ตอนที่ 4 พี่นิคม
วันสอบวันสุดท้ายของชั้น ม.3 พี่นิคมขับรถมารับ หลังจากล่ำลาอาจารย์ชัยยศเสร็จแล้ว ผมนั่งรถมากับพี่นิคม อ้อ พี่นิคมเป็นลูกกำพร้าที่คุณตากับคุณยายเก็บมาเลี้ยง อันที่จริงจะว่าเป็นลูกกำพร้าก็ไม่ถูต้องนัก คือพ่อกับแม่ของพี่นิคมเลิกกัน แล้วแม่พี่นิคมก็ไปแต่งงานใหม่ และทิ้งพี่นิคมให้อยู่กับยายแก่ ๆ โดยไม่ได้ส่งเสียและก็ไม่กลับมาอีกเลย พี่นิคมจึงอยู่แบบอด ๆ อยาก ๆ คุณยายของผมนึกเวทนา ก็เลยขอเอามาเลี้ยงเป็นลูก ตั้งแต่พี่นิคมอายุได้ 1 ขวบ และเนื่องจากพี่นิคมแกเป็นคนดี ทุกคนจึงรักเหมือนเป็นพี่เป็นน้องกันจริง คุณตาคุณยายก็รักเหมือนลูก คุณพ่อคุณแม่ของผมรวมทั้งน้าเพ็ญด้วยก็รักเหมือนพี่นิคมเป็นน้องจริง ๆ พี่นิคมเรียนจบ ปวช.จากวิทยาลัยเกษตรกรรม น้าเพ็ญจึงให้ดูแลสวนลำไย และก็แบ่งเงินให้พี่นิคมครึ่งหนึ่งของรายได้จากสวนลำใย ผมสนิทกับพี่นิคมมาก ประมาณว่าคุยกันได้ทุกเรื่อง ผมมีปัญหาอะไรพี่นิคมก็จะคอยแก้ให้ จนผมเห็นพี่นิคมเป็นฮีโร่ ในดวงใจ มากกว่าคุณพ่อ เนื่องจากชีวิตผมทั้งชีวิตผมอยู่กับพี่นิคมมากกว่าคุณพ่อ พอ ๆ กับอยู่กับน้าเพ็ญมากกว่าคุณแม่ พอถึงบ้านพี่นิคมขนของผมลงจนหมดแล้ว ก็เตรียมตัวจะไปไร่ต่อ ผมจึงตะโกนบอกแกว่า
“พรุ่งนี้มารับเอกนะครับ เอกจะไปนอนที่สวนด้วย มีปัญหาติดตัวมาด้วยมากเลย” น้าเพ็ญปลูกบ้านอีกหลังหนึ่งอยู่ที่สวน ให้พี่นิคมอาศัยอยู่ที่นั่น ซึ่งก็อยู่ห่างจากหมู่บ้านไปประมาณ 3 กิโลเมตร แต่ก่อน วันเสาร์ อาทิตย์ หรือช่วงปิดเทอม ผมจะไปขลุกอยู่บ้านสวนกับพี่นิคม มาช่วงที่ผมขึ้น ม.1 นี่แหละที่ผมต้องไปพักอยู่กับอาจารย์ชัยยศที่ในเมือง เลยห่าง ๆ พี่คมไปบ้าง
น้าเพ็ญทำของโปรดให้ผมกิน ถึงแม้ว่าตอนนี้น้าเพ็ญจะมีลูกกับน้าหมีหนึ่งคนแล้ว แต่ผมก็รู้สึกได้ว่าน้าเพ็ญยังคงรักผมเหมือนเดิม กินข้าวเสร็จผมก็เข้านอน คิดว่าจะแอบดูน้าเพ็ญกับน้าหมีเอากันสักหน่อย แต่ต้องผิดหวัง เพราะผนังที่กั้นห้องน้าหมีทำใหม่ หารูไม่เจอเลย ไม่เป็นไร ไม่รู้สึกผิดหวังหรอก วันรุ่งขึ้น สาย ๆ พี่นิคมมารับมารับ พอถึงบ้านสวน ผมสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าไปเต็มปอด
