วันพุธที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ความลับของพ่อ End

"เป็นไงละมึงรู้หรือยังว่าตอนมึงต่อยกู กูรู้สึกยังไง.....”

ผมเงียบแทนคำตอบ....

“... แต่กูก็มีเรื่องอยากจะรู้เหมือนกันนะว่าเวลาที่พ่อมึงเย็ดตูดมึงมันจะเสียวแค่ไหน ห้าๆ" ไอ้ขวัญและลูกคู่หัวเราะเหมือนตลกเสียเต็มประดา

ไอ้ขวัญกระชากคอเสื้อนักเรียนผมขึ้น แล้วเหวี่ยงตัวผมขึ้นไปบนแคร่ มันขึ้นคร่อมร่างผม เป้ากางเกงอยู่ตรงใบหน้าผมพอดี และเมื่อผมเริ่มจะขัดขึน ลูกน้องมันคนหนึ่งที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ก็ยืนมือที่ถือมีดพกมาจี้คอผม

"จะดิ้นทำ-เอี้ย-อะไร ควยพ่อมึงกับควยกูก็ควยเหมือนกัน อย่าเรื่องมากนะอีกะเทย ถ้ามึงไม่อยากเจ็บก็เปิดปากอมควยกูซะ แล้วถ้ามึงอมควยกูเจ็บมึงโดนลูกน้องพ่อกูเอามีดแทงคอตายโหงแน่"

ไอ้ขวัญควักควยดุ้นอวบออกมาป้ายปากผม ก่อนจะค่อยๆ กดควยผ่านริมฝีปากเข้าไปภายใน "อ๊ากก... -เอี้ย-เอ้ย... เสียวฉิบหาย มีคนอมควยให้มันดีอย่างนี้เอง รู้อย่างนี้กูให้มึงอมมานานแล้ว โอยยย..." ไอ้ขวัญเลื่อนควยเข้าออกในช่องปากของผมรัวๆ บางทีก็กระแทกเข้าไปจนผมสำลัก

เสื้อนักเรียนของผมถูกกระชากจนกระคุมขาดทุกเม็ด ไอ้ขวัญทั้งกัดทั้งจูบจนผมเป็นจ้ำแดงทั่วหน้าอก แม้จะถูกสัมผัสทั่วร่างแต่ผมก็ไม่เกิดอารมณ์ใคร่ ในเวลานี้ผมอยากจะตื่นขึ้นมาเพื่อพบว่าสิ่งที่เพื่อนรักกำลังกระทำนั้นเป็นเพียงฝัน กางเกงนักเรียนสีกากีตัวเก่าถูกถอดออก ไอ้ขวัญยกขาผมขึ้นพาดบ่า พยายามยัดควยร้อนผ่าวเข้าไปในร่องรูของผมโดยไม่มีสิ่งหล่อลื่นช่วยเหลือ

"โอ๊ย" ผมร้องขึ้นเมื่อปลายควยไอ้ขวัญทะลุผ่านร่องรูที่ฝืดแห้ง

"-เอี้ย-เอ้ย... อย่าสำออยทีควยพ่อมึง มึงยังให้เย็ดได้... ควยกูมึงก็ต้องรับได้ ล่อแม่งฝืด ๆ งี้แหละ ตูดผ่านควยแล้วเอาน้ำลายทาเดียวแม่งหลวม" โชคดีที่ร่างกายคนเรามีน้ำหล่อลื่นตามธรรมชาติเมื่อทำการสืบพันธุ์ น้ำเงี่ยนที่ปลายควยไอ้ขวัญจึงค่อยหล่อลื่นให้ควยดุ้นหนานั้นลอดผ่านเข้ามาในรูผมจนมิดลำ ตลอดเวลาถึงจะเจ็บปวดเหมือนร่างจะแยกฉีก แต่ความเจ็บปวดในใจที่เพื่อนมอบให้ผม มันเจ็บปวดจนต้องระบายออกมาเป็นน้ำตา

เมื่อควยมุดเข้าไปในรูได้ ไอ้ขวัญก็กระแทกควยเข้าออกอย่างบ้าคลั่งเหมือนผมเป็นสิ่งของไม่มีชีวิต "ไงมึง...เสียวไหม... เสียวเท่าควยพ่อมึงไหม... ร้องสิ ครางสิมึง เรียกกูว่าผัวเหมือนที่มึงเรียกพ่อมึงวันนั้น วันที่มึงเย็ดกับพ่อมึงบนเตียงนี้...

