วันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2558

สารวัตรอิทธิฤทธิ์ผจญภัย 1

ในห้องโถงไม้สักหรูหรา ชายหนุ่มนั่งคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าโกฎิทอง ด้านหลังมีชายฉกรรจ์ชุดดำนั่งเรียงเป็นระเบียบสองแถวยาว เสียงทุ้มกังวานทรงอำนาจดังขึ้นทำลายความเงียบสงบของบรรยากาศโดยรอบ “พ่อครับวันนี้ผมพาพรรคพวกพี่น้องของเรามากราบพ่อ เพราะเวลาที่ผมรอคอยมานานกำลังใกล้เข้ามาทุกขณะ” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับหยิบซองสีน้ำตาลมีกระดาษสีขาวปิดทับมีข้อความว่า “พันตำรวจตรีอิทธิฤทธิ์ ยั่งยืน” พลิกไปมาอย่างครุ่นคิด “พ่อช่วยให้ผมทำงานให้สำเร็จด้วยนะครับ” พูดเสร็จเขาลุกขึ้นหันหน้าเข้าหาชายฉกรรจ์ที่กำลังผุดลุกขึ้นเช่นกัน เขาเป็นชายหนุ่มที่หน้าตาดี อายุประมาณยี่สิบต้น ๆ ดูจากเครื่องแต่งกายก็รู้ว่าเขาให้ความสำคัญกับรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างมาก ในวงการธุรกิจรู้จักเขาดีในฐานะเจ้าของปางไม้ที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ “พ่อเลี้ยงเสก สุริยะ” เขาเป็นพ่อเลี้ยงที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ เขาเป็นคนพูดจาเพราะ สุภาพอ่อนโยน แต่คนในวงในต่างรู้ดีว่าภายใต้คราบนักบุญนั้นกลับแฝงไว้ด้วยความโหด***มอำมหิต อีกทั้งจิตใจก็คับแคบอาฆาตพยาบาท ธุรกิจไม้เป็นเพียงฉากบังหน้า ยาเสพติดต่างหากที่ทำกำไรให้เขาเป็นกอบเป็นกำ ที่สำคัญเขาชมชอบอยู่ท่ามกลางชายหนุ่ม ซึ่งเห็นได้จากพวกลูกน้องที่คอยอารักขารักษาความปลอดภัยและเป็นที่ปลดเปลื้องความใคร่เมื่อเขาต้องการ...... พ่อเลี้ยงเสกดึงรูปจากซองสีน้ำตาลออกมาดู แล้วยิ้มด้วยความพอใจ ....................... พันตำรวจตรีอิทธิฤทธิ์ นายตำรวจหนุ่มวัยสามสิบสองปี เดินไปเดินมาอย่างร้อนรน ใบหน้าคมสันมีแววไม่สบายใจอย่างเห็นได้ชัด เขาเพิ่งวางโทรศัพท์หลังจากคุยกับเพื่อนตำรวจให้ช่วยดูแลเรื่องน้องสาวของเขาที่หายตัวไปไม่กลับบ้านตั้งแต่เมื่อคืนอย่างไร้ร่องรอย หลังจากพ่อแม่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์เมื่อห้าปีก่อน น้องสาวคือญาติคนเดียวของเขา อิทธิฤทธิ์ หรือสารวัตรอิท รักและดูแลเธอเหมือนกับเป็นพ่อ เมื่อเธอมาหายตัวไปอย่างนี้เขาจึงนั่งไม่ติด เขาคงจะจัดการเรื่องนี้เองถ้าเขาไม่ต้องไปสะสางคดีที่เชียงราย คำสั่งเพิ่งตกมาเมื่อวาน ทางผู้ใหญ่ในกรมเห็นชอบให้เขารับผิดชอบงานนี้ “ไม่มีใครเหมาะเท่าคุณอีกแล้ว...สารวัตร” เสียงหัวหน้ายังก้องอยู่ในหูเขา..... จริงๆ แล้วอิทธิฤทธิ์ก็ไม่ค่อยอยากไปเท่าไหร่ เมื่อสองปีที่แล้วเขาปิดคดีโรงงานนรกที่ผลิตยาเสพติดตรงตะเข็บชายแดนลงได้ โรงงานถูกทลายลงพร้อมกับชีวิตของผู้ใหญ่สัก สุริยะ ผู้ทรงอิทธิพลของสามเหลี่ยมทองคำ เขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นพันตำรวจตรี และขึ้นมายืนอยู่บนทำเนียบมือปราบของกรมตำรวจอย่างเต็มภาคภูมิท่ามกลางความชื่นชมของเพื่อนตำรวจ แต่เขาก็เกือบจะเอาชีวิตไปทิ้งที่นั่นเหมือนกัน...... เขาตรวจดูความเรียบร้อยของสัมภาระเดินทาง ใจยังห่วงน้องสาวที่หายไปแต่หน้าที่ก็คือหน้าที่เขาปิดประตูรถแล้วสตาร์ทเครื่องมุ่งหน้าสู่เชียงรายทันที