วันพุธที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2556

"เรื่องเล่าคาวน้ำกาม" 4

ในที่สุดก็มาถึงวันที่ผมจะต้องเดินทางกลับ ตลอดระยะเวลา 1เทอม ที่ได้มาเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนที่ปัตตานี มันช่างเป็น 1 เทอม ที่ประทับใจคุ้มค่ามากเกินกว่าบรรยายออกมาเป็นตัวอักษร นอกจากจะได้ประสบการณ์ชีวิตที่เพิ่มมากขึ้นแล้ว ประสบกามของผมก็เสียวใช่ย่อย (ถึงแม้ปริมาณจะได้แค่ 3 ดุ้น แต่คุณภาพก็เสียวเต็มรูสุดๆ)
ผมขอทำรายงานสรุปยอดไว้ดังนี้.... (พูดเชิงวิชาการมากๆเลยเรา)

ดุ้นแรก.... แซยิด.... ประสบกามของผมกับแซยิด ไม่มีพัฒนากามอะไรที่ก้าวหน้าเลย คุณชายยังคงสไตล์แบบเดิมๆ น่าเบื่อ อย่างเช่น... นอนแผ่หราหรือไม่ก็ยืนแข็งทื่อแอ่นเจ้างูอนาคอนด้าตาเดียวมาให้ผมเก็บบัวให้ โดยที่คุณชายไม่แตะต้องเนื้อตัวของผมเลย (นานๆถึงจะจับแท่งตอปิโดของผมซักที แต่ก็แค่จับ ไม่ยักกะชอลิ้วเฮียงให้) ไม่เข้าใจ he จริงๆว่า what’s in his mind? สำหรับผมแล้ว... ดุ้นของแซยิดเป็นแค่ดุ้นสำรองที่ใช้ในยามขาดแคลน หรือไม่ก็ดุ้นขัดตาทัพ

ดุ้นที่สอง.... พี่ทวีป.... ขอบอกว่า เฉยๆครับ เพราะยังหลอนกับภาพตอนพี่เขาแต่งสาวอยู่


ดุ้นที่สาม.... ไอ้พัฒน์... ประสบกามของผมกับไอ้พัฒน์ ช่างเป็นประสบกามที่แซ่บแสบเสียวได้ใจมากๆ หลังจากที่ครั้งแรก ผมพลาดท่าโดนไอ้พัฒน์ยัดเยียดความเป็นผัวให้ อย่างไม่มีทางเลี่ยง(ปนสมยอมนิดๆ) ทำให้ผมต้องรับบทผูกขาดเป็นเมียของมันมาตลอด ทั้งๆที่ผมอยากจะเย็ดมันแทบจะขาดใจ พยายามหาโอกาสทองที่จะยิงแท่งตอปิโดของผมเข้าไปในรูดากของมัน แต่จนแล้วจนรอด ก็ยังไม่ได้แก้แค้นมันให้สะใจเสียที (แถมมันยังพูดส่งท้ายอีกว่า... “กูจะขึ้นเหนือตามไปเย็ดมึงถึงที่” )

คืนก่อนวันที่ผมจะเดินทางกลับ ไอ้พัฒน์จัดการสมนาคุณส่งท้ายให้ผม โดยใช้สากครกขนาดย่อมของมันปฏิบัติภาระกาม ตำส้มตำในครกของผม ครั้งนี้ดูเหมือนมันพยายามตั้งใจตำแรงๆรัวๆถี่ๆ และนานมาก กว่าน้ำเงี่ยนของมันจะแตกก็เล่นเอาครกของผมแสบและแทบจะสึก (ไม่อยากนึกถึงตอนเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวเลย คิดแล้วสยอง)
เท่านั้นยังไม่พอ มันยังทำซึ้งโดยการเล่นกีต้าร์และร้องเพลงอัดใส่ในเทป เอาให้ผมไว้ฟังเป็นที่ระลึกอีกด้วย เพลงที่ว่านี้เป็นเพลงยอดนิยมจนกลายเป็นหนึ่งในเพลงประจำวิทยาเขตแห่งนี้ ไอ้พัฒน์ชอบเพลงนี้มาก


เนื้อเพลง “หัวใจปลาตีน”

“ ยังมีนิยายที่เล่ากันไปไม่รู้จบ
หากใครได้พบจะเห็นความรักที่จริงใจ
ในตอนเย็นๆหากคุณเดินเล่นเลโคลนเมื่อไหร่
จะเห็นหัวใจปลาตีนร้องไห้อยู่ในโคลนตม

อดทนเหน็บหนาวเฝ้าแหงนดูดาวที่สูงส่ง
ด้วยความลุ่มหลงหรือรักจริงเพราะเหตุอันใด
มันบอกออกมาว่าฉันคือปลาที่แสนยิ่งใหญ่
เพราะว่าฉันมีหัวใจความรักที่ให้กับดวงดาว

เจ้าดวงอาทิตย์นั่งอยู่ไม่ติดจึงร้องว่า
ปลาตีนต่ำช้าเอ็งต้องข้ามศพข้าไป
เจ้าเกิดเป็นปลาที่ไร้ราคาแต่ข้ายิ่งใหญ่
จงหลีกจงถอยออกไปดวงดาวนี้ไงต้องคู่กับเรา

หัวใจปลาตีนก็ทำจากเนื้อนิ่มๆ
ไม่แย่ไม่ยิ้มและทุกโศกเป็นครั้งคราว
เพียงแต่มองมาไม่เผยวาจากับข้าสักคราว
แค่นี่แค่นั้นดวงดาวจะขอรักเจ้าตลอดไป ”


………………………………………………………………………………


ผมนั่งรถแท็กซี่จากปัตตานีมาที่หาดใหญ่เพื่อขึ้นรถไฟที่สถานีชุมทางหาดใหญ่ ไปยังสถานีหัวลำโพง จากนั้นก็ไปที่สถานีขนส่งหมอชิตเพื่อขึ้นรถทัวร์กลับบ้าน (สมัยนี้ต้องใช้บริการของหางแดงเท่านั้นที่ช่วยได้ เพราะมีเที่ยวบินที่บินตรงจากหาดใหญ่มาเชียงใหม่ สะดวกรวดเร็วมากๆ พอถึงเชียงใหม่แล้วค่อยต่อรถเมล์ไปที่บ้านของผม อีกประมาณ 4 ชั่วโมง)

ระหว่างรอรถไฟอยู่ที่ชานชาลา ผมเกิดนึกสนุกขึ้นมา

“เศษเหรียญยังเหลือเยอะพอสมควร หาอะไรทำดีกว่าเรา ไม่แน่อาจจะได้กำไรสองเด้งก็ได้” ผมพูดพึมพำกับตัวเอง พร้อมกับเดินตรงไปยังตู้โทรศัพท์สาธารณะที่อยู่ใกล้ ผมเปิดกระเป๋าสตางค์และหยิบนามบัตรใบหนึ่งขึ้นมา ผมไม่รอช้ารีบหยอดเหรียญและกดเบอร์ที่นามบัตรใบนั้นทันที (ถ้าเป็นสมัยนี้คงต้องส่ง BB หรือไม่ก็ออน FB และเล่น line )

“ฮัลโหล... นั่นสายจากใครครับ?” เสียงจากปลายสายถามขึ้นมา

“สวัสดีครับ ขอสายพี่ทีครับ” ผมพูดทักทาย (ยังจำพี่ทีสุดหล่อ จากตอนที่ 2 ได้หรือเปล่าครับ? พี่ทีเพื่อนสนิทของพี่ต่อ)

“พูดอยู่ นั่นใคร?”

