เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ ปี 2546 นี่เอง ผมสอบเป็นข้าราชการได้ที่ต่างจังหวัดและได้ลงในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในในภาคอิสาน (ลักษณะเป็นบ้านนอก) ผมมาทำงานที่นี่ได้ประมาณ 5-6 ปีได้และพักอยู่ในสถานที่ทำงานนั้นแหล่ะ ทำให้ผมรู้จักบุคคลในหมู่บ้านมากเพราะความมีมนุษยสัมพันธ์ของผม (แหลไปเรื่อย ๆ ว่างั้นเหอะ) ผมเป็นคนที่ไม่แสดงออก ผมยังโสดและยังไม่มีคนคู่ใจ (แฟนงัย ) นิสัยผมเป็นคนที่ง่าย ๆ แต่ถ้าได้เกลียดละก้อหายยากส์ อีกอย่างผมเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบคนในเครื่องแบบ โดยเฉพาะตำรวจ เพราะผมมีอดีตกับตำรวจที่เป็นพี่เขยของผมเขาไปมีเมียใหม่และทิ้งให้ลูกและพี่สาวผมไปทำให้ผมไม่ชอบตำรวจตั้งแต่วันนั้น แต่ก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้ผมชอบและรักตำรวจจนได้ วันหนึ่งหน่วยงานของผมได้ให้ผมไปติดต่อเกี่ยวกับยาเสพติดนี่แหละถ้าผมจำไม่ผิดที่สถานีตำรวจในหมู่บ้านนี้ ผมทำธุระเสร็จกำลังเดินลงบันไดมาพอดี ก็เดินสวนกับใครคนหนึ่ง โอ้พระเจ้า ช่วยกล้วยทอด ทำไมเขาตรงกับสเปคของผมขนาดนี้ ผิวคล้ำ หุ่นสูง อกผาย ไหล่ผึ่ง จมูกโด่ง คิ้วหนาเข้มรับกับใบหน้าของเขาทำให้หน้าของเขาดุ และชวนมองมากยิ่งเขาใส่ชุดครึ่งท่อนทำให้เห็นแผ่นอกอันแน่นเครียดไปด้วยกล้ามเนื้อภายในเสื้อยืด สีขาวสะอาดตา เขาก้อมองผมแวบหนึ่งด้วยสายตาที่คมกริบ โอ๊ยใจละลาย ใจละลาย ( ปกติแล้วผมก้อเห็นตำรวจบ่อย ๆ แต่ไม่สนใจเลยเพราะไม่ค่อยชอบ แต่กับเขาทำไมผมจึงล้มเลิกความคิดนั้นในเวลารวดเร็วนักนะ ) เพียงแค่นั้นผมก้อเก็บเอาเขาไปฝันตลอดคืนทั้ง ๆ ที่ใจอยากจะลืมแต่ก้อทำไม่ได้ เลยคิดว่าทำงัยนะผมจะได้รู้จักและ........ อิ อิ อิ คงรู้นะครับ และแล้วก็ถึงเวลา วันที่เธอต้องไป เอ้ย มา วันนั้นผมหิวข้าวจนตาลายมองหานาฬิกา อ้าว! เที่ยงแล้วนี่หว่าไปหาอะไรกินก่อนดีกว่า เร็วเท่าความคิดผมจับมอ'ไซด์ได้ก้อบึ่งเข้ามาในหมู่บ้านทันที
"แม่กระเพราไก่ไข่ดาวจานหนึ่งเร็วด้วยนะครับ วันนี้หิวมั่ก ๆ " ผมบอกกับเจ้าของร้านที่เป็นแม่หม้ายอายุรุ่นราวคราวเดียวกับแม่ผม สามีแกตาย ลูก ๆ ก้อไปทำงานที่กรุงเทพ กันหมด ทิ้งให้แกอยู่คนเดียวแกไม่มีอะไรทำก้อเลยเปิดร้านขายอาหาร ผมสนิทกับแกมากจนเรียกแกว่าแม่
"จ้า คอยเดี๋ยวนะ จะทำให้เดี๋ยวนี้เลย" ผมเข้าไปหาที่นั่งและอ่านหนังสือจิปาถะเพื่อฆ่าเวลา อ่านได้ไม่ถึงบรรทัดก้อได้ยินเสียงห้าว ๆดังขึ้น
