พอถึงเวลาเรือออกก็มีทั้งฝรั่ง แขก จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ฮ่องกง
พวกผมกนั่งห้อยขาโตงเตงที่ชั้นดาดฟ้าของเรือ โคดได้อารมณ์อ่ะครับ
ไอ้อี้ถึงมันจะมีข้อเสียที่ปากหมาและทะลึ่งทะเล้น
แต่อารมณ์ศิลปินของมันก็มีมากเหมือนกัน
เพราะมันเอากีตาร์ออกมาเกาแล้วพวกเราก็ร้องเพลงกันเป็นที่สนุกสนาน
จนชาวต่างชาติหันมามองด้วยความสนใจกันใหญ่
ฝรั่งบางคนที่อารมณ์ดีหน่อยก็เข้ามาปรบมือไปคลอไปกับเพลงของพวกเรา
ซึ่งนับได้ว่าช่วยสร้างบรรยากาศในการเดินทางครั้งนี้ให้รู้สึกเพลิดเพลินใจ
ยิ่งเรือออกมาพ้นแผ่นดินไกลเท่าไหร่ มองลงไปในทะเลสีก็ยิ่งเข้มจัดขึ้นทุกที
บ่งบอกถึงความลึกของน้ำทะเลได้ดีว่าลึกล้ำแค่ไหน
และพวกเรา(ยกเว้นไอ้ซัน)ต่างก็อดลุ้นไม่ได้ว่า น้ำทะเลจากที่เราเห็นในโปสการ์ด
และภาพนั้น เมื่อเราได้มาเห็นของจริงๆ นั้นมันจะสวยซักแค่ไหน
เรือที่เรานั่งผ่านเกาะแก่งน้อยใหญ่ ซึ่งแต่ละเกาะก็สวยงามและแปลกตา
บางเกาะมีบ้านพักสำหรับนักท่องเที่ยว
บางเกาะก็มีบ้านพักตากอากาศของคนมีกะตังค์ด้วย
พอไปถึงท่าเรือขึ้นเกาะ ผมก็รู้สึกเหมือนกับว่าได้มาอยู่อีกโลกๆ นึงก็ว่าได้
มองกลับไปที่ชายฝั่งจอมเทียนก็อยู่ลิบๆ โน่นแน่ะ
แถวๆ ท่าเรือจะมีหมู่บ้านเป็นชุมชนใหญ่ บางครั้งผมอดคิดไม่ได้นะว่า
พวกชาวบ้านรู้สึกยังไงในการใช้ชีวิตบนเกาะแบบนี้
และพอขึ้นมาฝั่งได้ก็ทำให้สังเกตว่า น่าแปลกที่เกาะนี้ ชาวต่างชาติ
โซนญี่ปุ่น เกาหลี จีน ฮ่องกง อะไรพวกนี้ จะค่อนข้างเยอะกว่าฝรั่งเสียอีก
เราได้ที่พักอีกมุมนึงของเกาะ ซึ่งห่างจากหมู่บ้านพอสมควร
แต่เป็นส่วนตัวมากๆ เป็นที่พักที่ไอ้ซันกับครอบครัวมันเคยมาพักเมื่อปีที่แล้ว
พวกผมเลยไม่กังวลอะไรมากนัก ก็มีเสี่ยร้านทองมาด้วยนี่ครับ 5555
และระหว่างที่พวกเรากำลังรอเช็คอินเข้าห้องพักอยู่นั้น
ผมก็เจอกับหนุ่มตี๋หล่อต่างชาติ คนเดิมที่ผมจ้องด้วยความสนใจคนนั้น
ที่แท้เขาก็มาพัก ที่เดียวกับพวกเรานั่นเอง
ผมอดยิ้มออกมาไม่ได้ ไม่อยากจะเชื่อว่าจะได้เจอกันตั้งสองหน
ดวงท่าจะสมพงษ์กันแฮะ แบบนี้เหมือนมีอะไรบอกเป็นนัยๆ ว่าจะโชคดีนะครับ อิอิอิอิ
พอเขาเห็นผมเขาก็สะดุดกึกและอึ้งนิดหน่อย แต่ก็ยังมียิ้มให้ผมแบบคนอัธยาศัยดี
โคดหล่ออ่ะครับ โหย ใจละลายเลยครับ
คนอาไรทั้งหล่อ ตี๋ อินเทรนด์สุดๆ แต่ไม่ใช่แบบเจป๊อบ ผอมๆ สูงๆ นะครับ
เพราะหุ่นของเขามันแน่นไปทั้งตัว ต้นแขนต้นขา อย่างบึ๊กน่ากัดโคด
