที่เริ่มทยอยกลับกันด้วยความรังเกียจคุณชายซู่
....................................................................................................................................................................ณ ห้องบรรทม จวนแม่ทัพ
เมื่อได้รับคำสั่งจากองครักษ์ใหญัตัวแทนฮ่องเต้ บัดนี้หลี่เฉินได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ดูแลคุณชายซู่อย่างใกล้ชิด หากแต่สิ่งที่เขาทำกลับตรงข้ามกับหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
คุณชายซู่ถูกมัดติดกับเสากลางห้อง มีเพียงหยาดเหงื่อที่ห่อหุ้มร่างกายเอาไว้เท่านั้น ขณะที่หลึ่เฉินขึ้นไปนอนบนแท่นบรรทมของคุณชายซู่อย่างสุขอุรา
“เตียงของแกช่างนุ่มเหลือเกินไอ้เหวิน หากได้สตรีสักนางมาร่วมรักบนเตียงนี้คงสำราญไม่น้อย” หลี่เฉินพูดอย่างเบิกบานใจ
วันนี้เป็นวันที่หลี่เฉินเฝ้ารอมานาน วันที่ทุกอย่างของซู่เหวินเป็นของมัน วันที่ทวงคืนทุกสิ่งที่ซู่เหวินพลากจากมันไป วันที่มันสั่งให้ลูกน้องไปเชิญพระมเหสีเอกของซู่เหวินมาที่ห้องบรรทม
ไม่นานนักหลังจากออกคำสั่ง หน้าห้องบรรทมก็ปรากฏกายของสตรีรูปงามหยดย้อย ผิวพรรณเปล่งรัศมีสว่างทั่วเรือนร่าง ดวงตาคมใสดังลูกสมันน้อย คิ้วโก่งดังคันศร จมูกโด่งเชิดได้รูป ปากเล็กสีชมพูระเรือ เรือนผมเกล้าอย่างปราณีตวิจิตรบรรจง ดูแล้วเหมือนนางฟ้านางสวรรค์ เหมาะสมกันกับท่านแม่ทัพอย่างยิ่ง
“นี่เจ้าจะทำอะไรพระมเหสีของข้า ไอ้ชาติชั่...” ยังไม่ทันที่แม่ทัพจะพูดจบ ผ้าขี้ริ้วสกปรกผืนหนึ่งถูกยัดปากแม่ทัพซู่ทันที พระมเหสีองค์นี้เป็นถึงบุตรีของเจ้ากรมการคลังในพระราชสำนัก ที่องค์ฮ่องเต้ทรงเห็นชอบจัดพิธีสมรศให้อย่างสมเกียรติ แม้เขาจะมีนางสนมอยู่มาก แต่มีเพียงพระมเหสีคนเดียวที่เขารักจนหมดหัวใจ
“ข้าบอกแล้วไงว่าทุกอย่างของเจ้าต้องเป็นของข้า” หลี่เฉินตอบ พร้อมกับสั่งทหารให้ปิดตาพระมเหสีด้วยผ้าแพร ก่อนเปิดประตูต้อนรับอย่างหื่นกระหาย
สตรีรูปงามก้าวเข้ามาในห้องอย่างระมัดระวังด้วยถูกปิดตาไว้ ก้าวเดินผ่านสวามีที่ถูกมัดมือปิดปากไว้อย่างน่าอนาจ
“ถวายบังคมเพคะฝ่าบาท” พระมเหสีกล่าวพร้อมย่อตัวทำความเคารพ ตัวนางเองรู้ดีว่าการที่ฝ่าบาทเรียกพบยามวิกาลเช่นนี้หมายถึงอะไร แม้จะยังสงสัยเรื่องที่ต้องปิดตาแต่ก็กล้าเอ่ยปากถาม
