วันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ทุ่งกาม12

โรงเรียนทุ่งทองวิทยาเป็นโรงเรียนมัธยมประจำอำเภอขนาดกลาง นักเรียนส่วนใหญ่มีบ้านอยู่ในตัวอำเภอ แต่กว่าครึ่งต้องนั่งรถสองแถวจากต่างหมู่บ้านเข้ามาในตัวอำเภอ บอลชอบช่วงเช้าระหว่างรอรถมากที่สุด เพราะเป็นตอนที่ก้านจะมาพูดคุยเล่นหัวกับเขา แต่พอรถออก ก้านก็จะไล่เขาไปนั่งข้างใน ส่วนตัวเองกลับยืนโหนท้ายรถสบายใจเฉิบ บอลมารอรถแต่เช้าตรู่อย่างเคย แต่ที่น่าแปลกคือก้านก็มายืนคอยรถอยู่ก่อนแล้ว

“อ้าว ทำไมวันนี้มาเช้าล่ะพี่..”

“อ้าว..ไอ้นี่ แล้วกูจะมาเช้าบ้างไม่ได้หรือไง?” ก้านย้อน เขายกมือไหว้ก๋งที่มาส่งบอลแต่เช้า ปรกติก้านไม่ใช่เด็กมือไม้อ่อนอะไร นอกจากหลวงตาที่วัดก็มีผู้ใหญ่ไม่กี่คนในหมู่บ้านที่ก้านยกมือไหว้..


“บอล..ก๋งไปละนะ ตั้งใจเรียน อย่าเกเรล่ะ”

ชายชราบอกหลานชายด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น เขาเงยหน้าขึ้นมามองก้าน ชั่งใจอยู่ครู่ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเนิบๆ 


“วันไหนเลิกเรียนแล้วถ้าเอ็งว่างๆให้แวะมาที่ร้าน เผื่อมีงานอะไรที่ก๋งจะให้เอ็งช่วย แล้วเดี๋ยวก๋งให้ค่าแรง..”

ก้านพึมพำขอบคุณอยู่ในลำคอ เขารอกระทั่งชายชราล่ำลาบอลเสร็จค่อยก้มหน้าไปกระซิบกับบอล..


“วันนี้ตอนพักเที่ยงกินข้าวเสร็จแล้วมึงมาหากูที่หลังโรงยิมหน่อยนะ..”

บอลเลิกคิ้ว ตาตี่ๆมองก้านอย่างประหลาดใจ ที่โรงเรียนก้านไม่ค่อยมาสุงสิงกับเขาเท่าไหร่นัก ส่วนใหญ่ก็ไปกลับกลุ่มเพื่อนม.ปลายด้วยกันหรือไม่ก็ไปขลุกอยู่กับแวว ส่วนบอลยังอยู่ม.ต้น หมดเวลาส่วนใหญ่ไปกับการเตะบอลตอนพักเที่ยง ไม่ก็เล่นแผลงๆกับเพื่อนตามประสาเด็ก 


“มีอะไรหรือพี่ก้าน..”


“กูบอกให้มาก็มาเถอะน่า..” ก้านตัดบท “แล้วลำไยที่กูให้มึงไปกินหมดหรือยัง อร่อยไหม..”

“อร่อยดีพี่..เอาไปกินที่โรงเรียน เพื่อนแย่งกินเต็มเลย..”


รถสองแถวยังมาไม่ถึง แต่นักเรียนที่มารอรถเริ่มหนาตา ก้านจ้องแก้มขาวๆกลางกระไอแดด เขาดึงเป้บอลให้อีกฝ่ายเดินอ้อมมายืนอีกฝั่งหนึ่ง เพื่อให้เงาเขาทอดไปบังแสงแดดที่สาดบนแก้มเนียนๆ เขาไม่อยากให้มันคล้ำเป็นเหนี่ยงเหมือนเขา


“แล้วก๋งมึงจะให้ไปช่วยงานอะไรที่ร้าน”


“ไม่รู้สิเห็นบ่นๆว่าพี่สมขี้เกียจ ให้ไปช่วยจัดของมั้ง ก๋งยกของไม่ค่อยไหว ผมก็เตี้ยด้วย จัดของสูงๆไม่ค่อยถึง..”