อิทธิฤทธิ์โทรถามเพื่อนเกี่ยวกับน้องสาวเกือบทุกครึ่งชั่วโมงหลังจากออกเดินทาง แต่ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า เขาได้แต่หวังว่าคงไม่มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้น เขาจำต้องสลัดความกังวลออกไปเพื่อจะได้ทำงานได้อย่างเต็มที่ เกือบสามปีที่เขาประจำอยู่ที่เชียงราย ประสบการณ์ความช่ำชองในพื้นที่ และเพื่อนร่วมงานคงจะทำให้คดีเสร็จอย่างรวดเร็ว ลูกน้องเก่าที่คุ้นเคยกับเขาดี เพิ่งโทรมาบอกว่าที่พักได้เตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว เขายิ้มเมื่อนึกถึงอดีต จ่าดำเกิงและจ่าบุญส่งซึ่งแก่คราวพ่อ แต่ก็ไม่มีช่องว่างระหว่างวัยระหว่างเขาซึ่งเป็นหัวหน้าโดยตรงกับผู้ใต้บังคับบัญชา พวกเขาเข้ากันได้ดี จ่าทั้งสองคนมีประสบการณ์โชกโชน ซึ่งอิทธิฤทธิ์ก็ให้ความเคารพในวัยวุฒิและความเก๋าเกมของทั้งสอง เมื่อรู้ว่าสารวัตรจะกลับมาทำงานอีกครั้งจ่าดำเกิงกับจ่าบุญส่งก็ดีใจจนออกนอกหน้า ส่วนเรื่องของคดีจริง ๆ แล้วก็ไม่มีอะไรซับซ้อน ผู้หมวดสืบศักดิ์ลูกน้องเขาได้หายตัวไประหว่างการสืบราชการลับเกี่ยวกับเครือข่ายยาเสพติด มีอยู่สองสามกลุ่มที่เขาสงสัยว่าอาจเป็นต้นเหตุในการหายตัวไปของผู้หมวด หนึ่งในนั้นก็คือพวกของพ่อเลี้ยงเสก นายตำรวจหนุ่มคิดทบทวนไปมาถึงเหตุการณ์ในอดีต แม้ว่าผู้ใหญ่สักจะตายไปแล้ว แต่ลูกของมันก็ยังอยู่ แถมมีชื่ออยู่ในบัญชีดำของกรมตำรวจอีกต่างหาก เพียงแต่ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะจัดการพวกมันเท่านั้น หวังว่าเบาะแสที่เขาจะสืบคงจะสาวไปถึงตัวพวกมันเพื่อจะได้ทลายแก๊งค์มันให้ได้ในคราวเดียว อิทธิฤทธิ์คิด..... สารวัตรหนุ่มขับรถไม่นานเขาก็เข้าเขตจังหวัดตาก เส้นทางช่วงนี้ค่อนข้างคดเคี้ยวไปตามไหล่เขา อิทธิฤทธิ์ขับรถด้วยความระมัดระวัง เขาสังเกตเห็นรถโตโยต้าสีดำขับตามมาตั้งแต่ก่อนเข้าจังหวัดตาก เขาชะลอความเร็วลงเพื่อดูสถาณการณ์ รถคันดังกล่าวก็ขับแซงขึ้นไป เขาสบถเบา ๆ “จะเครียดมากไปแล้ว...นายอิท” เขาพึมพำกับตัวเอง รถวิ่งผ่านช่วงขึ้นเขาเข้าสู่ทางราบและก่อนที่เขาจะเหยียบคันเร่งเพื่อแซงรถคันหน้าที่ขับช้า รถคันดังกล่างวก็เบียดขวามาจนอิทธฤทธิ์ต้องหักหลบจนตกลงไปข้างทางกระแทกกับต้นไม้ใหญ่ดังสนั่น ถุงลมนิรภัยช่วยชีวิตเขาไว้ได้ แต่แรงกระแทกก็ทำให้เขาหมดสติไป ............................ ผู้พันอิทธิฤทธิ์ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นช้า ๆ แสงจ้าจากหลอดนีออนทำให้เขาต้องหยีตา เขาขยับแขนรู้สึกปวดเมื่อยระบมไปทั้งตัว เขาจำได้ว่าเขาประสบอุบัติเหตุรถตกข้างทาง เสียงหึ่งของเครื่องยนต์ดังอยู่รอบบริเวณ เขาสอดส่ายสายตา พบว่าตนเองนอนอยู่บนพื้นซีเมนต์ของโรงงานที่ดูเหมือนถูกทิ้งร้างสักแห่ง เสื้อแจ๊คเก็ตถูกถอดออกเหลือเพียงเสื้อยืดสีขาวขลิบคอและแขนด้วยสีเลือดหมูที่มีสัญญลักษณ์ของกรมตำรวจกับกางเกงในสีขาวปกปิดท่อนล่าง.....เขาไม่ได้อยู่ตามลำพัง ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำนั่งอยู่บนเก้าอี้ประจันหน้ากับเขา เขาหรี่ตามองแล้วร้องเสียงแหบพร่าเหมือนไม่เชื่อสายตาตัวเอง “พ่อเลี้ยงเสก” “สวัสดีครับผู้พัน....