แสงสียามค่ำในย่านราตรีอย่างรปปงงิดึงดูให้ผู้คนมากมายมาหาความสำราญเสียงเพลง ดื่มกิน พบปะเพื่อนฝูง หรือแม้แต่หาบริการทางเพศ
ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ในสูทไหมแท้ตัดเย็บปราณีตเป็นที่สะดุดตา ในยามค่ำของคืนฤดูใบไม้ร่วงเขาสวมเสื้อโค้ทขนสัตว์มียี่ห้อและรองเท้าจากอิตาลีเป็นมันวับชายผู้นั้นยืนสูบซิการ์ม้วนเรียวยาว รอคนรถของเขาหน้าอาคารธุรกิจหรูในย่านนั้น
นาฬิกาโชปาร์ดฝังเพชรบอกว่าเป็นเวลาล่วงยี่สิบนาทีแล้วที่เขายืนรอโครงหน้าคมสันได้ส่วนเคร่งขรึม คิ้วเข้มขมวดมุ่น ในจังหวะนั้นเองเสียงสัญญาณมือถือในกระเป๋าก็ดังขึ้น เขาล้วงมันออกมารับสาย
“ว่าไง? หา? รถชนเหรอบ้าเอ๊ย!”เสียงทุ้มกร้าวใส่อารมณ์อย่างหงุดหงิด “เออ!รู้แล้ว จัดการให้เรียบร้อยด้วย อะไร...ไม่ต้อง! ฉันจะเรียกแท็กซี่ไปเอง!”
มือใหญ่ยกเสยผมขัดใจเขาหยิบมีดทรงกลมขึ้นมาตัดปลายซิการ์เพื่อเก็บส่วนที่เหลือไว้ในกลักเงินเรียบหรูแล้วหิ้วกระเป๋าเอกสารออกเดินไปตามถนนเพื่อเรียกแท็กซี่อีกฝั่งหนึ่งขณะกำลังเก็บกลักซิการ์ใส่กระเป๋าด้านในเสื้อสูทนั้นเองใครคนหนึ่งก็เดินเข้ามาชนอย่างจัง
“เฮ้ย! ระวังหน่อยสิ” เขาเขม่นมองก่อนจะพบว่าฝ่ายที่เดินชนเป็นเด็กหนุ่มร่างบางแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าทันสมัยเส้นผมนุ่มระต้นคอเป็นสีน้ำตาลอย่างที่กำลังนิยมใบหน้าเนียนเรียบผิวขาวจนเรียกได้ว่าสวยนัยน์ตาดำขลับตวัดขึ้นมองหาทางเอาเรื่องนิดๆ
“ขอโทษ!” เด็กนั่นกระชากเสียง ปากบางเม้มเชิดๆ
“เธอ...ขายเหรอ?”
ไม่รู้อะไรดลใจให้ถามไปแบบนั้นอาจจะเพราะใบหน้าที่สวยเกินชายนี่ก็ได้ ชั่วขณะหนึ่งเขาเห็นแววอาฆาตขึ้งค้อนแต่อีกวินาทีถัดมาริมฝีปากสีเรื่อก็ยิ้มให้
“เงินถึงหรือเปล่าล่ะ?” เด็กหนุ่มกวาดตามองเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งกายของอีกฝ่ายแค่ดูก็รู้ว่าทุกชิ้นแพงระยับ
เรียวปากได้รูปยกยิ้ม แทนคำพูดเขายื่นมือมาตรงหน้าซึ่งเด็กหนุ่มคนนั้นก็รับคำเชิญด้วยการคล้องแขนหมับทั้งคู่พากันเดินไปยังโรงแรมระดับห้าดาวไม่ไกลนัก
แค่เดินพ้นประตูเข้าไปผู้จัดการโรงแรมก็รีบรี่เข้ามาต้อนรับอย่างนบนอบ ชายหนุ่มปฏิเสธคนหิ้วกระเป๋าเพียงแค่รับคีย์การ์ดโดยไม่ต้องเซ็นต์อะไรเพิ่มเติมเลยด้วยซ้ำ
“ท่าทางคุณคงรวยมากสิท่า?” ร่างบางถามในระหว่างที่ลิฟท์พาพวกเขามาถึงชั้นบนสุด
“ก็...นิดหน่อย” เขาตอบพาเด็กหนุ่มที่ควงมาเข้าไปในห้องสวีทสุดหรูลอบยิ้มเมื่อเห็นอีกฝ่ายอ้าปากค้างมองไปรอบห้องอย่างสนอกสนใจกระจกยาวด้านหนึ่งทำให้มองเห็นทิวทัศน์ของโตเกียวได้อย่างเต็มที่
“อาบน้ำไหม?” นิ้วเรียวดึงรูทเนคไทออกไปพาดรวมกับโค้ทที่ถอดแล้วอีกมือปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกเห็นแผ่นอกที่แน่นสวยด้วยมัดกล้าม
“เชิญคุณก่อน” เด็กหนุ่มเดินเลี่ยงไปหาเครื่องดื่มที่บาร์ขนาดกลางในห้องผ่อนลมหายใจโล่งอกเมื่อเห็นร่างสูงเดินเข้าไปอาบน้ำโดยไม่ตอแย
“เฮอะ! หน้าตาก็ดีแท้ๆ แต่ดันหัวงู” จมูกโด่งเชิดย่นให้กระซิบด่าไล่หลังเบาๆ “เช่าห้องหรูขนาดนี้ เดี๋ยวเหอะได้รู้สึกแน่!”
ร่างบางควักขวดยาเล็กที่มีน้ำใสๆบรรจุอยู่เกือบเต็มออกมามอง แล้วยกยิ้มเยาะ
...
เมื่อชายหนุ่มก้าวออกมาอีกครั้งในชุดเสื้อคลุมอาบน้ำก็เห็นเด็กที่หิ้วมานั่งไขว่ห้างรอบนเตียงแจ็คเก็ตยีนส์ถอดเหวี่ยงไปนอนแอ้งแม้งที่พื้นส่วนเสื้อเชิ้ตที่ยังเหลืออยู่ก็แบะคอออกให้เห็นผิวขาวนวลใบหน้าใสส่งยิ้มอ้อนๆมาให้
“นึกว่าจะให้ผมรอทั้งคืนซะแล้ว”
ฝ่ายได้ยินอมยิ้มขำ เขาไม่ใช่คนอาบน้ำนานแน่ๆแต่ที่อีกฝ่ายพูดแบบนี้เป็นการให้ท่าอย่างเป็นทางการเด็กหนุ่มอายุขนาดนี้จะเชี่ยวได้แค่ไหนกันนะ?
“ยังไม่รู้จักชื่อเลย?”
“จิซาโตะ” เสียงใสตอบ “คุณล่ะ?”