“พี่คม เอกไม่ได้มาคลุกคลีที่ไร่ ตั้ง 2-3 ปี ดูอะไร ๆ ก็โตขึ้นเยอะนะครับ อย่างต้นตะขบต้นนั้น ดูมันโตมากเลยนะ ร่มครึ้มเลย พี่คมก็ตัวล่ำขึ้นนะ เมื่อไหร่แต่งงานกับพี่แก้วหละ”
“ถามอะไรอย่างนั้นหละเอก ชักแก่แดดเกินไปแล้วนะ” พี่นิคมทำท่าตกอกตกใจ
“โธ่! พี่คม เอกอายุ 15 แล้วนะ เป็นหนุ่มแล้ว และที่โรงเรียนเพื่อน ๆ บางคนมันยังทำผู้หญิงท้องแล้ว”
“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ พี่เพ็ญเลี้ยงเอกมาอย่างไรก็รู้กันอยู่ ถ้าพี่เพ็ญได้ยินจะเสียใจนะ”
“อย่าซีเรียสไปเลย พี่คมที่รัก เอกไม่ได้เสียผู้เสียคนซะหน่อย” ผมเฝ้าถามในสิ่งที่ได้ยิน ได้เห็นกับสิ่งใหม่ ๆ ที่โรงเรียนกับพี่นิคม ซึ่งพี่นิคมก็ตอบผมได้ทุกเรื่อง และผมก็รู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย เมื่ออยู่กับพี่นิคม และปกติพี่นิคมก็ไม่เคยขัดใจผมอยู่แล้ว แม้บางครั้งจะทำเสียงแข็งไปบ้าง ผมนอนคุยกับพี่นิคมจนเวลาประมาณ 5 โมงเย็น พี่นิคมก็ชวนไปอาบน้ำ
“ไปเอก ไปอาบน้ำได้แล้ว” พี่นิคมถอดเสื้อถอดกางเกงให้ผมเหมือนที่เราอาบน้ำด้วยกันทุกครั้ง ซึ่งมันก็เป็นประเพณีว่า ถ้าผมอาบน้ำกับพี่นิคม พี่แกต้องเป็นคนอาบให้ ผมคิดในใจว่าพี่นิคมคงทำด้วยความเคยชิน จนลืมนึกไปว่า ปีนี้ผมโตเป็นหนุ่มแล้ว พี่นิคมเอาผ้าขนหนูมาพันกายเดินนำหน้าผมไปที่โอ่งน้ำข้างบ้าน ไปถึงที่อาบน้ำ พี่นิคมดึงผ้าขนหนูออกพาดไว้ที่ราว ซึ่งทุกครั้งผมก็ไม่ได้สนใจ แต่วันนี้ ผมมองไป รู้สึกว่า ควยของพี่นิคมจะใหญ่ขึ้นกว่าเดิม และก็ยังถอกจนบานเป็นดอกเห็ดเลย ซึ่งมันก็ทำให้ผมร้อนวูบวาบขึ้นมาตามท้องน้อย พี่นิคมตักน้ำมาราดตัวผม พร้อมกับฟอกสบู่ไปตามตัว ไม่เว้นแม้แต่ควยของผม และพี่นิคมก็ทำหน้าแปลกใจ พลางถามผมขึ้น
“เอก ปีนี้อายุเท่าไหร่แล้วนะ”
“15 ครับ มีอะไรหรือพี่คม”
“รู้สึกเอกควยใหญ่ขึ้นนะ ดูสิ มีหมอยขึ้นหรอมแหรมแล้ว”
“แล้วพี่คมหละอายุเท่าไรแล้ว ดูสิควยก็ใหญ่ขึ้น แต่ก่อนยังไม่ถอกมากขนาดนี้ ปีนี้บานเชียว” ผมพูดพลางคว้าควยพี่คมมากำถอกเบา ๆ
“25 ปีแล้ว”
“กำลังหนุ่มแน่นเลย รูปก็หล่อ ควยก็ใหญ่ สาวเห็นต้องชอบแน่ ๆ เลย เออพี่คมเคยชักว่าวหรือเปล่า”
“เอาอีกแล้ว เอก ไป เอาคำเหล่านี้มาจากไหน”