ผมยังจำได้ดี เช้าวันที่ผมกับพ่อเล่นรักกันบนแคร่ไม้ไผ่นี้ วันนั้นผมเห็นเงาวาบไหวบางอย่าง แต่รสรักทำให้ผมไม่พยายามใส่ใจกับสิ่งรอบข้าง เงาที่วาบไหววันนั้นคือเงาไอ้ขวัญนั่นเอง

ไอ้ขวัญกระแทกควยถี่หนัก จุดสุดยอดของมันคงงวดเข้ามาเรื่อย "ซิ๊ด... เสียวเว้ย...โอ้ย น้ำกูจะแตกแล้ว แม่งงง เสียว..., โอ้ยกูแตกในรูมึงเลยนะ โอ้ยแก้ว...กูถึงว่าทำไมพ่อมึงถึงครางเหมือนใจจะขาด... แก้ว... แก้ว... กูไม่ไหวแล้วจะแตกแล้ว... โอ้ย.. โอ้ย โอ๊ยยยยย.... ... ... ซี๊ด... อา..." น้ำเงี่ยนร้อนทะลักทลายเขามาในรูผมจนรู้สึกได้ และถึงแม้มันจะถึงสวรรค์ แต่ไอ้ขวัญยังขยับควยเข้าออกในรูเหมือนจะรีดน้ำเงี่ยนให้หมดควย ในขณะที่ผมยังนอนน้ำตาไหล ความรู้สึกเหมือนตกนรกทั้งมี่ยังไม่ตาย

"แก้วมึงเป็นเมียกูนะ... ให้กูเย็ดบ่อย ๆ นะ มึงรู้ไหมกูชอบมึงมานานแล้ว มึงมาเป็นเมียกูนะ เดี๋ยวเรื่องของมึงกับ... กูจะบอกพ่อกูว่ากูเข้าใจผิด" ไอ้ขวัญก้มลงกระซิบข้างหู ร่างกายยังคร่อมผมเอาไว้

"ถุ๊ย... " ผมถมถุยเสลดก้อนใหญ่ลอยไปติดหน้าของไอ้ขวัญ "มึงยังกล้าพูดว่ารักกูเหรอไอ้-เอี้ย-... มึงเอาเรื่องกูกับพ่อไปฟ้องลุงผู้ใหญ่ทำ-เอี้ย-ไร"
ยังไม่ทันจะด่าจบคำ ไอ้ขวัญก็ตบหน้าผมฉาดใหญ่ มันกระชากเส้นผมของผมขึ้นให้มองหน้ามัน "ไอ้สัตว์ ก็กูรักมึงไง กูทนเห็นมึงเย็ดกับพ่อมึงหรือใครทั้งนั้นไม่ได้ กูก็เลยไปฟ้องพ่อกู มึงยังไม่รู้ใช่ไหมว่าพ่อกูเขาไล่พ่อมึงออกจากหมู่บ้านแล้ว ป่านนี้แม่งไปซุกหัวที่ไหนก็ไม่รู้... "




"กูไม่ได้หนี" เสียงทุ้มต่ำดังมาจากหน้าประตูบ้าน แต่กว่าผมจะหันไปมองได้ ไอขวัญก็ถูกเจ้าของเสียงกระโดดถีบตกเตียงไปแล้ว ส่วนเด็กวันรุ่นอีกสองคนโดนทั้งหมัดทั้งตีนจนรีบแจ้นออกจากบ้าน

ไอ้ขวัญในร่างเปลือยเปล่ารีบความเสื้อผ้า แต่เจ้าของเสียงทุ้มต่ำตบฉาดเข้าที่กกหูจนมันล้มลงก่อนจะขึ้นคร่อมตัวไอ้ขวัญ แล้วต่อยรัว ๆ ที่หน้าจนเลือดอาบ

