(2)รักครั้งแรก
หลังจากการเที่ยวซ่องครั้งนั้น พวกเพื่อนๆที่ไปมาแล้วต่างก็ติดใจพากันไปอีก เพื่อนในห้องที่ไม่เคยไปก็ทยอยกันติดสอยห้อยตามคนที่ไปแล้วมั่งไปๆมาๆก็ไปเที่ยวซ่องกันกว่าครึ่งห้องแล้ว แต่ก็ไม่ได้ไปบ่อยหรอกครับเพราะว่าไปแต่ละทีต้องใช้เงินเด็กต่างจังหวัดนั้นไม่ได้มีฐานะแบบเด็กกรุงเทพฯหรอกครับ ก็เลยไปได้ไม่บ่อยนักแต่ผมไม่ได้ตามไปด้วยอีกเลยเพราะเสียความรู้สึกจากการเที่ยวครั้งก่อนมากแต่ก็อ้างกับเพื่อนๆว่าไม่มีเงิน เพื่อนๆก็พากันแปลกใจว่าชวนทีไรก็ไม่มีเงินสักทีในขณะเดียวกันผมก็เริ่มสังเกตว่าก้อยก็ไม่เคยไปเที่ยวซ่องกับเพื่อนๆเลยทั้งๆที่บ้านก็มีฐานะดี
เนื้อหาถูกซ่อนไว้
และแล้ว วันหนึ่ง ความลับของผมก็แตก เพราะเพื่อนของผมคนหนึ่งบังเอิญได้ไปนอนกับผู้หญิงคนที่เคยปฏิเสธผม แล้วไอ้เพื่อนผมนี่มันช่างคุยเสียด้วย ชวนผู้หญิงเขาคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ จนในที่สุดผู้หญิงเขาก็เล่าว่าเคยมีแขกคนหนึ่ง เคใหญ่ยังกับม้า จนเธอไม่กล้านอนด้วย
พอพูดถึงม้าเท่านั้นแหละ มันก็นึกถึงผมขึ้นมาทันที (เพื่อนๆก็ยังเรียกผมว่าไอ้ม้ามาตลอด) ไล่เรียงกันจนในที่สุดก็ได้รู้ความจริงว่าคืนนั้นเกิดอะไรขึ้นกับผมในซ่อง และทำไมผมถึงได้หน้าบูดในวันต่อมา
เท่านั้นแหละครับ เจ้าเพื่อนปากสว่างมันก็เอาไปโพนทนาในห้องเรียนทันที สมัยนั้นก็ยังเด็กๆกัน เป็นวัยคะนอง เรื่องที่จะมารักษาน้ำใจหรือความรู้สึกกันไม่ค่อยคิดถึงหรอก เอาแต่ความสนุกสนาน ผมก็เลยกลายเป็นตัวตลกประจำห้องไปอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้ใครๆก็พากันตื่นเต้นมาขอดูเคผมกันใหญ่ ผมก็ได้แต่เดินหนี แต่ในใจนั้นทั้งเจ็บ ทั้งอาย ผมรู้สึกว่าเจ้าน้องชายประจำตัวของผมมันเป็นปมด้อยอย่างใหญ่หลวงในชีวิต ผมเคยคิดมากจนต้องนอนร้องไห้ทั้งคืน
ในขณะที่ผมต้องขมขื่นใจกับการล้อเลียนของเพื่อนๆนั้นเอง ก้อยเป็นคนเดียวที่ไม่เคยล้อผมเลย ทั้งไม่ล้อและไม่ถามถึงเรื่องเคของผม ไม่ถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในซ่อง มีแต่คอยชวนคุยเรื่องอื่นๆที่ทำให้ผมสบายใจขึ้น ผมเองแม้จะสนิทกับก้อย แต่ก็รู้สึกอายที่จะพูดถึงเรื่องปมด้อยของตัวเอง ก็เลยไม่เคยพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องความไม่สบายใจของผมเลย ทั้งๆที่ใจจริงแล้วก็อยากให้มีคนมาฟังผมระบายอยู่เหมือนกัน
เมื่อผมจบชั้น ม.5 ผมได้ไปทำงานในตัวเมืองในช่วงปิดภาคฤดูร้อน เพื่อหารายได้พิเศษ เป็นพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหาร ที่นั่นผมได้รู้จักกับนักเรียนหญิงที่มาทำงานหารายได้พิเศษช่วงปิดเทอมเช่นกัน เธอชื่อสุดา
สุดาเป็นคนน่ารัก เธอเป็นนักเรียนของโรงเรียนสตรีประจำจังหวัด ดังนั้นจึงรอบรู้และคล่องกว่าผมมาก สุดาเป็นคนคุยเก่ง พูดจาคมคาย เธอมักชวนผมคุยนั่นคุยนี่เสมอ นานวันเข้าก็เลยกลายเป็นความสนิทสนมกัน