“กันต์ ครับ พี่ทีจำผมได้ไหม? กันต์ที่เคยไปเที่ยวเชียงรายกับพี่ พี่ต่อ และพี่บาส?” ผมแนะนำตัวเอง

“อ๋อ... ไอ้หลินจื้ออิง นั่นเอง หายหัวไปเลยนะ พี่เพิ่งกลับจากเชียงใหม่เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ตอนไปเชียงใหม่ก็ไม่เห็นเรา ตอนนี้อยู่ไหน?” พี่ทีพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

“ผมอยู่ที่หาดใหญ่ครับ ตอนนี้ผมกำลังจะขึ้นรถไฟมากรุงเทพ” ผมบอกพี่ที

“จริงเหรอ? จะมาถึงกรุงเทพกี่โมง?” พี่ทีถามอย่างดีใจ

“ผมจะมาถึงที่หัวลำโพง พรุ่งนี้ 8 โมงเช้าครับ” ผมพูดยังไม่จบ ทันใดนั้นรถไฟก็วิ่งมาจอดเทียบที่ชานชาลา

“แค่นี้ก่อนนะพี่ที รถไฟมาแล้ว พอถึงกรุงเทพ ผมจะโทรหาอีกครั้งนะครับ” พอพูดจบผมรีบวางสาย ทันที

ตลอดทางที่นั่งรถไฟ ผมรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เจอพี่ที ผมไม่มีโอกาสได้เจอกับพี่ที รวมแล้วก็เป็นเวลา 1 ปี กับอีก 2 เดือนพอดิบพอดี ยิ่งคิดแล้วยิ่งเสียดายโอกาสทองตอนไปเที่ยวเชียงราย อ้อยกำลังจะเข้าปากช้างอยู่แล้วเชียว ควานช้างดันเข้ามาขวางลำเอาไว้ แต่ไม่เป็นไร ยังมีโอกาสแก้ตัวอีกตั้งเยอะ

เมื่อรถไฟได้จอดเทียบชานชาลาที่สถานีหัวลำโพง ผมเดินออกจากตู้รถไฟอย่างเก้ๆกังๆ เพราะยังคิดไม่ออกว่า จะไปสถานีขนส่งหมอชิตอย่างไร? ต้องนั่งรถเมล์หมายเลขอะไร? และต้องไปขึ้นที่ป้ายไหน? (บ้านนอกเข้ากรุงตัวจริง) นี่เป็นครั้งแรกของผมที่มากรุงเทพคนเดียว ก่อนหน้านี้ผมเคยมากรุงเทพครั้งหนึ่ง แต่มันนานมาแล้ว สมัยผมอยู่ม.1 มากับครอบครัว

ขณะที่ผมกำลังยืนงงเป็นไก่ตาแตกอยู่ท่ามกลางฝูงคลื่นมหาชนในหัวลำโพงอยู่นั้น สายตาของผมก็ไปสะดุดกับหนุ่มเสื้อสีฟ้า กางเกงยีนส์ลูกฟูกสีขาว ที่ยืนกวักมือเรียก หนุ่มคนนี้อยู่ใกล้กับตู้รถไฟตู้แรกของขบวนที่จอดเทียบท่า

“ตรูไม่ได้ตาฝาดไปนะ อะไรมันจะบังเอิญประจวบเหมาะเหมือนในหนังในละครอย่างนั้น เอาว่ะ... เป็นไงเป็นกัน จะหน้าแตกทักคนผิดเพราะตาฝาดก็ยอม” ผมขยี้ตาตัวเอง พร้อมกับเดินหน้าตรงไปหาหนุ่มเสื้อสีฟ้าคนนั้น

“ใช่พี่ทีจริงๆด้วย” ผมพูดกับตัวเอง ผมรู้สึกตื่นเต้นและดีใจเป็นที่สุด พี่ทีใส่เสื้อสีฟ้าตัวนี้ ดูหล่อเหลาและมีออร่ามากๆ ถ้าไม่รู้จักกัน ผมคงจะคิดว่าเป็นดาราหรือไม่ก็นายแบบมาถ่ายละครหรือถ่ายแบบอยู่แถวๆนี้ (หากเปรียบใบหน้าของพี่ทีกับดาราแล้ว ใบหน้าของพี่ทีบางมุมดูคล้ายๆ อ๋อม อรรคพันธ์ ) ผมพยายามเก็บอาการตื่นเต้นเอาไว้ โดยใช้ความสงบสยบความแรด ทั้งที่ความรู้สึกในใจนั้น มันสั่นระริกระรี้ดีใจออกหน้าจนแทบจะวิ่งไปกอดรัดฟัดเหวี่ยง จูบปากแลกลิ้น และถลกกางเกงลงไปกองกับพื้นพร้อมทั้งเก็บบัวให้ชนิดถอนรากถอนโคนจนหมดสระ (เวอร์แล้วตรู... หัดระงับอารมณ์ตัวเองไว้บ้างซิ ไม่ต้องรีบยังไงก็ได้กินแน่ๆ เดี๋ยวคนอ่านจะหมั่นใส้เอา)

“สวัสดีครับ ดีใจจังที่ได้เจอพี่ที พี่มาทำอะไรที่นี่ครับ?” (รู้ทั้งรู้ว่าพี่ทีมารับ ตรูยังจะดันเสือกถามอีก ก็มันทั้งตื่นเต้นทั้งดีใจจนสติแตกไปแล้วนี่)

“มารับเด็ก” พี่ทีตอบสั้นๆกวนๆ

“แล้วพี่เจอเด็กของพี่หรือยัง?” ผมยังดันทุรังถามต่อ

“เจอ... แต่ ดอ เด็ก ยังไม่เจอเลย ” พี่ทีเล่นมุขพร้อมกับยิ้มหน้าเป็น

“ไหนเด็กของพี่? ผมไม่เห็นเลย” ผมแกล้งทำหน้าไร้เดียงสา ไม่เก็ทมุขพี่ที

“เด็กยืนอยู่ตรงหน้าพี่ แต่ ดอ เด็ก ยังอยู่ในกางเกง” พี่ทียิ้มแบบมีเลศนัย พร้อมกับชี้นิ้วไปที่เป้ากางเกงผม

“ยอมแพ้แล้วครับ พี่ทีเล่นอะไรก็ไม่รู้ เออ... แล้วพี่ทีรู้ได้อย่างไรว่า ผมมาถึงหัวลำโพงเวลานี้?” ผมถามอย่างสงสัย

“อ้าว... ก็เราบอกพี่เมื่อวานว่า จะมาถึงวันนี้ตอน 8 โมงเช้า พี่เลยลองมาดักรอเราที่นี่ เผื่อจะโชคดีได้เจอเรา แล้วก็โชคดีจริงๆด้วย ไม่ได้เจอกันแค่ปีเดียว เราโตขึ้นเยอะนะ หน้าตาก็หล่อมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อก่อนหน้าเราหวานมาก แต่ตอนนี้เริ่มจะมีแววหล่อคมขึ้น” พี่ทีชมผมอย่างออกนอกหน้า จนผมชักเริ่มอายขึ้นมา

