ปีนั้นที่ผมได้ประสบการณ์กับพวกคนงานที่บ้านแล้ว กลับมาเรียนต่อตอนเทอมต้นจนถึงเทอมปลายปีนั้นผมก็ไม่ได้มีเรื่องตื่นเต้นอีกเลยเพราะว่ากลับไปบ้านอีกทีไอ้หมามันก็ลาออกไปแล้ว พี่โดยเองแกก็ไม่ค่อยได้มาวุ่นวายกับผมเท่าไหร่เพราะแกมีหญิงเป็นตัวเป็นตนแล้ว(แต่ไม่ใช่สาวนะครับ) คนงานคนอื่นๆเท่าที่จำได้ก็มีพี่เส่งกับพี่มาที่ยังอยู่ ลุงวัดกับป้าก็อยู่ (ตอนนี้แกก็ยังอยู่กับที่บ้านครับ) ไอ้มืดกับพี่บุญก็ลาออกไปเหมือนกัน ส่วนคนงานที่มาใหม่หลายคนผมไม่สนิทด้วย ก็เลยไม่ได้มีเรื่องตื่นเต้นแบบที่เล่าอีก ทั้งๆที่ผมเองก็อยากเรียนรู้มากกว่าเก่าว่าการที่เราจะเอากับใครนี่มันต้องเริ่มต้นยังไง ตอนนั้นผมคิดแบบเด็กๆว่าการเอากันต้องมาจากการที่เราพึงพอใจกันแล้วความพึงพอใจมันก็มาจากการที่เราน่าจะรู้จักใครนานพอสมควร ก็ความคิดแบบเด็กๆอะครับ
มาตอนเทอมต้นปีถัดไปนี่ซิครับ เริ่มขึ้น ม.4 แล้วเริ่มโตเป็นหนุ่มแล้วนี่ครับ ใจมันก็อยากจะมีเซ็กซ์แบบเต็มรูปแบบดูซักที อย่าหาว่าผมนี่เงี่ยนแต่เด็กเลยนะครับ วัยรุ่นสมัยนี้เขาเงี่ยนแล้วเอากันเร็วกว่าผมอีก ผมนี่เริ่มจะเอากันจริงๆจังๆก็ตอน ม.4 นี่แหละครับ จำได้ว่าเทอมต้นปีนั้นมีนักเรียนใหม่เข้ามาจากโรงเรียนอื่นหลายคนเลยครับ ที่มาเรียนห้องเดียวกับผมก็มี ไอ้เชียร ไอ้ริน ไอ้พัทแล้วก็ไอ้โต้ ขอบรรยายรูปร่างหน้าตามันก่อนนะครับ (ชื่อเพื่อนๆนี่ผมตั้งใหม่นะครับเพราะไม่อยากใช้ชื่อจริงๆของมันเดี๋ยวมันจะด่าเอาได้ แค่มาเล่านี่มันก็อายกันจะแย่อยู่แล้วครับ)
ไอ้เชียรนี่มันไทยๆครับ ผิวคล้ำออกไปทางดำ สูงท่าทางออกห้าวๆแบบชนบทเลยครับ ไอ้นี่หัวโจกเลย คู่ปรับของไอ้วิทย์หัวหน้าห้องเพราะไอ้วิทย์(ผมไม่ค่อยสนิทกับไอ้วิทย์เท่าไหร่หรอกครับทั้งๆที่เรียนกับมันมาสองปีแล้ว เพราะความที่มันออกจะทำตังเป็นนาย แถมชอบเอาหน้าตลอด) มันเที่ยวบอกคนอื่นๆว่าพวกมาใหม่นี่ต้องเป็นเบี้ยรองบ่อนคนเก่าๆ ด้วยความที่ไอ้เชียรมันหน้าตาดุแบบจิ๋กโก๋ ตจว. พวกๆในห้องก็เลยเห็นดีเห็นงามตามไอ้วิทย์ไปด้วย คงมีแต่ผมกับคนนอื่นๆอีกไม่กี่คนแหละที่ไม่เห็นว่าไอ้เชียรมันจะกวนตีนเท่าไหร่เลย