ผมหวังว่าสารวัตรสบายดีนะครับ” เสกพูดประดับด้วยรอยยิ้ม เงียบ....ไม่มีคำพูดใด ๆ ออกจากปากอิทธิฤทธิ์ ทั้งๆ ที่ปวดไปทั้งตัวนายตำรวจหนุ่มกัดฟันรวบรวมกำลังพุ่งตัวเข้าใส่พ่อเลี้ยงเสกที่นั่งอยู่ตรงหน้าอย่างบ้าคลั่ง แต่ก็ถูกสมุนของพ่อเลี้ยงจับไพล่หลังใส่กุญแจมือและกดหน้าเขาลงแทบเท้าของพ่อเลี้ยงที่ก้มลงใช้มือจิกผมเขาดึงจนหน้าหงาย “อย่ามาอวดดีกับกูนะ...ไอ้อิท” พ่อเลี้ยงหนุ่มพูดเย้ยหยันพร้อมกับกดใบหน้าหล่อเหลาแนบไปกับรองเท้าหนังมันปลาบ อิทธิฤทธิ์ดิ้นกระเสือกกระสนแต่ยิ่งดิ้นลูกสมุนของไอ้เสกกลับกดหน้าเขาถูไถไปกับรองเท้า “ปล่อยกู...ไอ้สัตว์” พ่อเลี้ยงเสกยิ้ม***ม “ปากดีนะมึง...ให้แม่งแดกรองเท้าดูซิว่าปากจะเก่งซักแค่ไหน ไอ้เสกซาดิสม์พูดเสียงกระเส่า เมื่ออารมณ์ทางเพศถูกกระตุ้น การ์ดร่างหนาที่กดตัวเอื้อมมือมาแหกปากเขา อิทธิฤทธิ์เม้มปากแน่นแต่ก็ไม่อาจทานแรงที่จับปากเขาอ้าออกจนได้ และในทันทีไอ้เสกก็เสือกรองเท้าหัวแหลมเข้าไปในปากนายตำรวจหนุ่มได้สำเร็จ ไอ้เสกมองดูนายตำรวจคู่แค้นถูกบังคับให้อมรองเท้าตัวเองด้วยความสะใจ กระดกตีนดันรองเท้าเข้า ๆ ออก ๆ จนปากสวยผิดรูป ส่วนมือก็ปลดตะขอกางเกงควักท่อน***ที่เริ่มแข็งตัวออกมาชัก มันเร่งสาว***เร็วขึ้นตามแรงเงี่ยน ไม่นานมันก็เกร็งตัวร้องครางเมื่อใกล้ถึงจุดสุดยอด บิดตัวด้วยความเสียวกระตุกขายันรองเท้าลึกเข้าไปจนเกือบถึงคอหอย ทำเอานายตำรวจหนุ่มตาเหลือกดิ้นสุดชีวิตจนถอนปากออกได้ก้มหน้าไอสำลักอย่างรุนแรง เป็นจังหวะเดียวกับที่ไอ้เสกน้ำกำลังจะแตก มันครางในลำคอมือกำท่อน***รูดเข้ารูดออกอย่างเร่งร้อน อิทธิฤทธิ์เงยหน้ามองสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ทันทีที่เห็นเขาก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไรรีบตะกายขึ้นจากพื้นก่อนที่***แข็งตรงหน้าจะพ่นน้ำว่าวใส่ ลูกน้องไอ้เสกสองคนที่จับตัวเขาเพิ่มแรงกดจนสารวัตรหนุ่มนิ่งอยู่กับที่ อิทธิฤทธิ์พยายามดิ้นเต็มแรงเพื่อให้รอดจากความอัปยศที่จะเกิดขึ้นแต่ไม่เป็นผลเมื่อไอ้เสกร่างเกร็งกระตุก ***กระดกหงึก ๆ น้ำเงี่ยนขาวข้นพุ่งปรี้ดเข้าใส่ใบหน้าหล่อเหลาของเขาอย่างจัง น้ำ***ปริมาณมากเปียกเยิ้มไปทั่วหน้าไหลย้อยไปตามคางและเสื้อยืดจนเหนียวเหนอะะ ไอ้เสกหอบหายใจเมื่อน้ำเงี่ยนสายสุดท้ายพุ่งออกจากลำ*** มันยิ้มพอใจเมื่อลูกน้องเดินมากระซิบข้างหู “ วันนี้นับว่ามึงโชคดี “ มันพูดหัวเราะในลำคอสั่งให้ควบคุมตัวสารวัตรหนุ่มก่อนจะเดินจากไปทิ้งให้อิทธิฤทธิ์นั่งจมกองน้ำเงี่ยนกล้ำกลืนความอัปยศที่ได้รับอย่างขมขื่น ............................ ผู้พันมือปราบถูกควบคุมตัวอย่างแน่นหนา เมื่อถึงที่หมายพวกลูกน้องไอ้เสกก็ถีบเขาดังโครมกลิ้งหลุน ๆ เข้าไปในห้องขัง เขาลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเลเนื่องจากร่างกายที่บอบช้ำจากอุบัติเหตุ กุญแจมือถูกปลดออกไปแล้วแต่ความอดสูที่ได้รับยังคงฝังแน่นในใจ เขาครางในลำคอเหมือนสัตว์ที่ได้รับบาดเจ็บ เขาจะต้องตอบแทนพวกมันอย่างสาสมก่อนที่จะหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า อิทธิฤทธิ์รู้สึกตัวอีกทีฟ้าก็สาง แสงที่ผ่านเข้ามาทางหน้าต่างสว่างพอที่จะเห็นสภาพภายในโรงงานร้างที่มืดมิด ห้องที่กักขังเขาเป็นห้องสี่เหลี่ยมมีลูกกรงเหล็กสนิมเกรอะกรัง