“ก็บอกแล้วไง พี่คม ที่โรงเรียนเอกหนะ มีเด็กหลายประเภท ไอ้หนุ่มมันบอกว่ามันชักว่าวเป็นตั้งแต่อายุสิบเอ็ดปี ตอนนั้นมันบอกน้ำยังไม่มีเลย และอีกหลายคนที่ห้องต่างก็พูดเรื่องนี้ทั้งนั้น พอเอกถามพวกมันมาก มันก็หัวเราะเยาะ หาว่าโง่ พี่คมอยากให้เอกเป็นคนโง่ก็ตามใจ” ผมทำท่ากระเง้ากระงอด จนพี่คมพูดขึ้น
“เอ้า! อยากรู้อะไรถามมา พี่ไม่ขัดแล้ว”
“พี่คมชักว่าวให้เอกดูก่อน เผื่อเอกจะได้หัดทำ”
“จะดีเร้อ เอก”
“ตามใจ ถ้าพี่คมอยากให้น้องตัวเองเป็นคนโง่”
“เอ้าก็ได้ ปกติ เวลาเราจะชักว่าว เราก็เงี่ยนอยู่แล้ว ควยเราก็แข็งอยู่แล้ว เราก็ชักได้เลย แต่นี่ควยพี่ยังไม่แข็ง เราต้องปั่นให้มันแข็งก่อน ระหว่างที่ปั่นเราก็นึกถึงดาราหรือคนที่เราชอบไปด้วย ควยเราก็จะได้แข็ง” พี่คมพูดไปปั่นควยไปด้วย จนสักพัก ควยพี่คมก็แข็งเต็มที่ ใหญ่ไม่เบาเลยพี่เรา แถมรูปหล่อนิสัยดี และก็ค่อนข้างมีฐานะด้วย พี่แก้วนี้ช่างโชคดีเป็นบ้าเลย พี่แก้วคือแฟนพี่นิคม “นี่ไงแข็งแล้ว เอก ที่นี้เราก็เริ่มถอกเข้าถอกออกอย่างนี้ ตอนนี้เราก็จินตนาการไปว่าได้เย็ดกับคนที่เราชอบ อารมณ์ของเราจะได้เต็มที่” พี่คมเริ่มชักว่าวแล้ว ผมดูตามไม่กระพริบ ท่าทางแกเร้าอารมณ์ดีไม่เบา
“แล้วเวลาชักว่าว พี่คมนึกถึงใครครับ”
“พี่ก็นึกถึงแก้ว สิ ก็พี่รักแก้ว จินตนาการว่าพี่กำลังเย็ดกับแก้ว อูย ทำเล่น ๆ แต่เสียวจริง เอก” ผมเห็นพี่คมเร่งมือซอยยิก ๆ พร้อมกับแหงนหน้า หลับตาซี๊ดปาก พร้อมกับเร่งความเร็วเข้า
“อูย เสียวจัง เอก ใกล้จะเสร็จแล้ว น้ำควยพี่ใกล้จะออกแล้ว โอ๊ย ออกแล้ว” ผมเห็นพี่คมเร่งมือพร้อมกับกระถอกหนัก ๆ และก็ตัวงอ ผมเห็นน้ำสีขาวขุ่นพุ่งออกมาจากควยแกมากมาย
ผมหลอกให้พี่นิคมชักว่าวให้ดู และผมมีความรู้สึกว่า ตอนนี้ ผมรู้แปลก ๆ กับพี่นิคม ซึ่งแต่ก่อนนี้ไม่เคยเป็น ก็พี่แกแก้ผ้าอาบน้ำกับผมและก็อาบน้ำให้ผมตั้งแต่ผมจำความได้ ผมก็ไม่เคยเป็นแบบนี้ แต่เดี๋ยวนี้ แค่เห็นพี่นิคมถอดเสื้อเท่านั้นแหละ ผมรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งตัว คืออยากอยู่ใกล้ อยากกอดอยากก่าย และอยากให้พี่นิคมทำเหมือนที่ผู้กองภูมิทำกับผม พอเข้านอนผมจึงถามนั่นถามนี่พี่แกไม่ยอมหยุด แต่พี่นิคมก็ไม่ได้แสดงอาการรำคาญ หรือหงุดหงิด แกยังเต็มใจที่จะอธิบาย