วันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2556

สองนายทหาร

ผมจะไปวิ่ง
จ๊อกกิ้งที่สวนสุขภาพของค่ายทหาร... ทุกวัน
ขณะที่ผมกำลังวิ่งอยู่นั้นข้างหน้าผมมีผู้ชายคนหนึ่งนั่งผู้สายรองเท้าอยู่
ผมก็มัวแต่หันมองทางอื่น จนเกือบชนเขาทำให้ผมเสียการทรงตัวล้มลง
เขาเข้ามาพยุงลุกขึ้น พร้อมกับขอโทษเป็นการใหญ่ผมก็บอกไม่เป็นไร
ผมก็ซุ่มซ่ามเอง ผมไม่เป็นอะไรมากเขาชวนผมวิ่งไปด้วยกัน และชวนคุยไปเรื่อย
ๆ ทำให้ผมได้ทราบว่าพี่เขาเป็นทหารอยู่ที่ค่าย...ชื่อร้อยเอกยุทธนา
เราวิ่งไปคุยไปอย่างถูกคอพี่เค้าจะถูกคอผมหรือเปล่าไม่รู้
แต่ผมเริ่มชอบพี่เค้า เพราะพี่ยุทธคุยสนุก สุภาพ
ผมแอบชำเลืองคูพี่เค้าบ่อยครั้งพี่ยุทธเป็นคนผิวค่อนข้างขาว สูงโปร่ง
เรียกว่ารูปร่างดี สมกับเป็นทหาร
ทำให้ผมนึกย้อนไปถึงตอนที่ผมหลงป่ากับครูฝึก
ผมคิดเข้าข้างตัวเองว่าใครจะไปรู้ครั้งกระโน้นผมได้นายสิบ
ครั้งนี้ผมอาจจะได้นายร้อยก็ได้ช่วงหนึ่งของการคุยพี่ยุทธถามว่า 
“วิ่งเสร็จแล้วผมจะกลับเลยหรือเปล่า” 
“ยังไม่กลับหรอกพี่ผมอยู่คนเดียว ยังไม่มีครอบครัว
คงต้องหาข้าวแถวตลาดข้างค่ายนี้กินก่อน”
“ไปกินเหล้าบ้านพี่มั๊ยพี่พักอยู่ในค่ายทหาร อยู่กับเพื่อนสองคน
ไม่มีใครเอาครอบครัวมาอยู่ด้วย” โอ! ปฏิเสธก็โง่แล้ว เข้าล๊อกเลย
ผู้ชายกินเหล้าด้วยกัน ถ้าจะมีอะไรเกินเลยอย่างเช่นไปยืนเยี่ยวด้วยกัน
คุยเรื่องใต้สะดือหรือจะเกินเลยถึงขนาดขอจับ
ควยซึ่งกันและกันก็ไม่น่าเกลียด
“ถ้าไม่เป็นการรบกวนพี่ยุทธก็ โอ.เค. ครับ เราจะได้รู้จักกันให้มากกว่านี้
เพราะผมรู้สึกถูกชะตากับพี่” มารยา ลูกไม้ตื้น ๆ
แบบนี้ใครต่อใครก็ใช้ได้ผลมาเยอะแล้วพอวิ่งเสร็จผมนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์
ไปกับพี่ยุทธ ผมนั่งจนชิดพี่เค้า
เผลอเอาแก้มแนบกับแผ่นหลังซึ่งชุ่มไปด้วยเหงื่อ
ผมแอบสุดเอากลื่นตัวของพี่เขา ควยผมตั้งโด่เลย
กลัวมันจะไปดุนหลังพี่เขาก็ปานนั้น แต่ช่างเถอะไม่สนด้านได้ อายอด
ผมใช้มือทั้งสองข้างกอดเอวพี่ยุทธไว้บางทีก็แกล้งทำมือหลุดลงไปถูกเป้า
ตามสไตล์ของผม แต่ก็ทำแบบแนบเนียนบ้านพักของพี่ยุทธอยู่ลึกเข้าไปในค่าย
พี่ยุทธขับมอเตอร์ไซด์เข้าไปจอดใต้ถุนบ้านหลังหนึ่งซึ่งหลังไม่ใหญ่นัก
ก็เหมือนกับบ้านพักข้าราชการทั่วๆ ไป