เขาลองเขย่าดูก็รู้ว่ามันยังแข็งแรงไม่มีทางที่จะแหกออกไปได้ด้วยมือเปล่า บนพื้นซีเมนต์มีถาดบรรจุข้าวเปล่าที่ฉุนด้วยกลิ่นน้ำปลา กับน้ำเปล่าวางอยู่ ทันใดท้องเขาก็ลั่นโครกคราก ไม่มีอะไรตกถึงท้องเขาเลยตั้งแต่เมื่อเช้าวาน เขาคว้าข้าวเปล่าบนพื้นขึ้นมาแล้วกินมันอย่างรวดเร็ว ในสถานการณ์เช่นนี้เขาต้องรักษาร่างกายให้แข็งแรงไว้ เขาเดินสำรวจรอบ ๆ ห้องขังตรวจดูเผื่อว่าจะมีอะไรที่จะใช้ให้เป็นประโยชน์.... นอกจากที่นอนเก่า ๆ แล้วไม่มีอะไรเลย อิทธิฤทธิ์เดินวนไปมาถอยหลังกรูดจนชิดกำแพงตามสัญชาติญาณ เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเดินฝ่าความมืดเข้ามา การ์ดสองคนที่ควบคุมเขาเมื่อคืนไขกุญแจห้องขัง นายตำรวจมือปราบไม่รอช้าพุ่งตัวเข้าชาร์จพวกมันทันที “ อ๊าคคคค....” อิทธิฤทธิ์ร้องสุดเสียงด้วยความเจ็บปวด เมื่อหนึ่งในการ์ดจี้ตัวเขาด้วยเครื่องช๊อตไฟฟ้า มันช๊อตเขาสามทีซ้อนจนเขาทรุดลงไปกองกับพื้น “ โธ่ กูนึกว่าจะแน่....” มันสบถ....มือจิกหัวเขาลากออกไป สารวัตรอิทถูกลากถูลู่ถูกังไปตามพื้นซีเมนต์อย่างไม่ปรานีปราศรัย ก่อนจะเหวี่ยงโครมไปยังห้องเดิมที่เขาถูกไอ้เสกหยามศักดิ์ศรีเมื่อคืน พ่อเลี้ยงเสกยังคงนั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้ตัวเดิมรายล้อมไปด้วยบอดี้การ์ดสี่คน “ผู้กอง.....ผู้กองช่วยผมด้วย” เสียงร้องดังขึ้น อิทธิฤทธิ์พยายามเบิ่งตามองไปยังต้นเสียง เด็กชายวัยสิบกว่าขวบถูกควบคุมตัวอยู่ที่มุมห้อง นายตำรวจหนุ่มครางในลำคอ “อาเด” ภาพในอดีตย้อนกลับไปมาในสมองของเขาเหมือนกล้องถ่ายรูป อาเดเด็กหนุ่มชาวกะเหรี่ยงได้ช่วยชีวิตเขาจากการถูกตามล่าของผู้ใหญ่สักเมื่อสองปีก่อน เขามองอาเดด้วยความเป็นห่วง ไม่ต้องบอกเลยว่าอาเดกลัวขนาดไหน รอยเปียกที่เป้ากางเกงคือคำตอบที่ชัดเจนที่สุด “เด็กนั่นไม่เกี่ยวอะไร ปล่อยเขาไปซะ” อิทธิฤทธิ์พูด พ่อเลี้ยงเสกหัวเราะหึๆ “ปล่อยก็ได้แต่มึงต้องยอมเชื่อฟังคำสั่งกูโดยไม่มีข้อแม้” ดวงตาอิทธิฤทธิ์เหมือนมีเปลวไฟลุกโชนเขาร้องด้วยความเดือดดาล “มึงฝันไปเหอะไอ้สัตว์....พวกมึงรีบปล่อยกูกับอาเดก่อนที่พวกตำรวจจะพากันบุกมาที่นี่” เขาทำเป็นใจดีสู้เสือ เสกยังคงยิ้ม “มึงคิดว่าตำรวจที่เชียงรายจะบุกมาเพื่อช่วยมึงเนี่ยนะ อย่าทำเป็นเด็กอมมือหน่อยน่า อย่าว่าแต่ตำรวจหน่วยเล็กๆ อย่างที่นี่เลย แม้แต่กรมตำรวจกูก็มีสายอยู่ข้างใน เงินนะซื้อได้ทุกอย่าง....” มันโบ้ยสายตาไปทางด้านบน อิทธิฤทธิ์มองตาม ห่างไปประมาณห้าเมตรในห้องกระจกบนชั้นสอง หญิงสาวในเครื่องแบบนักศึกษา สองตาถูกปิดด้วยผ้าดำยืนตัวสั่นด้วยความกลัว “ไอ้สัตว์ มึงทำอะไรน้องกู...กูจะฆ่ามึงไอ้พวกนรก” อิทธิฤทธิ์ตะโกนลั่นด้วยความโกรธ “อิงไม่ต้องกลัว...พี่อยู่นี่” สิ้นเสียงนายตำรวจหนุ่ม เสกก็ระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่น “ช่วยตัวเองให้ได้ก่อนเถอะ มึงก็เห็นว่าพวกลูกน้องกูอยู่แต่ในป่าในเขา นานๆจะเห็นผู้หญิงสักที น้องสาวมึงก็สวยไม่ใช่เล่นน่าจะเป็นเพื่อนแก้เหงาให้พวกมันได้” “อย่านะ มึงอย่าทำอะไรบ้าๆ นะ” เขาสวนกลับทันควัน พ่อเลี้ยงเสกยังคงหัวเราะในลำคออย่างเจ้าเล่ห์ “ มึงคิดว่ามึงมีทางเลือกรึไง กูจะบอกให้ทางเลือกของมึงก็คือ หนึ่ง....