พวกลูกน้องนำตัวโชนและชาติที่สลบอยู่ไปขึ้นรถเพื่อไปยังโกดังเก็บไม้ ที่มีทั้งที่แปรรูปและยังไม่แปรรูปแห่งหนึ่งที่อยู่ภายในบริเวณโรงงานไม้แถวชานเมืองเนื้อที่กว่า 15 ไร่ ซึ่งเป็นโกดังที่ทางคุณโยธิน นายใหญ่เจ้าของบ่อนมีหุ้นส่วนอยู่ คนภายนอกไม่สามารถมองเข้ามาได้เลยว่าข้างในมีอะไร โดยคนงานหรือแรงงานภายในโรงไม้แห่งนี้เป็นผู้ชายวัยฉกรรจ์ทั้งสิ้นซึ่งมีอยู่ประมาณ 8-10 คนหมุนเวียนเปลี่ยนกันไป ช่วงอายุระหว่าง 17-25 ปี ล้วนแล้วแต่เป็นคนที่ทางบ่อนส่งมาใช้แรงงานที่นี่ทั้งหมดเพื่อชดเชยกับหนี้ที่แต่ละคนติดกับทางบ่อน ซึ่งคนของคุณโยธินจะเป็นคนคอยคุมการทำงานพวกมันอีกทีให้ได้ตามเป้าที่วางเอาไว้ในแต่ละวัน ไม่เพียงแต่จะใช้แรงงานเท่านั้นพวกมันแต่ละคนอาจกลายเป็นกระสอบทราย ของเล่นหรืออาจจะเป็นทาสกลายๆ เมื่อเข้ามาอยู่ที่นี่ เพราะไม่มีสิทธิ์มีเสียงใดๆ มีเพียงการรับคำสั่งและปฏิบัติตามเท่านั้น แม้แต่การชักว่าวซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ชายทุกคนกระทำกันเมื่อเกิดอารมณ์ความเงี่ยนความใคร่อยากปลดปล่อยก็ยังต้องขออนุญาตจากคนคุมที่นี่
หากจะว่าไปที่นี่ก็ไม่ต่างจากการค้ามนุษย์นี่เอง เพราะมีการบังคับขู่เข็ญ ให้ใช้แรงงาน การทำร้ายร่างกายและจิตใจต่างๆ รวมไปถึงการลงโทษ การทรมาน ซึ่งคนถูกกระทำไม่มีสิทธิ์ใดๆ ในการปกป้องศักดิ์ศรีตัวเอง จนกว่าหนี้ที่มีจะหมดลงไปจึงจะเป็นอิสระปล่อยตัวออกไป แรงงานที่นี่จะไม่มีสิทธิ์ในการใส่เสื้อใดๆ ตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นเสื้อยืด เสื้อกล้าม จะต้องเปลือยอกความเป็นชายทุกคนไม่ว่าจะล่ำหรือไม่ล่ำก็ตาม ใส่ได้แค่กางเกงบอลสีขาวบางๆ เท่านั้น กางเกงในไม่ต้องใส่ ซึ่งมองดูแล้วเหมือนเป็นบ๊อกเซอร์สีขาวบางๆ มากกว่า เพราะแทบจะปิดลำควยไม่มิดเลยเมื่อเวลาแรงงานพวกนี้มีเหงื่อออกตามตัวมากเวลาทำงาน ลำควยมองเห็นได้อย่างชัดเจน แต่แรงงานบางคนก็อาจจะไม่ได้ใส่อะไรเลยถ้าคนคุมไม่อยากให้มันใส่ ให้มันโชว์หุ่นความเป็นชายอย่างเต็มที่ทั้งยามควยอ่อนและควยแข็ง แต่อย่างน้อยแรงงานพวกนี้ก็ยังได้กินข้าวสองมื้อ อาบน้ำทำธุระส่วนตัวช่วงเย็นวันละครั้ง และให้ผ่อนคลายด้วยการดูหนังโป๊วันละเรื่องก่อนนอน ซึ่งทุกการกระทำของพวกมันไม่ว่าจะอยู่มุมใดของโรงงานได้โดนบันทึกภาพเอาไว้โดยที่พวกมันไม่รู้ตัวเพื่อขายให้กับเอเย่นต์หนังโป๊ต่างประเทศที่ชอบความเป็นธรรมชาติของนักแสดงจำเป็นที่ไม่ได้แสร้งสร้างสถานการณ์เหมือนนักแสดงหนังโป๊ทั่วไป สร้างรายได้ให้กับนายใหญ่เป็นอย่างมาก