“ไคโตะ”
“โอเค...ไคโตะซัง” ร่างบางเดินนวยนาดเข้ามาหา “ว่าแต่ คืนนี้อยากให้ผมบริการแบบไหนดีล่ะ?”
ลาดไหล่เล็กสะดุ้งนิดๆเมื่อวงแขนแข็งกระชากเอวคอดเข้าแนบชิดเด็กหนุ่มซ่อนสีหน้าแล้วแสร้งยิ้ม
“ไม่เห็นต้องรีบร้อนเลยนี่ครับ” เขายื่นมือเข้าใกล้ฉับพลันเรียวนิ้วชุ่มน้ำยาใสในขวดนั้นแตะป้ายเข้าที่ลำคอหนา!
ร่างสูงครางฮึ่มในลำคอ ทว่ามุมปากกลับยิ้มเย้ยหยันไคโตะรีบฉุดลากอีกฝ่ายกลับเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกันแล้วเปิดฝักบัวราดรดตัวทั้งคู่จนชุ่ม!
“อ่ะ! ทำบ้าอะไรน่ะ!” ร่างเล็กกว่าโวยวายพยายามดิ้นรนให้พ้นอ้อมกอดที่รัดแน่น หากไม่นานนักอีกฝ่ายก็ปิดน้ำนิ้วแข็งบีบคางมนให้เงยขึ้น
“ป้ายยางั้นเหรอ? กล้าดีนี่” แววตาคมกล้าทำเอาเด็กหนุ่มหนาวสันหลังเยือก “น่าเสียดายที่มันถูกชะไปกับน้ำหมดแล้วล่ะ”
“อะ...ผม...ไม่ได้...อื๊ออออ” ริมฝีปากบางถูกประกบปิดสกัดคำพูดแก้ตัวต่างๆลงลำคอไปกำปั้นเล็กๆทุบรัวลงบนแผ่นหลังเมื่อลิ้นร้อนกระหวัดเกี่ยวล่วงล้ำร่างกำยำเบียดเข้ามาแนบชิด เสียดสีผิวเนื้อผ่านเสื้อที่เปียกชื้นเด็กหนุ่มหายใจติดขัด มือดึงทึ้งเสื้อคลุมอาบน้ำของอีกฝ่ายจนเลื่อนหลุด
“อึก!” ดวงตาคู่สวยเบิกโพลงอย่างตกตะลึงกับสิ่งที่เห็นลวดลายคมชัดบางส่วนบนหัวไหล่ทั้งสองข้าง...เป็นไปไม่ได้!
ชายหนุ่มถอนจุมพิตออกมองตามสายตาที่จ้องมาแล้วหัวเราะในลำคอ
“ตกใจมากเหรอ?” เขาฉุดข้อมือเล็กให้ตามออกมาด้านนอกร่างบางกำลังสั่นสะท้านจนลืมขัดขืนแผ่นหลังเปลือยเปล่าที่เต็มไปด้วยลวดลายยักษ์ท่าทางดุดันท่ามกลางเปลวเพลิงยิ่งตอกย้ำชัด!
“คุณ...เป็น...”
“ยากุซ่า” ไคโตะต่อให้ เขาเลิกคิ้วหยอกล้อ “ทายเก่งนี่”
เด็กหนุ่มภาวนาให้ตัวเองเป็นลมไปเดี๋ยวนี้เสียเลยจะได้ไม่ต้องรับรู้เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นต่อไปใบหน้าที่ขาวอยู่แล้วยิ่งเผือดซีด มือเย็นเฉียบด้วยความหวาดกลัว
“เอาล่ะ ก่อนจะเริ่ม ไหนลองบอกชื่ออีกทีสิ? คราวนี้ขอชื่อจริงนะ”
“...อากิระ” เขากลืนน้ำลายลงคอ
“เข้าใจอะไรง่ายดี” มือที่ลูบเปะปะเปลื้องเสื้อเชิ้ตเปียกๆออกไปโดยที่ฝ่ายนั้นไม่ทันตั้งตัวด้วยซ้ำ
“ยะ...อย่า ขอร้องล่ะ ผมแค่...ล้อเล่น” อากิระพยายามดันแผ่นอกกว้างออกแต่ก็ไม่กล้าขัดขืนมากนักด้วยรู้ตัวว่ามาเจอของแข็งเข้าเสียแล้ว
ไคโตะไม่สนใจอาการดิ้นรนเขาช้อนอุ้มคนที่ตัวเล็กกว่ามากไปวางบนเตียงได้อย่างง่ายดาย
“บทเรียนครั้งนี้ เธอต้องจ่ายด้วยราคาที่แพงมากเชียวล่ะ อากิระ”
“ไม่เอานะ!” เด็กหนุ่มหันหนีใบหน้าคมสันที่แนบเข้ามาซุกไซ้สองมือทั้งผลักทั้งยันไหล่หนา หากก็ไม่เป็นผลสัมผัสร้อนๆจากริมฝีปากพร่างพรมจนเริ่มสับสนมารู้ตัวอีกทีเมื่อคนที่ทาบทับพยายามถอดดึงกางเกงยีนส์ของเขาออกนั่นแหละถึงตระหนักว่าต้องทำอะไรเดี๋ยวนี้แล้ว!
“ฮึ!” ชายหนุ่มเจ็บแปลบๆที่สีข้างเมื่อร่างข้างใต้ตีเข่าถองเข้าจังเบอร์แม้ด้วยความที่เคลื่อนไหวไม่สะดวกนักจึงไม่แรงมาก หากก็ทำให้ฉุนกึกขึ้นมาได้ทันทีเขาฉุดรวบเรียวแขนทั้งสองข้างไพล่หลังเป็นการลงโทษ
“อ๊า! จะ...เจ็บ” ด้วยความที่ท่อนแขนถูกพลิกไปในท่าฝืนธรรมชาติซ้ำน้ำหนักทั้งของเขาและอีกฝ่ายยังกดทับไว้อีกกลายเป็นว่าเขานอนทับแขนตัวเองไว้อย่างไม่มีทางดิ้นหลุดโดยที่อีกฝ่ายยังใช้มือได้อย่างอิสระ!
“อย่าพยศให้มากจะดีกว่า” น้ำเสียงนั้นข่มขู่อย่างเปิดเผย“น่าจะรู้นะว่าฉันไม่ใช่คนใจดี”
“ได้โปรด...ผมไม่ใช่...ผมไม่ได้ขายตัว” ใบหน้ามนส่ายไปมารู้สึกเหมือนอยากจะร้องไห้ด้วยความหมดหวัง
“จริงหรือ?” รอยยิ้มนั้นคล้ายลังเลที่จะเชื่อเขาก้มลงลากลิ้นเลียไปตามเนินอกนุ่ม แล้ววกไปขบเม้มยอดอกราวกำลังทดสอบปฏิกิริยาแผ่นหลังบางสะท้านเยือก
“อย่า!”