“พี่ทีก็ยอซะ ตัวผมจะเริ่มลอยแล้ว” ผมพูดแบบเขินๆ

“พี่ว่า ออกไปข้างนอกกันเถอะ ไม่ไหวในนี้ร้อนก็ร้อน คนก็เยอะอีกต่างหาก” พี่ทีช่วยผมหิ้วกระเป๋า และเดินนำผมไปที่ลานจอดรถ

ก่อนที่พี่ทีจะเริ่มสตาร์ทรถออกไปนั้น พี่ทีโน้มตัวมาหาผมซึ่งนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถ พี่ทีใช้แขนทั้งสองข้างดึงตัวผมเข้าไปหาตัวพี่ที จากนั้นก็ใช้ริมฝีปากละเลงจูบไปบนริมฝีปากของผม และลากลงมาไซร้ที่ซอกคอผม

ผมพยายามผลักตัวพี่ทีออกไปโดยเร็ว เพราะรู้สึกไม่ค่อยสบายตัวเท่าไหร่ กลัวพี่ทีจะเหม็นกลิ่นคราบเหงื่อไคลของผม จนหมดอารมณ์กำหนัด

“ทำไมถึงไม่ยอมให้พี่กอดจูบให้หายคิดถึง? รังเกียจพี่หรือ? พี่คิดถึงเรามากรู้ไหม? ตอนไปเชียงใหม่ครั้งที่แล้ว ก็เพื่อจะไปหาเราโดยเฉพาะ แต่ก็ไม่เจอ พอเลียบๆเคียงๆถามไอ้ต่อ ก็รู้ว่าเราไปเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนที่มหาลัยทางใต้ ครั้นจะถามไอ้ต่อเกี่ยวกับตัวเราอีก ก็กลัวมันสงสัย” พี่ทีพูดด้วยน้ำเสียงที่น้อยใจนิดๆ

“ไม่ใช่แบบนั้นนะครับ พี่ทีก็คิดออกทะเลไปโน่น ที่ผมผลักตัวพี่ออกไป โดยไม่ยอมให้พี่กอดจูบผม เพราะว่า ผมรู้สึกไม่สบายตัว ผมเดินทางข้ามคืน น้ำก็ยังไม่ได้อาบ ฟันก็ยังไม่ได้แปรง ผมกลัวพี่จะเหม็นกลิ่นตัวรวมทั้งคราบเหงื่อไคลของผม ถ้าพี่ไม่ถือ อยากจะกอดจูบลูบไล้ดอมดม ผมก็ยินดีครับ” ผมตอบไปตามตรงปนติดตลกเล็กน้อย

“เออ... จริงด้วย พี่ได้กลิ่นเหมือนโรงงานน้ำปลา หรือไม่ก็โรงหมักปลาร้าโชยมาแถวๆนี้” พี่ทีพูดไปหัวเราะไป และทำท่าเอามือปิดจมูก

“เอาไว้ให้ผมอาบน้ำประแป้งพรมน้ำหอม ให้เสร็จก่อนเถอะ จะเล่นตัวให้ดู” ผมงอนนิดๆ

“เราจะอยู่กรุงเทพกี่วัน?” พี่ทีเอ่ยถาม

“ขอบคุณมากครับที่ถามคำถามนี้ ผมเกือบลืมไป รบกวนพี่ช่วยพาผมไปที่หมอชิตได้ไหมครับ? ผมจะไปจองตั๋วรถทัวร์ ถ้าได้ตั๋วก็อาจจะกลับเย็นนี้”

“เฮ้ย... อะไรกันว่ะ เพิ่งจะเจอหน้ากันหยกๆ จะรีบกลับแล้วเหรอ? น่าจะอยู่เที่ยวด้วยกันซัก 2-3 วัน เดี๋ยวพี่พาเที่ยวเอง พรุ่งนี้พี่จะพาไปล่องแพที่เมืองกาญ” พี่ทีกล่าวเชิญชวนผม (เข้าทางผมละ)

“ก็ไม่ได้ถึงกับรีบกลับหรอกครับ ถ้าผมอยู่ต่อ ผมไม่รู้ว่าจะไปพักที่ไหน? โรงแรมในกรุงเทพผมก็ไม่รู้ว่าอยู่แถวไหนบ้าง? ผมไม่รู้ที่ไปจริงๆครับ” ผมแกล้งทำหน้าซื่อตาใสเพื่อดูปฎิกริยาของฝ่ายตรงข้าม (ทั้งที่ใจจริงนั้น คันคะเยออยากจะอยู่เที่ยวกรุงเทพตามคำเชิญชวนของพี่ทีมากๆถึงมากที่สุด)

“เรื่องขี้ผง ไม่ต้องห่วง... ไปอยู่ที่คอนโดพี่ ตกลงเราอยู่เที่ยวกรุงเทพก่อนซัก 3-4 วันนะ ห้ามปฏิเสธเด็ดขาด แล้วพี่จะไปส่งเราซื้อตั๋วและขึ้นรถที่หมอชิตเอง” พี่ทีตัดสินใจแทนผมแบบมัดมือชก (ชอบครับ เราไม่ต้องเสนอ ให้เขาสนองมาอย่างเดียว) พอพูดจบ พี่ทีก็ขับรถออกจากลานจอดรถไปอย่างรวดเร็ว

คอนโดของพี่ที เป็นคอนโดหรูอยู่ใจกลางเมือง มีขนาด 3 ห้องนอน แต่ละห้องจะมีห้องน้ำอยู่ในตัว พี่ทีเล่าให้ฟังว่า พี่ทีอยู่กับน้องชาย ตามลำพังแค่ 2 คน ส่วนพ่อแม่ของพี่ทีนั้น ทำธุระกิจอยู่ที่อเมริกา ทุกๆ 3-4 เดือน จะกลับมาเยี่ยมซักครั้ง
เวลานี้น้องชายของพี่ทีไปเที่ยวบ้านยายที่กาญจนบุรี พรุ่งนี้พี่ทีจะขับรถไปรับกลับมา

หลังจากอาบน้ำชำระล้างร่างกายเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมรู้สึกสะอาดและสบายตัวมากขึ้น ผมใส่เสื้อยืดและกางเกงขาสั้นแบบลำลอง ผมอยากจะพักผ่อน หลังจากที่อดตาหลับขับตานอนมาทั้งคืน ดังนั้นผมจึงล้มตัวลงไปนอนบนเตียงที่อ่อนนุ่ม (ผมนอนห้องเดียวกับพี่ที)

ในขณะที่ผมกำลังหลับตา พี่ทีซึ่งก่อนหน้านี้นั่งดูทีวีอยู่ที่ห้องรับแขก ก็ได้เปิดประตูเข้ามาในห้อง

“พออาบน้ำเสร็จแล้ว ดูหล่อกว่าเดิมอีก แถมยังสะอาด มีกลิ่นหอมอ่อนๆ น่าลิ้มลองมาก” พี่ทีพูดแฝงเลศนัย พลันเดินเข้ามาหาผม

“ดูทีวีจบแล้วหรือพี่?”