ยอมเป็นเพื่อนเล่นกับพวกลูกน้องกูแล้วน้องมึงจะปลอดภัย สอง....มึงกับน้องมึงยังไงก็ต้องกลายเป็นของเล่นบำเรอกามพวกลูกน้องกูเหมือนกัน มึงเลือกเอา หนึ่งหรือสอง” พร้อมกันนั้นเสียงกรีดร้องของหญิงสาวก็ดังขึ้น อิงดาวถูกกระชากเสื้อออกจนเห็นเนินอกขาวโพลนใต้บราสีชมพู “อย่า....ไอ้สัตว์นรก....หยุด” เขาร้องลั่นด้วยความโกรธ “ไอ้พวกนั้นมันไม่ฟังหรอก.....อ้อไม่ใช่แค่นี้นะที่อีนั่นจะโดน หลังจากที่มันโดนข่มขืนจนครบคนแล้ว กูจะจับน้องสาวมึงไปขายซ่องที่ชายแดนแม่สายโน่น ถ้ามึงห่วงน้องมึง รักน้องมึงจริง ก็แค่เล่นสนุกกับพวกลูกน้องกูนิดหน่อย กูรับปากว่าจะปล่อยน้องมึงโดยที่ไม่ทำอันตรายใดๆ เลย กูรับรอง ตัดสินใจซะเดี๋ยวนี้ มึงมีเวลาไม่มาก กูจะนับแค่ห้าเท่านั้น หนึ่ง.....” อิทธิฤทธิ์ตาแดงก่ำสงสารน้องสาวเขาจับใจ แต่ข้อต่อรองมันช่างน่าขยะแขยง ทำให้เขาไม่สามารถตัดสินใจในทันที สิ้นคำห้าของไอ้เสก ลูกน้องมันพาอิงดาวเข้าไปอีกห้อง เสียงร้องไห้ของอิงดาวดังอีกครั้งเมื่อไอ้พวกหื่นพวกนั้นเริ่มลวนลามเธอ “หยุด....กูยอม....กูยอมแล้ว...แต่มึงต้องปล่อยน้องกูให้เป็นอิสระ” เขาตวาดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด พวกตำรวจคงจะเร่งมาช่วยเขาเมื่อรู้ว่าเขาหายตัวไป เขาครุ่นคิด “กูดีใจนะที่มึงคิดได้ กูรับรองว่าน้องมึงจะได้รับการปล่อยตัวให้เป็นอิสระ จริงๆแล้วพวกลูกน้องกูมันก็ไม่ค่อยชอบเล่นสนุกกับผู้หญิงนักหรอก มันชอบ......” ไอ้พ่อเลี้ยงชั่วหยุดคำพูดไว้แค่นั้น สายตาวาวจับจ้องมองใบหน้าอันหล่อเหลาของนายตำรวจมือปราบ อิทธิฤทธิ์นิ่ง “หรือว่าจะเป็นจริงอย่างข่าวลือที่ว่าไอ้เสกกับลูกน้องของมันเป็นพวกวิปริตผิดเพศ ถ้าอย่างนั้นอิงดาวก็คงจะปลอดภัยไปซักระยะ จนกว่าจะได้รับการช่วยเหลือ” เขาเหม่อครุ่นคิดอยู่นาน จนเสียงพ่อเลี้ยงเสกดังขึ้นทำลายความคิดเขา “ไอ้สง, ไอ้แมน, ไอ้เดช” ไอ้เสกเรียกลูกน้องของมัน “ครับ” เด็กหนุ่มสามคนที่อยู่ในวัยรุ่นประมาณสิบแปดสิบเก้ารับคำอย่างพร้อมเพรียง ดาหน้าออกมายืนเรียงหน้ากระดาน “พวกมึงเป็นเพื่อนเล่นกับสารวัตรของเราหน่อยเว้ย” “ได้เลยครับเจ้านาย” ไม่ทันขาดคำพวกมันก็เริ่มถอดเสื้อผ้าออกจนเหลือแต่กางเกงในที่โป่งนูนอัดแน่นไปด้วยความเป็นชายที่กำลังแข็งขมึง อิทธิฤทธิ์ทำท่าฮึดฮัดแต่ก็หยุดมองดูเด็กหนุ่มที่ขยับเข้ามาใกล้ล้อมรอบตัวเขา สองมือกำหมัดแน่นแต่ก็เหมือนถูกพันธนาการด้วยเชือกที่มองไม่เห็น “กูจะดูซิว่ามึงจะฤทธิ์เยอะอย่างชื่อรึเปล่า มาถอดกางเกงให้พวกกู....เร็ว” ไอ้เดชตวาดเสียงดังจนเขาสะดุ้ง อิทธิฤทธิ์ในท่านั่งคุกเข่าลังเล อย่างช้า ๆ เขาเอื้อมมือมาจับขอบกางเกงในของไอ้เดชไว้เตรียมรูดลง เมื่อไอ้สงตวาดสำทับบ้าง “ถอดให้กูด้วย....” อิทธิฤทธิ์กัดฟันกรอดใช้มือขวาจับกางเกงไอ้เดช มือซ้ายจับของไอ้สงแล้วรูดลงพร้อมกัน ทันทีที่กางเกงในถูกรูดลงไปที่ต้นขา ท่อน***ใหญ่แข็งปั๋งสองดุ้นก็ดีดผึงออกมาแทบจะชนเข้ากับหน้าของเขา อิทธิฤทธิ์ผงะกลิ่นคาวฉุนกึกปะทะจมูกเขาเต็มที่ ไอ้แมนที่อยู่ซ้ายสุดอดรนทนไม่ไหวมันจับกางเกงในแล้วรูดพรึดเดียวลงไปกองแทบเท้า เหมือนกับเพื่อนของมันท่อน***ยาวใหญ่ไม่แพ้กันก็ตั้งเด่ออกมาทันที