รุ่งอรุณวันใหม่เริ่มขึ้น แต่ความเจ็บปวดของสองแม่ทัพยังไม่เลือนหายไป เหตุการณ์สมสู่กันระหว่างสายเลือดแท้ๆ ของสองพ่อลูก คงยากที่จะทำให้กลับมามองหน้ากันได้อีกครั้งหนึ่ง
ยามนี้องค์ชายเรินถูกจับมัดขึงร่างติดอยู่กับเสาไม้กางเขนในสภาพเปลือยเปล่า สองแขนขนาดใหญ่ถูกตรึงไปคนละฝั่ง สองเท้าถูกมัดรวบติดกัน ใบหน้าหมองคลำไม่สดใส ผมเผ้ารุกรัง เนื้อตัวสกปรกมอมแมม แต่กระนั้นก็ยังลดทอนความงามของเทพบุตรอย่างซู่เรินได้เลย
วันนี้หลี่เฉินมีคำสั่งให้นำตัวองค์ชายกลับไปยังเมืองเหอเป่ย เมืองที่องค์ชายเรินพึ่งจากมาในฐานะกษัตริย์ผู้ปกครอง แต่กำลังจะกลับไปในฐานะทาสเชลย
ขบวนส่งเสร็จถูกจัดเตรียมพร้อม ถ้าจะเรียกให้ถูกน่าจะเป็นขบวนแห่เสียมากกว่า เพราะในตอนนี้ไม่มีแม้พระที่นั่งหรือม้าอาชาศึก มีเพียงเสาไม้กางเขนที่แขวนร่างเปลือยของหนุ่มน้อยหน้าตาดีไว้ พร้อมด้วยทหารรับใช้ของหลี่เฉินราว 10 กว่าคน
“พวกเจ้าจงพาคุณชายเรินไปให้ถึงเมืองเหอเป่ยโดยสวัสดิภาพ เมื่อถึงที่นั่นให้คุณชายทำงานเป็นทาสที่เหมืองแร่ในตัวเมือง โดยให้เพื่อนรักของข้า นามว่าเง็กจือเป็นผู้ดูแล”
เง็กจือเป็นชายหนุ่มหน้าตาดี อายุรุ่นราวคราวเดียวกับหลี่เฉิน ทั้งสองเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก ก่อนที่หลี่เฉินจะแฝงตัวเข้ามาในเมืองต้าเหลียน ส่วนเง็กจือนั้นก็ถูกใช้แรงงานเป็นทาสอยู่ที่เมืองเหอเป่ย ด้วยความที่ทำงานหนักใช้แรงมากตั้งแต่เด็ก ทำให้เง็กจือเติบโตเป็นชายหนุ่มผิวขาวใส รูปร่างกำลังดี ไม่ผอมแห้งแรงน้อย แต่ก็ไม่ได้มีกล้ามใหญ่จนเกินงาม ยามถอดเสื้ออวดทรวดทรงก็เรียกน้ำลายจากชายหญิงได้มากโข
“ท่านพ่อท่านแม่...ข้าจะกลับมา ล้างแค้นให้ท่านสักวัน” ซู่เรินเค้นคำพูดออกผ่านไรฟันที่ขบแน่น
ก่อนขบวนแห่จะเริ่มเคลื่อนออกจากเมืองต้าเหลียน มุ่งสู่เมืองเหอเป่ย
..........................................................................................................................................................
