ผมตื่นนอนในอ้อมแขนของป้อง มันช่างเป็นการตื่นนอนรับวันใหม่ที่แสนจะสดชื่นกระปรี่ประเปร่าอะไรเช่นนี้ ส่วนป้องยังคงมีความสุขกับการนอนต่อไป ผมจ้องมองดูใบหน้าที่หล่อเท่ห์+เซอร์ของป้อง พร้อมกับใช้นิ้วมือค่อยๆลูบบริเวณคิ้วที่ดกหนาทั้งสองข้าง ข้ามมายังสันจมูก
"ตื่นนานแล้วเหรอ?" ป้องมองดูผม
"ก่อนหน้านายไม่กี่นาทีเอง" ผมวางมือออกจากจมูกของป้อง
"เช้านี้นายไม่มีเรียน?" ป้องหันหน้าไปมองดูนาฬิกาปลุกบนหัวเตียง
"มีเรียน 2 ตัว แต่โดด เป็นวิชาเรียนรวมหลายๆคณะ ไม่จำเป็นต้องเข้าเรียน อาจารย์ไม่เคยเช็คชื่อ เพราะคนเรียนเยอะมากๆ แค่ขอยืมแล็กเชอร์เพื่อนมาจดทีหลังก็ได้ แล้วนายละ มีเรียนกี่โมง?" ผมถามกลับไป
"8 โมงเช้า นี่มันปาเข้าไปตั้งเกือบ 10 โมง เลยเวลาไปตั้งนานแล้ว ส่วนอีก 2 ตัวนั้น เรียนตอนเที่ยงกับบ่าย 3 โมง เราก็คงโดดเหมือนกัน ไม่มีอารมณ์เข้าเรียน รบกวนขอใช้โทรศัพท์หน่อยได้ไหม? จะโทรไปหาเพื่อนที่ห้อง ให้มันช่วยเซ็นชื่อให้ ไม่รู้ว่าตอนนี้มันยังอยู่ที่ห้องหรือเปล่า?"
"ตามสบาย ไม่ต้องเกรงใจ" ผมเอาแขนทั้งสองข้างสวมกอดที่ลำตัวของป้อง
ขณะที่ป้องกำลังคุยโทรศัพท์กับเพื่อนอยู่นั้น หูของผมก็บังเอิญไปได้ยินประโยคหนึ่งที่หลุดออกมาจากปากของป้อง
"ตอนนี้กูอยู่กับเด็กของกู เมื่อคืนหนักไปหน่อย ......... บลาๆๆๆๆๆๆๆๆ ....... "
เมื่อป้องคุยโทรศัพท์กับเพื่อนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมพูดขึ้นมาว่า....
"เมื่อกี้นี้เราแอบได้ยินนายบอกเพื่อนนาย ใครเป็นเด็กนายหรือ?" ผมแกล้งถามไปอย่างนั้น
"ตอนนี้เรานอนอยู่กับใครก็คนนั้นแหละ สงสัยนายคงไม่อยากเป็นเด็กเราเท่าไหร่ หรือว่าอยากเป็นเมียเรา? ถึงทางนิตนัยจะไม่ใช่ แต่ทางพฤตินัยนี่ ใช่เลยทุกประการ" ป้องทำหน้าตาทะเล้นใส่ผม
"เวลานายทำหน้าแบบนี้ นายดูน่ารักและดูเป็นผู้ชายที่อบอุ่นมาก มาดแนวเซอร์ๆของนายหายไปหมดเลย เห็นแล้วใจของเราแทบจะละลาย" ผมแอบเขินอยู่ในใจคนเดียว
"ไม่พูดไม่จา ทำเป็นเขินเชียวนะ ดูทำหน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุก" ป้องแซวผม จนผมอายม้วน หน้าแดงชนิดที่พูดไม่ออกบอกไม่ถูก คิดไม่ถึงคนอย่างป้องจะขี้เล่นถึงขนาดนี้ ตอนแรกผมคิดว่าคนมาดขรึมเซอร์ๆอาร์ตๆติสๆอย่างป้องจะมีเพียงคาแรกเตอร์เดียวเท่านั้น
"บ้า.... พูดอะไรก็ไม่รู้" ผมผละแขนทั้งสองข้างออกจากลำตัวของป้อง พร้อมกับพลิกตัวนอนหันหลังให้ป้อง เหมือนคนที่มีอาการงอนนิดๆ (ก็มันเขินจนทำอะไรไม่ถูกนี่ครับ ก็ต้องถอยออกมาตั้งหลักกันบ้าง)
"ดูซิ พูดแค่นี้ถึงกับหันก้นให้เราทันทีนะ ช่างเป็นเมียที่ดีมาก นี่แหละคือหน้าที่สำคัญที่สุดของเมีย" ป้องใช้มือตีก้นผมอย่างเบาๆ
ผมยังคงนิ่งอยู่เฉยๆไม่พูดจาโต้ตอบอะไร (ก็มันทั้งเขินทั้งอายนี่ครับ จะให้ทำอย่างไร?)
"ยังงอนอีกเหรอ ช่วยทำหน้าที่เมียที่ดีหน่อยครับ ขอร้องละครับ ตอนนี้เราอยากจะทำหน้าที่ผัวที่ดีบ้าง" ป้องหันข้างมากอดผมพร้อมกับใช้ท่อนเอ็นตรงเป้ากางเกงที่กำลังพองตัวขึ้นมาอย่างทีละนิดๆ มาสีแนบที่ก้นของผม ส่วนแขนก็เลื้อยลอดเข้าไปภายในเสื้อของผม
มือของป้องนั้นทั้งลูบและเขี่ยตรงหัวนมของผม ป้องใช้ริมฝีปากจูบและไซร้ที่ซอกคอของผม เวลานี้ผมรู้สึกอ่อนปวกเปียกไปหมด
"ตั้ง 2 ยก แล้วยังไม่เต็มอิ่มอีกเหรอ? จะยกที่ 3 แล้วนะ" ผมพูดเล่นอย่างอารมณ์ดี
"เห็นหน้านายแล้ว ค_ยมันแข็ง ทำไงได้" ป้องพูดสวนกลับ พร้อมกับใช้มือถลกกางเกงของผมออกจนหมด
เราทั้งสองอยู่ในสภาพล่อนจ้อนด้วยกันทั้งคู่ ผมเลื่อนตัวลงมาที่ท่อนเอ็นที่แข็งตัวป้อง พร้อมกับใช้มือรูดขึ้นลงเป็นจังหวะ
ผมกำลังจะอ้าปากถวายบัวให้ป้อง แต่ก็ต้องหยุดการกระทำอย่างกระทันหัน.......