การแก้ผ้าในหมู่ชายด้วยกันไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับเขา แต่สถานการณ์ตอนนี้กลับทำให้เขาประหม่า อิทธิฤทธิ์คอแห้งผาก กลืนน้ำลายอย่างลำบาก นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เผชิญหน้า***ของชายอื่นอย่างเต็มตาแถมเป็น***ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมาซะด้วย ***ยาวใหญ่แข็งโด่สามดุ้น หัวถอกบานร่าสีแดงคล้ำ เส้นเลือดปูดโปนพันอยู่โดยรอบ กระดกหัวหงึกๆ เหมือนเป็นการทักทายเขา ที่โคนรกไปด้วยพงหมอยดำหงิกงอ กระโปกสองใบใหญ่ห้อยอยู่อย่างน่าเกรงขาม เขาถูกสอนให้รักเกียรติและศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายจากพ่อ ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้เขามาเป็นตำรวจ แต่ตอนนี้ศักดิ์ศรีลูกผู้ชายของเขาได้ถูกท้าทายด้วยสิ่งที่มีศักดิ์ศรีไม่แพ้กัน เขาจ้อง***ใหญ่ตรงหน้าตาไม่กระพริบสมองว้าวุ่นไปหมดไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี “เอ้า....มองอยู่ได้ไอ้สัตว์....ลุกขึ้นมานี่” ไอ้แมนหมดความอดทน อิทธิฤทธิ์เงยหน้ามองพวกมันอย่างหมดความอดทนเช่นกัน “เอ๊ะไอ้***นี่มองหน้าหาเรื่องรึไงวะ” ไม่พูดเปล่ามันตวัดมือตบจนเขาหัวทิ่ม “ไอ้สัตว์” เขาสาบานได้ว่าความแค้นที่สุมอยู่ในอกมันมากพอจนเขาอยากจะฆ่าไอ้เดนนรกพวกนี้ อิทธิฤทธิ์ลุกขึ้นเค้นคอไอ้แมนจนขามันลอย ไอ้สงกับไอ้เดชต้องเข้าช่วยกันอย่างทุลักทุเล “มึงอยากเห็นน้องมึงไปเป็นกะหรี่ที่แม่สายใช่มั้ย” อิทธิฤทธิ์หยุดกึกคลายมือออกจากคอของไอ้แมนโดยอัตโนมัติ เขาจะเห็นแก่ตัวไม่ได้ เดิมพันมันสูงเหลือเกินเขาจะปล่อยให้น้องสาวเขามารับเคราะห์ไม่ได้ ไอ้แมนอาศัยจังหวะที่เขาใจลอยปล่อยหมัดตรงเข้าปลายคางจนผู้พันหนุ่มหน้าหงาย อิทธิฤทธ์ทรุดฮวบลงตามแรงหมัด ไอ้เดชจิกหัวเขา “เมื่อไหร่มึงจะจำหึ....ไอ้สัตว์ มึงไม่มีอำนาจมาต่อรองกับพวกกู นี่เป็นทางเดินที่มึงเลือก...ไม่สินี่เป็นทางเดียวของมึง มา....ลุกขึ้นมา ไปเลียจักแร้เพื่อนกูโน่น” มันสั่งมองไปที่ไอ้สง ที่ตอนนี้ยืนพิงกำแพงยกแขนสองข้างขึ้นเผยให้เห็นขนจักแร้ดำทะมึน อิทธิฤทธิ์ลูบคลำคางที่ยังระบมจากแรงชกละล้าละลัง จนไอ้เดชเตือนความจำโดยการถีบหลังเขาดังปั๊ก สารวัตรหนุ่มกำหมัดแน่นเดินเข้าไปหาไอ้สงอย่างกล้ำกลืน อิทธิฤทธิ์ฝืนความรู้สึกอย่างลำบาก เขาเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้จนกลิ่นตัวไอ้สงพลุ่งปะทะจมูก เขาย่นจมูกซุกหน้าไปยังพงขนสีดำแลบลิ้นออกมาเลียไปตามซอกรักแร้ของไอ้สงจนทั่ว พ่อเลี้ยงเสกนั่งมองลูกน้องมันเหยียดหยามศักดิ์ศรีนายตำรวจหนุ่มอยู่บนเก้าอี้มือลูบไล้เป้ากางเกงที่เริ่มพองด้วยอารมณ์ทางเพศที่พุ่งสูงขึ้น อิทธิฤทธิ์เองก็ไม่ต่างกันเขารู้สึกบางอย่างในร่างกายกำลังตื่น กลางสันหลังเหมือนมีกระแสไฟฟ้า วิ่งจนเสียววาบ รู้สึกปวดหนึบที่เป้ากางเกง เขารู้สึกอายตัวเองทั้งๆ ที่ถูกกระทำย่ำยีจนเกียรติของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ถูกทำลายลงอย่างย่อยยับ แต่เขากลับมีความต้องการทางเพศจนสุดระงับ ***ในกางเกงยิ่งแข็งมากเท่าไหร่ ลิ้นเขาก็ยิ่งชอนไชเลียรักแร้ของไอ้สงเร็วขึ้นเท่านั้น ไอ้สงสูดปากด้วยความเสียว มันเบี่ยงตัวให้อิทธิฤทธิ์เลียรักแร้อีกข้างซึ่งเขาก็ไม่ขัดขืน เหมือนกับว่ากลิ่นเหงื่ออับชื้นของไอ้สงเป็นน้ำหอมชั้นดี “ดีมาก” ไอ้เดชพอใจที่เห็นว่าศัตรูมันเริ่มจะยอมรับสถานะใหม่ของตัวเองแล้ว มันผลักเขาลงไปที่พื้น “ต่อไป...