แรงงานส่วนใหญ่ต่างก็ไม่กล้าขัดคำสั่งพวกคนคุมอยู่แล้ว เพราะความที่เป็นหนี้ของนายใหญ่เจ้าของบ่อน ไม่มีเงินที่จะเอามาคืนจึงต้องมาขายแรงงานเพื่อจะได้เป็นอิสระโดยเร็ววัน บางคนมีครอบครัวที่อยู่ข้างหลังรอยู่ และด้วยความที่แรงงานและผู้คุมทุกคนที่อยู่ที่นี่เป็นผู้ชายจึงไม่ค่อยได้คิดมากเมื่อไม่มีเสื้อใส่ ต้องเปลือยอกและใส่เพียงกางเกงบอลสีขาวบางๆในการทำงาน ตามเนื้อตัวจะเต็มไปด้วยเหงื่อที่ต้องเลื่อยไม้ ไสไม้ ยกไม้ หากคนไหนอู้หรือไม่ตั้งใจก็อาจจะโดนลงโทษแบบทหารกลายๆ ไม่ว่าจะเป็นการวิดพื้น ลุกนั่ง หมอบ กางมุ้ง นอนตากแดด ลงโคลน ซึ่งส่วนใหญ่ไม่มีใครอยากโดนแบบนั้นเพราะไม่อยากเหนื่อยเพิ่มขึ้น แต่ก็มีเพียงบางคนซึ่งมักจะเป็นเด็กหนุ่มวัยละอ่อนที่อยากจะลองดีจึงโดนผู้คุมทรมานจนสะบักสะบอมกันไปหนำซ้ำผู้คุมยังสั่งให้พวกที่อยากลองดีแก้ผ้าในโรงไม้ ปั่นควยให้แข็งแล้วผู้คุมก็เอาหนังยางไปรัดที่โคนควยของมัน เอาไม้หนีบไปหนีบที่หัวนมทั้งสองข้าง สั่งให้มันตะโกนว่า “ควยกูใหญ่ น้ำว่าวเยอะ” ไปตลอดการทำงานกว่า 2 ชั่วโมงของมัน ทำให้ไอ้เด็กหนุ่มหายซ่าไปโดยปริยายเพราะมันโดนผู้คุมเล่นงานควยตลอดเวลาทั้งบีบ ทั้งชัก ทั้งเหยียบ เล่นเอาจุกกันไปเลยทีเดียว จึงไม่ค่อยมีใครจะออกนอกกฎที่พวกมันตั้งเอาไว้
อย่างเรื่องการชักว่าวที่ถ้าอยากจะชักต้องขออนุญาตผู้คุมเสียก่อนว่าจะอนุญาตหรือไม่อนุญาต แต่ส่วนใหญ่จะอนุญาต ซึ่งมันก็ไม่ใช่อะไร เพียงแต่พวกมันจะให้ไปว่าวตามสถานที่ที่พวกมันจัดเตรียมไว้เพื่อจะได้ภาพที่คนชักว่าวสาวควยอย่างเต็มๆ ซึ่งพวกผู้คุมได้ตั้งกฎไว้ว่าทุกวันพวกแรงงานต้องชักว่าวอย่างน้อยคนละ 1 ครั้ง ส่วนใหญ่จะชักว่าวกันช่วงก่อนอาบน้ำหรือไม่ก็ช่วงดูหนังโป๊ สถานที่ในการชักของแต่ละคน ผู้คุมจะเป็นคนกำหนดเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เพื่อที่จะได้เก็บภาพการชักว่าวแบบเต็มๆ ซึ่งมีกล้องแอบถ่ายซ่อนเอาไว้ทุกจุด เอาไว้มาตัดต่อทำขายต่างประเทศอีกทางหนึ่ง แรงงานทุกคนจึงมีโอกาสที่จะเห็นควยกันและกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งมันก็อาจจะมีอาการเขินอายกันบ้างตอนที่ต้องโชว์ควยใหม่ๆ แต่เมื่อเกิดความเงี่ยนขึ้นมา