วันเสาร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

น้องๆ ม.ต้นที่รัก 17 (เสียวบนรถกระบะ)

เช้าวันนี้ผมได้รับแจ้งจากช่างว่า ปูนฉาบกับทรายละเอียดมีไม่น่าจะพอจึงขอให้ผมช่วยจัดการหาซื้อมาให้หน่อย ด้วยกับหน้าที่ๆได้รับมอบหมาย ฝ่ายประสานงานของค่ายนี้ ด้วยความรับผิดชอบจึงต้องทำหน้าที่ให้สมบูรณ์  
          แต่การหาซื้อปูนกะทรายนี่ ที่ตลาดปากคลองไม่มีขาย  ผมจึงต้องออกไปซื้อถึงตัวเมือง  ซึ่งมันห่างจากหมู่บ้านที่อยู่นี่ประมาณ50กิโล  50กิโลกับสภาพถนนที่ดีๆก็คงไม่มีปัญหา แต่ที่นี่มันจะเป็นถนนดินลูกลังซะส่วนใหญ่  และปัญหาอีกอย่างหนึ่งก็คือน้าชูคนที่คอยช่วยขับรถให้ผมไปไหนไม่รู้  เมื่อหาตัวไม่เจอก็เดือดร้อนผมล่ะซิ  ที่ต้องขับรถไปเอง  และกับไอ้สภาพรถที่จะต้องขับไป  ผมว่าน่าจะเป็นรุ่นสมัยสงครามโลกแน่นอน มันคงผ่านสมรภูมิศึกสงคราม มามาก  สภาพมันถ้าสัมผัสมันจะต้องเป็นบาดทะยักรึป่าวก็ไม่รู้
          และในการเดินทางครั้งนี้มีอาสาสมัครที่จะร่วมเดินทางไปกับผม  คือไอ้เจ้าตัวเล็กน้องอาร์ม  มันก็เดินเข้ามาหาผม บอกว่า  “ให้อาร์มไปด้วยน๊ะ”  ผมเลยบอก “โน้นเลย...อยากไปด้วยไปบอกแม่ก่อนว่าเขาจะให้ไปด้วยรึป่าว”  ผมพูดออกไปแสดงท่าทีว่าไม่อยากให้ไป แต่ในใจก็นึก ดีเหมือนกันมีเพื่อนเดินทาง แก้เหงาจะได้ไม่เบื่อ  พี่สมรก็เดินมาพร้อมกับเจ้าอาร์ม เดินมาบอกผมว่า  “ไปคนเดียวได้รึป่าว...!!!   อ่ะ..เอาเจ้าอาร์มไปเป็นเพื่อนจะได้ไม่เหงา”  ผมก็มองหน้าเจ้าน้องอาร์ม มันก็เงยหน้ามายิ้มกับผม  ผมก็เลยจูงมือมันไปที่รถเพื่อออกเดินทางเข้าเมืองกัน  
          พอออกรถได้ไม่ทันไรเจ้าอาร์มมันก็ถามก่อนเลยว่า  “พี่...ไปถูกรึป่าว!!”   (อ้าว..ไอ้เวรดูถูกกันนี่หว่า!  อ้าปากถามก็หาเรื่องตูเลย)   “ไม่ถูกอ่ะ ...ขับไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็คงถึงมั๊ง”  ผมก็หลอกมันไป   มันก็ทำหน้างงๆ  ผมเลยบอกต่อไปว่า “ถ้าพี่หลงอาร์มก็บอกทางกลับบ้านด้วยแล้วกัน”  “ฮื้อ...อาร์มก็ไม่รู้น๊ะ”เจ้าอาร์มเริ่มลุกลน  “พี่เพิ่งมาครั้งแรก  อาร์มอยู่ที่นี่ อาร์มก็ต้องบอกทางพี่ซิ” ผมเริ่มจี้ไปอีก  “อาร์มไม่รู้..อาร์มไปไม่ถูก...อาร์มมาด้วยเฉยๆ...”  เจ้าอาร์มก็ทำท่าเหมือนจะร้อง กลัวหลงทาง แล้วกลับบ้านไม่ได้  ผมเลยต้องรีบตัดบท  “พี่ล้อเล่น..พี่ไปถูกดิ..ก็เคยไปกะพ่ออาร์มมาแล้วไง  แค่นี้ทำเป็นจะร้อง”  “รู้งี้ชวนพี่อ้นมาด้วยดีกว่า”  เจ้าอาร์มบ่น  “อ่าวๆๆๆ...ไหนบอกไม่ชอบอยู่กะเขาชอบแกล้งชอบตี แล้วไหงจะชวนเขามาด้วยล่ะ”  ผมพูดแซวไป   “ก็พี่อ้นรู้ทางกลับบ้าน”   “แล้วท่าชวนพี่อ้นมา แล้วมาแกล้งอาร์มในรถนี้แบบนี้จะทำไง” พอพูดเสร็จผมก็แกล้งเจ้าอาร์ม  ตีหัวมันแบบเบาๆแต่ถี่  จี้เอวมั่ง ตีหัวมันมั่งสลับกันไป  จนเจ้าอาร์มมันโดดโถมเข้าใส่ผมจะเอาคืน  ผมบอก  “เฮ้ยๆๆ...ขับรถอยู่ห้ามแกล้งดิ เดี๋ยวรถคว่ำน๊ะ” เจ้าอาร์มเลยชงัก ไม่กล้าเอาคืนผม  แต่ทำหน้าตาเหมือนไม่พอใจเพราะโดนแกล้งอยู่ฝ่ายเดียว  
          จริงๆแล้วบนถนนนั้นไม่มีรถเลยซักคัน มีแต่รถที่ผมขับวิ่งอยู่คันเดียว  ถนนก็เป็นถนนดินลูกลัง  ก็ต้องขับช้าๆ   ผมก็ลูบหัวมัน “โอ๋ๆๆๆ......ไม่แกล้งล่ะล้อเล่นน่า”  เจ้าอาร์มันก็ยิ้ม   “เฮ้!...ยิ้มแล้ว..ไหนจับเจี๊ยวทีดิ”  แล้วผมก็เอื้อมมือไปจับเจี๊ยวเจ้าอาร์มเล่นแกล้งมันอีกรอบ  มันก็ปัดมือผมออก  แล้วเหมือนมันจะนึกอะไรขึ้นได้  “พี่น่ะแหละ...บอกว่าจะให้ดู  ถ้าอยู่ 2 คน”  “ดูไร”  ผมถาม    เจ้าน้องอาร์มรีบบอก  “เจี๊ยวพี่แหละ”   ”เฮ้ย!..ตอนไหนไม่เคยพูด”  ผมแก้ตัว  เจ้าอาร์มรีบทวงสัญญา  “ก็ตอนอาบน้ำไง...ให้อยู่ 2 คนก่อนแล้วจะให้ดู  เพราะไม่อยากให้พี่อ้นเห็น พี่พูดแบบนี้”  เจ้าอาร์มมันพูดเป็นช่องเป็นฉาก มันจำคำพูดผมได้ทุกคำพูด   “เฮ้ย...บ้าให้ดูได้ไง  ไม่ได้หรอก” ผมก็เริ่มเฉไฉ  เจ้าอาร์มมันเริ่มทำท่าเคืองๆ ที่ไม่ได้ดังใจ  มันพูดว่า  “เป็นผู้ใหญ่โกหกเด็กได้ไง”     “อะไรๆๆ อยากดูมากนักไง  ไหนบอกเคยเห็นแล้วล่ะ  แล้วจะดูทำไมอีก”  ผมถามมัน   แล้วมันก็ทำท่าบ่นงอมแงมๆๆ  “ไม่ดูก็ได้”   แล้วมันก็หันหน้าออกไปทางหน้าต่าง”  ผมก็เอื้อมมือไปเขี่ยที่กระเจี๊ยวมันอีก แล้วบอก  “เฮ้ย..งอนรึไง” 
แต่เจ้าอาร์มมันก็ไม่สนใจเอามือมันมาปัดมือผมออก  ผมก็เอามือไปเขี่ยกระเจี๊ยวมันอีก  แล้วก็ง้อมัน  “เฮ้ย.....พี่จะให้ดูได้ไงพี่ขับรถอยู่ มันไม่ถนัด  ถ้าเกิดรถเกิดชนขึ้นมาทำไงล่ะ”  เจ้าอาร์มันก็ไม่สนใจ เอาแขนท้าวหน้าต่าง มองออกไปนอกรถ  ผมเลยพูดอีกว่า  “อยากดูจริงง่ะ...ทำไมถึงอยากดูนักว๊ะ  เดี๋ยวเอาไว้พี่ให้ดูก็ได้  แต่ตอนนี้ขับรถอยู่ เอาไว้ก่อนได้ป่ะล่ะ”   ผมพูดกะมัน เจ้าอาร์มมันก็ไม่พูดอะไร  