"ทำไมกลิ่นมันเหม็นเปรี้ยวแบบนี้ ล้างบ้างหรือเปล่านี่?" ผมพูดเล่นหยอกล้อฝ่ายตรงข้าม (เข้าใจมีอารมณ์ขันจริงๆนะตรู)
"เฮ้ย....!!! จะบ้าเหรอ? มุขของนายตลกฝืดโคตร เราพยายามหัวเราะแล้ว แต่มันไม่ขำจริงๆ ที่ค_ยเรามันเหม็นแบบนี้ ใครเป็นคนอมละ? ต้องเหม็นน้ำลายคนนั้นแน่ๆ อีกอย่างค_ยเราเข้าๆออกๆอยู่ในตูดของใครนะ?" ป้องเล่นมุขสวนกลับอย่างแสบๆคันๆ จนผมไม่รู้จะโต้ตอบอย่างไร (กะจะกัดเขา แต่ดันโดนเขาตอกกลับมาจนหน้าแหกเลยตรู)
"เรามันน่ารังเกียจนี่" ผมทำเป็นแกล้งงอน
"โอ๋.... ขวัญเอ๊ย ขวัญมา ผมจะไม่จิกกัดอีกต่อไป ช่วยดูดค_ยให้ผมหน่อยนะครับ ขอร้องนะครับ" ป้องทำท่าอ้อน
"อืม... ก็ได้" ผมตอบรับอย่างหน้าตาเป็น
"เวลานายงอนแล้วน่ารักดี น่ารักมีเสน่ห์กว่าผู้หญิงเวลางอนซะอีก" ป้องใช้ริมฝีปากงับติ่งหูของผม
ผมก้มลงถวายบัวให้ป้องต่อ
"อู๊ย.... อู๊ย..... ตรงนั้นแหละ ดูดเข้าไป โคตรเสียวเลย" ป้องบอกให้ผมกระหน่ำดูดตรงบริเวณหัวกระดอที่เปิดบานเป็นดอกเห็ด
ผมดูดหัวกระดอของป้องได้ซักพัก ป้องก็ใช้มาลูบๆวนๆบริเวณก้นของผม ซึ่งพอจะเป็นสัญญาณบอกให้ผมรู้ว่า ป้องพร้อมที่จะเอากระดอยัดใส่รูดากของผมแล้ว
หลังจากทาเจลหล่อลื่นเรียบร้อย ป้องจัดการทำหน้าที่ของตนอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง นั่นก็คือ ค่อยๆเอาท่อนเอ็นยัดเข้าไปในรูดากของผมจนมิดลำ
ป้องกระเด้าเป็นจังหวะที่รับประสานแรงโยกส่ายไปมาของสะโพกผม เวลานี้ผมเสียวอย่างล้นพ้นจนเกินบรรยายจริงๆ นอกจากจะเสียวจากท่อนเอ็นของป้องที่กระเด้าเข้าๆออกๆรูดากของผมแล้ว ผมยังเสียวยกกำลังสองจากมือของป้องที่สาวว่าวให้ผมอย่างส่งรับจังหวะเสียวได้ลงตัว
"นายเย็ดโคตรเก่ง เราเสียวสุดๆ นี่ใกล้จะแตกแล้ว" ผมครางออกมา เพราะเริ่มเสียวและเกร็งบริเวณท้องน้อยมาก
"เราใกล้จะแตกเหมือนกัน" ป้องเริ่มซอยถี่รัวเร่งจังหวะมากขึ้น จนกระทั่งร้องเสียงหลงออกมา (ซึ่งแน่นอนว่า ป้องน้ำแตกเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งผมยังรู้สึกอุ่นๆเหนียวๆข้างในรูดาก)
แท่งตอปิโดของผมได้พ่นพิษเป็นน้ำสีขาวขุ่นหนืดๆออกมาจนหมดเกลี้ยง
รวมยอดแล้ว ผมโดนป้องถล่มประตูไป 3 ประตู ต่อ 0 (กลายเป็นเมียของป้องตามพฤตินัยอย่างไร้ข้อครหา)
หลังปฎิบัติกิจกามเสร็จสิ้นแล้ว ผมกับป้องเข้าไปอาบน้ำด้วยกัน จากนั้นก็แต่งตัวและออกไปกินอาหารเที่ยง ผมนั่งซ้อนมอเตอร์ไซด์ของป้อง โดยป้องอาสาพาผมไปกินเย็นตาโฟร้านเจ้าประจำ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามร้านขายยาคณะเภสัชฯ
ร้านเย็นตาโฟเจ้านี้โด่งดังมากๆ เรียกได้ว่า คนเชียงใหม่ส่วนใหญ่รู้จักร้านเย็นตาโฟเจ้านี้เป็นอย่างดี
เมื่อเดินเข้าไปในร้าน ผมถึงกับตกใจและอึ้งกิมกี่...
"ตอนเช้าไม่ไปเรียน ที่แท้มีนัดนี่เอง" นพทักทายผม
"พูดเรื่องอะไร? ตื่นสายต่างหากถึงไม่ได้ไปเรียน" ผมพูดกับนพ โดยพยายามไม่สบตาหรือมองหน้าพี่ต่อซึ่งนั่งอยู่ด้วยกับนพ
"เกือบลืมไป นพ นี่... ป้อง คณะวิจิตรฯ ป้อง นี่... นพ อยู่สาขาวิชาเดียวกับเรา" ผมแนะนำให้นพกับป้องรู้จักกัน โดยที่ไม่สนใจที่จะแนะนำให้ป้องรู้จักกับพี่ต่อเลย
"อ้าว... นึกว่าใคร ที่แท้ก็ พี่ต่อ นั่นเอง ไม่ได้เจอกันโคตรนานนะพี่ ตั้งแต่เทอมก่อนโน่น" ป้องพูดทักทายกับพี่ต่ออย่างกับคนรู้จักกันมานาน
"รู้จักกันด้วยเหรอ?" ผมถามป้องอย่างงงๆเหมือนไก่ตาแตก (ทำไมเรื่องมันถึงได้เริ่มผูกปมขมวดแบบนี้ว่ะ มึนเลยตรู ถ้าเกิดว่าสองคนนี้รู้จักคุ้นเคยและสนิทกันมาก แล้วตรูจะทำอย่างไรดี งานนี้ตรูโดนแฉแน่ๆ)
"รู้จักกันตั้งแต่สมัยมัธยมแล้ว พี่ต่อเป็นพี่โรงเรียนของเราเอง เรามาจากโรงเรียนเดียวกัน" ป้องบอกผมถึงที่มาที่ไป คำตอบของป้องทำเอาผมแทบจะหงายหลังทันที
ทำไมตรูไม่รู้เลยว่า ทั้งสองคนนี้มาจากโรงเรียนเดียวกัน !!!!!! เพราะตรูไม่ได้ถามป้องนี่ว่า จบโรงเรียนอะไร !!!!!! รู้แค่ว่า ป้องเป็นคนกรุงเทพแค่นั้นเอง ช่างรอบคอบจริงๆเลยตรู ขอประชดตัวเองซักหน่อย
พี่ต่อส่งยิ้มให้ผม รอยยิ้มของพี่ต่อมันช่างเป็นรอยยิ้มที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมีชัยชนะเหนือคู่ต่อสู้จริงๆ
"คงไม่ว่านะ ถ้าฉันกับป้องจะขอตัวไปนั่งที่โต๊ะโน่น คือ ฉันรู้ว่าแกกับพี่เขาอยากใช้เวลาส่วนตัวกันสองต่อสอง" ผมหันหน้าไปพูดกับนพ
"น่าเกลียดมาก กลัวจะขัดคอฉันกับพี่ต่อ หรือกลัวว่า ฉันกับพี่ต่อ จะขัดคอแกกับป้อง? นั่งด้วยกันนี่แหละ จะได้คุยกันให้จุใจซักหน่อย มีเรื่องจะเม้าท์ให้ฟังตั้งหลายเรื่อง" นพพยายามดึงแขนผมให้นั่งลง
"นั่งด้วยกันนะป้อง พี่มีเรื่องจะคุยกับเอ็ง ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ดูซูบๆไป ยังไงเอ็งอย่าหักโหมให้มาก เมื่อวันจันทร์พี่ก็เจอเอ็งกับกันต์นั่งอยู่ด้วยกันที่โรงอาหารคณะ ขอโทษด้วยที่ไม่ได้เข้าไปทักทาย เผอิญรีบไปเรียน" พี่ต่อมองหน้าผม สายตาของพี่ต่อเหมือนพยายามจะสื่อนัยอะไรบางอย่าง
"เสน่ห์แรงจริงๆนะ ไปหามาจากที่ไหนจ๊ะ หน้าตาหล่อเท่ห์สุดๆ มิน่าละ ได้น้ำดีนี่เอง หน้าตาแกถึงได้สดใสเปล่งปลั่งเช่นนี้" นพกระซิบกระซาบผม พร้อมกับเหล่ตามองไปที่ป้อง ส่วนป้องนั้นก็ทำหน้าเขินๆเกร็งๆนิดๆ จากนั้นจึงคุยกับพี่ต่อเรื่องสัพเพเหระต่างๆ
หลังจากอิ่มหนำสำราญจากการกินเย็นตาโฟเสร็จเรียบร้อย พวกเราทั้ง 4 คนได้แยกกันไปคนละทาง โดยพี่ต่อไปกับนพ ส่วนผมไปกับป้อง
ป้องขี่มอเตอร์ไซด์มาส่งผมที่หน้าคอนโด เมื่อจอดมอเตอร์ไซด์เรียบร้อยแล้ว ป้องพูดขึ้นมาว่า "ทำไมตอนอยู่ในร้านเย็นตาโฟ นายไม่คุยกับพี่ต่อเลย มีอะไรกันหรือเปล่า?" พอพูดจบ ป้องทำหน้าสงสัย
"ไม่มีอะไรมากหรอก เราแค่หมั่นใส้ ไม่ถูกชะตากับไอ้พี่ต่อ คนอะไรขี้เก๊ก หลงตัวเอง เราไม่กินเส้นกับเขามาตั้งแต่ตอนเราอยู่ปี 1 แล้ว" ผมสร้างประเด็นเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ (สตอเบอร์รี่จริงๆเลยตรู)
"เรื่องเป็นแบบนี้นี่เอง นายไม่ต้องไปสนใจอะไรมากหรอก พี่เขามีบุคลิกภาพแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร ถ้าได้คุยได้รู้จักแล้ว พี่เขาเป็นคนดีคนหนึ่งเลยนะ" ป้องแสดงความคิดเห็น
ผมกับป้องเดินเข้าไปในตัวตึก ในขณะที่กำลังเดินเข้าประตูใหญ่นั้น......