" กระเพราไก่ไข่ดาวจานหนึ่ง" ใคร่หว่าสั่งเหมือนเราเลยชักสงสัยก้อเลยละสายตาจากหนังสือพอดีไปเจอะเข้ากับดวงตาที่คมกริบของเขาคนนั้น คุณตำรวจคนที่ผมอยากรู้จัก พอผมเห็นเขามองมาที่ผม ผมก็เขินเลยก้มหน้าทำเป็นอ่านหนังสือต่อทั้งที่ใจเต้น ตุ๊บ ๆ ๆแทบกระดอนออกมาข้างนอกให้เขาเห็น ผมเหลือบตามองเขาอีกครั้งก้อเห็นเขาเดินมานั่งที่โต๊ะผม
"ขอนั่งด้วยคนนะครับ" " ชะ ชะ เชิญครับ" ผมพูดออกไปด้วยเสียงกะตุกกะตัก (เอ โต๊ะว่างก็มีไม่ไปนั่งมานั่งที่โต๊ะเราทำไมหว่า) ผมเห็นเขายิ้มช่างเป็นรอยยิ้มที่มีเสน่ห์อะไรเช่นนี้ น่าจับมาจูบเสียให้เข็ด คนอะไรยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งหล่อผมกำลังคิดเกี่ยวกับเขาเพลิน ๆ แล้วผมก้อสะดุ้งสุดตัว เมื่อเขาถามว่า
"ผมเจอคุณที่สถานีตำรวจวันนั้น คุณทำงานอยู่ในหมู่บ้านนี้นานแล้วเหรอครับ"
"ก้อประมาณ 5-6 ปีแล้วครับ" ผมตอบเขาไป
" ผมเป็นตำรวจที่นี่มา 3 ปีแล้วทำไมผมไม่เคยเห็นคุณเลย " จะเคยเห็นได้งัยก้อคงจะนอนกอดเมียจนเพลินจนไม่ออกมาดูโลกภายนอกที่แสนจะสดสวยละซิ ผมคิดแต่ปากผมกลับตอบว่า
"ผมเข้ามาหมู่บ้านบ่อย ๆ มาหาเพื่อน มากินข้าว ดื่มเหล้าบ่อยครั้งไป จนคนในหมู่บ้านนี่ว่าผมเป็นคนที่นี่ซะอีก" เขาหัวเราะ และทำหน้าสงสัยคงไม่เคยเห็นผมจริง ๆ
" คุณคงไม่ใช่คนจังหวัดนี้ใช่ไหมครับ "
" ใช่ครับ ผมเป็นคนจังหวัด.... "
" อ๋อ มิน่าละหน้าตาไม่เหมือนคนแถวนี้เลย ผมเป็นคนจังหวัดนี้แต่อยู่ในตัวเมือง นานๆ จะกลับบ้านซะที " ผมเห็นเขาคุยอย่างเป็นกันเองผมเลยกล้าถามเขา
" คุณตำรวจพักอยู่ในสถานีเหรอครับ "
" ใช่ครับ " ผมเลยลองแย็บอีก " คุณคงอยู่กับภรรยาซินะครับ "
"โอ๊ย ! เปล่าเลย ผมอยู่คนเดียว ผมเลิกกับภรรยาผมแล้วปีกว่า ๆเห็นจะได้ ผมมีลูกกับเขาคนหนึ่ง เดียวนี้ไปลูกอยู่กับแม่ผม "
" เสียใจด้วยครับผมไม่น่าถามเลย " ผมนึกเห็นใจเขา แต่อีกใจหนึ่งผมดีใจมากที่เขาอยู่คนเดียวอย่างนี้ผมก้อมีหวังละซิ ไชโย
"ไม่เป็นไรครับผมลืมมันไปแล้ว " คุยกันตั้งนานผมนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ถามชื่อเขาเลยผมกำลังจะอ้าปากถามพอดีเจ้าของร้านยกข้าวจานมาเสิร์ฟ เราก้อเลยนั่งกินข้าวกันโดยไม่พูดอะไรอีกเลยจนอิ่ม เขามองดูนาฬิกาแล้วพูดขึ้นว่า
" ได้เวลาทำงานแล้วผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ " เขากำลังจะลุกจากเก้าอี้ ผมเลยถามเขาว่า