ไคโตะไม่สนใจเสียงอ้อนวอนนั้นเลยแม้แต่น้อยเขากลับคิดถึงวิธีการมากมายที่จะเปลี่ยนมันให้กลายเป็นเสียงคราง มือหยาบกระชากทั้งยีนส์และชั้นในออกรวดเดียว!
ทำไมเขาต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย! อากิระคิดถึงแม้ว่าเขาจะเคยป้ายยาฉกกระเป๋าสตางค์อยู่บ้างบางครั้งแต่ก็เป็นเพราะเจ้าบ้าพวกนั้นมาทำหัวงูกับเขาก่อนต่างหากมันเป็นความคะนองมๆในแบบวัยรุ่นที่คิดจะสั่งสอนบทเรียนพวกที่มาดูถูกคิดว่าเขาเป็นเด็กขายตัวเท่านั้นเองแล้วนี่หรือ ความผิดที่เขาสมควรจะได้รับ!?
“ฮื่อออ ไม่” รอยสัมผัสจาบจ้วงจากคนแปลกหน้าสร้างความรู้สึกแสยงในทีแรกหากลมหายใจอุ่นและการเล้าโลมที่อ่อนโยนเกินความคาดหมายเริ่มก่ออารมณ์ปั่นป่วนให้เสียแล้วมันยากจะอธิบายเมื่อทุกครั้งที่บิดกายเพราะความไหวสะท้านจากฝ่ามือและปากรุมร้อนหัวไหล่และท่อนแขนก็เจ็บจี๊ด สลับกันไปมาแบบนี้จนส่วนที่เจ็บเริ่มจะชาหนึบ
เสียงหอบเครือที่เจ้าตัวพยายามอดกลั้นอย่างสุดความสามารถสร้างความสนุกสนานให้กับชายหนุ่มมากทีเดียวการตอบสนองที่ไร้เดียงสาทำให้ไคโตะชักเชื่อแล้วว่าเด็กนี่บริสุทธิ์...อืมอย่างน้อยก็ข้างหลังแหละ
“อา...” ร่างบางหลุดเสียงครางเมื่อปลายลิ้นช่ำชองไล่หยอกมาถึงร่องสะดือรวมทั้งมือข้างหนึ่งที่เพียรเคล้าแถวโคนขาบ่อยครั้งที่แกล้งเฉี่ยวไปโดนส่วนที่อ่อนไหวผิวแก้มแดงก่ำด้วยความอับอายด้วยรู้ว่าเริ่มตื่นตัวเสียแล้ว
“ฮ่ะ...อ๊าาาาา” ต้นขาขาวเรียวเกร็งสั่นเมื่อลิ้นที่เปียกชื้นไล้เลียลงไปกลางหว่างขาตรงๆอาการตอบรับของร่างกายเด่นชัดขึ้นไปอีกยิ่งร่างสูงตวัดรับมันเข้าไว้ในโพรงปากเด็กหนุ่มก็ยิ่งอยากกรีดร้องให้สุดเสียงความรู้สึกที่ได้รับแตกต่างจากผู้หญิงมาก พวกเธอมักจะปรนเปรอให้เขาเต็มที่หากชายหนุ่มกลับหนักไปทางหยอกล้อกลั่นแกล้งจนต้องหายใจหอบถี่ด้วยความซ่านเสียวระคนทรมาน
“พอ...ที” อากิระปรามอย่างอ่อนระโหยหยาดน้ำตาที่บอกไม่ถูกว่าเพราะอะไรคลอปริ่มหางตา
“หึ ร่างกายเธอยังซื่อสัตย์กว่าเสียอีก” ปลายนิ้วหยาบคลึงปากทางภายนอกแต่เพียงเท่านั้นร่างบางก็เครียดขึงไปหมดเขาลองออกแรงกดเพื่อส่งผ่านเข้าไปหนึ่งนิ้ว ส่งผลให้อีกฝ่ายดิ้นรนเกร็งช่องทางบีบรัดรุนแรง
“ไม่!” เด็กหนุ่มเสียงสั่นด้วยความหวาดกลัว “ขอร้อง...ไคโตะซัง...ปล่อยผมไปเถอะ”
ริมฝีปากได้รูปยิ้มให้ราวกับตอบรับคำขอร่างสูงเคลื่อนตัวออกงไปทางหัวเตียงแต่ยังไม่ทันที่ร่างข้างใต้จะโล่งอกชายหนุ่มก็กลับมาทาบทับอีกครั้งพร้อมกับขวดเบบี้ออยล์ในมือ!
อากิระนึกรู้เหตุการณ์ต่อไปในวินาทีนั้น เขาผวาต่อต้านอีกครั้งหากก็ล้มเหลว ไคโตะลุกนั่งพร้อมดึงเรียวขาสวยเข้าหาตัว ช้อนสะโพกเล็กวางบนหน้าตัก
“อย่าาาา อา!” นิ้วชุ่มด้วยเบบี้ออยล์รุกล้ำจาบจ้วงเคลื่อนไหวเพิ่มจำนวนอย่างรีบร้อนเอาแต่ใจ ไม่ใส่ใจอาการห้ามปรามใดๆทั้งสิ้นเด็กหนุ่มน้ำตาไหลพรากด้วยความอดสูและโกรธแค้น นัยน์ตาชุ่มน้ำเป็นประกายวาววาม!