"แต่งตัวซะหล่อ ออกไปไหนมา? วันนี้ไม่มีเรียนหรือ?" บอลยิ้มทักทายผม
"มีแต่โดด ขี้เกียจไปเรียน เราเพิ่งออกไปกินข้าวมา แล้วนายละ? กำลังจะออกไปเรียนเหรอ? ดูหน้าตาและทรงผมเหมือนเพิ่งอาบน้ำเสร็จ" ผมมองดูบอลในชุดนักศึกษาที่ใหม่เอี่ยมอ่องอรทัย
"ใช่ เราต้องรีบไปแล้วละ เดี๋ยวเข้าห้องเรียนสาย อาจารย์ยิ่งโหดๆอยู่ด้วย เอาไว้ค่อยคุยกันใหม่" พอพูดจบ บอลรีบวิ่งไปสตาร์ทมอเตอร์ไซด์ทันที
"ตามองตา สายตามาจ้องมองกันรู้สึกเสียวซ่านหัวใจ" ป้องร้องเพลงพร้อมกับทำหน้าทะเล้นใส่ผม
ผมแกล้งทำหน้าเบ้ให้กับฝ่ายตรงข้าม
"เสน่ห์แรงจริงๆ เมียเรา เอาไว้ค่อยคุยกันใหม่นะ ต้องรีบไปเรียน " ป้องยังคงตั้งหน้าตั้งตาแซวผมอย่างต่อเนื่อง
"บ้า.... สงสัยนายคงจะเมาเย็นตาโฟ ถึงได้ไร้สติขนาดนี้" ผมค้อนใส่ป้อง
"แตะนิดแตะหน่อยไม่ได้เลยนะ เด็กปีหนึ่งซะด้วย คิดแอบคบชู้ใช่ไหมนี่? ตอนคุยกันเห็นจ้องมองทำตาหวานใส่กันปานจะกลืนกิน" ป้องยังไม่เลิกแซวผม
"ถ้าเกิดเขาคิดแบบนั้นกับเราจริงๆขึ้นมาละก็ ป่านนี้นายคงไม่ได้มายืนกัดจิกเราหน้าสลอน และประกาศตัวเป็นผัวเราให้เอิกเกริกแบบนี้หรอก" ผมพูดประชดป้อง และทำหน้างอนใส่แต่พองาม
"ในที่สุดนายก็ยอมรับแล้วใช่ไหมว่า เราเป็นผัวนาย และนายก็เป็นเมียเรา" ป้องยิ้มเยาะผมอย่างสะใจ
"ทะลึ่ง เล่นอะไรก็ไม่รู้ เลิกเล่นได้แล้ว" ผมเหนียมอายจนพูดอะไรไม่ออก
ผมกำลังไขกุญแจลูกบิดเพื่อเปิดประตูห้อง ทันใดนั้นผมก็รู้สึกเคืองๆเหมือนมีอะไรนุ่มๆเบาๆมาโดนที่แก้ม พอเหลือบตาดู ถึงได้รู้ว่าถูกป้องขโมยหอมแก้มอย่างไม่รู้ตัว ผมรู้สึกสั่นสะท้านและเขินอายจนทำอะไรไม่ถูก
"ตกลงจะเข้าห้องไหม? หรือว่าจะยืนที่หน้าประตูอยู่อย่างนี้?" ป้องเอ่ยถามผม
เมื่อเข้าห้องปิดประตูเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"กันต์... เราชอบนายนะ เราไม่เคยรู้สึกกับใครแบบนี้มาก่อน เราอยากจะอยู่ใกล้นายตลอดเวลา" ป้องโอบกอดผม
ผมยืนตัวเกร็ง โดยที่ไม่พูดไม่จาอะไร เพราะรู้สึกตกใจและไม่รู้ว่าจะรับมือกับสถานการณ์นี้อย่างไร ถึงแม้ว่ามันจะเป็นสถานการณ์ที่น่ายินดีปรีดาก็ตาม
"เฮ้ย.... ว่าไง.... นายเป็นอะไรหรือเปล่า ดูเงียบๆไม่พูดไม่จา" ป้องถามผมด้วยสีหน้าที่วิตกกังวล
"เราไม่เป็นอะไร ขอบใจมากนะ คือว่า รู้สึกตกใจนิดหน่อย แบบตกใจในทางที่ดี เราก็รู้สึกแบบเดียวกับที่นายรู้สึกกับเรา แต่..... " ผมบอกความรู้สึกของตัวเองกับป้อง
"แต่.. อะไร?" ป้องถามด้วยความอยากรู้
"เราบอกตามตรงนะ เรากับนายก็เพิ่งจะเจอกัน เพิ่งจะรู้จักกันได้ไม่เท่าไหร่ ยังไม่ถึงอาทิตย์ด้วยซ้ำ เรายังไม่รู้จักนิสัยและตัวตนที่แท้จริงของนายมากพอ และนายเองก็ยังไม่รู้จักนิสัยและตัวตนที่แท้จริงของเราด้วย บางทีเราอาจจะไม่ชอบนิสัยหรือตัวตนบางอย่างบางจุดของกันและกันก็ได้"
ป้องนั่งฟังผมอย่างตั้งใจ
ผมพูดต่อไปว่า "เอาอย่างนี้ไหม? ตอนนี้เรายังไม่ต้องคิดอะไรเลยเถิดไปไกลมากขนาดนั้น คบกันเอากันไปเรื่อยๆ สนุกกันไปตามเรื่องตามราวก่อน พอผ่านไปนานเข้า ถ้าทุกอย่างยังเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เราค่อยมาพูดกันใหม่ว่า จะเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์จากคู่ขา คู่นอน คู่เย็ด มาเป็น คู่รัก หรือไม่?"