“มึงทำลูกกู.. ไอ้-เอี้ย-... ไอ้เด็ก*อะไร มึงทำลูกกู มึงไม่ตายดีแน่...” ทุกคำพูดคือทุกความเจ็บปวดจากหมัดที่กระแทกลงตรงหน้าไอ้ขวัญ มันยกมือไหว้วิงวอนทั้งน้ำหูน้ำตา แต่ชายร่างกำยำที่คร่อมมันไว้เหมือนจะไม่รับฟังเสียงใดในโลก ต่อเมื่อผมเข้าไปกอดเขาจากข้างหลัง... สติเขาจึงกลับมา

“พ่อ... พอเถอะ มันจะตายอยู่แล้ว”

พ่อปล่อยมือลงขนานลำตัว หอบหายใจเหนื่อยอ่อน แต่ตายังจ้องตาไอ้ขวัญเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ “ถ้ามึงมาแตะลูกกูอีกซักปลายก้อย มึงตายด้วยตีนกูแน่” พอพ่อลุกขึ้น ไอ้ขวัญก็รีบคว้าเสื้อผ้ากึ่งวิ่งกึ่งคลานออกไปจากกระท่อมอย่างทุลักทุเล

พ่อกอดผมไว้แน่น ผมสัมผัสได้ถึงน้ำตาอุ่น ๆ ที่หยดลงบนหัว “เจ็บตรงไหนแก้ว...พ่อขอโทษที่มาช้าเกินไป พ่อผิดเอง ถ้าพ่อกลับมาบ้านให้เร็วกว่านี้พวกมันคงจะทำอะไรลูกพ่อไม่ได้”

“ฉันไม่เป็นไรจ๊ะพ่อ... ไม่เป็นไรเลย” ผมสะอื้นตัวโยนอยู่ในอ้อมแขนพ่อ เหมือนความกังวลจากเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้นทั้งวันสลายไปในพริบตา

พ่อเชยคางผมขึ้นมา ประกอบริมฝีปากอุ่น ลิ้นของเราสองคนสัมผัสกันเบา ๆ ผมได้กลิ่นเหล้าขาวที่คุ้นเคย...

“พ่อไปไหนมา.. แล้วเรื่องเมื่อคืนลุงผู้ใหญ่ว่ายังไง”

“พอเอ็งกลับบ้าน ลุงผู้ใหญ่เขาก็ให้พ่อไปที่บ้าน เขาถามว่าเรื่องราวมันอะไรยังไง พ่อก็โกหกไปว่าไม่มีอะไร ดีนะที่เราใส่เสื้อผ้าอยู่ ไม่อย่างนั้นความคงแตก แต่ไอ้ขวัญมันก็ยังยืนยันว่าพ่อกับเอ็งทำบัดสีกัน สุดท้ายลุงผู้ใหญ่แกก็จนแต้มเพราะว่าไม่มีหลักฐานอะไร แกกำชับว่าต่อไปก็ให้ระวังอย่าทำให้คนอื่นเข้าใจผิด มีเรื่องอย่างนี้ขึ้นในหมู่บ้านคงไม่งาม พอออกจากบ้านผู้ใหญ่ พ่อก็ไม่รู้จะทำยังไงเลยเดินไปหาหลวงตาที่วัด พ่อเล่าเรื่องทั้งหมดรวมถึงเรื่องของเอ็งกับพ่อว่าเราได้กันแล้วแกว่าพ่อจะทำไงดี หลวงตาแกก็นิ่งไปซักพักไม่ได้ด่าว่าอะไร แต่บอกให้พ่อไปสวดมนต์ในโบสถ์เผื่อจะได้คำตอบอะไรบ้าง พอเช้าพ่อก็ช่วยหลวงตาซ่อมหลังคา พอเสร็จก็กะจะแวะไปกินเหล้าที่คิวรถ พอรู้เรื่องเองกับไอ้ดวงพ่อก็รีบกลับมาบ้าง”

“ไอ้ขวัญมันว่าลุงผู้ใหญ่ไล่พ่อออกจากหมู่บ้านไปแล้ว ฉันกลัวแทบตาย ว่าพ่อจะทิ้งฉันไว้...” ผมกอดพ่อแน่นเหมือนกลัวว่าสิ่งที่รักที่สุดจะหลุดลอยไปต่อหน้า