“ไม่มีอะไรสนุกเลย เสียอารมณ์ เข้ามาในนี้รู้สึกได้อารมณ์มากกว่าเยอะ” พี่ทีเดินมานั่งตรงขอบเตียง และใช้มือลูบแบบเขี่ยๆตรงหัวนมของผม

“เวลามีอารมณ์ แล้วพี่อยากจะทำอะไรครับ?” ผมถามด้วยสีหน้าที่ยั่วยวนนิดๆ

“ก็ทำแบบนี้ไง” พี่ทีเอนตัวลงนอนทาบบนตัวของผม พร้อมกับใช้ริมฝีปากไซร้บริเวณซอกคอของผม ไม่ใช่แค่ไซร้อย่างเดียว พี่ทียังจัดการดูตรงซอกคอของผมด้วย (ดูดจนเป็นรอยจ้ำแดงๆ หลายๆจ้ำ)

ผมรู้สึกเคลิ้มจึงได้แต่ร้องครางออกมาเบาๆ จากนั้นผมก็ใช้มือทั้งสองข้างถอดเสื้อพี่ทีออก พี่ทีหุ่นดีมาก เฟิร์มสุดๆ ตรงหน้าอกไล่ลงไปถึงหน้าท้องมีกล้ามนิดๆ แถมบริเวณสะดือก็มีไรขนหะ-มอยลากยาว พอถอดเสื้อของพี่ทีออกแล้ว ผมก็จัดการถอดเสื้อของผมออกบ้าง

ผมกับพี่ทีกอดจูบลูบไล้ไซร้กันอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน ซักพัก พี่ทีก็จัดการถอดกางเกง รวมไปถึงกางเกงในของผมออกจนหมด พี่ทีเลื่อนมือลงมาจับตรงลำแท่งตอปิโดของผม พร้อมกับค่อยๆชักขึ้นลงอย่างเป็นจังหวะ

เมื่อตอปิโดของผมแข็งโด่เต็มอัตราศึกพร้อมรบแล้ว พี่ทีใช้ปลายลิ้นแตะตรงน้ำเยิ้มๆที่ซึมออกมาจากหัวกระดอของผม พร้อมกับอ้าปากอมแท่งตอปิโดจนมิดลำ จากนั้นพี่ทีก็ใช้ปากสาวแท่งตอปิโดของผมจนเต็มกำลังลูกสูบ ผมรู้สึกเสียววาบไปทั้งตัว พร้อมกับใช้มือกดศรีษะของพี่ทีให้พริ้วไหวไปกับจังหวะการดูด

พอพี่ทีดูดแท่งตอปิโดของผมจนหนำใจ ก็ลากลิ้นลงมาตรงพวงสวรรค์ของผม พร้อมกับใช้ปลายลิ้นเล่นกับเจ้าลูกชิ้นเอ็นของผมทั้ง 2 ลูก

มาถึงคราวของผมบ้าง ผมจัดการถอดกางเกงในของพี่ทีออก กระดอของพี่ทีทั้งอวบทั้งยาว สวยได้รูป แถมหัวยังปิดนิดๆ มิหนำซ้ำ ขนหะ-มอยตรงหัวหน่าวก็เส้นยาวและดกดำมากๆ

ผมใช้ปลายจมูกสูดดมและแหวกขนหะ-มอยของพี่ที ที่รกเป็นป่าดงดิบ กลิ่นสาบนิดๆช่างทำให้ผมได้อารมณ์แห่งกามาสุดๆ ผมลากปลายจมูกลงต่ำมาที่หัวกระดอของพี่ที และใช้ลิ้นเลียรอบๆ จากนั้นก็อ้าปากครอบกระดอของพี่ที่จนมิดลำ โดยพยายามใช้ริมฝีปากรูดกระดอของพี่ทีเพื่อให้หัวกระดอถอกออกมา

พี่ทีร้องออกมาด้วยความเสียว พร้อมกับสั่งให้ผมเร่งเครื่องดูดให้เต็มพิกัดมากยิ่งขึ้น

“เสียวจัง... เราดูดโคตรเก่ง มิน่าละ ไอ้ต่อมันถึงได้ติดใจเสน่ห์ปลายลิ้นของเรา” พี่ทีทั้งพูดทั้งครางอย่างเบาๆ (ครางไม่ครางเปล่า ยังเผลอมาหยิกกัดตรูด้วย)

เราทั้งสองเปลี่ยนมาอยู่ในตำแหน่ง 69 ต่างคนต่างดูดกระดอให้กันและกันอย่างสนุกปาก

เมื่อดูดกระดอจนหนำใจแล้ว พี่ทีก็สั่งผมนอนคว่ำหน้าลงบนเตียง

“เพื่ออะไร? หรือว่าพี่ทีอยากจะยัดเยียดความเป็นผัวให้ตรูอีกคนหนึ่ง” ผมคิดอยู่ในใจคนเดียว

ในขณะที่ผมนอนคว่ำหน้าอยู่นั้น พี่ทีก็ใช้ริมฝีปากจูบและไซร้ที่แก้มก้นทั้งสองข้างของผม ผมเสียวซ่านจนขนลุกซู่ไปทั้งตัว มิหนำซ้ำพี่ทียังแหวกก้นของผมพร้อมกับใช้ปลายลิ้นแหย่เข้าๆออกๆขึ้นๆลงๆในรูก้นอีกด้วย (เพิ่งจะโดนล้างตู้เย็นเป็นครั้งแรก แต่ก็ชอบครับเสียวแบบจั๊กจี้ๆ)

“พี่ทีครับ ผมขอเย็ดพี่ได้ไหม? ผมอยากเย็ดพี่มาก” ผมเอ่ยถามพี่ทีอย่างตรงไปตรงมา (ต้องถามเป็นคนแรก ก่อนที่จะถูกพี่ทีถาม)

พี่ทีนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดออกมาว่า... “โอเค... แต่ต้องผลัดกันเย็ดนะ ครั้งนี้พี่ให้เราเย็ดพี่ได้ แต่ครั้งหน้าพี่จะต้องเย็ดเรา ต้องเล่นตามกติกา ห้ามขี้โกงเด็ดขาด”

“ได้เลยครับ” ผมรับปาก (หลังจากโดนไอ้พัฒน์ทะลวงประตูหลังแล้ว ผมเริ่มรู้สึกมั่นใจในการเป็นฝ่ายรับมากขึ้น จากแรกๆที่กลัวเจ็บมาก)

พี่ทีส่งเจลหล่อลื่นมาให้ผม ผมทาเจลหล่อลื่นให้ทั่วแท่งตอปิดโดของผม พร้อมกับทารอบๆปากถ้ำของพี่ที เมื่อทุกอย่างพร้อม ผมก็ลงมือปฏิบัติการยัดงูลงรูทันที

ผมเสียบแท่งตอปิโดของผมลงไปในรูดากของพี่ทีเรียบร้อยแล้ว ผมก็จัดการชักเข้าๆออกๆอย่างช้าๆ จากนั้นก็เร่งสปีดอย่างเมามันส์ จนพี่ทีร้องซะลั่นห้อง

ผมกระเด้าอย่างถี่ๆรัวๆตามจังหวะจะโคน โดยความเสียวพาไป ส่วนมือนั้นผมก็สาวว่าวให้กับพี่ที (พี่ทีนั่งท่าโก่งโค้งกึ้งคลาน ส่วนผมก็คุกเข่ายืนกระเด้าเอาตูดของพี่ที)