ต่างก็ไม่อายกันเพราะชักว่าวกับผู้ชายมันเป็นของคู่กัน บางครั้งผู้คุมไม่ได้ให้แรงงานไปชักว่าวตามที่ต่างๆ เพียงคนเดียว แต่ให้ไปสองคนบ้างสามคนบ้างตามมุมต่างๆ ที่จัดไว้เพื่อจะได้ภาพการชักว่าวในหลายๆ แบบเอาไว้ขายต่างประเทศ จึงทำให้ต้องเห็นควยและไม่อายกันไปโดยปริยาย ซึ่งสถานที่นี้และการใช้แรงงานของพวกที่ติดหนี้นายใหญ่ที่ไม่มีเงินมาใช้ตามเวลาตั้งแต่เงินจำนวนหลักพันจนถึงหลักแสน ต่างหนีไม่พ้นกับวงเวียนแบบนี้
ไอ้โชนและไอ้ชาติต่างก็หนีสถานที่นี้ไปไม่ได้เช่นกัน พวกลูกน้องนายใหญ่ขับรถเข้ามายังโรงงาน พวกผู้คุมในโรงงานมารับช่วงต่อ เอาตัวไอ้โชนและไอ้ชาติที่ยังสลบอยู่มาวางที่ในโกดังอีกหลังที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก ซึ่งเป็นสถานที่ที่พวกแรงงานไม่มีสิทธิ์เหยียบย่างเข้ามาที่ตรงนี้ มีพื้นที่โล่งกว้างพอประมาณเพราะมีไม้ที่แปรรูปแล้ววางอยู่ภายในโกดังบ้าง พวกผู้คุมเข้าไปคุยกับลูกน้องนายใหญ่สักครู่หนึ่งถึงเด็กหนุ่มที่มาใหม่ทั้งสองคน ก่อนที่จะเดินจากกันไป ลูกน้องนายใหญ่ไปยังรถที่ขับมาส่งและขับออกไปในทันที ผู้คุมยืนมองแล้วหันไปพูดกับเพื่อนของมันเองว่า
“มึงได้ยินเหมือนที่กูได้ยินใช่มั้ยวะ ว่านายใหญ่สั่งให้ทำอะไรกับพวกมันบ้าง”
“เออ กูได้ยินเหมือนมึงแหละ คำสั่งคือคำสั่ง ไปเตรียมสถานที่ เตรียมกล้องที่จะแอบถ่ายให้พร้อมดีกว่า ถือซะว่าไอ้พวกนี้มันดันมีรูปร่าง หน้าตาเข้าขั้น อยากหลงเข้ามาบ่อนเอง ทำให้ตัวมันต้องมาเจอแบบนี้”
“เอางั้นเหรอวะ ก็ได้ หน้าที่คือหน้าที่ ไปเตรียมพร้อมดีกว่า จะได้เริ่มงานกันเลย” ผู้คุมต่างกำลังจะเดินไปทำงานในส่วนของตนเอง ทันใดนั้นรถเก๋งอีกคันก็มาจอดที่หน้าโกดัง ผู้คุมเดินออกไปรับ แล้วก็เหลือบไปเห็นเด็กหนุ่มสองคนนอนนิ่งอยู่ในนั้น
“มาเพิ่มเหรอวะ” ผู้คุมถามกับลูกน้องนายใหญ่
“ใช่ จัดการเหมือนกับสองคนนั้น นายใหญ่มั่นใจในฝีมือของพี่ ทำให้ดีแล้วกัน อย่าลืมส่งภาพที่ได้ไปให้ด้วย นายใหญ่มีรางวัลรออยู่” ลูกน้องนายใหญ่นำตัวเด็กหนุ่มสองคนลงจากรถเข้าไปภายในโกดัง และยืนคุยกันสักครู่ ไม่นานสองคนก็ลากลับขับรถจากไปเหมือนคันก่อนหน้านี้ ผู้คุมได้แต่ยืนมองเด็กหนุ่มทั้งสี่ด้วยความปลง