" เราจะเจอกันอีกมัยครับ และผมยังไม่รู้จักชื่อคุณตำรวจเลย " แน่ะใจง่ายเสียแล้วเรา เจอกันและคุยกันแค่นี้ดันอยากรู้จักกับเขาให้ละเอียดก้อไหนว่าไม่ค่อยชอบตำรวจงัย ใจนะใจไม่รักดีเสียเลย
" ผมชื่อ .......ถ้าผมผ่านที่ทำงานคุณ ผมจะแวะไปหาคุณในที่ทำงานนะครับ เออ แล้วคุณละชื่ออะไรผมก้อยังไม่รู้เลย "
ผมรีบบอกเขาไปทันที
" ผมชื่อ....ครับ ว่าง ๆ ผมจะไปเล่นกับคุณที่แฟลตคุณได้ไหม ครับ? " คำถามสุดท้ายผมแอบลุ้นอยู่ในใจว่าเขาจะตอบ โอเค หรือ โนเค คำตอบของเขาเล่นเอาหัวใจผมพองโต
" ได้ครับ ยินดีต้อนรับ" จากวันนั้นเป็นต้นมาเราก้อเจอกันบ่อยครั้งส่วนใหญ่จะเจอหลังเลิกงาน บางครั้งเขาจะมาเล่นที่บ้านพักผม บางครั้งผมก้อจะไปเล่นที่แฟลตเขา จนทำให้ผมรู้ว่าเขาอายุน้อยกว่าผม 3 ปี เขาจึงเรียกผมว่าพี่ ผมก้อเรียกชื่อเล่นของเขา และผมก้อได้รู้จักตำรวจที่ทำงานสถานีตำรวจแห่งนั้นเกือบทุกคน ถ้าวันไหนเราเกิดเบื่อ ๆ ที่จะอยู่ในหมู่บ้านเราก้อจะเข้าไปในตัวเมืองไปร้องเพลงคาราโอเกะบ้าง ไปกินข้าวบ้าง แต่ยังไม่มีอะไรกัน ดู ๆ ไปเขาก้อคงจะรู้ว่าผมมีนิสัยอย่างไรและชอบแบบไหน บางครั้งเวลาดื่มเหล้าด้วยกันเขาชอบที่จะทำตาพราวและหวานเยิ้ม ๆ ใส่ผม ( ฮึม ระวังตัวไว้ให้ดีคุณตำรวจเดี๋ยวเจอดีแน่! ) แล้ววันที่ผมรอคอยก้อมาถึง เมื่อหมู่บ้านที่ผมทำงานอยู่มีการทำบุญหมู่บ้านวันนั้นเป็นวันศุกร์ เขาแต่งตัวครึ่งท่อนขับรถเครื่องมาชวนผมไปดื่มเหล้ากันในหมู่บ้านกับเพื่อน ๆ ตำรวจเขา จนเพื่อน ๆ เขาแซวว่าเราสองคนนี่ห่างกันไม่ได้เลยนะ เขาก้อได้แต่ยิ้ม ๆ ส่วนผมไม่รู้จะทำงัยรีบนั่งลง (ความรู้สึกตอนนั้นเขินมาก ) ดื่มไปดื่มมาชักเมาแฮะ แต่เพื่อนๆ ตำรวจของเขานี่ซิ เฉยไม่มีอาการใด ๆ ปรากฏให้เห็นเลย สงสัยผมจะคออ่อนกว่าพวกเขามาก ผมก้อเลยบอกเขาว่า
"พี่เมาแล้วนะ .... เดี๋ยวพี่ขอตัวกลับก่อน "
" พี่จะกลับได้งัยพี่ไม่ได้เอารถมา จะเดินกลับเหรอ เดี๋ยวผมไปส่งพี่เองครับ" เออ ! ผมก้อลืมไปว่ามากับเขา ซักประมาณครึ่งชั่วโมงเขาก้อเข้ามาบอกให้ผมลุกขึ้นเพื่อที่จะไปส่ง ผมที่บ้านพัก ขณะที่เขาขับรถมาส่งผมแกล้งเอามือไปกอดเอวเขาเป็นการหยั่งเชิง เห็นเขาไม่ว่าอะไร ( ตอนที่มาส่งผมนะมันค่อนข้างดึกแล้ว ) ผมได้ใจเลยเอามือมาวางไว้ที่เป้ากางเกงเขา โอ้ไม่ใช่ย่อยเลยขนาดไม่แข็งตัว เขาไม่ว่าอะไรอีกผมยิ่งคลึงเล่นแป๊บเดียวเจ้าปืนพกของเขาก็เริ่มมีปฏิกิริยาตอบสนองสู้มือผมเขาหันมาพูดกับผม