“โอ๊ย... โอ๊ย... เราเย็ดเก่งสุดๆ พี่ใกล้จะแตกแล้ว...” เสียงพี่ทีครวญคราง ซักพักน้ำเงี่ยนก็พุ่งทะลักออกมาจากกระดอของพี่ที อย่างกับท่อแตก

ส่วนผมก็ยังกระหน่ำซอยแท่งตอปิโดเข้าๆออกๆรูตูดของพี่ที อย่างไม่บันยะบันยัง ไม่ถึงนาที ผมก็รู้สึกเสียวชนิดที่ตัวเกร็งนิดๆ จากนั้นแท่งตอปิโดของผมก็พ่นกระสุนเป็นน้ำเมือกสีขาวขุ่นๆข้นๆออกมาเต็มรูตูดของพี่ที


เราทั้งสองคนนอนกอดกันจนเผลอหลับด้วยกันทั้งคู่ พอตื่นขึ้นมาก็ไปอาบน้ำพร้อมกัน (ตอนอาบน้ำไม่บอกก็คงจะเดาถูกนะครับว่า ผมกับพี่ทีได้ทำอะไรกันบ้าง)

วันนี้พี่ทีขับรถพาผมเที่ยวโดยมีจุดหมายปลายทางคือ กาญจนบุรี ขณะที่รถติดสัญญาณไฟจราจรอยู่บริเวณสี่แยกใหญ่แห่งหนึ่ง
“โทษที พี่นึกว่าเป็นเกียร์รถ” พี่ทีเอื้อมมือมาจับและขยำตรงเป้ากางเกงของผมอย่างจงใจ

ผมยิ้มให้พี่ทีอย่างรู้ทัน

“จับนิดจับหน่อย เคยังแข็งโป๊กได้ขนาดนี้เชียว หงี่ได้ตลอดเวลาเลยนะเรา” พี่ทีใช้มือรูดซิปกางเกงของผมออก พร้อมสอดมือเข้าไปที่กางเกงในของผม

“พี่ที!!! ไฟเขียวขึ้นแล้ว รีบออกรถเถอะ รถติดขนาดนี้ยังจะมีอารมณ์อีก ว่าให้ผมหงี่ ตัวพี่เองก็หงี่ใช่ย่อยเหมือนกัน” ผมแซวพี่ที โดยชี้นิ้วไปที่เป้าของพี่ทีที่กำลังขยายใหญ่ตุงออกมาเหมือนห่อหมกปลาช่อน

“แหม... ก็รถมันติด ไม่อยากเครียด เลยหาอะไรทำเพื่อผ่อนคลายบ้าง โทษพี่ฝ่ายเดียวก็ไม่ได้ จะต้องโทษเราที่ดันหน้าตาหล่อ น่าเอามาก พี่เห็นหน้าเราทีไร พี่เกิดอารมณ์ตลอด” พี่ทีพูดแก้เขิน

“อยากจะผ่อนคลายใช่ไหมครับ? ได้เลย ผมพร้อมให้บริการเต็มที่” พอพูดจบ ผมจัดการใช้มือรูดซิปตรงเป้ากางเกงของพี่ทีออก พร้อมกับใช้มืองัดปลาช่อนตัวเขื่องของพี่ที ที่แข็งโด่เด่ ออกมาสูดอากาศข้างนอก

“เฮ้ย... เล่นอะไรแผลงๆ เอาเก็บเข้าไปเดี๋ยวนี้เลย พี่กำลังขับรถอยู่ เดี๋ยวใครๆก็เห็นหรอก แถวนี้ยิ่งมีเด็กเดินมาขายพวงมาลัยเยอะด้วยซิ” พูดทีพูดอย่างตกใจ

ผมทำเป็นไม่สนใจ มิหนำซ้ำยังก้มหน้าอ้าปากครอบเจ้าปลาช่อนตัวเขื่องของพี่ทีจนมิดลำ ผมใช้ลิ้นตวัดเลียตรงหัวกระดอที่เปิดเล็กน้อยอย่างหิวกระหาย จากนั้นก็ใช้ริมฝีปากรูดขึ้นๆลงๆ

“ซนจริงๆนะเรา อย่างนี้ทำโทษด้วยการใช้ตะบองตีก้นจนน้ำตาเล็ด” พี่ทีพูดทีเล่นทีจริง

ผมหยุดกระทำกิจกามอย่างกระทันหัน เพื่อดูปฎิกริยาตอบสนองของพี่ที (แบบว่าอยากแกล้งคนเล่นๆ)

“อ้าว... หยุดทำไม? ดูดต่อไปซิ กำลังเคลิ้มสบายๆ เดี๋ยวจะเสียวไม่ต่อเนื่อง” พี่ทีบ่นขึ้นมา

“ผมเห็นพี่ขับรถอยู่ กลัวจะไปเกะกะ มันอันตรายครับ ผมอยากให้พี่มีสมาธิให้มากกว่านี้เวลาขับรถ” ผมตอบแบบกวนๆ

“รับทราบครับผม รอให้ถึงคืนนี้ก่อนเถอะ จะจับเย็ดให้ตูดบานเลย” พี่ทีพูดไปยิ้มไป

ผมเล่นหูเล่นตาโดยการเบ้ปากทำหน้าเป็นใส่พี่ที แถมแกล้งพี่ทีด้วยการใช้มือจับปลาช่อนของพี่ทีที่แข็งโด่ตั้งเป็นลำอยู่ตรงเป้ากางเกง ชักขึ้นชักลงอย่างช้าๆ และหยุดชักอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

“แกล้งกันนี่หว่า.... ไม่ยุติธรรมเลย คนอะไรใจร้าย มาทำให้เคเขาแข็ง แล้วไม่รับผิดชอบ มันน่าจับแก้ผ้าล่อตูดซะตรงนี้เลย” พี่ทีแกล้งขู่ พร้อมทำท่าทางจะเลี้ยวรถเข้าไปจอดตรงขอบถนน

“กลัวแล้วครับ... กลัวมาก... กลัวจนตัวสั่น” ผมพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน จากนั้นก็ก้มหน้าจัดการถวายบัวให้พี่ทีอย่างดุเด็ดเผ็ดร้อน

พี่ทีไม่รอช้า ใช้มืออีกข้างประคองพวงมาลัยขับรถ ส่วนอีกข้างหนึ่งกดศรีษะของผมแนบลงไปบนหัวหน่าวของพี่ที อย่างแน่นๆ จนผมไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลย สักครู่ พี่ทีเริ่มชะลอความเร็วของรถลงอย่างช้าๆ และค่อยขับมาจอดตรงริมขอบถนน

ผมเดาได้เลยว่า พี่ทีคงจะใกล้น้ำแตกแล้วแน่ๆ ไม่ถึงเสี้ยววินาที น้ำเงี่ยนสีขาวขุ่นอุ่นๆจากก๊อกของพี่ที ก็พุ่งเข้าไปในลำคอขอผมอย่างเต็มสตรีม ทำเอาผมแทบสำลัก พี่ทียังคงกดศรีษะผมไว้อย่างแน่น ไม่ยอมให้ผมได้เคลื่อนไหวไปไหนเลย (คงมีเจตนาให้ผมกลืนกินน้ำเงี่ยนจนหมดก๊อกแน่ๆ)