“อืมม...ทำสีหน้าดีนี่ เร้าอารมณ์เป็นบ้าเลย”
“หุบปากนะ! อ๊าาาาาาาา” ร่างบางกรีดร้องลั่นเกร็งตัวขัดขืนเมื่อร่างกำยำสอดใส่เข้ามาอย่างไม่ปรานีสัญชาตญาณดิบที่ต้องการปราบพยศให้อยู่หมัดผลักดันให้ไคโตะแทรกร่างเข้าไปเขานิ่วหน้าขบกรามกรอดเนื่องด้วยช่องทางเล็กแคบฝืดฝืนทั้งที่ชโลมออยล์ให้ตัวเองตั้งเยอะแล้วคงเพราะอีกฝ่ายไม่ให้ความร่วมมือ
“ถ้าไม่อยากเจ็บตัวก็อย่าเกร็งนักสิ”
เป็นคำพล่อยๆที่ไร้ความรับผิดชอบสิ้นดี! อากิระก่นด่าในใจแต่ตอนนี้เขาเจ็บจนพูดไม่ออก หน้าท้องเกร็งจนเป็นตะคริวต้นแขนล้าแทบสิ้นความรู้สึก แถมขาก็เริ่มหมดแรง รับรู้ได้ว่าส่วนนั้นฉีกเป็นแผลและเลือดไหลจนปวดตุบเด็กหนุ่มไร้กำลังใจจะกลั้นสะอื้นได้แต่ปล่อยให้น้ำตาหยดไหลไม่ขาดสาย
ใช่ว่าชายหนุ่มจะไม่ใจอ่อนกับภาพนั้นแต่มาถึงขั้นนี้แล้วจะให้หยุดก็ไม่ง่ายนักร่างสูงตัดสินใจรวบบั้นเอวคอดแทรกกายเข้าไปจนสุดเรียกเสียงสะอื้นไห้ดังขึ้นมาอีกระลอก เขาค่อยๆช้อนแผ่นหลังอีกฝ่ายขึ้นคลายแขนทั้งสองข้างให้เป็นอิสระ
เรียวแขนของเขาหมดความรู้สึกไปแล้วเด็กหนุ่มรู้ดีว่าเขาไม่สามารถทำอะไรเพื่อช่วยเหลือตัวเองได้อีกและหนทางเดียวที่จะทำให้ความเจ็บปวดนี้ทุเลาลงคือการปล่อยให้ผู้รุกรานได้ทำตามใจชอบถึงแม้เขาจะชิงชังอีกฝ่ายเพียงไรแต่ช่องว่างความแตกต่างของพละกำลังนั้นมันมากเกินไป
“ปล่อยตัวตามสบายเถอะน่า เดี๋ยวดีเอง” เสียงทุ้มปลุกปลอบเขาเริ่มเคลื่อนกายเป็นจังหวะเนิบช้าสีหน้าของเด็กหนุ่มดูรวดร้าวทุกครั้งที่เขาขยับไหว ไคโตะสอดประสานนิ้วกับมือเล็กรุกล้ำความนุ่มละมุนที่ร้อนผ่าวอย่างหนักแน่นทว่าเจือด้วยความอ่อนโยน
ในความรู้สึกของอากิระ เขาบอบช้ำเกินกว่าจะสัมผัสถึงความนุ่มนวลที่รับรู้ได้มีเพียงอาการเจ็บร้าวและรุมร้อนทุกครั้งที่ความใหญ่โตนั้นรุกรานเข้ามาเขารู้สึกเหมือนร่างโดนจับฉีกทึ้งเป็นส่วนๆเรือนกายบอบบางสั่นคลอนไปตามการชักนำ พลางวิงวอนให้มันจบลงโดยเร็ว
ทว่าสิ่งที่วอนขอดูจะไม่เป็นดังหวังเมื่อการสอดใส่รุนแรงกระชั้นถี่ขึ้นเด็กหนุ่มฝืนใจหรี่ตามองผู้ที่กระทำต่อเขาอย่างโหดร้ายแต่...ทำไมนัยน์ตาคมที่มองกลับมาถึงเต็มไปด้วยความห่วงใยเช่นนั้น? ริมฝีปากที่เพียรพรมจูบปลุกปลอบวกมาประทับจูบดื่มด่ำเรียวลิ้นซอนเคล้ายื้อยุดจงใจให้เพลินเพลินเผื่อจะลืมความเจ็บปวดเบื้องล่างลงไปได้บ้างมือข้างหนึ่งลดลงลูบไล้แผ่นอกตลอดจนสีข้างปลายนิ้วโป้งถูไถกับยอดอกสีเรื่อจนแข็งขึง
เส้นทางที่กระชับแน่นดึงดูดเขาให้หลงใหลไคโตะขยับรุกล้ำเข้าจนลึกสุด ตอบสนองความต้องการที่ล้นปรี่ชายหนุ่มเริ่มเล้าโล้มเรือนร่างงดงามด้วยมือและปากไม่ใช่แค่ปลุกปลอบหลอกล่อหากตัวเองก็ต้องการเชยชมด้วยเขาจัดให้เรียวแขนอ่อนเปียกเกาะเกี่ยวแผ่นหลังเอาไว้แล้วจึงลดมือทั้งสองข้างลงไปเกาะกุมต้นขาวขาว ยกแยกให้ยิ่งเคลื่อนกายเข้าเร้าส่วนกระสันได้ถนัดถนี่
“อะ...อาาาาาา” เสียงสั่นเครือครางกระเส่าในความรู้สึกทั้งหมดทั้งมวลที่ประเดประดังยังมีความหฤหรรษ์ที่ยากจะปฏิเสธแทรกซึมขึ้นมาจากเบื้องลึกเรียวแขนโอบกอดแผ่นหลังกว้างไว้โดยไม่รู้ตัวมึนเมาไปกับห้วงอารมณ์ที่วูบวาบเสียวสะท้าน การล่วงล้ำอย่างดุดันสะเทือนให้หวั่นไหวจนแทบลืมหมดทุกอย่างเล็บสั้นจิกกรีดลงบนรอยสักอันวิจิตรนั่น ทุกเส้นประสาทร่ำร้องจะไปให้ถึงที่สุด
ร่างกำยำสวนกายกระทั้นให้สมอยากเขาไม่อาจทนต่อความเย้ายวนใจของหิมะแรกที่ไม่เคยมีใครย่ำได้ รสชาติหอมหวานที่ได้รับทำให้ไคโตะเผลอกลืนกินเด็กหนุ่มอย่างตะกรุมตะกรามตักตวงทุกสิ่งจากร่างบอบช้ำที่ดูเหมือนจะสลบไปได้ทุกเมื่อสีหน้าเจ็บปวดทั้งกายและใจปนเปกับความสับสนในดำกฤษณายิ่งล่อให้ชายหนุ่มมุ่งมั่นจะเอาชนะเขาต้องการครอบครองทั้งหมด...โดยสมบูรณ์
“ฮะ...อ่ะ...อา...อ๊าาาาา!” ร่างบางสะท้านสั่นเมื่อการกระทำฉุดเขาให้ไปถึงจุดสูงสุดของเหลวขุ่นทะลักเปื้อนเปรอะตัวทั้งคู่ ผิวเนื้อเต้นระริกเขม็งเกลียวโอบรัดผู้รุกล้ำอย่างรุนแรงสติที่หลงเหลือเพียงน้อยนิดรับรู้ถึงร่างที่กระแทกกายเข้ามาหนักๆก่อนอะไรบางอย่างที่ร้อนรุ่มจะรินรดเข้ามาภายในและนั่นเองที่ฉุดดึงความรู้สึกสุดท้ายให้หลุดลอยไป
“อืมม...อา...อากิระ!” ไคโตะเกร็งตัวปลดปล่อยทั้งหมดเข้าใส่ร่างที่รองรับด้วยความสมใจอย่างยิ่งเขาค่อยๆทรุดลงประคองร่างไร้สติไว้ในอ้อมแขนหอบถี่แบบที่ไม่ได้เร่าร้อนด้วยกามารมณ์ขนาดนี้มานานแล้วท่าทาง...จะปล่อยไปไม่ได้เสียแล้วสิ...
ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ในสูทไหมแท้ตัดเย็บปราณีตเป็นที่สะดุดตา ในยามค่ำของคืนฤดูใบไม้ร่วงเขาสวมเสื้อโค้ทขนสัตว์มียี่ห้อและรองเท้าจากอิตาลีเป็นมันวับชายผู้นั้นยืนสูบซิการ์ม้วนเรียวยาว รอคนรถของเขาหน้าอาคารธุรกิจหรูในย่านนั้น
นาฬิกาโชปาร์ดฝังเพชรบอกว่าเป็นเวลาล่วงยี่สิบนาทีแล้วที่เขายืนรอโครงหน้าคมสันได้ส่วนเคร่งขรึม คิ้วเข้มขมวดมุ่น ในจังหวะนั้นเองเสียงสัญญาณมือถือในกระเป๋าก็ดังขึ้น เขาล้วงมันออกมารับสาย
“ว่าไง? หา? รถชนเหรอบ้าเอ๊ย!”เสียงทุ้มกร้าวใส่อารมณ์อย่างหงุดหงิด “เออ!รู้แล้ว จัดการให้เรียบร้อยด้วย อะไร...ไม่ต้อง! ฉันจะเรียกแท็กซี่ไปเอง!”
มือใหญ่ยกเสยผมขัดใจเขาหยิบมีดทรงกลมขึ้นมาตัดปลายซิการ์เพื่อเก็บส่วนที่เหลือไว้ในกลักเงินเรียบหรูแล้วหิ้วกระเป๋าเอกสารออกเดินไปตามถนนเพื่อเรียกแท็กซี่อีกฝั่งหนึ่งขณะกำลังเก็บกลักซิการ์ใส่กระเป๋าด้านในเสื้อสูทนั้นเองใครคนหนึ่งก็เดินเข้ามาชนอย่างจัง
“เฮ้ย! ระวังหน่อยสิ” เขาเขม่นมองก่อนจะพบว่าฝ่ายที่เดินชนเป็นเด็กหนุ่มร่างบางแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าทันสมัยเส้นผมนุ่มระต้นคอเป็นสีน้ำตาลอย่างที่กำลังนิยมใบหน้าเนียนเรียบผิวขาวจนเรียกได้ว่าสวยนัยน์ตาดำขลับตวัดขึ้นมองหาทางเอาเรื่องนิดๆ
“ขอโทษ!” เด็กนั่นกระชากเสียง ปากบางเม้มเชิดๆ
“เธอ...ขายเหรอ?”
ไม่รู้อะไรดลใจให้ถามไปแบบนั้นอาจจะเพราะใบหน้าที่สวยเกินชายนี่ก็ได้ ชั่วขณะหนึ่งเขาเห็นแววอาฆาตขึ้งค้อนแต่อีกวินาทีถัดมาริมฝีปากสีเรื่อก็ยิ้มให้
“เงินถึงหรือเปล่าล่ะ?” เด็กหนุ่มกวาดตามองเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งกายของอีกฝ่ายแค่ดูก็รู้ว่าทุกชิ้นแพงระยับ
เรียวปากได้รูปยกยิ้ม แทนคำพูดเขายื่นมือมาตรงหน้าซึ่งเด็กหนุ่มคนนั้นก็รับคำเชิญด้วยการคล้องแขนหมับทั้งคู่พากันเดินไปยังโรงแรมระดับห้าดาวไม่ไกลนัก
แค่เดินพ้นประตูเข้าไปผู้จัดการโรงแรมก็รีบรี่เข้ามาต้อนรับอย่างนบนอบ ชายหนุ่มปฏิเสธคนหิ้วกระเป๋าเพียงแค่รับคีย์การ์ดโดยไม่ต้องเซ็นต์อะไรเพิ่มเติมเลยด้วยซ้ำ
“ท่าทางคุณคงรวยมากสิท่า?” ร่างบางถามในระหว่างที่ลิฟท์พาพวกเขามาถึงชั้นบนสุด
“ก็...นิดหน่อย” เขาตอบพาเด็กหนุ่มที่ควงมาเข้าไปในห้องสวีทสุดหรูลอบยิ้มเมื่อเห็นอีกฝ่ายอ้าปากค้างมองไปรอบห้องอย่างสนอกสนใจกระจกยาวด้านหนึ่งทำให้มองเห็นทิวทัศน์ของโตเกียวได้อย่างเต็มที่
“อาบน้ำไหม?” นิ้วเรียวดึงรูทเนคไทออกไปพาดรวมกับโค้ทที่ถอดแล้วอีกมือปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกเห็นแผ่นอกที่แน่นสวยด้วยมัดกล้าม
“เชิญคุณก่อน” เด็กหนุ่มเดินเลี่ยงไปหาเครื่องดื่มที่บาร์ขนาดกลางในห้องผ่อนลมหายใจโล่งอกเมื่อเห็นร่างสูงเดินเข้าไปอาบน้ำโดยไม่ตอแย
“เฮอะ! หน้าตาก็ดีแท้ๆ แต่ดันหัวงู” จมูกโด่งเชิดย่นให้กระซิบด่าไล่หลังเบาๆ “เช่าห้องหรูขนาดนี้ เดี๋ยวเหอะได้รู้สึกแน่!”
ร่างบางควักขวดยาเล็กที่มีน้ำใสๆบรรจุอยู่เกือบเต็มออกมามอง แล้วยกยิ้มเยาะ
...
เมื่อชายหนุ่มก้าวออกมาอีกครั้งในชุดเสื้อคลุมอาบน้ำก็เห็นเด็กที่หิ้วมานั่งไขว่ห้างรอบนเตียงแจ็คเก็ตยีนส์ถอดเหวี่ยงไปนอนแอ้งแม้งที่พื้นส่วนเสื้อเชิ้ตที่ยังเหลืออยู่ก็แบะคอออกให้เห็นผิวขาวนวลใบหน้าใสส่งยิ้มอ้อนๆมาให้
“นึกว่าจะให้ผมรอทั้งคืนซะแล้ว”
ฝ่ายได้ยินอมยิ้มขำ เขาไม่ใช่คนอาบน้ำนานแน่ๆแต่ที่อีกฝ่ายพูดแบบนี้เป็นการให้ท่าอย่างเป็นทางการเด็กหนุ่มอายุขนาดนี้จะเชี่ยวได้แค่ไหนกันนะ?
“ยังไม่รู้จักชื่อเลย?”
“จิซาโตะ” เสียงใสตอบ “คุณล่ะ?”
“ไคโตะ”
“โอเค...ไคโตะซัง” ร่างบางเดินนวยนาดเข้ามาหา “ว่าแต่ คืนนี้อยากให้ผมบริการแบบไหนดีล่ะ?”