“ไม่ต้องมีพิธีรีตองนักหรอก มเหสีของข้า” หลี่เฉินกล่าวกับภรรยาของแม่ทัพซู่เหวิน
ซู่เหวินรู้ทันทีว่าบัดนี้หลี่เฉินได้สวมรอยเป็นเขา และกำลังจะทำสิ่งที่เขารับไม่ได้ แต่เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งตาแดงกัดฟันแน่น ขณะเดียวกันหลี่เฉินก็ลุกขึ้นไปปลดเปลื้องเสื้อผ้าของมเหสีออกจนหมด เผยความงดงามที่แท้จริง ความงามที่แอบซ่อนอยู่ใต้เสื้อผ้าของนาง
เต้านมที่อวบใหญ่จับได้เต็มไม้เต็มมือ พร้อมด้วยหัวนมสีชมพูดูเข้ากันได้ดีกับผิวกายสีขาว เบื้องล่างมีขนอุยขึ้นบางๆ เหนือปากหอยมุขที่ยังคงปิดสนิทแน่น หลี่เฉินพินิจอย่างเร้าใจ ท่อนเอ็นภายในเริ่มชูชันตอบโต้
หลี่เฉินในวัยเจริญพันธ์ มีใบหน้าหล่อเหลาอย่างชายฉกรรจ์ ดวงตาดำขลับคมคาย ขนตาดกดำรับกับคิ้วหนา จมูกพุ่งโด่งเป็นสันงดงาม เรียวปากบางสวยได้รูป ดูแล้วมีความงามเหนือทหารชั้นเลวทุกนาย สมกับเป็นบุตรชายของแม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นเหอเป่ย
ไม่รอช้าหลี่เฉินปลดเสื้อผ้าของตนออก เผยให้เห็นสัดส่วนที่ไม่ด้อยไปกว่าแม่ทัพซู่เลยสักนิด กล้ามเนื้อแต่ละส่วนขึ้นเป็นรูปร่างชัดเจนจากการฝึกทหารตั้งแต่เด็กของเขา ท่อนฆวยตรงใหญ่ขนาดเกือบ 8 นิ้ว ชูเชิดชี้ขึ้นฟ้า แม้ขนาดจะไม่ใหญ่เท่ากับของแม่ทัพซู่แต่ก็จัดว่าใหญ่เกินมาตรฐานชายฉกรรจ์ ขนหมอยที่ยาวหยิกฟู่ฟ่องอยู่เหนือโคนฆวย ดูดกดำน่าค้นหา
บัดนี้หลี่เฉินจับพระมเหสีกดไหล่ให้นั่งลงบนพื้นใกล้กับตำแหน่งที่แม่ทัพซู่ถูกจับมัดไว้ ไม่รอช้าหัวฆวยสีชมพูสดจ่อเข้าตรงกลางริมฝีปากของสาวงาม พร้อมกับที่ปากเล็กเผยอออกรับท่อนฆวยนั้นเข้าไป ด้วยความใหญ่ของฆวยทำให้ปากน้อยๆ ตึงขึ้นทันที ริมฝีปากคลอบลงบนท่อนฆวยดูดเข้าดูดออก ตั้งแต่ปลายถึงโคนฆวยอย่างเอาเป็นเอาตาย
“เมียรักของข้า เจ้าช่างดูดฆวยเก่งเหลือเกิน” หลี่เฉินทนความเสียวซ่านแทบไม่ไหว สองมือจับศีรษะพระมเหสีไว้แน่น พร้อมกับการเคลื่อนสะโพกเข้าออกจากปากอย่างต่อเนื่อง บัดนี้ซู่เหวินนั่งน้ำตาตก ได้แต่มองดูศัตรูกำลังกระเด้า***ปากเมียของตน
“ฝ่าบาทเพคะ โปรดเมตตาสงเคราะห์หม่อมฉันด้วยเถิดเพคะ หม่อมฉันทนต่อไปไม่ไหวแล้ว” พระมเหสีกล่าวเสียงกระเซ้า น้ำใสไหลออกจากกลีบบุปฝา เป็นสัญญาณว่าพร้อมจะร่วมรักเต็มที่แล้ว