" ชอบแบบนี้ก้อไม่บอก ถึงบ้านพักพี่แล้วช่วยกำราบน้องชายตัวดีของผมด้วย มันงอแง แข็งขืน มาหลายวันแล้ว " ผมได้ยินคิดในใจจะได้เห็นสวรรค์ ร่ำไรร่ำไร อิ อิ อิ เมื่อถึงบ้านพักผมก้อให้เขาเข้ามาในห้องรับแขกที่อยู่ชั้นล่าง แล้วรีบไปเอาเบียร์เย็น ๆ มาให้เขาแล้วบอกเขาว่า
" พี่ขอตัวอาบน้ำก่อน น้อง...อย่าเพิ่งกลับละดื่มเบียร์เย็น ๆ ซักขวดก่อนค่อยกลับนะ"
" ได้ครับ พี่อาบน้ำตามสบายเลย" ผมอาบน้ำเสร็จผมนุ่งผ้าขนหนูออกมามองหาเขา อ้าว! หายหัวไปไหนแล้ว หนีไปแล้วเหรอ ไม่น่าอาบน้ำเลยกู น่าจะเผด็จสึกตั้งแต่เข้ามา หลอกให้เรามีหวังสุดท้าย ทิ้ง ๆ ฉันไป เสียดายโอกาสจังโว้ย ผมรีบเข้าไปดูที่แก้วเบียร์ไม่เห็นมีเบียร์ติดอยู่ที่ก้นเลย หรือเขากลัวผมเอายานอนหลับใส่ ผมเดินออกไปข้างนอกเพื่อดูว่ารถเครื่องเขาอยู่ไหม ไม่อยู่ รองเท้าก้อไม่เห็นไปแล้วแหง ๆ แง้ ๆ ๆ ไม่น่าช้าเลย ผมเดินคอตกขึ้นห้องเพื่อจะเปลี่ยนชุดเป็นชุดนอก เปิดประตูเข้าไป ฉับพลันหัวใจที่ห่อเหี่ยวกลับพองโตเต้นระรัวจังหวะ แซมบ้า ขนาดน่ากลัวจะออกมานอกอก ก้อเขานั้นซินอนแผ่หลาอยู่บนเตียงผม เขาถอดเสื้อออกเหลือแต่กางเกงตำรวจ ผมค่อยย่อง ๆ เข้าไป ( เหมือนกับการลักหลับเลย ) เขากำลังนอนหลับตาพริ้ม ยามเขาหลับเหมือนกับเด็กยังไงยังงั้น ผมจ้องมองดูเรือนร่างของเขา เวลาที่เขาไม่สวมเสื้อ โอ้ กล้ามเนื้อแน่น อกนูน เพราะการออกกำลังกาย ( ผมลืมบอกว่าเขาเป็นนักฟุตบอล และนักตะกร้อของตำรวจ ) หน้าท้องแบนราบแต่แกร่ง ขนที่สะดือเลื้อยขึ้นมาที่หน้าอกอยากเอาหน้าไปแนบหน้าอกเขาจริง ๆ แต่ช้าก่อนค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป หมูอยู่ในอวยมีหรือจะปล่อยให้หลุดรอดจากปาก อิ อิ อิ ผมเอื้อมมือไปเพื่อจะสัมผัสตัวเขา เอ๊ะ เอ๊ะ อย่าเข้าใจผิดว่าผมจะจู่โจมเขาตอนเขานอน แต่ผมจะปลุกเขาให้ไปอาบน้ำก่อนค่อยจัดการ เมื่อผมไปสัมผัสถูกตัวเขา ผมก้อต้องตกใจเมื่อเขาใช้มือของเขารั้งผมเข้าไปหา จูบปากผมลิ้นเขาเหมือนงู ฉกลิ้นผม ลิ้นเราพันกันไปพันกันมาจนผมอ่อนระทวย ความคิดที่ว่าจะให้เขาไปอาบน้ำนั้นหายไปปลิดทิ้ง ขารั้งตัวผมนอนข้าง ๆ
" ช่วยผมหน่อยครับพี่ ทำให้ผมมีความสุขหน่อยครับ " เขาเสนอมีหรือผมจะไม่สนอง ผมรีบขบที่ติ่งหูเขา ไล้ลิ้นลงมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงหัวนมสีเข้มของเขา ผมดูดเลีย จนเขาครางออกมา จากนั้นผมไซร้ลงไปเรื่อย ๆ จนถึงหน้าท้องและสะดือ แทนที่เขาจะเสียวกับหัวเราะเสียงดัง