ไอ้รินนี่ลูกจีนครับแบบผมเลย ตัวสูงไล่ๆกันแต่ออกจะขาวกว่า หุ่นอวบๆไม่มีกล้ามแล้วก็เป็นคนเงียบๆไม่ค่อยชอบคุยกับใคร ทีแรกผมก็คิดว่ามันไม่รู้จักใครมันเลยไม่คุย แต่ทุกวันนี้มันซี้กับผมมันก็ยังไม่คุยเลยครับ แต่ไอ้รินนี่เป็นแบบพูดน้อยแต่ต่อยหนัก(ทั้งคำพูดทั้งหมัดเลยครับ) ไอ้พัทกับไอ้โต้นี่ลูกจีนแบบตี๋ๆๆๆๆๆๆๆๆ ตาเป็นเส้นด้ายเลยครับ ขนาดไม่หัวเราะนี่ยังแทบไม่เห็นลูกตามันเลย คนนึงสูงคนนึงเตี้ย มาจากโรงเรียนเดียวกันครับ ผมยังมีเพื่อนสนิทอีกคนครับชื่อไอ้เขียด ไอ้นี่มันก็ไทยๆบ้านๆ หน้าตาธรรมดาๆเอามากๆ แต่หญิงโรงเรียนอื่นติดมันตรึมเลยครับผมเรียนกับไอ้เขียดมาตั้งแต่ ม.1 สนิทกันจนรู้ว่าอะไรเป็นอะไรกันแล้วแต่ยังไม่เคยมีอะไรกันนะครับตอนนั้น แค่เป็นเพื่อนรู้ใจกันมากๆเท่านั้นเอง
เอาหละครับสาธยายเพื่อนๆมามากแล้วเดี๋ยวพี่ๆกับป้าๆจะเซ็งกันซะก่อน มาเข้าเรื่องเลยดีกว่านะครับ ตอนนั้นเพื่อนๆที่ว่ามานี่ยังไม่มีใครรู้หรอกครับว่าผมชอบเอาผู้ชายแล้วก็ยังไม่เคยเอาผู้หญิงเลย จะมีก็แต่ไอ้เขียดที่ผมเล่าให้ฟังเรื่องประสบการณ์ที่บ้าน มันบอกว่ามันเองยังไม่เคยเอากับใครเลยได้แต่ว่าวเองเท่านั้น ผมถึงได้สงสัยไงครับว่าในจำนวนหญิงที่มาติดมันตั้งสามสี่คนนี่ มันยังไม่เคยเอากันเลยก็แปลกนะครับ แต่ตอนนั้นผมไม่กล้าถามมันหรอกครับว่ามันชอบแบบไหน
ที่ผมเริ่มสนิทกับไอ้เชียรหัวโจกก็เพราะไอ้เชียรมันโดดเรียนแล้วไปโดนครูฝ่ายปกครองจับได้ที่ห้างฯอะครับ มันโดนคาดโทษไว้ว่าถ้าจับได้ว่าโดดเรียนอีกโรงเรียนจะพักการเรียนหนึ่งภาคเลย ไอ้เชียรมันก็จ๋อยซิครับ เพื่อนก็ไม่มีแถมต้องมาเรียนแบบไม่มีใครคบหาอีก มันก็คงเบื่อน่าดูนะครับ พอก่อนสอบกลางภาคมันก็เริ่มที่จะหายๆตัวไปห้องน้ำบ่อยๆ แทบจะทุกวิชาเลย พอพักเที่ยงวันนึงครูประจำชั้นใช้ให้ผมออกไปซื้อของมาทำบอร์ดงานโรงเรียน ผมก็กำลังจะไปซื้อแหละครับแต่ดันมาตกบันใดซะขาเกือบเดี้ยง แต่เดินไม่ไหว ก็ได้ไอ้เชียรนี่แหละไปซื้อของแทน มันก็เก่งนะครับที่เอาไปอนุญาตชื่อผมผ่านประตูโรงเรียนออกไปได้ ตอนนั้นผมก็คิดว่ามันนี่ก็มีน้ำใจดีนะไม่เห็นจะหัวโจกอย่างที่ไอ้วิทย์มันเล่าเลย แต่ตอนที่ไอ้เชียรมันกลับมาซิครับ ครูฝ่ายปกครองเรียกมันไปพบแล้วจะให้มันโดนทัณฑ์บนโทษฐานโดดเรียนออกไปข้างนอก (ผมมารู้ทีหลังครับ) สาเหตุก็เพราะไอ้วิทย์มันเห็นไอ้เชียรเดินไปทางหลังโรงเรียน(ก็ไปห้างฯมันต้องไปทางนั้นนี่ครับ) มันก็เลยไปฟ้องครูฝ่ายปกครองครับ