“เจ้าต้องการสิ่งใดก็พูดมาตรงๆ เถิด อย่าได้อ้อมค้อม” หลี่เฉินถาม
“มะ...หม่อนฉัน เอ่อ..กำหนัดเหลือเกินเพคะฝ่าบาท” พระมเหสีตอบกลับ
“ต่อไปถ้าเจ้ากำหนัด ให้เจ้าพูดว่า-เงี่ยน- เข้าใจชัดไหม” หลี่เฉินกล่าวอย่างมีความสุข
“เพคะฝ่าบาท บัดนี้หม่อมฉัน..งะ..เงี่ยนแล้วเพคะ เงี่ยนเหลือเกิน โปรดฝ่าบาทช่วยปลดปล่อยหม่อมฉันด้วยเพคะ” พระมเหสีเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว
หลี่เฉินอุ้มว่าที่ภรรยาของเขาตรงไปที่แท่นบรรทม ก่อนจะวางนางลงและก้มหน้าไปดูดกินน้ำหวานจากกลีบผกาที่หลั่งไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง ปลายลิ้นตวัดแตะกับเม็ดสาวอย่างคล่องแคล้ว สาวน้อยเบียดเสียดโคกใหญ่เข้ารับกับใบหน้าของหลี่เฉิน นอนก้นลอยเสียวซ่าน สะบัดไปมาเหมือนสัตว์หาคู่ สร้างความเงี่ยนแก่หลี่เฉินได้มากขึ้น เมื่อดูดดื่มเนินโคกหญิงสาวอย่างพอใจแล้ว ก็จับนางนอนหงาย พร้อมคุกเข่าจ่อลำฆวยชายให้ตรงกับกลีบหอยสาว
“บัดนี้ ช้าจะสอดฆวยแท่งนี้เข้าไปให้ช่องสาวงาม เทพยดาทั้งหลายเป็นพยาน เราสองเป็นผัวเมียกันอย่างสมบูรณ์” หลี่เฉินคำรามลั่นห้องหวังให้ซู่เหวินได้ยินสิ่งที่เข้าพูด ก่อนจะจับแกนฆวยกดล้ำเข้าไปให้ช่องรักอย่างยากเย็น กลีบแคมทั้งสองบานอูมโอบรัดลำฆวยอย่างแน่นหนา ลำฆวยค่อยๆ เคลื่อนผ่านช่องรักทีละน้อย จนมิดเงี่ยงบานของหลี่เฉิน
“อ่า...ฆวยเข้าไปแล้วเมียข้า ฆวยได้ลิ้มรสช่องสาวของเจ้าแล้ววว เป็นบุญฆวยของข้าเหลือเกิน” หลี่เฉินดูดปากกับสาวงามก่อนจะกระแทกแท่งชายเข้าร่องมเหสีอย่างสุดแรงเกิดเสียงดับสวบๆ
บัดนี้เครื่องเพศทั้งคู่แนบสนิทติดกัน ซึมซาบความเสียวซ่านแก่กันและกัน หลี่เฉินเริ่มขยับเอวเข้าออก ซอยฆวยถี่ยิบจนหญิงสาวพร้อมแอ่นโคกให้กระแทกไม่ยั้ง
“เงี่ยนเหลือเกิน ฝ่าบาทของข้าช่างเก่งกาญทั้งการรบและการรัก” หญิงสาวปลดปล่อยอารมณ์เต็มที่ ก่อนที่จะถูกฝ่ายชายช้อนร่างขึ้นเดินตรงไปทางแม่ทัพซู่ที่นั่งใจสลายอยู่
