วันเสาร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2556

ลูกเถ้าแก่ copy

ผมเป็นลูกชายคนเดียวของป๊ะกับมะที่มีกิจการอู่ซ่อมรถขนาดกลาง ป๊ะมีลูกน้อง(ช่างซ่อมรถ) ประจำอู่อยู่ประมาณ6-7 คน ส่วนใหญ่เป็นคนอีสาน อายุระหว่าง 18-30 ปี มีหลายคนที่พอผมนมเริ่มแตกพาน ก็มีความรู้สึกแปลกๆว่า พวกเขาเหล่านั้นหล่อเร้าใจเหลือเกิน ผมถูกบังคับให้เรียนรู้เกี่ยวการซ่อมรถ โดยป๊ะจะเป็นคนสอนในตอนแรก และมอบหมายให้พี่กร (หัวหน้าช่าง) เป็นคนช่วยสอนประจำพี่กรอายุ ประมาณ 24 ปีในตอนนั้นและยังเป็นโสด เป็นช่างที่อยู่มานานตั้งแต่ผมเรียนหนังสืออยู่ชั้นประถมจนผมจะจบ ม.6 ในขณะนั้น และป๊ะไว้วางใจพี่แกมาก เพราะมีฝีมือและความรับผิดชอบงานดีมาก พี่กรแกหน้าตาสำหรับผมตอนนั้นแกดูหล่อมาก มีสาวๆ โรงงานเย็บผ้าแถวบ้านมาหาประจำ ตัวพี่กรไม่สูงมากนัก แต่หุ่นแกบึก แข็งแรง ผิวเข้มแบบคนอีสาน คิ้วดกดำ พูดน้อย ยิ้มเก่ง กินเหล้าเบียร์บ้างแต่ไม่สูบบุหรี่ ผมชอบเวลาแกยิ้มเห็นฟันขาวจั๊วะ มีเสน่ห์มากผมมีความสุขเวลากลับจากโรงเรียน หรือวันเสาร์ที่ไม่มีเรียนพิเศษ (อู่หยุดวันอาทิตย์) ผมจะต้องลงมาขลุกเรียนรู้การซ่อมรถกับพี่กร แกตั้งใจสอน และพูดกับผมดีมาก อาจเห็นเป็นลูกชายเถ้าแก่ก็ได้ แต่ทำให้ผมมีความกระตือรือร้นในการเรียน และฝึกซ่อมรถกับพี่เขา เราสนิทกันเป็นพิเศษ ว่างๆ เราก็ตั้งวงเตะบอลกับช่างคนอื่นๆ ที่ลานโล่งในอู่ พูดจาหยอกล้อกัน(ส่วนมากผมจะล้อพี่เขา) บางทีก็ร่วมวงนั่งคุยหน้าอู่เป็นลูกคู่กับบรรดาช่างแซวสาวโรงงานที่เดินผ่าน หน้าอู่ แต่ขณะเดียวกัน เวลาเห็นสาวโรงงานเข้ามาคุยจริงจังกับพี่เขาตอนเลิกงาน ผมจะหงุดหงิดทันที และจะชอบแกล้งพี่เขา เช่นเวลาแกนัดสาวไปดูหนัง หรือไปข้างนอก ผมก็จะย่องเข้าไปในห้องตอนพี่กรอาบน้ำ แอบเอากระเป๋าตังค์ไปซ่อนบ้าง บางทีก็เป็นรองเท้าคู่เก่งของพี่กร ทำให้แกหัวเสียตอนหาของบ่อยๆ แต่ถึงแกจับได้ว่าเป็นฝีมือผม ก็ไม่กล้าโวยวาย ได้แต่ทำท่าทางจะเข้ามาบีบคอผม แล้วอมยิ้ม เหมือนจะเอ็นดูในความซุกซนของน้องชายคนหนึ่ง(แกมีน้องชายอายุเท่าๆกับผมที่ บ้านต่างจังหวัด) ผมได้แต่เก็บซ่อนความไม่พอใจนี้ไว้ทุกครั้งที่พี่เขาออกไปเที่ยวกับสาวโรง งานคนนั้นในช่วงตรุษจีนของปีนั้น ผมจบม.6 และกำลังเตรียมตัวสอบเอ็นทรานซ์ ที่อู่ของป๊ะหยุดให้คนงานกลับบ้าน 1 อาทิตย์ ผมก็เลยว่างไม่ต้องทำงานกับช่างในอู่ แต่ต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบ ช่างทุกคนกลับบ้านหมด แต่ผมประหลาดใจว่า ทำไมพี่กรยังอยู่ที่อู่คนเดียว นั่งเศร้าไม่พูดไม่จา ป๊ะถามก็บอกแต่ว่าจะกลับทีหลัง โดยอ้างว่ารอให้คนเดินทางน้อยลงก่อนรถจะได้ไม่แน่นวันนั้น ป๊ะกับมะเดินทางไปเที่ยวเมืองจีน 3-4 วันโดยไปกันสองคนและให้ผมเฝ้าบ้าน และฝากให้พี่กรดูแลผมกับบ้านช่วงที่แกยังไม่กลับ สรุปก็เหลือผม กับพี่กรที่อยู่บ้าน (บ้านพักช่างก็ติดกันกับบ้านผม)ตอนเย็นผมหิว เลยลงมาที่ครัว ซึ่งเป็นส่วนกั้นระหว่างตัวบ้านผมกับบ้านพักช่างซึ่งแบ่งเป็นห้องๆ ให้ช่างพัก ผมเห็นพี่กรแกนั่งดื่มเบียร์คนเดียวอย่างเหงาๆ เลยถามแกว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมไม่กลับบ้าน และทำไมซึมกระทืออย่างนี้ แกไม่ตอบ ได้แต่ยิ้มแบบเสียไม่ได้กับตัวเอง และตอบโดยที่ไม่มองหน้าผมว่าเซ็งชีวิต ผมตกใจมาก เพราะไม่เคยเห็นแกเป็นแบบนี้ สุดท้ายพี่กรก็บอกว่าแฟนสาวโรงงานคนนั้นไปมีแฟนใหม่ เพราะเธอเจอคนที่ดีกว่า รวยกว่า หล่อกว่า เลยขอเลิกกับพี่กร... เหมือนมิวสิกวีดีโอเพลงอกหักแบบ "กระเป๋าแบนแฟนทิ้ง" อะไรประมาณนี้เลยหล่ะครับแทนที่จะได้กินข้าว เลยต้องนั่งคุยกับพี่เขา เท่านั้นยังไม่พอ ยังขอแกกินเบียร์ด้วย ทั้งที่ไม่เคยกิน ส่วนนึงก็สะใจดีใจที่แกเลิกกับแฟน แต่ที่เห็นตรงหน้า ก็อดสงสารพี่กรไม่ได้ พอแกเริ่มมึน คำพูดก็พร่างพรูออกมารำพันถึงแต่ผู้หญิงคนนั้น จากที่เป็นคนพูดน้อย ผมกินไปแก้วสองแก้วก็มึนแล้ว แต่ด้วยความเป็นห่วง และใจก็ชอบพี่เขาอยู่ลึกๆ ผมรู้สึกเสียวซ่านใจสั่นหวิวเมือพี่กรเอามือมาโอบไหล่ผม พร้อมพูดขอบใจที่ผมพยายามเห็นเพื่อนแกยามนี้ ผมได้โอกาสทำใจกล้าจับมือพี่เขา พร้อมบอกว่าผมจะช่วยเท่าที่จะทำได้ พี่กรออกไปซื้อเบียร์มาเพิ่ม และขอให้ผมนั่งกินเป็นเพื่อนแก ด้วยความชอบในตัวพี่เขา ผมก็ฝืนดื่มเป็นเพื่อนแกจนเมามากอย่างคนไม่เคยดื่มจนผมอาเจียรพี่กร ตกใจทั้งที่แกก็เมามากด้วย ตอนนั้นผมรู้สึกว่าโลกหมุนเป็นลูกข่าง รู้สึกแต่ว่าพี่กรกึ่งประคองกึ่งอุ้มผมไปห้องน้ำ แม้ผมจะเมา ก็รู้สึกถึงไออุ่นจากกายของพี่เขา ในวงแขนที่แข็งแรง หน้าอกอันแน่นหนั่น กลิ่นตัวแบบผู้ชายลมหายใจผ่าวร้อนที่รดต้นคอและหน้าเวลาประคองผม มันทำให้ผมอารมณ์กระเจิดกระเจิงเลยทีเดียวหลังจากหยุดอาเจียร ผมมารู้ตัวอีกทีตอนแกอุ้มผมมานอนที่เตียงในห้องผม