ผมก็ยิ้มตอบด้วยความรู้สึกดีๆ แต่จนแล้วจนรอดเราก็ยังไม่ได้คุยอะไรกันอีก
นอกเหนือจากยิ้มให้กันเท่านั้น
เพราะไอ้พวกตัวมารดันลากผมออกมาซะก่อน ผมล่ะขัดใจโคดๆ
พอเอาข้าวของสัมภาระไปเก็บให้เข้าที่เข้าทาง
พวกเราก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อไปเล่นน้ำกัน
ซึ่งชายหาดก็ไม่ได้อยู่ไกลซักเท่าไหร่เดินไปไม่กี่ก้าวเท่านั้น
โอ้โห! สุดยอดอ่ะครับ ผมแทบจะร้องวู๊! ออกมเลยครับเพราะทะเลสวยมากๆ
แต่พอผมรู้สึกว่าได้ยินเสียงพวกไอ้อี้ ไอ้ซัน และไอ้ตัวอื่น ผมก็คิดได้ว่าผมนั้น
ไม่ได้คิดแบบนี้เพียงคนเดียว เพราะพวกมันต่างร้อง ว้าว! สุดยอด!
เสียงดังแล้วต่างกระโดดลงทะเลกันอย่างสนุกสนาน
เพราะภาพเบื้องหน้าผมในขณะนี้ เป็นภาพของท้องทะเลสีฟ้าสวยปนเขียว
ตัดกับหาดทรายสีขาวยังกะแป้ง และท้องฟ้าสีครามไร้เมฆ
มันสวยซะจนทำให้ผมถึงกับเคลิ้มเลยอ่ะครับ
ผมมันอารมณ์ศิลปินด้วยดิ เลยเดินเล่นถ่ายรูป ตามมุมนั้นมุมนี้ ไปเรื่อยเปื่อย
ปล่อยให้ไอ้พวกตัวแสบเล่นน้ำกันไปก่อนแล้วผมค่อยทบยอดทีหลังก็ได้ อิอิอิ
กำลังก้มๆ เงยๆ ชักภาพโขดหินกับชายหาดอยู่ดีๆ
ก็เห็นเด็กผู้ชายวัยรุ่นหน้าตี๋ๆ ตัวขาวๆ สูงโย่ง อายุน่าจะซัก 13
กับเด็กหญิงหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู วัยซัก 12 วิ่งลงไปเล่นน้ำใกล้ๆ พวกไอ้ซัน
ส่งเสียงสนุกสนานแต่ยังจับสำเนียงไม่ได้ว่าเป็นภาษาอะไร
แต่แล้วก็ได้รู้เมื่อมีหนุ่มวัยรุ่นที่ดูจะมีอายุมากกว่า ตะโกนตามหลังด้วยภาษาญี่ปุ่น
ดูท่าจะเป็นพี่ชายแน่นอน
พอเขาตะโกนสั่งเหล่าน้องๆ เสร็จเขาก็หันกลับมา
ปิ๊ง! ผมถึงกับหม่อเลยครับ แท้เป็นหนุ่มตี๋หล่อต่างชาติ ที่ผมเห็นมาแล้วสองครั้งสองคราและครั้งนี้ก็ครั้งที่สาม ความรู้สึกตอนนั้นเหรอครับ
หัวใจผมมันเต้นตึ่กตั่กๆ เลยอ่ะครับ
ไม่ใช่ว่ากลัวหรืออะไรนะครับ แต่ด้วยความรู้สึกดีใจที่ได้เจอ
ความรู้สึกที่อยากพูดคุยด้วยมากกว่า อะไรประมาณนี้
ซึ่งเขาเองก็มองมาที่ผมเหมือนกัน
ตายล่ะซิ ! เขาเดินมาทางนี้ด้วยอ่ะครับ ทำไงดี ผมคิดในใจ
พยายามนึกถึงภาษาญี่ปุ่นตอนเข้าชมรมภาษาญี่ปุ่นที่โรงเรียน
แล้วผมก็อดด่าตัวเองไม่ได้ที่ตอนนั้นไม่ได้ใส่ใจเรียนเอาแต่เล่น
เลยพยายามนึกถึงคำที่พอจะจำได้ในตอนนี้ เพื่อจะได้คุยกับไอ้ตี๋อินเทรนท์
แล้วหนุ่มญี่ปุ่นก็มายืนใกล้ๆ โค้งหัวนิดนึงแบบสุภาพๆ ดูแล้วน่ารักๆ
“Good morning”
เสียงหล่อๆ และมีเสน่ห์ ก็ทักผมด้วยภาษาอังกฤษ
แป่ว!