ณ เมืองเหอเป่ย
ขบวนแห่ร่างเปลือยของคุณชายเรินเดินทางมาถึงแล้ว ประตูเมืองถูกเปิดออกต้อนรับ แต่ภาพที่เห็นกลับสร้างความแปลกใจให้ทหารและทาสในเมืองเป็นอย่างมาก
ร่างของซู่เรินค่อยๆ เคลื่อนผ่านสายตาของผู้คนในบริเวณนั้นจำนวนมาก ชายหนุ่มถูกจ้องมองจากดวงตานับร้อยคู่ที่กำลังเก็บภาพประวัติศาสตร์ในครั้งนี้ ภาพที่คุณชายรูปงามถูกจับมัดตัวลอยติดเสา ปล่อยองคชาติและไข่ห้อยยานสั่นไปตามแรงเคลื่อน ดกหมอยดกดำปกคลุมไปทั่วเครื่องเพศ
ช่างน่าอายเหลือเกินที่เขาต้องมาอวดของดีให้ทหารและทาสดูโดยไม่เสียแม้ตำลึงเดียว ร่างกายที่เคยเป็นที่หมายปองของหญิงสาวทั้งหลาย บัดนี้ถูกมองแทะโลมอย่างหื่นกระหายจากเหล่าทาสในเมืองที่ไร้ซึ่งสตรีมานาน ทุกพื้นที่บนร่างไม่เหลือสิ่งใดให้จินตนาการ ทั้งหัวนมสีชมพูดอกท้อ ทั้งเส้นขนทุกเส้นใต้รักแร ทั้งกล้ามเนื้อใหญ่โต ทั้งหัวฆวยที่ทิ้งปลายลงสู่แผ่นดิน
“แม่ทัพซู่เหวินมีรับสั่ง ให้ราชบุตร-องค์ชายซู่เริน-เข้ารับการฝึกทำงานพร้อมพวกทาสทั้งหลายในเมืองนี้ กินนอนพร้อมทาส ไม่มีชนชั้น เพื่อให้ราชบุตรมีประสบการณ์ รู้และเข้าใจความรู้สึกของทุกชนชั้นก่อนขึ้นเป็นกษัตริย์ โดยแต่งตั้งเง็กจือให้เป็นผู้ดูแล” ทหารในขบวน กล่าวออกมาประกาศเสียงดังฟังชัด ได้ยินไปทั่วบริเวณ สร้างเสียงโห่ร้องอย่างดีใจแก่ทาสทั้งหลายในตัวเมือง
เง็กจือก้าวเท้าออกมาจากหมู่คน พร้อมรับราชโองการ สองตาของซู่เรินสบกับเจ็กจือชั่วขณะ ก่อนจะหลบสายตาไปอีกทาง เบื้องหน้าซู่เริ่นคือชายหนุ่มใบหน้างดงาม รูปร่างสมส่วน แววตากลมสดใส ส่วนเบื้องหน้าของเง็กจือคือชายฉกรรจ์หล่อเหลา มัดกล้ามใหญ่ชัด พร้อมเครื่องเพศที่ยากจะละสายตามอง
“คุณชายเริน ท่านช่างโชคร้ายเหลือเกินที่ต้องมาตกอยู่ในสภาพเช่นนี้” เง็กจือได้แต่ถอนหายใจ
………………………………………………………………………………………………………………………………………….
ฝั่งแม่ทัพซู่เหวิน ยามนี้จิตตกยิ่งหนัก ความเจ็บปวดบริเวณทวารที่ถูกแหวกทำลายโดยบุตรชายยังเทียบไม่ได้กับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นภายในจิตใจ
ในระหว่างที่ขบวนแห่ร่างเปลือยของบุตรชายกำลังเดินทาง ขบวนเยี่ยมราษฏรของเขาก็ถูกจัดเตรียมขึ้นเหมือนทุกครั้งที่แม่ทัพจะเสด็จออกตรวจเมืองและเยี่ยมเยียนประชาชน ต่างที่เครื่องแต่งกายของแม่ทัพที่มีเพียงผ้าเตี่ยวผืนเล็ก ที่ถูกสั่งปักลายสัญลักษณ์ประจำตระกูล ปิดตรงองคชาติเท่านั้น
วันนี้แม่ทัพใหญ่ใส่ผ้าเตี่ยว กำลังขึ้นนั่งบนอานม้าศึกคู่ใจ ขณะที่ประตูจวนถูกเปิดออก เผยให้เห็นเหล่าประชาชนที่มารอนั่งอยู่สองฝั่งข้างทาง หวังเชยชมบารมีของผู้นำอย่างซู่เหวินสักครั้ง
ขบวนเริ่มเคลื่อนออกจากประตูเมืองได้ไม่นาน ก็เริ่มเกิดความโกลาหลเล็กน้อย เกิดเสียงซุบซิบนินทา บ้างก็เบือนหน้าหนี บ้างก็จ้องไม่ละสายตา