แล้วผมก็เอามือไปเขี่ยๆที่กระเจี๊ยวมันอีก  แต่เจ้าอาร์มมันก็เอาขาหนีบกระเจี๊ยวมันไว้ไม่ให้ผมจับ  ผมก็พยายามเอามือไชๆๆ แกล้งมัน มันก็หัวเราะ  เจ้าอาร์มมันก็บอก  “จับไม่โดนหรอก ไม่มีแล้ว”    เจ้าอาร์มเอามือจับไอ้เจี๊ยวมันยัดไว้ที่หว่างขาแล้วไขว้ขาหนีบไว้  แล้วมันก็เอามือลูบๆที่หว่างขามันให้ผมดู แล้วบอกว่า “ไม่มีแล้ว กระเจี๊ยวหายไปแล้ว”   แล้วผมบอก  “ไหนดูดิ”   มันก็เปิดกางเกงให้ดู   เจ้าอาร์มมันซุกทั้งพวงไข่ไว้ใต้หว่างขา  พอมันดึงกางเกงให้ดู   ผมก็เห็นเป็นเนินสามเหลี่ยมเหมือนของเด็กผู้หญิงแต่ไม่มีรอยแยก   แต่ผมก็บอกไปว่า  “ไหนล่ะ ไม่เห็นเลย  เขยิบมาให้ดูใกล้ๆดิ”  เจ้าอาร์มมันก็ขยับมาแล้วก็ดึงกางเกงให้ดู  จังหวะที่รถโยก  ขาเจ้าอาร์มมันก็แยกจากกัน ทำให้พวงไข่ดีดผึงขึ้นมา  ผมก็แกล้งเอามือจะไปจับของมันอีก มันก็ร้องลั่น  มันรีบโดดหนีผม ไม่ให้จับ  “อ้าวเฮ้ย....ไหนบอกไม่มีแล้วล่ะ  ไหนมาขอจับหน่อยดิ๊” ผมพูดกะมันไป   “ไม่เอาหรอก...ทีพี่ยังไม่ให้ดูเลย”   ผมบอก   “จะให้ดูได้ไงล่ะพี่ขับรถอยู่   แต่อาร์มนั่งเฉยๆไม่ได้ทำไรพี่ขอดูหน่อยซิล่ะ”   เจ้าอาร์มมันบอกไม่เอาท่าเดียว   ผมก็เลยพูดทำเป็นงอนๆ   เออๆ..อีกวันสองวันนี้พี่ก็จะกลับแล้วเนี่ย  พี่ขอดูนิดดูหน่อยไม่ได้หรอ น๊ะๆๆ”  ผมก็พยายามพูดชักแม่น้ำทั้ง 5 อ้อนวอนมันอยู่ซักพักนึง   เจ้าอาร์มมันก็บอก  “ดูนิดเดียวพอน๊ะ”  ผมก็บอก   “เออๆๆ”   มันก็เปิดให้ผมดูแบบเปิดกางเกงมันดึงเข้าดึงออก ดึงๆปิดๆ   ผมก็บอก   “พี่ไม่เห็น ขับรถอยู่มองไม่ถนัด  อาร์มถอดกางเกงออกเลยดีกว่า”  ผมยุมัน   อาร์มมันก็บอก  “ไม่เอา”   ผมก็เลยบอกไปว่า   “ไม่เป็นไรหรอกน่า อยู่ในรถไม่มีใครเห็นหรอก เราอยู่กัน 2 คน  รถก็ขับอยู่ใครจะมามองล่ะ ไม่มีใครรู้หรอก”    ผมก็อ้อนวอนมันอยู่นาน  กว่ามันจะยอม   เจ้าอาร์มมันก็ถอดกางเกงออก  แล้วผมก็เอากางเกงมันมาซุกเอาไว้ตรงประตูข้างคนขับ  แล้วผมก็บอกถอดเสื้อด้วย  มันก็ทำท่าจะไม่ยอม  แต่ผมก็จับเสื้อมันดึงออกมาเลย  ตอนนี้เจ้าอาร์มอยู่ในสภาพเปลือยล่อนจ่อน  นั่งอยู่ข้างผม  แล้วผมก็บอกว่านอนลงแล้วกัน จะได้ไม่มีใครเห็น  เจ้าอาร์มมันก็กระเถิบมานอนที่ตักผม  ขาข้างนึงของมันชันเข่าพิงเบาะ ขาอีกข้างห้อยอยู่กับพื้น  เจ้าอาร์มมันก็บอกผมว่า   “ใจเต้นแรงดังตึบๆๆเลยเนี่ย”  ผมก็เอามือไปจับที่หน้าอกมัน  ( เออ..มันเต้นแรงจริงๆสงสัยเจ้าอาร์มมันคงจะตื่นเต้นที่ต้องมานอนแก้ผ้าอยู่ในรถกับผม)
  แล้วผมก็ใช้มือลูบอกลูบท้องมันวนๆ จนไปถึงกระเจี๊ยวมันที่แข็งชี้เด่อยู่  ผมก็ใช้นิ้วปั่นกระเจี๊ยวมัน  จับหนังหุ้มปลายมันรูดขึ้นรูดลง  แล้วผมก็คุยกะมัน ถามโน้นถามนี่ไปเรื่อย  ผมถามมันว่า  “นอนแก้ผ้าอย่างนี้อายไม๊เนี่ย”   มันบอก  “อายดิ”   ผมเลยบอกมัน  “อายทำไม  ทีอยู่บ้าน เห็นเดินแก้ผ้าโทงๆๆ  ไม่เห็นอายเลย  คนก็ตั้งเยอะ”   มันก็ตอบผมว่า   “ก็นั่นมันที่บ้านนี่”  มันตอบแบบเสียงอ่อยๆ  แล้วผมก็ถามมันอีก    “แล้วพี่อ้นล่ะ อยู่บ้านเดินแก้ผ้าแบบอาร์มป่ะ”    เจ้าน้องอาร์มมันตอบว่า   “ไม่อ่ะ  เคยแต่ตอนนอนในมุ้ง  พี่อ้นเค้าแก้ผ้า แล้วทำอย่างงี้ๆ”  (เจ้าอาร์มทำท่านอนชักว่าวให้ดู)   ผมก็ถามต่อ   “เราแอบดูพี่อ้นทำ  หรือพี่อ้นทำให้เราดู”   เจ้าอาร์มมันรีบตอบ   “แอบดูซิ   พี่อ้น เค้าคงไม่รู้หรอก  คงคิดว่าอาร์มหลับแล้ว”   ขณะที่ผมคุยกับน้องอาร์มผมก็จับเจี๊ยวน้องอาร์มเล่นไปด้วย  น้องอาร์มมันก็นอนเกร็งๆตัวอยู่เหมือนกัน คงจะรู้สึกเสียว ขนาดของเจ้าน้องอาร์มขนาดมันก็สมวัย ประมาณซัก 2-3 นิ้วได้มั๊ง  ตอนที่ผมจับหนังหุ้มมันรูดลง ผมพยายามดึงมันรั้งลงมา ”  เจ้าอาร์มมันก็บ่นตามสไตร์มัน ร่ายยาว  เป็นช่องเป็นฉากเป็นวักเป็นเวร พูดบ่นของมันไปเรื่อย จนผมรำคาญมันบ่น  ผมเลยต้อง  “เออๆๆๆ....พี่ให้ดูก็ได้...แต่อาร์มถอดเองน๊ะพี่มือไม่ว่าง”  เจ้าน้องอาร์มมันก็เงียบ  แล้วก็มองผม มันคงจะมองหาวิธี ว่าจะทำยังไง  เพราะผมนั่งขับรถอยู่   
เจ้าน้องอาร์มมันก็กระเถิบมานั่งใกล้ผม เริกเสื้อผมขึ้นและพยายามจะดึงขอบกางเกงผมลง  ซึ่งในวันนั้นผมใส่เป็นกางเกงลำลองขายาวขอบเอวเป็นยางยืด  แล้วก็ใส่กางเกงในด้วย  จริงๆแล้วตอนผมอยู่ที่บ้านน้องอาร์มผมก็ไม่ได้ใส่กางเกงในหรอก แต่วันนี้ต้องออกมาช่วยงานสร้างห้องน้ำ ซึ่งมีนักศึกษารุ่นน้องเยอะ มีทั้งชายและหญิง  เกิดของที่อยู่ในกางเกงเกิดชี้โด่ชี้เด่ขึ้นมามันจะน่าเกลียด เลยต้องเซฟตัวเองนิดนึง  แต่ก็ไม่นึกว่าวันนี้จะต้องออกมาซื้อของในตัวเมืองกับเจ้าน้องอาร์มแบบ  2ต่อ2  ถ้ารู้อย่างงี้ล่วงหน้าน๊ะ จะไม่ใส่เกงในและหากางเกงที่ถอดง่ายๆมาใส่แล้ว  เจ้าน้องอาร์มมันก็พยายามจะถอดกางเกงแต่ก็ไม่ถนัด  ผมก็ได้แต่นั่งยิ้มขับรถไปเรื่อยๆ  
เจ้าน้องอาร์มันก็ตัดสินใจไม่ถอดและ มันล้วงมือเข้าไปในกางเกงผมเลย  ล้วงเข้าไปก็ไม่เจออะไรอีก เพราะยังมีด่านของกางเกงในอยู่  เจ้าน้องอาร์มมันก็เริ่มฟึดฟัด ไม่พอใจ ชักมือออก  ผมเลยถาม “อ้าว...พอแล้วหรอ...ไวจัง”   น้องอาร์มมันก็บ่น  “ไม่ไหวแล้ว...ถอดยากอ่ะ”   ผมเลยสงสารเจ้าน้องอาร์ม รู้สึกว่ามันอยากจะจับของผมซะเหลือเกิน  (ไม่รู้เป็นแบบนี้ทุกคนรึป่าวพวกเด็กๆวัย 10 ขวบเนี่ย  )  
ตอนนั้นผมเลยล้วงเข้าไปในกางเกง  งัดเอา ไอ้สิ่งที่น้องอาร์มอยากจับที่นอนโค้งคว่ำอยู่ในกางเกงในให้หงายแหงนขึ้นมา  แล้วผมก็จับมือน้องอาร์มให้ล้วงเข้าไปใหม่  พอน้องอาร์มล้วงมือเข้าไปก็สดุ้งที่ล้วงเข้าไปเจอปอยขนก่อนเจอเอ็น  มันก็เริ่มบีบๆกำๆ จนของผมเริ่มแข็งตัว  พอมันแข็งตัวเจ้าน้องอาร์มยิ่งสนุกมือ  เริ่มบีบกำจับแรงขึ้น จนผมทนไม่ไหว  ที่ไม่ไหวนี่ไม่ใช่เพราะน้ำจะแตกหรอกน๊ะ  