ไอ้เชียรมันก็บอกว่าผมให้มันไปซื้อ(ทั้งๆที่มันอาสาไปเอง) คงเพราะความกลัวอะครับเลยต้องอ้างแบบนั้น ผมก็บอกครูว่าผมตกบันใดเดินไปไม่ได้เลยไปนั่งอยู่ห้องพยาบาลพันขาอยู่ ครูกับบอกว่าผมโกหกช่วยเพื่อนอีก คราวนั้นผมเกือบโดนพักการเรียนไปด้วย ดีที่ผมบอกพ่อว่าผมจะโดนพักการเรียน พ่อรีบมาคุยกับครูใหญ่เลยครับ (พ่อบริจาคเงินให้โรงเรียนเยอะมากทุกๆปีเลยครับ ครูใหญ่เลยต้องเกรงใจพ่อมาก) รอดคราวนั้นมาได้ก็เพราะพ่อจริงๆครับ ตั้งแต่นั้นมาไอ้เชียรกับผมกับไอ้เขียดก็รวมเป็นเก๊งเดียวกันครับ ผมชอบไอ้เชียรที่มันมีน้ำใจ ส่วนมันก็ชอบผมที่หาคนมาด่าโรงเรียนได้(ก็พ่อผมไงครับ พ่อเล่าว่าวันที่มาคุยพ่อจะเอาเรื่องครูที่ใช้ผมไปจนตกบันใดแล้วโรงเรียนก็ต้องรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลขาผมด้วย) ส่วนไอ้วิทย์นี่มันก็รวมผมกับไอ้เขียดเป็นแก๊งกวนโดยอัตโนมัติ
ความมาแตกว่าไอ้เชียรชอบผู้ชายก็ตอนที่มีครูพละฝึกสอนมาที่โรงเรียนนี่แหละครับ สอบกลางภาคไปแล้วครูต้อย ครูพละที่โรงเรียนก็พานักศึกษาหนุ่มหุ่นกำยำผิวคล้ำสูงราวๆ 180 ซม.(อาจไม่ถึงมังครับจำไม่ได้แล้ว) ชื่อครูพงษ์ จะมาช่วยฝึกสอนไปจนถึงเทอมหน้าเลย ครูพงษ์แกคมเข้มครับแบบหนุ่มใต้เลย หุ่นดีมาก ผมสั้นรองทรงครับ จำได้ว่าเวลาแกใส่เสื้อพละมาสอนนี่กล้ามแขนเป็นมัดๆเลยครับก้นงอนกลมเชียว ช่วงขาก็ยาวดีต้นขาแกนี่ดันกางเกงวอร์มตึงจนรัดโคนขาเลยครับ ผมงี้กลืนน้ำลายทุกทีเลยครับเวลาแกสอนท่าดัดตัวก่อนและหลังออกกำลังกาย เพราะมีท่าสะพานโค้งด้วย เวลาแกหงายหลังแล้วแอ่นตัวให้โค้งจากพื้นนี่ผมแทบไม่ทำตามเลยครับ ก็เป้าแกตุงนูนซะขนาดเห็นลำควยเลยครับ ไข่นี่ก็นูนเป็นกระเปาะขนาดเกือบสองมือโปะเลยครับ จำได้ว่าตอนนั้นผมมักจะอ้างว่ากลัวหลังเดาะแล้วก็ยืนดูควยครูพงษ์ทุกทีไป
ไอ้เชียรมันเล่นกีฬาเก่งครับ ผมได้มันนี่แหละช่วยเป็นคู่หูทุกทีเวลาซ้อมกีฬา จนมาวันนึงครูพงษ์บอกว่าอยากได้นักเรียนซักสามคนอยู่ช่วยครูเก็บอุปกรณ์กีฬาทุกวันที่เรียนพละ ไอ้เชียรมันอาสาครับ กับนักเรียนอีกสองคน คราวนี้มันก็ต้องอยู่เย็นหลังโรงเรียนเลิกทุกวันเพื่อช่วยครูพงษ์เก็บอุปกรณ์ ผมจำได้ว่าวันที่ความแตก(น้ำผมก็แตกครับ)นั้นเป็นวันศุกร์ ผมกับไอ้เขียดอยู่ทำการบ้านกันที่โรงเรียนโดยมีไอ้เชียรไปช่วยครูพงษ์เก็บของ นักเรียนอีกสองคนที่อาสาด้วยมันหนีกลับบ้านไปนานแล้ว ผมเลยทำการบ้านให็เสร็จเพราะไอ้เชียรมันคงต้องเก็บของอีกนาน อีกอย่างมันจะได้เอาการบ้านไปลอกที่บ้านด้วย (ไอ้เชียรมันหัวไม่ค่อยดีครับ แค่พอไปได้เมื่อเทียบกับหลายๆคนในห้อง)
วันนั้นไอ้เขียดมันขี้เกียจอยู่ทำการบ้านจนเสร็จ มันบอกว่าจะเอาไว้รอลอกผมเหมือนกัน มันก็เลยกลับไปก่อนตั้งแต่สี่โมงกว่าๆ ปล่อยให้ผมกับเพื่อนๆอีกหก เจ็ดคนอยู่ทำการบ้านกัน กว่าผมจะทำการบ้านเสร็จก็ปาเข้าไปห้าโมงกว่าแล้ว ผมก็ยังไม่เห็นไอ้เชียรมันขึ้นมาเอาการบ้านซักที ผมก็เลยเดินลงไปตามมันที่โรงยิมโรงเรียน พอไปถึงก็ไม่เห็นมีใครเลยครับ อุปกรณ์กีฬาก็เก็บเรียบร้อยแล้ว แต่ทั้งครูพงษ์กับไอ้เชียรหายไปหมดเลย ผมเลยเดินเข้าไปด้านหลังโรงยิมที่เป็นห้องพักครูพละแล้วก็ห้องอาบน้ำครูด้วย ในห้องพักครูก็ไม่มีใครอยู่แต่ผมเห็นไฟในห้องอาบน้ำเปิดอยู่ก็เลยเดินไปใกล้เผื่อจะได้แอบดูควยครูพงษ์ด้วย พอเดินย่องๆไปจนเกือบถึงห้องอาบน้ำผมก็เห็นไอ้เชียรมันกำลังแอบดูครูพงษ์อยู่แล้วครับ มันไม่รู้ว่าผมมาที่ห้องพักครูเพราะมันหันหลังให้ผมอยู่แล้วผมก็ย่องไปแบบเงียบๆด้วย
ผมเห็นมันยืนก้มดูตรงประตูห้องน้ำที่ไม่ได้ปิดสนิทอะครับ เสียงคนอาบน้ำฝักบัวดังซ่าๆเลยแล้วก็ได้ยินเสียงครูพงษ์ฮัมเพลงลอยๆมาด้วยครับ ส่วนไอ้เชียรนี่กางเกงพละมันรูดลงมาที่หัวเข่าแล้ว กางเกงในติดอยู่ที่โคนขาถัดจากตูดเลยครับ คงไม่ต้องบอกนะครับว่ามันกำลังทำอะไรอยู่ แน่นอนครับมือขวามันกำลัง “ว่าว” ให้ตัวเองอยู่ไงครับ ผมไม่เห็นควยมันหรอกครับ แต่ก้นมันนี่ซิกลมแต่ไม่งอนเท่าไหร่ ดำคล้ำตามสีผิวมันเลยครับ ตูดเกร็งเป็นพักๆเวลามันสาวว่าวแรงๆ พอผมดูมันได้พักเดียวเท่านั้นแหละครับ เห็นมันเงยหน้ามองเพดานสองสามทีผมก็เดาได้ว่าสายป่านมันกำลังจะสุดแล้วผมก็ถอยหลังออกจากห้องเดินกลับไปที่ห้องรอมันมาเอาการบ้าน ระหว่างรอนี่ซิครับหน้าผมมันร้อนผ่าวๆ ใจก็คิดว่าห้าวๆอย่างไอ้เชียรนี่นะจะชอบดูผู้ชายอาบน้ำ ความรู้สึกตอนนั้นมันดีใจปนๆกับงงๆอะครับ