เมื่อภาพตรงหน้าไม่ใช่สิ่งที่ประชาชนเฝ้ารอ ไม่มีภาพผู้นำที่สง่างามเกรียงไกร แต่เป็นภาพของแม่ทัพที่เปลือยส่วนบน เผยแผงอกขนาดใหญ่ หัวนมชูชัน กำลังขี่ม้าศึกสีขาวคู่ใจ เบื้องล่างมีผ้าเตี่ยวทรงสี่เหลื่ยมปิดไว้เฉพาะเครื่องเพศ ที่เมื่อมองจากด้านล่างขึ้นไปยังอานม้า ก็เห็นพวงไข่ยานพร้อมขนหมอยท่านแม่ทัพที่ขึ้นประปรายได้ไม่ยาก
ยามม้าเคลื่อนที่ไป ผ้าเตี่ยวก็ขยับขึ้นลงตามจังหวะการเดิน หากชายหญิงคนใดจ้องให้ดี ก็จะสามารถมองเห็นฆวยใหญ่ของท่านไม่ทัพได้ไม่ยาก แม้จะเป็นเพียงแวบเดียว แต่ก็สร้างความอยากรู้อยากเห็นแก่ผู้จ้องมองได้มาก
แม้จะยังงุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ประชาชนก็ยังคงไม่ไปไหน รอท่านแม่ทัพเสร็จขึ้นแท่น
บังลังค์ใจกลางเมือง เพื่อหวังได้ยินเสียงน่าเกรงขามของผู้นำยามประกาศข่าวสารที่แท่นใจกลางเมือง
ขบวนเสร็จเดินทางใจกลางเมือง ท่านแม่ทัพเสร็จลงจากหลังม้า ก่อนเดินขึ้นบังลังค์พร้อมสายตาจับจ้องไม่ลดละมาที่ร่างกายของท่านแม่ทัพ เพราะบั้นท้ายของแม่ทัพไม่มีผ้าเตี่ยวปกปิดเหมือนด้านหน้า จึงเผยให้เห็นก้นกลมของท่านแม่ทัพ ยามเดินขี้นบันไดทำให้มองเห็นรูทวารที่บานแดงออก หลายคนตาค้างกับภาพที่เกิดขึ้น
“อดทนเข้าไว้ อดทนเข้าไว้...ข้าจะต้องผ่านมันไปให้ได้” ซู่เหวินคิดขณะถูกจ้องมองเรือนร่างจากประชาชนผู้เป็นที่รัก
แม่ทัพเดินมาถึงใจกลางแท่น ยืนอวดรูปกายยามต้องแสงจ้า ช่างงดงามเหลือเกิน ผิวหนังมีเหงื่อไคล สะท้อนกับแสงแดดดูเหลื่อมมัน วับวาวเป็นประกาย ผ้าเตี่ยวได้รับผลจากน้ำเหงื่อ ทำให้บัดนี้เปียกชุ่ม เผยให้เห็นเค้าโครงเครื่องเพศขนาดไม่ธรรมดา ยกนูนเด่นอยู่ใต้ผืนบางที่แทบปิดไม่มิด
“ประชาชนที่รักทั้งหลาย ข้าในฐานะแม่ทัพใหญ่ผู้ปกครองดินแดนแห่งนี้ ขอประกาศว่ายามนี้บ้านเมืองอยู่ในความสงบดี ไม่มีศึกหรือภัยอันใดให้ต้องระแวง” แม่ทัพเริ่มทำหน้าที่
เวลาล่วงเลยไป แม่ทัพได้ประกาศข่าวสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับบ้านเมืองและประชาชน ทุกเรื่องไม่มีสิ่งใดน่าเป็นห่วง ที่น่าห่วงคือขนาดผ้าเตี่ยวที่ดูเหมือนจะปกปิดองคชาติที่ค่อยๆ ขยายขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ของแม่ทัพไม่ไหวเมื่อใกล้ยามวอก
ยามนี้ดูข่าวสารจะน่าสนใจน้อยกว่าของดีของท่านแม่ทัพเสียแล้ว ประชาชนเริ่มหลั่งไหลเข้ามาเบื้องหน้าแท่นประกาศ จ้องมองสิ่งที่ไม่คิดว่าจะได้มีโอกาสเห็น พรางคิดไปต่างๆ นานา
“วันนี้แม่ทัพซู่กินอะไรผิดสำแดงมาหรือเปล่า?”
“แม่ทัพเล่นพิเรนทร์อะไรกัน? แต่งตัวน่าขันยิ่งนัก”
“แม่ทัพรูปงาม ฆวยท่านกำลังจะแข็งตัวจริงๆ หรือนี่?”
“ทำไมแม่ทัพจึงเกิดกำหนัดต่อหน้าประชานชน ใจกลางเมืองเช่นนี้?”