และพร้อมที่จะทำเป็นตัวอย่างให้ผมดู เพราะแกคิดอยู่เสมอว่า ตัวแกไม่มีพ่อ ลูกผู้ชายถ้าไม่มีพ่อก็ไม่มีต้นแบบในการดำเนินชีวิต และแกยังบอกอีกว่าแกเพิ่งจะชักว่าวเป็นตอนอายุ 20 นี่เอง และอีกหลายอย่างที่ลูกผู้ชายควรจะได้เรียนรู้จากพ่อ แต่แกไม่มีโอกาส แกบอกว่าผมก็ไม่ต่างจากแกเท่าไหร่หรอก มีพ่อก็เหมือนไม่มี เพราะไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกันเลย แกจึงรู้สึกเอื้ออาทรต่อผม และอยากให้ผมได้เรียนรู้ในสิ่งที่เด็กหนุ่มทั่วไปควรจะรู้ และในช่วงหนึ่งของการสนทนาผมถามพี่นิคมว่า
“แล้วพี่นิคมเคยเย็ดกับผู้หญิงหรือยัง”
“เอกใช้คำพูดตรงเกินไป แต่ไม่เป็นไรตอนนี้เอกอยู่กับพี่ ไม่ต้องระวังอะไร แต่ถ้าอยู่ในวงสนทนาทั่ว ๆ เอกจะใช้คำนี้ไม่ได้นะ ควรใช้คำว่านอนกับผู้หญิง ก็เคยแล้ว ทำไมหละ”
“เอกอยากรู้ว่าเขาทำกันยังไง เพราะเพื่อนเอกหลายคนมันเห็นเป็นเรื่องธรรมดาแล้ว แต่เอกยังไม่รู้เรื่องเลย บางทีอยู่กับพวกมันเหมือนเราเป็นคนอ่อนหัด หรือโง่ อะไรทำนองนั้น”
“อันที่จริง เอกยังไม่ต้องเรียนรู้ก็ได้หนิ ตอนนี้เพิ่งอายุแค่ 15 เอง”
“ก็ตามใจ ถ้าพี่อยากให้เอกโดนเพื่อนหัวเราะเยอะ ซ้ำแล้วซ้ำอีก” ผมนอนหันหลังให้พี่นิคม และเงียบไปพักใหญ่ พี่นิคมจึงเอื้อมมือมาลูบหลังเบา ๆ พร้อมกับพูดขึ้น
“เอก อย่าโกรธพี่เลย เรื่องนี้มันค่อนข้างซับซ้อน จะเล่าให้กันฟังเฉย ๆ ไม่ได้ มันต้องทำให้เห็นภาพด้วย” ผมหันมายิ้ม พร้อมกับเอาขาก่ายไปบนตัวพี่นิคม และขยับเข้าไปซุกตรงอกแก ได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของตัวแกทำให้รู้สึกรัญจวนใจพอประมาณ
“จะไปยากอะไร วันหลังพี่ก็ทำกับพี่แก้วให้ผมดูสิ”
“แก้วเขาคงยอมหรอก ยิ่งเป็นคนขี้อายอยู่ด้วย ไม่เป็นไรเอก พี่นึกออกแล้ว เดี๋ยวพี่จะลองพูดกับไอ้เบิ้มลองดู” พี่เบิ้มคือเพื่อนของพี่นิคม แกเป็นลูกจ้างในไร่ให้กับลุงชม ซึ่งมีอาณาเขตติดกับไร่ของเรานี้เอง พี่เบิ้ม ตัวแกเบิ้มสมชื่อ ที่สำคัญควยแกก็เบิ้มด้วย มีเมียแล้วชื่อพี่ดวง ผมก็สนิทกับแกพอ ๆ กับพี่นิคม และสองคนนี่ชอบกินเหล้าด้วยกัน ผมเคยเห็นพี่เบิ้มยืนฉี่ตอนเมาหลายครั้ง ซึ่งเวลาคนเมาฉี่ก็ไม่ค่อยระมัดระวังอยู่แล้ว อีกอย่างแกคงเห็นว่าผมเป็นเด็ก