ผมรออยู่นานเหมือนกันกว่าไอ้เชียรมันจะขึ้นมาเอาการบ้านแล้วก็กลับบ้านพร้อมผม ผมแกล้งถามมันว่าทำไมนานจัง มันบอกว่าเก็บของคนเดียว(สงสัยของที่มันทำเลอะเทอะไว้แหงๆ) เลยนานไปหน่อย ผมก็เอาการบ้านให้มันแล้วก็เดินไปขึ้นรถเมล์กลับบ้านครับ วันนั้นหลังจากที่ไม่ได้ว่าวเองมานานก็เลยเก็บเอาภาพไอ้เชียรชักว่าวกับภาพพี่โดยโดนไอ้มืดกับไอ้หมาเย็ดมาปนๆกันแล้วก็ว่าวไปก่อนนอนครับ อ้อ ลืมบอกไปว่าที่บ้านผมนี่ผมอยู่กับป้ามีป้าอยู่กันสามคน เป็นสามสาวโสดที่ตอนนั้นยังไม่มีใครแต่งงานเลยครับ(ตอนนี้ก็ยังครับ) โอกาศว่าวเลยไม่ค่อยมีเพราะมีห้องน้ำสองห้อง ห้องนึงอยู่ในห้องนอนป้าคนโตครับ ส่วนอีกห้องใช้ร่วมกันกับป้าอีกสองคน เข้านานไม่ได้เดี๋ยวป้าสงสัยครับ เลยต้องมาว่าวในห้องนอนซึ่งไม่มีกลอนล็อคครับ เวลาว่าวนี่ต้องคอยลุ้นว่าป้าจะโผล่เข้ามาหรือเปล่า เสียวทั้งควยทั้งใจเลยครับ
หลังจากวันนั้นที่ผมเห็นไอ้เชียรมันว่าวแล้วแอบดูครูพงษ์อาบน้ำ ผมก็ไม่ได้เล่าให้เขียดมันฟังหรอกครับ ก็จะเล่าทำไมครับเดี๋ยวมันก็จะแอบตามไปดูด้วย ผมก็อดดูเท่านั้นเองครับ ตอนนั้นผมยังไม่รู้หรอกครับว่าไอ้เขียดมันจะชอบแบบผมหรือเปล่า ก็เลยไม่ได้เล่า อีกอย่างถ้ามันชอบผู้ชายอย่างผมแล้วเกิดพากันไปแอบดูครูพงษ์อาบน้ำ จะว่าวด้วยกันก็คงเขินกันน่าดูนะครับ ผมเลยเก็บเรื่องนี้ไว้คนเดียว กะว่าวันไหนไอ้เขียดกลับบ้านก่อนผมจะได้ไปแอบดูไอ้เชียรชักว่าวอีก แล้วก็สบโอกาศครับ หลังเลิกเรียนวันนึงไอ้เขียดมันรีบกลับบ้านก่อน มันบอกว่าจะรีบไปขอตังค์พ่อ เพราะพ่อกลับจากทำงานที่ต่างประเทศ(พ่อมันไม่ค่อยอยู่บ้านหรอกครับ ไปทำงานต่างประเทศที สองเดือนบ้าง สามเดือนบ้าง) มันกลัวว่าเดี๋ยวกลับไปไม่ทันพ่อ แล้วจะไม่มีโอกาศขอตังค์ ผมก็เลยอยู่ทำการบ้านรอไอ้เชียรมันด้วย
ทีนี้ผมรอมันจนเกือบห้าโมงเย็นก็ไม่เห็นมันมาซักที ก็เลยเดินไปตามมันที่โรงยิมอย่างเคยกะว่าวันนี้จะดูควยไอ้เชียรแก้เซ็งซะหน่อย แต่พอไปถึงที่โรงยิมนะครับก็ไม่เจอไอ้เชียรอยู่ที่โรงยิม ในห้องพักครูก็ไม่มี ตรงห้องอาบน้ำก็ไม่มี สงสัยมันจะกลับบ้านไปแล้วแหงๆเลย แต่ที่แน่ๆเสียงครูพงษ์อาบน้ำยังมีอยู่ครับ ผมเลยคิดว่าถ้าไม่แอบดูควยครูวันนี้แล้ว ก็คงไม่มีโอกาศแอยดูอีกแน่ๆเลย เท้ามันไวกว่าความคิดอีกครับ รู้ตัวอีกทีผมก็มายืนเอาตาแนบกับประตูที่เปิดแง้มไว้อยู่แล้ว