"พูดเข้าท่าดีนะ เราเห็นด้วยกับความคิดของนาย ฉลาดสมกับเป็นเมียเราจริงๆ" ป้องพูดสนับสนุนปนติดตลกนิด
"อะ แฮ่มๆๆๆๆๆ" เราไอกระแอมนิดๆ
"ขอเสริมอีกนิดหนึ่ง ลืมไปว่า ตอนนี้ถ้าเกิด นายเป็นแฟนเราจริงๆ เราอาจจะยังไม่พร้อมรับมือต่อกลอน เพราะนายตัวอันตรายมากๆ" ป้องพูดแทรกขึ้นมา
"อันตรายอย่างไร? ไม่เข้าใจ?" ผมทำสีหน้างงๆ
"อันตรายตรงที่ นายเป็นคนหน้าตาดีมาก ใครเห็นใครก็ชอบและอยากได้นายกันทั้งนั้น เราไม่อยากวิตกกังวลคิดมากกลัวว่า จะมีคนมาจีบนายเยอะมาก มาแย่งนาย หรือนายจะเจอคนที่หล่อที่ดีมากกว่าเรา แล้วทิ้งเราไป" ป้องอธิบายเหตุผล
"อะไรจะคิดมากคิดลึกขนาดนั้น พ่อคุณ!!!!!! เราซะอีกที่จะต้องเป็นฝ่ายคิดมากกว่า หน้าตาอย่างนาย จัดได้ว่าหล่อเป็นที่ต้องการของตลาดสุดๆ ทั้งหล่อ ทั้งเท่ห์ ทั้งเซอร์ ที่สำคัญ แฟชั่นหนุ่มผมยาวกำลังมาแรงซะด้วย เรากลัวว่า จะมีคนมารุมจีบนายเยอะมากๆ แต่ละคนนอกจากจะหน้าตาดีแล้ว ยังมีคุณสมบัติอื่นๆที่ดีเพียบพร้อมกว่าเรามาก" ผมพูดโต้ตอบ
ป้องยิ้มพร้อมกับกอดผมไว้กับตัวอย่างแนบแน่ สำหรับผมแล้ว มันช่างเป็นอ้อมกอดที่อบอุ่นและน่าประทับใจอะไรเช่นนี้ (ความรู้สึกแตกต่างจากอ้อมกอดที่เกิดจากอารมณ์ใคร่อย่างสิ้นเชิง)
"ให้มันได้อย่างนี้ซิจ๊ะ... เมียจ๋า.. ผัวคนนี้จะเย็ดให้เสียวรูตูดชนิดไม่ขาดตกบกพร่องทีเดียว" ป้องพูดจาเล่นลิ้นเพื่อสร้างบรรยากาศให้คึกคัก
ผมส่งยิ้มให้อย่างอารมณ์ดี
"คืนวันเสาร์เรามาหานาย และมาค้างกับนายอีกได้ไหม?" ป้องถามผม
"ไม่บอกนายคงจะรู้คำตอบของเราแล้วนะ" ผมพูดอย่างเอียงอาย
ป้องสบตาผมพร้อมกับจูบลงบนหน้าผาก ตอนนี้ผมรู้สึกหนาวๆร้อนๆอย่างบอกไม่ถูก มันเป็นความรู้สึกพิเศษสุดๆ ไม่บอกก็คงจะรู้ว่า มันมีคุณค่าทางจิตใจมากแค่ไหน
"ดีเหมือนกัน วันอาทิตย์นี้เราจะได้ขับรถพานายไปเที่ยวตลาดทุ่งเกวียนและลำปางด้วย เรากะว่าจะไปเที่ยวตั้งหลายครั้งแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสซักที" ผมพูดขึ้นมา
ป้องไม่พูดไม่จา ได้แต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่อย่างนั้น
"ป้อง... มองออกไปตรงข้างนอกระเบียงซิ วิวสวยมาก" ผมชี้มือไปตรงระเบียง
ป้องหันหน้าไปตรงระเบียงอย่างรวดเร็ว ในจังหวะนี้ ผมเลยถือโอกาสขโมยจูบตรงที่แก้มของป้องไป 1 ฟอดใหญ่
ป้องหันกลับมามองผม ด้วยสีหน้าที่อายๆ รอยยิ้มบนใบหน้าของป้องมันทำให้โลกใบเล็กๆของผมสดใสขึ้นในบัดดล
......................................................................
เช้าวันศุกร์ ผมกำลังนั่งกินข้าวเช้าอย่างเอร็ดอร่อยอยู่ที่โรงอาหารคณะ
"นั่งด้วยคนนะ" เสียงคนพูดดังขึ้นมา
ผมเงยหน้าขึ้นไปมอง พอเห็นหน้าเจ้าของเสียงเท่านั้น ใบหน้าของผมถึงกับเปลี่ยนสีทันที
"อยากนั่งก็นั่งซิ ไม่ได้ห้ามนิ ม้านั่งสาธารณะ ไม่ใช่ของผม ไม่จำเป็นต้องขออนุญาติก็ได้" ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา (นึกว่าใครที่แท้พี่ต่อนี่เอง แค่เห็นหน้า ผมก็หมดอารมณ์กินข้าวทันที)
พี่ต่อโน้มตัวนั่งลง "ตกลงกันต์จะไม่พูดกับพี่ดีๆเลยใช่ไหม? พี่ถามจริงเหอะ ที่กันต์แสดงออกแบบนี้กับพี่ กันต์หึงพี่ใช่ไหม?"
