(6) ชีวิตในมหาวิทยาลัย
ผมกับก้อยมีอะไรกันมาเรื่อยๆแม้จะเป็นเพียงการถูไถกันแต่เพียงภายนอกเท่านั้นแต่ผมก็เริ่มรู้สึกว่าก้อยนั้นมีความสำคัญเป็นพิเศษในชีวิต
ของผม มากกว่าเพื่อนคนอื่นๆเราสองคนสนิทกันมาก ไปไหนไปด้วยกันเสมอ แม้แต่ตอนเลือกคณะในการสอบเอนทรานซ์เราก็ยังเลือกเหมือนๆกันด้วยหวังว่าอาจจะได้เรียนด้วยกันอีก
ผมเริ่มตระหนักถึงความผูกพันที่เรามีต่อกันก็ตอนที่ผลเอนทรานซ์ประกาศออกมาก้อยสอบติดมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ ส่วนผมสอบติดมหาวิทยาลัยต่างจังหวัดเราสองคนรู้สึกใจหาย เพราะนั่นหมายความว่าถึงเวลาที่เราจะต้องแยกจากกันแล้ว
เนื้อหาถูกซ่อนไว้
ผมเริ่มสังเกตความรู้สึกของตนเอง มันเป็นความรู้สึกแปลกๆ กับเพื่อนคนอื่นซึ่งจัดว่าสนิทสนมกัน ผมก็ไม่ได้มีความรู้สึกต่อการแยกจากกัน
สักเท่าไร แต่กับก้อยผมกลับแคร์มาก ทำไมจึงเกิดความรู้สึกแปลกๆเช่นนี้กับผมก็ไม่รู้
“ไม่เป็นไรน่า ก้อย ปิดเทอมเราก็ยังมีโอกาสกลับบ้านได้เจอกัน” ผมปลอบก้อย แต่ตัวเองก็รู้สึกใจหายเหมือนกัน
“อยู่คนละจังหวัดก็ยังติดต่อกันได้เสมอ อย่าคิดมากสิ”
“เราไม่อยากแยกจากนายเลยว่ะ” ก้อยเปิดเผยความรู้สึกหรือนี่คือความรัก ผมนึกในใจ เพราะความรู้สึกที่ผมมีต่อก้อยตอนนี้มันช่างคล้ายกับที่ผมเคยรู้สึกกับสุดาเหลือเกิน
เป็นไปไม่ได้น่า ผู้ชายจะรักกันแบบนั้นได้ยังไง ฟ้าผ่าตาย ผมพยายามไม่ยอมรับความรู้สึกของตนเองและแล้ว ก็ถึงวันที่เราต้องแยกย้ายจากกัน ก้อยเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ส่วนผมเดินทางไปสู่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในภาคเหนือ วันสุดท้ายที่เราอยู่ด้วยกันมีแต่ความเศร้า
ที่มหาวิทยาลัย ผมได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆมากมาย ชีวิตในมหาวิทยาลัยแห่งนี้แตกต่างกับชีวิตนักเรียนในชนบทค่อนข้างมาก มันเป็นชีวิตที่ปลกใหม่ เร้าใจ และสนุกสนาน ยิ่งเป็นนักศึกษาอยู่หอพัก ไม่ต้องมีผู้ปกครองคอยควบคุม ชีวิตก็ยิ่งมีสีสันมากขึ้น แต่แม้ผมจะสนุกกับชีวิตที่นี่แต่ผมก็มักคิดถึงก้อยเสมอๆ …