แต่จริงๆแล้วที่ไม่ไหวนี่เพราะเจ้าน้องอาร์มมันกำบีบเอ็นผม นี่มันทั้งดึงทั้งรั้งขนที่อยู่ในกางเกงผมด้วยจนมันทั้งเจ็บทั้งแสบ  ผมเลยต้องบอกให้น้องอาร์มมันหยุดก่อน  ผมบอกไม่ไหวแล้วเจ็บ  จากนั้นผมก็หยุดรถ แล้วถอดกางเกงออกเลย  พอน้องอาร์มเห็นผมถอดกางเกงมันก็ทำตาลุกวาว  แล้วจะยื่นมือมาจักอีก  ผมบอก   “หยุดก่อนเลย  ถอดเสื้อกะกางเกงออกก่อน  มาเลย...มาถอดด้วยกัน”  ผมเลยต้องจับเจ้าน้องอาร์มถอดเสื้ออีกครั้ง  แล้วเจ้าน้องอาร์มก็ถอดกางเกงของมันเองอย่างว่าง่าย  

จากนั้นผมก็ออกรถขับต่อไป  ตอนนี้เจ้าท่อนเอ็นของผมก็ลุกชูชันอย่างเต็มที่  เจ้าอาร์มก็เอามือมาจับของผมแบบเต็มไม้เต็มมือ ดูมันพอใจมากเหมือนเด็กที่ได้ของเล่นใหม่   ผมเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า เจ้าน้องอาร์มมันเพิ่งเคยได้เห็นแบบชัดๆได้จับ`จู๋`แบบตัวเป็นๆ ครั้งนี้ครั้งแรกหรือป่าว ในตอนนั้นผมเองก็ไม่ได้นึกที่จะถามมัน  แต่ดูท่าทางมันแล้วมันพอใจมากที่มันได้บีบได้จับของผมอย่างมันส์มือ  เจ้าน้องอาร์มมันก็ได้แต่บีบๆ จับพลิกไปพลิกมา   ผมชักรำคาญเลยต้องสอนมัน ให้มันจับของผมแบบหลวมๆ ชักขึ้นชักลง  แต่ดูเหมือนมันจะไม่ค่อยถนัด  มันทั้งฝืดและเหนียว  เพราะเหงื่อมันออก  รูดขึ้นลงไม่ค่อยคล่องมือ  ผมเลยบอกน้องอาร์มว่า  “น้องอาร์ม...ใช้ลิ้นเลียดิ๊ ”  มันก็บอก  “เลียทำไมอ่ะ”   “ก็เลียเหมือนกินไอติมอ่ะ  เลียแล้วก็อมๆดูดๆ ซิ๊ ”  ผมก็จับหัวมันกดๆลงไป  มันก็มีขืนๆบ้างแต่ไม่มาก แต่ในใจผมคิดว่ามันก็คงอยากลองเหมือนกันแหละ  เจ้าน้องอาร์มมันก็เลยก้มลงมาใช้ลิ้นเลีย  เลียแรกของน้องอาร์มนี่มันทำให้ผมขนลุกซู่  (เพื่อนๆเคยโดนแมวเลียมือม๊ะ ลิ้นแมวมันจะสากๆ เวลามันเลียนี่จะจั๊กกะจี้มากๆ)  ลิ้นเจ้าน้องอาร์มมันสากเหมือนลิ้นแมวเลย  เวลามันเลยที่หัวดอผมน๊ะ มันเสียวแปล๊บไปถึงสันหลัง แล้วก็วิ่งปลี๊ดไปถึงกึ๋น มันเสียวหัวแบบอธิบายไม่ถูกจริงๆ  แล้วเจ้าน้องอาร์มมันก็เลียแบบ...เหมือนแมวเลียจริงๆ   มันเลียแผลบๆ   และผมก็เสียวหัวดอทุกแผลบ ที่มันเลีย  จนตัวผมงี้เกร็ง จนไม่เป็นอันจะขับรถ   ดีน๊ะถนนเส้นนี้ไม่ค่อยจะมีรถวิ่ง   ถ้าเจ้าน้องอาร์มมาทำกับผมแบบนี้บนถนนในกรุงเทพฯ  ผมคงขับรถชนฉิบหายวายป่วงไปแล้ว  
จนเห็นหัวเห็ดที่ซ่อนอยู่ข้างใน มันรูดลงมาได้ไม่มากเท่าไหร่แต่ก็พอที่จะเห็นปลายรูฉี่ รูดลงมาได้ซัก 1ใน 3 ของส่วนหัวมันได้มั๊ง กลัวมันเจ็บ  ผมเอาน้ำลายแตะที่ปลายนี้วแล้วก็ไปเขี่ย วนๆที่ส่วนปลายมัน พอเราเลิกคุยเจ้าอาร์มมันก็เงียบ แต่ผมก็ยังจับกระเจี๊ยวมันชักว่าวรูดขึ้นรูดลง   เจ้าอาร์มหลับตาแล้วร้อง ซีดดด...เบาๆ  แล้วแอ่นก้นกระดกขึ้น  แล้วเจ้าอาร์มก็หยิบเสื้อที่ถอดไว้มาปิดหน้า  สงสัยว่าแสงแดดจากหน้าต่างรถมันจะแยงตา  ผมก็เลยจับเจ้าอาร์มชักว่าวต่อ  ผมสังเกตเห็นเจ้าอาร์มมันเกร็งเท้าแล้วก็แขมวท้องเป็นระยะๆ  คงเกิดจากความเสียว  แล้วก็มีเสียง  ซีดดดด....โอ่ออ...เบาๆในคอจากน้องอาร์ม น้องอาร์มเริ่มหายใจแรง ซักพักเดียว เจ้าน้องอาร์ม ก็เกร็งตัวสดุ้ง บิดตัวพลิกหนีมือที่ผมจับมันชักว่าวอยู่  แทบจะตกเบาะ  แล้วมันก็ดึงเสื้อที่ปิดหน้ามันอยู่ออก  แล้วมองหน้าผม แล้วหายใจหอบเล็กน้อย ผมเลยถามมันเป็นไงมั่ง  มันบอกมาแค่คำเดียวว่า  “เหนื่อย”   แล้วผมก็เอื้อมไปจับกระเจี๊ยวมันอีกที  เจ้าอาร์มมันพยายามจะดึงมือผมออกไม่ให้จับ  มันบอก “ไม่เอาแล้วอ่ะ..มันเสียวอ่ะ”  ผมเลยบอก  “ไม่ทำอะไรแล้วขอดูเฉยๆ”   ผมก็จับกระเจี๊ยวมันที่เริ่มอ่อนตัวลงแล้ว  แล้วจับรูดหนังหุ้มปลายลง  ผมก็เห็นมีน้ำใสๆพอแฉะๆที่ปลายกระเจี๊ยวเจ้าน้องอาร์มนิดหน่อย  ก็รู้ได้ทันที่ว่า เจ้าน้องอาร์มได้บรรลุถึงขั้นสุดยอด  ของการสำเร็จความใคร่ด้วยมือของข้าพเจ้าเองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  ไอ้ตัวผมเองก็อยากจะก้มลงใช้ปากดูดเลียน้ำแรกของเจ้าน้องอาร์มนี้ จริงๆ มันคงจะหวานชื่นใจน่าดู แต่ก็ไม่สามารถ  เจ้าอาร์มมันก็ลุกขึ้นนั่ง   แล้วก็ทำท่าหายใจเข้าปอดแบบลึกๆ แล้วก็ปล่อยออกมาดัง  เฮ้อ...   ผมเลยถาม “เป็นไง  มันส์ม๊ะ .... ชอบไม๊แบบนี้อ่ะ”  มันก็หันมายิ้มแบบเขิลๆ  แล้วก็เอามือบี้ที่กระเจี๊ยวมัน  มันบอกว่า  “มันเสียวๆ แล้วก็เจ็บที่ตรงปลายเนี่ย”   ผมเลยบอก  “เออเดี๋ยวก็หาย  แล้วอย่าแอบไปทำเองล่ะ”  แล้วผมก็หัวเราะ   ผมก็เลยบอกกับเจ้าอาร์มมันว่าเดี๋ยวทำให้พี่บ้างน๊ะ  เจ้าอาร์มมันก็มองหน้าผม  “ให้ทำอะไรอ่ะ”   ผมเลยบอก  “ก็ทำอย่างที่พี่ทำให้เมื่อกี้ไง”   เจ้าน้องอาร์มมันก็มองหน้าผมแล้วก็มองที่เป้าผม  เดี๋ยวก่อนยังไม่ใช่ตอนนี้เดี๋ยวเอาไว้ตอนขากลับ  