"พี่พูดอะไรของพี่? พูดจาแบบนี้ เหมือนพี่กำลังดูถูกผมอยู่นะ พี่พูดอย่างกับผมพิศวาสพี่มากมายอย่างนั้น ผมว่าตอนนี้พี่น่าจะรีบวิ่งไปส่องกระจกในห้องน้ำดูหน้าตาตัวเอง ก่อนจะมาทึกทักว่า ผมแอบชอบและหึงหวงพี่ โอเค ที่ผ่านมา ผมอาจจะเคยหน้ามืดตามัวเผลอตัวมีอะไรกับพี่หลายครั้ง แต่มันเป็นเพียงแค่ความกำหนัดเท่านั้น " ผมพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง มันยากที่จะอธิบายอารมณ์ในเวลานั้นจริงๆ ( ไม่รู้ซิ บอกไม่ถูก อาจจะเป็นเพราะว่า พี่ต่อเป็นแฟนกับนพ และนพเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของผม ผมไม่อยากให้นพรู้เรื่องที่ผ่านมาระหว่างผมกับพี่ต่อ กลัวว่านพจะไม่สบายใจ สำหรับผมแล้ว การอยู่ห่างๆพี่ต่อไว้เป็นดีที่สุด)
"พี่ถามแค่นี้ ทำไมกันต์ต้องแสดงท่าทีโกรธเป็นฟืนเป็นไฟด้วย ไม่ชอบก็บอกไม่ชอบซิ ไม่เห็นต้องทำท่าฟึดฟัดไม่พอใจ" พี่ต่อทำหน้าตาไม่สะทกสะท้านใดๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น (การตีสีหน้าแบบนี้ ยิ่งทำให้ผมโมโหหนักกว่าเดิม)
"อย่าหาว่าผมเสียมารยาทเลย ผมขอตัวก่อนนะ กินข้าวไม่ลง ขืนนั่งอยู่ในโรงอาหารก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมา ตั้งแต่นี้ต่อไป เวลาเจอกันให้ทำเหมือนคนไม่รู้จักกัน จะดีที่สุด" พอพูดจบผมถือจานข้าวพร้อมสมุดหนังสือ เตรียมตัวลุกออกจากโต๊ะทันที
"เออ… ทำหยิ่งจองหอง ทำเก่งไป ที่พี่ยอมลดตัวลงมาพูดคุยกับพี่เอ็ง เพราะหวังดีและอยากจะเตือนเรื่อง ไอ้ป้อง เห็นเอ็งกับมันประกาศเป็นคู่ผัวตัวเมียต่อหน้าผู้คนอย่างเอิกเกริก ไอ้นี่มันเจ้าชู้ ขี้เอาจะตาย สมัยอยู่มัธยม แม่ง.. ผ่านมาไม่รู้กี่สังเวียนกี่สนามแล้ว พี่แค่อยากจะเตือนเอ็งก็เท่านั้น แต่ดูคำพูดที่เอ็งพูดซิ สุนัขไม่รับประทานจริงๆ " พี่ต่อพูดเสียงดังใส่ผม(ผมกำลังลุกออกไปจากโต๊ะ) จนบรรดาคนที่นั่งกินข้าวอยู่โต๊ะข้างๆ ต่างก็หันมามองผมกับพี่ต่อ ด้วยท่าทางที่อยากรู้อยากเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น
ผมเดินเอาจานข้าวไปวางในที่เก็บจานอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะออกโรงอาหาร ผมเดินลัดเลาะมายังโต๊ะที่พี่ต่อนั่ง พร้อมกับชูนิ้วกลางนิ้วเดียวใส่พี่ต่อ (ด้วยอารมณ์สับสนปนเม้งหน่อยๆ) จากนั้นผมรีบใส่เกียร์วิ่งสู้ฟัดออกจากโรงอาหารทันที (ขืนไม่วิ่ง มีหวังโดนพี่ต่อตื๊บคาโรงอาหารแน่ๆ แสบจริงๆเลยตรูนี่) ในใจลึกๆแล้ว ผมเองก็รู้สึกผิดเหมือนกันที่ไปยั่วโมโหและพูดจากวนบาทา พี่เขาก่อน
เย็นวันศุกร์
ผมมีนัดกับน้องก้อง (น้องรหัสสุดหล่อของผม) หลังจากเลิกเรียนแล้ว ผมรีบกลับไปอาบน้ำอาบท่าและแต่งตัว (แฟชั่นจะต้องเนี๊ยบทุกกระเบียดนิ้ว ไม่ว่า เสื้อผ้า หน้า ผม ต้องดูดีมีสไตล์ ไม่ได้แต่งไปอ่อยเหยื่อนะครับ แค่แต่งไปเช็คเรตติ้งเฉยๆ)
ผมขับรถมาถึงข้างหน้าหอชาย 5 ตามที่ได้นัดหมายกับน้องก้องไว้
"รอนานไหมก้อง?" ผมเห็นน้องก้องมายืนรอข้างหน้าหอ ก่อนที่ผมจะมาถึง
"ไม่นานครับ พี่กันต์แต่งตัวหล่อมากๆ วันนี้ผมขอควงพี่รหัสสุดหล่อซักวัน" น้องก้องส่งยิ้มที่หวานหยาดเยิ้มให้ผม
"เราก็แต่งตัวหล่อไม่เบาเหมือนกันนะ รีบๆขึ้นรถเร็ว พี่ไม่อยากจอดขวางทางเข้านาน" ผมพูดก้มหน้าก้มตา โดยพยายามไม่มองหน้าน้องก้อง เนื่องจากเขินต่อสายของน้องก้องที่จ้องมองผม
"เขินผมหรือครับ พี่กันต์ ????" น้องก้องจ้องหน้าผม เหมือนพยายามจับพิรุจ
"ไม่มีอะไร บ้าไปใหญ่แล้วเรา ว่าแต่อยากกินอะไรละ? พี่จะได้พาไปถูกร้าน" ผมแกล้งเปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อหลบเลี่ยงประเด็น
"อะไรก็ได้ ผมกินได้หมด ถ้ากินกับพี่รหัสสุดหล่อ" น้องก้องใช้สายตาแทะโลมผม (แรงส์จริงๆ น้องรหัสตรู)
"แน่ใจนะว่า กินอะไรได้หมด ถ้าอย่างนั้น พี่จะพาเราไปกินข้าวที่โรงอาหารใต้หอเรา ว่าไง? โอเค ไหม?" ผมพูดหยอกเย้า
"พี่กันต์ช่างมีอารมณ์ขำจริงๆนะ ไม่เอาครับ พี่ถามผมว่า อยากจะกินอะไร ผมขอตอบว่า กินอะไรก็ได้ ที่ไม่ใช่กับข้าวในโรงอาหาร ร้านอาหารในมอ หน้ามอ หลังมอ หรือร้านอาหารในละแวกมอ อยากไปร้านที่อยู่ในเมือง หรือไม่ก็ไกลจากมอ นะครับพี่กันต์สุดหล่อ" น้องก้องอ้อนผม
ผมพาน้องก้องมากินข้าวที่ร้านอาหาร "ริเวอร์ไซด์" ซึ่งเป็นหนึ่งในร้านอาหารที่ขึ้นชื่อของเชียงใหม่
"อยากกินอะไร สั่งได้ตามสบายเลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ" ผมบอกน้องก้อง
"ขอบคุณครับพี่กันต์ พี่กันต์มาที่ร้านนี้บ่อยไหมครับ? ผมอยากรู้ว่า ร้านนี้อะไรอร่อย?" น้องก้องถามผม
"แค่ครั้งเดียว เมื่อตอนอยู่ปี1 พี่รหัสของพี่ ก็พี่นา พาพี่มาเลี้ยงที่นี่ แต่เห็นหลายคนบอกว่า อาหารพวกยำ หรือไม่ก็ ต้มยำ ที่นี่อร่อยนะ" ผมแสดงความเห็น
ผมกับน้องก้องได้สั่งอาหารมาคนละ 2 อย่าง น้องก้องสั่ง แกงส้มปลาช่อน และผัดคะน้าหมูกรอบ ส่วนผมสั่งยำทะเลรวมมิตร และไก่ผัดพริกเผา โดยมีส้มตำปู และหอยจ้อทอด เป็นเครื่องเคียง
"พี่กันต์ต้องชอบกินอาหารรสจัดแน่ๆ ดูสั่งแต่ละอย่าง" น้องก้องมองดูอาหารบนโต๊ะ
"ใช่แล้ว พี่ชอบกินอาหารรสจัด ยิ่งเผ็ดยิ่งชอบ แล้วก้องกินเผ็ดได้ไหม?"