“หุ่นแม่ทัพช่างดีเหลือเกิน อยากรู้ว่าฆวยของท่านจะดีเหมือนหุ่นหรือไม่?”
“ขนาดมองผ่านผ้าเตี่ยว ฆวยแม่ทัพยังดูใหญ่ขนาดนี้ ชักอยากเห็นของจริงเสียแล้ว”
“ไอ้ซู่เหวินฆวยใหญ่ นี่ใกล้จะยามวอกแล้ว หากไม่รีบดำเนินการ เจ้าคงไม่รอดแน่” หลี่เฉินกระซิบบอกแม่ทัพให้ทำตามที่นัดแนะไว้
แม่ทัพหลับตา ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนสูดหายใจเข้าลึก หน้าแดง พร้อมประกาศเสียงดังว่า
“ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ เงี่ยนได้ชักว่าวเป็น บัดนี้ฆวยข้ากำลังแข็ง ขอสั่งให้ประชาชนทุกคนมองฆวยข้าให้ดี อย่ากระพริบตาเด็ดขาด”
ทันทีที่ประกาศจบ ผ้าเตี่ยวผืนเล็กก็ถูกกระชากออกโดยมือของแม่ทัพเอง ทุกคนในที่แห่งนั้นล้วนตกใจกับภาพที่เกิดขึ้น ต่อมาเปลี่ยนเป็นความตะลึง เมื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า คือกษัตรย์ปกครองเมือง ยืนกลางแท่นเวที ไม่มีสิ่งใดปกปิดร่างกายแม่ทัพยืนเด่นอยู่กลางเวทีพร้อมด้วยขนาดความเป็นชายที่ไม่ธรรมดา ขนาดฆวยที่ชายทุกคนในเมืองยังคิดอิจฉา หญิงทั้งหลายกลืนน้ำลายตาค้าง ฆวยใหญ่ใหญ่ยาว ตั้งโด่ชี้ฟ้า แข็งทะมึน ลำอวบยิ่งกว่าข้อมือแม่ทัพ กำไม่รอบ เส้นเลือดปูดโปน ขึ้นเต็มอยู่รอบลำฆวย หัวฆวยบานสีม่วงคล้ำ พวงไข่ยาน ลูกใหญ่กลมรี พร้อมด้วยดงขนหยิก ที่ขึ้นกระจายไปทั่วเนินฆวย
“พวกเจ้าเห็นฆวยข้าแล้ว มีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง?” แม่ทัพพูดตาที่หลี่เฉินเคยสั่งไว้ ก่อนชี้นิ้วถามชายหนุ่มคนหนึ่งเบื้องล่างแท่นประกาศ
“ขะ...ขะ..ข้ามิกล้าออกความเห็นขอรับ ท่านแม่ทั....” ชายหนุ่มตัวสั่น สายตาจับจ้องที่ฆวยผู้นำ
“เหลวไหล ข้าถามเจ้าอยู่ จงตอบมาตามจริง ไม่เช่นนั้นข้าจะสั่งลงโทษเจ้า” แม่ทัพพูดแทรกชายหนุ่ม
“ระ..เรียนท่านแม่ทัพ ลำฆวยของท่านชะ..ช่างใหญ่โตราวกับกระบองไม้ไผ่ ใหญ่กว่าของข้าหลายเท่านัก” ชายหนุ่มตอบตะกุกตะกัก
“แล้วเจ้าคนนั้นคิดเห็นกับฆวยข้าอย่างไร?” แม่ทัพเปลี่ยนไปถามชายหนุ่มอีกคน
“ฆวยท่านแม่ทัพดูช่างน่าเกรงขาม ทั้งใหญ่ทั้งยาว ส่วนหัวฆวยก็งดงามเหมือนดอกเห็ดยามต้องฝน บานสะพรั่ง อัณฑะทั้งสองก็ดูบวมเต่ง ราวกับบรรจุน้ำอมฤตไว้ปริมาณมหาศาลขอรับ” ชายหนุ่มอีกคนรีบตอบด้วยกลัวถูกลงโทษ
“ท่านผู้เฒ่าคนนั้นละว่าอย่างไร? ฆวยข้าเป็นเช่นไร?” แม่ทัพหันไปถามชายแก่คนหนึ่ง