" ฮ่า ๆ ๆ ๆ ทำอะไรจั๊กจี้จัง " ผมได้ยินดังนั้นลุกขึ้นมามองหน้าเขาเลยค้อนเขา
"ไม่ทำดีกว่า ทำให้แล้วยังมาหัวเราะเรา" เขารีบกอดผมอย่างเอาใจ
"อย่างอนนะจ๊ะทำต่อเหอะ ไม่หัวเราะแล้ว " ผมก้อเปลี่ยนไปจู่โจมที่ปืนพกที่อยู่ในกางเกงเขาและหวังจะถอดกางเกง แปลกแฮะทำไมถอดยากจัง เขาเห็นผมถอดกางเกงของเขาไม่ได้เขาก้อเลยถอดเองเสียอย่างงั้น ( ลืมไปว่ากางเกงตำรวจแต่ละคนใส่ต้องฟิต เผื่อเวลาจับคนร้ายจะวิ่งได้สะดวก เขาเป็นคนบอกผมเอง ) เหลือแต่กางเกงในสีขาวสะอาดตาตัดกับผิวสีเข้มของเขา แค่นี้ก้อทำให้อารมณ์ผมกระเจิงผมรีบเอาปากครอบปืนพกทั้งที่อยู่ในกางเกงใน จนปืนพกค่อย ๆขยายขนาดใหญ่ขึ้นมา จากที่ผมได้ยินเสียงหัวเราะเปลี่ยนเป็นเสียงครวญครางด้วยความเสียว
" เสียวจัง ซี้ด .........." เห็นไหมละแค่นี้ก้อเสียวแล้ว ผมใช้ปากอยู่นานจนกางเกงในเขาเปียกน้ำลายผม ผมค่อย ๆ ถอดกางเกงในเขาออก เจ้าปืนพกของเขาก้อชี้มาที่ผมเหมือนกับจะบอกให้ผมรีบจัดการกับมันเร็ว ๆ ขนาดของมันไม่ใช่ย่อยเลย ตัวสีคล้ำ หัวบานออกสีม่วง ๆ คงจะใช้งานมามาก จนผมอดใจไม่ไหวต้องก้มลงไปทักทายมันด้วยปาก ใช้ลิ้นเลียที่หัวหยัก เขายิ่งครางใหญ่เลย
"พี่เก่งจังเลย ผมเสียวหัวค..ย ...โอ๊ย..... ซี้ด......" พอผมได้ยินเขาครางผมยิ่งได้ใจ ห่อปากรูดเจ้าปืนพกขึ้น ลง ๆ เขายิ่งครางและใช้มือกดหัวผมใหญ่ จากนั้นผมละปากจากปืนพกไปสำรวจลูกปืนใหญ่ 2 ลูกที่เขาพกติดตัวมาตั้งแต่เกิด แล้วใช้ลิ้นทักทายเลียจนถึงก้นงอนงามของเขาเขายิ่งดิ้นด้วยความเสียว จนเขาทนไม่ไหว
" โอ๊ย.....ซี้ด....ซี้ด.......ทนไม่ไหวแล้วจะออกแล้ว " เขารีบดึงตัวผมเข้าไปประกบปาก แล้วจัดการแก้ผ้าขนหนูที่ผมนุ่งอยู่ออกเขาเห็นอาวุธผมแข็งรออยู่แล้วขนาดเล็กกว่าของเขาเล็กน้อย เขาใช้มือไปจับแล้วชักว่าวให้ผมเขายังไม่ใช้ปากให้ผม เขาทำอย่างเบามือในตอนแรกแล้วเปลี่ยนเป็นเร็วขึ้นจนผมเกือบทนไม่ไหว
"โอ๊ย....พี่เสียวจัง...ซี้ด...." ผมรีบใช้ปากครอบปืนพกของเขาอีกครั้งรูดเข้ารูดออกจากเร็วเป็นช้า จากช้าเป็นเร็ว บางครั้งผมจะขบกัดที่หัวบานของเขา เขาก็ครางเสียงดังลั่นห้อง (ดีว่าบ้านพักผมเป็นบ้านปูนสองชั้น และผมอยู่คนเดียว ไม่งั้นเพื่อน ๆ คงแตกตื่นน่าดู ) แต่มือของเขาก้อยังจับที่อาวุธผมตามจังหวะปากของผม ในไม่ช้าเวลาที่ผมรอคอยก้อมาถึงเมื่อเขาเกร็งหน้าท้อง มือเขาชักว่าวให้ผมด้วยความแรงและเร็ว