พอขับรถต่อไปได้ซักเจ้าน้องอาร์มมันก็บอกปวดฉี่  ผมก็เลยจอดให้ข้างทาง  เจ้าน้องอาร์มไม่ยอมลง  บอกผมขอกางเกงใส่หน่อย  ผมเลยบอกไปว่า  “ไม่ต้องใส่หรอก  ลงไปฉี่ข้างรถ ไม่มีใครเห็นหรอก”  เจ้าน้องอาร์มก็ทำเป็น เก้ๆกังๆ ไม่กล้าลงออกไปจากรถ แบบแก้ผ้าล่อนจ่อน  ผมเลยยุส่งไปอีก  “ลงไปเลย  ไม่มีคนแล้ว”  เจ้าอาร์มก็ลงไปข้างรถ ไปยืนฉี่อยู่ริมถนน   พอเจ้าน้องอาร์มยืนฉี่อยู่ ผมก็ค่อยๆเลื่อนรถหนีเดินหน้าไปประมาณ 4-5เมตร  ไอ้เจ้าน้องอาร์มมันก็ร้อง “ เฮ้ย..”    จะวิ่งตามรถมาก็ไม่ได้ เพราะยังฉี่ไม่เสร็จ ผมมองจากกระจกหลัง  เห็นเจ้าอาร์มมันมองซ้ายมองขวา ว่ามีคนเห็นมันไม๊  พอมันฉี่เสร็จ มันก็รีบวิ่งตามรถมา   ผมก็ค่อยๆเลื่อนรถหนีอีก แต่แบบช้าๆ เจ้าอาร์มมันก็รีบวิ่งตามรถ  ผมนึกขำเมื่อเห็นชีเปลือยล่อนจ่อนวิ่งตามรถอยู่กลางถนน  แล้วผมก็จอดให้น้องอาร์มเข้ามาในรถ
พอเข้ามาในรถได้น้องอาร์มก็โวยวายผมใหญ่ ว่าแกล้งอาร์มทำไม แล้วก็ตีที่ไหล่ผม  ผมก็ได้แต่ขำขับรถเข้าเมืองต่อ  พอใกล้ถึงตัวเมืองผมก็เอาเสื้อผ้าให้น้องอาร์มใส่  
พอมาถึงตัวเมืองเราก็ไปที่ร้านวัสดุก่อสร้าง  ซื้อปูนแล้วก็ทราย ก็ซื้อมาไม่มากหรอกเพราะช่างบอกว่าขาดเหลืออีกนิดหน่อยเอง   แล้วเราก็แวะหาอะไรกินกัน  เดินเล่นดูของกันในตัวเมืองซักพักเราก็กลับ   พอขึ้นรถและขับรถออกมาจากตัวเมืองเพื่อเดินทางกลับบ้าน เจ้าน้องอาร์ม ก็เริ่มอ้อนเลย “ อิ่มอ่ะ...ง่วงนอนแล้วด้วย”  เจ้าน้องอาร์มมันก็เริ่มทำตัวบิดขี้เกียดไปมา  แล้วบอก  “ขอนอนได้ไม๊เนี่ย”  ผมเลยบอก   “ได้...ง่วงก็นอนดิ”   เจ้าน้องอาร์มก็โน้นตัวจะลงมานอนที่ตักผม  ผมเลยบอกว่า  “จะนอนต้องถอดเสื้อผ้าก่อน   น้องอาร์มมันก็โวย  “โหย.....ถอดอีกแล้วหรอ...ม่ายเอาแล่ว...!!!”  ผมเลยบอก   “ไม่ถอดก็ดี...ว่าขากลับเนี่ยจะถอดเป็นเพื่อนซะหน่อย”   น้องอาร์มมันก็บ่น  “ตอนมาอาร์มก็ถอดแล้วอ่ะ  ตอนกลับพี่ก็ถอดดิ  ขี้โกงอ่ะ  ไหนบอกตอนกลับจะให้ดูไง”
แล้วน้องอาร์มมันก็เงยหัวขึ้นมามองทำปากแจ๊บๆ   แล้วบ่นว่า   “ทำไมมันเค็มๆ”   ผมก็ยิ้มแบบขำๆ   “ก็ก่อนที่เอ็งจะอมเหงื่อมันออกนี่หว่า   ไอติมแท่งนี้รสชาดงี้แหละ  อมๆไปเหอะ”  แล้วผมก็จับหัวน้องอาร์มให้ก้มลงไปอมอีก  พออมได้ซักพักผมรู้สึกแท่งเอ็นของผมเริ่มชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำลายน้องอาร์ม   แล้วผมก็เริ่มเสียวสุดๆแล้ว  ผมเลยบอกให้น้องอาร์มว่า  “อย่าอมอย่างเดียวใช้มือรูดด้วย”   ผมเสียวจนก้นไม่ติดเบาะ  ด้วยความที่เสียวสุดๆผมเผลอ กดหัวน้องอาร์มลงไป  น้องอาร์มกระเด่งหัวขึ้นมาทำท่าจะอ้วก ร้อง  “อ๊อก”   แล้วหันไปถุยน้ำลายออกนอกหน้าต่าง  แล้วหันมาหน้าแดงกล่ำบ่นผมอีก  “อย่ากดหัวดิ  มันทิ่มคอเลยเนี่ย จะอ้วกอ่ะ ไม่เอาแล่ว!!..”  (แสดงว่าดอขอผมยาวมาก ถ้ากดหัวเจ้าอาร์มลงไปอีกหน่อย มันคงทิ่มปอดมันแน่ๆ...  555..)   ผมเลยต้องรีบขอโทษ   มันจะเลิกกลางคันอย่างงี้ได้ไง อารมณ์ก็ค้างอ่ะดิ   ผมเลยต้องรีบขอร้องมันให้อมให้ผมต่อ  ผมเลยต้องง้อมันให้ทำให้ผมต่อ  “อมแค่ตรงส่วนหัวก็ได้  แล้วใช้มือรูดเอา  พี่ใกล้จะเสร็จแล้วอีกแป๊บเดียว”  เจ้าน้องอาร์มมันก็ถามผมอีก  “เสร็จอะไรอ่ะ” ไม่ร้มันจะถามอะไรนักหนา  ผมเลยต้องรีบบอกปัดๆมันไป “ เออน่า..ทำต่อเร็ว”   เจ้าน้องอาร์มมันก็เลยก้มลงมาทำให้ผมต่อ  ทั้งเลียทั้งอมทั้งชักในคราเดียว  มันช่างเป็นความเสียวแป๊ดที่เกินห้ามใจจริงๆ   จนในที่สุดผมก็พุ่งน้ำว่าวเข้าเต็มปากน้องอาร์ม 