และก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน แต่ก็อย่างว่าแหละแต่ก่อนผมไม่เคยมีความรู้สึกกับผู้ชายเหมือนที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน จึงไม่ค่อยสนใจที่จะดู แต่ก็จำได้ลางเลือนว่าควยพี่เบิ้ม ใหญ่จริง ๆ ดีเหมือนกันพรุ่งนี้จะได้ถือโอกาสไปทักทายแกด้วย ผมคุยกับพี่นิคมอีกหลายเรื่อง เผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ จนได้ยินเสียงพี่นิคมเข้ามาปลุกในตอนสาย ๆ ของวันรุ่งขึ้น
ประมาณห้าโมงเย็น หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว พี่นิคมขับรถเข้าไปในหมู่บ้าน กลับมาพร้อมกับ เหล้าขาวสองขวด
“ไปเอก ไปกินข้าวไร่ไอ้เบิ้ม พี่ชวนมันกินเหล้าด้วย แล้วเรื่องที่บอกให้มันเอากับเมียให้ดูหนะ มันรับปากแล้ว พอเสร็จจากกินเหล้าติ้งต่างว่าเรากลับไร่ มันบอกให้เราแอบดู ท่าทางมันตื่นเต้นด้วยนะ มันยังบอกอีกว่า ดีจังที่มีคนแอบดูมันเย็ดกับเมียโดยที่มันก็รู้ตัว มันจะได้ตื่นเต้นขึ้นอีก”
“แล้วพี่ดวงรู้ด้วยหรือเปล่า”
“ไม่รู้ ไม่ได้บอก จะบอกได้ยังไง ถึงแม้ดวงเขาจะเป็นคนค่อนข้างเปรี้ยวแต่ถึงยังไงก็ยังเป็นผู้หญิง เกิดเขาไม่ยอมเราก็อดเท่านั้นเอง”
เราไปถึงไร่พี่เบิ้ม ก็เกือบค่ำแล้ว พี่ดวงเมียพี่เบิ้มทำกลับข้าว รวมทั้งกับแกล้มไว้หลายอย่าง และทำท่ายินดีอย่างท่วมท้นที่พี่นิคมมากินเหล้าในวันนี้
“ดีจังพี่คม ฉันไม่ได้กินเหล้าตั้งหลายวันแล้ว” พี่เบิ้มก็หันไปสัพยอกพี่ดวง
“เฮ้ย! ดวงคนที่ควรจะดีใจหนะน่าจะเป็นฉัน ไม่ใช่แก”
“มันก็เหมือนกันแหละพี่ ฉันจะได้กินด้วยไง”
“เอ้า เถียงกันอยู่นั่นแหละ พอดีไม่ต้องกินกันเลย” พี่นิคมตัดบท จากนั้นพี่ดวงก็ทยอยยกกับข้าว (แกล้ม)มา โดยมีผมเป็นผู้ช่วย วงเหล้าเต็มไปด้วยความสนุกสนาน เรื่องที่คุยกันส่วนใหญ่ก็หนีไม่พ้นเรื่องใต้สะดือ พี่ดวงแม้จะเป็นผู้หญิงก็ผสมโรงกับเขาไปด้วย พี่เบิ้มกับพี่ดวงยังไม่มีลูก เห็นว่าเพิ่งอยู่ด้วยกันยังไม่ถึงปี
“เฮ้ย เบิ้ม เมื่อไหร่แกกับดวงจะมีลูกวะ” เป็นคำถามจากพี่นิคม
“จะรีบมีไปทำไมวะ กูยังเป็นลูกจ้างเค้าอยู่ ยังไม่มีหลักประกันที่มั่นคงไว้ให้ลูก และอีกย่าง ไม่มีลูกก็ดี จะได้ไม่มีตัวยุ่งเวลาเราจะจู๋จี๋กัน จริงมั๊ยจ๊ะดวงจ๋า” พูดจบก็หันไปดึงตัวพี่ดวงเข้ามากอด และหอมแก้มไปฟอดหนึ่ง” พี่ดวงก็เลยแก้เก้อด้วยการทุบที่อกไปทีหนึ่ง