“ถึงแล้วครับพี่อยู่สองคนกับเพื่อน มันชื่อยุทธนาเหมือนพี่นี่แหละ
มันชื่อเล่นว่าเปี๊ยก แต่พี่รวมทั้งเพื่อนคนอื่นๆจะเรียกมันว่าไอ้นา
คือเรียกให้มันดูหวานผิดกับรูปร่างและบุคลิกของมัน
เดี๋ยวพงศ์ก็เห็นเองหรอกพี่ยุทธเปิดประตูบ้านพาผมเข้าไปในบ้าน
บ้านก็เป็นบ้านสองชั้น ชั้นล่างเป็นห้องอเนกประสงค์ไม่มีห้องครัว
แต่มีห้องน้ำติดกับห้องนี้ 
“นั่งกับพื้นดีกว่านะ”
“ได้ พี่ สบาย ๆ กันเอง”
“กินเบียร์ได้มั๊ย”
“สบายมากพี่” พี่ยุทธเปิดตู้เย็นหยิบเบียร์ออกมาเปิดใส่แก้ว
ยื่นให้ผมแก้วหนึ่ง เราจิบเบียร์คุยกันไปเรื่อย ๆ จนเบียร์หมดไป6 ขวด
พี่ยุทธเล่าว่า เป็นคนจังหวัดอ่างทอง
มาบรรจุอยู่ที่นี่ตั้งแต่จบโรงเรียนนายร้อยเคยแต่งงานแล้ว
แต่ต้องเลิกกันเหตุเพราะทำงานคนละที่ และแฟนพี่ยุทธเป็นคนขี้หึง
จึงต้องมีปากเสียงกันบ่อย ๆจนต้องเลิกรากันไปในที่สุด
“พี่อยู่บ้านหลังนี้ กับไอ้นาสองคน ประมาณ 4-5 ปีแล้ว ไอ้นามันมีเมียมีลูกแล้ว เมียมันไม่ได้มาอยู่ด้วย ทำงานที่สุราษฎร์ธานี บ้านเกิดของมัน พี่กับมันสนิทกันตั้งแต่เข้าปีหนึ่ง จน จบออกมาและมาอยู่ด้วยกันที่นี่ พี่กับมันคุยกันได้ทุกเรื่อง และ ไม่มีความลับต่อกัน ตอนมาอยู่ที่นี่ใหม่ ๆ เคยล่อผู้หญิงคนเดียวกันเลยและ ก็บ่อยครั้งด้วย” พี่ยุทธเล่าไปด้วยความ สนุกสนาน แต่ผมนั่งฟังด้วยความ เงี่ยน ซักเข้าเค้า ผมว่าความฝันที่ผมจะได้เห็นอะไร หรือ มีอะไรกับพี่ยุทธคงอยู่ไม่ไกล
“ถึงขนาดนั้นเลยหรือพี่ เล่าต่อครับน่าสนุกจัง” ผมได้ทีก็เสริมขึ้นบ้าง
“หื้อ..ไอ้นามันเป็นคนเซ็กส์จัด วัน ๆ มันจะต้องหาเรื่องออกไป หาผู้หญิงมาล่อ ส่วนมาก็มักจะได้ แต่นักร้องห้องอาหารนั่นแหละ”
“แล้วพี่ยุทธไม่เซ็กส์จัดหรือครับ”
“ก้อ..ไม่มากเท่าไอ้นา ส่วนมากที่ได้นักร้องมา เราก็เมาได้ที่มา แล้วรวมทั้งนักร้องก็เมาด้วยเรามีโอกาสได้เล่นเซ็กส์หมู่ กันบ่อยมาก นอกจากเป็นผู้หญิงธรรมดาที่ไม่ใช่นักร้อง พี่จะไม่ได้ล่อด้วย แต่พี่กับไอ้นา อยู่คนละ
ห้องและเราก็เจาะรูข้างห้องไว้ ไว้ให้มองเห็นกันได้ เพราะบางทีผู้หญิงเขาไม่ยอมให้เล่นเซ็กส์หมู่ ใครได้มาก็เป็นหน้าที่ของคนนั้นเป็นนักแสดงเอ็กซ์ให้ดู
“โอ โห แล้วเวลาพี่ยุทธดูเขาเอากันพี่ทำยังไงหละครับ” ผมรุกต่อ