" จะออกแล้ว.....ซี้ด....ซี้ด..... โอ๊ย.....ออกแล้ว " เขาร้องออกมาและตัวเขากระตุก 2 - 3 ครั้ง พร้อมทั้งกระแทกปืนพกเข้าปากผมน้ำเขาพุ่งเข้าปากผมอย่างแรงและมากมาย จนล้นปากผมผมกลืนส่วนที่อยู่ในปากผมจนหมด รสชาติออกจะขมนิดหนึ่งและความด้วยแต่ไม่เป็นไร ผมรับได้ แล้วผมก้อต้องร้องออกมาบ้าง
"โอ๊ย.....ออกแล้ว....ซี้ด....ซี้ด...." น้ำผมพุ่งออกจากอาวุธผมและเลอะมือของเขา เขาก้อไม่รังเกลียดเล่นกับน้ำของผมโดยแกล้งเอามาทาที่หน้าผมแล้วก้อหัวเราะด้วยความอารมณ์ดี หลังจากที่เรามีความสุขกันแล้วเราก้อลงไปอาบน้ำพร้อมกันพลัดกันถูสบู่ให้กันอย่างมีความสุข เขาขอนอนที่บ้านพักผม มีรึที่ผมจะปฏิเสธ ตอนที่เราเข้านอนกันผมอดที่จะถามเขาไม่ได้ว่า
"ทำไมน้องไม่กล้าใช้ปากให้พี่ ครับ"
"ผมเป็นผู้ชาย และเพิ่งจะเคยมีอะไรกันกับผู้ชายครั้งแรกก้อเลยไม่ทำ พี่โกรธผมเหรอครับ "
"ไม่หรอก แค่น้องมานอนกับพี่คืนนี้พี่ก้อมีความสุขแล้ว" เขาก้อยิ้ม แล้วเอามือมาโอบกอดผมให้ไปซบอกที่อบอุ่นของเขาแล้วเราก้อหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย จากวันนั้นเราก้อเป็นแฟนกันไปมาหาสู่กันเหมือนเดิม แต่คนภายนอกไม่รู้เพราะเราทำตัวเป็นปกติ จนกระทั่งเขาย้ายที่ทำงานไปอยู่อีกอำเภอหนึ่ง แต่ก้อห่างกันแค่ 45-50 กิโล แค่นั้น ผมถามเขาว่า ทำไมย้ายไปไม่รักผมแล้วหรืองัย เขาบอกว่า รัก แต่เขาไม่ชอบหัวหน้าของเขาก้อเลยย้าย เหตุผลของเขาแค่เนี้ยะ ( ขี้ใจน้อยมากเลยนะคุณตำรวจที่รัก )
ประสบการณ์ ต่าง ๆ รวบรวมมาที่นี้ที่เดียว (เกย์)
วันพฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2555
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
เด็กหอ 8 CP
มื่อกานต์เก็บของจากห้องตัวเองเสร็จ จึงมาหาอาจารย์ภัทรที่ห้อง ส่วนภัทรอาบน้ำทำความสะอาดเนื้อตัวเรียบร้อย ควยของภัทรแข็งรอกานต์อยู่นานแล้ว &...
-
หลังเสียงเพลงชาติจบลง ร่างสูงขาวของหนุ่มนักเรียนชั้น ม.6 ในฐานะประธานนักเรียนของโรงเรียนแห่งนี้เดินขึ้นกล่าวกับนักเรียนทุกระดับ ชั้นถึงเรื่...
-
มาถึงตอนนี้ ไอ้หมาเสือ รู้สึกตัวเองแล้วว่า มันกำลังหลงใหลดำดิ่งลงใน “โลกของทาสหมา” อย่างถอนตัวไม่ขึ้นเสียแล้ว ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับมันในช...
-
ทัพ หนุ่มนักเรียนวิศวะ ผู้มีความหล่อระดับเดือนคณะ เป็นนักกีฬามหาลัย ชอบออกกำลังกาย ชอบว่ายน้ำ ชอบเล่นฟุตบอล เป็นที่หมายตาของสาวๆหลายๆคน ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น