“บ้า พี่เบิ้ม อายพี่คมกับเอกบ้างสิ ทำอะไรก็ไม่รู้ เออว่าแต่พี่คมเถอะเมื่อไรจะแต่งงานกับแก้วหละจ๊ะ”
“ไอ้ตัวพี่หนะไม่มีปัญหาหรอกดวง แต่ทางฝ่ายแก้วเขาอ้างว่าลูกเขายังเด็ก กลัวความเป็นเด็กของเค้าจะทำให้ทำหน้าที่เมียได้ไม่ดี จะพาลทำให้ครอบครัวอยู่กันไม่ยืด”
“เออ พูดถึงเรื่องแก้ว กูถามมึงจริง เถอะวะ ไอ้คม เพื่อนรัก มึงได้โจ๊ะ พรึม ๆ กับแก้วหรือยังวะ”
“ไอ้ เหี้ย เล่นถามกันตรง ๆ อย่างนี้เลยหรือวะ”
“เอ้า มึงกับกูไม่เคยมีอะไรปิดบังกันอยู่แล้ว ไม่ใช่หรือวะ”
“นั่นมันก็จริงอยู่ แต่เรื่องนี่มันไม่ใช่กูคนเดียว มันหมายถึงตัวแก้วด้วย เดี๋ยวเค้าจะเสียหาย” พี่นิคมของผม เป็นคนดีเสมอ ผมหละภูมิใจแทนพี่แก้วจริง ๆ
“กูไม่เชื่อมึงหรอกไอ้คม ว่ามึงกับแก้วยังไม่ได้กัน ขนาดกูกับอีดวง ยังเอากันตั้งแต่จีบกันได้แค่เดือนเดียว ใช่มั๊ยวะดวง” พี่ดวงทำตาค้อน
“เออแล้วแต่มึงจะคิดเถอะ”
“ฮั่นแน่ นี่แสดงว่ามึงยอมรับแล้วว่ามึงกับแก้วได้กันกันแล้ว” และอีกหลายเรื่อง ที่ทั้งคู่นำมาสนทนากัน จนเหล้าขวดที่สองเกือบหมด และฟังดูเสียงแต่ละคนก็ค่อนข้างอ้อแอ้เต็มที่ ผมขยิบตาให้พี่นิคมเป็นเชิงบอกว่ากลับได้แล้ว เดี๋ยวดึกพี่เบิ้มจะง่วงนอนจะอดดู
“ไอ้เบิ้ม กูว่ากูกลับดีกว่า นี่ก็สี่ทุ่มแล้ว มึงจะได้พักผ่อน” ซึ่งพี่เบิ้มก็ไม่ได้ทัดทานอะไร ผมกับพี่นิคม เดินห่างจากที่พักของพี่เบิ้มออกมาประมาณ 50 เมตร และยืนคุยกันครู่หนึ่ง จึงย้อนกลับไปอีก เราไปแอบอยู่ด้านหลังเพิงพักของพี่เบิ้ม ผมต้องขออธิบายลักษณะเพิงพักของพี่เบิ้มก่อน คือลักษณะเป็นเพิงหมาแหงน กั้นด้วยฟากไม้ไผ่ จึงมีรูอยู่เต็มไปหมด และพี่เบิ้มก็ไม่ได้ปิดไฟ พี่นิคมพาผมไปส่องดูตรงห้องที่พี่เบิ้มนอนพอดี และก็เป็นเวลาที่พี่ดวงกับสำหรับเสร็จ เห็นทั้งคู่เดินประคองกันเข้ามา
“อุ๊ย พี่เบิ้ม ไปตายอดตายอยากมาจากไหน”
“ก็กินเหล้าทีไร เงี่ยนหนักทุกที วันนี้ขอสามนะจ๊ะที่รัก” พูดพลางซุกจมูกไปตามซอกคอของพี่ดวง