“พี่ทีขี้โกง เล่นพ่นน้ำเจิ่งนองเต็มปากผมเลอะไปหมด จะบ้วนทิ้งก็ไม่ได้ เพราะพี่เล่นกดหัวผมไว้ซะแน่น ขยับไปทางไหนไม่ได้เลย ผมจำต้องกลืนกินน้ำหนืดๆเหนียวๆคาวๆ แถมเค็มอีกต่างหากเข้าไปเต็มลำคอ” ผมทำหน้าทำตาแหยงๆ

“ทำเป็นบ่น พูดยังกับว่าเราไม่เคยกินมาก่อนอย่างนั้น เป็นไงละ น้ำของพี่กับน้ำของไอ้ต่อ น้ำของใครรสชาติอร่อยเด็ดมากกว่ากัน?” พี่ทีพูดแขวะผม (ได้ทีแล้วจิกกัดตรูชนิดที่เอ๋อรับประทานไปเลย)

“พี่ทีก็พูดอะไรไม่รู้ ถ้าอยากรู้ว่าน้ำของพี่ต่ออร่อยไหม? ทำไมไม่ไปชิมเอง มาถามผมทำไม? ผมไม่ได้ไปนั่งดื่มตั้งแต่หยดแรกจนถึงหยดสุดท้าย” ผมตอบแบบผู้ร้ายปากแข็ง

“จริงเหรอ? พี่ยังจำติดตาได้ดี .... วันแรกที่พี่เจอเรา เรากับไอ้ต่อกำลังเริงรักกันในห้องโดยลืมปิดประตู ยังจำได้ไหม? ถ้าพี่ขึ้นมาช้ากว่านี้ซักหน่อย คงจะได้เห็นหนังโป๊โชว์สดๆเลยนะ” พี่ทีงัดพยานหลักฐานทั้งหมดมากองไว้ตรงหน้า เหมือนโจทย์กำลังข่มขู่ให้จำเลยยอมจำนนต่อหลักฐาน

“ไม่พูดกับพี่ทีแล้ว ดูวิวนอกกระจกรถดีกว่า สบายใจและสบายตา” ผมแกล้งทำเป็นงอน เพราะไม่รู้จะต่อปากต่อคำอย่างไรดี (มันเป็นความจริงนี่ ครั้นจะเถียงก็เถียงไม่ออก)

ผมเผลอหลับไป จนมาสะดุ้งตื่นอีกที เพราะรู้สึกเสียวๆเหมือนมีอะไรมาสัมผัสตรงบริเวณเป้ากางเกง ผมเปิดตามองดู ปรากฏว่าพี่ทีได้งัดเอาแท่งตอปิโดของผมออกจากกางเกงเป็นที่เรียบร้อย โดยพี่ทีใช้มือเล่นที่ปลายหนังหุ้มหัวตอปิโดของผม พี่ทีพยายามใช้มือชักเพื่อถอกหัวตอปิโดให้โผล่ออกมาจากหนังหุ้ม

แท่งตอปิโดของผมแข็งตัวขึ้นอย่างฉันพลันจากการปลุกเร้าด้วยมือของพี่ที ไม่นานนัก พี่ทีก็จัดการเก็บแท่งตอปิโดที่กำลังแข็งผงาดของผม ยัดกลับเข้าไปไว้ในกางเกงในเหมือนเดิม พร้อมกับรูดซิปปิดตรงเป้ากางเกงของผมอย่างเรียบร้อย (อารมณ์ค้างเลยตรู)

“แกล้งกันเข้าไป... อย่าให้ถึงทีผมบ้างก็แล้วกัน” ผมพูดด้วยสีหน้าที่แกล้งทำเป็นน้อยใจ

“ตื่นได้แล้ว ถึงบ้านยายพี่แล้ว” พี่ทีบอกผม พร้อมกับบีบแตรรถ 2-3 ครั้ง

ผมมองออกไปข้างนอกกระจกหน้ารถ ก็พบว่าพี่ทีได้จอดรถตรงหน้าประตูรั้วที่ปิดอยู่

พี่ทีพาผมไปสวัสดีคุณยาย ซึ่งกำลังนั่งปั้นแป้งทำขนมบัวลอยอยู่ที่ม้านั่งหินอ่อนข้างๆประตูเข้าบ้าน จากนั้นพี่ทียังพาไปสวัสดีป้าๆและน้าๆ รวมไปถึงบรรดาลุงเขย น้าเขย น้าสะใภ้ และลูกพี่ลูกน้องของพี่ที (ซึ่งเป็นผู้หญิงทั้งนั้น) ที่ปูเสื่อนั่งอยู่ในสนามสวนหย่อมบริเวณใกล้เคียงอีกด้วย ทุกคนกำลังช่วยกันอย่างขะมักเขม้น ทั้งหั่นเนื้อหมู ไก่ และปลา บ้างก็กำลังปรุงรสน้ำขนมจีน รวมไปถึงหั่นผักต่างๆสารพัด

ผมพอจะเดาได้ว่า คืนนี้คงจะมีงานเลี้ยงที่นี่แน่ๆ และแล้วก็เป็นไปตามที่ผมได้คาดไว้ เพราะ วันนี้เป็นวันเกิดน้องชายของพี่ที (ตอนแรกผมเห็นกล่องกระดาษไม่ใหญ่มาก คล้ายๆกับกล่องของขวัญ วางอยู่ที่เบาะหลังในรถของพี่ที ผมสงสัยอยู่ว่าเป็นกล่องอะไร แต่ไม่กล้าถามพี่ที ธุระของผมหาใช่ไม่ เพราะฉะนั้นอยู่เฉยๆจะดีกว่า อย่าสอเสือใส่รองเท้า)

บ้านยายของพี่ที เป็นบ้านตึก 4 ชั้น หลังใหญ่มาก สมาชิกในบ้านมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 8-9 คน ยายของพี่ทีมีกิจการเรือนแพให้เช่า

พี่ทีพาผมเดินไปยังบริเวณหลังบ้านซึ่งติดกับริมฝั่งแม่น้ำ

ผมมองเห็นเรือนแพขนาดย่อมหลังหนึ่งจอดเทียบอยู่ เรือนแพที่ว่านี้ เป็นเรือนแพที่ใช้ไม้ไผ่สานทำเป็นฝาผนังและพื้น หลังคามุงจาก และใช้ถังน้ำมันขนาดใหญ่หลายๆถังมัดติดกันเป็นฐานรองรับเพื่อพยุงตัวให้ลอยน้ำได้

“คืนนี้พวกเรานอนที่เรือนแพ” พี่ทีพูดขึ้น

“จริงเหรอครับ ดีจัง ผมยังไม่เคยขึ้นแพเลย นี่เป็นครั้งแรกของผม” เมื่อไปถึงเรือนแพ ผมเดินสำรวจข้างในเรือนแพ อย่างตื่นเต้น

“พี่ที.... ห้องนี้มีใครอยู่ครับ?” ผมเห็นประตูอีกห้องเปิดอยู่ จึงเดินเข้าไปดู ภายในห้องดังกล่าว มีข้าวของเครื่องใช้และเสื้อผ้าวางอยู่ (เรือนแพหลังนี้มี 2 ห้องนอน)

“น้องพี่เอง ตั้งแต่เข้าบ้านมานี่ ยังไม่เห็นหน้ามันเลย สงสัยเล่นเกมส์อยู่ที่บ้านใหญ่”

จริงด้วย ตั้งแต่เข้ามาในบ้าน ผมก็ยังไม่เจอน้องชายของพี่ทีเลย (อยากรู้จังว่า จะหล่อเหมือนพี่ทีหรือเปล่า?)