คณะที่ผมเรียนมีผู้หญิงเรียนค่อนข้างมาก ประมาณครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียว ที่หน้าตาสวยๆก็มีอยู่หลายคน ใครที่เพื่อนๆยกให้เป็น “ดาวปี 1” ก็จะมีคนรุมหมายปองค่อนข้างมาก นี่ถ้าเป็นสมัยที่ผมเรียน ม.5 ป่านนี้ผมคงต้องพยายามหาทางควงดาวปี 1 ให้ได้ แต่ตอนนี้ผมกลับไม่ค่อยสนใจเท่าที่ควร แต่กลับชอบมองดูเพื่อนชายด้วยกันที่มีหุ่นดีๆมากกว่า โดยเฉพาะคนที่มีหุ่นคล้ายๆก้อย ผมเริ่มสงสัยตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆว่าผมกำลังกลายเป็นอะไรกันแน่ …
หลักจากเรียนไปได้ประมาณครึ่งเทอม ผมก็ได้รู้จักกับเพื่อนใหม่มากมาย มีอยู่วันหนึ่ง เป็นเวลาระหว่างชั่วโมง ผมต้องเดินไปเรียนยังอีกตึกหนึ่งในวิชาถัดไป ระหว่างเดินผมรู้สึกปวดฉี่จึงเดินไปเข้าห้องน้ำ
ห้องน้ำนั้นเป็นห้องน้ำเล็กใต้ตึก มีโถให้ยืนฉี่เพียง 2 โถเท่านั้น และระหว่างโถก็ไม่มีอะไรกั้นเสียด้วย ระหว่างที่ผมกำลังฉี่อยู่นั่นเอง ก็รู้สึกว่ามีอีกคนมายืนฉี่อยู่ข้างๆ
เมื่อฉี่ไปได้สักพัก ผมเริ่มผิดสังเกต เพราะรู้สึกว่าคนที่ยืนข้าง ๆ นั้นกำลังเหลือบมองเจ้าน้องชายของผมอยู่ ผมเหลือบมองนายคนนั้น เห็นใส่เสื้อขาว ก็เลยคิดว่าเป็นปี 1 เหมือนกัน แต่ยังเห็นหน้าไม่ถนัด ผมรู้สึกอายก็เลยพยายามเอามือบังเจ้าน้องชายไว้ (หลังจากที่ผมมีอะไรกับก้อย ปมด้อยเรื่องเจ้าน้องชายของผมก็ลดน้อยลงไปพอสมควร) แต่เจ้าน้องชายของผมมันไม่ร่วมมือด้วย เพราะมันกลับตื่นคนขึ้นมา เลยเกิดอาการสู้ ลองมันสู้ขึ้นมาแล้วเอามือบังยังไงก็ไม่มิดหรอกครับ
ผมรีบฉี่ให้เสร็จและรีบเก็บเจ้าน้องชายก่อนที่มันจะแข็งตัวเต็มที่ เพราะหากรอให้มันแข็งตัวเต็มที่แล้วผมจะเก็บมันไม่ลงเลย แต่ก็ช้าไปเสียแล้ว เพราะขนาดมันยังแข็งไม่เต็มที่ก็ใหญ่จนเก็บยากแล้ว ต้องทุกลักทุเลเล็กน้อยกว่าจะเก็บมันเข้ากางเกงได้ และถึงรูดซิปกางเกงแล้วแต่มันก็ยังโป่งตุงอยู่ในกางเกงนั่นเอง ผมเลยต้องเอาชายเสื้อออกมานอกกางเกงเพื่อคลุมมันไม่ให้น่าเกลียด
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นอยู่ในสายตาของเพื่อนร่วมโถฉี่ของผมจนหมด ไหนๆก็ไหนๆ เมื่อเขาแอบมองดูของผมได้ ผมก็เลยเหลือบมองดูเจ้าน้องชายของเขาบ้างเพื่อไม่ให้ขาดทุน
ภาพที่ผมเห็นตอนนั้นก็คือเจ้าน้องชายของเขาก็กำลังแข็งโด่ ท่าทางมันคงจะเก็บในกางเกงไม่เข้าเหมือนกันเพราะยาวพอควร แต่ดูท่าทางเจ้าของมังกรตัวนั้นก็ไม่ได้รีบร้อนที่จะเก็บมันแต่อย่างใด
ผมรู้สึกว่านายคนนี้คงจะสนใจเจ้าน้องชายตัวยักษ์ของผม ก็เลยชักอายๆ จึงรีบล้างมือและเดินออกมาจากห้องน้ำเพื่อจะไปเรียนอีกตึกหนึ่ง