แหม...คนรึก็พยายามนึกหาคำพูดภาษาญี่ปุ่นอยู่ตั้งนาน 5555
“Good morning”
ผมก็ตอบเขาไปตามมารยาท ไอ้ภาษาอังกฤษเราก็ไม่ค่อยจะแข็งแรงด้วยจิ
แล้วเขาก็เข้ามาจับมือผม โอว มือโคดนุ่มอ่ะครับ อุ่นๆ ด้วยแหละ 5555
เกิดมาก็เพิ่งได้ถูกเนื้อต้องตัวคนญี่ปุ่นก็หนนี้แหละ แหะๆๆๆ ตื่นเต้นๆ
(ไอ้วินเห่อ made in japan 5555)
เขานั่งลงที่พื้นทรายข้างๆ ผม ยิ่งมองใกล้ๆ แล้วบอกได้คำเดียวว่า
หล่อและเท่ห์มากๆ ครับผม โอย ใจจะขาดอ่ะครับ
หน้าหล่อๆ แบบตี๋อินเทรนด์ คิ้วดกๆ จมูกโด่งๆ ปากแดงๆ ผิวรึก็ขาวจั๊วะโคดน่า...5555
ผมก็พยายามใช้ทั้งภาษาอังกฤษ ทั้งภาษามือ ภาษาใบ้
เพื่อช่วยทำให้การสื่อสารของเราเป็นไปอย่างราบรื่น
และดูเหมือนเพื่อนใหม่ของผมจะเข้าใจผม เลยพยายามพูดช้าๆ และใช้ภาษามือช่วย
ทำให้การสนทนาของเราเป็นไปอย่างสนุกสนานปนตลกๆ
และอดลุ้นไม่ได้ว่าต่างฝ่ายจะคุยเรื่องอะไร
“SHIN-JI”
ไอ้ตี๋จิ้มที่หน้าอกตัวเองเป็นการแนะนำตัว ช้าๆ
“WIN”
เขาก็ทวนชื่อผม แบบไม่ผิดพลาด แบบนี้คงต้องยกความดีความชอบให้พ่อกับแม่
ที่ตั้งชื่อเล่นผมให้ง่าย และเป็นสากล 5555
จากการที่ได้คุยกันพักใหญ่ทำให้ผมได้รู้เรื่องของ ชินจิ ค่อนข้างมาก
ว่าครอบครัวเขา มาเที่ยวกับญาติๆ มิน่าดูสนิดสนมมากกว่ากรุ๊ปทัวร์ทั่วๆ ไป
ชินจิ อายุ 18 ปี มากกว่าผมปีนึง กำลังจะเข้าเรียนมหาลัยอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
เขาเป็นคนมีน้ำเสียงที่น่าฟัง ดูมีเสน่ห์ บุคลิกก็น่ามอง
คุยสนุก และ อัธยาศัยดี
โดนใจไอ้วิน อีกแล้วครับ 5555
แต่ตอนนั้นบอกตามตรงว่าแค่ได้จ้องหน้าเขาก็แทบอยากจะกระโดดเข้าขย้ำแล้วครับ
แต่ไม่ได้ๆ เราต้องรักษาภาพพจน์ของคนไทยเอาไว้ ผมคิดในใจ
ทั้งๆ ที่สายตาแอบอ่านกินเป้าไอ้ตี๋ไปเต็มๆ และดูเหมือนเขาจะไม่ได้หวงเนื้อหวงตัว
เอาซะเลย นั่งชันเข่าแบบสบายๆ ลมทะเลก็พัดขากางเกงเปิดเห็นกางเกงในสีขาว
แพลมออกมา ชวนจินตนาการให้คิดไปได้ว่า ข้างในมันจะขนาดไหน 5555
เรากำลังคุยกันเพลินๆ ไอ้อี้มันก็วิ่งมาตามผม เนื้อตัวที่เปลือยอกเกาะพราวไปด้วยน้ำ
หัวเหอเปียกปอน พอมันเห็นผมคุยอยู่กับชินจิมันชะงักนิดนึง
“สาดวินเมื่อไหร่***จะลงไปเล่นน้ำกับพวกกูวะมานั่งทำมิวสิคอยูได้”
ว่าเข้าไปนั่น ไอ้เวร ผมด่ามันในใจ ไอ้ตัวมาร!