รู้สึกถึงความเย็นวาบผ้าเย็นที่ลูบไล้ใบหน้าผม ตอนนั้น จะว่าผมเมาแล้วไม่มียางอายก็ได้ ผมใจหล้าที่จะกุมมือพี่เขาไว้ ปากก็พร่ำว่าผมรักพี่เขา อยากให้พี่เขาจูบ และกอดผมแน่นๆ พี่กรชะงักไปนิดนึง และที่ไม่คาดคิด แกประกบจูบปากผมจริงๆ พี่กรสอนการแลกลิ้น ที่นัวเนียกันในปากของเราสองคน ผมตอบสนองอย่างไม่ต้องสอนกันยาก สักพัก เราก็เปลือยเปล่าทั้งคู่ ไม่รู้ว่าผมถอดเสื้อผ้าเอง หรือพี่แกถอดให้ ผมหลับตาพริ้ม ความเอามือไปชักเจ้าหนูของพี่กร ขนาดก็ไม่ใหญ่ไปกว่าของผมเท่าไหร่ กำรอบกำลังพอดี..ผมคิดในใจ พักเดียวพี่กรก็ขึ้นมาทาบทับบนตัวผม เราจูบแลกลิ้นกันนาน และหนักหน่วงจนผมรู้สึกเจ็บลิ้น พี่แกคงรู้เลยลากลิ้นอันอุ่นชื้นมาที่หัวนมผม ทั้งขบทั้งดูด ผมนี้แทบจะขาดใจให้ได้ ซี้ดปากทุกครั้งที่แกขบหัวนมผมเบาๆ แกถอนปากออก และหยุดไปสักพัก ปล่อยให้ผมนอนแผ่หายใจติดขัดขณะที่หลับตาปี๋ ใจระทึกว่าพี่กรจะทำอะไรต่อ ผมอายจนไม่กล้าลืมตามอง ครู่เดียวผมก็รู้สึกร้อนผ่าวที่เจ้าน้องชายของผม ผงกหัวดูเห็นพี่แกกำลังอมเจ้าหนูที่แข็งจนแทบระเบิด วาว... พี่กรเก่งจริงๆ ผมรักพี่จังเลย.. ผมคิดในใจแกทำอยู่อย่างนั้นจนผมทนไม่ได้น้ำแตก กระจายอยู่ในปากแก เวลาที่ผ่านมาเราทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไรกันเลยสักคำ มีแต่เสียงลมหายใจดังฟืดฟาดของเราดังเป็นระยะ...ขอพี่นะ พี่ขอเข้าทางหลังนะ... เป็นคำแรกที่ได้ยินเสียงกระซิบของพี่กร ไม่รู้ผีห่าซาตานที่ไหนดลใจให้ผมพยักหน้ารับคำ ผมนอนหลับตาระทวยด้วยความเพลีย และตื่นเต้น จนมาสะดุ้งสุดตัวเบิกตาโพลงตอนที่พี่กรทิ่มเจ้ามังกรของเขาเข้าประตูผม เอาเข้าไปได้แค่หัว แต่มันคับติ้ว อึดอัดจนผมหายใจไม่ออก เจ็บจนผมร้องไม่ออก และแสบแปลบที่ก้นของผมอย่างสุดพรรณา จนเผลอทั้งผลัก และใช้เท้าถีบพี่เขาโดยไม่รู้ตัว พี่กรตกใจยอมถอนเจ้าหนูของเขาแต่โดยดีพร้อมกล่าวขอโทษ ตอนนั้นผมไม่มีสติรับรู้อะไรแล้ว ไม่รัก ไม่แคร์แล้วโว้ย.. ทำเราเจ็บนี่หว่า โดนเอามันเจ็บสุดโคตรอย่างนี้นี่เอง พี่กรเดินออกจากห้องโดยไม่พูดอะไรอีก.....ยังเหลือเวลาอีก 2-3 วันกว่าป๊ะกับมะ จะกลับจากเมืองจีนนี่เห็นครั้งแรกในชีวิตของผมที่มีเซ็กส์

ไม่มีความคิดเห็น:

เด็กหอ 8 CP

มื่อกานต์เก็บของจากห้องตัวเองเสร็จ จึงมาหาอาจารย์ภัทรที่ห้อง ส่วนภัทรอาบน้ำทำความสะอาดเนื้อตัวเรียบร้อย ควยของภัทรแข็งรอกานต์อยู่นานแล้ว &...