แต่ที่ไหนได้เจ้าน้องอาร์มมันทะลึ่งพลวดขึ้นมา  บ้วนน้ำว่าวออกมาเต็มหน้าขาผมเลย  และที่เหลือก็ยังพุ่งมาไม่หมด  ก็พุ่งเข้าหน้าเจ้าน้องอาร์มมันด้วย  จนผมต้องเบรครถเลี้ยวเข้าข้างทางอีกรอบนึง  เจ้าน้องอาร์มมันร้องบ่นผมอีกแล้ว  “น้ำอะไรอ่ะ เหม็นคาวมากเลยอ่ะ”    ผมเลยบ่นมันไปบ้าง  “อะไรนักหนาเนี่ย  กินเข้าไปเหอะ มันเป็นโปรตีน กินได้  แล้วบ้วนออกมาทำไมเนี่ย เลอะไปหมดเลยเนี่ย  เห็นไม๊ โอ้โหยยย...”   แทนที่น้องอาร์มมันจะโวยผมต่อ  มันกลับหัวเราะกับสิ่งที่มันเห็นถึงความเลอะเทอะที่เกิดขึ้นและอีกอย่างที่มันเห็น มันชี้บอกว่า  “กระเจี๊ยวเหี่ยวแล้ว” ผมเลยยิ่งงงกับมันจริงๆ ไอ้เด็กเวรนี่   (ผมนึกในใจ...กูกะลังโวยมึงอยู่น๊ะเนี่ย...ดันมาขำเห็นกระเจี๊ยวกูหดอีก....)   ผมเลยต้องออกจากรถมาล้างตัว  ผมต้องมองซ้ายมองขวาเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครแถวนั้น  ผมต้องมายืนข้างประตูรถเพื่อล้างคราบน้ำว่าวที่เลอะเทอะขาผม แล้วเอาทิชชู่มาเช็ดให้แห้ง  