บัดนี้เบื้องหน้าซู่เหวินคือหนึ่งชายหนุ่มกำลังอุ้มหนึ่งหญิงสาว มือฝ่ายชายโอบอุ้มสะโพกฝ่ายหญิง ในขณะที่มือฝ่ายหญิงก็โอบลำคอของฝ่ายชาย เบื้องล่างเป็นแท่งฆวยชายที่จ่อตรงพอดีกับร่องฝ่ายหญิง ก่อนที่จะแทงมิดลำ ภาพทั้งหมดนี้เห็นได้อย่างชัดเจนเพราะหลี่เฉินจงใจให้ซู่เหวินรับรู้ทุกการกระเด้าเครื่องเพศมเหสี หลี่เฉินกระแทกฆวยด้วยความถี่ราวกับกระหายร่องสาวนี้มานาน น้ำหล่อลื่นไหลปะปนกันจนแยกไม่ออกว่ามาจากฝ่ายชายหรือหญิง
“ร่องสาวของเจ้าตอดลำฆวยข้าตุบๆ คล้ายมีมือเด็กน้อยคอยบีบคลายท่อนฆวยให้ข้าอยู่ตลอด” หลี่เฉินปล่อยให้ฆวยถูกบีบรัดจากร่องอ่อนละมุน แล้วจึงนอนลง ปล่อยให้เมียสาวขึ้นโยกลำฆวยของเขาด้วยตัวเอง ปล่อยเต้านมให้หลี่เฉินดูดเลียอย่างกระหาย ต่อหน้าสวามีที่แท้จริงตรงหน้า
“ซิ๊ดดด..ดด ข้าเงี่ยนเหลือเกิน เงี่ยนมาก สาวงามกำลังขย่มฆวยข้า สกุลซู่จงเป็นพยานรักของเราสอง” หลี่เฉินพูดเสียงดัง ก่อนจะพลักนางนอนลงข้างกายสวามีตัวจริง แล้วซอยฆวยถี่ พวงไข่กระทบกับเนินสาวเกิดเสียงดังผับๆๆๆ ก่อนจะไล่น้ำเงี่ยนจากอัณฆะพุ่งขึ้นมาตามลำ***
“จะแตกแล้วเมียรัก ผัวจะปล่อยลูกๆ ของเราเข้าไปในท้องเมียแล้ว โอ้วว...อ่า”
สิ้นสิ้นคำราม ลำฆวยหลี่เฉินก็แข็งเกร็งกระตูกพ่นน้ำเงี่ยนขาวเข้าใส่ท้องพระมเหสีอย่างมากมาย จนหญิงสาวรับรู้แรงดันภายในได้ชัดเจน ลำฆวยยังคงกดแนบแน่นไม่ปล่อย กระตุกหลั่งน้ำเขื้อชายเข้าไปจนล้นท้นกลับออกมา ไหลย้อนย้อยออกจากร่องหญิงสาว
สิ้นบทเพลงบรรรักของทั้งคู่ หญิงสาวนอนสลบหมดสติเพราะความเหนื่อยอ่อน หลี่เฉินถอดฆวยออก มีน้ำเชื้อยืดติดปลายฆวยเป็นสายยาว พรางหัวเราะร่า
“บัดนี้เมียของเจ้ารับน้ำรักจากจากข้าเข้าไปแล้ว เชื้อหลี่เฉินของข้าคงปะปนอยู่กับเชื้อซู่เหวินของเจ้า หากแม้นมีเด็กฟูมฟักอยู่ในท้องพระมเหสี ก็คงบอกได้ยากว่าเป็นเชื้อของใคร แต่ที่แน่ๆ เมียของเจ้าคือเมียของข้า ฮ่าๆๆๆ” หลี่เฉินเย้นเยาะแม่ทัพซู่
เมื่อคิดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา ซู่เหวินยังไม่เชื่อว่าเรื่องทั้งหมดนี้จะเป็นจริง เขา-แม่ทัพใหญ่แห่งแคว้น-ต้องมาร่วมหลั่งน้ำรักพร้อมทหารในบังคับบัญชานับหมื่นนาย ต้องกระแทกฆวยเข้าป้ายบรรพชนของตระกูลต่อหน้าคนมากมาย ต้องสาวฆวยพ่นน้ำหนุ่มลงบนหลุมศพสกุลซู่ แล้วยังต้องมานั่งดูร่องเมียรักที่บัดนี้มีน้ำเชื้อศัตรูไหลหลั่งออกมา ในเพลานี้เขาทำได้เพียงคิดว่าพรุ่งนี้ต้องเจอกับเรื่องร้ายใดอีกบ้าง....