ลาดไหล่เล็กสะดุ้งนิดๆเมื่อวงแขนแข็งกระชากเอวคอดเข้าแนบชิดเด็กหนุ่มซ่อนสีหน้าแล้วแสร้งยิ้ม
“ไม่เห็นต้องรีบร้อนเลยนี่ครับ” เขายื่นมือเข้าใกล้ฉับพลันเรียวนิ้วชุ่มน้ำยาใสในขวดนั้นแตะป้ายเข้าที่ลำคอหนา!
ร่างสูงครางฮึ่มในลำคอ ทว่ามุมปากกลับยิ้มเย้ยหยันไคโตะรีบฉุดลากอีกฝ่ายกลับเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกันแล้วเปิดฝักบัวราดรดตัวทั้งคู่จนชุ่ม!
“อ่ะ! ทำบ้าอะไรน่ะ!” ร่างเล็กกว่าโวยวายพยายามดิ้นรนให้พ้นอ้อมกอดที่รัดแน่น หากไม่นานนักอีกฝ่ายก็ปิดน้ำนิ้วแข็งบีบคางมนให้เงยขึ้น
“ป้ายยางั้นเหรอ? กล้าดีนี่” แววตาคมกล้าทำเอาเด็กหนุ่มหนาวสันหลังเยือก “น่าเสียดายที่มันถูกชะไปกับน้ำหมดแล้วล่ะ”
“อะ...ผม...ไม่ได้...อื๊ออออ” ริมฝีปากบางถูกประกบปิดสกัดคำพูดแก้ตัวต่างๆลงลำคอไปกำปั้นเล็กๆทุบรัวลงบนแผ่นหลังเมื่อลิ้นร้อนกระหวัดเกี่ยวล่วงล้ำร่างกำยำเบียดเข้ามาแนบชิด เสียดสีผิวเนื้อผ่านเสื้อที่เปียกชื้นเด็กหนุ่มหายใจติดขัด มือดึงทึ้งเสื้อคลุมอาบน้ำของอีกฝ่ายจนเลื่อนหลุด
“อึก!” ดวงตาคู่สวยเบิกโพลงอย่างตกตะลึงกับสิ่งที่เห็นลวดลายคมชัดบางส่วนบนหัวไหล่ทั้งสองข้าง...เป็นไปไม่ได้!
ชายหนุ่มถอนจุมพิตออกมองตามสายตาที่จ้องมาแล้วหัวเราะในลำคอ
“ตกใจมากเหรอ?” เขาฉุดข้อมือเล็กให้ตามออกมาด้านนอกร่างบางกำลังสั่นสะท้านจนลืมขัดขืนแผ่นหลังเปลือยเปล่าที่เต็มไปด้วยลวดลายยักษ์ท่าทางดุดันท่ามกลางเปลวเพลิงยิ่งตอกย้ำชัด!
“คุณ...เป็น...”
“ยากุซ่า” ไคโตะต่อให้ เขาเลิกคิ้วหยอกล้อ “ทายเก่งนี่”
เด็กหนุ่มภาวนาให้ตัวเองเป็นลมไปเดี๋ยวนี้เสียเลยจะได้ไม่ต้องรับรู้เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นต่อไปใบหน้าที่ขาวอยู่แล้วยิ่งเผือดซีด มือเย็นเฉียบด้วยความหวาดกลัว
“เอาล่ะ ก่อนจะเริ่ม ไหนลองบอกชื่ออีกทีสิ? คราวนี้ขอชื่อจริงนะ”
“...อากิระ” เขากลืนน้ำลายลงคอ
“เข้าใจอะไรง่ายดี” มือที่ลูบเปะปะเปลื้องเสื้อเชิ้ตเปียกๆออกไปโดยที่ฝ่ายนั้นไม่ทันตั้งตัวด้วยซ้ำ
“ยะ...อย่า ขอร้องล่ะ ผมแค่...ล้อเล่น” อากิระพยายามดันแผ่นอกกว้างออกแต่ก็ไม่กล้าขัดขืนมากนักด้วยรู้ตัวว่ามาเจอของแข็งเข้าเสียแล้ว
ไคโตะไม่สนใจอาการดิ้นรนเขาช้อนอุ้มคนที่ตัวเล็กกว่ามากไปวางบนเตียงได้อย่างง่ายดาย
“บทเรียนครั้งนี้ เธอต้องจ่ายด้วยราคาที่แพงมากเชียวล่ะ อากิระ”
“ไม่เอานะ!” เด็กหนุ่มหันหนีใบหน้าคมสันที่แนบเข้ามาซุกไซ้สองมือทั้งผลักทั้งยันไหล่หนา หากก็ไม่เป็นผลสัมผัสร้อนๆจากริมฝีปากพร่างพรมจนเริ่มสับสนมารู้ตัวอีกทีเมื่อคนที่ทาบทับพยายามถอดดึงกางเกงยีนส์ของเขาออกนั่นแหละถึงตระหนักว่าต้องทำอะไรเดี๋ยวนี้แล้ว!
“ฮึ!” ชายหนุ่มเจ็บแปลบๆที่สีข้างเมื่อร่างข้างใต้ตีเข่าถองเข้าจังเบอร์แม้ด้วยความที่เคลื่อนไหวไม่สะดวกนักจึงไม่แรงมาก หากก็ทำให้ฉุนกึกขึ้นมาได้ทันทีเขาฉุดรวบเรียวแขนทั้งสองข้างไพล่หลังเป็นการลงโทษ
“อ๊า! จะ...เจ็บ” ด้วยความที่ท่อนแขนถูกพลิกไปในท่าฝืนธรรมชาติซ้ำน้ำหนักทั้งของเขาและอีกฝ่ายยังกดทับไว้อีกกลายเป็นว่าเขานอนทับแขนตัวเองไว้อย่างไม่มีทางดิ้นหลุดโดยที่อีกฝ่ายยังใช้มือได้อย่างอิสระ!
“อย่าพยศให้มากจะดีกว่า” น้ำเสียงนั้นข่มขู่อย่างเปิดเผย“น่าจะรู้นะว่าฉันไม่ใช่คนใจดี”
“ได้โปรด...ผมไม่ใช่...ผมไม่ได้ขายตัว” ใบหน้ามนส่ายไปมารู้สึกเหมือนอยากจะร้องไห้ด้วยความหมดหวัง
“จริงหรือ?” รอยยิ้มนั้นคล้ายลังเลที่จะเชื่อเขาก้มลงลากลิ้นเลียไปตามเนินอกนุ่ม แล้ววกไปขบเม้มยอดอกราวกำลังทดสอบปฏิกิริยาแผ่นหลังบางสะท้านเยือก
“อย่า!”