พอเอาตาแนบไปตรงประตูที่เปิดอยู่นะครับ ผมก็เห็นครูพงษ์ยืนหันด้านข้างให้ผม แกกำลังเปลือยเลยครับ กล้ามท้องเป็นลอนๆ ก้นกลมกลึง แล้วก็งอนด้วย นมแกเป็นก้อนกลมๆดูตึงแน่นกล้ามขางี้ผมเห็นแล้วขาสั่นเลยครับ ฟิตแน่นเป็นเกลียวอวบตึงตั้งแต่โคนขาเรื่อยลงมาจนถึงหัวเข่าเลยครับ มิน่าล่ะกางเกงวอร์มมันถึงได้ตึงรัดรูปโคนขาครูได้ขนาดนั้น
แต่ที่สำคัญคือ ควยครูพงษ์นี่ซิครับ ขนาดกำลังสงบนี่หัวบานยาวอ่อนๆแต่ว่าอวบไม่เบา ใหญ่กว่าพี่มากับพี่บุญซะอีก ผมเห็นครูพงษ์กำลังสระผมแล้วก็กำลังจะเอาสบู่มาถูตัวด้วยก็เลยหลบมาที่ข้างประตูสักพักค่อยไปแอบดูใหม่ แล้วก็อาศัยหันหลังมาดูด้วยว่ามีใครแอบดูผมอยู่หรือเปล่าด้วย พอเห็นว่าไม่มีใครอยู่แล้วผมก็กลับไปแอบดูต่อ ตอนนั้นเห็นครูกำลังล้างฟองยาสระผมกับสบู่ถูตัวออกแล้ว
แต่มือขวาแกกำลังปลิ้นหัวควยพลิกไปพลิกมาดูเหมือนแกกำลังทำความสะอาดอะครับ ครูพงษ์นี่แกขลิบแล้วนะครับ หัวควยถึงได้บานแดงกล่ำน่าสัมผัสมาก ผมเห็นแกพลิกควยไปๆมาอยู่สามสี่ทีควยแกก็เริ่มแข็ง ตั้งโด่เลยครับ กะเอาได้ว่าราวๆเกือบแปดนิ้วได้ ไม่ได้โม้นะครับลองนึกภาพหนุ่มสูงเกือบร้อยแปดสิบ ซม.ดูซิครับ ควยแกยาวเลยสะดือมาเกือบสองนิ้วได้ มือครูพงษ์เองยังกำควยแกไม่รอบเลยครับ ผมเห็นแล้วยังใจสั่นๆเลย ผมว่าพี่บุญใหญ่แล้ว แต่เจอกกับครูพงษ์นี่พี่บุญเรียกว่าเล็กเลยครับ
สักพักผมก็เห็นครูพงษ์แกเริ่มที่จะชักว่าวอะครับแกปิดน้ำฝักบัวแล้วก็เริ่มใช้มือขวาชักควยแกขึ้นๆลงๆ บางครั้งก็สาวแบบนันสต๊อบ ปากก็บิดเบี้ยว สูดปากดังลั่นก็มี หัวควยแกแดงกล่ำยิงกว่าตอนอ่อนๆอีกครับ บางครั้งแกก็หลับตาพริ้มเงยหน้า บางครั้งก็ก้มหน้าเอามือยันกำแพงตรงฝักบัวไว้แล้วก็สาวว่าวไปด้วย ส่วนผมเองก็ได้แต่เอามือบีบๆที่เป้าแต่ไม่กล้าเอาออกมาชักอย่างไอ้เชียรหรอกครับกลัวน้ำแตกแล้วเช็ดรอยคราบน้ำว่าวไม่ทัน เดี๋ยวครูพงษ์จะรู้ว่ามีคนมาแอบดู
หรือไม่แม่บ้านคงต้องด่าแน่ๆ ก็เลยได้แต่ขยำควยนอกกางเกงเท่านั้นครับ ผมแอบดูครูพงษ์แกว่าวอยู่นานเลยครับ จนในที่สุดแกก็โก่งตัวก้มหน้าลง เขย่งเท้าทั้งสองข้างเอามือซ้ายยันกำแพงไว้แล้วชักควยแกเร็วมากซอยถี่ยิบเลย พร้อมกับสูดปากซู๊ดๆๆๆสามสี่ที