เลียตีนไอ้แมนซะ...เลียให้สะอาดนะโว้ย” อิทธิฤทธิ์เงยหน้ามองไอ้เดชเหมือนไม่เชื่อหูตัวเอง “มอง***อะไร เลียตีนสองข้างของไอ้แมนให้เกลี้ยง” ไอ้เดชพูดอย่างมีอารมณ์ ยกตีนขึ้นทำท่าจะเตะ ได้ผลนายตำรวจหนุ่มเขยิบตัวแนบหน้าไปที่ตีนของไอ้แมนแล้วเริ่มเลีย เสียงหัวเราะดังของพวกพ่อเลี้ยงดังก้องโรงงานด้วยความสะใจที่ศัตรูถูกกระทำจนไม่เหลือคราบนายตำรวจมือปราบ ไอ้เสกที่จับตามองอยู่ตลอดเวลา เห็นความเปลี่ยนแปลงของสารวัตรหนุ่ม รู้ดีว่ายาปลุกเซ็กส์ที่ผสมอยู่ในข้าวเริ่มออกฤทธิ์ อิทธิฤทธิ์ก้มหน้าลากลิ้นวนเวียนไปมาบนหลังตีนไอ้แมนสายตาพลันเหลือบเห็นหัว***ตัวเองที่ดันโผล่พ้นขอบกางเกงในออกมารู้สึกอายแทบแทรกแผ่นดินหนีที่วินาทีนี้เขากลับถูกครอบงำด้วยอารมณ์ทางเพศจนระงับไว้ไม่อยู่ ชั่วขณะหนึ่งเหมือนสติเขาจะกลับคืนมา อิทธิฤทธิ์ทะลึ่งตัวขึ้นเหวี่ยงหมัดใส่ไอ้เดชจนมันหน้าคะมำ ตวัดขาเตะไอ้สงล้มก้นกระแทกพื้น แต่ก่อนที่เขาจะทะยานใส่ไอ้เสกบนเก้าอี้ บอดี้การ์ดที่อยู่ข้างไอ้เสกก็ช๊อตเขาด้วยที่ช๊อตไฟฟ้า “ อ๊ากกกกก.......” นายตำรวจหนุ่มสะท้านเฮือกล้มลง “ มึงชอบความรุนแรงใช่ไหม” ไอ้เดชด่าตรงเข้ามากระทืบไปยังร่างสารวัตรมือปราบโดยที่มือยังคลำป้อย ๆ ที่ปลายคาง “อย่างงี้ก็ดีซิวะ มึงยิ่งเจ็บกูยิ่งเงี่ยน” ไอ้แมนเสริม พ่อเลี้ยงเสกตอนนี้อารมณ์เงี่ยนขึ้นสูงสุด ยิ่งเห็นศัตรูเริ่มมีอารมณ์จากการที่ถูกกระทำแล้วยิ่งทำให้มันทนไม่ไหว ปลดตะขอกางเกงควักเอา***ที่แข็งจนแทบระเบิดออกมาชัก “เอาละ...ทีนี้ถึงเวลาแดกของคาวแล้ว” ไอ้แมนกดไหล่เขาให้คุกเข่าจนท่อน***แข็งแทบชนปาก อิทธิฤทธิ์มองดูหัว***ใหญ่ที่อยู่ห่างไม่ถึงนิ้ว ปากคอเขาแห้งไปหมด กลืนน้ำลายอีกครั้ง เหลือบตามองไปยังที่ช๊อตไฟฟ้าในมือของการ์ด เขารู้ดีลำพังเขาเองไม่มีทางเอาชนะพวกมันได้ ไหนจะอิงดาวและอาเดที่เขาเป็นห่วงอีก ทางเดียวที่จะรอดคือต้องยอมพวกมัน “เอาเลย กูรู้ว่ามึงอยาก จูบที่หัวก่อนแล้วค่อยๆ อมแล้วก็ดูด” ไอ้แมนแนะนำ เหมือนโดนสะกดจิต อิทธิฤทธิ์กลั้นใจยื่นปากไปจนติดกับหัว*** จูบเบาๆ ทีนึง แล้วอ้าปากออกช้าๆ อมหัว***เข้าไปในปาก “ซี้ดส์” ไอ้แมนสูดปากดังสยิวไปทั้งตัว อิทธิฤทธิ์ต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่ต้องสะกดกลั้นไม่ให้อ้วก กลิ่นน้ำเมือกคาวฉุนทำเขาชะงัก ทีละนิดๆ ***ใหญ่ของไอ้แมนก็ถูกอมเข้าไปครึ่งลำแต่เขากลับรู้สึกว่ามันคับแน่นไปทั้งคอจนแทบสำลัก “อมเข้าไปให้สุด” ไอ้สงยืนเชียร์อยู่ด้านข้าง แต่เขาก็ไม่สามารถอมได้มากกว่านั้น ไอ้แมนตอนนี้หลับตาพริ้มด้วยความเสียว มันกระเด้าเด้งเข้าเด้งออก***ปากชายหนุ่มอย่างเมามันถี่ยิบจนอิทธิฤทธิ์หายใจแทบไม่ทัน และในระหว่างที่เขาไม่ทันระวังตัวไอ้สงจับหัวเขาดันเข้าหาท่อน***แข็งเต็มแรง “พรวด” จนหัว***ทะลวงถึงคอหอย อิทธิฤทธิ์ดิ้นพราดตาเหลือกลานจนน้ำตาเล็ด “โอ๊ก....