ทำไมมันช่างเป็นวิบากกรรมของการสำเร็จความใคร่ที่ทุลักทุเลมากที่สุดที่ผมเคยประสพมา   เจ้าน้องอาร์มมันก็ บ้วนปาก แล้วก็เอาทิชชูชุบน้ำเช็ดหน้ามันที่มีคราบน้ำว่าวพุ่งใส่ หน้ามัน  กว่าจะขับรถไปกันต่อได้ก็ใช้เวลาอยู่พักนึง  พอเราเริ่มขับรถออกมา มันก็ถามผมว่า มันคือน้ำอะไร  ผมก็เลยอธิบายให้มันฟังแบบพอเข้าใจว่า เวลาทำให้กระเจี๊ยวเสียวแบบสุดๆแล้วเนี่ยมันจะมีน้ำไหลออกมา เด็กก็น้อยหน่อย ผู้ใหญ่ก็เยอะนิดนึง เจ้าน้องอาร์มมันก็ยังทำหน้างง ๆ  ผมเลยบอก  “เออน่า..เดี๋ยวโตไปก็รู้เองแหละ”  พอเจ้าน้องอาร์มมันอ้าปากจะถามอีก  ผมก็บอกไม่ต้องถามแล้ว จะถึงบ้านแล้วเอาเสื้อผ้ามาใส่ก่อน  ผมก็กำชับเจ้าน้องอาร์มว่าเรื่องนี้ห้ามเล่าให้ใครฟังน๊ะ รู้ป่าว  เจ้าน้องอาร์มมันก็พยักหน้ารับ