“นับตั้งแต่ข้าเกิดมาจนบัดนี้ ยังมิเคยพบเห็นอวัยวะเพศของผู้ชายคนไหนใหญ่ได้เทียบเท่ากับของท่านเลย น้ำหล่อลื่นช่างเยอะอย่างไม่น่าเชื่อ เหมือนเมือกจากทากนับร้อยตัว่ พวยพ่นหลั่งไหลออกมาไม่หยุด สมชายชาตรีอย่างท่านยิ่งนัก” ชายแก่ตอบ
บัดนี้เข้าสู่ยามวอกแล้ว ความกำหนัดเริ่มแผ่ซ่าน พร้อมลำฆวยที่ปล่อยน้ำใสออกมา ไหลนองไปทั่วพื้นเวที แม่ทัพเริ่มคุมสติไม่อยู่ กำมือสาวฆวยต่อสายตาประชาชนที่ถูกแม่ทัพสั่งให้จ้องมองเขาตลอด เงยหน้าเม้มปาก ตั้งหน้าตั้งตาชักว่าวอย่างมีความสุข ท่ามกลางแสงแดดจ้า เหมือนคนบ้าเสียสติ
จู่ๆ ทหารหลายคนก็ขึ้นมาจับแม่ทัพไว้แน่น พร้อมกับที่หลี่เฉินขึ้นมาประกาศต่อหน้าประชาชนว่า
“บัดนี้ท่านแม่ทัพเหมือนคนเสียสติไปแล้ว ข้าในฐานะองค์รักษ์ผู้ดูแลขอพันธนาการแม่ทัพไว้ก่อนที่เรื่องจะบานปลาย”
ทหารทั้งหลายตรงเข้าจับแม่ทัพมัดกับเสาหลักกลางเวที เชือกถูกมัดข้อมือรวบเข้าหากัน และไพร่ไว้หลังเสา ก่อนใช้เชือกอีกเส้นพันรอบตัวยึดแม่ทัพติดกับเสา ขยับร่างกายไม่ได้ มีเพียงฆวยเท่านั้นที่ยังกระดกพ่นน้ำใสไหลยืดยาวออกมา
“ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้นะ ปล่อยข้า!!! ข้าเงี่ยน ต้องชักว่าว ข้าต้องน้ำแตกตอนนี้” แม่ทัพดิ้นทุรนทุราย โวยวายต่อหน้าธารกำนัล ที่ยังคงยืนจ้องมองผู้นำตรงหน้า
“ท่านต้องสงบสติอารมณ์ให้ได้ก่อนพะยะค่ะ ข้าจึงจะปลดท่านลงมา” หลี่เฉินบอกกับแม่ทัพให้ประชาชนได้ยิน
“หาทางเอาตัวรอดเองนะซู่เหวิน ข้าจะมัดเจ้าไว้ที่นี้จนครบกำหนด 3 วันที่จะกำลังพิษแมงมุมออกหมด ข้าจะรอดูวิธีเอาตัวรอดชองเจ้า ฮ่าๆๆๆ ” หลี่เฉินโน้มตัวไปกระซิบข้างหูแม่ทัพใหญ่
เมื่อท่านแม่ทัพถูกตรึงเรียบร้อย เหล่าทหารทั้งหลายก็พากันลงจากเวทีและเดินทางกลับเข้าจวน ปล่อยให้แม่ทัพฉายเดี่ยว ร้องตะโกนลั่น แสดงความกำหนัดถึงขีดสุดให้ประชาชนรับชมเป็นบุญตา
“ใครก็ได้ ปลดปล่อยข้าที ข้าเงี่ยนไม่ไหวแล้ว โอ๊ย..เงี่ยนเหลือเกิน” แม่ทัพร้องลั่นอย่างน่าสมเพช
ประชาชนได้แต่ยืนดูภาพตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา เป็นไปได้อย่างไรที่ท่านแม่ทัพจะแสดงพฤติกรรมน่ารังเกียจออกมาเช่นนี้ ชายหนุ่มชาตินักรบรูปงามที่มาร้องตะโกนขอให้คนช่วยให้หลุดจากความเงี่ยน ชายหนุ่มขวัญใจเหล่าประชาที่มายืนแสดงฆวยต่อหน้าชายหญิงในที่นี้
เมื่อรับกับภาพตรงหน้าไม่ได้ ประชาชนบางคนเริ่มทะยอยกลับ แยกย้ายไปคนละทาง บ้างก็ยืนสายหัว บ้างก็ถอนหายใจ จนเหลือคนหน้าแท่งอยู่ไม่มาก