ๆๆๆ...” เขาสำลัก ไอ้สงยิ้มสะใจ “มึงต้องอมอย่างนี้ เอาให้ลึกจนสุดคอหอยนี่ๆๆๆ” มันพูดจับหัวเขาโยกเข้าโยกออกกับดุ้น***แข็งโป๊ก ไอ้เดชไม่รอช้าจ่อหัว***มันเข้ามาบ้าง “โม้คให้กูมั่ง เงี่ยนฉิบหาย” ไอ้สงก็สงเคราะห์โดยการจับหัวนายตำรวจหนุ่มย้ายมาที่***ดุ้นใหม่ อิทธิฤทธิ์สมองมึนงงจากการสำลักอย่างหนัก รู้สึกขยาดลังเลไม่ยอมอม***ให้ไอ้เดช ไอ้เดชรู้สึกงุ่นง่านเงี่ยนจนสุดทนเตะโครมเข้าที่ชายโครงของผู้พันมือปราบเสียงดัง “พลั่ก” อิทธิฤทธิ์เซล้มไปด้านข้างเขารีบโผเข้าหา***ใหญ่ของไอ้เดชแทบจะทันทีก่อนที่ไอ้เดชจะซ้ำ อ้าปากอมรวดเดียวเข้าไปเกือบเต็มลำ “เออ...ไอ้***นี่ชอบของหนัก” มันหัวเราะชอบใจ วินาทีนี้ไม่มีเวลาให้คิดอะไรอีกแล้วอิทธิฤทธิ์ตั้งหน้าตั้งตาดูดท่อน***ที่อยู่ในปากอย่างร้อนรนฟันกระทบกับหัวเงี่ยงจนไอ้เดชครางด้วยความเจ็บเสียว มันถอน***ออกจากปากแล้วตีไปที่ใบหน้าของเขาอย่างแรง “ดูดอย่างเดียวซิวะ อย่าให้โดนฟัน” มันเอา***ตีปากเขาเป็นการทำโทษ ไอ้เดชตีจนหนำใจก็ยัดหัว***เข้าไปใหม่ จับหัวสารวัตรหนุ่มไว้แน่นส่วนเอวก็กระเด้าส่งท่อน***เข้าออกอย่างเมามัน หลังจากที่สำลักน้ำลายเกือบตายคา***ไอ้แมน อิทธิฤทธิ์เริ่มจับจังหวะถูก ช่วงที่ไอ้เดชทะลวงหัว***เข้ามาจนสุดโคนเขาก็ผ่อนลมหายใจ แล้วเริ่มสูดลมหายใจลึกตอนที่***ถูกถอนออก ปรับลมหายใจวนเวียนอยู่อย่างนี้จนเขาสามารถอม***ใหญ่จนถึงคอหอยได้โดยไม่สำลัก “อูย..เริ่มสนุกแล้วใช่ไหมมึง...ซี้ดส์” ไอ้เดชครางเสียงกระเส่าเมื่อหัว***ถูกดูดปลายลิ้นถูไถไปตามรอยหยัก อิทธิฤทธิ์ไม่ตอบ เขาจะตอบได้ยังไงเมื่อ***ใหญ่ยังคงทะลวงเข้าออกปากเขาไม่หยุดหย่อน ไอ้สงที่ยืนถอก***รอคิวของมันเดินส่าย***เข้ามาร่วมวง ตอนนี้อิทธิฤทธิ์ถูกล้อมรอบไปด้วย***สามดุ้น ไอ้สงกระชากหัวเขาจน***ไอ้เดชหลุดจากปากดังบล๊อก ดูเหมือนความเงี่ยนจากฤทธิ์ยาทำให้เขาลืมทุกสิ่งทุกอย่าง ทันทีที่***ไอ้สงจ่อตรงหน้าเขาก็อ้าปากอม***มันทันทีโดยไม่ต้องรอคำสั่ง เขาใช้เทคนิคที่เพิ่งค้นพบดูดเลียหัว***ไอ้สง จนไอ้สงครางลั่น “ซี้ดส์...” มันจับหัวแล้วกระเด้า***ปากเขาถี่ยิบ เขาพบว่ายิ่งเขาดูด***มากเท่าไหร่ ความทุลักทุเลก็ลดน้อยลงเท่านั้น ทุกครั้งที่***ใหญ่มุดทะลวงปากเขาจนสุดโคน เส้นหมอยหงิกงอแยงชอนไชเข้ารูจมูก กระโปกใหญ่ตีผลัวะๆ เข้าที่คางเขาเป็นจังหวะ เขาก็ยิ่งเงี่ยนท่อน***เขาแข็งจนเจ็บ เริ่มปวดหนึบๆ จากน้ำเงี่ยนที่อัดแน่นเต็มไข่ อยากจะชักว่าวใจจะขาดแต่ก็ฝืนเอาไว้ เขาไม่อยากแสดงถึงความอ่อนแอและพ่ายแพ้แก่พวกมัน หลังจากที่ควบคุมลมหายใจได้แล้วอิทธิฤทธิ์ก็จดจ่ออยู่กับกระดอเขื่องตรงหน้า ***อันแล้วอันเล่าทะลวงปากเขาจนเจ่อ กระพุ้งแก้มโป่งเข้าโป่งออกตามจังหวะดุ้น***ที่แยงเข้าออกซ้ายทีขวาที..... เขายังเชื่อมั่นว่าไม่นานพวกตำรวจจะบุกมาช่วยอย่างแน่นอน การที่เขายอมทำตามพวกมันก็เพียงเป็นการถ่วงเวลาเท่านั้น เขาหวังว่าทุกอย่างจะจบลงโดยเร็ว และทิ้งทุกอย่างไว้ที่นี่เหมือนกับฝันร้าย เขากับน้องและอาเดก็จะเป็นอิสระ...... อาเด! เขาลืมเสียสนิท “อาเดจะคิดยังไงที่แกไม่เข้มแข็ง ยอมให้พวกมันย่ำยีศักดิ์ศรี” เขาต่อว่าตัวเองในใจ

ไม่มีความคิดเห็น:

เด็กหอ 8 CP

มื่อกานต์เก็บของจากห้องตัวเองเสร็จ จึงมาหาอาจารย์ภัทรที่ห้อง ส่วนภัทรอาบน้ำทำความสะอาดเนื้อตัวเรียบร้อย ควยของภัทรแข็งรอกานต์อยู่นานแล้ว &...