ผมก็เห็นน้ำว่าวแกพุ่งปรี๊ดๆฉีดไปจนติดกำแพงที่ห่างจากตัวแกเท่ากับช่วงแขนแก(เกือบสี่ฟุตเชียวนะครับ) พุงแรงเหมือนเวลาเราฉีดฟ๊อกกี้รีดผ้าเลยครับ พุ่งตรงจากหัวควยไปกระทบกับผนังแล้วติดหนับเลย แล้วค่อยๆย้อยไหลลงมาแต่ผมเห็นว่าน้ำว่าวครูพงษ์นี่ข้นขาวเหนียวน่าดู เพราะมันจับเป็นก้อนหยุ่นๆที่ผนังเลยครับ ไหลลงมาก็มาทั้งก้อนเลย แกคงอั้นไว้หลายวัน เพราะเวลาผมอั้นหลายๆวันแล้วชักว่าวนี่ น้ำมันก็จะข้นเหมือนกันแล้วพุ่งข้ามหัวผมไปเปรอะหมอนทุกทีเลยครับ
เย็นวันนั้นหลังจากที่กลับมาถึงบ้านแล้วผมก็โทรไปหาไอ้เชียรครับ ถามมันว่ามันหายไปไหน มันบอกว่า มันเก็บของเสร็จแล้วก็ไปซื้อน้ำกินด้านข้างโรงเรียน มาหาผมที่ห้องก็ไม่เจอ เจอแต่เพื่อนคนอื่นๆที่ไม่คุยกับมัน แต่มันเห็นกระเป๋ากับสัมภาระผมยังอยู่ ก็เลยขี้เกียจรอผมมันกลับก่อนเลยครับ แล้วมันก็ถามผมว่าผมหายไปไหน
ขอเล่าต่อวันหลังนะครับ วันนี้ขอนอนก่อน รับรองว่าตอนหน้าสนุกกว่านี้แน่นอนครับขอบคุณทุกคนที่ยังรออ่านนะครับ พี่เอมิกาก็เล่าเรื่องแอบดูคนงานมามั่งก็ได้นะครับ จะได้ให้พี่ๆกับป้าซองขาวดูด้วยนะครับ ช่วยๆกันเล่าคนที่ติดตามอ่านจะได้ไปเบื่อเรื่องของผมกับพี่ปมไปซะก่อนไงครับ ส่วนเรื่องแอบดูคนงานนี่ผมก็มีครับแต่ให้ถึงเวลาก่อนค่อยเล่าเดี๋ยวเรื่องไม่ติดต่อกันนะครับ
ในวันที่โทรคุยกับไอ้เชียรนั้นที่ไอ้เชียรมันถามผมว่าแล้วผมหายไปไหนเพราะมันมาหาผมหลังจากซื้อน้ำกินแล้วแต่ไม่เจอผม
ผมก็เลยตัดสินใจบอกมันไปว่าผมไปตามมันที่โรงยิมแต่ไม่เจอมัน มันถามผมว่าแล้วมึงเข้าไปตามกูที่ห้องพักครูหรือเปล่า ผมเลยตอบมันไปว่า “ก็ไปดิ” เท่านั้นแหละมันอึ้งไปพักนึงแล้วเสียงมันก็เปลี่ยนโทนมาเป็นกระซิบว่า “แล้วมึงเห็นอะไรหรือเปล่า” ไอ้คำถามนี้แหละครับที่ทำให้ผมอึ้งไปเหมือนกัน ก็ไม่รู้จะตอบว่ายังไงเพราะถ้าตอบว่าเห็น มันก็ต้องถามต่อว่าแล้วไง ถ้าผมตอบว่ากูก็ดูแสดงว่าผมก็เป็นอย่างเดียวกับมัน แต่ถ้าตอบว่ากูไม่ได้ดู ผมก็คงอึดอัดเพราะไม่อยากเก็บไว้คนเดียวว่าผมก็ชอบผู้ชาย ไม่รู้ว่าพี่ๆกับป้าๆจะมีความรู้สึกแบบนั้นมั่งหรือเปล่านะครับเพราะผมตอนนั้นยังไม่เจนโลกเท่าตอนนี้ จะตอบแบบไม่สนว่าใครจะรู้ก็กลัวเสียเพื่อนอะครับ