ก้านเอามือลูบหัวกลมๆเกรียนๆเล่น ปีนี้มันโตขึ้นมาก แต่ก็ยังสูงพ้นไหล่เขาขึ้นมาแค่นิดเดียวอ

รถสองแล่นเข้ามาจอด เด็กหลายคนที่รออยู่ก่อนเตรียมจะกรูขึ้นรถ แต่พอก้านเหวี่ยงตัวขึ้นเกาะท้ายรถ เขาดึงแขนให้บอลกระโดดขึ้นรถตามมาติดๆแล้วรุนหลังเป็นเชิงไล่ให้เข้าไปนั่งข้างใน อีกไม่กี่อึดใจเด็กๆก็รุมเบียดกันเข้าไปแย่งที่กันในรถ ยกเว้นเด็กผู้ชายตัวโตๆที่มีนิสัยผาดโผนจะชอบยืนโหนอยู่ตรงท้ายรถอย่างก้าน สองแฝดวิ่งกระหืดกระหอบตะโกนเรียกก้านมาแต่ไกล


“เดี๋ยวก่อนไอ้ก้าน..บอกรถจอดรอกูด้วยโว้ย..”

ทว่ารถเริ่มออกตัวช้าๆ โต้งถึงก่อนน้องชาย เขากระโดดขึ้นท้ายรถก่อนจะโหนเสาไว้ได้ทัน ต๋องกระโดดตามไปติดๆ หน้าตาเลิ่กลัก..


“มึงสองคนนี่จะวิ่งตามรถทุกเช้าเลยหรือไง” ก้านถาม ขนาดว่าเขาเป็นคนมาสายแล้ว แต่สองแฝดนี่เข้าวิกฤติ ทุกเช้าเป็นต้องได้เห็นโต้งกับต๋องวิ่งไล่ตามรถสองแถว กว่าจะจบม.6 ก้านคิดว่าระยะทางที่สองแฝดนี่วิ่งไล่ตามรถคงรวมกันได้หลายร้อยกิโล


โต้งหอบแฮ่ก เหงื่อชุ่มเสื้อนักเรียน แรงลมที่ปะทะใบหน้ายามที่รถแล่นไปค่อยทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาบ้าง เขาจ้องหน้าก้าน ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงขาดเป็นห้วงเพราะความเหนื่อย


“ก้าน เที่ยงนี้มึงว่างไหมวะ ไอ้ต้นมันท้าเตะบอลกินเงิน”

ก้านขมวดคิ้วเข้ม ตอบเสียงอ้อมแอ้มอยู่ในลำคอ “ไม่ว่างว่ะ ครูพงษ์นัดกูไปคุยเรื่องซ้อม”

โต้งพยักหน้าหงึกหงัก ก้านเป็นนักกรีฑาตัวฉกาจของโรงเหรียญ เคยไปแข่งระดับเขตมาแล้ว และเป็นที่คาดหวังจะสร้างชื่อเสียงให้โรงเรียนเล็กๆแห่งนี้ ปรกติ ก้านมีตารางซ้อมเกือบตลอดทั้งปี แต่จะไปหนักเอาช่วงใกล้แข่ง เพราะเหตุที่ก้านเป็นนักกีฬาโรงเรียนนี่เองที่ทำให้อาจารย์ไม่ค่อยเพ่งเล็งเวลาเขาขาดเรียนหรือทำตัวผิดระเบียบ 


ก้านยักไหล่ เสมองไปทางอื่นเพราะคร้านจะโดนสองแฝดซักไซร์ไล่เลียง เด็กหนุ่มมองเข้าไปในตัวรถเห็นบอลกำลังคุยจ้อกับเพื่อนอย่างสนุกสนาน ก้านอมยิ้ม อดใจรอคาบพักเที่ยงแทบไม่ไหว..

........................................


ตาเหงี่ยมนั่งนองลูกสาวละเลียดกินข้าวอย่างนึกรำคาญใจ ตั้งแต่เล็กจนโต แต้วเป็นเด็กสาวที่เกียจคร้านและรักสำอาง โชคดีแกเคยคิดว่าเป็นบุญของแต้วที่ได้ผัวเอาการเอางานอย่างทวน เพราะลำพังงานบ้านงานเรือนแต้วก็แทบจะไม่เคยหยิบจับอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน กระทั่งตาเหงี่ยมเห็นลูกเขยย่องออกจากห้องของลูกชายฝาแฝดตอนเช้ามืด แกก็เริ่มแคลงใจ คิดเท่าไหร่ก็ยิ่งคิดไม่ออกว่าทวนเข้าไปทำอะไรในนั้น ชายชราจ้องหน้าลูกสาวที่ผัดแป้งไว้หมดจด ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงเนือยๆ


“เดี๋ยวนี้มึงกับไอ้ทวนเป็นไงบ้าง..”