หลังจากเก็บสัมภาระเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พี่ทีก็พาผมไปร่วมวงสนทนากับบรรดาญาติๆ

ขณะที่เดินเข้ามาในตัวบ้าน พี่ทีได้แนะนำผมให้รู้จักกับน้องชาย ซึ่งกำลังเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์อย่างสนุกสนาน

“นี่น้องพี่... มันชื่อ ทอย แล้วนี่เพื่อนกู... ชื่อ กันต์” พี่ทีแนะนำผมและน้องชายของพี่ทีให้รู้จักกัน

ทอยยิ้มให้ผมอย่างเป็นกันเอง รอยยิ้มของทอยช่างดูสดชื่นมีชีวิตชีวาอะไรเช่นนี้ เรื่องความหล่อนั้น เทียบกับพี่ทีแล้ว เรียกได้ว่าหล่อคนละแบบ พี่ทีหล่อแบบคม โฉบเฉี่ยว และมีเสน่ห์ดึงดูดทางเพศสูง ส่วนทอยนั้น หล่อแบบเรียบๆ เซอร์ๆ มองนานๆไม่มีเบื่อ ทอยดูเป็นเด็กผู้ชายที่ติดดิน สมถะ กินง่ายอยู่ง่าย (ผิดกับพี่ที ที่เป็นหนุ่มเจ้าสำอางค์ ข้าวของเครื่องใช้ต้องแบรนด์เนมเท่านั้น+ต้องเนี๊ยบตลอดเวลา) เท่าที่ได้พูดคุยกับทอย พอจะรู้ว่า ทอยชอบเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ (สมัยนั้นยังเรียกว่าวีดีโอเกมส์) ชนิดที่ติดหนึบ และชอบวาดรูปในยามว่าง ทอยเรียนอยู่ชั้นม. 6 และกำลังจะสอบเข้ามหาลัย (อายุรุ่นราวคราวเดียวกับผม เกิดปีเดียวกัน แต่ทอยจะแก่กว่าผม 4-5 เดือน)

คืนนี้หลังจากที่ทุกคนเข้านอนเรียบร้อยแล้ว (หมายถึงในเรือนแพ ซึ่งมี 2 ห้อง ผมกับพี่ทีนอนห้องเดียวกัน ส่วนทอยนอนอีกห้องหนึ่ง) หลังจากที่แน่ใจว่า ทอยนอนหลับสนิทแล้ว (จากเสียงกรนที่ดังขึ้นมาจากห้องของทอย) พี่ทีก็เริ่มสะกิดผม และทวงสัญญาที่ผมได้รับปากไว้เมื่อวานนี้

ผมกับพี่ทีเริ่มจูบปากแลกลิ้นกันอย่างหิวกระหายในรสสวาท เราทั้งสองอยู่ในสภาพเปลือยเปล่าด้วยกันทั้งคู่ โดยพี่ทีนอนลงบนเตียง ส่วนผมนั้นนอนทาบบนตัวของพี่ที

ผมเริ่มไซร้ตรงบริเวณกกหู และลากยาวมาที่ซอกคอ ผมใช้ปลายจมูกสลับกับปลายลิ้นค่อยๆไซร้ พี่ทีร้องซี๊ดเบาๆด้วยความเสียว ผมเปลี่ยนตำแหน่งมาดูดหัวนมทั้งสองข้างของพี่ที

มือข้างซ้ายของผม ใช้ลูบไล้บริเวณใบหน้าของพี่ที ส่วนมือข้างขวานั้น ใช้สาวว่าวเพื่อเป็นการอุ่นเครื่องให้ปลาดุกอุยตัวเขื่องของพี่ที

เมื่อปลาดุกอุยของพี่ทีผงกหัวและโด่เต็มลำเป็นที่เรียบร้อย ผมก็จัดการใช้ปากลิ้มรสชาติของความอร่อย ผมทั้งอม ทั้งดูด ทั้งเลีย และสาวว่าวขึ้นๆลง

“โอ้ว.... โอ้ว.... ดูดโคตรเก่งเหมือนเดิม ฝีมือดีไม่มีตกเลยนะเรา” พี่ทีครางขึ้นมา

จากนั้นผมก็จัดการยกขาข้างหนึ่งของพี่ทีขึ้นมา

“เฮ้ย... ทำอะไร? ผิดสัญญานี่ คืนนี้พี่ต้องเย็ดเรานะ ไม่ใช่เราเย็ดพี่” พี่ทีพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

“ผมไม่ผิดสัญญาหรอกครับ พี่ทีก็ทำเป็นเจ๊กตื่นไฟไปได้ ใจเย็นๆ ต้องรอดูต่อไปนะครับว่า ผมกำลังจะทำอะไรพี่” ผมพูดดักทางเอาไว้ก่อนที่พี่ทีจะเข้าใจผิด

ผมยกขาของพี่ทีค้างไว้ พร้อมทั้งก้มหน้าลงไปที่รอยต่อระหว่างกะโปกและร่องก้นของพี่ที ผมไม่รอช้า แลบลิ้นลงไปเลียตรงบริเวณนั้นทันที ผมลากลิ้นเลียขึ้นๆลงๆประกอบกับตวัดลิ้นเป็นบางจังหวะ

“แล้วก็ไม่บอก... เรานี่ใช้ลิ้นเก่งเลียจริงๆนะ พี่เสียว... ดูซิเคแข็งโด่พร้อมที่จะล่อตูดเราแล้ว” พี่ทีครางออกมา พร้อมทั้งใช้แขนทั้งสองข้างจับผมคว่ำหน้านอนลงไปบนเตียง

พี่ทีลูบตรงแก้มก้นของผมทั้งสองข้างอย่างเบาๆ และใช้ริมฝีปากไซร้ไปรอบๆ จากนั้นก็แหวกร่องก้นของผมออกพร้อมทั้งใช้ลิ้นแยงๆเข้าไป ผมเริ่มครางออกมาเพราะความเสียวซ่าน

พี่ทีลงไปหยิบหลอดเจลหล่อลื่นในกระเป๋า โดยละเลงทาตรงปลาดุกอุยที่แข็งจนทั่วลำ และทารอบๆดากของผม

พี่ทีสั่งให้ผมอยู่ในท่านั่งโก่งโค้งหมอคลานบนเตียง เมื่อทุกอย่างพร้อมเรียบร้อย ก็มาถึงเวลาที่พี่ทีจะยัดเยียดความเป็นผัวให้กับผมอย่างมิดลำ พี่ทีค่อยยัดท่อนเอ็นที่แข็งโด่เข้าไปในรูดากของผม เวลานี้ผมเริ่มร้องเสียงหลงขึ้น เพราะความเจ็บปวด (ถ้าจัดเรียงลำดับตามความใหญ่ของกระดอที่ผมเคยได้ลิ้มลองมาแล้ว กระดอของแซยิด ชนะเลิศการแข่งขันอย่างลอยลำ ตามติดมาด้วยกระดอของพี่ที พ่วงท้ายด้วยกระดอของพี่ต่อ และบ๊วยสุดก็กระดอของไอ้พัฒน์)