ไคโตะไม่สนใจเสียงอ้อนวอนนั้นเลยแม้แต่น้อยเขากลับคิดถึงวิธีการมากมายที่จะเปลี่ยนมันให้กลายเป็นเสียงคราง มือหยาบกระชากทั้งยีนส์และชั้นในออกรวดเดียว!
ทำไมเขาต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย! อากิระคิดถึงแม้ว่าเขาจะเคยป้ายยาฉกกระเป๋าสตางค์อยู่บ้างบางครั้งแต่ก็เป็นเพราะเจ้าบ้าพวกนั้นมาทำหัวงูกับเขาก่อนต่างหากมันเป็นความคะนองมๆในแบบวัยรุ่นที่คิดจะสั่งสอนบทเรียนพวกที่มาดูถูกคิดว่าเขาเป็นเด็กขายตัวเท่านั้นเองแล้วนี่หรือ ความผิดที่เขาสมควรจะได้รับ!?
“ฮื่อออ ไม่” รอยสัมผัสจาบจ้วงจากคนแปลกหน้าสร้างความรู้สึกแสยงในทีแรกหากลมหายใจอุ่นและการเล้าโลมที่อ่อนโยนเกินความคาดหมายเริ่มก่ออารมณ์ปั่นป่วนให้เสียแล้วมันยากจะอธิบายเมื่อทุกครั้งที่บิดกายเพราะความไหวสะท้านจากฝ่ามือและปากรุมร้อนหัวไหล่และท่อนแขนก็เจ็บจี๊ด สลับกันไปมาแบบนี้จนส่วนที่เจ็บเริ่มจะชาหนึบ
เสียงหอบเครือที่เจ้าตัวพยายามอดกลั้นอย่างสุดความสามารถสร้างความสนุกสนานให้กับชายหนุ่มมากทีเดียวการตอบสนองที่ไร้เดียงสาทำให้ไคโตะชักเชื่อแล้วว่าเด็กนี่บริสุทธิ์...อืมอย่างน้อยก็ข้างหลังแหละ
“อา...” ร่างบางหลุดเสียงครางเมื่อปลายลิ้นช่ำชองไล่หยอกมาถึงร่องสะดือรวมทั้งมือข้างหนึ่งที่เพียรเคล้าแถวโคนขาบ่อยครั้งที่แกล้งเฉี่ยวไปโดนส่วนที่อ่อนไหวผิวแก้มแดงก่ำด้วยความอับอายด้วยรู้ว่าเริ่มตื่นตัวเสียแล้ว
“ฮ่ะ...อ๊าาาาา” ต้นขาขาวเรียวเกร็งสั่นเมื่อลิ้นที่เปียกชื้นไล้เลียลงไปกลางหว่างขาตรงๆอาการตอบรับของร่างกายเด่นชัดขึ้นไปอีกยิ่งร่างสูงตวัดรับมันเข้าไว้ในโพรงปากเด็กหนุ่มก็ยิ่งอยากกรีดร้องให้สุดเสียงความรู้สึกที่ได้รับแตกต่างจากผู้หญิงมาก พวกเธอมักจะปรนเปรอให้เขาเต็มที่หากชายหนุ่มกลับหนักไปทางหยอกล้อกลั่นแกล้งจนต้องหายใจหอบถี่ด้วยความซ่านเสียวระคนทรมาน
“พอ...ที” อากิระปรามอย่างอ่อนระโหยหยาดน้ำตาที่บอกไม่ถูกว่าเพราะอะไรคลอปริ่มหางตา
“หึ ร่างกายเธอยังซื่อสัตย์กว่าเสียอีก” ปลายนิ้วหยาบคลึงปากทางภายนอกแต่เพียงเท่านั้นร่างบางก็เครียดขึงไปหมดเขาลองออกแรงกดเพื่อส่งผ่านเข้าไปหนึ่งนิ้ว ส่งผลให้อีกฝ่ายดิ้นรนเกร็งช่องทางบีบรัดรุนแรง
“ไม่!” เด็กหนุ่มเสียงสั่นด้วยความหวาดกลัว “ขอร้อง...ไคโตะซัง...ปล่อยผมไปเถอะ”
ริมฝีปากได้รูปยิ้มให้ราวกับตอบรับคำขอร่างสูงเคลื่อนตัวออกงไปทางหัวเตียงแต่ยังไม่ทันที่ร่างข้างใต้จะโล่งอกชายหนุ่มก็กลับมาทาบทับอีกครั้งพร้อมกับขวดเบบี้ออยล์ในมือ!
อากิระนึกรู้เหตุการณ์ต่อไปในวินาทีนั้น เขาผวาต่อต้านอีกครั้งหากก็ล้มเหลว ไคโตะลุกนั่งพร้อมดึงเรียวขาสวยเข้าหาตัว ช้อนสะโพกเล็กวางบนหน้าตัก
“อย่าาาา อา!” นิ้วชุ่มด้วยเบบี้ออยล์รุกล้ำจาบจ้วงเคลื่อนไหวเพิ่มจำนวนอย่างรีบร้อนเอาแต่ใจ ไม่ใส่ใจอาการห้ามปรามใดๆทั้งสิ้นเด็กหนุ่มน้ำตาไหลพรากด้วยความอดสูและโกรธแค้น นัยน์ตาชุ่มน้ำเป็นประกายวาววาม!