ผมอึ้งไปนานเหมือนกัน ไอ้เชียรมันคงจะเดาได้ว่าผมก็เห็นครูพงษ์อาบน้ำแล้วก็ชักว่าวเหมือนมันแน่ๆเลย(ผมเดาเอานะครับว่าไอ้เชียรมันก็เห็นครูชักว่าว) ถึงไม่ยอมตอบมันไป มันก็เลยถามว่า “เฮ้ย..กูถามมึงตรงๆเลยนะไอ้ปอ กูไม่อยากเสียเพื่อนว่ะแต่ถ้ามึงคิดแบบเดียวกับกู กูก็อยากรู้” ผมก็ตอบมันไปว่า “มึงพูดอะไรของมึงวะ” มันก็เลยพูดว่า “กูเห็นครูพงษ์แก้ผ้าอาบน้ำว่ะ” แล้วมันก็เงียบเหมือนกับจะดูเชิงว่าผมจะตอบมันว่ายังไง
ตอนนั้นผมก็งงซิครับว่าจะเอาไงดีวะ แต่ไหนๆมันก็กล้าเริ่มถามแล้ว แล้วผมก็เคยเห็นมันว่าวด้วยก็แสดงว่ามันต้องชอบแบบเดียวกับผมแน่ๆก็เลยตัดสินใจตอบมันไปเลยครับว่า “แต่กูเห็นมากกว่ามึงเห็นว่ะ กูเห็นว่าวบินด้วยโว้ย” คราวนี้มันเงียบครับเงียบไปนานเลยจนผมเองใจเต้นตุ๊บๆแทบจะออกมานอกหน้าอกเลย แล้วผมก็คิดว่าเอาวะเป็นไงเป็นกัน ผมเลยบอกไปว่า “วันนั้นที่กูให้การบ้านมึงไปลอก กูก็ไปตามมึงที่ห้องพักครูเหมือนกัน......” ไอ้เชียรมันรีบตัดบทว่า “เออ...กูแอบดูครูพงษ์ชักว่าวว่ะ กูชอบดู ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมกูอยากดูแต่กูไม่รู้......” แล้วมันเงียบไปพักนึง ผมยังไม่ทันได้ตอบอะไรเลยมันก็รีบพูดขึ้นว่า “ไอ้-เอี้ย-....มึงก็ต้องเห็นกู......” “เออ.....กูเห็น แต่กูไม่ได้อยู่ดูว่าวมึงหรอก ว่าวงูตัวเล็กๆไม่น่าดูหรอก”
เท่านั้นมันก็ด่าผมว่า “ไอ้-เอี้ย-.......มาวัดกันดีกว่าว่างูใครใหญ่กว่ากัน” ผมเลยตัดสินใจถามมันตรงๆเลยครับว่า “เออ...มึงชอบผู้ชายเหรอวะ” คราวนี้มันเงียบครับ ผมก็เลยบอกมันไปว่า มึงก็เป็นเพื่อนกูตั้งแต่วันที่มึงช่วยไปซื้อของทำบอร์ดให้กูแล้ว ตอนนี้มึงก็ยังเป็นเพื่อนกูด้วย แต่อนาคตมึงต้องบอกกูเองว่ามึงยังอยากเป็นเพื่อนกูหรือเปล่า แต่กูเนี่ยยังอยากเป็นเพื่อนมึงเหมือนเดิมว่ะ
เราสองคนเงียบไปนานเลยครับ นานจนผมคิดจะขอโทษมันที่ถามคำถามนั้นไป แล้วผมก็ได้ยินมันตอบว่า “กูยังอยากเป็นเพื่อนมึงว่ะ แต่มึงไม่รังเกียจกูเหรอวะ” ผมก็ตอบมันไปว่า "กูก็ชอบแบบมึงแหละ แต่ไม่เคยบอกใคร” แล้วผมก็เล่าประสบการณ์ที่บ้านให้มันฟังตั้งแต่ต้นจนจบ แล้วก็บอกมันว่า “มึงหละ มีบ้างเปล่า” มันเงียบอีกแล้วครับ แล้วมันก็บอกว่า “มี” เท่านั้นผมก็หูผึ่งเลย คะยั้นคะยอให้มันเล่าจนมันยอมเล่าให้ฟังว่า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น