ตอนที่ 8 ยกระดับ
ยามค่ำคืน ณ แคว้นเหอเป่ย ดินแดนกบฏที่ถูกขุนศึกซู่เหวินกำราบเสียราบคาบ ตั้งแต่นั้นมาสตรีในเมืองก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นสาวรับใช้กระจายไปต่างเมือง ส่วนบุรุษก็กลายเป็นทรชน ไพร่ทาส ยาจก ชนชั้นแรงงาน คอยรับใช้ “ซู่เริน” บุตรชายคนโตของแม่ทัพซู่ ที่บัดนี้ได้รับคำสั่งจากผู้เป็นพ่อให้มาควบคุมดูแลแคว้นเหอเป่ยแห่งนี้
ซู่เรินนั้นเป็นชายหนุ่มกลัดมันในวัย 18 ปี มีใบหน้าหล่อเหลาคมคายผ่องสว่างดังดวงจันทร์ พระเนตรดำสนิทดูแข็งแกร่งชวนหลงไหล เสริมด้วยขนตายาวโค้งช่วยเสริมให้ดูน่ามอง พระนาสิกเห็นเป็นสันเรียวสวย ขับใบหน้าให้ดูมีมิติ พระโอษฐ์ยามยิ้มเห็นฟันขาวเรียงราย ชวนให้ผู้พบเห็นใจอ่อนระทวย
บุตรแห่งโอรสสวรรค์ถอดแบบจากพระบิดามาได้อย่างสมบูรณ์แบบ เป็นความลงตัวที่รวมอยู่ร่างเดียว แน่นอนว่าซู่เรินนั้นเป็นที่หมายตาของสตรีทั่วเขตแคว้น แม้นบุรุษยังต้องมองตาค้างในความงามที่เหนือพวกเขาอย่างเทียบไม่ติดฝุ่น
แม้ซู่เรินจะเป็นวัยรุ่นอยู่ แต่ก็เติบโตมาในจวนแม่ทัพ เท่าที่เขาจำความได้ เมื่ออายุเพียง 8 ขวบก็ถูกสั่งสอนตำราพิชัยสงคราม และเริ่มฝึกหัดเป็นทหารตั้งแต่อายุ 10 ปี ไม่แปลกใจเลยที่รูปร่างทรวดทรงจะดูบึกบึนเกินวัย ขอบแขนเสื้อที่โอบรัดมัดแขนแทบปริแตกออก กล้ามอกก็ยกดันชุดมองเห็นเป็นแผงใหญ่ เป็นที่มาของคำว่าลูกผู้ชายอกสามศอก
เขาถูกส่งตัวมาอยู่ที่เหอเป่ยนานเกือบ 2 ปีแล้ว หลังจากพระบิดาได้สังหารประมุขใหญ่ของแคว้น แห่งนี้ ส่งผลให้กลายเป็นเมืองร้างไร้ผู้ปกครอง พระบิดาเห็นว่าหากปล่อยไว้เช่นนี้จะเกิดปัญหาชนกลุ่มน้อยตั้งต้นเป็นใหญ่ จึงส่งเขามาเป็นราชาปกครองทีนี้ไว้เป็นการณ์ชั่วคราว วันนี้จู่ๆ ก็มีจดหมายเร็วจากแม่ทัพซู่ส่งมา ใจความแจ้งว่าให้ซู่เริ่นกลับเมืองต้าเหลียนโดยเร็ว
“วันพรุ่ง ข้าจะเสด็จกลับแคว้นต้าเหลียนไปหาพวกท่าน รอข้านะ...ท่านพ่อท่านแม่” ซูเริ่นคิดในใจ
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
ยามราตรี ภายในห้องประชุม ณ จวนแม่ทัพ