เดินไปได้พักเดียว นายคนนั้นก็เดินตามมาจนทันกับผม
“หวัดดี ผมชื่อฉัตรนะ เรียนอยู่คณะบริหาร ปี 1” นายคนนั้นแนะนำตัว
“หวัดดีครับ ผมชื่อหนึ่ง ปี 1 เหมือนกัน” ผมทักตอบ ตอนที่อยู่ในห้องน้ำเห็นแต่เพียงด้านข้าง คราวนี้ได้มีโอกาสมองเขาอย่างเต็มตา ฉัตรสูงโปร่ง ผิวขาว แบบเดียวกับก้อยเลย แต่ฉัตรผอมกว่า หน้าตาก็ดูดีแม้ว่าจะหล่อสู้ก้อยไม่ได้
“คุณอยู่บริหารทำไมมาเดินแถวนี้ล่ะ” ผมถามด้วยความแปลกใจ มิน่าล่ะที่ไม่เคยเห็นนายคนนี้มาก่อน ที่แท้อยู่คนละคณะนี่เอง
“ผมมาหาเพื่อนที่คณะศึกษา” ฉัตรบอก แล้วพูดด้วยน้ำเสียงหัวเราะว่า “ของคุณนี่ใหญ่จริงๆเลยนะ”
ผมอาย รู้สึกหน้าร้อนวูบ
“ไม่ต้องอายน่า ผมแค่ล้อเล่น คุณน่าจะภูมิใจด้วยซ้ำนะ” ฉัตรพูดต่อ ผมรู้สึกสะดุดใจ คำพูดนี้คล้ายกับคำพูดของก้อยเลย
“คุณมาหาใครน่ะ” ผมเสไปเรื่องอื่น
“แอ๋ว คุณรู้จักไหม” ฉัตรตอบ
“ไม่รู้หรอก ปี 1 คณะศึกษามีแอ๋วหลายคน” ผมตอบ และเมื่อเดินมาถึงตึกเรียนวิชาต่อไปของผม ผมก็ขอตัว
ชั่วโมงนั้นผมไม่ค่อยมีสมาธิเรียนนัก ใจคอยคิดถึงก้อยอยู่เรื่อย ทำไมอยู่ดีๆผมนึกถึงก้อยขึ้นมาก็ไม่รู้ เมื่อตอนเปิดเทอมใหม่ๆเราโทรศัพท์คุยกันหลายครั้ง แต่หลังจากนั้นก็ไม่ค่อยได้โทรคุยกันอีกเพราะชีวิตปี 1 แต่ละคนก็มีกิจกรรมค่อนข้างมาก รวมทั้งมีเพื่อนใหม่มากด้วย เลยไม่ค่อยมีโอกาสคุยกันเท่าไรนัก
หลังจากหมดชั่วโมงนั้นก็เป็นเวลาพักเที่ยง เมื่อผมเดินไปโรงอาหารซึ่งอยู่อีกตึกหนึ่งไม่ไกลกันนัก ผมก็เจอนายฉัตรอีก
“อ้าว หนึ่ง เจอกันอีกแล้ว” ฉัตรทัก ผมทักตอบ แล้วฉัตรก็เดินเลยไป คงเห็นผมเดินกับเพื่อนๆเลยไม่ได้คุยอะไร
เย็นนั้น ตอนผมเดินกลับหอพัก ผมก็เจอนายฉัตรอีก แปลกจริง อยู่มาตั้งครึ่งเทอม ไม่เคยเจอกันสักครั้ง พอวันนี้เจอกันก็เจอติดๆกันถึง 3 หน
“หวัดดีหนึ่ง เจอกันอีกแล้ว” ฉัตรทักอีก
“หวัดดีฉัตร จะไปไหนเนี่ย” ผมถาม
ฉัตรบอกว่ามาหาเพื่อนที่หอ แต่พอผมถามชื่อ (นักศึกษาในหอจะรู้จักกันหมด) ฉัตรก็เฉไฉไปเรื่องอื่น แล้วก็ชวนผมคุยโน่นคุยนี่ ฉัตรเป็นคนคุยสนุกทีเดียว
หลังจากนั้นผมก็ได้เจอฉัตรที่คณะของผมบ่อยๆ ทุกครั้งที่เจอกันฉัตรจะบอกว่ามาหาเพื่อน คนโน้นบ้าง คนนี้บ้าง ไม่รู้ว่าจะมาหาอะไรกันนักหนา ทำยังกับว่าฉัตรเรียนที่คณะนี้ แต่ทุกครั้งที่ผมพบฉัตรก็ไม่เห็นฉัตรอยู่กับเพื่อนที่ไหน เจอทีไรก็เห็นเดินคนเดียวทุกที