จากนั้นเราก็กลับกันมาถึงที่โรงเรียน ก็เที่ยงกว่าๆแล้ว  น้าชูก็อยู่ที่โรงเรียนด้วย  เข้ามาหาผมแล้วบอกว่า  “ไม่รู้ว่าจะไปซื้อของกัน  ฉันไปบ้านพวก..ตรงนี้เอง กลับมาก็ไปกันแล้ว”  ผมเลยบอกว่า  “ไม่เป็นไรหรอกครับ  แต่มันร้อนมากเลย ขอกลับไปที่บ้านอาบน้ำอีกซักรอบได้ไม๊เนี่ย ”  จริงๆแล้วผมอยากล้างคราบน้ำว่าวที่มันรู้สึกเหนียวๆที่หว่างขาผมมากกว่า   น้าชูเลยรีบบอก   “เออๆๆๆ....ไปเหอะๆเดี๋ยวตรงนี้น้าจัดการเอง”  ตอนนั้นเจ้าน้องอาร์มวิ่งไปหาแม่มันแล้ว  พอผมเห็นมันก็เลยกวักมือเรียก  เจ้าน้องอาร์มก็วิ่งปลู๊ดมาหาผมทันที  แล้วถามผมว่า “พี่...จะไปไหนหรอ”  ผมบอกมันกลับบ้านไปอาบน้ำ   ไปป่ะล่ะ”  มันตอบผมคำเดียว “ ไป ”  แล้วก็จับมือผมจูงมือเดินกลับบ้านกัน
พอผมกลับมาถึงบ้านก็เห็นเจ้าอ้นอยู่ที่ใต้ถุนบ้าน กำลังนั่งง้วนทำอะไรอยู่กับแหไม่รู้  ไอ้ที่เขาไว้จับปลาอ่ะ  พอมาถึงผมก็เข้าไปในห้องน้ำทำความสะอาดคราบอีกรอบนึง  พอออกมาเจ้าอ้นก็กำลังจะไปจับปลาผมเลยขอไปด้วย  โดยมีเจ้าน้องอาร์มตามไปด้วยอีกคนนึง  พอรู้ว่าผมจะไปด้วยเจ้าอ้นก็วิ่งเข้าไปในบ้านไปเอาอะไรไม่รู้  จากนั้นพวกเราก็เดินเลาะมาทางชายคลอง หลังบ้าน  แล้วก็นั่งเรือ พายเรือออกมากัน  โดยส่วนตัวแล้วผมพายเรือไม่เป็น  และนี่ก็แป็นอีกประสพการณ์หนึ่งที่ผมได้นั่งเรือพาย  ระหว่างที่พายเรือ ทั้งสองฝั่งคลอง ก็จะมีบ้านคนเป็นระยะๆ  และผมก็ได้เห็นวิถีชาวบ้านของชาวบ้านที่อยู่ริมคลอง  เห็นผู้หญิงนุ่งผ้าถุงกระโจมอกอาบน้ำให้ลูกอยู้ริมคลอง  เห็นคนแก่นั่งดื่มชาอยู่ที่ศาลาท่าน้ำ  เวลาที่มองออกไปแล้วมันเหมือนบรรยากาศของภาพวาดวิถีชีวิต  มันรู้สึดตื้นตันที่ได้เห็นบรรยากาศแบบนี้  

แล้วเราก็พายเรือมาถึงที่หมาย  แล้วเราก็เดินขึ้นฝั่งเจ้าอ้นผูกเรือไว้  ส่วนตัวผมเองก็ไม่รู้ว่ามันคือที่ไหน  มองออกไปมันเป็นทุ่งนากว้างสุดลูกหูลูกตา  มีฝูงวัว และคนกำลังทำนาอยู่ไกลๆ มันเป็นภาพวิวที่สวย ผมอยากถ่ายรูปเก็บเอาไว้มากเลย  (แต่ผมไม่มีกล้อง แค่นึกอยากถ่ายเฉยๆ)  พอเดินมาอีกหน่อย  ก็มาเจอบ่อน้ำ  แต่ผมว่าไม่น่าเรียกบ่อเพราะมันกว้างพอสมควร  คือมันกว้างใหญ่กว่าที่จะเรียกบ่อ  แต่มันก็ยังไม่ใหญ่มากพอที่จะเรียกบึง    (เพื่อนๆก็ไปนึกเอาเองว่าเรียกอะไรดี  แล้วส่งคำตอบใส่ซองจดหมายติดแสตมป์ เขียนชื่อที่อยู่แล้วส่งมาที่   ตู้ ปณ. !....! ชักเลอะและ ข้ามดีก่า  )

เจ้าอ้นมันจะมาทอดแหที่นี่  มันบอกปลาเยอะ  โดยรอบบ่อมันก็จะมีกกขึ้นเยอะ  และมีต้นไม้ชนิดนึงที่ผมเพิ่งเคยเห็น มันอยู่ริมบ่อน้ำ มันคือต้นลูกว่า  ที่ลูกมันจะออกดำๆ เนื้อมันจะออกขาวๆแต่น้ำมันสีม่วง รสชาดหวานปะแล่มๆ แล้วเวลาเอามาคลุกกะเกลือแล้วกินอร่อยมาก เป็นเมนูแนะนำ ถัดออกไปก็จะมีต้นมะขาม  มีทั้งมะขามเทศ  และก็มีมะขามอีกอย่างนึงฝักมันเหมือนมะขามหวานแต่เล็กกว่าที่เขาเอามาทำมะขามเปียกอ่ะ มีเด็กประมาณ   4-5 อยู่ใต้ต้น เจ้าน้องอาร์มไม่ฟังเสียงอะไรทั้งนั้นมันรีบวิ่งไปหาแล้วเอาไม้สอยเลย  
มันคงจะรู้จักกัน เพราะท่าทางน่าจะวัยเดียวกัน  แต่เด็กพวกนั้นนี่ดิ บางคนแก้ผ้าอยู่และบางคนก็ใส่เกงในตัวเดียว  ดูสภาพแล้วพวกนี้มันคงจะมาเล่นน้ำกันที่นี่ ผมเลยต้องเข้าไปช่วย และร่วมกิจกรรม การสอยมะขามกะพวกเด็กๆ สอยไปก็เหล่มองกระเจี๊ยวเด็กไป  เด็กพวกนี้มันก็เป็นมิตรดีน๊ะ  ดูไม่กลัวคนแปลกหน้า  แถมมันยังยื่มไม้ให้ผมช่วยสอยอีกต่างหาก  เด็กบางคนมันสอยไม่ถึงผมก็ทำเป็นอุ้มมัน โดยมือผมไปกุ้มที่กระเจี๊ยวมัน  ไอ้เด็กคนนั้มันก็ดิ้นลง แล้วก็มองหน้าผม ผมก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้  