ชายชุดดำ 3 คนนั่งอยู่เบื้องหน้าชายรูปงามที่พึ่งสำเร็จกิจกามกับพระมเหสีของราชาแห่งแคว้นต้าเหลียน บัดนี้ชายทั้งสี่กำลังนั่งสรวลเสเฮฮา นั่งดื่มสุราอย่างสบายใจ
“บัดนี้ใต้เท้าซู่อยู่ในกำมือนายท่านแล้ว เหตุใดจึงไม่ยึดเมืองต้าเหลียนเลยขอรับ?” ชายชุดดำถามผู้เป็นนาย
“สิ่งที่ข้าหวังนั้นมากกว่าเมืองต้าเหลียนแห่งนี้ จะคิดการณ์ใหญ่ต้องใจเย็น พวกเราต้องค่อยๆ ทำลายอำนาจเก่าจากภายในไปเรื่อยๆ เริ่มจากตัดสัมพันธ์บุคคลที่เกี่ยวข้องกับแม่ทัพซู่ให้หมดสิ้นเสียก่อน ตั้งแต่สตรีเคียงข้างกาย บุตรชาย นายกองทหารทั้งหลาย ไปจนถึงประชาชนทั้งหญิงชาย” หลี่เฉินอธิบาย
เขาทนรอวันที่จะเห็นแม่ทัพสิ้นเนื้อประดาตัวแทบไม่ไหว วันที่ซู่เหวินจะไม่เหลือเกียรติยศและความเป็นชายอีกต่อไป วันที่มันต้องอายแทบเอาหน้ามุดดิน ก่อนจะถึงวันนั้น เขาต้องจัดการกับบุตรชายของซู่เหวินเสียก่อน
“ไอ้ซู่เริน เจ้าเกิดมามีพร้อมทั้งรูป ทรัพย์สมบัติ อำนาจและความสบาย ต่างจากข้าที่ต้องกำพร้าพ่อแม่ คุณหนูอย่างเจ้าต้องเรียนรู้ความเจ็บปวดเสียบ้าง” หลี่เฉินคิดในใจอย่างเงียบๆ ก่อนเผยรอยยิ้มตรงมุมปากอย่างน่ากลัว
ประสบการณ์ ต่าง ๆ รวบรวมมาที่นี้ที่เดียว (เกย์)
วันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2558
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
เด็กหอ 8 CP
มื่อกานต์เก็บของจากห้องตัวเองเสร็จ จึงมาหาอาจารย์ภัทรที่ห้อง ส่วนภัทรอาบน้ำทำความสะอาดเนื้อตัวเรียบร้อย ควยของภัทรแข็งรอกานต์อยู่นานแล้ว &...
-
หลังเสียงเพลงชาติจบลง ร่างสูงขาวของหนุ่มนักเรียนชั้น ม.6 ในฐานะประธานนักเรียนของโรงเรียนแห่งนี้เดินขึ้นกล่าวกับนักเรียนทุกระดับ ชั้นถึงเรื่...
-
มาถึงตอนนี้ ไอ้หมาเสือ รู้สึกตัวเองแล้วว่า มันกำลังหลงใหลดำดิ่งลงใน “โลกของทาสหมา” อย่างถอนตัวไม่ขึ้นเสียแล้ว ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับมันในช...
-
ทัพ หนุ่มนักเรียนวิศวะ ผู้มีความหล่อระดับเดือนคณะ เป็นนักกีฬามหาลัย ชอบออกกำลังกาย ชอบว่ายน้ำ ชอบเล่นฟุตบอล เป็นที่หมายตาของสาวๆหลายๆคน ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น