“พวกเจ้าอย่าพึ่งไป ห้ามไปไหน!!! ข้าขอสั่งให้กลับมา กลับมาชักว่าวให้ข้าที ข้าเงี่ยนไม่ไหวแล้ว” แม่ทัพได้แต่ตะโกนตามหลังผู้คนที่เดินหนีกลับ
ระหว่างที่ร้องตะโกนหาคนช่วย บั้นเอวแม่ทัพก็พยายามเด่งสวนแทงอากาศ กระเด้าความว่างเปล่าเบื้องหน้า ปล่อยน้ำเมือกออกมาได้อีกหลายระลอก ปุดๆ ออกจากปากหัวฆวยบาน ครั้นแม่ทัพก็เหลือบไปเห็นขอทานคนหนึ่งนอนอยู่ข้างกองขยะ จึงเกิดความคิดดีๆ ขึ้นมา
“ทะ..ท่านๆ ท่านยาจกรูปงาม ข้าขอร้องท่าน ได้โปรดสาวฆวยให้ข้าทีเถอะ ข้าปวดฆวยไปหมดแล้ว ข้าเงี่ยนฆวยเหลือเกิน” แม่ทัพละล่ำละลักน้ำเสียงสั่น
“ข้ามิกล้าหรอกท่านแม่ทัพ ท่านเป็นถึงผู้นำใหญ่แห่งแคว้น ข้าเป็นเพียงคนจรไร้หัวนอนปลายทาง มิอาจกล้าสัมผัสร่างกายท่านหรอกขอรับ” ขอทานตอบด้วยความกลัว
“ด้วยเกีรยติแห่งกษัตริย ข้าสัญญาว่าจะไม่ลงโทษเจ้า อีกทั้งยังจะตบรางวัลให้อย่างงาม ขอเพียงเจ้าทำให้ข้าน้ำแตกได้ก็พอ” แม่ทัพพูดกระอึกกระอัก แข่งกับยามวอกที่ใกล้หมดลงทุกทีๆ
“เจ้าเห็นผ้าเตี่ยวผืนนั้นไหม? นั่นมีตราสัญลักษณ์ประจำสกุลซู่อยู่ ขอมอบให้เจ้าเลย หากเจ้ามีติดตัวไว้ ทหารทั้งหลายยังต้องเกรงกลัว” แม่ทัพหมดหนทาง
ขอทานชั่งใจอยู่ไม่นาน จึงตัดสินใจลุกขึ้น เดินไปยังแท่นเวที เพื่อระบายความกำหนัดให้แม่ทัพใหญ่ที่บัดนี้ฆวยบานตึงไปทั่วลำ พ่นของเหลวใสออกมาไม่หยุด
ขอทานค่อยๆ ใช้มือสกปรก หยาบด้าน จับเข้าที่ฆวยของพระราชา สร้างความเสียวซ่านให้กษัตริย์ใหญ่ได้มากนัก ทันทีที่มือโสโครกกำรอบลำฆวย แม่ทัพก็เด่งฆวยสวยสะอาด สวนกระเด้ามือขอทานนั้นทันที หัวฆวยผุบเข้าออกมือเหม็นของขอทานอย่างถี่ยิบ
น้ำเมือกไหลเปื้อนมือขอทานไปทั่ว เกิดไปฟองเมือกรวมกับความสกปรกของมือที่หยิบจับขยะของขอทาน ทำให้ฆวยสวยเปรอะเปื้อนไปหมด ไม่นานแม่ทัพก็ชะลอการซอยฆวยเข้าออกมือยาจก
“ท่านยาจกใจบุญ ได้โปรดชักว่าวให้ข้าที ลูบไล้ร่างกายให้ข้า บีบหัวนมข้า ข้าเงี่ยนจัดแล้ว” แม่ทัพพูดเสียงกระเส่า
หลังจากนั้น ขอทานจึงใช้มือข้างที่เคยถูกกระเด้า รูดสาวฆวยให้แม่ทัพจากโคนไปถึงหัว ก่อนจะรูดกลับจากหัวจนสุดโคน ทำให้เส้นสองสลึงแม่ทัพตึง สร้างความเงี่ยนให้อีกระดับ มือสกปรกอีกข้างลูบไล้กล้ามอกและท้องของแม่ทัพ จนเนื้อตัวแม่ทัพสกปรกไปหมด แต่ยามนี้ไม่มีสิ่งใดให้กังวลอีกแล้ว นอกจากหลุดออกจากความเงี่ยนจัดนี้ไปให้ได้
“โอ๊ยยย...เสียว ช่างดีเหลือเกิน ข้าชอบเหลือเกิน” แม่ทัพซิ๊ดปากเสียงดัง