“อืมม...ทำสีหน้าดีนี่ เร้าอารมณ์เป็นบ้าเลย”
“หุบปากนะ! อ๊าาาาาาาา” ร่างบางกรีดร้องลั่นเกร็งตัวขัดขืนเมื่อร่างกำยำสอดใส่เข้ามาอย่างไม่ปรานีสัญชาตญาณดิบที่ต้องการปราบพยศให้อยู่หมัดผลักดันให้ไคโตะแทรกร่างเข้าไปเขานิ่วหน้าขบกรามกรอดเนื่องด้วยช่องทางเล็กแคบฝืดฝืนทั้งที่ชโลมออยล์ให้ตัวเองตั้งเยอะแล้วคงเพราะอีกฝ่ายไม่ให้ความร่วมมือ
“ถ้าไม่อยากเจ็บตัวก็อย่าเกร็งนักสิ”
เป็นคำพล่อยๆที่ไร้ความรับผิดชอบสิ้นดี! อากิระก่นด่าในใจแต่ตอนนี้เขาเจ็บจนพูดไม่ออก หน้าท้องเกร็งจนเป็นตะคริวต้นแขนล้าแทบสิ้นความรู้สึก แถมขาก็เริ่มหมดแรง รับรู้ได้ว่าส่วนนั้นฉีกเป็นแผลและเลือดไหลจนปวดตุบเด็กหนุ่มไร้กำลังใจจะกลั้นสะอื้นได้แต่ปล่อยให้น้ำตาหยดไหลไม่ขาดสาย
ใช่ว่าชายหนุ่มจะไม่ใจอ่อนกับภาพนั้นแต่มาถึงขั้นนี้แล้วจะให้หยุดก็ไม่ง่ายนักร่างสูงตัดสินใจรวบบั้นเอวคอดแทรกกายเข้าไปจนสุดเรียกเสียงสะอื้นไห้ดังขึ้นมาอีกระลอก เขาค่อยๆช้อนแผ่นหลังอีกฝ่ายขึ้นคลายแขนทั้งสองข้างให้เป็นอิสระ
เรียวแขนของเขาหมดความรู้สึกไปแล้วเด็กหนุ่มรู้ดีว่าเขาไม่สามารถทำอะไรเพื่อช่วยเหลือตัวเองได้อีกและหนทางเดียวที่จะทำให้ความเจ็บปวดนี้ทุเลาลงคือการปล่อยให้ผู้รุกรานได้ทำตามใจชอบถึงแม้เขาจะชิงชังอีกฝ่ายเพียงไรแต่ช่องว่างความแตกต่างของพละกำลังนั้นมันมากเกินไป
“ปล่อยตัวตามสบายเถอะน่า เดี๋ยวดีเอง” เสียงทุ้มปลุกปลอบเขาเริ่มเคลื่อนกายเป็นจังหวะเนิบช้าสีหน้าของเด็กหนุ่มดูรวดร้าวทุกครั้งที่เขาขยับไหว ไคโตะสอดประสานนิ้วกับมือเล็กรุกล้ำความนุ่มละมุนที่ร้อนผ่าวอย่างหนักแน่นทว่าเจือด้วยความอ่อนโยน
ในความรู้สึกของอากิระ เขาบอบช้ำเกินกว่าจะสัมผัสถึงความนุ่มนวลที่รับรู้ได้มีเพียงอาการเจ็บร้าวและรุมร้อนทุกครั้งที่ความใหญ่โตนั้นรุกรานเข้ามาเขารู้สึกเหมือนร่างโดนจับฉีกทึ้งเป็นส่วนๆเรือนกายบอบบางสั่นคลอนไปตามการชักนำ พลางวิงวอนให้มันจบลงโดยเร็ว
ทว่าสิ่งที่วอนขอดูจะไม่เป็นดังหวังเมื่อการสอดใส่รุนแรงกระชั้นถี่ขึ้นเด็กหนุ่มฝืนใจหรี่ตามองผู้ที่กระทำต่อเขาอย่างโหดร้ายแต่...ทำไมนัยน์ตาคมที่มองกลับมาถึงเต็มไปด้วยความห่วงใยเช่นนั้น? ริมฝีปากที่เพียรพรมจูบปลุกปลอบวกมาประทับจูบดื่มด่ำเรียวลิ้นซอนเคล้ายื้อยุดจงใจให้เพลินเพลินเผื่อจะลืมความเจ็บปวดเบื้องล่างลงไปได้บ้างมือข้างหนึ่งลดลงลูบไล้แผ่นอกตลอดจนสีข้างปลายนิ้วโป้งถูไถกับยอดอกสีเรื่อจนแข็งขึง
เส้นทางที่กระชับแน่นดึงดูดเขาให้หลงใหลไคโตะขยับรุกล้ำเข้าจนลึกสุด ตอบสนองความต้องการที่ล้นปรี่ชายหนุ่มเริ่มเล้าโล้มเรือนร่างงดงามด้วยมือและปากไม่ใช่แค่ปลุกปลอบหลอกล่อหากตัวเองก็ต้องการเชยชมด้วยเขาจัดให้เรียวแขนอ่อนเปียกเกาะเกี่ยวแผ่นหลังเอาไว้แล้วจึงลดมือทั้งสองข้างลงไปเกาะกุมต้นขาวขาว ยกแยกให้ยิ่งเคลื่อนกายเข้าเร้าส่วนกระสันได้ถนัดถนี่
“อะ...อาาาาาา” เสียงสั่นเครือครางกระเส่าในความรู้สึกทั้งหมดทั้งมวลที่ประเดประดังยังมีความหฤหรรษ์ที่ยากจะปฏิเสธแทรกซึมขึ้นมาจากเบื้องลึกเรียวแขนโอบกอดแผ่นหลังกว้างไว้โดยไม่รู้ตัวมึนเมาไปกับห้วงอารมณ์ที่วูบวาบเสียวสะท้าน การล่วงล้ำอย่างดุดันสะเทือนให้หวั่นไหวจนแทบลืมหมดทุกอย่างเล็บสั้นจิกกรีดลงบนรอยสักอันวิจิตรนั่น ทุกเส้นประสาทร่ำร้องจะไปให้ถึงที่สุด
ร่างกำยำสวนกายกระทั้นให้สมอยากเขาไม่อาจทนต่อความเย้ายวนใจของหิมะแรกที่ไม่เคยมีใครย่ำได้ รสชาติหอมหวานที่ได้รับทำให้ไคโตะเผลอกลืนกินเด็กหนุ่มอย่างตะกรุมตะกรามตักตวงทุกสิ่งจากร่างบอบช้ำที่ดูเหมือนจะสลบไปได้ทุกเมื่อสีหน้าเจ็บปวดทั้งกายและใจปนเปกับความสับสนในดำกฤษณายิ่งล่อให้ชายหนุ่มมุ่งมั่นจะเอาชนะเขาต้องการครอบครองทั้งหมด...โดยสมบูรณ์
“ฮะ...อ่ะ...อา...อ๊าาาาา!” ร่างบางสะท้านสั่นเมื่อการกระทำฉุดเขาให้ไปถึงจุดสูงสุดของเหลวขุ่นทะลักเปื้อนเปรอะตัวทั้งคู่ ผิวเนื้อเต้นระริกเขม็งเกลียวโอบรัดผู้รุกล้ำอย่างรุนแรงสติที่หลงเหลือเพียงน้อยนิดรับรู้ถึงร่างที่กระแทกกายเข้ามาหนักๆก่อนอะไรบางอย่างที่ร้อนรุ่มจะรินรดเข้ามาภายในและนั่นเองที่ฉุดดึงความรู้สึกสุดท้ายให้หลุดลอยไป
“อืมม...อา...อากิระ!” ไคโตะเกร็งตัวปลดปล่อยทั้งหมดเข้าใส่ร่างที่รองรับด้วยความสมใจอย่างยิ่งเขาค่อยๆทรุดลงประคองร่างไร้สติไว้ในอ้อมแขนหอบถี่แบบที่ไม่ได้เร่าร้อนด้วยกามารมณ์ขนาดนี้มานานแล้วท่าทาง...จะปล่อยไปไม่ได้เสียแล้วสิ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น