พอเราสอยมะขาม และเก็บลูกว่ามากินกัน  ก็เดินกลับมาหาเจ้าอ้นซึ่งกำลังทอดแหอยู่ริมบ่อ  พวกเราใช้เวลาหาปลาอยู่กันพอสมควร  ก็กลับ  ที่ได้มามีทั้งปลากระดี่  ปลาสลิด ปลาหมอ  และก็มีปลาช่อนด้วย  พวกเรากลับมากันก็ประมาณ บ่าย 3โมงกว่าๆเห็นจะได้  เมื่อมาถึงผมเลยต้องเดินกลับไปที่โรงเรียน  ตอนนี้ห้องน้ำทั้ง 2 หลังเสร็จไปประมาณ 90% ได้แล้ว  เหลือทาสีซ้ำและจัดภูมิทัศน์บริเวณโดยรอบ  ไอ้ชาติ เพื่อนผม ประธานโครงการ เดินเข้ามาหาผม  ถามผมว่า “เฮ้ย..ได้ข่าววันนี้ฉายเดียว ไปซื้อของในเมืองคนเดียวเลยหรอว่ะ”  ผมเลยบอกว่า “เออ..ไม่มีปัญหาอะไรหรอกสบายอยู่แล้ว”  ไอ้ชาติมันก็ตบไหล่ผม  “เออ..เหนื่อยหน่อยน๊ะ ขอบใจมาก”  ผมก็ได้แต่ยิ้ม  บอก “อืม...ไม่เป็นไร”  แต่ในใจคิด  (เหนี่อยที่ไหนล่ะ มีความสุขต่างหาก) 
เย็นวันนั้นพวกผมและนักศึกษาก็ช่วยกันเคลียพื้นที่บริเวณโดยรอบห้องน้ำ  เก็บเศษหินเศษปูน เศษวัสดุ  เพื่อเตรียมพร้อมในวันพรุ่งนี้จะเอาต้นไม้มาลงเพื่อประดับ ให้ดูสวยงามเป็นงานสุดท้ายก่อนจะส่งงาน  เสร็จสิ้นโครงการค่ายอาสาพัฒนา  

จากนั้นพวกเราก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน ตามอัธยาสัยแล้วค่อยมาลุยต่อในวันพรุ่งนี้  ผมและครอบครัวน้องอาร์ม ก็เดินกลับมาที่บ้านพร้องกัน  พี่สมรก็เข้าไปในครัวเพื่อทำกับข้าว  ส่วนเจ้าอ้นก็ทำปลาขอดเกล็ดควักใส้เตรียมให้พี่สมรทำกับข้าว  ผมกะน้องอาร์มก็เดินมาที่ศาลาชายคลอง มานั่งตากลมกัน  ซักพักเจ้าอ้นก็เดินตามมาแล้วถามผมว่า  “พี่ เคยกินเม็มะม่วงหิมพานขั้วไม๊..ผมจะคั่วให้” ผมเลยบอกไปว่า  “เคยกินที่เขาทำมาสำเร็จรูปแล้วแต่ยังไม่เคยกินแบบคั่วสดๆ  ดังนั้นผมกะเจ้าอ้นและน้องอารมก็เดินไปเก็บเม็ดมะม่วงหิมพานที่ใต้ต้น  เอาแต่ลูกที่ล่วงๆ  เอามาแต่เม็ดมัน  ส่วนผลมันก็ทิ้งไว้ที่ใต้ต้นนั่นแหละ ลูกที่ล่วงหมายถึงมันแก่แล้ว ส่วนที่ต้นนั้นมันยังอ่อนอยู่กินไม่ได้  กว่าจะได้กินกรรมวิธีมันยุ่งยากพอสมควร คือ เอาเม็ดที่เราเก็บกันมาได้นี่ประมาณ 50 เม็ด  ใส่หม้อ หม้อนี่ก็ไม่ธรมดา  คือใช้เป็นหม้อที่รั่วแล้วนำมาเจาะรูเพิ่ม เกือบ 10 รู  และสภาพหม้อนี่คราบดำเกาะติดหนามาก    และเราก็ก่อฟืนกัน และก็เอาหม้อที่ใส่เม็ดมะม่วงนั้นไปคั่ว  มีน้ำมันออกมาจาเม็ดมะม่วงเยอะมากและมันก็ติดไฟด้วยไฟลุกท่วมเม็ดมะม่วงเลย มิน่าล่ะถึงต้องเจาะรูที่ก้นหม้อ  ไอ้คราบดำที่ว่านี่ก็มาจากน้ำมันที่ออกมาจากเม็ดมะม่วง  เราคั่วกันจนเปลือกเม็ดมะม่วงไหม้เกรียมต้องคั่วจะกว่าน้ำมันจะหมด ไม่งั้นน้ำมันจะกัดปากเวลากิน  ยังไม่เสร็จแค่นั้น เรายังจะต้องหาอะไรมาทุบกระเทาะเปลือกเม็ดมะม่วงมันอีก ทุบไม่ดีเม็ดแตก ก็ไม่น่ากิน  สรุปว่าไปหาซื้อกินน่าแหละดีแล้ว

ค่ำวันนั้นหลังจากกินข้าวกันเสร็จแล้วเราก็เข้านอนกัน  โดยคืนนี้ไม่มีกิจกรรมอะไรกันภายในมุ่ง เพราะมันผ่านกันมาอย่างโชคโชนแล้วในตอนกลางวัน  ก็ได้แต่นอนกอดกัน  ก่ายกันไป ........!!!!หลับปุ๋ย....

ไม่มีความคิดเห็น:

เด็กหอ 8 CP

มื่อกานต์เก็บของจากห้องตัวเองเสร็จ จึงมาหาอาจารย์ภัทรที่ห้อง ส่วนภัทรอาบน้ำทำความสะอาดเนื้อตัวเรียบร้อย ควยของภัทรแข็งรอกานต์อยู่นานแล้ว &...