แต้วเงยหน้าจากจานข้าว ถามเสียงห้วนๆ “ก็ดีนิพ่อ ถามทำไม..”

“พวกมึงยังข้าวใหม่ปลามัน อะไรๆก็ดี อีแต้วมึงอยู่ว่างๆแบบนี้ น่าจะช่วยไอ้ทวนลงนาบ้าง..”


“โอ๊ย..พ่อ แดดร้อนจะตาย ใครจะไปดำนาไหว ถ้าแต้วต้องช่วยพี่ทวนดำนาเอง แล้วพ่อจะจ้างคนทำไม..”


“บ๊ะ! อีนี่ ทำยังกะมึงไม่ใช่ลูกชาวนา ถึงไม่ช่วยไอ้ทวนมันดำนา มึงก็น่าจะไปส่งข้าวส่งน้ำมันบ้าง ผัวมีกันไม่ช่วยกันหาบกันคอน แล้วใครมันจะมาช่วยวะ..”


“ฮู้ยยยย..งานแค่นี้พี่ทวนเค้าทำไหวหรอกพ่อ “ แต้วบอกอย่างภาคภูมิใจ “ถ้าแต่งผัวเข้าบ้านแล้วชั้นต้องมาลงมาเอง หาผัวใหม่ดีกว่า..”


ตาเหงี่ยมมองหน้าลูกสาวอย่างอ่อนใจ แกหมายมั่นปั้นมือว่าจะต้องรู้ความจริงให้ได้ว่าทวนเข้าไปทำอะไรในห้องลูกชาย ทว่ายังไม่ทันที่สองพ่อลูกจะคุยอะไรกันต่อ ก็แว่วเสียงคนตะโกนมาจากทางหน้าบ้าน


“ทวน แต้ว..อยู่บ้านหรือเปล่า..”

แต้วผละจากชามข้าว วิ่งผลุนผลันไปหน้าบ้านตามเสียงตะโกนพลางยิ้มแป้นด้วยความปรีดา


“พี่เดช..ไปไงมาไงพี่ แหม..ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ไม่แวะมาหาชั้นบ้างเลย ขึ้นเรือนมาก่อนสิจ้ะ”


แต้วส่งเสียงดังอย่างดีอกดีใจ หญิงสาวส่งยิ้มหวานพลางโบกไม้โบกมือจากชานบ้านลงไปให้ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่ยืนแหงนหน้าคอยอยู่ข้างล่าง เขาขึ้นกระไดบ้านตามคำเชื้อเชิญ ตาเหงี่ยมที่พึ่งเดินออกมาสมทบที่ชานบ้านยกมือรับไหว้ชายหนุ่มผู้มาใหม่ พลางถอนใจยาวกับอากัปกริยายิ้มระรื่นของลูกสาวอย่างออกหน้าออกตา


“พี่ทวนลงนาจ้ะพี่ เข้ามากินน้ำกินท่าข้างในก่อนสิจ้ะ แหม ตั้งแต่ชั้นแต่งงานกับพี่ทวนนี่ก็ไม่ได้เจอหน้าพี่เดชเลยนะ”

แต้วคุยเจื้อยแจ้ว ตามองใบหน้าคร้ามๆที่มีไรหนวดและเคราครึ้ม เดชใช่จะหล่อเหลาเท่าทวน แต่ทว่าตัวสูงใหญ่ไหล่กว้าง ชนิดที่เดินเข้าบ้านแล้วหัวแทบจะไม่พ้นประตู

เดชเป็นเพื่อนในก๊วนเดียวกับทวน โตมาด้วยกัน กินเหล้าเมาหัวหกก้นขวิดด้วยกันมานักต่อนัก กระทั่งทวนแต่งงานกับแต้วแล้วย้ายจากหมู่บ้านตัวเองมาอยู่ที่นี่ เดชก็ไม่ค่อยได้ไปมาหาสู่กับทวนเท่าใดนัก 