"พอได้ครับ แต่ต้องไม่เผ็ดมากนะ เห็นเขาว่าคนที่ชอบกินเผ็ดนี่เซ็กส์จัด ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า?" น้องก้องจ้องหน้าผมด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ (น้องก้องพูดประโยคแบบนี้เหมือนก๊อปปี้พี่ต่อมาเลย เกี่ยวกับเรื่องกินเผ็ดแล้วเซ็กส์จัด)
"จะลองไหมละ? จะได้รู้ว่าจัดหรือไม่จัด" ผมพูดหยอกเอินแบบตลกโปกฮา โดยที่ไม่ได้คิดอะไร
"แฮ่ม... พูดแล้วอย่าคืนคำนะครับ ผมยิ่งเป็นคนใจกล้าบ้าบิ่นซะด้วย พี่กล้าท้า ผมกล้ารับคำท้า" น้องก้องพูดอย่างจริงจัง (ตรูกลัวใจไอ้น้องรหัสคนนี้จริงๆ บ้าได้ใจมาก)
"พี่พูดเล่นเฉยๆ จะบ้าเหรอ" ผมพูดดักคอ (ทั้งที่ใจจริงนั้น... ไม่ต้องคิดแทนผมนะ ผู้อ่านที่น่ารัก คุณอาจจะเดาใจผมผิดก็ได้! ผมไม่กล้าคิดกับน้องก้องแบบนั้น เนื่องจากความเป็นน้องรหัสและเรียนอยู่สาขาวิชาเดียวกัน จะต้องเจอหน้ากันไปอีกนาน ผมไม่อยากให้เรื่องเซ็กส์ต้องมาทำให้เราผิดใจกัน ชนิดที่มองหน้ากันไม่ติด แต่ว่าไปได้ซักทีก็ดีเหมือนกัน ตกลงตรูจะเอายังไงกันแน่นี่? พูดเองเออเอง กลืนน้ำลายตัวเอง และก็งงเอง)
"อ้าว... เป็นงั้นไป ผมอุตส่าห์หลงดีใจ ไอ้จ้อนของผมมันอยากออกศึกเต็มทนแล้ว" น้องก้องพูดอย่างเสียดาย
"ทะลึ่งนะเรา กินเข้าไป กับพี่รหัสยังไม่เว้นเลย หน้าตาหล่อ แถมคารมดีแบบนี้ มีคงจะมีแฟนเพียบชนิดที่หัวกระดอ เอ๊ย…! หัวกระไดหอไม่แห้งละซิ"
"มีมาเรื่อยๆครับ แต่ผมชอบมีอะไรกับผู้ชายมากกว่า มันสนุกตื่นเต้นและเสียวกว่ามาก ผมไม่ได้มีอะไรกับผู้หญิงนานมาก ตั้งแต่สมัยอยู่ม.5 แล้วมั๊ง เอากับผู้หญิงน่าเบื่อยังไงไม่รู้ นอนอย่างเดียวไม่ยอมทำอะไรเลย ไม่ไหว แล้วพี่กันต์มีแฟนหรือยังครับ?" น้องก้องพูดถึงรสนิยมทางเพศของตัวเอง อย่างไม่ปิดบังและไม่มีเขินอายแต่อย่างใด
"หน้าตาอย่างพี่จะมีใครเอา ถ้าหล่ออย่างเราก็ว่าไปอย่าง" ผมพูดถ่อมตัว
"ไม่จริง... ถ้าหน้าตาอย่างพี่กันต์เรียกว่า ไม่หล่อ แล้วหน้าตาอย่างผมมันจะเหลือเหรอ" น้องก้องพูดขึ้นมา
ผมกับน้องก้องกำลังกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย ทันใดนั้น มีผู้หญิงคนหนึ่ง อายุน่าจะราวๆน้องก้อง หรือไม่ก็แก่กว่าผมประมาณ 2-3 ปี ใส่เสื้อยืดแขนกุดสีขาวลายแดงเหลืองทอง กางเกงยีนส์สีดำ และสวมรองเท้าส้นสูงสีเงิน เดินเข้ามาทางผมและน้องก้อง
ผู้หญิงคนนี้ หน้าตาจัดว่าเป็นคนที่มีเสน่ห์ดึงดูดทางเพศมากกว่าเป็นคนที่สวยน่ารัก
"โลกกลมจริงๆ กันต์จำเราได้ไหม? หมวย เอกภาษาไทย ตอนรับน้องคณะเมื่อปีก่อน เราอยู่ในกลุ่มเดียวกับกันต์ เราเป็นรูมเมทของยุ้ยที่เรียนอยู่เอกเดียวกับกันต์ ไม่รู้ว่ายุ้ยพูดเรื่องของเราให้กันต์ฟังบ้างหรือเปล่า?" ผู้หญิงที่ชื่อ หมวย พูดแนะนำตัวเอง
"ที่แท้ก็เป็นรูมเมทของยุ้ย ขอโทษที่เราจำเธอไม่ได้จริงๆ อย่าโกรธเราเลยนะ" ผมพูดทักทายอย่างเป็นมิตร (ทั้งที่ในใจแอบงงมากๆ ที่จู่ๆมีชะนีโผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ แถมยังรู้จักผมอีกด้วย)
"ไม่เป็นไรหรอก มากันสองคนหรือ?" หมวยถามผม
"ใช่… เราพาน้องรหัสมาเลี้ยง" ผมตอบไปตรงๆ
"เรามากับเพื่อนๆ นั่งอยู่โต๊ะโน่น กินข้าวจากที่นี่เสร็จแล้ว จะไปไหนกันต่อ? คือ เรากับเพื่อนๆจะไปเที่ยวที่กังสดาล ถ้ายังไงเราขอเชิญกันต์และน้องรหัสไปเที่ยวด้วยกัน" หมวยเชิญชวนผมและน้องก้อง
"เราต้องขอโทษด้วย เอาไว้โอกาสหน้า พรุ่งนี้ต้องรีบตื่นแต่ตี 4 จะไปธุระที่ลำปาง" ผมแจกสตอให้ยัยหมวยไปหลายกิโล พร้อมทั้งใช้เท้าสะกิดเท้าของน้องก้องเพื่อส่งสัญญาณว่า เป็นอันเข้าใจความหมาย
"เสียดายจัง... แต่ไม่เป็นไร โอกาสหน้าก็ได้ ว่าแต่วันนี้เราทั้งสองได้รู้จักกันแล้วนะ ถ้ากันต์เจอหมวยในมอ อย่าลืมทักทายบ้างนะ" หมวยสบตาผมพร้อมส่งยิ้มที่แฝงด้วยความเสน่หาให้ผม
"ได้ " ผมตอบสั้นๆ (ทั้งที่ในใจอยากจะพูดต่ออีกว่า "ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ขอเชิญคุณหมวยออกไปจากโต๊ะของผมได้แล้ว" ดูใจร้ายไปไหมตรู! ช่วยไม่ได้ตรูดันเป็นโรคแพ้ชะนี)
"เพื่อนๆกวักมือเรียกหมวยแล้ว ต้องขอตัวก่อนนะ ถ้ามีอะไรหมวยจะส่งข่าวผ่านแมวมาบอกอีกที แล้วค่อยเจอกันคราวหน้า" ก่อนจะเดินจากไป ยัยหมวยยังไม่วายที่ทำหน้าตาเซ็กส์ซี่ใส่ผม(สำหรับผมคงเห็นเป็น "เซ็กส์เสื่อม"มากกว่า)
"กว่าจะไปได้ เล่นเอาตรูถึงกับนับ 1 ถึง 1,000 ในใจ ไปซะได้ก็ดี จะอะไรกับคนอย่างตรูนักหนานี่" ผมบ่นพึมพำในใจคนเดียว
"โอ้โห ฮ็อตจริงๆพี่รหัสผม ถึงขนาดมีสาวเซ็กส์ซี่มาตามจิกถึงโต๊ะเลย เท่าที่ดูรูปการณ์แล้ว ท่าทางพี่กันต์จะไม่ชอบผู้หญิงเอามากๆนะ" น้องก้องพูดอย่างรู้ทัน (ปากไวจริงๆน้องตรู)
"เออ... ก็มันไม่ชอบนี่ จะให้ทำอย่างไร? พี่ชอบสาก มากกว่า รู" ผมพูดอย่างเปิดเผย (มาถึงขนาดนี้แล้ว ตรูคงไม่ต้องแกล้งแอ๊บว่าเป็นแมน 100% ต่อหน้าน้องก้องอีกต่อไป ในเมื่อน้องเขากล้าแสดงสปิริตเปิดเผยรสนิยมทางเพศขนาดนี้ มีหรือที่พี่รหัสอย่างผมจะยอมน้อยหน้า)
ผ่านไปซักพัก เสียงเพจเจอร์ของน้องก้องดังขึ้นมา.......