เมื่อพี่ทียัดท่อนเอ็นเข้าไปในรูดากของผมจนมิดลำแล้ว ผมยิ่งเจ็บมากยิ่งขึ้น รู้สึกได้ว่ารูดากของผมคับแน่นสุดๆ (อาการคล้ายกับคนที่ท้องผูกมากๆ) พี่ทีเริ่มชักท่อนเอ็นเข้าๆออกๆในรูดากของผมอย่างค่อยๆ จากนั้นก็เร่งสปีดขึ้นเรื่อยๆ

ผมรู้สึกเจ็บมากๆ ถึงแม้จะเจ็บแต่ก็ยังรู้สึกเสียวขึ้นมาบ้าง (เจ็บมากกว่าเสียว) ดูเหมือนว่าพี่ทีจะเย็ดตูดผมนานมาก น้ำไม่ยอมแตกซะที ยิ่งเย็ดพี่ทียิ่งกระเด้าแรงๆอย่างไม่บันยะบันยัง จนเรือนแพโคลงโยกเยกเล็กน้อย

“โอ๊ย... โอ๊ย... พี่ที... พี่ที.. ผมเจ็บครับ... เจ็บ... เจ็บ... ไม่ไหวแล้วพี่” ผมร้องเสียงหลงออกมาด้วยความเจ็บปวด เวลานี้เหงื่อออกไปทั่วตัวของผม

“เบาๆหน่อย อย่าตะโกน เดี๋ยวไอ้ทอยก็ตื่นหรอก คราวนี้ได้หายเสียวหายเจ็บแน่ๆ” พี่ทีเอามืออุดปากผมไว้ พร้อมกับกระซิบที่ข้างหู

ผมเจ็บจนต้องกัดริมฝีปากตัวเองเอาไว้ พี่ทียังคงเย็ดตูดผมอย่างเมามันส์ พร้อมกับเร่งสปีดเร็วขึ้นกว่าปรกติ ซักพักพี่ทีก็ก้มลงมาหายใจรดต้นคอผม และกัดที่บริเวณใบหูของผมอย่างเบาๆ


ภายในรูดากของผมร้อนผิดปรกติ และรู้สึกเหมือนกับว่ามีน้ำอุ่นๆเหนียวๆไหลเปรอะตรงข้างใน (เป็นที่แน่นอนว่า พี่ทีน้ำแตกเรียบร้อยแล้ว) พอพี่ทีชักท่อนเอ็นออก ผมรู้สึกได้ว่ารูดากของผมเปียกแฉะและมีน้ำไหลซึมๆออกมา

ผมลองเอามือแตะๆ พร้อมกับเปิดไฟฉายส่องดู ปรากฏว่าเป็นเลือด (เคของพี่ทีใหญ่และกระเด้าแรงขนาดนั้น ถ้าเลือดไม่ออกก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว)

“เจ็บไหม? พี่ขอโทษนะ... ไม่ได้ตั้งใจ โกรธพี่ไหมเนี่ย?” พี่ทีถามด้วยความเป็นห่วง

“ผมโกรธพี่แน่นอนครับ ถ้าพี่ไม่ช่วยผมเอาน้ำเงี่ยนออก” ผมชี้มือไปที่แท่งตอปิโดของผม ที่เริ่มจะเหี่ยวๆฟุบๆ

“ครับผม... ไอ้เด็กบ้า... ” พี่ทียิ้มไปส่ายหน้าไป ก่อนที่จะก้มลงเลียกะโปกและลูกชิ้นเอ็นทั้งสองลูกของผม จากนั้นก็จัดการเก็บบัวให้ผมจนหมดสระ ก่อนที่น้ำเงี่ยนของผมจะพุ่งกระฉูดออกมา ผมกดหัวพี่ทีแนบไว้กับเป้าของผมอย่างสุดแรงเกิด พอน้ำเงี่ยนพุ่งออกมา ผมก็ยังคงกดหัวพี่ทีแน่นเหมือนเดิมจนกว่าจะแน่ใจว่า พี่ทีได้กลืนกินจนหยดสุดท้าย

“เฮ้ย... แกล้งกันนี่ คิดจะเอาคืนพี่หรือไง ถึงได้กดหัวพี่ซะแน่นแบบนี้ ระวังตัวให้ดีเถอะ รอบหน้าจะเย็ดซะชนิดที่ผ้าอนามัยเอาไม่อยู่เลย” พี่ทีข่มขู่ผมอย่างขำๆ

ผมนอนไม่ค่อยจะหลับ ทั้งแสบ ทั้งเจ็บ และทั้งร้อนรูทวารหนักไปหมด จนต้องหนีบขาเอาไว้เพื่อระงับความเจ็บปวด

เช้าวันรุ่งขึ้น ผมเดินสวนกับทอยโดยบังเอิญตรงหน้าห้องน้ำ

“เมื่อคืนหลับสบายดีนะ?” ทอยถามผม

“ก็นิดหน่อย แบบว่าแปลกที่แปลกทาง คงไม่ต้องถามนะว่า เมื่อคืนทอยนอนหลับสบายไหม? เพราะได้ยินเสียงกรนดังสนั่นเกือบทั้งคืน” ผมพูดกับทอยอย่างถูกคอแกมแซวเล่นพอหอมปากหอมคอ

ทอยยิ้มให้ผมอย่างกับรับส่งมุขกันทัน

พอกลับมาถึงกรุงเทพเรียบร้อยแล้ว ผมก็อยู่คอนโดของพี่ทีตลอด ไม่มีโอกาสได้ออกไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาที่ไหนเลย (ถูกพี่ทีทำโทษ) ทั้งวันทั้งคืนเห็นแต่เพดานและผนังห้องของพี่ที ในเรื่องอาหารการกิน พี่ทีโทรสั่งร้านอาหารใต้คอนโด หรือไม่ก็ให้ทอยออกไปซื้อที่ปากซอย ส่วนทอยนั้น ก็นั่งจ้องหน้าจอทีวีเล่นวีดีโอเกมส์ทั้งวันทั้งคืน โดยไม่สนใจต่อสิ่งอื่นใดทั้งสิ้น (เออ... แปลกดีพี่น้องคู่นี้)

ที่น่าสงสารที่สุดก็คือ รูทวารของผม เพราะถูกพี่ทีใช้ท่อนเอ็นดุ้นใหญ่ทะลุทะลวงจนเกือบบาน หรือว่าบานไปแล้วนิ? (แผลเก่ายังไม่ทันจะหาย ดันเจอแผลใหม่ซ้ำเข้าไปอีก วิ่งไม่ได้หลายวันเลยตรู)

ตลอด 4 คืนกับอีก 5 วัน ที่อยู่กับพี่ที ผมรู้สึกเสียวเกินพิกัดจริงๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

เด็กหอ 8 CP

มื่อกานต์เก็บของจากห้องตัวเองเสร็จ จึงมาหาอาจารย์ภัทรที่ห้อง ส่วนภัทรอาบน้ำทำความสะอาดเนื้อตัวเรียบร้อย ควยของภัทรแข็งรอกานต์อยู่นานแล้ว &...