เมื่อทำงานที่ร้านอาหารนั้นได้ 2 เดือน ผมก็รู้สึกว่าผมหลงรักสุดาเข้าให้แล้ว สุดาน่ารักถูกใจผมไปหมดทุกอย่าง ผมอยากขอให้เธอเป็นแฟนของผมแต่ก็ไม่กล้าพูด เราสนิทกันมากขึ้น บางวันหลังเลิกงานตอนเย็น ผมมักพาสุดาไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะเสมอ ที่นั่นบรรยากาศร่มรื่น ตัวสวนมีพื้นที่กว้างมาก มีบึงน้ำอยู่ตรงกลาง รอบๆปลูกทั้งไม้พุ่มและไม้ขึ้นต้นเต็มไปหมด เธอกับผมชอบมานั่งเล่นริมน้ำและคุยกัน
ใกล้เปิดเทอมเต็มทีแล้ว อีกไม่กี่วันเราก็ต้องเลิกทำงานที่ร้านอาหารและแยกย้ายกันไปเรียนต่อตามเดิม เย็นวันหนึ่งผมจึงตัดสินใจหยั่งเชิงสุดา ดูว่าเธอชอบผมและคิดจะเป็นแฟนกับผมหรือไม่ ผมชวนเธอไปนั่งคุยที่สวนสาธารณะตามเดิม แต่วันนั้นผมเลือกนั่งบริเวณที่มีพุ่มไม้หนาทึบเป็นพิเศษเพื่อจะได้พร่ำพรอดกับเธอโดยไม่มีใครเห็น
ผมกล้าๆกลัวๆอยู่นาน ในที่สุดเห็นว่าค่ำแล้ว หากไม่ทำอะไรเลยวันนี้ก็คงไม่มีโอกาสหยั่งใจเธอ ผมจึงตัดสินใจเอื้อมมือไปจับมือสุดา (ตั้งแต่คบกันผมยังไม่เคยจับมือถือแขนเธอเลยครับ) สุดานิ่งเฉย หันมายิ้มให้ ผมได้ใจเลยเอามือเธอมากุมไว้ในสองมือของผม
เมื่อเห็นว่าสุดามีใจให้ผม ผมจึงเอาแขนไปโอบเธอไว้ สุดาหันมายิ้มให้แล้วพูดว่า
“อยากให้หนึ่งทำอย่างนี้มานานแล้วล่ะ ทีแรกดายังนึกว่าหนึ่งไม่ชอบดาเสียอีก”
ได้การ เมื่อหัวใจตรงกันอย่างนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากแล้ว ผมโอบกระชับเธอเข้ามาอีก ขณะเดียวกันสุดาก็ซบหน้าลงที่หน้าอกผม ใจผมเต้นตึ้กตั้กจนสุดารู้สึกได้
“หนึ่งตื่นเต้นมากเหรอ” สุดาพูดปนหัวเราะ
“ฮื่อ ใช่” ผมยิ้มอายๆ ดูสุดาจะเขินอายน้อยกว่าผมเสียอีก คงเป็นเพราะเธอเป็นเด็กในเมืองนั่นเอง จึงประสีประสาในเรื่องรักมากกว่าผม
“หนึ่งชอบดานะ ชอบมากเลย หนึ่งจริงจังกับดามาก แต่ไม่รู้ว่าดาชอบหนึ่งไหม เรา เรา เราจะเป็นแฟนกันได้มั้ย”
“ดาก็ชอบหนึ่งเหมือนกัน ที่มานั่งคุยกันแบบนี้แล้วยังไม่เรียกว่าเป็นแฟนกันอีกเหรอ”
ผมดีใจมากที่สุดาไม่รังเกียจเด็กชาวสาวนอย่างผม ผมจับมือสุดาขึ้นมาหอมเบาๆ อย่างที่เคยอ่านจากในนวนิยาย
“ดาชักง่วงแล้วล่ะ” สุดาพูดยิ้มๆ
“ยังงั้นเรารีบกลับกันก็แล้วกัน” ผมอึ้ง พูดด้วยความเสียดาย เพราะเราเพิ่งประสานใจเข้าหากัน ต้องแยกย้ายกลับบ้านกันเสียแล้ว
“ไม่เอา เราอยากนอนตรงนี้ เย็นสบายดี”
“จะนอนได้ยังไง หัวหูเปื้อนหมดสิ เสื่อก็ไม่มี หมอนก็ไม่มี” ผมว่า
“โธ่เอ๊ย หนึ่งล่ะก็ มีอะไรดาก็หนุนได้”
คราวนี้ผมค่อยเข้าใจว่าสุดาหมายถึงอะไร เธอคงไม่ได้อยากกลับไปนอนที่บ้านจริงๆหรอก ไอ้ผมมันซื่อบื้อ ทีแรกไม่ทันคิด แต่ไม่เป็นไร คิดได้ตอนนี้ก็ยังไม่สาย
“ยังงั้นดานอนหนุนตักหนึ่งก็แล้วกัน” ผมว่า เด็กวัยรุ่นสมัยนี้ก็ไวไฟยังงี้ละครับ