ตอนกลางวันเราไม่ค่อยได้คุยกันนัก เพราะผมก็มีเพื่อนกลุ่มของผม และดูเหมือนกับว่าฉัตรไม่ค่อยอยากเข้ากลุ่มเพื่อนของผมเท่าไรนัก แต่ถ้าเราเจอะกันตอนเย็นแถว ๆ หอพักเรามักจะคุยกันได้นานๆ หลังจากที่รู้จักกันสักพัก ผมก็เริ่มรู้สึกว่าฉัตรมีอะไรหลายอย่างที่คล้ายก้อย มันเป็นอะไรบางอย่างที่เพื่อนคนอื่น ๆ ไม่มี คงมีแต่เฉพาะก้อยกับนายฉัตร แต่ผมก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่ามันคืออะไร แต่ก็เริ่มมีความรู้สึกที่ดีต่อฉัตรมากขึ้น
เพียงเดือนเดียว เราก็สนิทกันยังกับเป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยมัธยม แต่ฉัตรจะสนิทเฉพาะกับผมคนเดียวเท่านั้น ไม่ค่อยสนิทกับเพื่อนในกลุ่มของผมเท่าไรนัก ส่วนผมเองก็ไม่รู้จักเพื่อนของฉัตรที่คณะบริหารเหมือนกัน
อยู่มาวันหนึ่ง ช่วงนั้นเป็นช่วงปลายภาค ใกล้สอบไล่กันแล้ว ผมรู้สึกหงุดหงิดใจที่รูมเมทของผม (ห้องหนึ่งอยู่กัน 4 คน) มันชอบคุยกัน ทั้งๆที่เป็นช่วงดูหนังสือเตรียมสอบ ก็ไม่ได้โกรธอะไรมันหรอกครับ เพื่อนกันอยู่กันหลายคนก็อดไม่ได้ที่จะคุยกัน แต่ผมก็ต้องการความสงบมากกว่านี้เพื่อดูหนังสือ
ผมบ่นเรื่องนี้ให้ฉัตรฟัง ฉัตรก็เลยเสนอว่าให้ลองมาค้างที่บ้านฉัตร เผื่อว่าจะดูหนังสือได้มากขึ้น ฉัตรไม่ใช่คนจังหวัดนี้ แต่บังเอิญอากับอาสะใภ้มาตั้งรกรากที่นี่ ฉัตรก็เลยได้อาศัยพักอยู่กับอาในเมืองขณะที่เรียนที่นี่ ผมเองก็เกรงใจอาของฉัตร เพราะเกรงว่าจะไปรบกวน แต่ฉัตรบอกว่าไม่ต้องเกรงใจเพราะอาใจดี อีกทั้งยังเดินทางขึ้นล่องกรุงเทพฯบ่อยๆ บางทีก็ไม่อยู่บ้านหลายวัน ผมก็เลยตกลง
ฉัตรมีห้องส่วนตัว มีโทรทัศน์และเครื่องเล่นวีดีโอส่วนตัวในห้องด้วย ตอนที่ผมไปอยู่นั้นอาและอาผู้หญิงของฉัตรไม่อยู่ ไปกรุงเทพฯพอดี ผมจึงนอนดูหนังสือที่บ้านของฉัตรด้วยความสบายใจ
ฉัตรเองก็ท่องหนังสืออย่างเคร่งเครียด ดูหนังสือไปๆมาๆผมก็ชักง่วง เลยขอฉัตรเปิดทีวีดู
“เราว่านายดูไอ้นี่ดีกว่า” ฉัตรบอก ว่าแล้วก็เดินไปหยิบม้วนวีดีโอมาจากที่ซ่อนที่หลังตู้หนังสือมาส่งให้ผมดู
ผมรับมาดูด้วยความสนใจ มันเป็นวีดีโอหนังเอ๊กซ์ครับ หน้าปกเป็นรูปชายกับหญิงกำลังร่วมรักกันอยู่