ขอทานเห็นดังนั้น จึงใช้อุ้งมือหยาบ ประกบเข้าตรงส่วนหัวฆวย ก่อนจะหมุนวนเหมือนฝนไม้ สร้างความเสียวสุดยอดให้ท่านแม่ทัพอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“ซู้ดด..อ่า ข้าเสียว ข้าจะทนไม่ไหวแล้ว เงี่ยนจริงๆ ท่านยาจก” แม่ทัพส่ายตัวไปมา เหมือนคนเต้นระบำเปลื้องผ้า ขณะที่ขอทานก็ฝนหัวฆวยให้ท่านแม่ทัพอย่างต่อเนื่อง
“ข้าทนต่อไปไม่ไหวแล้ว ข้าจะแตกแล้ว จะแตกออกมาแล้ววว...ซิ๊ด” แม่ทัพคำรามลั่นไปทั่วบริเวณ จนคนที่ทะยอยเดินกลับต้องหันมาดู
ภาพที่เห็นนับว่าเป็นสิ่งเหลือเชื่อมากเมื่อท่านแม่ทัพส่ายตัวถูกับเสาไปมา แอ่นฆวยใหญ่ไปตรงหน้า ไข่สองใบในถุงหุ้มอัณฑะเคลื่อนตัวขึ้นไปใกล้องคชาติเหมือนกำลังบีบเค้นน้ำภายใน แม่ทัพคำรามกึกก้องจนฟ้าสั่นแผ่นดินไหว
ลำฆวยแข็งเกร็งขนาดกดลงแล้วยังดีดขึ้นมาได้อย่างแรง หัวฆวยเบ่งบานใหญ๋ ก่อนกระตุกพวยพ่นน้ำเงี่ยนขาวขุ่นออกจากรูฆวยบาน พุ่งจากเวทีไปจนถึงประชนชนที่อยู่ด้านล่าง ไกลกว่า 5 เมตร จังหวะเดียวกับไข่สองใบทิ้งตัวต่ำก่อนจะเคลื่อนตัวขึ้นอีกครั้ง กระตุกบีบคั้นน้ำเงี่ยนออกมาอีกนับ 10 ระลอก ไม่ลดระยะลดแม้แต่น้อย สาดใส่ประชาชนเบื้องล่างไปทั่ว ก่อนจะเริ่มหลั่งเบาลงเรื่อยๆ กลายไปหยดน้ำใหญ่ไล่จากหน้าเวทีมาจนถึงปลายฆวย ยืดยาวเป็นสายเหนียวข้น สร้างกลิ่นเหม็นคาวไปทั่วบริเวณ
ไม่นานแม่ทัพก็ฟุบหน้าลงด้วยความเพลียจากการหลั่งน้ำเงี่ยนครั้งยิ่งใหญ่ ปล่อยให้ขอทานใช้ผ้าเตี่ยวปักชื่อสกุลซู่เช็ดฆวยยาวที่เปรอะเปื้อนไปทั้งลำ ขณะที่ประชาชนเริ่มพูดคุยกันอีกครั้ง
“นั่นคือน้ำเงี่ยนกษัตริย์หรอกรึ? หลั่งไหลเยอะและแรงยิ่งกว่าน้ำตกหวางกว่อฉู้เสียอีก”
“น้ำเงี่ยนของราชาไม่ธรรมดาจริงๆ คนสามัญอย่างพวกเราคงเทียบไม่ได้”
“ดูสิ น้ำเงี่ยนของแม่ทัพยังติดเสื้อข้าอยู่เลย เหนี่ยวข้นยิ่งกว่าน้ำยางจริงๆ”
“ข้าว่าเราเก็บน้ำเงี่ยนของขุนศึกไปขายกันเถอะ ของหายากเช่นนี้คงได้หลายตะลึง”
ซู่เหวินอายจนแทบอยากเอาหน้ามุดดิน ขุนศึกกล้าหาญอย่างเขาพึ่งอ้อนว้อนขอร้องให้ขอทานสกปรกสำเร็จความใคร่ให้ต่อหน้าผู้คนกลางใจเมือง คิดแล้วก็สลดใจ ที่ต้องถูกตรึงอยู่กลางแท่นเวทีแบบนี้ต่อไปอีกจนครบ 3 วัน วันพรุ่งนี้จะทำอย่างไรดี
..........................................................................................................................................................