“จริงๆกูไม่อยากจะทำพวกมึงเลย แต่ละคนรูปร่างหน้าตาแม่งใช้ได้ แต่มันเป็นหน้าที่ของพวกกู ถ้าไม่ทำ กูก็อยู่ไม่ได้ หวังว่าพวกมึงคงให้อภัยกู” ผู้คุมพูดเปรยออกมา ก่อนที่จะนำตัวเด็กหนุ่มทั้งสี่ไปยังจุดที่เตรียมไว้ หัวหน้าผู้คุมที่รับผิดชอบงานนี้โดยตรงจากนายใหญ่เจ้าของบ่อนคือ ไอ้เอก ซึ่งมีอายุประมาณ 27 ปี รูปร่างกำยำ สูงใหญ่ มันทำหน้าที่ผู้คุมมากว่า 4 ปี มันไต่เต้ามาจากการเป็นแรงงานจนใช้หนี้หมดแล้วเข้าไปของานนายใหญ่ทำ นายใหญ่จึงให้คุมบ่อนและมาคุมที่โรงงานแห่งนี้ในที่สุด ไอ้เอกและลูกน้องของมันช่วยกันถอดเสื้อของเด็กหนุ่มทั้งสี่ที่ใส่ติดมาเผยให้เห็นช่วงท่อนบนของทุกคนก่อนที่ทุกคนจะถูกจับมัดในท่ายืน ชูมือทั้งสองข้างขึ้นบนศีรษะถูกมัดไว้กับเชือกที่ผูกไว้กับเสาด้านบน ขาทั้งสองข้างถูกมัดตรึงไว้ด้านล่างเช่นกัน ไอ้โชนและไอ้ชาติถูกจับยืนหันหน้าไปทางเดียวกัน ส่วนเด็กหนุ่มอีกสองคนถูกจับให้หันหน้ามาทางไอ้โชนและไอ้ชาติ มีพื้นที่ตรงกลางให้ห่างกันกว่า 2 ช่วงแขน ส่วนช่วงห่างระหว่างตัวประมาณ 1 ช่วงแขน เด็กหนุ่มทั้งสี่คนยังคงสลบไสลจากยาสลบอยู่ ไอ้เอกให้ลูกน้องเก็บของมีค่าของพวกมันทั้งหมด พร้อมทั้งถอดเข็มขัดที่ใส่ติดมากับกางเกงยีนส์ของพวกมันด้วย ไอ้เอกมองเด็กหนุ่มทั้งสี่คนอย่างพิจารณา
ไอ้โชน อายุ 22 ปี รูปร่างสูงโปร่งประมาณ 180 เซนติเมตร หน้าตาพอใช้ ผมรองทรง ผิวสีน้ำตาล มีขนรักแร้พอประมาณ มีขนรำไรตรงช่วงสะดือลึกลงไป หน่วยก้านดูสมส่วน กล้ามไม่ใหญ่มากแต่สมส่วน กล้ามท้องยังไม่ชัด
ไอ้ชาติ อายุ 22 ปี รูปร่างสูงโปร่งประมาณเกือบ 180 เซนติเมตร หน้าตาดูหล่อกว่าไอ้โชนเล็กน้อย คิ้วเข้ม ผมรองทรง ผิวสีน้ำตาล มีขนรักแร้ดกดำ หน่วยก้านดูสมส่วนและจะบึกกว่าไอ้โชนเล็กน้อย ช่วงอกดูล่ำนูนออกมา กล้ามชัดกว่าไอ้โชน มีกล้ามท้องพอให้เห็นระดับนึง
ไอ้โมทย์ อายุ 24 ปี รูปร่างสูงโปร่งประมาณเกือบ 180 เซนติเมตร หน้าตาคมเข้มทางแขก ปากอมชมพู มีหนวดบางๆ ผมรองทรง ผิวขาวไปทางน้ำตาลอ่อน คิ้วเข้ม มีขนรักแร้ดกดำและมีไรขนตั้งแต่ช่วงหน้าอกลงไป หน่วยก้านดูสมส่วน หุ่นพอๆ กับไอ้ชาติ แต่กล้ามจะชัดกว่า กล้ามท้องชัดเจน
ไอ้เม่น อายุ 24 ปี รูปร่างสูงโปร่งประมาณ 175 เซนติเมตร หน้าตาออกไปทางตี๋ ปากอมชมพู ผมสั้น ผิวขาว คิ้วเข้ม มีขนรักแร้ดกดำ หน่วยก้านพอๆ กับไอ้โชน หน่วยก้านดูสมส่วน กล้ามไม่ใหญ่มากแต่สมส่วน กล้ามท้องชัดเจน