“ให้มันจริงเถอะ ฉันก็รู้สึกเงี่ยนมากเหมือนกัน” ไม่นานทั้งคู่ก็อยู่ในชุดวันเกิด พี่เบิ้มจูบไปทั้วตัวพี่ดวง ดูดนมสลับกันทั้งสองข้าง พร้อมกับลากลิ้นลงมาตามหน้าท้อง แล้วไปหยุดอยู่ตรงเนินโคกของพี่ดวง แล้วใช้ลิ้นซอกซอนเข้าไปตามร่องหลืบ บางที่ก็ดูดจนเสียงดังจ๊วบ ๆ ผมแกล้งตีลูกเซ่อ กระซิบถามพี่นิคม เอ้า พี่คม นั่นเขาไม่ได้เย็ดกันหนิ พี่เบิ้มกินอะไรตรงจิ๋มพี่ดวงหละครับ”
“ก็ เย็ดกันนั่นแหละ เอก แต่ก่อนที่จะเย็ดกันเขาต้องเล้าโลมกันก่อน เพื่อให้เกิดอารมณ์อย่างเต็มที่”
ผมเอื้อมมือไปตรงเป้าของพี่นิคม โอ้ โห ควยแข็งเลย ผมจึงลูบเล่น ซึ่งพี่นิคมก็ไม่ได้ปัดป้อง
“พี่คม เงี่ยนตามเขาหรือครับ”
“ใช่ เอก ก็ดูลีลาของไอ้เบิ้มสิ และดูรูปร่างของดวงก็น่า..ไปทั้งตัวเลย” พี่เบิ้มดูดหีพี่ดวงจนพอใจแล้ว จึงถอนหน้าออก พี่ดวงดูเหมือนจะรู้หน้าที่ เปลี่ยนเป็นผู้กระทำทันที โดยเริ่มจาการจูบไปตามซอกคอของพี่เบิ้ม ไล่ลงมาดูดเลียหัวนมทั้งสองข้าง พี่ดวงลากลิ้นลงมาตามหน้าท้องด้วยความชำนาญไม่แพ้กับพี่เบิ้มเลย ลิ้นของพี่ดวงลากวนอยู่ตรงหัวเหน่า ซึ่งเต็มไปด้วยพงหมอยที่ลามลงมาจากหน้าท้อง ผมมองตามการกระทำของพี่ดวง และก็ได้เห็นควยอันมหึมาของพี่เบิ้ม ตอนผมยังเด็กก็เคยเห็นควยของพี่เบิ้มมาบ้าง ก็รู้ว่าใหญ่ แต่นั้นมันยังอ่อนอยู่ แต่นี่มันแข็งตัวเต็มที่ ประมาณว่าเท่ากับข้อแขนของผม หัวถอกงี้บานเชียว พี่ดวงลากลิ้นไปตามพงหมอย ดูดเลียกะโปกทั้งสองลูกสลับไปมา และก็ใช้ลิ้นเลียวนรอบคอหยัก ก่อนที่จะอ้าปากอย่างกว้างอมหัวควยของพี่เบิ้มและก็ตั้งหน้าตั้งตามดูดจ๊วบ ๆ ส่วนพี่เบิ้มก็แหงนหน้า ซี๊ดปาก พร้อมกับกระเด้าสวนเข้าไป
“อูย ดวงจ๋า ดูดควยเสียวจังเลย เสียวมากเลยเมียจ๋า พอก่อน เดี๋ยวน้ำควยจะออก มาข้าจะเย็ดแล้ว” พี่เบิ้มดุนหลังพี่ดวงไป พี่ดวงก้มตัวลงในลักษณะโก้งโค้ง พี่เบิ้มเดินถอกควยเข้าใส่ พอจ่อได้ที่ก็กดหัวควยเข้าเต็มแรง พี่ดวงร้องว้าย หัวควยใหญ่วิ่งเข้าไปครึ่งลำ
“อูย เบา ๆ พี่ เดี่ยวเครื่องเคราฉันพังหมด ควยพี่หนะเบาซะเมื่อไหร”
“ก็มันเงี่ยนนี่หว่า แล้วของแกก็โหนกนูนน่ากระแทกเหลือเกิน” ว่าพลางให้มือทั้งสองข้าง ดึงเอวพี่ดวงเข้าใส่ ส่วนตัวเอง ยืนกระแทกจนเกิดเสียงดังปับ ๆๆๆๆ พี่เบิ้มยืนกระเด้าอย่างไม่มีเว้นวรรค ทั้งแรง และก็เร็วขึ้นเรื่อย ๆ