"แฟนเรียกตัวหรือ?" ผมแซวน้องก้อง
"เปล่าครับ.. นุ่ม ส่งข้อความมาชวนไปเที่ยวที่ จีจี้ คืนนี้ เห็นบอกว่าไปกันหลายคน ไปเที่ยวจีจี้ด้วยกันนะครับพี่กันต์ เพื่อนๆผมก็รุ่นน้องสาขาวิชาเดียวกับพี่กันต์ คนกันเองทั้งนั้น" น้องก้องพยายามเชิญชวนผม
"ตกลง แต่พี่ไปแป๊บเดียวนะ ไม่เกินตี1 พี่ก็กลับแล้ว พี่ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ขืนไปเที่ยวนานคงไม่สนุก กะจะไปเต้นยืดเส้นยืดสายซักหน่อย" ผมรับคำเชิญ
จีจี้ เป็นผับที่โด่งดังมากที่สุดในเชียงใหม่ (ในสมัยนั้น) ขณะที่น้องก้องและเพื่อนๆกำลังดื่มและเต้นกันอย่างสนุกสนานนั้น ผมรู้สึกปวดฉี่ จึงเดินไปเข้าห้องน้ำ เมื่อฉี่เสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมเดินไปล้างมือที่อ่าง ทันใดนั้น ผมรู้สึกว่า เหมือนมีใครมาชนตรงข้างๆตัวผม จนทำให้ผมเซๆเล็กน้อย
"ขอโทษครับ" เจ้าของเสียงที่เดินมาชนผมกล่าวคำขอโทษ
"ไม่เป็นไรครับ" ผมพูดพร้อมกับหันไปมองหน้าคนที่มาชน
สายตาของผมกับคู่กรณีจ้องประสานกัน คู่กรณีของผมเป็นชายหนุ่ม อายุคงจะแก่กว่าผมไม่กี่ปี หรือเท่ากับผม ที่สำคัญ ชายหนุ่มคนนี้หน้าตาหล่อเหลาเอาการ และรูปร่างก็สูงโปร่งได้สัดส่วน ถูกใจชาวเกย์อย่างเราๆมาก
ชายหนุ่มรูปร่างทรมานใจเกย์ คนนั้น เดินไปยืนฉี่ตรงโถ ส่วนผมล้างมือไปพลันส่องกระจกสำรวจความเรียบร้อยของหน้าตาและทรงผมของตัวเอง (กลัวเรตติ้งตก)
เงาสะท้อนจากกระจกทำให้ผมมองเห็นชายหนุ่มคนนั้น ยืนหันหลังฉี่อย่างชัดเจน (ถ้าโถฉี่ข้างๆว่าง อยากเข้าไปยืนประกบจัง) ซักพักหนึ่งชายหนุ่มคนที่ว่า หันหน้ามาแจกยิ้มให้ผม(แบบผีเห็นผีด้วยกันหรือเปล่า?) ผมยิ้มตอบอย่างมีมารยาท(ปนมารยานิดๆ) พร้อมกับเดินออกไปจากห้องน้ำอย่างรวดเร็ว (หลอกให้อยากแล้วจากไป เรตติ้งครั้งนี้เป็นที่น่าพอใจ)
ผมกลับเข้าไปสมทบกับน้องก้องและเพื่อนซึ่งกำลังแด๊นซ์กันอย่างเมามันส์ โดยเฉพาะน้องก้องท่าทางจะคึกคักเป็นพิเศษ ทั้งเต้นทั้งดื่่มอย่างไม่บันยะบันยัง (แทบจะเรียกได้ว่า ดื่มเหล้าพอๆกับดื่มน้ำ ส่วนผมนะเหรอ แค่โค๊กแก้วเดียวยังไม่หมดเลย)
ผมเต้นได้ไม่กี่เพลงก็ต้องขอตัวมายืนพักที่โต๊ะ ขณะที่กำลังยืนปลดปล่อยอารมณ์ไปตามเสียงเพลงนั้น
"มาเที่ยวบ่อยไหมครับ?" ชายหนุ่มที่เดินชนผมในห้องน้ำ พูดทักทาย (แอบสะดกรอยตามมาตั้งแต่เมื่อไหร่นี่? ผมไม่ยักกะเห็นหรือรู้สึกตัวเลย มาแบบย่องเงียบจริงๆ)
"ไม่บ่อยครับ ครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง ส่วนครั้งแรกนั้น นานเป็นปีแล้ว" ผมตอบรับคำทักทายด้วยอัธยาศัยที่ดี
"ผมชื่อ เสือ คุณ.... ? " ชายหนุ่มแนะนำตัวเอง พร้อมกับยกแก้วเหล้าในมือเพื่อขอชนแก้วกับผม
"กันต์... ยินดีที่ได้รู้จักครับ" ผมยกแก้วขึ้นชนกับแก้วของเสือ
"เช่นเดียวกันครับ คุณกันต์เรียนอยู่ที่ไหน?"
"ไม่ต้องเรียกคุณ เรียกผมก็ได้ มันเป็นทางการจนเกินไป ฟังแล้วจั๊กจี้ เราเรียนอยู่......."
"ผมก็เด็กมอ เหมือนกัน อยู่เทคนิคการแพทย์ ปี 1 แล้วกันต์อยู่คณะไหน? ปีอะไร?"
"เราอยู่คณะ........ ปี 2 แต่ไม่ต้องเรียกเราว่าพี่นะ เราว่านายแก่กว่าเราแน่ๆ เรื่องมันยาว ไว้ค่อยเล่าให้ฟัง"
ทันใดนั้น น้องก้องก็เดินเข้ามาแทรกกลางระหว่างผมกับเสือ กลิ่นเหล้าแรงๆโชยออกมาจากตัวของน้องก้อง
"จะจีบพี่รหัสผมหรือ? ผมหวงนะ" น้องก้องพูดกับเสือด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยจะเป็นมิตร
"ไปเต้นกันต่อเถอะ พี่กันต์" น้องก้องใช้แขนโอบไหล่ผม (ถึงเนื้อถึงตัวเร็วดีจัง)
"เอาไว้เพลงหน้านะ ก้องไปเต้นกับเพื่อนๆก่อน พอเพลงนี้จบพี่ตามไปแน่นอน" ผมมองหาพร้อมกับกวักมือเรียก นุ่ม ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มเพื่อนๆของน้องก้อง ให้มาช่วยพาน้องก้องไปเต้นก่อน
"ไปเต้นกับนุ่มก่อนนะ เพลงหน้าพี่ตามไปแน่นอน" ผมรับปากน้องก้อง
"ก็ได้ครับ เพลงหน้าขึ้นแล้วต้องตามไปนะ ห้ามเบี้ยวเด็ดขาด เพราะผมมองดูพี่ตลอดเวลา" น้องก้องเน้นย้ำกับผม
ก่อนจะออกไปเต้นกับกลุ่มเพื่อนๆ น้องก้องใช้สายตาจ้องมองเสือ แววตาที่ดูแข็งกร้าวของน้องก้อง เหมือนจะสื่อออกมาเป็นการเตือนให้เสือรู้ตัว
"เราต้องขอโทษแทนน้องเขาด้วย อย่าถือสาเลย น้องเขาเมา" ผมขอโทษเสือแทนน้องก้อง
"เราไม่ถืออยู่แล้ว มีพี่รหัสหล่อๆอย่างกันต์ ถ้าไม่หวงก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว ตั้งแต่นี้ไป เราต้องเอาใจก้องให้มากๆซินะ เผื่อว่าเขาจะเปิดไฟเขียวให้เราใกล้ชิดกับพี่รหัสสุดหล่อได้" เสือใช้แววตาเพื่อต้องการสื่ออะไรบางอย่างกับผม
ผมไม่พูดไม่จา (ก็มันเขินนี่ จะให้ทำไง) เมื่อเพลงใหม่เริ่มต้นขึ้น น้องก้องเข้ามาฉุดแขนผมไปเต้นอย่างรวดเร็ว จนผมไม่มีโอกาสได้บอกกล่าวอะไรกับเสือ พอเพลงจบลง ผมพยายามมองหาเสือที่บริเวณโต๊ะ แต่ก็ไม่พบเจอ (ทิ้งไว้แค่ความเสียดาย)
ระหว่างทางที่ขับรถกลับ...