“พี่ก็ว่าวตามเลย ดูคนเอากันแล้วชักว่าวตาม ได้อารมณ์มาก น้ำงี้พุ่งปู๊ดเลย” พี่ยุทธเล่าได้อารมณ์มากผมงี้นั่งควยแข็งโป๊กเลย แล้วคนที่พี่ยุทธกำลังนินทาก็เดินเข้ามา 
“เฮ้ย ไอ้-เอี้ย-ุทธ ตะวันเพิ่งจะตกดินไปหมาด ๆ ฟาดเบียร์เลยหรือวะ”
“เรื่องของกู ว่าแต่มึงจะแดกหรือเปล่าหละ” พี่ยุทธกับพี่นาคุยภาษาดออกไม้กัน แต่ก็ดีนะฟังดูเถื่อน ๆ ได้อารมณ์ทางเพศดี
“รับประทานซิครับเพื่อนเลิฟ” จากนั้นพี่ยุทธก็แนะนำให้ผมกับพี่นารู้จักกัน “จริง ๆ พี่ชื่อเล่นว่าเปี๊ยก มีแต่พวก เห้..นี่แหละเรียกว่านา แต่ก็ไม่เป็นไร มันอาจจะทำให้พี่ดูหวานขึ้นก็ได้” พี่นา(เปี๊ยก) เป็นคนผิวค่อนข้างค้ำ จนเกือบดำ ตัวสูงใหญ่กว่าพี่ยุทธ ดูเป็นคนปลุกอารมณ์ทางเพศได้ดี พี่เปี๊ยกนั่งกินเบียร์กับเรารวมทั้งคุยกับผมอย่างสนิทสนม เรื่องคุยส่วนใหญ่ก็หนีไม่พ้นเรื่อง เย็ด ซึ่งก็ดีเข้าทางผม พี่เปี๊ยกบอกว่าวันนี้นัดพาน้องหวานแม่ค้าขายผลไม้ที่ตลาดไปคูหนัง แกบอกว่าเวลาทุ่มหนึ่งน้องหวานจะมาหาแกที่นี่ 
“วันนี้กูจะฟันน้องหวานให้ได้ กูกะจะฟันในห้องนอนของกูนี่แหละเสร็จแล้วถึงจะพาไปข้างนอก มึงจะดูหนังสดหรือเปล่าวะได้ยุทธ”
“ไม่ดูก็โง่สิวะ ว่าแต่มีสมาชิกร่วมดูอีกคนเป็นไรมั๊ยวะ”
“ระดับเปี๊ยกซะอย่างท่านผู้ชมมากยิ่งชอบแสดงว่าเราทำได้ดี”
“วันนี้เราได้ดูหนังเอ็กซ์สด ๆแล้ว” พี่ยุทธพยักพเยิดมาทางผม
“อาบน้ำดีกว่า เตรียมตัวไว้ล่อน้องหวาน” พี่เปี๊ยกเดินไปมุมห้องซึ่งผมเพิ่งสังเกตุว่ามีตู้เสื้อผ้าตั้งอยู่สองใบ และโดยที่ไม่คาดฝัน พี่เปี๊ยกถอดเสื้อผ้าออกเหลือแต่ตัวล่อนจ้อน แล้วเปิดตู้หยิบผ้าขนหนูมาพาดบ่า เดินโทง ๆ ผ่านหน้าเราไปเข้าห้องน้ำอีกมุมหนึ่งของห้อง ผมจ้องตาแทบถลน พี่เปี๊ยกรูปร่างสูงใหญ่จนดูบึกบึน กล้ามเนื้อก็มีบ้าง ขนหน้าอกก็เยอะจนลามตามหน้าท้องลงไปรวมกับกลุ่มหมอยที่เบียดเสียดกันจนดำ เป็นพรืด และที่สำคัญ ควยของพี่เปี๊ยกห้อยโตงเตง หัวเปิดนิดหนึ่ง ความใหญ่ประมาณว่าเท่าขวดลิโพ ความยาวคงเท่ากับขวดลิโพสองขวดต่อกัน ผมไม่ได้พูดเกินจริง ถ้าจะให้เปรียบก็ได้อย่างนี้จริง ๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

เด็กหอ 8 CP

มื่อกานต์เก็บของจากห้องตัวเองเสร็จ จึงมาหาอาจารย์ภัทรที่ห้อง ส่วนภัทรอาบน้ำทำความสะอาดเนื้อตัวเรียบร้อย ควยของภัทรแข็งรอกานต์อยู่นานแล้ว &...