แล้วมันก็ลากผมลงทะเล ผมก็ชวนชินจิไปเล่นด้วย เขาก็ไม่ได้อายอะไร
วิ่งตามผมลงมาด้วย เพราะจะได้ดูน้องอีกสองคนได้ใกล้ขึ้น
ระหว่างทางไอ้อี้ก็ถามผมด้วยความสงสัย
“ไปไงมางัย***ถึงไปรู้จักเด็กเกาหลีนั่นได้วะ”
“ญี่ปุ่น”
ผมดักคอมัน มันก็ตบหัวผมป้าบ!นึง
“เออ...มันก็ครือๆ กันนั่นแหละวะ...สาดมาทำเป็นเล่นลิ้นนะ***”
“ก็เขาเข้ามาคุยด้วย...เราเป็นเจ้าบ้านก็ต้องต้อนรับชาวต่างชาติดีๆ ใช่ป่าววะ”
“โห...ไอ้ท่านทูตใหญ่”
มันตะคอกใส่หน้าผมแบบที่มันชอบทำ แล้วผลักผมลงน้ำตูม!
ไอ้พวกตัวอื่นก็เชียร์เย้วๆ กันใหญ่เป็นที่พอใจของพวกมัน จำไว้เลยพวก*** ผมคิดในใจ
แต่ตอนนั้นทำอะไรไม่ได้แล้วครับเพราะพวกมันกรูกันเข้ามาทั้งลากผมลงน้ำ
ทั้งวิดน้ำใส่ผม ทั้งแกล้งดึงกางเกงผมแทบหลุดสนุกกันใหญ่
ด้วยความสะใจของพวกมัน
มองหาชินจิก็กำลังเล่นน้ำอยู่กับน้องอีกสองคนด้วยท่าทีสนิทสนม
เวลาที่เขาอยู่กับน้องๆ แล้ว
เขาดูเป็นพี่ชายที่แสนดีจังครับ ดูอบอุ่นดี มองแล้วก็ยิ่งน่ารัก
พวกเราต่างดำผุดดำว่ายที่ชายหาดแสนสวยน้ำใสนั้นกันอย่างสนุกสนาน
เล่นน้ำกันไปก็แกล้งดึงกางเกงกันไปมา เป็นที่ครึกครื้น เฮฮา
มีหลายทีที่ไอ้เหมมันแอบไซ้ผมโดยที่ผมก็รู้ตัว
บางทีมันก็เข้ามากอดข้างหลังผมแล้วเอา***มาดุนที่ตูดผมแล้วเด้าไปมา
“สาด”
ผมตบหัวมันไปทีด้วยความคะนอง มันก็ยังแกล้งว่ายน้ำมาใกล้ๆ ผมตลอด
ผมเลยแกล้งกำ***มันแรงๆ เลยครับ ไอ้คนหน้าเอ๊กส์ก็ถึงกับร้องจ๊ากเลยครับ 5555
สะใจเป็นบ้า อยากขี้เงี่ยนดีนักต้องโดนแบบนี้ อิอิอิ
เราเล่นน้ำกันอยู่นานโข จนเริ่มบ่ายคล้อย แต่ละคนก็ตัวแดงๆ เพราะฤทธิ์แดดทะเล
ทั้งผมไอ้ซัน ไอ้อี้ ไอ้เหม ไอ้สิน ไอ้ทิน ที่ตัวค่อนข้างขาวหน่อยก็ออกแดงๆ
แต่ที่ดำอยู่แล้ว อย่างไอ้เข้ม ไอ้น็อต นั้นยิ่งดำกว่าเดิมครับ 5555
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น