“อูย พี่ ฉันไม่ไหวแล้ว พี่เย็ดมันจัง ฉันจะเสร็จแล้ว แรง ๆ พี่ โอ้ย เสร็จแล้ว”
“ข้าก็ไม่ไหวเหมือนกัน อีดวง ขมิบแรง ๆ อย่างงั้น อูย น้ำควยจะออกแล้ว อูย ออกแล้ว” ผมเห็นพี่เบิ้มแหงนหน้าซี๊ดปาก พร้อมกับกระแทกอัดควยเข้าไปอย่างแรง และก็กดแช่ไว้อย่างนั้น สักครู่ก็ถอนตัวออกจากกัน เอ้า ยังไม่หยุด ทั้งคู่ไปเริ่มกันต่อบนที่นอนอีก และผมกับพี่นิคมก็ยืนดูต่อ สำหรับผมตอนนี้ไม่ได้สนใจที่จะดูพี่เบิ้มกับพี่ดวงแล้ว เป้าหมายของผมคือพี่นิคม พี่นิคมดูไป มือลูบเป้าตัวเองไป และแล้วผมก็เห็นพี่นิคม รูดซิบกางเกง ดึงควยดุ้นเขื่องของแกออกมา ถอกตามพี่เบิ้ม ผมจึงกระซิบที่ข้างหูแก
“พี่คมทำอะไร”
“ชักว่าว เอก ไม่ไหว เงี่ยน” พี่คมถอกควยไปเรื่อย ๆ ผมคิดว่าคงไม่น่าเกลียดถ้าผมจะอาสาช่วยพี่นิคม ผมจึงพูดขึ้นเบา ๆ
“พี่คมให้เอกช่วยนะ” ผมไม่รอฟังคำตอบ เอื้อมมือไป กำควยพี่คม โอโฮ้ ทั้งแข็ง ทั้งใหญ่ ผมกำแทบไม่รอบ ผมชักว่าวพี่คมไปเรื่อย ส่วนพี่คมก็กะเด้าสวนมือผมไม่หยุด ผมได้ยินพี่คม ซี๊ดปากด้วย
“อูย เอก ไม่ไหวแล้ว น้ำจะออกแล้ว เร่งมือเอก กำแรง ๆ ถอก แรง ๆ น้ำควยจะออกแล้ว อูย เอก ออกแล้ว เสียวจัง” แล้วน้ำควยสีขาวขุ่นก็พุ่งออกมาจากควยพี่คมเป็นระยะ ๆ จนหยุด แล้วพี่คมก็เก็บควยเข้ากางเกง และชวนผมกลับไร่
ประสบการณ์ ต่าง ๆ รวบรวมมาที่นี้ที่เดียว (เกย์)
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
เด็กหอ 8 CP
มื่อกานต์เก็บของจากห้องตัวเองเสร็จ จึงมาหาอาจารย์ภัทรที่ห้อง ส่วนภัทรอาบน้ำทำความสะอาดเนื้อตัวเรียบร้อย ควยของภัทรแข็งรอกานต์อยู่นานแล้ว &...
-
หลังเสียงเพลงชาติจบลง ร่างสูงขาวของหนุ่มนักเรียนชั้น ม.6 ในฐานะประธานนักเรียนของโรงเรียนแห่งนี้เดินขึ้นกล่าวกับนักเรียนทุกระดับ ชั้นถึงเรื่...
-
มาถึงตอนนี้ ไอ้หมาเสือ รู้สึกตัวเองแล้วว่า มันกำลังหลงใหลดำดิ่งลงใน “โลกของทาสหมา” อย่างถอนตัวไม่ขึ้นเสียแล้ว ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับมันในช...
-
ทัพ หนุ่มนักเรียนวิศวะ ผู้มีความหล่อระดับเดือนคณะ เป็นนักกีฬามหาลัย ชอบออกกำลังกาย ชอบว่ายน้ำ ชอบเล่นฟุตบอล เป็นที่หมายตาของสาวๆหลายๆคน ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น