“พี่ไม่ค่อยว่าง แต่ว่าพอดีน้องชายพี่กำลังจะบวช ก็เลยมาบอกบุญซะหน่อย ว่าแต่ไอ้ทวนอยู่ที่หนาหรือ พี่จะได้แวะไปหามันที่นั่น”


“จ้ะ พี่ทวนลงนา แต่พี่เดชจะรอพี่ทวนอยู่ที่บ้านก็ได้นะ เดี๋ยวบ่ายๆพี่ทวนก็กลับ จะอยู่กินข้าวเที่ยงกะแต้วก่อนไหมล่ะ..”


เดชมองหน้าแต้วยิ้มๆ ความจิ๋มไวของแต้วเป็นที่เลื่องลือในหมู่เพื่อนๆของทวน เดชจำได้ดีถึงคืนที่แต้วไปนั่งเฝ้าทวนในวงเหล้า พอตกดึก ทวนเมาแอ๋หลับไปก่อน บรรดาคอเหล้าที่ก๊งเหล้ากันอยู่ก็ผลัดกันจูงมือแต้วลงจากเรือนลับหายไปในกองฟางคนละรอบจนค่อนรุ่ง ถึงอตนเช้าทุกคนก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทวนเองก็รู้อยู่แก่ใจว่าเมียโดนเพื่อนเย็ดแต่ก็ไม่ได้ถือสาอะไร ตามประสาเด็กสาวใจแตกตามหมู่บ้าน บางคนนอนกับผู้ชายแทบจะค่อนหมู่บ้านแล้วค่อยตกลงปลงใจกับคนที่ชอบพอนิสัยใจคอกันก็มี ทว่าสำหรับเดช หลังจากที่แต้วตกลงปลงใจกับทวนแล้ว เขาก็ไม่คิดจะข้องแวะกับเมียเพื่อนอีก 


ให้เลือกระหว่างความสนุกชั่วครู่ชั่วยามกับมิตรภาพระหว่างเขากับทวน แน่นอนว่าอย่างหลังย่อมมีความสำคัญมากกว่า

“งั้นพี่ลงไปหาไอ้ทวนที่นาแล้วกัน ยังไงงานบวชไอ้ด้วงพี่เชิญแต้วไปเลยแล้วกันนะ” 


เดชว่าพลางหันหลังลงจากเรือนลงกระไดไป แต้วมองตามอย่างอดเสียดายไม่ได้ หล่อนนึกถึงคืนที่เล่นรักกับเดชหลังกองฟาง ลีลารักระหว่างเดชกับทวนนั้นแตกต่างกันพอสมควร ทวนนั้นเป็นคนเอาเก่ง เอาอึด รสรักจัดจ้าน เวลาทวนลงลิ้นตรงผืนนาน้อยแต้วแทบจะเอวไม่ติดพื้นเสียทุกทีไป 


แต่เดชไม่ค่อยเล้าโลม เย็ดหนักหน่วงดุดันเหมือนคนตายอดตายอยาก อาจเพราะคืนนั้นเขาเมาหนัก แต่แต้วก็ไม่ครั่นคร้าม สิ่งหนึ่งในตัวเดชที่แต้วประทับใจไม่รู้ลืมคือควยใหญ่เกือบเท่าแขนเด็ก แม้แต่คนที่เคยผ่านควยมานักต่อนักอย่างแต้วก็ยังอดถวิลหาไม่ได้ ทวนควยใหญ่ก็จริง แต่อย่างเดชนั้นแทบจะเรียกได้ว่าผิดมนุษย์มนา สมกับที่เพื่อนๆเรียกเขาว่า ‘เดชควยม้า’ 

แต้วมองตามแผ่นหลังกว้างของเดชอย่างเสียดาย นึกในใจว่าเจอกันคราวนี้ต้องหาทางเย็ดกับเดชให้ได้สักรอบก็ยังดี..

ไม่มีความคิดเห็น:

เด็กหอ 8 CP

มื่อกานต์เก็บของจากห้องตัวเองเสร็จ จึงมาหาอาจารย์ภัทรที่ห้อง ส่วนภัทรอาบน้ำทำความสะอาดเนื้อตัวเรียบร้อย ควยของภัทรแข็งรอกานต์อยู่นานแล้ว &...