สุดาไม่อิดออดแม้แต่น้อย ขยับตัวนิดหน่อยแล้วล้มลงนอนบนตักผมทันที ตอนนั้นเป็นเวลาพลบค่ำแล้ว แถมยังอยู่ในพุ่มไม้ รับรองไม่มีใครเห็นเราสองคนแน่ ดูเธอก็ไม่ได้เหนียมอายเท่าไร คงเห็นเป็นเรื่องธรรมดาของวัยรุ่นในยุคนี้ ยิ่งเธอเป็นเด็กในเมืองอีกด้วย วิถีชีวิตจึงค่อนข้างทันสมัย
สุดานอนหนุนตักผมเพียงครู่เดียวผมก็รู้สึกเกิดอารมณ์เพศขึ้นมาอย่างรุนแรง เร็วเท่าความคิด เจ้าน้องชายประจำตัวผมมันก็ขยายตัวทันที เนื่องจากน้องชายของผมยาวมาก มันจึงดันกางเกงจนตุง ผมอายมาก พยายามขยับหัวสุดาออกไปให้พ้นจากรัศมีของเจ้าน้องชายผม แต่ช้าไป เธอรู้สึกถึงมันได้เสียแล้ว
“อะไรแข็งๆน่ะ” สุดาลุกขึ้นมา ผมอายแทบแทรกแผ่นดิน เธอคงรู้แต่ยังแกล้งถาม คงอยากเย้าผมเล่น
เมื่อเธอเห็นผมอายมาก คงกลัวว่าผมจะเสียหน้า จึงพูดกับผมว่า
“ไม่เป็นไรหรอกหนึ่ง มันของธรรมชาติ ไม่น่าอับอายอะไรหรอก”
ผมรู้สึกดีขึ้นบ้าง แต่เจ้าน้องชายประจำตัวก็ยังไม่ยอมสงบ มันยังคงแข็งตุงกางเกงอยู่อย่างนั้น สุดาก็เห็นเพราะร่องรอยของมันเห็นได้ชัดเจนมาก
“หนึ่ง สุดาขอลองจับดูหน่อยได้ไหม เคยเรียนแต่ในวิชาสุขศึกษา แต่ไม่เคยจับของผู้ชายจริงๆเลย” สุดาพูด คงนึกอยากรู้อยากเห็นตามประสาวัยรุ่นยุคโลกาภิวัตน์ ผมทั้งอายและตกใจ รีบปฏิเสธไปทันที แต่สุดายังออดอ้อน
“น่า นะ หนึ่งนะ เป็นแฟนกันจับแค่นี้ไม่เป็นไรหรอก เรื่องธรรมดาจะตาย เพื่อนๆดาบางคนมีอะไรกับแฟนมากกว่านี้อีก หรือหนึ่งไม่คิดว่าดาเป็นแฟน”
โดนไม้นี้เข้าผมก็ปลื้มน่ะสิครับเพราะนั่นเท่ากับว่าสุดายอมรับผมเป็นแฟนของเธอแล้วผมกลัวเธอโกรธจึงยอมให้สุดาจับเจ้าน้องชายของผมในที่สุด เธอจับแล้วบีบเบาๆ “อึ๋ย แข็งจัง”
เมื่อโดนเธอจับและบีบ อารมณ์ของผมยิ่งลุกโชน ทำให้เคของผมยิ่งแข็งมากขึ้นแข็งจนผมรู้สึกเจ็บความต้องการตามธรรมชาติบอกให้ผมเอื้อมมือไปจับหน้าอกเธอเบาๆบ้าง
สุดานิ่งเฉย ยอมให้ผมจับอกแต่โดยดี แล้วเธอก็บอกว่า
“หนึ่ง ขอดาดูของหนึ่งหน่อยสิ อยากเห็นจัง”
ประสบการณ์ ต่าง ๆ รวบรวมมาที่นี้ที่เดียว (เกย์)
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
เด็กหอ 8 CP
มื่อกานต์เก็บของจากห้องตัวเองเสร็จ จึงมาหาอาจารย์ภัทรที่ห้อง ส่วนภัทรอาบน้ำทำความสะอาดเนื้อตัวเรียบร้อย ควยของภัทรแข็งรอกานต์อยู่นานแล้ว &...
-
หลังเสียงเพลงชาติจบลง ร่างสูงขาวของหนุ่มนักเรียนชั้น ม.6 ในฐานะประธานนักเรียนของโรงเรียนแห่งนี้เดินขึ้นกล่าวกับนักเรียนทุกระดับ ชั้นถึงเรื่...
-
มาถึงตอนนี้ ไอ้หมาเสือ รู้สึกตัวเองแล้วว่า มันกำลังหลงใหลดำดิ่งลงใน “โลกของทาสหมา” อย่างถอนตัวไม่ขึ้นเสียแล้ว ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับมันในช...
-
ทัพ หนุ่มนักเรียนวิศวะ ผู้มีความหล่อระดับเดือนคณะ เป็นนักกีฬามหาลัย ชอบออกกำลังกาย ชอบว่ายน้ำ ชอบเล่นฟุตบอล เป็นที่หมายตาของสาวๆหลายๆคน ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น