ผมสนใจวีดีโอม้วนนี้ทันที เพราะตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยดูหนังเอ๊กซ์เลย ก็เด็กบ้านนอกนี่ครับ จะหาจากที่ไหนมาดู เมื่อฉัตรเห็นผมสนใจก็เลยเปิดให้ดูเสียเลย
หนังเอ๊กซ์เรื่องนี้เปิดฉากมาก็มีหนุ่มสาว กำลังบรรเลงเพลงสวาทกันอย่างไม่พูดพร่ำทำเพลง ฝ่ายชายกำลังอัดลูกสูบใส่กระบอกสูบของหญิงสาว ปากก็ร้องครางเสียงกระเส่า เพียงฉากแรกผมก็เกิดอารมณ์ขึ้นมาทันที น้องชายในกางเกงแข็งจนตุงกางเกงออกมา ตอนนั้นไม่ได้ใส่เสื้อเสียด้วย เพราะอากาศร้อน เลยใส่กางเกงขาสั้นกันคนละตัว เป้ากางเกงที่โป่งพองออกมาก็เลยเห็นได้ชัดเจน นายฉัตรที่กำลังมองอยู่เห็นผมอายจึงบอกว่า
“ไม่ต้องอายหรอกวะหนึ่ง อึดอัดนักก็ปล่อยมันออกมาเถอะ” ฉัตรว่า พูดไม่พูดเปล่า ฉัตรถอดกางเกงของตัวเองออกมา ทั้งกางเกงขาสั้นและกางเกงใน เมื่อกางเกงหลุดจากเอว น้องชายของฉัตรก็ดีดผึงออกมาทันที
“อยู่บ้านบางทีเราก็แก้ผ้าดูหนังเอ๊กซ์ แล้วก็…” ฉัตรไม่พูดต่อ
ฉัตรทำให้ผมหวนนึกถึงก้อยอีกแล้วสภาพตอนนี้คล้ายๆกับตอนที่ผมอยู่กับก้อยเลย ความรู้สึกประหลาดๆเกิดขึ้นในใจของผมอีกผมตัดสินใจถอดกางเกงออกมาบ้าง
เมื่อผมอยู่ในสภาพเปลือย น้องชายก็ขยายตัวเต็มที่มันยาวและใหญ่กว่าเมื่อครั้งแรกที่ฉัตรเห็นเสียอีกเพราะตอนนั้นมันยังแข็งไม่เต็มที่ฉัตรจ้องมองน้องชายของผม อ้าปากค้าง อาวุธของฉัตรแข็งเกร็งชูชัน หัวบานเบ่ง แม้ฉัตรไม่พูดอะไรแต่ผมก็รู้ว่าเขากำลังเกิดอารมณ์กับภาพที่เห็นเต็มที่
ประสบการณ์ ต่าง ๆ รวบรวมมาที่นี้ที่เดียว (เกย์)
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
เด็กหอ 8 CP
มื่อกานต์เก็บของจากห้องตัวเองเสร็จ จึงมาหาอาจารย์ภัทรที่ห้อง ส่วนภัทรอาบน้ำทำความสะอาดเนื้อตัวเรียบร้อย ควยของภัทรแข็งรอกานต์อยู่นานแล้ว &...
-
หลังเสียงเพลงชาติจบลง ร่างสูงขาวของหนุ่มนักเรียนชั้น ม.6 ในฐานะประธานนักเรียนของโรงเรียนแห่งนี้เดินขึ้นกล่าวกับนักเรียนทุกระดับ ชั้นถึงเรื่...
-
มาถึงตอนนี้ ไอ้หมาเสือ รู้สึกตัวเองแล้วว่า มันกำลังหลงใหลดำดิ่งลงใน “โลกของทาสหมา” อย่างถอนตัวไม่ขึ้นเสียแล้ว ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับมันในช...
-
ทัพ หนุ่มนักเรียนวิศวะ ผู้มีความหล่อระดับเดือนคณะ เป็นนักกีฬามหาลัย ชอบออกกำลังกาย ชอบว่ายน้ำ ชอบเล่นฟุตบอล เป็นที่หมายตาของสาวๆหลายๆคน ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น