หน้าเหมืองแร่ ณ เมืองเหอเป่ย
เสาไม้กางเขนยังคงห้อยร่างไร้เสื้อผ้าของบุตรชายท่านแม่ทัพอยู่ เสาไม้ถูกปักอยู่หน้าทางเข้าเหมือง ทำให้ทาสและคนงานถูกคนที่ผ่านเข้าออกมองเห็นเรือนร่างของอดีตคุณชายรูปงาม
หลังจากมีคำสั่งจากหลี่เฉินให้ตรึงร่างองค์ชายไว้เป็นเวลา 3 วัน โดยมีเงื่อนไขว่าให้คนงานทุกคนที่เข้าออกสามารถจับฆวยขององค์ชายได้ตามต้องการ ให้ชักว่าวหรือรูดฆวยให้แข็งอยู่ตลอดเวลา แต่ห้ามให้องค์ชายน้ำแตกโดยเด็ดขาด
คนงานที่นี่ขาดผู้หญิงมานาน ด้วยว่าถูกเกณฑ์ไปเป็นสาวรับไช้ต่างเมืองเสียหมด ความกำหนัดและความแค้นจึงระบายลงสู่ฆวยคุณหนูเริ่น ที่ตอนนี้เหมือนฆวยสาธารณะ คนงานทุกคนสามารถลูบคล้ำได้ บ้างก็ลูบไล้พวงไข่ บ้างก็จับสาวฆวยยาวจนแข็ง สร้างทั้งความเสียวและความทรมานให้คุณหนูเริ่นอย่างมาก
“เอ็งดูฆวยมันซิว่ะ อายุแค่นี้แต่ใหญ่กว่าของพวกเราอีกว่ะ” คนงานคนหนึ่งพูด
“ข้าขอดึงหมอยคุณหนูเก็บไว้เป็นที่ระลึกสักหน่อยนะขอรับ ฮ่าๆๆ” คนงานอีกคนเริ่มสมทบ
“หน้าก็หล่อ หุ่นก็ดี ฆวยก็ใหญ่ แบบนี้สาวไหนไม่หลงก็โง่เต็มทนแล้ว” คนงานเริ่มวิจารณ์
คนหนึ่งถูกบังคับให้น้ำแตกโดยชักว่าวไม่ได้ อีกคนถูกชักว่าวแต่น้ำแตกไม่ได้ สองพ่อลูกกับสองสถานการณ์ที่แตกต่างกันแต่เกิดในเวลาเดียวกั
ประสบการณ์ ต่าง ๆ รวบรวมมาที่นี้ที่เดียว (เกย์)
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
เด็กหอ 8 CP
มื่อกานต์เก็บของจากห้องตัวเองเสร็จ จึงมาหาอาจารย์ภัทรที่ห้อง ส่วนภัทรอาบน้ำทำความสะอาดเนื้อตัวเรียบร้อย ควยของภัทรแข็งรอกานต์อยู่นานแล้ว &...
-
หลังเสียงเพลงชาติจบลง ร่างสูงขาวของหนุ่มนักเรียนชั้น ม.6 ในฐานะประธานนักเรียนของโรงเรียนแห่งนี้เดินขึ้นกล่าวกับนักเรียนทุกระดับ ชั้นถึงเรื่...
-
มาถึงตอนนี้ ไอ้หมาเสือ รู้สึกตัวเองแล้วว่า มันกำลังหลงใหลดำดิ่งลงใน “โลกของทาสหมา” อย่างถอนตัวไม่ขึ้นเสียแล้ว ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับมันในช...
-
ทัพ หนุ่มนักเรียนวิศวะ ผู้มีความหล่อระดับเดือนคณะ เป็นนักกีฬามหาลัย ชอบออกกำลังกาย ชอบว่ายน้ำ ชอบเล่นฟุตบอล เป็นที่หมายตาของสาวๆหลายๆคน ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น