“ไม่หรอก... แต่ตอนนี้พ่อว่าพ่อคงอยู่หมู่บ้านนี้ไม่ได้แล้ว ต่อยไอ้ขวัญหน้ายับขนาดนั้น... เราต้องหนีแล้วแก้ว...” พอจับไหล่ผมให้แยกออกจากตัวแก แล้วเดินไปหยิบเงินในถุงย่าม เงินปึกหนึ่งถูกมัดไว้ด้วยยางรัดถุงแกงถูกนำมายัดไว้ในมือผม “พ่อต้องไปก่อนนะแก้ว... แล้วพ่อจะหาทางมารับเอ็ง... รอพ่อยู่นี่นะอย่าไปไหน...”

ผมนิ่งอึ้งกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในคืนที่มืดมิดที่สุดผมมีเพียงพ่อที่เป็นแสงสว่าง แต่จู่ ๆ แสงสว่างนั้นก็กำลังจะดับลงในไม่กี่นาทีข้างหน้า ผมวิ่งไปกอดพ่อจากข้างหลัง เพื่อรั้งพ่อไม่ให้ออกจากบ้าน ทั้งร้องไห้ทั้งขอร้องว่าอย่าทิ้งผมไว้ ให้ผมไปพร้อม ๆ กับพ่อ อย่าทิ้งผมไว้เพียงลำพัง...

พ่อยืนนิ่ง กลับหลังหันมากอดผมไว้แน่น ก่อนจะประกอบจูบเบาตรงหน้าผาก “แก้ว เชื่อพ่อนะ... พ่อไม่ทิ้งหนูหรอก ยังไงก็ไม่ทิ้ง แต่ตอนนี้พ่อต้องไปก่อน ถ้าพ่อยังอยู่ที่นี่ อีกไม่นานตำรวจหรือลูกน้องผู้ใหญ่มันต้องมา เราอาจจะไม่ได้เจอกันอีกก็ได้ รอพ่อก่อนนะพ่อจะหาทางมารับเอ็งให้ได้ แล้วเราจะไปอยู่ด้วยกันนะ... เอ็งเก็บของสำคัญใสถุงกระสอบใส่ไว้ใต้เตียงอย่าให้ใครรู้ว่าเรากำลังจะหนี พ่อสัญญาว่าจะมารับเองให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”

เหมือนหัวใจของผมผูกไว้ที่ตีนพ่อ ยิ่งพ่อก้าวห่างออกจากบ้าน ยิ่งทำให้หัวใจของผมเจ็บปวดเหมือนจะฉีกขาด ผมทรุดตัวลงกับพื้น ร้องไห้โฮ ตัวเบาหวิวเหมือนหลุดลอยอยู่ในโลกที่มืดดำ... ที่ที่ไม่มีพ่อ...

พ่อยังก้าวออกจากบ้านไปไม่ถึงไหน รถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งก็พุ่งมายังบ้านเราด้วยความเร็ว แสงไฟอาบร่างพ่อที่ยืนตกตะลึง ผมและพ่อต่างคิดไม่ถึงว่าตำรวจจะมาเร็วขนาดนี้...

……………………………………….

แต่คนขี่รถมอเตอร์ไซค์คันนั้นไม่ใช่ตำรวจ กลับเป็นชายผมยาวใส่เสื้อกระโจมอกนุ่งผ้าถุง แม้ไฟหน้ารถจะดับลงก็พอรู้ว่านั่นคือน้าดวง! “ทิด ไอ้แก้ว เก็บของเร็ว ผู้ใหญ่มันแจ้งตำรวจแล้ว เห็นว่ากำลังมาจากในเมือง เร็วเดี๋ยวไม่ทัน”....

………………………………….