ไอ้เอกพิจารณาเด็กหนุ่มทั้งสี่อีกครั้ง ก่อนจะค่อยๆ นึกหน้าตาของพวกมันทีละคนๆ ก็พบว่าพวกมันทั้งสี่ต่างก็เป็นตัวประกอบในละครหลายๆ เรื่อง ส่วนมากมักจะได้รับบทบู๊ หรือไม่ก็เป็นตัวประกอบในละครพีเรียดที่ต้องมีการโชว์หุ่น แต่มักไม่ค่อยเด่นเพราะหน้าตาพอใช้ไม่ถึงขั้นพระเอกหรือพระรอง แต่มีดีที่หุ่นสมส่วน เล่นเรื่องหนึ่งก็หายไปหลายเดือนกว่าจะเห็นลงจออีก ไอ้เอกประมวลเหตุการณ์เข้าก็เข้าใจได้ทันทีว่าทำไมเด็กหนุ่มพวกนี้ถึงต้องมาลงเอยแบบนี้
“เฮ้ย ไปหาน้ำมาราดตัวพวกมันซิ กูจะได้เริ่มงานซะที กูไม่อยากให้พวกมันอยู่ที่นี่นานโดยไม่จำเป็น งานที่พวกมันต้องไปทำมีคนที่รอพวกมันอยู่แล้ว รีบๆ จัดการ แล้วก็ปล่อยไปที่อื่น” ไอ้เอกสั่งลูกน้องก่อนที่ลูกน้องจะรับคำสั่งและเอาน้ำสาดเข้าไปที่ตัวของเด็กหนุ่มทั้งสี่คน เด็กหนุ่มทั้งสี่ต่างค่อยๆ ลืมตาและสะบัดหัวไปมาก่อนที่จะมองไปรอบๆ ไอ้โชนและไอ้ชาติซึ่งเป็นเพื่อนกันต่างมองกันไปมา ไม่ต่างกับไอ้โมทย์และไอ้เม่นที่รู้จักกันต่างมองกันไปมา แล้วก็ต่างคนก็มองไปยังฝั่งตรงข้ามซึ่งพอคุ้นหน้ากันอยู่
“ไอ้โชน ไอ้ชาติ” “พี่โมทย์ พี่เม่น” ทั้งสองต่างพูดชื่อออกมาแทบจะไล่เลี่ยกัน แต่ยังไม่ทันจะพูดอะไรต่อ เสียงไอ้เอกหัวหน้าผู้คุมที่นี่ก็ดังแทรกขึ้นมา
“พวกมึงทักทายกันเสร็จหรือยังว่ะ กูรำคาญ พวกมึงจะทักทายกันทำไมวะ ยังไงพวกมึงก็หนีไม่ไหนไม่ได้อยู่แล้ว”
“พวกมึงเป็นใคร แล้วมึงจับกูมาทำไม ปล่อยพวกกูนะโว้ย มึงจะทำอะไร ปล่อยพวกกู” เสียงไอ้โมทย์ดังลั่น
“ตุ๊บ ตุ๊บ” ลูกน้องไอ้เอก ประเคนหมัดเข้าใส่ช่วงท้องไอ้โมทย์ ทำเอาไอ้โมทย์จุกพูดอะไรไม่ออก
“มีใครยังอยากพูดอีกมั้ย กูจะได้จัดการทีเดียว พวกมึงไม่ต้องพูดอะไร มึงลองนึกด้วยตัวเองซิ พวกมึงติดเงินใครไว้แล้วหาให้ไม่ได้ นั่นแหละเป็นเหตุผลของพวกมึงที่ต้องมาที่นี่ ไม่เป็นไรกูบอกให้ก็ได้ คุณโยธิน เจ้าของบ่อนที่พวกมึงไปใช้บริการยังไงล่ะ พวกมึงติดหนี้แล้วก็หาเงินมาใช้ไม่ทัน พวกมึงเลยต้องเจอแบบนี้” ไอ้เอกพูดไปเดินเข้าไปหาไอ้โมทย์พลาง ถุยทำลายใส่หน้ามัน
“ตอนนี้ชีวิตพวกมึงเป็นของกู พวกมึงไม่มีสิทธิ์ใดๆ ทั้งสิ้น กูชื่อเอก เป็นหัวหน้าของที่นี่ ถ้ามึงไม่เชื่อฟังพวกกู มึงอาจจะเจออะไรแบบที่มึงคิดไม่ถึงทีเดียว” ไอ้เอกหยิบมีดปลายแหลมเดินไปหาไอ้ชาติ ก่อนที่จะใช้มีดลูบไล้ไปที่ใบหน้าและค่อยๆ เลื่อนลงมาผ่านช่วงอกเปลือยเปล่าของมัน เรื่อยไปจนผ่านกางเกงยีนส์ลงไปหยุดตรงช่วงเป้าของมัน” ไอ้ชาติไม่พูดใดๆ ออกมาทั้งสิ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น