"คืนนี้ผมนอนค้างกับพี่กันต์ได้ไหมครับ? ผมลืมเอากุญแจห้องมา" น้องก้องเอ่ยถามขึ้นมา ด้วยหน้าตาที่เหม่อๆเคลิ้มๆ จากฤทธิ์ของสุรา (ไม่รู้ว่าลืมจริงหรือว่าแกล้งลืม?)
"อืม.. ก็ได้" ผมตอบตกลง
ก่อนจะเข้านอน ผมให้น้องก้องนอนเตียงเดียวกับผม โดยมีหมอนข้างมาคั่นกลางแบ่งเขตแดนบนเตียงระหว่างเรา
เมื่อหัวถึงหมอน น้องก้องนอนหลับทันที แถมกรนส่งเสียงดังอีกต่างหาก ส่วนผมก็เผลอหลับไปไม่นานหลังจากน้องก้อง
ในตอนกลางดึก(หรือใกล้รุ่งสาง มิทราบได้ เพราะออกจากผับประมาณตี 1 กว่าๆ กว่าจะเข้านอนก็ปาไปเกือบๆตี 3 ) ผมรู้สึกว่ามีอะไรอุ่นๆนุ่มๆแฉะๆ มาประคบตรงหว่างขาของผม (ลืมบอกไปว่า ผมนุ่งกางเกงเลแบบใช้เชือกผูกรัดเอว ซึ่งเวลานอนผมมักจะรัดเชือกแบบหลวมๆ) ผมไม่ได้ลืมตาดู เพราะรู้สึกเหนื่อยไม่มีแรง และอาจจะมาจากฤทธิ์ยาแก้ปวดด้วย (ก่อนนอนผมกินยาแก้ปวดเข้าไป เพราะรู้สึกปวดหัวจากกลิ่นควันบุหรี่และกลิ่นอะไรต่อมิอะไรในผับ)
วินาทีต่อมา ผมรู้สึกเสียวที่ถุงกะโปกเหมือนถูกลิ้นเลียไปรอบๆ จากนั้นแท่งตอปิโดของผมก็แข็งโด่ขึ้นมาอย่างอัตโนมัติ ลิ้นที่ลากเลียตรงกะโปกเริ่มเปลี่ยนตำแหน่งขึ้นมาตรงลำแท่งตอปิโดของผมอย่างช้าๆ จนมาหยุดอยู่ที่ปลายหนังหุ้มหัวตอปิโดที่เปิดออกไม่มากนัก
ผมเริ่มรู้สึกเสียววาบขึ้นมาทันที หัวตอปิโดของผมเวลานี้ได้ถูกโหมกระหน่ำเลียอย่างไม่ยั้งทำให้หนังหุ้มเปิดถอก จนหัวกระดอของผมเปิดออกมาสัมผัสปลายลิ้นได้อย่างเต็มที่ ซักพักแท่งตอปิโดของผมถูกสาวว่าขึ้นๆลงๆ ด้วยริมฝีปากที่อ่อนนุ่ม
ผมรู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก จะว่าเป็นความฝันมันคงไม่ใช่ เป็นความจริงคงไม่เชิง มันเหมือนกึ่งหลับกึ่งตื่นซะมากกว่า เพื่อความแน่ใจ ผมจึงค่อยลืมตาขึ้นมาดูทีละนิด ภาพที่ผมเห็นนั้น น้องก้องกำลังใช้ปากอมอวัยวะเพศของผม
ส่วนตัวน้องก้องเองนั้น นอกจากจะใช้ปากลิ้มรสกระดอของผมแล้ว ยังใช้มืออีกข้างสาวว่าวให้ตัวเองอีกด้วย (เข้าใจตั้งท่านะน้องรหัสตรู)
ผมจึงแกล้งหลับและปล่อยเลยตามเลย (สถานการณ์มันสายเกินแก้ที่จะบอกให้น้องเขาหยุด เพราะกระดอของผมได้เข้าอยู่ในปากของน้องเขาแล้ว ถ้าเป็นช่วงก่อนที่น้องเขาจะปลดกางเกงผม ยังพอแก้ไขสถานการณ์ได้)
หลังจากใช้ลิ้นเลียตวัดเล่นทั่วแท่งตอปิโดของผมแล้ว น้องก้องยังใช้ริมฝีปากสาวแท่งตอปิโดของผมขึ้นๆลงๆเป็นจังหวะที่เร็วและรัวมากขึ้นเรื่อยๆ จนผมน้ำกำหนัดขาวๆขุ่นๆเหนียวๆหนืดๆ พุ่งเข้าไปในปากของน้องก้องจนหมดก๊อก
น้องก้องหันมาชักว่าวให้ตัวเองจนน้ำแตก พอสำเร็จเสร็จสิ้นกามกิจแล้ว น้องก้องดอดมาหอมแก้มผมฟอดใหญ่ๆ แถมกระซิบข้างหูผม… "ผมรู้นะว่า พี่กันต์แกล้งหลับ คนนอนหลับประสาอะไรเคถึงได้แข็งโด่ชูชันแบบนี้ แถมน้ำยังพุ่งแรงอีกด้วย ไม่ต้องอายหรอกครับ"
ผมรู้สึกเขินอายจนพูดไม่ออก ได้แต่หันไปยิ้มให้น้องก้องเท่านั้น น้องก้องกอดผมจนเผลอหลับไป
ผมตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของน้องก้อง ผมหันไปมองดูน้องก้องที่กำลังนอนหลับไหลอยู่บนเตียง
"เมื่อคืนเราถูกน้องก้องลักหลับ พลาดท่าเสียทีน้องรหัสเข้าจนได้" ผมพูดกับตัวเอง
ประสบการณ์ ต่าง ๆ รวบรวมมาที่นี้ที่เดียว (เกย์)
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
เด็กหอ 8 CP
มื่อกานต์เก็บของจากห้องตัวเองเสร็จ จึงมาหาอาจารย์ภัทรที่ห้อง ส่วนภัทรอาบน้ำทำความสะอาดเนื้อตัวเรียบร้อย ควยของภัทรแข็งรอกานต์อยู่นานแล้ว &...
-
หลังเสียงเพลงชาติจบลง ร่างสูงขาวของหนุ่มนักเรียนชั้น ม.6 ในฐานะประธานนักเรียนของโรงเรียนแห่งนี้เดินขึ้นกล่าวกับนักเรียนทุกระดับ ชั้นถึงเรื่...
-
มาถึงตอนนี้ ไอ้หมาเสือ รู้สึกตัวเองแล้วว่า มันกำลังหลงใหลดำดิ่งลงใน “โลกของทาสหมา” อย่างถอนตัวไม่ขึ้นเสียแล้ว ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับมันในช...
-
ทัพ หนุ่มนักเรียนวิศวะ ผู้มีความหล่อระดับเดือนคณะ เป็นนักกีฬามหาลัย ชอบออกกำลังกาย ชอบว่ายน้ำ ชอบเล่นฟุตบอล เป็นที่หมายตาของสาวๆหลายๆคน ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น