ถนนใหญ่ในคืนนี้ไร้รถรา มีเพียงแต่แสงสี่ส้มจากไฟกิ่งที่อาบไล้คนสามคนบนรถมอเตอร์ไซค์ที่พุ่งผ่าน... ผมกอดเอวน้าดวงแน่น ปากก็พร่ำขอโทษน้าดวงเป็นร้อยครั้งพันครั้ง แม้น้าดวงจะไม่ตอบ แต่ก็ใช้มือข้างซ้ายกุมมือของผมไว้ 

แล้วรถมอเตอร์ไซค์ก็หยุดลงที่สี่แยกออกตัวจังหวัด

“ขอบใจนะดวง ที่พาพี่กับลูกหนีมา เองรีบไปเถอะเดี๋ยวผู้ใหญ่เขาจะรู้ว่าเอ็งพาไอ้แก้วกับพี่หนี”

น้าดวงพยักหน้าเออออ ก่อนจะกวักมือเรียกผมมาใกล้ ๆ เพื่อกระซิบบอกบางสิ่ง “แก้ว กูรักพ่อมึงไม่แพ้มึงหรอกนะ มึงต้องดูแลเขาให้ดีรู้ไหม ถ้ามึงทำให้พ่อมึงเสียใจกูจะตบมึงให้ร่วงคามือเลย” แกโน้มตัวห่างก่อนจะสตาร์ทเครื่องมอเตอร์ไซค์เพื่อเลี้ยงโค้งกลับทางเดิม แต่ก่อนจะใส่เกียร์หนึ่งแกเรียกผมเสียงดัง ก่อนจะโยนถุงพลาสติกขนาดเท่ากำปั้นมาใส่หน้าผม แล้วทะยานตัวเข้าไปในความมืดเบื้องหน้า

เมื่อผมแกะถุงก็พบว่าในถุงนั้นมีเงินอยู่มัดหนึ่งคงจะมากพอให้ผมกับพ่อหนีไปด้วยกัน พ่อมองหน้าผมแล้วพูดด้วยเสียงจริงจัง 
“ถ้าเรามี เราจะเอากลับมาคืนให้มันสิบเท่า...”

รถบัสเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้พร้อมกับบีบแตรเป็นคำถามว่าจะไปด้วยกันไหม หากคุณนั่งอยู่บนรถคันนั้น... คุณจะเห็นรอยยิ้มของเราสองพ่อลูกที่ถูกฉายอาบด้วยไฟรถบัสดวงโต
................

บทส่งท้าย...

“ฉ่า...” เสียงผักบุ้งนาถูกเทลงบนน้ำมันร้อน ๆ ผมรีบเทเต้าเจี้ยวจากขวดลงในกระทะใบใหญ่ แล้วรีบใช้ตะหลิวคนให้เข้ากัน กลิ่นกับข้าวยั่วยวนจนผมน้ำลายสอ ผมรีบตักผักบุ้งที่สลดกำลังดีลงในถาดอะลูมิเนียมใบโต เหลือก็แต่น้ำพริกกะปิอร่อย ๆ ฝีมือพ่อ

“พ่อน้ำพริกเสร็จหรือยัง สายแล้วเดี๋ยวลูกค้ามาร้านแล้วนะ” ผมพูดพลางจัดถาดกับข้าวนับสิบให้เข้าที่เข้าทาง ในใจก็ภาวนาขอให้วันนี้ขายดี

พ่อเดินถือโถใส่น้ำพริกมาวางข้างถาดผักบุ้งไฟแดง ก่อนจะขยับมากอดผมจากด้านหลัง “อย่าพ่อ เดี๋ยวใครมาเห็น”

“เป็นอะไรไปละ ผัวกอดเมียมันเป็นเรื่องธรรมดานี่หนา”

ผมกระทุ้งศอกกลับไปด้านหลังเบา ๆ แต่เงาที่สะท้องในหม้อแกงกลับเป็นใบหน้าที่อาบรอยยิ้ม

เมืองใหญ่แห่งนี้ไม่มีไอ้แก้วลูกไอ้พัน หรือไอ้พันพ่อไอ้แก้ว มีเพียงกะเทยผมยาวกับผัววัยกลางคนที่เปิดร้านขายเข้าแกงในห้องแถวแห่งนี้... ความลับของผมและพ่อจะถูกเก็บไว้จนหมดลมหายใจไปจากกัน...


--จบบริบูรณ์--

ไม่มีความคิดเห็น:

เด็กหอ 8 CP

มื่อกานต์เก็บของจากห้องตัวเองเสร็จ จึงมาหาอาจารย์ภัทรที่ห้อง ส่วนภัทรอาบน้ำทำความสะอาดเนื้อตัวเรียบร้อย ควยของภัทรแข็งรอกานต์อยู่นานแล้ว &...